ตอนที่ 345 : ตกตะลึง
“งั้นก็มาแลกเปลี่ยนกันก่อน” ตอนนั้นซือคงเป่าได้มองไปที่หวังเย่าและพูดขึ้นมา “ตามที่ประมูลกันมา ราคาอยู่ที่ 60,100 ล้านเครดิต ”
ฟางฉิงหัวและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันเงียบไป
“หวังเย่าไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น” ฮวงเทียนเจวี๋ยนคิดและพูดขึ้นมา
“ใช่ แม้ว่าเขาจะทำการขายแร่ไฟไปแต่เขาก็มีเงินแค่ 50,000 ล้าน” จางจื้อเฉียงพูดขึ้น
“เขาน่าจะมีเงินอยู่บ้าง ไม่งั้นเขาคงไม่ทำการประมูลแบบนี้หรอก” ไป๋พั่วหล้างพูดขึ้นมา
“งั้นก็รอดูว่าจะเป็นยังไง” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น
ฟางฉิงหัวไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เขาก็ดูสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้อย่างมาก
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของทุกคน หวังเย่าก็พูดขึ้น “อันที่จริงถ้านับรวมกันแล้วผมมีเงินแค่ 40,000 ล้านเอง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็พากันแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าหวังเย่าที่ไม่มีเงินแต่กลับกล้าประมูลด้วยราคาที่สูงแบบนั้นได้
ซือคงเป่าได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปทันที ตอนนี้เขาก็คิดแบบเดียวกันกับเฉี่ยนเจินเฉียน
“แต่ผมมั่นใจว่าท่านคงไม่ลืมว่าหอสมบัติสวรรค์ได้ตกลงอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้” หวังเย่าพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ “ตราบใดที่ฟักไข่นี่ออกมาได้ หอสมบัติสวรรค์จะทำการคืนเงินเต็มจำนวน”
เป็นธรรมดาที่เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ จะจำเรื่องนี้ได้
“นายมั่นใจหรือว่าจะฟักมันได้สำเร็จ ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่นๆมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อในความสามารถของหวังเย่า แต่มันก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ในเรื่องนี้
ยังไงซะขนาดผู้ดูแลระดับสูงที่หอสมบัติสวรรค์หามาก็ยังไม่อาจจะฟักมันได้สำเร็จ
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า มันก็ยากที่จะเชื่อได้ว่าเขาจะฟักมันออกมาได้สำเร็จ
ถ้าเป็นแบบนั้นมุมมองที่ทุกคนมีต่อหวังเย่าก็จะเปลี่ยนไปอย่างมาก
“ผมไม่กล้าบอกว่ามันจะสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ผมมั่นใจ 90 เปอร์เซ็นต์ ว่ามันจะสำเร็จได้” เพื่อจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ทุกคนต้องตกตะลึงจนมากเกินไป หวังเย่าจึงไม่กล้าบอกว่าเขามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าจะฟักมันออกมาได้สำเร็จ แต่ตัวเลข 90 เปอร์เซ็นต์ ก็ทำให้ผู้ตรวจสอบทั้งสี่หรือแม้แต่ฟางฉิงหัวต้องตะลึงได้แล้ว
ไม่รู้เลยว่าหวังเย่าเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน
ยังไงซะหอสมบัติสวรรค์ก็ยังทำไม่ได้
ในฐานะหนึ่งในกองกำลังชั้นนำของเมืองหัวเซี่ยแล้ว บอกได้ว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของหัวเซี่ย
เมื่อมีคนบอกว่าจะฟักไข่นี่ออกมาได้ ใครจะไปเชื่อกัน ?
แม้ว่าเฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ จะรู้จักหวังเย่า แต่ก็ไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้ง่าย ๆ
“นายมั่นใจหรือ ?” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะถามขึ้นมา
“แน่นอน มันก็ไม่ได้ยากอะไร” หวังเย่ายักไหล่แล้วตอบกลับ
“ฉันไม่คิดแบบนั้น” เฉี่ยนเจินเฉียนแทบหายใจไม่ออก “นายไม่เห็นรึไงว่าแม้แต่หอสมบัติสวรรค์ก็ยังฟักมันออกมาไม่ได้ นายพูดออกมาราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย ฉันไม่เข้าใจนายจริง ๆ ว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน”
“นายยอมรับมาเถอะ เราจะไม่หัวเราะเยาะนายหรอก”
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ไม่เชื่อในตัวหวังเย่าและคิดว่าเขาพูดโกหกเพื่อไว้หน้าตัวเอง
“นายมั่นใจหรือว่ามีโอกาส 90 เปอร์เซ็นต์ ที่จะฟักมันได้สำเร็จ ? ” ซือคงเป่าที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่นาน เขาได้มองไปที่หวังเย่าและพูดขึ้นมาด้วยท่าทีจริงจัง
“หือ ? ” ฟางฉิงหัวและคนอื่น ๆ พากันมองไปที่ซือคงเป่าด้วยความสงสัย
ซือคงเป่าไม่น่าจะเชื่อคำพูดของหวังเย่าไม่ใช่รึ ?
แน่นอนถึงจะอยากพูดบางอย่าง แต่เฉี่ยนเจินเฉียนกับคนอื่น ๆ ก็พากันเงียบไว้แล้วมองไปที่หวังเย่า
“แน่นอนว่าจริง ผมจะไปกล้าหลอกท่านได้ยังไง ? นอกจากนี้ผมก็ยังรู้อีกด้วยว่ามันเป็นสายพันธุ์ไหน”
ตอนนั้นเฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันอ้าปากค้าง
“อะไรนะ ? ”
“นายมั่นใจหรือว่านายไม่ได้พูดเล่น ? ”
“นายรู้จริง ๆ หรือ ? ”
มันทั้งน่าแปลกใจและน่าเหลือเชื่ออย่างมาก
ซือคงเป่าเองก็ดูอึ้งเช่นกัน
“นายบอกว่านายฟักไข่นี่ออกมาได้สำเร็จและยังรู้สายพันธุ์ของมันก่อนที่จะฟักมันอีก นายพูดเกินจริงไปแล้ว”
หวังเย่าไม่ใช่คนชอบโกหก แต่คำพูดของเขาอาจจะทำให้เขาดูเป็นคนโกหก ยังไงซะก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาก็มีระบบอยู่กับตัว
“มันเป็นสายพันธุ์ไหน ? ” ฟางฉิงหัวชี้ไปที่ไข่บนโต๊ะแล้วถามกับหวังเย่า
คนที่เหลือพากันมองหวังเย่าด้วยความแปลกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“นี่..” หวังเย่ากังวลขึ้นมา
“ไม่เป็นไร นายสบายใจได้ ไม่ว่ายังไงไข่นี่ก็เป็นของนาย หอสมบัติสวรรค์ไม่คิดจะเอามันคืน ถ้านายฟักมันได้สำเร็จจริง ๆ งั้นมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อเราเหมือนกัน” เมื่อเห็นว่าหวังเย่ากังวล ซือคงเป่าจึงได้พูดขึ้นเพื่อขจัดความกังวลที่หวังเย่ามี
เมื่อได้ยินคำพูดของซือคงเป่า หวังเย่าก็สบายใจขึ้นมาทันที เขามองไปที่ไข่บนโต๊ะแล้วพูดขึ้นมา “มันคือไข่ของอสูรมิติ”
เมื่อได้ยินที่หวังเย่าพูด เฉี่ยนเจินเฉียน, ฮวงเทียนเจวี๋ยน, จางจื้อเฉียง, ไป๋พั่วหล้าง, ฟางฉิงหัวและซือคงเป่าก็ทำท่าเหมือนโดนฟ้าผ่า
ตอนนี้พวกเขาไม่อาจจะรักษาท่าทีเยือกเย็นของตัวเองได้อีกต่อไป มันราวกับว่าพวกเขาได้ยินเรื่องที่น่าตกใจที่สุดเข้า
เมื่อเห็นสีหน้าของพวกนั้น หวังเย่าก็สับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
