ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 18 ระหว่างดีกับเลว

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

“อืม” สีหน้าท่าทางขี้เล่นและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหลินชิงเวยค่อยๆ เลือนหายไป ทว่ายังคงมีรอยยิ้มจางๆ บริเวณหางตา นางพรูลมหายใจโล่งอกออกมา

หากมิใช่นางใช้ไหวพริบในการหันกายกลับมาจุดตะเกียงในห้อง คิดว่าเขาคงไม่ยอมจากไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ดูแล้วเขาเองก็มิปรารถนาจะให้คนจดจำได้เช่นกัน

เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเช่นนี้เถิด หลินชิงเวยเองมิได้คิดจะตามราวีไม่เลิกรา ครั้งก่อนนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างสุดวิสัยจริงๆ ไม่ได้หมายความว่านางคลั่งไคล้ในตัวบุรุษมากมายเช่นนั้น

แต่นางไม่กระจ่างแจ้งอยู่บ้าง เพราะคนที่ควรตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่าควรจะเป็นนางมิใช่หรือ ชายหนุ่มคนนั้นถือดีอย่างไรจึงมีท่าทีโมโหโกรธเคืองยิ่งกว่านาง

เพื่อป้องกันมิให้มีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือนในยามค่ำคืน หลินชิงเวยจึงจุดตะเกียงทิ้งเอาไว้ในขณะที่พักผ่อนนอนหลับเสมอ เรือนที่นางแยกมาอยู่เพียงลำพังนี้มักจะมีงูและแมลงออกมาปรากฏกายเสมอ มีกลิ่นเครื่องหอมจางๆ ลอยอยู่ในมวลอากาศ นั่นเป็นสิ่งที่งูชอบที่สุด แต่พวกมันไม่กล้าเข้ามาในเรือน ด้วยรอบๆ ห้องในรัศมีสามฉื่อ[1] หลินชิงเวยได้สาดยาผงป้องกันงูและแมลงไว้แล้ว ทำให้งูและแมลงทั้งหมดต้องล่าถอยและออกห่าง ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงอยู่ในบริเวณลานเรือนด้านนอกเสมือนผู้อารักขา

เนิ่นนานเข้าหลินชิงเวยจึงให้อาหารและป้อนเครื่องหอมของหอมแก่พวกมัน กลับกลายเป็นว่าเจ้าสัตว์เหล่านั้นเคยชินที่จะถูกเลี้ยงดูเหมือนสัตว์เลี้ยงในบ้าน

เจ้านายในตำหนักเย็นท่านนั้นใจกว้างต่อหลินชิงเวยยิ่งนัก ถึงกับอนุญาตให้นางไปนำยาสมุนไพรต่างๆ มาใช้ได้ ชาติที่แล้วนางถือกำเนิดในครอบครัวชนชั้นสูงที่มีอาชีพเป็นแพทย์ แม้จะมีชื่อว่าเป็นแพทย์แผนปัจจุบันที่ไม่ได้มีชื่อเสียงหวือหวาโด่งดังนัก แต่นางค่อนข้างชมชอบวิชาแพทย์แผนจีนมากกว่า

วิชาแพทย์แผนจีนเป็นความรู้ทางแพทย์ที่ลึกซึ้งและกว้างขวาง เมื่อก่อนนางไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงความสามารถออกมา มาบัดนี้จึงได้มีโอกาสที่จะนำวิชาความรู้เหล่านั้นมาใช้ได้อย่างเต็มที่

การดำเนินชีวิตในหลายวันต่อมาผ่านไปอย่างเงียบสงบ สตรีหลายคนเคยพยายามที่จะเข้ามาในเรือนหลังนี้ หลังจากถูกงูกัดก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้ามาที่นี่อีกเลย

แม้ซินหรูจะรอดชีวิต ทว่าร่างกายกลับอ่อนแออย่างมาก นางไม่เพียงมีบาดแผลภายนอกเท่านั้นอวัยวะภายในของนางได้รับความเสียหายไม่มากก็น้อย ต้องใช้เวลาฟื้นฟูรักษาในระยะยาว

หลินชิงเวยพยายามช่วยนางทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายทุกวัน แม้นางจะอยู่ในช่วงร่างกายอ่อนแอเนื่องจากอาการเจ็บป่วย ทว่าเมื่ออยู่กับหลินชิงเวยแล้วนางกลับดูมีความสุขมากขึ้น เมื่อได้รู้ว่าต่อไปนางมิต้องกลับไปอยู่ที่เดิมอีกแล้ว เริ่มแรกนางยังคงคลางแคลงใจอยู่บ้าง ในเมื่อการรับมือสตรีเหล่านั้นมิใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อได้เห็นสตรีเหล่านั้นต้องล่าถอยกลับไปอย่างไม่เป็นกระบวนท่าครั้งแล้วครั้งเล่า นางจึงค่อยๆ รู้สึกวางใจและไม่ต้องมีความวิตกกังวลในจิตใจอีก

หลินชิงเวยกำลังบีบนวดบริเวณแผ่นหลังของซินหรูเบาๆ แล้วกดไปที่เอวของนางพร้อมกับถามขึ้นว่า “ตรงนี่ยังรู้สึกเจ็บอีกหรือไม่?”

“ไม่ค่อยเจ็บแล้วเจ้าค่ะ” ซินหรูตอบ

ซินหรูเดินไปเดินมาในลานเรือนอีกสองก้าว หลินชิงเวยคลำโครงสร้างกระดูกทั่วร่างของนางอีกครั้ง พบว่าไม่มีกระดูกที่เสียหาย จงกล่าวขึ้นว่า “ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บล้วนเป็นกล้ามเนื้อและผิวหนัง บาดแผลเหล่านี้รักษาระยะหนึ่งก็จะดีขึ้นเหมือนเดิม”

“พี่สาว เหตุใดท่านจึงรู้อะไรมากมายเช่นนี้เจ้าคะ?” ซินหรูถาม

หลินชิงเวยกล่าว “เรียนรู้มากย่อมต้องเข้าใจและรู้อะไรได้มากสิ”

ซินหรูมองเงาร่างด้านหลังของนางแล้วพลันคลี่ยิ้มออกมา ใบหน้าผอมตอบนั้นปรากฏให้เห็นลักยิ้มสองข้างที่ดูอ่อนหวาน หากมิใช่เพราะนางผอมแห้งเช่นนี้ นางจะต้องน่ารักอย่างมาก ซินหรูเอ่ยขึ้นว่า “พี่สาว ข้าคิดว่าท่านเป็นคนดีคนหนึ่งเจ้าค่ะ”

หลินชิงเวยกำลังนั่งยองๆ อยู่ในเรือนเพื่อถอนหญ้ารอบๆ แปลงยาสมุนไพรที่นางเพิ่งจะปลูกลงไปไม่นาน ล้วนเป็นสมุนไพรที่นางไปขอมาจากหมัวมัวอาวุโสทั้งสิ้น นางดูแลเอาใจใส่อย่างดี เมื่อได้ยินเช่นนี้นางจึงมีสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม คิ้วและดวงตานั้นงามซึ้งประดุจภาพวาด ความเป็นผู้ใหญ่ที่ปรากฏบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ราวกับคั้นน้ำออกมาได้ของนางดูกระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัด นางเลิกคิ้วและถามว่า “จริงหรือ มีคนคิดว่าข้าดี ย่อมต้องมีคนคิดว่าข้าร้ายกาจอย่างที่สุดเช่นกัน บนโลกใบนี้ไม่มีคนที่ดีทุกอย่าง และเลวทุกอย่าง”

พูดแล้วขณะที่นางกำลังจะลุกขึ้นก็ได้ยินเสียงที่ลอยมาจากกลางอากาศด้านบนศีรษะดัง “พึ่บ พึ่บ พึ่บ” นางจึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง นางค่อยๆ หรี่ตาลง เห็นนกพิราบขาวฝูงหนึ่งกำลังบินว่อนฉวัดเฉวียนอยู่บนท้องฟ้า นั่นเป็นเสียงกระพือปีกของพวกมัน

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท