ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 235 แย่แล้วมีคนสะกดรอยตามมา

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

นาง​พลัน​กระจ่างแจ้ง​ เซียว​จิ่น​มีความมั่นใจ​ถึงเพียงนี้​ ยาม​นี้​เขา​ทำตัว​สบาย​เช่นนั้น​แสดงว่า​เขา​ยัง​ได้​เตรียม​คน​คุ้มกัน​ใน​ที่ลับ​ เขา​ไม่ได้​พา​คน​มาเพียงแค่​ท่อนไม้​สี่ท่อน​ด้านนอก​เท่านั้น​

เมื่อ​ละคร​ชูโรง​กำลังจะ​เริ่ม​แสดง​ หลิน​ชิงเวย​เห็น​คณะดนตรี​กำลัง​เตรียมตัว​บรรเลง​แล้ว​ นาง​พลัน​ลุกขึ้น​กล่าวว่า​ “คุณชาย​ ข้า​ขอตัว​สักครู่​”

เซียว​จิ่น​ “เป็น​อะไร​ไป​? เจิ้น​จะไปเป็นเพื่อน​เจ้า”

หลิน​ชิงเวย​กะพริบตา​ปริบๆ​ ใส่เขา​ “คนเรา​มีเรื่อง​เร่งด่วน​สามเรื่อง​ ท่าน​แจ่มแจ้งดี​”

เซียว​จิ่น​เข้าใจ​ความหมาย​จึงหน้าแดง​ทันที​ “เช่นนั้น​เจ้ารีบ​ไป​รีบ​มา”

หลิน​ชิงเวย​เดิน​ออก​ไป​วน​อยู่​รอบ​ๆ ชั้นสอง​ นอกจาก​ดวงตา​คู่​นั้น​ของ​เซียว​จิ่น​แล้ว​ นาง​ยัง​รับรู้​ได้​ว่า​ยังมี​สายตา​อีก​คู่​หนึ่ง​มองตาม​ตน​อยู่​

เมื่อ​นาง​เดินผ่าน​โต๊ะ​ลูกค้า​คน​หนึ่ง​ เห็น​บุรุษ​ผมเผ้า​หน้าตา​มันเยิ้ม​ผู้​หนึ่ง​กำลัง​โอบ​ซ้าย​กอด​ขวา​สตรี​เอาไว้​ ดูท่า​แล้ว​น่าจะ​พา​อนุ​ใน​เรือน​มาดู​ละคร​ หลิน​ชิงเวย​บังเกิด​ความคิด​บางอย่าง​ขึ้น​ จึงทำที​เหมือน​ไม่เจตนา​เดิน​สะดุด​ขา​ที่​บุรุษ​ผู้​นั้น​ยื่น​ออกมา​ นาง​ส่งเสียงร้อง​ด้วย​ความตกใจ​เกือบจะ​ล้ม​ลง​ไป​

หลิน​ชิงเวย​เอา​มือ​กุม​อก​หอบ​หายใจ​สอง​ครั้ง​

บุรุษ​ผู้​นั้น​ช้อนตา​ขึ้น​มามองว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ตาม​ความคาดหมาย​ เดิมที​ใบหน้า​นั้น​เต็มไปด้วย​โทสะ​กำลัง​คิด​จะด่าทอ​ผู้คน​ แต่​เมื่อ​เปิด​เปลือกตา​ขึ้น​เห็น​รูปโฉม​ของ​หลิน​ชิงเวย​พลัน​มีสีหน้าตื่น​ตะลึง​พร้อมกับ​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​อึก​หนึ่ง​

หลิน​ชิงเวย​รีบ​กล่าว​ขอโทษ​ขอ​โพย​อย่าง​รู้สึก​ผิด​ “ขออภัย​นาย​ท่าน​ท่าน​นี้​ ข้า​เดิน​ไม่ทัน​ระวัง​…”

“ไม่เป็นไร​ ไม่เป็นไร​” บุรุษ​ผู้​นั้น​พูด​แล้ว​ยื่นมือ​ออกมา​หมาย​จะประคอง​หลิน​ชิงเวย​ ดวงตา​เป็นประกาย​วาบ​ “แม่นาง​น้อย​ เจ้าหกล้ม​หรือไม่​?”

หลิน​ชิงเวย​ก้าว​ถอยหลัง​ออกมา​สอง​ก้าว​ด้วย​สีหน้า​ประหม่า​ ทำให้​บุรุษ​ผู้​นั้น​มองเห็น​แล้ว​ยิ่ง​บังเกิด​ความกล้า​เดิน​เข้ามา​อีก​สอง​ก้าว​ “รีบ​มาให้​ข้า​ดู​หน่อย​ เรือนร่าง​อรชรอ้อนแอ้น​บอบบาง​เยี่ยง​นี้​ล้ม​ลง​ที่ไหน​หรือไม่​?”

หลิน​ชิงเวย​ “ขอ​นาย​ท่าน​ให้เกียรติ​ด้วย​”

ยิ่ง​หลิน​ชิงเวย​มีท่าที​น่าเวทนา​เท่าใด​ อีก​ฝ่าย​ยิ่ง​ใจกล้า​เท่านั้น​ จึงยื่น​ไม้ยื่นมือ​ออกมา​จะแตะต้อง​สัมผัส​หลิน​ชิงเวย​ ทว่า​เขา​ยัง​ไม่ทัน​ได้​แตะต้อง​หลิน​ชิงเวย​พลัน​มีเงาร่าง​สีดำ​ร่าง​หนึ่ง​พาด​ผ่าน​เข้ามา​จับมือ​ของ​บุรุษ​กักขฬะ​ผู้​นั้น​ไว้​ทันใด​ ดูท่า​แล้ว​ไม่ได้​ใช้เรี่ยวแรง​อัน​ใด​ แต่​บุรุษ​ผู้​นั้น​ส่งเสียงร้อง​ด้วย​ความเจ็บปวด​

คน​ชุด​ดำ​ผู้​นี้​หลิน​ชิงเวย​ไม่เคย​พบเห็น​มาก่อน​ แต่​หลิน​ชิงเวย​กลับ​เชื่อ​ว่า​ผู้​ที่​สะกดรอย​ตาม​นาง​มาก็​คือ​หนุ่มน้อย​เย็นชา​คน​นี้​

ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​จับมือ​ของ​บุรุษ​กักขฬะ​ไว้​ไม่ปล่อย​ ทว่า​กลับ​พูดเสียงต่ำ​กับ​หลิน​ชิงเวย​ “แม่นาง​ไป​เถิด​”

หลิน​ชิงเวย​กลอก​ดวงตา​คู่​งามไปมา​แล้ว​ยิ้ม​ร้ายกาจ​พร้อมกับ​หัน​กาย​สะบัด​กระโปรง​ “ไป​ห้อง​เวจ​สักครั้ง​ก็​ยัง​ต้อง​มีคน​ตามมา​ ไม่เห็น​ว่า​จะเป็น​สิ่งของดี​อะไร​”

ชายหนุ่ม​ตื่น​ตะลึง​และ​กระอักกระอ่วน​ใจยิ่งยวด​ เขา​รู้​ว่า​หลิน​ชิงเวย​พบเห็น​เขา​แล้ว​ หาก​เขา​ยัง​ติดตาม​ไป​อีก​เช่นนั้น​ก็​หน้าหนา​เกินไป​

เพียงแต่​ที่​เขา​ทำ​เช่นนี้​ก็​เพื่อ​ความปลอดภัย​ของ​หลิน​ชิงเวย​

บุรุษ​กักขฬะ​ผู้​นั้น​เห็น​หลิน​ชิงเวย​กำลังจะ​จากไป​ เขา​ส่งเสียงร้อง​ด้วย​ความละโมบ​อีก​ทั้ง​ยัง​ถูก​ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​ทำให้​เจ็บปวด​ จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​เกิด​โทสะ​ เขา​ด่าทอ​เสียงดัง​ออกมา​หลาย​ประโยค​ ชาย​ชุด​ดำ​ผละ​ออกมา​ บุรุษ​กักขฬะ​ผู้​นั้น​คิด​ว่า​ถูก​ปล่อยตัว​แล้วจึง​เรียก​บ่าว​ชาย​มาต่อย​ตี​กับ​เขา​

เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​เดิน​เลี้ยว​เข้าไป​ใน​มุมหนึ่ง​จึงลอบ​หัวเราะ​ที่​เห็น​บ่าว​ชาย​หลาย​คน​พัวพัน​อยู่​กับ​ชาย​ชุด​ดำ​ บ่าว​ชาย​เหล่านั้น​มิใช่คู่ต่อสู้​ของ​เขา​ แต่​เพื่อ​ไม่ให้​เรื่องราว​บานปลาย​ใหญ่โต​ เขา​จึงไม่อาจ​ไม้ใช้วิธีการ​ละมุนละม่อม​ใน​การ​จัดการ​รับมือ​ จึงทำให้​เสียเวลา​ไป​ไม่น้อย​

รอ​เมื่อ​เขา​จัดการ​บ่าว​ชาย​เหล่านั้น​แล้วจึง​พบ​ว่า​หลิน​ชิงเวย​หลุด​รอดสายตา​ของ​เขา​ไป​เสียแล้ว​

หลิน​ชิงเวย​ไม่รู้​ว่า​ผู้​ที่​คอย​คุ้มกัน​อยู่​ใน​ที่ลับ​เป็น​คน​ของ​เซียว​จิ่น​หรือ​เซียว​เยี่ยน​ แต่​ใน​เมื่อ​เซียว​จิ่น​ไม่ต้องการ​ให้​เซียว​เยี่ยน​รู้เรื่อง​ที่​เขา​ออกจาก​วัง​ เช่นนั้น​มีความเป็นไปได้​เกิน​ครึ่ง​ว่า​คน​เหล่านั้น​จะเป็น​คน​ของ​เซียว​เยี่ยน​ หรือ​กระทั่ง​เซียว​จิ่น​ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​มีคน​เหล่านี้​อยู่​

โรงละคร​แห่ง​นี้​กว้างใหญ่​มาก​ ละคร​บน​เวที​เริ่ม​การแสดง​แล้ว​ หลิน​ชิงเวย​เดิน​วน​ไป​รอบ​ๆ โรงละคร​ ในที่สุด​ก็​มองหา​ซินแส​ท่าน​หนึ่ง​พบ​ ซินแส​ท่าน​นั้น​มีพู่กัน​และ​หมึก​ นาง​จึงขอยืม​พู่กัน​และ​หมึก​ของ​เขา​มาเขียนจดหมาย​แล้ว​วิ่ง​ไป​ที่​หน้าต่าง​ใต้​หลังคา​ของ​ชั้นสอง​ เรียก​พิราบ​สื่อสาร​มาใส่จดหมาย​ฉบับ​นั้น​ลง​ไป​กระบอก​จดหมาย​ ลูบ​หัว​ของ​มัน​และ​กล่าวว่า​ “เจ้ารู้​ว่า​จะต้อง​ส่งไป​ที่ใด​ใช่หรือไม่​?”

พิราบ​สื่อสาร​กางปีก​ขึ้น​บิน​ หลิน​ชิงเวย​ไม่กังวลใจ​แม้แต่น้อย​ ด้วย​พิราบ​สื่อสาร​ตัว​นั้น​เป็น​พิราบ​สื่อสาร​ที่​รับรู้​ความรู้สึก​ระหว่าง​นาง​และ​เซียว​เยี่ยน​ได้​ ใช้เวลา​ไม่นาน​เซียว​เยี่ยน​ย่อม​รู้​ว่า​เซียว​จิ่น​อยู่​ที่ไหน​

ที่จริง​แล้ว​นาง​ไม่ใช่ปากเปราะ​ช่างฟ้อง​ นาง​เพียงแต่​ป้องกัน​เอาไว้​ก่อน​

เมื่อ​เสร็จ​ภารกิจ​หลิน​ชิงเวย​สงบสติอารมณ์​แล้ว​เดิน​กลับ​ไป​ ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​เมื่อ​นาง​กลับ​ไป​ถึง เซียว​จิ่น​มีท่าที​ร้อนใจ​กำลังจะ​ออก​ไป​ตามหา​นาง​ เห็น​นาง​กลับมา​แล้วจึง​อด​ที่จะ​พรู​ลมหายใจ​ออกมา​ไม่ได้​ เขา​ลาก​นาง​นั่งลง​ “เหตุใด​ไป​นาน​เช่นนั้น​เล่า​? เป็น​อย่างไร​ เมื่อ​สักครู่​ไม่มีใคร​รังแก​เจ้ากระมัง​?”

หลิน​ชิงเวย​หัวเราะ​แล้ว​ส่ายหน้า​ “ข้า​เพียงแต่​ไม่ชอบ​ให้​คน​ตาม​ข้า​ไป​ห้อง​เวจ​ ดังนั้น​จึงเดิน​อ้อม​อี​กรอบ​หนึ่ง​”

สีหน้า​ของ​เซียว​จิ่น​เกร็ง​ค้าง​ ไม่พูด​อัน​ใด​อีก​ เขา​เอ่ย​เพียง​ว่า​ “รีบ​ดูเถิด​ละคร​เริ่ม​แล้ว​”

ที่จริง​แล้ว​หลิน​ชิงเวย​ไม่ชอบ​ดู​ละคร​ของ​คณะ​เทียน​สุ่ย​หยวน​นัก​ อาจ​เป็น​เพราะ​ความ​รู้ทาง​ด้าน​วัฒนธรรม​ของ​นาง​น้อย​เกินไป​ ได้ยิน​เสียงร้อง​รำ​อี​อา​อี​อา​เท่านั้น​ ทว่า​ชั้นล่าง​มักจะ​มีเสียง​ปรบมือ​ดังสนั่น​และ​เสียง​ชมเชย​ว่า​ดี​ กระทั่ง​เซียว​จิ่น​ก็​ดู​ละคร​จน​อย่าง​มีอรรถรส​แทบจะ​ไม่กะพริบตา​

รอ​เมื่อ​ละคร​จบ​แล้ว​ทุกคน​ต่าง​ยังคง​ติด​อยู่​ใน​โลก​ของ​ละคร​

ต่อมา​คณะ​ละคร​ได้​ส่งตัวละคร​มีชื่อ​ออกมา​ร้อง​เดี่ยว​ แต่​สุดท้าย​ยังคง​ต้อง​จากลา​ทั้ง​ไม่พึงพอใจ​ ทุกคน​ต้อง​ปฏิบัติตาม​ธรรมเนียม​ของ​คณะ​ละคร​เทียน​สุ่ย​หยวน​ หาไม่​แล้​วจะ​ส่งผล​ให้​ผู้ชม​ทั้งหลาย​ไม่ปฏิบัติตาม​

ลูกค้า​ชั้นล่าง​เริ่ม​แยกย้าย​ ต่อมา​ลูกค้า​ชั้นสอง​เริ่ม​แยกย้าย​เช่นกัน​

เซียว​จิ่น​หันมา​ทอดถอนใจ​กับ​หลิน​ชิงเวย​ “ไม่ได้มา​เสียเที่ยว​จริงๆ​ ช่างมีสีสัน​ยิ่งนัก​!”

“คุณชาย​…” ผู้ติดตาม​ด้านนอก​เข้ามา​ด้วย​ความระมัดระวัง​

“อะไร​เล่า​?” เซียว​จิ่น​หันกลับ​ไป​ เขา​ตวัดสายตา​ไป​เพียง​ครั้ง​เดียว​ก็​แข็ง​ค้าง​ไป​ทั้ง​ร่าง​

ด้วย​หลิน​ชิงเวย​มองเห็น​แล้ว​เช่นกัน​ ด้านนอก​ผ้าม่าน​มีพระองค์​ใหญ่​ยืน​อยู่​คน​หนึ่ง​

หลิน​ชิงเวย​หัวเราะ​ไม่ได้​ร้องไห้​ไม่ออก​ ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พรู​ลมหายใจ​โล่งอก​หรือ​สูด​ลม​หายใจเข้า​ปอด​ดี​

เซียว​เยี่ยน​อยู่​ด้านนอก​ผ้าม่าน​ สีหน้า​ของ​เขา​ไม่ชัดเจน​ เขา​พูด​อย่าง​ไม่ยินดียินร้าย​ “มีสีสัน​?”

ยาม​นั้น​เซียว​จิ่น​พูด​อะไร​ไม่ออก​ เขา​หันมา​มอง​หลิน​ชิงเวย​ หลิน​ชิงเวย​ได้​แต่​แสดง​สีหน้า​ของ​ผู้บริสุทธิ์​ไม่ได้รับ​ความเป็นธรรม​ เขา​จึงกุมมือ​หลิน​ชิงเวย​เพื่อ​ปลอบใจ​

ออก​มาจาก​คณะ​ละคร​เทียน​สุ่ย​หยวน​ เดิมที​มีกัน​สอง​คน​ยาม​นี้​เปลี่ยนเป็น​สามคน​ เพียงแต่​บรรยากาศ​ภายใน​รถม้า​ออกจะ​ประหลาด​สักหน่อย​ ไม่มีใคร​เอ่ยปาก​พูดจา​แม้แต่​คนเดียว​

เซียว​จิ่น​ยังคง​กริ่งเกรง​เซียว​เยี่ยน​อยู่​บ้าง​ “เสด็จ​อา​ ท่าน​อย่า​ได้​กล่าวโทษ​ชิงเวย​ เป็น​เจิ้น​ยืนกราน​ที่จะ​ออกมา​”

เซียว​เยี่ยน​มอง​หลิน​ชิงเวย​นิ่ง​ๆ แวบ​หนึ่ง​ “ข้า​รู้​ว่า​นาง​ยัง​ไม่มีความกล้าหาญ​ถึงเพียงนี้​”

เซียว​จิ่น​อ้า​ปาก​พูด​อี​กว่า​ “เจิ้น​คิด​จะออก​ตรวจราชการ​แผ่นดิน​ ใน​ใจคิด​เพียงแต่​จะออกมา​พบปะ​กับ​ชาวบ้าน​ อย่างไร​ก็​มีผลดี​…”

เซียว​เยี่ยน​ “เรื่อง​นี้​ไม่ใช่เรื่อง​เลวร้าย​อัน​ใด​ ฝ่าบาท​สมควร​ออกมา​จาก​วัง​มาดู​ภายนอก​บ้าง​ หาไม่​แล้ว​ย่อม​ต้อง​ถูก​บรรดา​ขุน​นางใน​ราชสำนัก​ปิดหูปิดตา​” เซียว​จิ่น​ได้ยิน​แล้ว​ตะลึงงัน​ เขา​คิด​ว่า​เซียว​เยี่ยน​ไม่มีทาง​อนุญาต​ให้​เขา​ออกจาก​วัง​ เขา​ได้ยิน​น้ำเสียง​ของ​เซียว​เยี่ยน​เข้มงวด​ขึ้น​ “เพียงแต่​ฝ่าบาท​ออกมา​อย่าง​เรียบง่าย​เช่นนี้​ เป็นการ​ประมาท​เกินไป​ หาก​ระหว่างทาง​เกิด​ข้อผิดพลาด​อัน​ใด​ขึ้น​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​เล่า​? ฝ่าบาท​จะเสด็จ​ไป​ที่ไหน​ควรจะ​บอก​กับ​ข้า​สัก​คำ​”

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท