ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD – บทที่ 300 การล่มสลายของเมืองโม่หลัว

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ลำแสง​หนึ่ง​สาย​

ลำแสง​สอง​สาย​

จากนั้น​ลำแสง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ก็​ท่วมท้น​สายตา​ของ​ทุกคน​ ความ​เจิดจ้า​อัน​น่ามหัศจรรย์​ทำให้​พวกเขา​ไม่อาจ​ละสายตา​ได้​ ทำได้​เพียง​หรี่ตา​ลง​เท่านั้น​

เว่ยต้าฝู​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​รู้สึก​เย็นวาบ​ลง​ไป​ถึงไขสันหลัง​ เขา​เบิกตา​กว้าง​ ไม่อยาก​จะเชื่อ​สายตา​ตนเอง​แม้แต่น้อย​

ชาย​วัยกลางคน​เหยียด​นิ้ว​ อ้า​ปากกว้าง​ ก่อน​จะชี้ไป​ยัง​อาหาร​ที่​กำลัง​ส่องแสง​เจิดจ้า​

“อะ​… อาหาร​ที่​ส่องแสง​เจิดจ้า​อย่างนั้น​หรือ​”

เว่ยต้าฝู​งุนงง​จน​บรรยาย​ออกมา​เป็น​คำพูด​ไม่ได้​ เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ได้​เห็น​อาหาร​ซึ่งส่องแสง​เจิดจ้า​เช่นนี้​ สิ่งนี้​เป็นตัวแทน​ของ​วิธีการ​ทำอาหาร​แบบ​ใหม่​ เป็น​ความสูง​ชั้น​ที่​พ่อครัว​แม่ครัว​ส่วนมาก​ไม่อาจ​ก้าว​ขึ้นไป​ได้​ แม้จะตั้งใจ​ขัดเกลา​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​มาตลอดชีวิต​ก็ตาม​

แสงนั้น​ค่อยๆ​ จางหาย​ไป​ แต่​สายตา​ทุก​คู่​ยังคง​จับจ้อง​อยู่​ที่​เดิม​ไม่เปลี่ยน​ ทุกคน​ต่าง​สนใจ​อาหาร​ตรงหน้า​เป็นอย่างมาก​

เมื่อ​แสงเริ่ม​จางหาย​ ไอ​น้ำ​ร้อนแรง​ก็​พวยพุ่ง​ออกมา​ราวกับ​เป็น​ม่าน​หมอก​ จากนั้น​กลิ่นหอม​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​เนื้อ​ก็​กระจาย​ไป​ทั่ว​ ทำให้​จิตใจ​ของ​ทุกคน​สั่น​ไหว​

ช่างเป็น​กลิ่น​แปลกประหลาด​ที่รวม​เอา​กลิ่น​ของ​เนื้อ​สุก​ หญ้า​สด​ และ​ดอกไม้​หอม​ยวน​ใจไว้​ด้วยกัน​ กลิ่น​ทั้ง​สามผสาน​รวมกัน​ก่อเกิด​เป็น​กลิ่น​พิเศษ​สุด​ออกมา​

“เนื้อ​สุก​พอดี​เลย​” ปู้​ฟางใช้มีด​ทำครัว​กระดูก​มังกร​ทอง​ลอก​ใบไม้​พลัง​ปราณ​ออก​ เผย​ให้​เห็น​เนื้อ​กิ้งก่า​ที่อยู่​ภายใน​ จากนั้น​ชายหนุ่ม​ก็​กด​มีด​ลง​ไป​ น้ำมัน​ใน​เนื้อ​ค่อยๆ​ ไหล​ซึมออกมา​

เนื้อ​กิ้งก่า​ยักษ์​ดู​ชุ่มฉ่ำแวววาว​จน​ชวน​ให้​หลงใหล​

ปู้​ฟางหยิบ​ชิ้น​เนื้อ​ออกมา​วาง​บน​พื้น​ จากนั้น​ก็​ตัด​ใบไม้​พลัง​ปราณ​ออก​ทั้งหมด​ เนื้อ​ทั้ง​ชิ้น​ปรากฏ​สู่คลอง​จักษุ​ กลิ่นหอม​รุนแรง​พุ่ง​ทะยาน​ออกมา​จน​แทบจะ​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ค่าย​พัก​

“หอม​เหลือเกิน​!”

“ขะ…​ ข้า​อยาก​ลอง​กิน​สัก​คำ​ ข้า​อยาก​ดื่มด่ำ​กลิ่น​เนื้อที่​ชวน​หลง​ไหล​นี่​!”

“ข้า​ไม่เคย​ได้กลิ่น​ใด​หอม​เท่า​เนื้อ​นี้​มาก่อน​เลย​!”

บรรดา​ทหาร​ล้วน​ตกตะลึง​ พวกเขา​พา​กัน​ส่ายหน้า​ สายตา​ล่องลอย​เมื่อ​กลิ่นหอม​หวาน​พุ่ง​เข้า​ปะทะ​ใบหน้า​

ปู้​ฟางสูดกลิ่น​เนื้อ​กิ้งก่า​เข้าไป​เล็กน้อย​ เขา​แลบลิ้น​ออกมา​เลีย​ริมฝีปาก​ ก่อน​จะควง​มีด​ทำครัว​กระดูก​มังกร​ทอง​ใน​มือ​แล้ว​หั่น​ลง​บน​ชิ้น​เนื้อ​

ฝูงชน​ได้​เห็น​เพียง​ประกาย​แสงจาก​มีด​เท่านั้น​ เพราะ​ใน​ชั่วพริบตา​ปู้​ฟางก็​หั่น​เนื้อ​เสร็จ​เรียบร้อย​

เนื้อ​กิ้งก่า​ชิ้น​นั้น​หาก​ดู​ไกลๆ​ ก็​เหมือน​ยัง​รวม​อยู่​เป็น​ชิ้น​เดียว​ แต่​เมื่อ​ดู​ใกล้​ๆ จะเห็น​ได้​ว่า​มีรอย​หั่น​บาง​ๆ อยู่​บน​เนื้อ​

“หลง​ไฉ หยิบ​จาน​มาใบ​หนึ่ง​” ปู้​ฟางออกคำสั่ง​กับ​หลง​ไฉ ผู้​ที่​กำลัง​ยืน​อ้าปากค้าง​อยู่ห่างๆ​

หลง​ไฉได้สติ​ทันที​ นัยน์ตา​ของ​เขา​ทอ​ประกาย​ขณะ​รีบ​พุ่ง​ออก​ไป​ข้างหน้า​อย่าง​เชื่อฟัง​

มีด​ทำครัว​กระดูก​มังกร​ทอง​สะบัด​ไปมา​อีก​ครั้งก่อน​จะพุ่ง​ลง​ไป​บน​เนื้อ​ เนื้อ​ของ​กิ้งก่า​ยักษ์​ซึ่งส่อง​ประกาย​ระยับ​ด้วย​น้ำมัน​ลอย​ขึ้น​ฟ้าก่อน​จะตกลง​ไป​บน​จาน​ดิน​

ไอ​ร้อนระอุ​ลอย​ออกมา​ทำเอา​หลง​ไฉตาพร่า​ไป​หมด​ เด็กหนุ่ม​เบิกตา​กว้าง​ก่อน​จะกลืนน้ำลาย​อึก​ใหญ่​

“ยก​จาน​ไป​ มัน​คือ​อาหารเย็น​ของ​ทุก​คนใน​วันนี้​” ปู้​ฟางกล่าว​

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ หลง​ไฉก็​เดิน​ไปหา​ถังอิ่น​และ​คนอื่นๆ​ แล้ว​ส่งจาน​ให้​ แม้ว่า​จะรู้สึก​อิดออด​ไม่น้อย​ที่​ต้อง​แยกจาก​เนื้อ​กิ้งก่า​จาน​นี้​ไป​ก็ตามที​

ด้วย​น้ำใจ​ของ​จูเย​วี่ย​ เนื้อ​กิ้งก่า​ชิ้น​แรก​จึงตกไป​อยู่​ใน​มือ​ของ​ถังอิ่น​

ถังอิ่น​จ้อง​เนื้อ​กิ้งก่า​ด้วย​ความตื่นเต้น​ เขา​สูด​กลิ่นหอม​เข้าไป​เต็ม​ปอด​ ตะเกียบ​ใน​มือ​สั่นเทา​เบา​ๆ ส่วน​ท้อง​ก็​ร้อง​ดัง​โครก​

ทันทีที่​ตะเกียบ​กด​ลง​บน​เนื้อ​กิ้งก่า​ยักษ์​ น้ำมัน​ใน​เนื้อ​ก็​ไหล​ทะลัก​ออกมา​ ถังอิ่น​คีบ​เนื้อ​ขึ้น​มา ก่อน​จะยัด​เข้า​ปาก​ไป​อย่าง​ตื่นเต้น​จากนั้น​ก็​กัด​ลง​ไป​

เนื้อ​นั้น​ไม่ได้​เหนียว​อย่าง​ที่​จินตนาการ​ไว้​ กลับกัน​มัน​กลับ​นุ่มนวล​อย่าง​ประหลาด​ เนื้อ​ที่อยู่​ใน​ปาก​ทั้ง​นุ่ม​และ​มีรส​สัมผัส​ละเมียดละไม​ ราวกับว่า​มัน​กำลัง​นวด​คลึง​ลิ้น​ของ​เขา​อยู่​กระนั้น​

ทันทีที่​เนื้อ​กิ้งก่า​ยักษ์​ตก​ถึงท้อง​ ถังอิ่น​ก็​รู้สึก​ราวกับ​มีเตาไฟ​ขนาดเล็ก​มาเผาไหม้​อยู่​ใน​กาย​ พลัง​ปราณ​ที่​พวยพุ่ง​ออก​มาจาก​ชิ้น​เนื้อ​ทำให้​เขา​รู้สึก​สดชื่น​ขึ้น​เป็นกอง​

ความร้อน​ของ​เปลวไฟ​ใน​กาย​ทำให้​พลัง​ปราณ​ของ​ถังอิ่น​ไหล​ทะลัก​ออกมา​ท่วม​รยางค์​ทั้ง​สี่ เขา​รู้สึก​ราวกับว่า​อาการ​บาดเจ็บ​แทบจะ​หาย​ไป​หมดสิ้น​ด้วยซ้ำ​

ปู้​ฟางหั่น​มีด​ลง​ไป​อีกครั้ง​ ก่อน​จะส่งเนื้อ​กิ้งก่า​ยักษ์​อีก​ชิ้น​ลง​บน​จาน​ดิน​เช่น​เดิม​

เนื้อ​กิ้งก่า​ยักษ์​ชิ้น​แล้ว​ชิ้น​เล่า​ถูก​ตัด​แบ่ง​ให้​ทุกคน​อย่าง​ทั่วถึง​

เนื้อ​ชิ้น​มหึมา​ถูก​แบ่ง​เป็น​ร้อย​ๆ ชิ้น​แล้ว​ส่งต่อ​ๆ กัน​ไป​ เหล่า​ทหาร​จำนวนมาก​ได้​กิน​ของ​อร่อย​กัน​จน​หนำใจ​

เนื้อ​กิ้งก่า​ชิ้น​ที่สอง​ถูก​ขุด​ออกมา​เช่นกัน​ มัน​ร้อน​ฉ่าและ​ส่งกลิ่นหอม​พอๆ กับ​ชิ้น​แรก​

ปู้​ฟางหั่น​เนื้อ​ชิ้น​ที่สอง​ให้​เท่าๆ​ กัน​แล้ว​แจกจ่าย​ไป​ยัง​ทหาร​ทุก​นาย​ เพื่อ​ให้อาหาร​ไป​ถึงปาก​ผู้คน​จำนวนมาก​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​มาก​ได้​

แน่นอน​ว่า​ชายหนุ่ม​เก็บ​เนื้อ​ชิ้น​หนึ่ง​ไว้​ให้​ตนเอง​ด้วย​ เมื่อ​เคี้ยว​ชิ้น​เนื้อ​ ดวงตา​ของ​เขา​ก็​หรี่​ลง​เป็น​รอยยิ้ม​น้อย​ๆ เนื้อ​กิ้งก่า​มีรสชาติ​ดีเยี่ยม​ และ​เพราะ​มัน​เป็น​อสูร​เวท​ระดับ​เจ็ด​จึงมีพลัง​ปราณ​อยู่​มากมาย​ ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​เนื้อ​นี้​เป็น​ของ​กิ้งก่า​ยักษ์​ มัน​จึงพิเศษ​กว่า​อสูร​เวท​ประเภท​อื่นๆ​

“อร่อย​มาก​” ปู้​ฟางพอใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​

ปู้​ฟางจำลอง​วิธี​การปรุง​มาจาก​อาหาร​ที่​ชื่อว่า​ไก่​ขอทาน​[1] เขา​สามารถ​รักษา​กลิ่นหอม​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​เนื้อ​ไว้​ได้​ ด้วย​วิธี​การปรุง​นี้​ เนื้อที่​สุก​ออกมา​จะทั้ง​นุ่ม​ทั้ง​ละมุน​ลิ้น​ คง​รส​สัมผัส​ที่​ยอดเยี่ยม​เอาไว้​ได้​เต็มเปี่ยม​

เพราะ​ทหาร​มีเป็น​จำนวนมาก​แต่​เนื้อ​กิ้งก่า​มีอยู่​จำกัด​ จึงมีทหาร​ไม่น้อย​ที่​ต้อง​ตาละห้อย​เพราะ​ไม่ได้​ชิมอาหาร​อัน​โอชะ​นี้​

กลิ่น​ที่​กระจาย​ไป​ทั่ว​ใน​อากาศ​ทำให้​พวกเขา​น้ำลายสอ​ ต่าง​รู้สึก​ทรมาน​ราวกับ​ตกนรกทั้งเป็น​ แต่​ไม่ว่า​จะทำ​สายตา​น่าสงสาร​เพียงใด​ พวกเขา​ก็​รู้ดี​ว่า​เนื้อ​กิ้งก่า​ย่าง​นั้น​ต้อง​ใช้เวลา​เตรียม​พักใหญ่​ พวกเขา​จึงทำได้​เพียง​กลืน​อาหาร​ที่​พ่อครัว​ประจำ​กองทัพ​คนอื่นๆ​ ทำ​ลงคอ​ แค่​คิด​ก็​ปวดใจ​เกิน​จะเปรียบ​แล้ว​

หลังจาก​เก็บกวาด​เรียบร้อย​ ปู้​ฟางก็​บิดขี้เกียจ​ ชายหนุ่ม​ถอนหายใจ​ยาว​พลาง​ สีหน้า​ดู​ผ่อนคลาย​

เสียง​แจ้งเตือน​ของ​ระบบ​ดัง​ขึ้น​มาใน​ศีรษะ​ เห็นได้ชัด​ว่า​ระบบ​พึงพอใจ​กับ​กิ้งก่า​บุปผา​จาน​นี้​

กิ้งก่า​บุปผา​ใช้วิธี​การปรุง​เหมือน​ไก่​ขอทาน​ ซึ่งเป็น​อาหาร​ขึ้นชื่อ​จาก​ชีวิต​ที่แล้ว​ของ​ปู้​ฟาง วิธี​การปรุง​เช่นนี้​มีเอกลักษณ์​มาก​เสีย​จน​แทบ​ไม่เคย​ได้ยิน​ใคร​กล่าวถึง​มาก่อน​ ประกอบ​กับ​ความ​อร่อย​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​เนื้อ​กิ้งก่า​ ปู้​ฟางจึงค่อนข้าง​มั่นใจ​ว่า​อาหาร​จาน​นี้​จะผ่าน​การประเมิน​แน่นอน​

หลังจากที่​กินกัน​จน​อิ่มหนำสำราญ​ กองทหาร​ลำดับ​สามก็​ออกเดินทาง​ต่อ​ พวกเขา​ต้อง​เร่งฝีเท้า​เพื่อให้​ไป​ถึงเมือง​โม่หลัว​ให้​เร็ว​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​ทำได้​ เป้าหมาย​เดียว​ใน​การ​เดินทางไกล​ของ​พวกเขา​คราวนี้​คือ​พิทักษ์​เมือง​แห่ง​นั้น​ แต่​พวกเขา​กลับ​ถูก​ซุ่มโจมตี​เสีย​ก่อนที่จะ​ถึงเมือง​โม่หลัว​ แปล​ได้​ว่า​ตัวเมือง​เอง​อาจ​กำลัง​ถูก​โจมตี​อยู่​เป็นแน่​ หรือ​หาก​จะมองในแง่ร้าย​สุด​ ก็​อาจ​พ่ายแพ้​ไป​แล้ว​ก็ได้​

หรือ​ต่อให้​เมือง​ยัง​ไม่ล่มสลาย​ สภาพ​คง​ใกล้เคียง​เต็มทน​

เมือง​โม่หลัว​ ดวงจันทร์​เสี้ยว​สอง​ดวง​ส่องแสง​เย็นตา​อยู่​บน​ท้องฟ้า​มืดมิด​

กำแพงเมือง​เก่า​คร่ำคร่า​เต็มไปด้วย​รอยแตก​ เหล่า​ทหารยาม​สวม​เกราะ​ถือ​คบไฟ​ใน​มือ​กำลัง​เดิน​ตรวจตรา​อยู่​ด้านบน​ พวกเขา​ล้วน​ตั้งสมาธิ​และ​ระแวดระวัง​ตัว​เป็น​อย่าง​ดี​ ไม่ยอม​ผ่อนคลาย​แม้สัก​ลมหายใจ​เดียว​

จู่ๆ เสียง​สาย​ธนู​ถูก​ปล่อย​ก็​ดัง​สะท้อน​ก้อง​ไป​ใน​ท้องฟ้า​สีหมึก​ ห่า​ธนู​พุ่ง​มาราว​สายฝน​

ลูกธนู​พุ่ง​เข้า​ชน​กำแพงเมือง​จน​เกิด​เสียงดัง​ ทำให้​กำแพงเมือง​ที่​ย่ำแย่​อยู่แล้ว​เสียหาย​หนัก​ขึ้น​กว่า​เดิม​

“ข้าศึก​บุก​!!”

ทหารยาม​บน​กำแพง​ตะโกน​เสียงดัง​

จากนั้น​เสียง​หวีดร้อง​แหลม​สูงก็​ดัง​ออก​มาจาก​ตีน​กำแพง​ เงาจำนวน​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ราตรีกาล​ พวกเขา​แห่​เข้ามา​ด้วย​จิตใจ​ฮึกเหิม​พร้อม​ที่จะ​ต่อสู้​

ร่าง​ที่​ถือ​วงแหวน​ปราณ​ซึ่งสร้าง​จาก​ยันต์​ห้า​แผ่น​กำลัง​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ ใบหน้า​ของ​เขา​ทั้ง​มืดมน​และ​เศร้าหมอง​

เขา​วางแผน​ว่า​จะทำสงคราม​ตามปกติ​ แต่​การตาย​ของ​นู่เอ๋อร์​กลับ​ทำให้​เสียขวัญ​ ส่งผล​ให้​ต้อง​เร่งความเร็ว​ใน​การ​โจมตี​ขึ้น​

ยอด​ฝีมือ​จาก​ลัทธิ​อสุรา​ยก​มือขึ้น​ขณะ​ยัง​ลอย​อยู่​บน​ฟ้า กระบี่​สีโลหิต​เล่ม​เล็ก​ลอย​ออก​มาจาก​ฝ่ามือ​ กระบี่​เหล่านั้น​ลอย​วน​อยู่​ใน​อากาศ​พลาง​ส่งเสียง​หวีดหวิว​ ก่อน​จะพุ่ง​ผ่าน​อากาศ​ออก​ไป​อย่าง​ดุเดือด​จน​แทบจะ​ตัด​สายลม​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ

เปรี้ยง​ เปรี้ยง​!!

กระบี่​เหล่านั้น​พุ่ง​เข้าใส่​กำแพงเมือง​สร้าง​รู​ขนาด​ต่างๆ​ จำนวน​นับไม่ถ้วน​ แรง​สั่นสะเทือน​รุนแรง​ทำให้​ทหาร​บน​กำแพงเมือง​ถึงกับ​หลั่ง​โลหิต​ออกมา​ทาง​ทวาร​ทั้ง​สี่

“ไอ้​ผี​ร้าย​!!”

เสียงคำราม​สะท้อน​ก้อง​ขึ้น​มาจาก​ใน​เมือง​โม่หลัว​ จู่ๆ ร่าง​ใน​ชุด​คลุม​สีขาว​ก็​พุ่งตัว​ไป​ใน​อากาศ​ด้วย​ท่าทาง​มั่นใจ​

สีหน้า​ของ​หู​อี้​เฟิงขณะนี้​เต็มเปี่ยม​ไป​ด้วย​จิต​สังหาร​รุนแรง​ นัยน์ตา​เกรี้ยวกราด​ของ​เขา​จับจ้อง​ไป​ยัง​ร่าง​ของ​ชาย​ใน​ชุด​คลุม​สีดำ​ที่​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ คน​ผู้​นี้​เป็น​ผู้​ที่​สังหาร​พี่น้อง​สิบ​สามกองโจร​แห่ง​เมือง​โม่จั่ว​ของ​เขา​ อภัย​ไม่ได้​เด็ดขาด​! หู​อี้​เฟิงมุ่งมั่น​ที่จะ​เข่นฆ่า​ทำลายล้าง​ศัตรู​จนกว่า​ชีวิต​จะหาไม่​!

การต่อสู้​กัน​กลางอากาศ​เริ่ม​ขึ้น​อีกครั้ง​อย่าง​ดุเดือด​ แต่​เห็นได้ชัด​ว่า​หู​อี้​เฟิงกำลัง​เสียเปรียบ​

เปลวไฟ​ระเบิด​ลุกโชน​ขึ้น​กลางเวหา​

สงคราม​อัน​โหดร้าย​ของ​เมือง​โม่หลัว​ดำเนินต่อไป​

แก่น​วิญญาณ​จาก​ศพ​ที่​ยัง​อุ่นๆ​ จำนวน​นับไม่ถ้วน​ถูก​กระชาก​ออกจาก​ร่าง​ ดึง​เข้าไป​ใน​วงแหวน​ปราณ​ที่​หลอม​ขึ้น​มาจาก​ยันต์​ เพื่อ​เพิ่ม​พลัง​ให้​รัศมี​ที่​น่ากลัว​ซึ่งแผ่​ออกมา​ไม่หยุดหย่อน​

แสงแรก​ของ​ดวงอาทิตย์​ชำแรก​ตัว​ผ่าน​ขอบฟ้า​ที่​ริม​ทุ่ง​กว้าง​ ทอ​ประกาย​สีแดง​อบอุ่น​

ในที่สุด​กองทหาร​ลำดับ​สามของ​กองทัพ​แห่ง​เมือง​ประจิม​เร้นลับ​ก็​มองเห็น​เมือง​โม่หลัว​อยู่​เบื้องหน้า​

เมื่อ​พวกเขา​เดิน​เข้า​เขตเมือง​โม่หลัว​มาก็​สัมผัส​ได้​ถึงบรรยากาศ​แห่ง​ความตาย​ที่​รายล้อม​อยู่​ พื้นที่​บริเวณ​นั้น​อาบ​ชโลม​ไป​ด้วย​โลหิต​และ​ซากศพ​ที่​กอง​กลาดเกลื่อน​

มีทั้ง​ศพ​ของ​ศัตรู​และ​ทหารยาม​เมือง​โม่หลัว​ปะปนกัน​

เหล่า​ทหาร​แห่ง​กองทหาร​ลำดับ​สามเงียบงัน​ไป​ พวกเขา​รู้สึก​ได้​ถึงความเศร้า​อัน​สุด​จะบรรยาย​ที่​กำลัง​ถาโถมเข้ามา​ใน​จิตใจ​

เมื่อ​เข้าใกล้​ประตูเมือง​ ทหารยาม​บน​กำแพง​ก็​ยิง​ธนู​ลงมา​ใส่เป็น​จำนวนมาก​

ลูกธนู​มากมาย​ราว​ห่า​ฝน​ร่วงหล่น​ลง​บน​พื้น​

จูเยวี่ย​ออกคำสั่ง​ให้​กองทหาร​ของ​ตน​หยุด​ด้วย​สีหน้า​งุนงง​

และ​เมื่อ​เพ่งมอง​ธงที่​กำลัง​โบกสะบัด​อยู่​บน​กำแพงเมือง​โม่หลัว​ ริมฝีปาก​ของ​เขา​ก็​สั่น​ไหว​

เมือง​โม่หลัว​ล่มสลาย​แล้ว​

“ถอยทัพ​!”

หลัง​จ้องมอง​เมือง​โม่หลัว​ด้วย​ดวงตา​ที่​เปี่ยม​ความหมาย​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ จูเยวี่ย​ก็​ออกคำสั่ง​อย่าง​สิ้นหวัง​ กองทหาร​ลำดับ​สามค่อยๆ​ ล่าถอย​ออกมา​ตาม​ๆ กัน​ พวกเขา​ฟันฝ่า​ความยากลำบาก​มากมาย​จน​มาถึงเมือง​โม่หลัว​ แต่​ก็​ไม่อาจ​ปกป้อง​เมือง​แห่ง​นี้​จาก​การ​ถูก​รุกราน​และ​ยึดครอง​ได้​

ด้วย​กำลัง​ทหาร​ที่​มีอยู่​จำกัด​ การ​คิด​จะชิงเอา​เมือง​คืน​มานั้น​เป็นได้​เพียง​ความฝัน​อัน​โง่เขลา​ ฉะนั้น​จูเยวี่ย​จึงออกคำสั่ง​ให้​ล่าถอย​

ใน​เมื่อ​เมือง​โม่หลัว​แตก​พ่าย​แล้ว​ เป้าหมาย​ต่อไป​ของ​การ​โจมตี​ก็​ย่อม​เป็น​เมือง​ประจิม​เร้นลับ​แน่นอน​… จูเยวี่ย​ต้อง​รีบ​กลับ​ไป​แจ้งเจ้าเมือง​ให้​รู้​โดยเร็ว​

บน​กำแพงเมือง​ประจิม​เร้นลับ​

ห​นี่​หยัน​ยืน​เอา​มือ​ไหล่​หลัง​ สีหน้า​เคร่งขรึม​บดบัง​ความงดงาม​อย่าง​เหลือเชื่อ​ของ​นาง​ไว้​ เมื่อ​หญิงสาว​มองผ่าน​ทิว​เมฆสีดำ​สนิท​ออก​ไป​ นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​หัวใจ​อัน​หนักอึ้ง​เริ่ม​หมุน​วน​

นาง​สัมผัส​ได้​ว่า​ภัย​ใหญ่หลวง​กำลังจะ​ตรง​มายัง​เมือง​ประจิม​เร้นลับ​แห่ง​นี้​ ความโกลาหล​คืบคลาน​เข้ามา​ใกล้​

ที่​ตีน​กำแพงเมือง​ประจิม​เร้นลับ​ กองทหาร​ลำดับ​สามซึ่งถูก​ส่งไป​ช่วยเหลือ​เมือง​โม่หลัว​กำลัง​เดินทาง​กลับมา​ การ​เดินทาง​กลับมา​อย่าง​รวดเร็ว​ของ​คน​กลุ่ม​นี้​ยืนยัน​ความกังวล​ของ​หญิงสาว​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

ห​นี่​หยัน​เดินลง​มาจาก​กำแพงเมือง​แล้ว​แทรกตัว​เข้าไป​ใน​ฝูงชน​ นาง​สอดส่าย​สายตา​หา​ถังอิ่น​ใน​หมู่​กองทหาร​ลำดับ​สาม เพราะ​อย่างไร​ถังอิ่น​ก็​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​นาง​

แต่​ทันทีที่​พบ​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ หญิงสาว​ก็​แทบ​ผงะ​ เพราะ​ร่าง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ เขา​คือ​ชายหนุ่ม​รูปร่าง​สูงโปร่ง​ที่​คุ้นหน้า​คุ้นตา​ดี​

“เถ้าแก่​ปู้​ เจ้ามาทำ​อะไร​ที่นี่​น่ะ​” ห​นี่​หยัน​เบิกตา​กว้าง​ ความประหลาดใจ​ฉาบ​เคลือบ​บน​ใบหน้า​

[1] ไก่​ที่​เมื่อ​เชือด​แล้ว​เอา​ไป​พอก​ด้วย​ดินเหนียว​ทั้งตัว​แล้ว​เผา​ไฟ

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

Status: Ongoing
ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่ เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท