ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 242 ไม่ใช่ไม่เอาคืนเพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

หลังจากนั้น​อีก​หลาย​ปี​เซียว​จิ่น​เติบโต​เป็น​บุรุษ​เต็ม​ตัวอย่าง​แท้จริง​ เมื่อ​หวน​นึกถึง​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ใน​วันนี้​ เกรง​ว่า​ฮ่องเต้​ที่​อ่อนแอ​ที่สุด​ใน​ประวัติ​จะเป็น​เขา​แล้ว​กระมัง​ ทั้งๆ ที่​มีสตรี​มากมาย​แต่​เขา​กลับ​ต้อง​ใช้มือ​ของ​ตน​มาแก้ปัญหา​เหล่านี้​

ต่อมา​หลิน​ชิงเวย​ออก​ไป​แล้ว​ เซียว​จิ่น​หันหลัง​ให้​ประตู​เหงื่อกาฬ​เต็ม​หน้า​ เขา​ได้​แต่​คิดถึง​ภาพวาด​ใน​ตำรา​วัง​วสันต์​ อีก​ทาง​หนึ่ง​ใช้มือ​ทำตาม​ท่า​ทางใน​ภาพวาด​นั้น​ สีหน้า​ของ​เขา​ปรากฏ​ให้​เห็น​ความทุกข์ทรมาน​และ​เป็นสุข​ ในที่สุด​ก็ได้​ปลดปล่อย​ออกมา​ ส่งผล​ให้​เขา​ถึงกับ​ถอนหายใจ​อย่าง​สบาย​เนื้อ​สบาย​ตัว​

เรื่อง​ระหว่าง​ชาย​หญิง​ล้วน​เป็นเรื่อง​ความสุข​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ เขา​เพียงแค่​เพิ่ง​เข้ามา​เรียนรู้​ใน​เรื่อง​เหล่านี้​เฉกเช่น​หนุ่มน้อย​ไม่ประสา​คน​หนึ่ง​

เพียงแต่​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ใน​คืนนี้​ ตำหนัก​อื่นๆ​ อาจ​ไม่ล่วงรู้​ ทว่า​ไทเฮา​ของ​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​ไม่แน่​ว่า​จะไม่รู้​ แม้นาง​จะถูก​กักบริเวณ​อยู่​ใน​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​ ทุกวัน​ต้อง​สวดมนต์​ไหว้พระ​ แต่​ห​มัว​มัว​สอง​คน​ข้าง​กาย​ของ​นาง​กลับ​ช่วย​นาง​สืบ​ข่าวคราว​ใน​ตำหนัก​ใน​อย่าง​เต็มกำลัง​ ทันทีที่​นาง​คว้า​โอกาส​ได้​ย่อม​ไม่มีทาง​ปล่อยไป​เด็ดขาด​

ยาม​นี้​ภายใน​ห้อง​พระ​ของ​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​ ห​มัว​มัว​นำ​ข่าว​ที่​สืบมา​ได้​รายงาน​ให้​กับ​สตรี​ที่​คุกเข่า​อยู่​หน้า​องค์​พระ​ฟังอย่าง​ละเอียด​

สตรี​นาง​นั้น​สวม​อาภรณ์​หรูหรา​สูงศักดิ์​ เส้น​ผม​ขาวโพลน​ ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​เป็น​สตรี​วัยชรา​นาง​หนึ่ง​ มอง​ไม่ออก​แม้แต่น้อย​ว่า​ก่อนหน้านี้​เพียง​ไม่กี่​เดือน​ นาง​คือ​ไทเฮา​ผู้​มีรูปโฉม​งดงาม​ของ​ตำหนัก​ใน​

เซียว​จิ่น​มีบัญชา​ให้​นาง​สวดมนต์​ให้​กับ​วิญญาณ​ของ​ผู้ตาย​ทุกวัน​ นาง​ปฏิบัติตาม​แล้ว​ เพียงแต่​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​มาเนิ่นนาน​เช่นนี้​ บัดนี้​เมื่อ​มองเห็น​นาง​แล้ว​ไม่เพียงแต่​ท่าทาง​เปลี่ยนไป​มากมาย​ กลิ่นอาย​ความโหดเหี้ยม​บน​ร่าง​ของ​นาง​ก็​ยัง​ลดน้อยลง​ ด้วย​อยู่​กับ​การสวดมนต์​ทุกวัน​ ส่งผล​ให้​คน​ทั้ง​คนดู​แล้ว​สงบ​ขึ้น​สอง​ส่วน​และ​ไม่ใส่ใจต่อ​รูปโฉม​ที่​เปลี่ยนแปลง​ไป​อย่าง​มาก​ของ​ตน​

ทว่า​ไม่ได้​หมายความว่า​นาง​จะยิน​ยอมรับ​ชะตากรรม​ที่​ตน​ประสบ​อยู่​ใน​ขณะนี้​อย่าง​แท้จริง​ หาไม่​แล้ว​คง​ไม่ให้​ห​มัว​มัว​ออก​ไป​สืบ​ข่าว​ภายใน​ตำหนัก​ใน​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​

หลัง​จากห​มัว​มัว​รายงาน​เสร็จสิ้น​ ไทเฮา​ไม่มีปฏิกิริยา​อัน​ใด​ นาง​ยังคง​สวดมนต์​และ​เคาะ​มู่อวี๋[​1]ของ​นาง​ต่อไป​ กระทั่ง​นาง​สวดมนต์​บท​นั้น​จบ​จึงหยุด​เคาะ​ไม้ใน​มือ​ของ​นาง​แล้ว​ลืมตา​ขึ้น​พูดว่า​ “เจ้าจะบอ​กว่า​ซีเฟย​ถูก​ส่งไป​ปรนนิบัติ​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​แต่​ภายหลัง​ถูก​ส่งกลับมา​?”

“ถูกต้อง​แล้ว​เพคะ​”

หลังจาก​คืน​นั้น​หลิน​ชิงเวย​เก็บเนื้อเก็บตัว​ไม่ก้าว​ออกจาก​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ นาง​จนปัญญา​เช่นกัน​ นาง​ปรารถนา​เพียง​รอ​การ​กลับมา​ของ​เซียว​เยี่ยน​อย่าง​สงบ​ สำหรับ​เซียว​จิ่น​ หาก​ไม่พบ​หน้า​ได้​ก็​ไม่พบ​ ตัว​เขา​เอง​ไม่ยอม​ลืมเลือน​ย่อม​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​อัน​ใด​

เพียงแต่​หลังจากที่​เซียว​จิ่น​ประสบ​กับ​เหตุการณ์​ใน​คืน​นั้น​แล้ว​ เขา​เปลี่ยนเป็น​คนเจ้าอารมณ์​และ​หงุดหงิด​ อีก​ทั้ง​ไม่ได้​เรียกตัว​นางสนม​คนใด​มาปรนนิบัติ​อีก​เลย​

ทว่า​ตัว​เขา​เอง​รู้ดี​ว่า​เขา​นับว่า​เป็น​บุรุษ​คน​หนึ่ง​และ​ไม่ใช่เด็ก​ที่​ไม่รู้ความ​อีกต่อไป​แล้ว​กรมวัง​ทำงาน​อย่าง​รู้​หน้าที่​เต็มกำลัง​ ทุกวัน​จะส่งคน​มาถามครั้งหนึ่ง​ว่า​คืนนี้​เซียว​จิ่น​จะเรียกตัว​ผู้ใด​มาปรนนิบัติ​

เซียว​จิ่น​หงุดหงิด​ใจเป็น​ที่สุด​ ในที่สุด​จึงด่า​คน​กลับ​ไป​

วันนี้​ห​มัว​มัว​ของ​ตำหนัก​คุ​น​เห​อขอ​เข้าเฝ้า​ บอ​กว่า​นำ​บทสวดมนต์​ที่​ไทเฮา​คัด​เสร็จ​ใน​หลาย​วันนี้​มาส่ง เซียว​จิ่น​ย่อม​ต้อง​ให้​พบ​ ห​มัว​มัว​เข้าเฝ้า​แล้วจึง​มอบ​บทสวดมนต์​ของ​ไทเฮา​ให้​เซียว​จิ่น​ผ่าน​ตา​ “ไทเฮา​สวดมนต์​อยู่​ใน​ห้อง​พระ​ทุกวัน​เพคะ​ เก็บเนื้อเก็บตัว​สวดมนต์​ภาวนา​ให้​กับ​วิญญาณ​ของ​ผู้ตาย​ ไม่เคย​หยุด​คัด​คัมภีร์​เหล่านี้​ด้วย​ความ​ตั้งใจจริง​ ขอ​ฝ่าบาท​โปรด​ประทาน​อภัย​ด้วย​เพคะ​”

เซียว​จิ่น​เหลือบมอง​คัมภีร์​เหล่านั้น​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ “เจิ้น​รู้​แล้ว​ เจ้ากลับ​ไป​เถิด​”

ไหน​เลย​จะคิด​ว่า​ห​มัว​มัว​กลับ​คุกเข่า​ลง​ไป​อีกครั้ง​ “ฝ่าบาท​ แม้ไทเฮา​จะได้​ทำ​เรื่อง​ผิดพลาด​แต่​อย่างไร​ก็​เป็น​เสด็จ​แม่ของ​ฝ่าบาท​ บ่าว​นำ​พระ​กระแสรับสั่ง​มาจาก​ไทเฮา​ เชิญฝ่าบาท​เสด็จ​ไป​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​สัก​หน​เพคะ​!” เซียว​จิ่น​ขมวดคิ้ว​ สีหน้า​เอือมระอา​นั้น​ใกล้​สิ้น​ความอดทน​ เพียงแต่​ห​มัว​มัว​ไม่รอ​ให้​เขา​เอ่ยปาก​กลับ​พูด​ขึ้น​อี​กว่า​ “ทูล​ฝ่าบาท​ เมื่อคืน​กลางดึก​ไทเฮา​พลัน​ตกใจ​ตื่นขึ้น​ น้ำตาไหล​นองหน้า​กระทั่ง​ฟ้าสาง ไทเฮา​ตรัส​ว่า​ นาง​ทรง​สุบิน​ถึงอดีต​ฮ่องเต้​เพคะ​ วิญญาณ​ของ​ฮ่องเต้​บน​สรวงสวรรค์​เห็น​ไทเฮา​มีความจริงใจ​เช่นนี้​ ได้​อภัย​ต่อ​ความผิด​ของ​ไทเฮา​เนิ่นนาน​แล้ว​ อีก​ทั้ง​อดีต​ฮ่องเต้​ยังมี​คำพูด​ฝากฝัง​มากับ​ไทเฮา​ถึงฝ่าบาท​ด้วย​เพคะ​ ไทเฮา​ทรง​เป็นห่วง​เป็น​ใย​จึงทรง​กันแสง​อยู่​ค่อนคืน​ ยามเช้า​จึงต้อง​ลม​เย็น​ ขอ​ฝ่าบาท​เสด็จ​ไป​เยี่ยม​ไทเฮา​ด้วย​เพคะ​!”

เซียว​จิ่น​วาง​งาน​ใน​มือ​ลง​ ช้อนตา​ขึ้น​มอง​ห​มัว​มัว​ที่​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​จน​ไม่อาจ​พูดจา​ได้​ แววตา​ของ​เขา​แปรเปลี่ยน​เพียง​เล็กน้อย​ “ไทเฮา​ต้อง​ลม​เย็น​ เชิญหมอ​หลวง​แล้ว​หรือยัง​?”

ห​มัว​มัว​ส่ายหน้า​ “ทูล​ฝ่าบาท​ ไทเฮา​ทรง​อาเจียน​อย่าง​หนัก​เพคะ​ ดื่ม​โอสถ​ที่​หมอ​หลวง​สั่งไว้​แล้วก็​อาเจียน​ออกมา​หมด​ ไทเฮา​ยืนกราน​หนักแน่น​ นาง​บอ​กว่า​นาง​รอ​เพียง​นำ​ความ​จาก​อดีต​ฮ่องเต้​แก่​ฝ่าบาท​เพคะ​! หาไม่​แล้ว​ไทเฮา​ไม่อาจ​นอนตาย​ตา​หลับ​ได้​!”

หลังจากนั้น​เนิ่นนาน​ เซียว​จิ่น​จึงสั่งการ​เสียง​เย็น​ “เตรียม​ขบวน​ไป​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ”​

ห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​ร่ำไห้​ด้วยความยินดี​

แสงแดด​ด้านนอก​ไม่นับว่า​เจิดจ้า​นัก​ เมื่อ​สาดส่อง​ลง​บน​พื้นที่​ปกคลุม​ไป​ด้วย​หิมะ​สีขาวโพลน​ ทำให้​บาดตา​อยู่​หลาย​ส่วน​ ยาม​นี้​ราชรถ​ของ​เซียว​จิ่น​กำลัง​มุ่งหน้า​สู่ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​

ภายใน​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​ ก่อนหน้านี้​ยัง​เงียบเหงา​วังเวง​ องครักษ์​ผู้เฝ้าประตู​ตำหนัก​มีมากขึ้น​เท่าตัว​หนึ่ง​ของ​เมื่อก่อน​ ข้า​รับใช้​ภายใน​มีเพียง​ไม่กี่​คน​ ตลอดทาง​ที่​เดิน​มาข้า​รับใช้​ล้วน​แอบ​เกียจคร้าน​ไม่กวาด​หิมะ​บน​ลาน​เรือน​ ไหน​เลย​จะคิด​ว่า​ฮ่องเต้​จะเสด็จ​ตำหนัก​คุ​น​เห​ออ​ย่าง​กะทันหัน​แต่ละคน​จึงมีท่าที​หวาดกลัว​

เซียว​จิ่น​เห็น​หิมะ​สีขาว​ปกคลุม​บน​พื้น​หนา​เต็ม​ทางเดิน​ จึงทำ​หน้า​เคร่ง​ด้วย​ไม่รู้​จะก้าว​ลงมา​อย่างไร​ หัวหน้า​ขันที​ข้าง​กาย​จึงตวาด​ลั่น​ “ยัง​โง่งมอะไร​กัน​อยู่​อีก​ ยัง​ไม่รีบ​กวาด​หิมะ​”

ข้า​รับใช้​ของ​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​รีบ​หยิบ​ไม้กวาด​มากวาด​หิมะ​บน​พื้น​อย่าง​รวดเร็ว​

เซียว​จิ่น​เห็น​พวกเขา​แต่ละคน​แล้วจึง​กล่าวว่า​ “ไทเฮา​เก็บตัว​ไม่ค่อย​ออก​ไป​ข้างนอก​ ข้า​รับใช้​ใน​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​ก็​ละเลย​หน้าที่​หรือ​ไร​ อีก​ประเดี๋ยว​กวาด​หิมะ​แล้วไป​รับโทษ​โบย​ยี่สิบ​ไม้”

ฟังแล้ว​ดูเหมือน​ทำ​เพื่อ​ไทเฮา​ แต่​ที่จริง​แล้ว​กลับ​เอา​คน​ของ​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​มาลงโทษ​ ห​มัว​มัว​ได้​แต่​ระมัดระวัง​ไม่กล้า​พูดจา​

หลังจาก​กวาด​หิมะ​ออก​แล้ว​ ห​มัว​มัว​พา​เซียว​จิ่น​ไป​ยัง​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ไทเฮา​ ไหนจะ​รู้​ว่า​เมื่อ​ถามออก​ไป​ไทเฮา​กลับ​ไม่ได้​อยู่​ใน​ตำหนัก​บรรทม​ แต่​ไป​ห้อง​พระ​ทั้งที่​ล้ม​ป่วย​

ดังนั้น​ห​มัว​มัว​จึงนำ​เซียว​จิ่น​ไป​ยัง​ห้อง​พระ​ที่​สร้าง​ขึ้น​ใน​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​

วันนี้​ไทเฮา​ผลัด​อาภรณ์​เป็น​ชุด​ผ้าแพร​สีพื้น​ธรรมดา​ กำลัง​คุกเข่า​อยู่​อย่าง​สงบ​ มือหนึ่ง​ถือ​ลูกประคำ​อีก​มือหนึ่ง​เคาะ​มู่อวี๋​ ใบหน้า​ชราภาพ​นั้น​เป็นทุกข์​ ปาก​กำลัง​ขมุบขมิบ​สวดมนต์​งึมงำ

ห​มัว​มัว​พูด​ด้วย​ความ​ปวดใจ​และ​ระมัดระวัง​ “ไทเฮา​เหนียง​เหนียง​ บัดนี้​ท่าน​ทรง​ประชวร​เหตุใด​ยัง​มาห้อง​พระ​เล่า​เจ้าคะ​?”

[1] คือ​ “ปลา​ไม้” เป็น​เครื่องดนตรี​ทาง​สงฆ์ชนิด​หนึ่ง​ทำ​จาก​ไม้แกะสลัก​เป็น​รูป​ปลา​ เป็น​เครื่องมือ​ใช้ที่​พระสงฆ์​ใช้ระหว่าง​สวดมนต์​ ทำวัตร​ และ​ประกอบ​พิธีกรรม​ทาง​ศาสนา​ โดย​จะมีไม้อีก​อัน​หนึ่ง​คอย​เคาะ​บน​ตัว​มู่อวี๋​ เป็นจังหวะ​ตาม​บทสวดมนต์​

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท