ตอนที่ 338 : แรงกดดัน
เมื่อมีระบบในมือ หวังเย่าก็มั่นใจว่าจะทำได้
หวังเย่าสบายใจอย่างมาก ยังไงซะเมื่อได้ยินที่หอสมบัติสวรรค์รับปากมา งั้นเขาก็จะประมูลไข่นี่ได้อย่างสบายใจ ไม่มีใครหยุดเขาได้ แม้แต่คนของตระกูลชั้นนำหรือสำนักก็ตาม เขาไม่มีอะไรต้องกลัว
ในเรื่องนี้เขามั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าเขาต้องทำได้
ใครกันจะเทียบกับเขาได้อีก ?
ตอนนี้เขาราวกับลูกรักของพระเจ้า
…
บนเวทีนั้นเมื่อได้ยินที่ผู้คนฮือฮากัน เฉินเหล่าก็ได้พูดขึ้น “ ทุกคน…”
ตอนที่เขาพูดขึ้นมานั้นทุกคนต่างก็พากันเงียบไปทันที
“ที่ฉันบอกคือเป้าหมายของหอสมบัติสวรรค์ ตราบใดที่ฟักไข่นี่ได้สำเร็จ เราจะคืนเงินทั้งหมด ตอนนี้อย่ามัวเสียเวลา มาเริ่มการประมูลกันดีกว่า”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็แสดงสีหน้าจริงจังออกมา พวกเขามองไปที่ไข่นั่นทันที
หวังเย่าเองก็เช่นกัน แต่ตอนนี้เขารู้สึกโล่งอกและไม่ได้กังวลอะไร
“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5,000 ล้าน การเพิ่มแต่ละครั้งต้องไม่น้อยกว่า 100 ล้าน ” เสียงของเฉินเหล่าดังก้องไปทั่ว
เพราะไม่รู้ระดับของไข่นี่ เฉินเหล่าจึงไม่ได้ตั้งราคาที่สูงนัก
“10,000 ล้าน”
แต่ทันทีที่เฉินเหล่าพูดจบ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากชั้นสอง
เมื่อได้ยินเสียงนั้น ทุกคนก็พากันมองตามด้วยสีหน้าจริงจัง
ทุกคนกำลังคิดกันอยู่ว่าจะประมูลมันดีรึไม่ แต่ชายคนนี้ประมูลออกมาแทบจะทันที
นอกจากนี้ราคาก็เพิ่มขึ้นมาถึง 5,000 ล้าน มันขึ้นมาสองเท่าจากเดิม
ขุมกำลังใหญ่ไม่ได้เพิ่มราคาสูงแบบนี้ตั้งแต่แรก
บ้าจริงๆ
คนที่ประมูลออกมานี้แน่นอนว่าต้องเป็นหวังเย่า
ตอนนี้เขาไม่ต้องกลัวใครและไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป
ใครใช้ให้หอสมบัติสวรรค์รับปากแบบนี้ล่ะ ไม่ใช่ว่าข้อเสนอนี้มีไว้เพื่อเขารึไง ?
หวังเย่าต้องเอามันมาให้ได้แถมไม่ต้องเสียเงินให้กับหอสมบัติสวรรค์แม้แต่น้อย
หวังเย่าจะได้มันมาฟรี ๆ หอสมบัติสวรรค์จะไม่ได้อะไรจากเขาเลยคอยดู
บอกได้ว่านี่คือของขวัญจากสวรรค์ที่ส่งมันมาให้เขา
หลังจากนี้คงเป็นหอสมบัติสวรรค์นี่แหละที่จะร้องไห้…
ตอนที่หวังเย่าเพิ่มราคาขึ้นมานั้น ไม่ใช่แค่คนที่ชั้นแรกเท่านั้น แต่ยังมีคนที่ชั้นสองและสามที่พากันมองมาที่เขา
“โง่จริง ๆ ” ผู้อาวุโสตระกูลลู่มองไปที่หวังเย่าแล้วฮึดฮัดออกมา
“เขาทำบ้าอะไร ?” ฟางอี้มองลงไปที่ชั้นสองแล้วแสดงท่าทีหงุดหงิดออกมา
“เขาคิดบ้าอะไรอยู่ แม้แต่หอสมบัติสวรรค์ก็ไม่อาจจะฟักมันออกมาได้ไม่ใช่รึไง ? แต่นายกลับเสนอตัวออกมา นายคิดว่าจะฟักมันออกมาได้จริง ๆ งั้นรึ ถ้ามันง่าย ผู้ดูแลระดับสูงที่หอสมบัติสวรรค์เรียกมาคงต้องอายจนต้องมุดดินหนี”
มันเป็นการเสียเงินทิ้งไปเปล่า ๆ
หากหวังเย่ารู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาคงเหน็บว่าเธอรู้อะไรไม่มากพอซะแล้ว
ฟางฉิงหัวมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าครุ่นคิด เขาไม่รู้ว่าทำไมหวังเย่าถึงได้ประมูลไข่นี่
“เขามั่นใจในความสามารถของตัวเองงั้นหรือ” ฟางฉิงหัวส่ายหน้า สำหรับเขาแล้ว แม้ว่าหวังเย่าจะมีความสามารถที่โดดเด่น แต่ทว่าผู้ดูแลระดับสูงที่ศึกษาเรื่องนี้มาตลอดทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะฟักมันได้สำเร็จ ดังนั้นมันเป็นไม่ได้ที่หวังเย่าจะทำสำเร็จ
พวกนั้นใช้เวลาหลายปีกว่าจะพัฒนาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ พวกนั้นไม่ใช่คนที่ผู้ดูแลหน้าใหม่จะมาเทียบได้
แม้แต่คนแบบนั้นก็ยังฟักไข่ออกมาไม่ได้ นี่ไม่ต้องนับหวังเย่าเลย
ฟางฉิงหัวคิดเหมือนกันกับฟางอี้ สมกับเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ…
“เด็กนี่กล้าเพิ่มราคาสูงขนาดนี้” ในอีกด้านเฉี่ยนเจินเฉียนได้แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
“แม้ว่าระดับผู้ดูแลของหวังเย่าจะสูงจนน่าตกใจ แต่เขาคงไม่อาจจะฟักมันออกมาได้แน่” ฮวงเทียนเจวี๋ยนที่อยู่อีกห้องได้พูดขึ้นมา
“ฉันก็คิดแบบนั้น เด็กนี่ไม่น่าจะทำได้….” จางจื้อเฉียงพูดขึ้น
“ฉันคิดว่าเขาจะมีหัวคิดกว่านี้เสียอีก” ไป๋พั่วหล้างมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้นมา
“เท่าที่ฉันรู้มา เด็กนี่เหมือนจะมีความลับอะไรบางอย่าง เราต้องจับตาดูเขาเอาไว้” สุดท้ายเมื่อเฉี่ยนเจินเฉียนพูดแบบนั้น พวกเขาทั้งสี่ก็เลือกที่จะไม่เข้าร่วมประมูล
เพราะพวกเขาอยากรู้ว่าสุดท้ายหวังเย่าจะได้มันไปรึไม่
พวกเขาแค่อยากจะรอลุ้น …
หลังจากที่หวังเย่าประมูลไป มันก็ไม่มีใครพูดออกมาแม้แต่น้อย
นี่แค่หมื่นล้าน มันราวกับว่านี่คือราคาสุดท้ายของมันแต่อันที่จริงเขาไม่ได้คิดจะจ่ายเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้หวังเย่าได้แต่ภาวนาในใจ ไม่ว่าจะเป็นใครที่เพิ่มราคาขึ้นมา เขาก็จะแข่งทันที
“10,100 ล้าน”
ดูเหมือนว่าแม้แต่พระเจ้าก็ยังได้ยินคำพูดของหวังเย่า สุดท้ายก็มีคนเพิ่มราคาขึ้นต่อ
หวังเย่าก็โล่งอก หากไม่มีคนประมูลเพิ่มขึ้นมาจริงๆ งั้นเขาคงได้แต่ร้องไห้
“10,200 ล้าน”
หวังเย่าเพิ่มราคาแค่ 100 ล้าน ใช่ นั่นคือราคาขั้นต่ำ