ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 240 มีความรู้สึกแล้ว

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

หลิน​ชิงเวย​ตวัดสายตา​มอง​เขา​พูด​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่ยิ้ม​ “ยาม​นี้​สนใจ​แล้ว​หรือ​เพคะ​”

เซียว​จิ่น​อึกอัก​ “เจิ้น​ เจิ้น​เพียงแต่​…คิด​ว่า​อย่างไร​เรื่อง​นี้​ช้าเร็ว​ต้อง​ได้​ใช้ประโยชน์​…”

ดังนั้น​หลิน​ชิงเวย​จึงนำ​ตำรา​เกี่ยวกับ​เรื่อง​เพศศึกษา​ออกมา​วาง​เบื้อง​หน้าเซียว​จิ่น​ “สิ่งเหล่านี้​สอน​พระองค์​ได้​ ขั้นตอน​ต่างๆ​ ล้วน​เขียน​เอาไว้​อย่าง​ชัดเจน​ ด้วย​สติปัญญา​อัน​ปราดเปรื่อง​ของ​ฝ่าบาท​ควรจะ​ศึกษา​เรียนรู้​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​กระมัง​” อีก​ทั้ง​เรื่อง​พวก​นี้​แทบจะ​ไม่ต้อง​เรียนรู้​ เป็น​ความสามารถ​พื้นฐาน​ของ​บุรุษ​และ​สตรี​อยู่​เดิม​อยู่แล้ว​ เมื่อ​ถึงเวลา​ที่​ได้​ใช้จริงๆ​ จะพบ​ว่าที่​เขียน​ไว้​ใน​ตำรา​ล้วน​เป็น​ความว่างเปล่า​ ที่​ได้ผล​คือ​ความสามารถ​พื้นฐาน​ของ​บุรุษ​และ​สตรี​ทั้งสองฝ่าย​

เซียว​จิ่น​อ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ก็​รู้สึก​ราวกับ​มีเพลิง​กอง​หนึ่ง​สุมอยู่​กลา​งอก​ แตกต่าง​จาก​ความ​โกรธขึ้ง​ก่อนหน้านี้​ และ​เปลวเพลิง​นี้​แผดเผา​ร่าง​ของ​เขา​แทบจะ​ลุกเป็นไฟ​ขึ้น​มา เขา​จดจำ​คำพูด​ของ​หลิน​ชิงเวย​เอาไว้​ใน​ใจ นี่​ไม่ใช่สิ่งที่​อุจาด​ตา​หรือ​อัน​ใด​ ไม่ใช่เรื่อง​ผิด​อัน​ใด​ แต่​เป็นเรื่อง​ที่​ต้อง​เกิดขึ้น​และ​ทุกคน​ต้อง​มีประสบการณ์​เมื่อ​ถึงวัย​อัน​สมควร​ เสด็จ​พ่อ​เสด็จ​แม่ใน​วังหลวง​ของ​เขา​เป็น​เยี่ยง​นี้​ ชาวบ้าน​สามัญธรรมดา​นอก​กำแพง​วังหลวง​เป็น​เยี่ยง​นี้​เช่นกัน​ เมื่อ​บุรุษ​และ​สตรี​มีใจปฏิพัทธ์​ต่อกัน​ย่อม​อยู่​ร่วมกัน​ เช่นนี้​แล้วจึง​จะมีทายาท​สืบสกุล​ต่อไป​ได้​

กอง​เพลิง​ใน​ใจไม่อาจ​มอด​ดับ​ ค่อยๆ​ ลุกลาม​ไป​ถึงบริเวณ​ท้องน้อย​ของ​เขา​ เขา​รู้สึก​ว้าวุ่น​ใจใน​ชั่วขณะ​ รู้สึก​ว่า​อวัยวะ​บางส่วน​ตื่นตัว​ขึ้น​ใน​ทันใด​ ทำให้​เขา​ไม่รู้​จะทำ​อย่างไร​ดี​

ความรู้สึก​นั้น​ทั้ง​ตื่นเต้น​และ​เจ็บปวด​

หลิน​ชิงเวย​รับรู้​ได้​ถึงความเปลี่ยนแปลง​นี้​จึงถามขึ้น​ว่า​ “เป็น​อย่างไรบ้าง​เพคะ​?”

เซียว​จิ่นขบ​ฟัน​แน่น​พยายาม​ข่ม​กลั้น​ความรู้สึก​แปลกประหลาด​นั้น​ลง​ไป​ แต่​เมื่อ​เงยหน้า​เห็น​รูปโฉมโนมพรรณ​ของ​หลิน​ชิงเวย​ เรือนร่าง​อรชรอ้อนแอ้น​ของ​บาง​ เส้นสาย​ส่วน​เว้า​โค้ง​นูน​ที่​เห็นได้ชัด​ พลัน​รู้สึก​ราวกับ​ลำคอ​แห้งผาก​สอง​ส่วน​

ใบ​หน้าแดง​เรื่อ​ของ​เขา​ก้ม​ต่ำ​ พลัน​ผุด​ให้​เห็น​เหงื่อ​เย็น​เม็ด​ละเอียด​ เขา​ละสายตา​ไป​จาก​หลิน​ชิงเวย​ไม่ได้​ “หรือ​เตา​อุ่น​ใน​ตำหนัก​บรรทม​วาง​ไว้​มากเกินไป​ ดังนั้น​เจิ้น​จึงรู้สึก​ร้อน​”

หลิน​ชิงเวย​มิใช่ไม่ได้​สังเกตเห็น​ปฏิกิริยา​ของ​เซียว​จิ่น​ นาง​เห็น​แล้ว​แจ่มแจ้งทันใด​ไม่ต้อง​ถามให้​มากความ​ ต้อง​ให้​เซียว​จิ่น​สัมผัส​ด้วย​ตนเอง​ย่อม​ต้อง​ได้​ผลก​ว่าที่​นาง​จะพูด​ปากเปียกปากแฉะ​

ดังนั้น​หลิน​ชิงเวย​จึงขอตัว​ออกจาก​ที่นั่น​ เซียว​จิ่น​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​สภาวะ​ประดักประเดิด​จึงไม่ได้​ปฏิเสธ​และ​ไม่ได้​รั้ง​ตัวนาง​เอาไว้​ เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​หยิบ​เสื้อคลุม​กัน​ลม​ออกจาก​ฉาก​กัน​ลม​ สายตา​ของ​เขา​ตก​อยู่​บน​ร่าง​ของ​หลิน​ชิงเวย​ราวกับ​สัตว์​ตัว​น้อย​อาลัย​รัก​ใน​ตัว​มารดา​ไม่อยาก​แยก​จากกัน​อย่างไร​อย่างนั้น​

ทว่า​เขา​ไม่อาจ​เอ่ยปาก​ออกมา​ได้​ เรื่อง​ที่ลับ​ของ​เขา​ให้​หลิน​ชิงเวย​ล่วงรู้​แล้ว​เขา​จะเอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​

หลิน​ชิงเวย​หัน​กลับมา​ยิ้ม​ให้​เซียว​จิ่น​ “ฝ่าบาท​พักผ่อน​เถิด​เพคะ​ ค่อยๆ​ เรียนรู้​ด้วย​ตนเอง​ หลังจาก​วันพรุ่งนี้​ทรง​เรียก​นางสนม​มาปรนนิบัติ​ได้​แล้ว​ หม่อมฉัน​กลับ​ไป​ก่อน​เพคะ​”

“ได้​…”

เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​เดิน​ออกจาก​ตำหนัก​บรรทม​ยัง​หัน​กาย​กลับมา​ปิดประตู​ให้​เซียว​จิ่น​

เซียว​จิ่น​คาด​ว่า​นาง​คง​เดิน​ไป​ไกล​แล้ว​ ภายใน​ตำหนัก​บรรทม​เหลือ​เพียง​ความเงียบสงบ​ เซียว​จิ่น​ค้ำ​ฝ่ามือ​ลง​บน​โต๊ะ​หอบ​หายใจ​เล็กน้อย​ เหงื่อ​บน​หน้าผาก​ผุด​ขึ้น​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

เขา​รู้สึก​ร้อน​เหลือเกิน​ จึงปลด​อาภรณ์​เดิน​ไป​ยัง​เตียงนอน​ของ​ตน​ พยายาม​ที่จะ​ไม่คิด​เรื่องราว​ใน​ค่ำ​คืนนี้​

เซียว​จิ่น​พยายาม​ข่ม​จิตใจ​ให้​สงบ​ลง​ ไม่ไป​คิดถึง​เนื้อหา​ใน​ตำรา​วัง​วสันต์​ ไม่รู้​นอนหลับ​ไป​เมื่อใด​

กระทั่ง​กลางดึก​ราวกับ​เขา​ฝัน​ไป​ตื่น​หนึ่ง​ ใน​ฝัน​เขา​พบ​หลิน​ชิงเวย​ นาง​สวม​กระโปรง​สีเขียว​อ่อน​ทั้ง​ชุด​ ชายกระโปรง​ถูกลม​พัด​ปลิว​พลิ้ว​ขึ้น​มา เส้น​ผม​ดำขลับ​ที่​แผ่​คลุม​หัวไหล่​ ดวงตา​เปื้อน​ยิ้ม​ประดุจ​เสี้ยว​จันทร์​ ทุกๆ​ อิริยาบถ​ล้วน​งดงาม​จับใจ​

เซียว​จิ่น​เดิน​เข้า​ไปหา​นาง​อย่าง​ไม่อาจ​ต้านทาน​ โอบ​นาง​เข้าสู่​อ้อมกอด​ เขา​รู้​ว่า​นาง​มีเรือน​กาย​แบบบาง​ ทว่า​กลับ​คิดไม่ถึง​ว่า​เรือน​กาย​ของ​นาง​จะนุ่มนิ่ม​และ​หอมหวน​ถึงปาน​นั้น​…

ต่อมา​เซียว​จิ่น​ถูก​ความรู้สึก​แปลกประหลาด​ทำให้​ตื่นขึ้น​กะทันหัน​ เมื่อ​เขา​ลืมตา​ขึ้น​ได้ยิน​เสียง​หัวใจ​ของ​ตน​เต้น​ตุบๆ​ๆ สะท้อน​อยู่​ใน​โพรง​อก​ของ​ตน​ด้วย​ยัง​ไม่ได้​ตื่น​จาก​ความฝัน​ของ​ตน​

คืนนี้​ภายใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ประดับประดา​โคมไฟ​ผ้าไหม​มงคล​สีแดง​เป็นแถว​ เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความหมาย​อันเป็น​สิริมงคล​ เป็น​การคัดเลือก​จาก​สาวงาม​นับ​พัน​นับ​หมื่น​และ​ได้รับ​การยินยอม​จาก​เซียว​จิ่น​เป็นครั้งแรก​ เลือกเฟ้น​บุตรสาว​ของ​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​ราชสำนัก​มาหนึ่ง​คน​เพื่อ​เข้า​ปรนนิบัติ​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​คืนนี้​

สตรี​นาง​นี้​คือ​คุณหนู​พัน​ชั่งของ​เสนาบดี​จาง จางซีอัน​ เป็น​สตรี​รูปโฉม​งดงาม​เพียบพร้อม​ความสามารถ​ แตกฉาน​อักษร​และ​ธรรมเนียม​มารยาท​ เป็น​คุณหนู​ผู้​มีบุคลิกลักษณะ​โดดเด่น​ท่ามกลาง​คุณหนู​ที่​ถูก​คัดเลือก​ตัว​เข้ามา​ใน​วัง​ เสนาบดี​จางใน​ยาม​ปกติ​เมื่อ​อยู่​ใน​ราชสำนัก​เป็น​ขุนนาง​มาก​ความสามารถ​ เข้มงวดกวดขัน​ ที่​สำคัญ​เขา​ยัง​เป็น​ฝ่ายตรงข้าม​ของ​เซี่ยน​อ๋อง​เซียว​อี้​ เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ย่อม​ช่วยเหลือ​และ​สนับสนุน​เซียว​จิ่น​ใน​วันข้างหน้า​ได้​

จางซีอัน​เลย​วัย​ปัก​ปิ่น​แล้ว​ หลัง​ปีใหม่​นาง​จะมีอายุ​สิบห้า​ปี​ อายุ​มากกว่า​เซียว​จิ่น​หนึ่ง​ปี​ การ​พูด​การ​จาล้วน​รู้​ธรรมเนียม​มารยาท​และ​รู้​หนัก​รู้​เบา​ สตรี​ใน​แผ่นดิน​ต้าเซี่ย​ เมื่อ​อายุ​ครบ​สิบ​สามปี​สามารถ​ออกเรือน​ได้​ สิบห้า​ปี​ร่วม​หอ​ได้​

ดังนั้น​จึงไม่ใช่เรื่อง​แปลก​อัน​ใด​ที่​จางซีอันเป็น​ผู้​ถูก​เลือก​ ก่อน​หน้าที่​นาง​จะเข้าสู่​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ มีธรรมเนียม​ใน​วัง​มากมาย​ มีกฎเกณฑ์​บางอย่าง​ที่​หลิน​ชิงเวย​ผู้​ซึ่งมาจาก​ยุค​สมัยปัจจุบัน​ไม่อาจ​ยอม​รับได้​ เช่น​ต้อง​พิสูจน์​ความบริสุทธิ์​ของ​ร่างกาย​แล้วจึง​จะอาบน้ำ​

และ​การอาบน้ำ​นี้​มิใช่การอาบน้ำ​ธรรมดา​สามัญ ได้ยิน​มาว่า​ห​มัว​มัว​หลาย​คน​จับ​นาง​เปลือยกาย​ลง​ไป​ใน​น้ำ​ อาบน้ำ​ให้​นาง​สะอาด​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​แทบจะ​ผิวหนัง​ถลอก​ไป​ชั้นหนึ่ง​ แล้ว​ใช้เส้นด้าย​ใน​มือ​ดึง​ขนอ่อน​บน​ร่างกาย​ของ​นาง​ออก​จน​เกลี้ยงเกลา​…

จางซีอัน​ผู้​นี้​เป็น​คน​แรก​ของ​เซียว​จิ่น​ ได้รับ​ความสนใจ​จาก​สายตา​คนใน​ตำหนัก​ใน​ ย่อม​ไม่อาจ​ทำ​เรื่อง​เลอะเลือน​ได้​ นาง​จึงเริ่ม​เตรียมตัว​ตั้งแต่​ยามเช้า​ กระทั่ง​ยาม​บ่าย​จึงอาบน้ำ​เสร็จ​ แล้ว​ทำการ​ดึง​ขน​ แล้ว​ค่อย​ประทิน​ผง​แป้ง​เครื่องหอม​ลง​บน​ร่างกาย​ของ​นาง​ ส่งผล​ให้​ผิว​ของ​นาง​หอม​จางและ​ผิวพรรณ​สว่าง​ใสราวกับ​สะท้อน​แสงได้​ งดงาม​สุด​จะเปรียบ​

ตัวนาง​เอง​รู้สึก​รอคอย​และ​วาดหวัง​อยู่​บ้าง​ คืนนี้​หาก​ปรนนิบัติ​ฝ่าบาท​ให้​ดี​ ต่อไป​ย่อม​มีลาภ​ยศ​ชื่อเสียง​เงินทอง​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​บิดา​กำชับ​นาง​ก่อน​ออกเรือน​เช่นกัน​

เมื่อ​ถึงเวลา​จุด​โคมไฟ​ใน​ยาม​พลบค่ำ​แล้ว​ จางซีอัน​ถูก​ขันที​แบก​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ ข้า​รับใช้​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​เกรง​ว่า​จะเกิด​ข้อผิดพลาด​ จึงได้​แต่​หน้าหนา​มาเชิญหลิน​ชิงเวย​ถึงตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ เพียงแต่​ถูก​หลิน​ชิงเวย​ปฏิเสธ​กลับ​ไป​

นาง​ไม่เชื่อ​ว่า​คืน​นั้น​ยัง​สอน​เซียว​จิ่น​ไม่ได้​ ต่อให้​นาง​ไม่อธิบาย​เรื่องราว​ระหว่าง​ชาย​หญิง​แก่​เซียว​จิ่น​ ตัว​เซียว​จิ่น​เอง​ย่อม​เรียนรู้​เอง​ได้​ นาง​เพียงแต่​ให้​เขา​ปล่อยวาง​ เห็น​เรื่อง​ระหว่าง​ชาย​หญิง​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​สามัญเท่านั้น​

วันนี้​เซียว​จิ่น​เรียกตัว​นางสนม​ร่วม​หอ​ด้วย​ตนเอง​ นาง​ไปดู​อะไร​เล่า​? นาง​ไม่เชื่อ​หรอ​กว่า​เซียว​จิ่น​จะทำให้​เรื่องราว​ล้มเหลว​กลางคัน​ อย่าง​มาก​ครั้งแรก​อาจจะ​ขลุกขลัก​หน่อย​ ไม่เป็นไป​อย่าง​ที่​คิด​เอาไว้​ แต่​นี่​เกี่ยว​อะไร​กับ​นาง​ซึ่งเป็น​หมอ​คน​หนึ่ง​เล่า​?

คน​ของ​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​กลับ​ไป​ หลิน​ชิงเวย​กลับ​เข้าไป​ใน​เรือน​ของ​ตน​ เข้าไป​ใน​ห้อง​เตรียมตัว​พักผ่อน​ ยาม​นี้​นาง​เพียงแค่​รอ​ให้​เซียว​จิ่น​ดูแล​ตำหนัก​ใน​และ​เฟ้นหา​ประมุข​ของ​ตำหนัก​ใน​ออกมา​ เช่นนั้น​นาง​ก็​สามารถ​ถอนตัว​ออกมา​ได้​แล้ว​

หลิน​ชิงเวย​เพิ่งจะ​เอนกาย​ลง​ไป​ไม่นาน​ยัง​ไม่ทัน​เข้าสู่​ห้วง​นิทรา​ ซิน​หรู​มาเคาะ​ประตู​อย่าง​ร้อนใจ​อยู่​ข้างนอก​

หลิน​ชิงเวย​เปิด​ประตู​ห้อง​ เห็น​ซิน​หรู​ยืน​อยู่​หน้า​ห้อง​ด้วย​สีหน้า​ร้อนรน​ “พี่สาว​ คน​ของ​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​มาเจ้าค่ะ​ บอ​กว่า​เกิดเรื่อง​แล้ว​”

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท