ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 221 ผู้ใดเป็นผู้จัดแจง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ดังนั้นนางกำนัลทั้งสองจึงจุดโคมไฟใต้ระเบียงทางเดินให้สว่างขึ้นทีละดวงๆ อีกครั้ง แน่นอนว่าพวกนางหาได้รู้ว่าเซ่อเจิ้งอ๋องกลับมาตั้งนานแล้ว

เสียงสนทนาด้านนอกประตูค่อยๆ ห่างไกลออกไป ในที่สุดก็ถูกเสียงฝนด้านนอกเข้ามาแทนที่ ลมหนาวอันเย็นเยียบของฤดูสารทเข้าครอบคลุม หลังจากฝนซาลงแล้วเสียงน้ำฝนที่หยดลงในบ่อน้ำจึงดังกังวานขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบ

หลินชิงเวยไม่รู้ว่าตนเองนอนหลับลึกไปตั้งแต่เมื่อใด นางรู้สึกเห็นเพียงด้านนอกขอบหน้าต่างเป็นสีขาว

นางนอนหลับไปนานยิ่ง เปลือกตาของนางหนักอึ้ง กระทั่งไม่อาจลืมขึ้นได้ ความรู้สึกสะลึมสะลือ

เมื่อหลินชิงเวยลืมตาขึ้นในที่สุดยังคิดว่าฟ้ายังไม่สาง ด้วยนางเห็นท้องฟ้านอกหน้าต่างเป็นสีดำสนิท

เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากนั้น นางจึงลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วพลันอยากร้องตะโกนออกมาทันที

บนร่างของหลินชิงเวยมีเพียงผ้าห่มบางๆ ผืนหนึ่ง เมื่อลุกขึ้นนั่ง นางรู้สึกว่าเอวของตนเมื่อยล้าแทบหัก

หลินชิงเวยช้อนตาขึ้นมองอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ นี่ไม่ใช่ห้องของเซียวเยี่ยนในตำหนักอวี้หลิง นี่เป็นห้องของนางและนางกำลังนอนอยู่บนเตียงของตนเอง

หลินชิงเวยประคองหน้าผากของตนนั่งอยู่พักหนึ่ง กระทั่งรับรู้ได้ว่าลมเย็นสัมผัสร่างของตน นางจึงได้สติกลับมา ถูกต้องแล้ว นี่เป็นยามไหนกันแน่?

หลินชิงเวยคลานลงจากเตียง เท้าทั้งคู่ยืนให้มั่นคงอย่างยากลำบาก

กระทั่งนางเดินไปถึงห้องอาบน้ำจึงนึกขึ้นได้ว่า ที่นี่ไม่เหมือนตำหนักอวี้หลิงที่มีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติให้แช่กายได้ หากต้องการอาบน้ำยังต้องเรียกให้คนไปเตรียมน้ำล่วงหน้า

ทว่าเมื่อหลินชิงเวยเปิดเปลือกตาขึ้นมองพบว่าในถังอาบน้ำมีน้ำสะอาดอยู่เต็มถัง อีกทั้งยังมีไอร้อนลอยตัวขึ้นมา บนผิวน้ำยังมีกลีบดอกไม้นานาชนิดที่ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี นางยื่นมือไปวัดอุณหภูมิของน้ำ น้ำกำลังร้อนพอดี นางจึงไม่คิดอันใดมากพลิกกายลงไปแช่ในน้ำแล้วค่อยว่ากัน

ผู้ใดกันเข้าอกเข้าใจนางถึงเพียงนี้ ตระเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้นางอย่างพร้อมสรรพ

สามารถเข้านอกออกในห้องของนางได้ เตรียมกิจวัตรประจำวันของนางได้ คนแรกที่หลินชิงเวยคิดถึงย่อมต้องเป็นซินหรู แต่ซินหรูรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?

ยังมีอีก นางกลับมาได้อย่างไร ตนเองไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย น่าจะเป็นเซียวเยี่ยนอุ้มนางกลับมาในขณะที่นางกำลังหลับใหลกระมัง ย่อมไม่เป็นการดีแน่หากฟ้าสางแล้วนางยังอยู่ในตำหนักอวี้หลิง

หลินชิงเวยแช่อยู่ในถังอาบน้ำ เกียจคร้านกระทั่งขยับเคลื่อนไหว น้ำร้อนห่อหุ้มปกคลุมร่างกายของนาง ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าของร่างกายได้ กระทั่งน้ำเกือบจะเย็นแล้วนางจึงหักใจลุกขึ้น

หลินชิงเวยผลักประตูออก กลิ่นอายเย็นสบายชนิดหนึ่งพวยพุ่งเข้ามา ยามนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นเวลาโพล้เพล้หลังอาทิตย์ตกดิน มิใช่ฟ้าสางก่อนดวงตะวันจะลอยตัวขึ้นมา

นางถึงกับนอนไปหนึ่งวันเต็มๆ เชียวหรือ

อาจเป็นเพราะเมื่อวานฝนตกใหญ่ในยามกลางดึก เดิมทีควรจะเป็นฤดูสารทที่อากาศเย็นสบาย ทว่ากลับกลายเป็นหนาวเหน็บขึ้นมา ทัศนียภาพเบื้องหน้าหลินชิงเวยไม่ว่าจะเป็นพื้นในลานเรือนหรือในสวนสมุนไพรล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความชุ่มชื้น

ฤดูสารทไม่อาจเทียบฤดูคิมหันต์ หลังจากฝนตกผ่านไปไม่อาจกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วได้

หลินชิงเวยนั่งอยู่บนระเบียงทางเดิน มองท้องฟ้ายามโพล้เพล้เนิ่นนาน นางสวมอาภรณ์เนื้อบางเบา รอบกายรับรู้ได้ถึงความหนาวเย็นของฤดูสารท กระทั่งท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง นางพบว่าจิตใจของนางสงบนิ่งดุจวารี ไม่เกิดคลื่นกระทบอันใด

แต่จิตใจของนางในยามนี้ไม่ได้ว่างเปล่าวูบโหวงอีกแล้ว มันกลับเป็นสุขและสงบ ด้วยก่อนหน้านี้ตนเองล้วนอยู่ตัวคนเดียว ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่ในใจของนางมีคนอีกคนหนึ่ง และหลังจากผ่านเรื่องราวเมื่อคืนนี้ บุรุษผู้นั้นได้ฝังรากลึกลงในใจของนางเสียแล้ว

ต่อมามีเงาร่างสายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจากด้านนอกเรือน หลินชิงเวยเห็นแล้วจำได้ทันที นั่นไม่ใช่ซินหรูหรอกหรือ ซินหรูเข้ามาแล้วเงยหน้าเห็นนาง “พี่สาว ท่านตื่นตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะ? กินข้าวแล้วหรือไม่?”

หลินชิงเวยครุ่นคิด ไม่รู้ว่าซินหรูรู้อะไรมากน้อยเพียงใด สำหรับนางที่ยังอยู่ในวัยเด็กสาวการรู้มากเกินไปย่อมไม่ใช่เรื่องดี

หลินชิงเวยถาม “เจ้าไปไหนมาเล่า?”

ซินหรู “ข้าไปตำหนักซวี่หยางเจ้าค่ะ วันนี้ถูกเสี่ยวฉีเรียกไปตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อข้าออกไปเห็นพี่สาวนอนหลับยังไม่ตื่นจึงไม่ได้รบกวนพี่สาวเจ้าค่ะ ข้าหงุดหงิดจะแย่แล้ว วันนี้ไปตำหนักซวี่หยางก็ไม่มีเรื่องอันใดให้ทำ แต่เสี่ยวฉีเหมือนคนคลุ้มคลั่งคอยแต่จะหาเรื่องเล็กเรื่องน้อยให้ข้าทำอยู่เรื่อยเจ้าค่ะ ดังนั้นจึงทำให้เสียเวลาจนฟ้ามืดถึงกลับมา เขาคงจงใจกระมัง จงใจที่จะไม่ให้ข้ามีเวลาว่างกลับมาอยู่กับพี่สาวเจ้าค่ะ”

…เขาจงใจนั่นแหละ

หลินชิงเวยรู้อยู่แก่ใจ น่าจะเป็นคำสั่งของเซียวเยี่ยนที่ให้เสี่ยวฉีทำเช่นนั้น หากซินหรูรั้งอยู่ในเรือนย่อมต้องพบว่านางผิดปกติเป็นแน่

หลินชิงเวยคิดแล้วหัวใจอ่อนยวบยาบไปหมด เช่นนั้นผู้ใดเป็นคนจัดเตรียมน้ำร้อนสำหรับอาบ? คนในตำหนักฉางเหยี่ยนไม่รู้ว่านางกลับมาเมื่อใดและจะตื่นขึ้นเมื่อใด เป็นเซียวเยี่ยนแอบเข้ามาตระเตรียมไว้หรือ เขาคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่านางจะตื่นขึ้นมาในเวลานี้?

ซินหรูก้าวเข้ามา “พี่สาว เมื่อคืนฝนตกหนักเจ้าค่ะ อากาศเย็นลงแล้ว ท่านไฉนจึงสวมเสื้อผ้าน้อยเช่นนี้เล่า ระวังต้องลมเย็นนะเจ้าคะ”

หลินชิงเวยทนซินหรูที่บ่นกระปอดกระแปดไม่ได้จึงลุกขึ้นอย่างเกียจคร้านแล้วเดินเข้าไปในเรือนสวมอาภรณ์เพิ่มอีกตัวหนึ่ง ซินหรูเห็นนางหยิบเสื้อมาสวมอีกตัวหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจนัก จังหวะที่นางสะบัดผมถูกสายตาอันแหลมคมของซินหรูสังเกตเห็นร่องรอยบนลำคอของนาง ซินหรูจึงอดที่จะถามขึ้นอย่างแปลกใจและเปรียบเทียบกับลำคอของตนว่า “พี่สาว คอของท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ ไฉนจึงแดงเล่าเจ้าคะ”

หลินชิงเวยหน้าตาย “….อาจเป็นเพราะกลางคืนไม่ทันระวัง ไปชนอะไรถูกกระมัง”

ซินหรูกระทืบเท้า “ไยท่านจึงไม่ระวังเช่นนี้ ข้าจะไปหยิบโอสถให้พี่สาวเจ้าค่ะ”

หลินชิงเวย “ไม่ต้องแล้ว นวดคลึงก็หายแล้ว เจ้ากินข้าวมาแล้วหรือไม่ พวกเราสั่งตั้งโต๊ะอาหารค่ำมากินด้วยกันดีหรือไม่? ข้าหิวแล้ว”

‘ข้าหิวแล้ว’ สามคำนี้เบี่ยงเบนความสนใจของซินหรูสำเร็จ “หา ฝ่าบาทรั้งข้าให้กินข้าวที่นั่น ข้าจะไปสั่งให้พวกเขาตั้งโต๊ะเจ้าค่ะ”

หลินชิงเวยมองซินหรูที่วิ่งออกไปราวกับสายลม ความอบอุ่นชนิดหนึ่งพลันเอ่อล้นขึ้นกลางใจ

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท