ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD – บทที่ 312 เจ้าต้องชดใช้ให้กับวิหารเทพเจ้าแห่งดินแดนป่ารกชัฏ

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ใน​ท้องพระโรง​ ณ นครหลวง​แห่ง​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​

จีเฉิงเสวี่ย​ใน​ชุด​คลุมปัก​ลาย​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​ ใบหน้า​ของ​เขา​ดู​สดชื่น​ขึ้น​กว่า​แต่ก่อน​ แม้นครหลวง​จะยัง​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ ตำแหน่ง​และ​บัลลังก์​ของ​เขา​ยัง​สั่นคลอน​ไม่มั่นคง​ แต่​จักรพรรดิ​หนุ่ม​ก็​ไม่ได้​กังวล​เหมือน​แต่ก่อน​แล้ว​

เหตุผล​ก็​มิใช่สิ่งใด​อื่น​ นอก​เสีย​จากว่า​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ใน​ตอนนี้​มีกลุ่ม​อำนาจ​ที่​แข็งแกร่ง​มากมาย​หนุนหลัง​อยู่​ เป็น​กลุ่ม​อำนาจ​ที่​หาก​เป็น​สมัยก่อน​จีเฉิงเสวี่ย​เอง​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ที่จะ​นึกถึง​ด้วยซ้ำ​

วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ สำนัก​เมฆาขาว​แห่ง​หนองน้ำ​ปราณ​มายา​ สำนัก​เจดีย์​นภา​กระจ่าง​แห่ง​ดินแดน​แสน​ภูผา​ และ​กลุ่ม​อำนาจ​ที่​ยิ่งใหญ่​ใน​ตำนาน​อีก​มากมาย​ ล้วน​ส่งผู้ฝึก​ตน​ฝีมือดี​มาช่วย​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​กัน​ทั้งนั้น​ใน​ตอนนี้​

ถือเป็น​โชคดี​ที่​ได้มา​อย่าง​ไม่คาดคิด​โดยแท้​ จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​กำลัง​เผชิญ​กับ​อันตราย​ใหญ่หลวง​ หลาย​มณฑล​และ​หลาย​เมือง​ใน​อาณาจักร​ถูก​กองทัพ​ของ​ราชา​อวี่​ยึด​ไว้​ได้​ เหตุผล​เดียว​ที่​ราชา​อวี่​กำ​ชัย​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ใน​การศึก​ เป็น​เพราะ​มีกลุ่ม​อำนาจ​ทรงพลัง​หนุน​หลังเขา​อยู่​เช่นกัน​

ผู้ฝึก​ตน​จาก​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​แข็งแกร่ง​ไม่พอที่จะ​ต้านทาน​อำนาจ​ของ​กองทัพ​ราชา​อวี่​ แม้แต่​เซียว​เห​มิงเอง​ก็​ยัง​พ่ายแพ้​ย่อยยับ​ใน​การ​ต่อกร​กับ​กองทัพ​ของ​จีเฉิงอวี่​ครั้งแรก​

จีเฉิงเสวี่ย​เพิ่ง​ได้​รู้​แผนการ​ของ​ราชา​อวี่​เมื่อไม่นานมานี้​ ดูเหมือนว่า​ราชา​อวี่​จะเข้า​ร่วมกับ​กลุ่ม​อำนาจ​ชั่วร้าย​ต้องห้าม​ ซึ่งเป็น​ลัทธิ​ที่​ร้ายกาจ​มาก​ จน​ทำให้​ทั้ง​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​และ​สำนัก​ทรงอำนาจ​อื่นๆ​ ต้อง​ร่วมมือ​เพื่อ​จุดประสงค์​เพียง​หนึ่งเดียว​ นั่น​คือ​การ​โค่นล้ม​ลัทธิ​ชั่วร้าย​นั้น​ให้​หาย​ไป​จาก​โลก​ใบ​นี้​จน​สิ้นซาก​

ใน​ตอนนี้​ท้องพระโรง​ได้รับ​การ​คุ้มกัน​โดย​กลุ่ม​อำนาจ​ที่​ทรงพลัง​เรียบร้อย​แล้ว​ ความ​คุ้มครอง​นี้​ทำให้​สีหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​ผ่อนคลาย​ลง​

แต่ละ​กลุ่ม​อำนาจ​ส่งผู้ฝึก​ตน​มาปกป้อง​นครหลวง​อย่าง​น้อย​หนึ่ง​คน​ แม้แต่​คน​ที่​อ่อนแอ​ที่สุด​ยังมี​ปราณ​ระดับ​เจ็ด​ขั้น​นักพรต​ยุทธการ​เลย​ทีเดียว​ และ​มีหลาย​คน​ที่​เป็น​ถึงขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ ด้วย​จำนวน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่อยู่​ใน​นครหลวง​ตอนนี้​ จีเฉิงเสวี่ย​จึงรู้สึก​มั่นคง​เหมือน​ดัง​ภูเขา​สูงใหญ่​

“องค์​จักรพรรดิ​ ท่าน​ตรึกตรอง​เรื่อง​นั้น​ดีแล้ว​หรือ​…”

ชาย​ที่​ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ปูด​โปน​ไป​ด้วย​มัด​กล้าม​มอง​จีเฉิงเสวี่ย​ซึ่งกำลัง​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​ ดวงตา​ของ​คน​ผู้​นั้น​เป็นประกาย​ราวกับ​มีสายฟ้า​แล่น​พัวพัน​อยู่​ภายใน​

เจ้าของ​คำถาม​คือ​ผู้ฝึก​ตน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ คน​ผู้​นี้​มีพลัง​ปราณ​อยู่​ใน​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ ใบหน้า​ของ​เขา​ยาม​มอง​ไป​ที่​จีเฉิงเสวี่ย​ไม่ได้​มีแวว​เกรงกลัว​หรือ​ริษยา​แต่อย่างใด​ เรื่องราว​ทางโลก​นั้น​ไม่อาจ​ทำให้​คน​ของ​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​สนใจ​ได้​แม้แต่น้อย​

“ผู้อาวุโส​ซุน​ ไม่ใช่ว่า​ข้า​ไม่อยาก​ทำตาม​คำขอ​ของ​ท่าน​ แต่ว่า​… ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางนั้น​ไม่มีใคร​เข้าไป​ยุ่มย่าม​ด้วย​ได้​จริงๆ​” ความ​จนปัญญา​ฉาย​ชัด​อยู่​บน​ใบหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​

“องค์​จักรพรรดิ​ ความตาย​ของ​ผู้อาวุโส​เซี่ยอวี่​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​เกี่ยวข้อง​กับ​ร้าน​นั้น​ มีหลาย​คน​เห็น​ผู้อาวุโส​เซี่ยอวี่​ต่อสู้​กับ​ผู้ฝึก​ตน​จากร้าน​แห่ง​นั้น​” ผู้อาวุโส​ซุน​มีสีหน้า​เย็นชา​ ใน​ฐานะ​ผู้อาวุโส​คน​หนึ่ง​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ เขา​จะมองข้าม​ความจริง​ที่ว่า​ผู้ฝึก​ตน​สอง​คน​จาก​สำนัก​ตนเอง​เสียชีวิต​ลง​เพราะ​ร้านอาหาร​แห่ง​นี้​ไม่ได้​โดย​เด็ดขาด​

วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ส่งเขา​มาเพื่อ​ปกป้อง​จักรพรรดิ​แห่ง​อาณาจักร​วายุ​แผ่ว​ก็​จริง​ แต่​ตัว​เขา​เอง​ยัง​ได้รับ​อีก​ภารกิจ​หนึ่ง​ด้วย​ นั่น​คือ​การสืบสวน​หา​สาเหตุ​การตาย​ของ​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​

วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​จะถูก​หยาม​เหยียด​ไม่ได้​โดย​เด็ดขาด​ ใน​เมื่อ​ร้าน​แห่ง​นั้น​กล้า​สังหาร​ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ไป​ถึงสอง​คน​ โดย​ที่หนึ่ง​ใน​นั้น​ยังมี​ร่างกาย​อยู่​ใน​ขั้น​เซียน​เทพ​ด้วย​ ร้าน​แห่ง​นั้น​จึงควร​เตรียม​ตั้ง​รับ​การตอบโต้​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ให้​ดี​

จีเฉิงเสวี่ย​เอง​ก็​รู้เรื่อง​นี้​ดี​ เรื่อง​นี้​ทำให้​เขา​รู้สึก​ปวดเศียรเวียนเกล้า​เสีย​เหลือเกิน​ ใน​สายตา​ของ​เขา​ ร้าน​ของ​ปู้​ฟางเปรียบเสมือน​ระเบิดเวลา​ที่​พร้อม​จะระเบิด​ได้​ทุกเมื่อ​ ใครก็ตาม​ที่​ไป​ขวางทาง​เถ้าแก่​ปู้​ย่อม​จบ​ไม่สวย​ทุกราย​ไป​ เขา​ไม่ต้องการ​ให้​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​เข้าไป​ยุ่มย่าม​กับ​ร้าน​นั้น​อีก​

“องค์​จักรพรรดิ​ ข้า​ไม่สนใจ​หรอ​กว่า​ท่าน​มีความเห็น​อย่างไร​กับ​เรื่อง​นี้​ ใน​เมื่อ​เจ้าของร้าน​ที่ว่า​นั่น​เพิ่ง​กลับ​เข้า​เมือง​มา ข้า​ก็​จะไป​คาดคั้น​เอา​คำอธิบาย​จาก​เขา​เอง​ก็แล้วกัน​ ต่อให้​ร้าน​นั้น​มีอสูร​เวท​ใน​ตำนาน​ปกป้อง​อยู่​ ก็​จะมาหยาม​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ของ​ข้า​ตามใจชอบ​ไม่ได้​” ผู้อาวุโส​ซุน​พูด​เสียง​เย็น​

ดู​ก็​รู้​ว่า​ชาย​ผู้​นี้​ไม่ได้​สนใจ​สิ่งที่​จีเฉิงเสวี่ย​พูด​แม้แต่น้อย​ พอ​พูด​จบ​ ชาย​ร่าง​กำยำ​ก็​หันหลัง​แล้ว​เดิน​ออกจาก​ท้องพระโรง​ไป​ทันที​ จีเฉิงเสวี่ย​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ท้องพระโรง​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​และ​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ที่​ผู้อาวุโส​ซุน​ไม่ยอม​ฟังตน​

ใน​ท้องพระโรง​หลวง​ตอนนี้​มีผู้ฝึก​ตน​จาก​กลุ่ม​อำนาจ​อื่น​อยู่​ด้วย​เช่นกัน​ อย่างเช่น​ จ้าน​คง​จาก​สำนัก​เมฆาขาว​ ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​นักพรต​ยุทธการ​จาก​ดินแดน​แสน​ภูผา​ และ​ผู้ฝึก​ตน​คนอื่นๆ​

จีเฉิงเสวี่ย​รู้สึก​โกรธ​แต่​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​แม้แต่น้อย​ เนื่องจาก​เขา​ไม่มีอำนาจ​พอที่จะ​ไป​ห้าม​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​ได้​

….

รุ่งอรุณ​มาเยือน​

ปู้​ฟางตื่นขึ้น​ อาบน้ำอาบท่า​ จากนั้น​ก็​เดิน​เข้า​ห้องครัว​มา อวี่ฝู​ตื่น​แล้ว​และ​กำลัง​ฝึก​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ของ​ตนเอง​อยู่​ เมื่อ​นาง​เห็น​ปู้​ฟางเดิน​เข้ามา​ก็​ทักทาย​อีก​ฝ่าย​ด้วย​รอยยิ้ม​ทันที​

ปู้​ฟางพยักหน้า​ให้​นาง​ก่อน​จะเดิน​ไป​ที่​เตา​ของ​ตน​ ชายหนุ่ม​หยิบ​มีด​ทำครัว​หนักอึ้ง​ออกมา​แล้ว​เริ่ม​ฝึก​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ แม้เขา​จะอยู่​ใน​จุดสูงสุด​ของ​ทักษะ​นี้​แล้ว​ แต่​ก็​ยังคง​ฝึกซ้อม​เป็นประจำ​เหมือน​อย่างเคย​

พอ​ฝึก​การ​ใช้มีด​เสร็จ​ ชายหนุ่ม​ก็​เริ่ม​ฝึก​การแกะสลัก​ต่อ​ ทักษะ​การแกะสลัก​กลุ่ม​ดาว​กระบวย​ใหญ่​ของ​เขา​ยัง​ไม่นับว่า​ยอดเยี่ยม​ ด้วยเหตุนี้​ชายหนุ่ม​จึงตั้งใจ​กับ​การพัฒนา​ทักษะ​นี้​เป็นพิเศษ​

หลังจาก​ฝึก​ไป​สักพัก​ เขา​ก็​เริ่ม​เตรียม​ซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ตาม​กิจวัตร​

สิ่งที่​ได้​เรียนรู้​ใน​กองทัพ​ทำให้​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​ของ​ชายหนุ่ม​ดีขึ้น​พอสมควร​ เขา​รู้​ว่า​ตนเอง​ยัง​มีข้อบกพร่อง​อยู่​ไม่น้อย​ จึงทำให้​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ตั้งใจ​มากกว่า​ที่​เคย​

ไม่นาน​นัก​กลิ่น​ซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ก็​หอม​ฟุ้งไป​ทั้ง​ครัว​

เมื่อ​ปู้​ฟางบีบ​ส้มลง​บน​ซี่โครง​ อาหาร​ทั้ง​จาน​ก็​ส่งกลิ่นหอม​ชวน​หลงใหล​ออกมา​ กลิ่น​นั้น​สามารถ​ทำให้​ทุกคน​ที่อยู่​ใน​ร้าน​ท้องร้อง​โครก​ได้​

เขา​เปิด​ประตู​ร้าน​ออกมา​แล้ว​วาง​จาน​ซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ลง​ตรงหน้า​เจ้าดำ​

สอง​วัน​ที่ผ่านมา​เป็น​วันที่​เจ้าดำ​มีความสุข​ที่สุด​ ตอนที่​ปู้​ฟางไป​ทำ​ภารกิจ​ใน​กองทหาร​อยู่​ครึ่ง​เดือน​ ปาก​ของ​เจ้าดำ​นั้น​แทบ​ไม่ได้​ใช้งาน​ มัน​อยู่​โดย​ไม่มีซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ไม่ได้​จริงๆ​

ปู้​ฟางลูบ​ขน​นุ่ม​ของ​เจ้าดำ​เล็กน้อย​ก่อน​จะเดิน​กลับ​เข้า​ร้าน​ไป​ เขา​ไป​นั่ง​เหยียด​อยู่​บน​เก้าอี้​ รอ​ให้​เซียว​เสี่ยว​หลง​มาถึง วันนี้​ปู้​ฟางจะตรวจ​ความคืบหน้า​เรื่อง​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​ของ​ทั้ง​เซียว​เสี่ยว​หลง​และ​อวี่ฝู​ ตอนที่​เขา​เดิน​เข้าไป​ใน​ครัว​ ทั้งสอง​ก็​พร้อม​ที่จะ​แสดง​ฝีมือ​การ​ใช้มีด​และ​การแกะสลัก​ให้​ดู​แล้ว​

เซียว​เสี่ยว​หลง​รู้สึก​คับแค้น​แน่​นอก​ที่​ตนเอง​พ่ายแพ้​ใน​ครั้ง​ที่แล้ว​ คราวนี้​เขา​มีเพียง​เป้าหมาย​เดียว​เท่านั้น​ ซึ่งก็​คือ​การ​เอา​ชัยชนะ​มาครอบครอง​ให้ได้​

“บท​ทดสอบ​วันนี้​ไม่มีอะไร​มาก​ จงใช้ทักษะ​การ​ใช้มีด​และ​การแกะสลัก​ของ​เจ้าทำ​เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​”

เขา​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ มอง​ทั้งสอง​ด้วย​สีหน้า​สงบ​พลาง​ประกาศ​บท​ทดสอบ​ออกมา​

เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​รึ​

เซียว​เสี่ยว​หลง​และ​อวี่ฝู​เหม่อ​ไป​ชั่วครู่​ นั่น​มัน​อาหาร​ที่​ทำให้​ทักษะ​การ​ใช้มีด​อัน​แสน​ยอดเยี่ยม​ของ​เถ้าแก่​ปู้​เป็นที่รู้จัก​ไป​ทั่ว​นครหลวง​มิใช่หรือ​ อาหาร​จาน​นี้​ไม่เพียง​ทดสอบ​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ของ​พวกเขา​เท่านั้น​ แต่​ยัง​วัด​ทักษะ​การแกะสลัก​อีกด้วย​

ใคร​จะไป​คิด​ว่า​เถ้าแก่​ปู้​จะตั้ง​มาตรวัด​เอาไว้​สูงถึงเพียงนี้​

เซียว​เสี่ยว​หลง​และ​อวี่ฝู​หันมา​มองหน้า​กัน​ พอ​สายตา​ของ​ทั้งสอง​สบ​กัน​ พวกเขา​ก็​เห็น​แวว​นัก​สู้ใน​ดวงตา​ของ​อีก​ฝ่าย​ทันที​

พอ​ปู้​ฟางหยิบ​เต้าหู้​อุ่นๆ​ ออก​มาจาก​ตู้​ ทั้งสอง​ก็​เริ่ม​แข่งขัน​กัน​อย่าง​จริงจัง​

ครึ่ง​เดือน​ที่ผ่านมา​นี้​เซียว​เสี่ยว​หลง​ไม่ได้​แอบ​อู้​เลย​แม้แต่น้อย​ ปู้​ฟางเห็น​สิ่งนี้​ได้​จาก​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ว่า​ชายหนุ่ม​มุ่งมั่น​ตั้งใจ​มาก​เพียงใด​ เนื่องจาก​มัน​ไม่ได้​ดู​ยิ่งหย่อน​ไป​กว่า​อวี่ฝู​เลย​

ส่วน​อวี่ฝู​เอง​ก็​จัด​ว่า​น่าประทับใจ​ไม่น้อย​ มนุษย์​อสรพิษ​หญิง​ตน​นี้​มีความมุ่งมั่น​แรงกล้า​ นาง​ตั้งใจ​เป็นอย่างมาก​ที่จะ​ศึกษา​ศิลปะ​การ​ทำอาหาร​ นอกจากนี้​ยังมี​ความสามารถ​ใน​การ​ใช้มีด​ที่​ยอดเยี่ยม​อีกด้วย​

ทั้งสอง​ทำ​จิตใจ​ให้​สงบ​แล้ว​เริ่ม​เพ่ง​สมาธิทั้งหมด​ไป​ที่​การ​ทำ​เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​

นี่​เป็น​การแข่งขัน​ที่จะ​ทดสอบ​ความสามารถ​ใน​การ​ใช้มีด​และ​การแกะสลัก​ของ​พวกเขา​ไป​ในเวลาเดียวกัน​

แม้การ​ทดสอบ​นี้​จะยาก​ แต่​ไม่นาน​ทั้งสอง​ก็​ทำ​เสร็จ​ ถึงจะมีข้อผิดพลาด​อยู่​บ้าง​ แต่​ก็​ยัง​จัด​ว่า​ยอดเยี่ยม​ดีงาม​ เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​ของ​คน​ทั้งคู่​สวยงาม​ละเอียดลออ​มาก​ทีเดียว​

เต้าหู้​ที่​อ่อนนุ่ม​เป็นชั้นๆ​ เหมือน​ขนสัตว์​ลอย​อยู่​ใน​น้ำ​ ความงาม​ของ​มัน​เรียก​ได้​ว่า​สวย​จน​แทบ​จับใจ​

แต่​ผล​ที่​ออกมา​ก็​ทำให้​เซียว​เสี่ยว​หลง​ต้อง​เข่า​ทรุด​ด้วย​ความสิ้นหวัง​ เขา​แพ้​ให้​อวี่ฝู​ซึ่งมีทักษะ​การ​ใช้มีด​ที่​ละเอียดอ่อน​งดงาม​กว่า​เล็กน้อย​

บทลงโทษ​ก็​คือ​ ต่อไปนี้​ชายหนุ่ม​จะต้อง​ใช้มีด​แสน​หนักอึ้ง​ของ​ปู้​ฟางใน​การ​ฝึก​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​

พอ​อวี่ฝู​เห็น​สีหน้าบอกบุญไม่รับ​ของ​เซียว​เสี่ยว​หลง​ นาง​ก็​หัวเราะ​คิกคัก​ออกมา​

“วันนี้​พอแล้ว​! แข่ง​เสร็จ​แล้ว​ เจ้าทั้งสอง​คน​ไป​ฝึก​การ​ทำอาหาร​ต่อ​ได้​” ปู้​ฟางพูด​ด้วย​น้ำเสียง​สงบ​ จากนั้น​ก็​หันหลัง​กลับ​ตั้ง​ท่าจะ​ออกจาก​ครัว​ไป​

แต่​ก่อนที่​ชายหนุ่ม​จะเดิน​ออก​ไป​ อวี่ฝู​ก็​พูด​บางอย่าง​ขึ้น​มา

“เถ้าแก่​ปู้…​ ข้า​… ข้า​มีเรื่อง​เล็กน้อย​อยาก​จะขอร้อง​เจ้าค่ะ​” อวี่ฝู​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ลังเล​เล็กน้อย​

“หืม”​ ปู้​ฟางหัน​กลับมา​มอง​หญิงสาว​ด้วย​สายตา​งุนงง​

“เมื่อ​สอง​สามวันก่อน​ข้า​ได้รับ​จดหมาย​จาก​ท่าน​พ่อ​ ท่าน​อยาก​ให้​ข้า​กลับ​ไป​ที่​เผ่า​มนุษย์​อสรพิษ​เนื่องจาก​มีเรื่องใหญ่​เกิดขึ้น​…”

ปู้​ฟางเข้าใจ​ทันที​ ดูเหมือนว่า​นาง​จะอยาก​พัก​สักหน่อย​

แน่นอน​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่เป็นปัญหา​อยู่แล้ว​ ปู้​ฟางไม่ใช่พ่อครัว​ชั่วร้าย​ที่จะ​กักขัง​มนุษย์​อสรพิษ​หญิง​เอาไว้​ให้​เป็น​ทาส​ไป​ตลอด​เสียหน่อย​

“เช่นนั้น​ก็​รีบ​ไป​แล้​วจะ​ได้​รีบ​กลับมา​ แม้จะอยู่​ที่​เผ่า​ก็​อย่า​ลืม​ฝึกฝน​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​อยู่​เสมอ​เล่า​ เจ้ายัง​ต้อง​แข่ง​กับ​เสี่ยว​หลง​อยู่​” ปู้​ฟางพูด​อย่าง​จริงใจ​

ความ​กระวนกระวาย​พลัน​หาย​ไป​จาก​ใบหน้า​ขอ​งอ​วี่ฝู​ นาง​ผ่อน​ลมหายใจ​ยาว​ออกมา​ จากนั้น​ก็​พยักหน้า​หงึกหงัก​อย่าง​ตื่นเต้น​

แต่​ภายใต้​ท่าทาง​ตื่นเต้น​ดีใจ​ของ​อวี่ฝู​กลับ​แฝงไป​ด้วย​ความกังวล​ บิดา​ของ​นาง​อยาก​ให้​นาง​กลับ​ไป​ทั้งที่​รู้​ว่า​นาง​กำลัง​ฝึก​วิชา​กับ​เถ้าแก่​ปู้​อยู่​ แปล​ว่า​เรื่อง​นี้​ต้อง​เป็นเรื่อง​เร่งด่วน​และ​สำคัญ​จริงๆ​

แล้ว​เรื่อง​ใด​กันที่​ทำให้​บิดา​ของ​นาง​ถึงกับ​ต้อง​เรียก​นาง​กลับ​ไป​

ปู้​ฟางหันหลัง​เดิน​ออกจาก​ครัว​ไป​ ลูกค้า​เริ่ม​หลั่งไหล​เข้า​ร้าน​มา เนื่องจาก​ถึงเวลา​เปิดร้าน​แล้ว​

วันนี้​โอว​หยาง​เสี่ยว​อี้​ไม่ได้มา​ที่​ร้าน​อย่าง​ผิดวิสัย​ น่าจะเป็น​เพราะ​เมื่อวาน​นาง​กิน​กระทะ​เทพ​แห่ง​โชคชะตา​เข้าไป​ ตอนนี้​จึงกำลัง​พยายาม​บรรลุ​ขั้น​ปราณ​อยู่​

แต่​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่ได้​เป็น​อุปสรรค​อะไร​

ปู้​ฟางเอกเขนก​อยู่​บน​เก้าอี้​ด้วย​สีหน้า​สบายใจ​ นานๆ​ ที​จะลุกขึ้น​เพื่อ​ทำอาหาร​ที่​เตรียม​ยาก​ หลังจาก​ทำ​เสร็จ​เขา​ก็​จะกลับมา​นั่งเล่น​ที่​เก้าอี้​ทันที​

เนื่องจาก​อาหาร​ที่​ทำ​ยาก​ทั้งหลาย​มีราคาแพง​ จึงไม่ค่อย​มีคน​สั่งเท่าไร​

ชายหนุ่ม​รู้สึก​ดีใจ​ที่​ตนเอง​มีเวลาว่าง​ เขา​เลื้อย​ตัว​ไป​บน​เก้าอี้​ นึกถึง​วิธี​การพัฒนา​อาหาร​จาน​ต่างๆ​ ใน​ร้าน​ นอกจากนี้​ยัง​นึกถึง​การ​ทำให้​รสชาติ​ของ​แต่ละ​จาน​ดีขึ้น​ และ​วางแผน​เรื่อง​อื่นๆ​ ด้วย​

ดู​จาก​จำนวน​คน​ที่​เข้ามา​ใน​ร้าน​ ดูเหมือนว่า​วันนี้​เขา​จะขายดี​พอตัว​

ทันใดนั้น​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ก็​เดิน​มาถึงหน้า​ร้าน​ของ​เขา​

ดวงตา​ที่​ปิด​อยู่​ครึ่งหนึ่ง​ของ​ปู้​ฟางเปิดกว้าง​ทันที​แม้เจ้าตัว​จะยังคง​เลื้อย​อยู่​บน​เก้าอี้​ก็ตาม​ ดวงตา​ของ​เขา​มอง​ไป​ที่​กลุ่มคน​เหล่านั้น​ รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

นั่น​เพราะ​กลุ่มคน​ตรง​หน้าเป็น​องครักษ์​ใน​ชุด​เกราะ​ คน​เหล่านี้​เคารพ​ปู้​ฟางพอตัว​เลย​ทีเดียว​ เพราะ​ชื่อเสียง​ของ​ร้าน​เขา​เป็นที่รู้จัก​กัน​ดี​ใน​นครหลวง​

แต่​เมื่อ​มองดู​อีกครั้ง​ ปู้​ฟางก็​เห็น​ชาย​ร่าง​กำยำ​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหน้า​ ชาย​ผู้​นั้น​มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​

หือ​ ปู้​ฟางเลิกคิ้ว​ขึ้น​เล็กน้อย​พลาง​จ้อง​กลับ​ไป​เช่นกัน​

เมื่อ​ทั้งสอง​ประสาน​สายตา​กัน​ ก็​ราวกับ​กำลัง​เกิด​การต่อสู้​ปลุกปล้ำ​ขึ้น​กลางอากาศ​ แม้คน​หนึ่ง​จะยืน​ตรง​อีก​คน​นอน​อืด​อยู่​บน​เก้าอี้​ แต่​ทั้งสอง​ก็​ดูเหมือน​จะพร้อม​เข้า​ห้ำหั่น​กัน​ทันที​

หลังจาก​มอง​ชาย​ร่าง​กำยำ​ด้วย​มัด​กล้าม​อยู่​นานสองนาน​ ปู้​ฟางก็​กลอกตา​บน​แล้ว​ตัดสินใจ​เลิก​สนใจ​อีก​ฝ่าย​

ตอนนั้น​เอง​คน​ผู้​นั้น​ก็​เปิดปาก​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ต่อให้​บรรยาย​ว่า​หยาบคาย​ไร้​มารยาท​ก็​ยัง​ฟังดูดี​เกินไป​

“เจ้าน่ะ​หรือ​เจ้าของ​ร้านอาหาร​ที่​สังหาร​ผู้อาวุโส​สอง​คน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ ใน​เมื่อ​เจ้ากล้า​ฆ่าคน​จาก​สำนัก​ข้า​ จะไม่คิด​ชดใช้​อะไร​หน่อย​รึ​”

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

Status: Ongoing
ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่ เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท