Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 643 น่ารำคาญ

ตอนที่ 643 น่ารำคาญ

ครั้งนี้ พวกเขาสามารถสังหารหมู่ซอมบี้ทั้งหมดในบริเวณนี้ได้ด้วยการใช้สารล่อซอมบี้ภายใต้การออกแบบแผนการอย่างสมบูรณ์แบบ ใช้เวลารวดเร็วเกินกว่าที่จะจินตนาการถึง ทุกคนทำงานกันอย่างเป็นกระบวนการและระบบ ไม่การชะงัก และดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

และแน่นอนว่า ไม่มีใครบาดเจ็บ!

“นี่มัน…” ชินหยวนเบิกตากว้าง กลืนน้ำลายอึกด้วยความตื่นเต้น “กองซากศพซอมบี้เป็นหมื่นๆตัว แต่กลับไม่มีใครตายเลย?!”

ชูฮันจ้องชินหยวน มันมีแววตาดูถูกในสายตาของชูฮัน ราวกับว่าชินหยวนเหมือนเด็กน้อยที่พึ่งจะได้เจอกับโลกกว้างที่แท้จริง “กองทัพเขี้ยวหมาป่าไม่เคยมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าจำนวนซอมบี้ที่ตาย”

“เฮือก!”

ทันใดนั้นชินหยวนก็รู้สึกหน้าซีดสลับแดงก่ำจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว ในที่สุดชินหยวนก็สามารถขัดขืนอาการมึนที่ถาโถมเข้ามาอย่างหนักได้

การรับมือกับฝูงซอมบี้จำนวนมากโดยไม่มีผู้บาดเจ็บเลยสักคน นั่นได้กลายเป็นลักษณะนิสัยของกองทัพเขี้ยวหมาป่าไปแล้ว

ชินหยวนนที่พึ่งได้ประสบการณ์กับสถานการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรกไม่สามารถระงับความตกใจตั้งแต่แรกเริ่มจนจบได้ ทุกอย่างที่เขาได้ประสบเจอในวันนี้มันเหมือนกับโลกใบใหม่ ความรู้ความเข้าใจเดิมที่เคยมีถูกโค่นล้มลงอย่างสมบูรณ์

ช่างน่าตกใจจริงๆ!

ฆ่าซอมบี้เป็นหมื่นๆตัวโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยสักคน ไม่ต้องพูดถึงว่าการจัดการกับพวกซอมบี้สัตว์ตัวเล็กๆที่วิ่งพล่านซุกซ่อนอยู่ตามซอกนั่นมันยากแค่ไหน แล้วไหนจะการเปิดเผยสารล่อซอมบี้ที่ทำให้ชินหยวนรู้ถึงความหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาช็อคอย่างมาก

มันเป็นไปได้มั้ยที่จะยึดครองเมืองกลับมาจากซอมบี้ได้?

แน่นอนว่ามันเป็นไปได้เพราะชูฮันได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว!

ในขณะที่ชินหยวนกำลังใช้ความคิดอย่างร่องลอยอยู่และยังไม่ได้สติกลับคืนมา จู่ๆตัวเขาก็หลุดโพล่งถามออกมาอย่างกระทันหัน “ในเมื่อมันสามารถใช้ล่อซอมบี้ให้โดนเผาได้ งั้นกลยุทธ์นี้เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ควาสามารถของคนในการสู้เลย มันไม่จำเป็นเลยสักนิด ในเมื่อเรามีอาวุธเทคโนโลยีขนาดนี้ ทำไมต้องเปลืองทรัพยากรไปกับการสร้างอาวุธให้มนุษย์ใช้ฆ่าซอมบี้อีก?”

ทันทีที่คำถามของชินหยวนโพล่งออกมา เสียงตะโกนกู่ร้องกับชัยชนะของทหารทุกคนก็ค่อยๆซาลงทันทีภายในไม่กี่วินาที…

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” และจู่ๆมันก็มีเสียงหัวเราะเบิดโพล่งออกมา ดังสนั่นไปทั่ว

“นายหัวเราะอะไรห่ะ?” ชินหยวนที่โกรธจัด หน้าตาแดงก่ำ “มันผิดตรงไหน? นี้มันเสียกำลังคนเปล่าๆ!”

หลังจากทีชินหยวนพูดจบ ทุกคนก็หัวเราะโพล่งออกมาทันที หลายคนหัวเราะจนต้องเอามือกุมท้องด้วยความปวด

ชูฮันขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบายอะไรให้คนนี้ฟังอีก เพียงแค่หันหน้าไปเผชิญหน้ากับเหล่ากองทัพเขี้ยวหมาป่าของเขาและออกคำสั่ง “เผาศพวกมันให้หมดและเก็บคริสตัลทั้งหมดมาด้วย”

หลังจากได้ยินคำสั่งของชูฮัน ทันใดนั้นชินหยวนก็หยุดชะงักทันที เขาสะดุ้งอีกครั้งหนึ่ง ความรู้สึกของการไร้พลังอำนาจตกลงสู่หัวใจเขาทันที ความชื่นชมที่มีต่อชูฮันยิ่งเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก

ก่อนหน้านี้ที่อาการช็อคโจมตีเขาอย่างรุนแรง มันทำให้เขาลืมเลือนเรื่องคริสตัลไปอย่างสนิทใจเลย มันเป็นที่รู้กันดีว่าคริสตัลนั้นฝังแน่นอยู่ในกระโหลกของซอมบี้ แม้องค์ประกอบของมันจะยังไม่ได้เป็นที่ทราบกัน แต่ในเมื่อมันเติบโตขึ้นในร่างของซอมบี้ แสดงว่าคริสตัลน่าจะเป็นอินทรียวัตถุชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยสสารที่ไม่รู้จัก และวัตถุนี้ถ้าโดนความร้อนไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปฏิกิริยาของทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่าถึงเป็นเช่นนั้น ประเด็นที่ชินหยวนพูดถึงนั่นมันแสดงออกถึงระดับสมองของคนพูดชัดเจน!

ด้วยเหตุนี้ ชูฮันจึงไม่เพียงแต่คิดกลยุทธ์ในการรบมา แต่ชูฮันยังเป็นคนที่คำนึงถึงปัจจัยทุกอย่างโดยรอบอย่างรอบคอบ เมื่อเทียบกับชูฮัน ชินหยวนนั้นรู้สึกอับอายขายขี้หน้าที่สุดในชีวิตเหลือเกิน

ทำไมช่องว่างระหว่างเขากับชูฮันถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้?!

สองวันถัดมา กองทัพเขี้ยวหมาป่าสามารถแก้ไขปัญหาซอมบี้นับหมื่นๆตัวในอีกพื้นที่ได้ด้วยความเร็วที่แทบไม่น่าเชื่อ

ชินหยวนกลายเป็นศรัทธาต่อชูฮันและนับถือชูฮันเป็นไอดอลที่เขานับถือมากที่สุด ความภักดีของชินหยวนที่มีต่อชูฮันนั้นพุ่งทะลุสูงถึง 80% ไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ ความรู้สึกอันรุนแรงที่มีต่อชูฮันอย่างกระทันหันนั้นทำให้ชินหยวนก็ตกใจกับตัวเองเหมือนกัน วันถัดมา ชินหยวนก็จากเมืองอันลูไปและกลับไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าเพื่อเตรียมข้อมูลให้พร้อม

ทีมกุ้งเสือดำเองก็จากไปเมืองอันลูไปเช่นกันโดยไม่มีข้อยกเว้น พวกเขามีหน้าที่สอนวิธีในการสร้างกำแพงให้แก่เหล่าทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างเป็นขั้นตอน เพราะถึงอย่างไรแล้วพวกเขาก็เป็นทีมพิเศษที่ประกอบไปด้วยเหล่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่รวมตัวกันทั้งหมด และพวกเขาก็ถูกฝึกโดยชูฮัน

ทั้ง 400 คนที่ได้รับคำสั่งให้ไปที่หมู่บ้านทางใต้ของเมืองอันลูเพื่อนำชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์มาเองก็กลับมาตรงเวลาเช่นกัน และหลังจากกลับมาแล้วพวกเขาก็ต้องเรียนรู้กลยุทธ์การป้องกันหอคอยต่างๆที่ทั้ง 300 คนใช้ไปในการสังหารซอมบี้ก่อนหน้านี้

ด้วยการนำก่อนหน้านี้ของชูฮันและความสามารถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็วของทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่า ประกอบกับการสนับสนุนอย่างเต็มพลังจากทีมยิงปืน ชูฮันจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสองสามวัน กองทัพเขี้ยวหมาป่าสามารถจัดการปัญหาเองได้

เหลาเกาแห่งแผนกโลจิสติกส์ยังคงเดินทางจากค่ายเขี้ยวหมาป่ามาที่พื้นที่ในเมืองอันลูเพื่อทำหน้าที่ส่งของให้กับกองทัพเขี้ยวหมาป่าอยู่ทุกวันเหมือนเดิม พวกเขาต้องนำส่งสารล่อซอมบี้ที่มีการเร่งการผลิตอยู่ทุกวัน และทุกครั้งที่เขาได้เข้ามายังเขตพื้นที่ของเมืองอันลู เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดใจในทุกๆวัน

ด้วยเหตุนี้ ความภักดีและศรัทธาที่ทุกคนมีต่อชูฮันจึงเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ มันคือการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยอย่างแท้จริง!

ชูฮันที่ในที่สุดก็โล่งใจที่จะจากมาจากกองทัพเขี้ยวหมาป่า ในที่สุดเขาก็สามารถผ่อนคลายได้อย่างแท้จริงๆและมุ่งหน้ากลับไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า

แผนกหน่วยข่าวกรองได้ทำการเก็บรวมรวบข้อมูลรายบุคคลของเหล่าทหารผ่านศึกอพยพพันกว่าคนที่มาจากค่ายเจียนอี๋ได้สำเร็จ และตอนนี้พวกเขากำลังทำการขัดกรองจำแนกข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น

ในวันที่ชูฮันเดินทางกลับมาถึงค่ายเขี้ยวหมาป่า ชินหยวนเองก็ส่งข้อมูลส่วนบุคคลอย่างระเอียดของทหารผ่านศึกกว่าพันคนให้กับชูฮัน จากข้อมูลที่ได้รับมาจากชินหยวนชูฮันได้รับทหารผ่านศึก 800 คนเข้ากองทัพเขี้ยวหมาป่าทันที ส่วนที่เหลืออีก 200 คนถูกนำไปรวมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของค่ายเขี้ยวหมาป่า

ตอนนี้จำนวนของทหารในกองทัพเขี้ยวหมาป่าพุ่งกระฉูดขึ้นไปที่จำนวน 1,500 คนแล้ว ความเร็วของการกวาดล้างซอมบี้ในเมืองอันลูนั้นเร็วอย่างกับจรวด ในเวลาเดียวกันชูฮันก็ไม่ได้ละทิ้งอิทธิพลส่วนตัวของชินหยวนที่มีต่อเหล่าผู้คนของเขา แต่ชูฮันกลับมอบหมายหน้าที่ให้ชูฮันรับผิดชอบจัดการทหารของชินหยวน 800 คนที่เข้าร่วมกับกองทัพเขี้ยวหมาป่า

การกระทำของชูฮันครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายเขี้ยวหมาป่าตกใจ แต่ยังทำให้ชินหยวนรู้สึกท่วมท้นและซาบซึ้งเข้าไปอีก ความภักดีที่มีต่อชูฮันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แทบจะเทียบเท่ากับเฉินช่าวเย่!

ดังนั้นกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่มีทหาร 1,500 นายก็เดินหน้ากวาดล้างเมืองอันลูให้สะอาดต่อไป ไม่นานชินหยวนและทหารของเขาก็เริ่มคุ้นเคยกับวิธีการต่อสู้และกลยุทธ์ของกองทัพเขี้ยวหมาป่า เมื่อเหล่าทหารผ่านศึกที่มาใหม่ 800 คนเริ่มปรับตัวได้ ความเร็วของการกวาดล้างของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็รวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้…

หลังจากจัดการกับปัญหาวุ่นวายซับซ้อนทั้งหลายเสร็จ เวลาก็ผ่านไปสองวันและโมเซอชูฮันรอคอยการมาถึงอยู่ ในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นในระยะสายตาของทีมสอดแนมของค่ายเขี้ยวหมาป่า!

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท