บทที่ 717 แสงสีขาวลำหนึ่ง เฉียดใกล้ความตายเต็มที!
ตาเฒ่าผอมกะหร่องมั่นใจเป็นอย่างมาก และเขามีพลังมากพอให้มั่นใจ
มิฉะนั้น เขาคงมิกล้าไล่ล่าต้นหลิว
เขาเคยต่อสู้กับต้นหลิวเมื่อคราวมันมีพลังเต็มเปี่ยม แม้ว่าศึกนั้นจบด้วยความพ่ายแพ้ของเขา กระนั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาแล้ว
ใช่ว่าใคร ๆ ก็สู้กับต้นหลิวไหวได้ มีคนอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ทำได้ และผู้ที่รอดจากการต่อสู้กับต้นหลิวได้นั้นมีน้อยจนนับมือเดียวหมด
เขาเคยต่อสู้กับต้นหลิว และบัดนี้ยังมีชีวิตอยู่ เท่านี้ก็พอจะแสดงให้เห็นถึงความแกร่งกล้าของเขาแล้ว!
“หืม!?”
ทว่าในตอนนั้นเอง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย รอยยิ้มมั่นใจค่อย ๆ เลือนหายไป
ล้มเหลว!
เขาเพิ่มพลังในการไล่ล่า สุดท้ายก็ยังจบด้วยความล้มเหลว!
สิ่งมีชีวิตข้างนอกนั่นเป็นผู้ใดกันแน่?!
ครืน!
เสียงอสนีบาตดังอยู่บนนภา สายฟ้าฟาดผ่าลงมา ม่านหมอกส่วนใหญ่ในทุ่งร้างหมอกทึบถูกกระแทกจนจางหายไป เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตภายในนั้น!
สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นผงะกันหมด คิดไม่ถึงว่าหมอกทึบจะถูกขจัดออกไป
ต้องรู้ว่า ม่านหมอกในทุ่งร้างหมอกทึบแห่งนี้ไม่เคยจางหายไปไหน ยากจะถูกขจัด มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่มีพลังกล้าแกร่งพอจึงจะกระเทือนม่านหมอกนี้ออกไป ไม่ถูกม่านหมอกปกคลุม
จุดไร้ม่านหมอกปกคลุมที่ต้นหลิวมองเห็นล้วนเป็นเช่นนั้น พวกมันแข็งกร้าวเกินไป ถือเป็นจุดที่ทรงพลังที่สุดในทุ่งร้างหมอกทึบ จุดอื่นมิได้ทรงพลังเช่นนี้ จึงไม่อาจกระเทือนม่านหมอกออกไปได้ จำต้องใช้ชีวิตท่ามกลางหมอกทึบไปตลอดกาล
“ทำผีหลอกเจ้าอยู่ได้!”
ตาเฒ่าผอมกะหร่องยิ้มเย็น มิได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อย “พลังแห่งโชคชะตาสำแดงฤทธิ์เดชหรือ?”
ที่นั่น สายฟ้าสะเทือนเลือนลั่น ประหนึ่งศูนย์กลางแห่งอสนีบาต กฎระเบียบปรากฏออกมามากมาย สะท้อนแสงวาววามออกมา เจิดจ้าแยงตาจนทนมองไม่ไหว!
ม่านหมอกถูกขจัดออกไปมากขึ้น สิ่งมีชีวิตมากมายได้เห็นภาพการณ์ด้านนอกแล้วต้องตกตะลึง เกิดเรื่องอันใดขึ้น?!
“โอหังนัก!”
ตาเฒ่าผอมกะหร่องตวาด “ต่อให้ร่างจริงของเจ้าจุติลงมาก็เท่านั้น มิหนำซ้ำ เจ้ายังเป็นเพียงพลังชะตากรรมที่สะท้อนออกมาเท่านั้น!”
เขาชี้ออกไปหนึ่งนิ้ว ดุดันอาจหาญ ลำแสงนับล้านถักทอประสานด้วยกฎระเบียบต่าง ๆ กลายเป็นกระบี่สวรรค์ทองคำนับสิบ ตวัดออกไปที่นั่นพร้อมกัน
ครืน!
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นจากตรงนั้นอีกครั้ง สายฟ้าสีครามผ่าลงมา กระบี่สวรรค์ทองคำนับสิบถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดในบัดดล ประหนึ่งเศษดวงดาราที่กระเด็นลงมา
ขณะเดียวกัน แสงนับหมื่นพวยพุ่ง คลื่นริ้วสวรรค์มากมายปรากฏ ภาพร่างมหึมาหลอมรวมขึ้นอย่างรวดเร็ว!
มันยืนอยู่ที่นั่น เท้าแตะทุ่งร้างหมอกทึบ ศีรษะค้ำเวหา ม่านหมอกแวววาวไหลเวียนตามร่าง จนมองไม่เห็นรูปโฉมที่แท้จริง
“คุณชาย!”
ต้นหลิวและก้อนหินจำได้ในทันที นี่คือภาพสะท้อนของคุณชาย ตาเฒ่าผอมกะหร่องผู้นี้ริอ่านไล่ล่าคุณชาย นี่คือพลังของคุณชายที่สะท้อนอยู่ที่นี่!
ชั่วพริบตานั้น พวกมันโล่งใจทั้งคู่
ช่วยไม่ได้ พวกมันเชื่อใจในคุณชายเต็มร้อย!
ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใด เมื่อปะทะกับคุณชายก็สู้มิได้!
“มดปลวกต่ำต้อยตัวหนึ่งจากข้างนอกบังอาจเผยร่างในทุ่งร้างหมอกทึบ รนหาที่ตายนัก!”
ตาเฒ่าผอมกะหร่องสีหน้าอึมครึม แม้ว่าทุ่งร้างหมอกทึบเป็นเพียงดินแดนชายขอบ กระนั้นก็มิได้หมายความว่าทุ่งร้างหมอกทึบนั้นจะอ่อนพลัง
ตรงกันข้าม ทุ่งร้างหมอกทึบนั้นสยดสยองอย่างยิ่งยวด น้อยนักจะมีสิ่งมีชีวิตกล้าย่างกรายเข้ามา ต่อให้เป็นบรรดาผู้บงการสูงส่งเข้ามาในทุ่งร้างหมอกทึบก็ต้องประเมินตัวเองเสียก่อน
เขาก้าวเท้าออกไป อาจหาญเกรียงไกร ร่างกายพลันขยายใหญ่ เทียบเท่าภาพร่างเลือนรางนั่น
“ฆ่า!”
เขาชักดาบยาวสีฟ้าด้ามหนึ่งออกมา คมดาบส่องประกายสีฟ้าวาววาม กระโจนพรวดเดียวมาอยู่ตรงหน้าภาพร่างเลือนราง ฟันดาบใส่ศีรษะของภาพร่างเลือนรางหมายจะบั่นหัวลงมา
ภาพร่างเลือนรางนั้นสงบอย่างยิ่ง ไม่มีท่าทีกระเตื้องแต่อย่างใด
ขณะที่ดาบยาวสีฟ้าเล่มนั้นกำลังจะปาดไปที่คอของมัน มันก็ขยับตัว!
มันค่อย ๆ ยกมือข้างหนึ่งขึ้น ดูเหมือนเชื่องช้า แท้จริงแล้วเร็วจนแทบทะลุปริภูมิเวลาได้ เป็นความเร็วที่ไม่อาจทำความเข้าใจ มือนั้นหยุดดาบยาวสีฟ้าไว้
แคร่ก!
เสียงแตกหักดังสะท้อนฟ้าดิน ดาบยาวสีฟ้าแหลกลาญ เปราะบางประหนึ่งกระจก
ตาเฒ่าผอมกะหร่องสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน คิดไม่ถึงเลยว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นนี้!
เขามิได้ลังเล เคลื่อนย้ายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อดึงระยะห่างออก น่ากลัวเกินไปแล้ว เขามิกล้าสู้ประชิดตัว กลัวจะตัวระเบิดไปเสียก่อน!
ดาบยาวสีฟ้าเล่มนั้นตีจากวัสดุไร้เทียมทาน ความทนทานคมกล้านั้นไม่มีสิ่งใดเปรียบ แต่ปะทะเพียงครั้งเดียวก็ถูกทำลายจนแหลกลาญ หากกระแทกกับตัวเขา เขาก็ต้องระเบิดแหลกลาญเช่นเดียวกัน!
เขาตกตะลึง ข้างนอกนั่นมีสิ่งที่สยดสยองปานนี้เชียวหรือ เกินการคาดการณ์ของเขาไปเยอะมาก!
พรวด!
ฝนโลหิตสาดกระเซ็น เขาหนีไม่พ้นเลย ภาพร่างเลือนรางเหวี่ยงฝ่ามือเข้ามา ต่อให้เขาว่องไวเพียงใดก็เปล่าประโยชน์ ร่างทั้งร่างถูกอัดจนแหลกลาญ!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”
เสียงร้องเหลือเชื่อของเขาดังมาจากหมอกเลือด เขาไม่อาจทำใจเชื่อได้เลย ด้วยพลังของเขา กลับไม่สามารถหลอมร่างใหม่ขึ้นมาได้โดยไว!
เขาทรงพลังปานใด อย่าว่าแต่ร่างถูกอัดจนแหลกลาญเลย ต่อให้วิญญาณถูกอัดจนแหลกลาญก็ไม่เป็นไร หลอมร่างใหม่และวิญญาณใหม่ขึ้นมาได้ในพริบตา
ทว่าบัดนี้ เขาทำเช่นนั้นมิได้เลย การจะหลอมร่างใหม่ขึ้นต้องใช้เวลาไม่รู้เท่าไหร่!
เขาคำนวณคร่าว ๆ แล้วคงต้องนับหมื่นปี!
ฝ่ามือนี้ทำร้ายเขาสาหัสถึงแก่น บาดเจ็บอย่างหนัก ไม่สามารถฟื้นตัวได้ง่าย ๆ!
“บังอาจนัก!”
“ที่นี่หาใช่ที่ที่เจ้าทำตามอำเภอใจได้!”
มีอีกหลายร่างพุ่งออกจากตำหนักกระดูก พวกเขาทรงพลังยิ่งกว่าตาเฒ่าผอมกะหร่อง พลังปราณที่แผ่ซ่านออกมานั้นพอให้พังทลายจักรวาลโกลาหลผืนแล้วผืนเล่า!
ตึง!
ภาพร่างเลือนรางกระทืบเท้าเบา ๆ คลื่นแสงกำจาย ร่างเหล่านั้นระเบิดแหลกลาญกันหมด กลายเป็นหมอกเลือดก้อนแล้วก้อนเล่า!
สิ่งมีชีวิตในทุ่งร้างหมอกทึบตะลึงกันหมด อย่างไรก็เชื่อไม่ลง ร่างเหล่านั้นล้วนเป็นกำลังรบแข็งแกร่งสุดยอดในทุ่งร้างหมอกทึบ แม้กระทั่งทั่วอาณาจักรนี้ก็ติดอันดับเช่นกัน หลังได้เจอภาพร่างเลือนรางกลับเปราะบางต้านทานมิได้แม้แต่การโจมตีเดียว จะให้พวกเขาเชื่อได้อย่างไร?!
มิหนำซ้ำ ภาพร่างเลือนรางนั้นยังเป็นเพียงภาพฉาย หาใช่ตัวจริง พลังที่มีน้อยกว่าร่างจริงตั้งไม่รู้กี่เท่า แล้วร่างจริงของภาพร่างเลือนรางจะน่าพรั่นพรึงปานใด!?
ต้านทานกำลังกับบรรดาผู้บงการสูงส่งได้หรือ!?
ตึง ตึง ตึง!
ภาพร่างเลือนรางก้าวเท้า ทุกย่างก้าวล้วนก่อให้เกิดแผ่นดินไหว มันก้าวออกจากทุ่งร้างหมอกทึบ
พลังที่พันธนาการต้นหลิวและก้อนหินหายไปนานแล้ว พวกมันติดตามอยู่ด้านหลังภาพร่างเลือนราง ออกไปด้วยกัน
นี่แหละคือพลังของคุณชาย!
ต่อให้เป็นเพียงร่างภาพฉายของคุณชาย ก็บดขยี้ได้ทุกสิ่ง!
คุณชายไร้เทียมทานตลอดไป!
พวกมันเดินตามอยู่ด้านหลัง หัวใจอิ่มเอิบไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย ต่อให้สถานที่นี้เต็มไปด้วยสิ่งที่ยังไม่รู้ เต็มไปด้วยความน่ากลัว พวกมันก็ไม่รู้สึกวิตกแต่อย่างใด!
ฟึ่บ!
คราวเดินผ่านประตูหินใหญ่ยักษ์ ผีเสื้อตัวหนึ่งกระพือปีกบุกโจมตีเข้ามา ปริภูมิเวลาพังครืน กฎระเบียบล่มสลาย ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าภาพร่างเลือนรางนี้ ทั้งหมดนั้นล้วนไม่มีความหมาย!
เสียงดังพรวด ปีกของผีเสื้อระเบิด ร่วงลงไปที่พื้น!
ด้านหลังประตูหินเชื่อมต่อกับมิติประหลาด ในนั้นมีสิ่งมีชีวิตมากมายบุกเข้ามา เจ้าอสูรร้ายเผ่ามดที่สามารถค้ำผืนฟ้าอันใกล้ถล่มได้สบายก็อยู่ด้วย
ทว่าพวกมันไม่ทันได้เข้าใกล้ก็กระเด็นออกไปกันหมด!
ตู้ม!
จากนั้น ประตูหินยักษ์ใหญ่พังครืน ก้อนหินเกลือกกลิ้งไปทั่ว มิติด้านในที่เชื่อมต่อกำลังพังทลายลง
ภาพร่างเลือนรางก้าวเดินต่อไป แรงสั่นสะเทือนในทุ่งร้างหมอกทึบไม่เคยหยุด!
มันมาอยู่ในเขตกลับตาลปัตร ฟ้าอยู่ล่าง ดินอยู่บน เม็ดฝนหยดจากล่างขึ้นบน
ที่นี่มีกฎระเบียบบางอย่างดำรงอยู่ คิดจะบิดเบือนภาพร่างเลือนรางให้อยู่กลับทิศเฉกเช่นกับที่นี่
ทว่าแท้จริงแล้ว เป็นการกระทำที่ไม่ประเมินตนเอง!
ภาพร่างเลือนรางเดินผ่าน เขตแดนนั้นระเบิดแหลกลาญในบัดดล พลังทั้งปวงได้รับแรงกระเทือนจนต้องล่าถอย!
ตึง! ตึง! ตึง!
ต่อมา ภาพร่างเลือนรางก้าวไปยังสุสาน โลงศพใหญ่ ๆ ด้านในต่างมีเสียงตีกระทบรุนแรงดังออกมา คล้ายว่าสิ่งมีชีวิตในโลงศพต้องการบุกออกมา
แต่ยามภาพร่างเลือนรางเดินผ่าน โลงศพทั้งหมดเงียบสงัด ราวกับสิ่งที่อยู่ในนั้นได้ตายไปแล้วจริง ๆ ไม่มีภาพการณ์ประหลาดปรากฏขึ้นอีก
ซ่า!
ท่ามกลางแม่น้ำเหนียวหนืดข้นดำดั่งหมึก สายน้ำซัดสาดรุนแรง พัดพาซากศพเน่าเปื่อยที่ลอยอยู่บนนั้นไปที่อื่นหมด!
สิ่งมีชีวิตที่กินซากศพเน่าเปื่อยเป็นอาหาร เขี้ยวคมเต็มปากพุ่งออกมา หมายจะกลืนกินภาพร่างเลือนรางนั้นในคำเดียว สุดท้าย ทันทีที่มันบุกเข้ามา ก็แหลกสลายไปทั้งร่าง กลายเป็นน้ำหนองกองหนึ่ง
ด้านแท่นบูชายัญก็มีภาพการณ์ประหลาดปรากฏ จู่ ๆ ก็มีเสียงสวดบูชายัญประหลาดดังออกมา สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งเผยร่างออกมาอย่างรวดเร็ว
มันคว้าหัวใจสีทองที่เต้นโครมครามบนโต๊ะแล้วอ้าปากกลืนลงไป ทั้งยังกินของบูชายัญอย่างอื่นลงไปด้วย แสงเจิดจ้าอันน่าสยดสยองนับหมื่นปะทุออกมา เพิ่มพูนความดุดันขึ้นไปเป็นทวีคูณ!
ทว่าหลังภาพร่างเลือนรางเดินเข้ามา มันก็หนีกลับไปทันที ไม่กล้าลงมือเลยแม้แต่น้อย!
“ไร้…ไร้เทียมทานจริง ๆ!”
“น่ากลัวเสียยิ่งกว่าบรรดาผู้บงการเสียอีก!”
สิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนในทุ่งร้างหมอกทึบอุทานเสียงหลง แม้กระทั่งบรรดาผู้บงการก็ใช่ว่าจะออกจากทุ่งร้างหมอกทึบได้ด้วยท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้!
“มัวแสดงอยู่ได้! ฆ่า!”
“อยากไปจากที่นี่หรือ? มิได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิด!”
เสียงเย็นเยียบดังออกจากทุ่งร้างหมอกทึบ จิตสังหารคลี่แผ่ปกคลุมฟ้าดิน เป้าหมายคือภาพร่างเลือนรางนั้น!
“พวกมันนั่นเอง! ผู้บงการที่แท้จริงของทุ่งร้างหมอกทึบปรากฏตัวแล้ว!”
“นี่คือกำลังรบสูงสุด ตัวตนที่สิ่งมีชีวิตทั้งอาณาจักรต้องเกรงกลัวตัวสั่น!”
สิ่งมีชีวิตจำนวนมากอุทานเสียงหลงหลังจำเจ้าของร่างนั้นได้
จุดที่เจ้าของร่างอยู่แม้มิได้สำแดงออกมา ถูกหมอกทึบปิดบัง แต่นั่นเพียงเพราะพวกมันไม่ต้องการขจัดม่านหมอกเท่านั้น พวกมันสยดสยองยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าผู้ใดในพวกมัน ต่างสามารถสะเทือนเลือนลั่นไปทั้งอาณาจักร เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน!
พวกมันบุกเข้ามาด้วยท่วงท่ากล้าแกร่งไร้ใดเปรียบ ห้วงเวลาหยุดลง พวกมันคือผู้บงการอย่างแท้จริง บงการได้ทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดขัดขืนพวกมันได้!
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าภาพร่างเลือนราง พวกมันก็ยังสู้ไม่ไหว!
ภาพร่างเลือนรางเหวี่ยงฝ่ามือเข้าไป พวกมันถูกทำลายจนแหลกลาญทั้งสิ้น มิได้อยู่ในระดับเดียวกัน!
“อะ…อะไรกัน!”
“เขาเป็นใครกันแน่?!”
สิ่งมีชีวิตทุกตนในทุ่งร้างหมอกทึบตัวสั่นเทิ้ม หมอบราบกับพื้น หน้าตาหวาดผวา พวกมันเคยพบเจอสถานการณ์เช่นนี้ที่ไหน ตกตะลึงแทบบ้ากันหมด
ภาพร่างเลือนรางมิเคยหยุดยั้งฝีเท้า มุ่งหน้าต่อไปเรื่อย ๆ
และในตอนนั้นเอง เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น!
ฝีเท้าของภาพร่างเลือนรางชะงักงัน!
ในสถานการณ์ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดรู้เรื่อง แสงสีขาวลำหนึ่งพลันสว่างจ้าขึ้นเงียบเชียบ เป็นสีขาวซีดเสมือนตัวแทนความตาย ทาบทับลงบนทุกตารางนิ้วของทุ่งร้างหมอกทึบ!
ตึก!
ตอนนี้ สิ่งมีชีวิตทุกตนในทุ่งร้างหมอกทึบหัวใจกระตุกรุนแรงกันหมด ตื่นตกใจยกใหญ่!
แสงสีขาวนั้นทำให้เกิดความรู้สึกที่อันตรายถึงชีวิต ราวกับถูกใครบางคนบีบคอไว้แน่น จนพวกมันหายใจไม่ออก ลมหายใจหมดสิ้น!
พวกมันเฉียดใกล้ความตายเต็มที!