บทที่ 1 ตอนที่ 24
ตอนเช้า ขณะเปิดประตูเข้าชั้นเรียน รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาที่ตัวเอง
อรุณสวัสดิ์ ก่อนที่จะได้พูดคำนั้น ก็ได้มีหลายคำกล่าวมาก่อน
「โอ้! คิทากาว่า อรุณสวัสดิ์!」
「อรุณสวัสดิ์ ทานากะ」
「อรุณสวัสดิ์! อะฮะฮะ ผมยังเป็นทรงตอนตื่นนอนอยู่เลยนะ!」
「จิงดิ เดี๋ยวค่อยแก้ทีหลัง แต๊งนะซาโต้」
ก่อนที่จะไปถึงที่นั่งตัวเอง ก็รับคำกล่าวทักทายหลายต่อหลายคน
ขณะที่กำลังตอบกลับทีละคน ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของฮิกาชิโนะและนิชิดะ
ดวงตาของทั้งคู่บอกว่า เป็นคนดังก็ลำบากหน่อย จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
ในที่สุดก็มาถึงที่นั่งตัวเองแล้ววางกระเป๋า
ในตอนเปิดเทอมใหม่ ที่นั่งได้ถูกสับเปลี่ยน ซึ่งที่นั่งของผมลงเอยมาอยู่ใกล้กับตรงกลางห้อง
เป็นตำแหน่งที่ถูกอาจารย์มองเห็นง่าย ทำให้ไม่สามารถแอบหลับหรือเล่นมือถือได้ แต่มันก็ยังมีข้อดีของมันอยู่
「อรุณสวัสดิ์ มาโระจิ」
ตัวอย่างก็ ชิโนมิยะซังที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ
「อ-อรุณสวัสดิ์ คิทากาว่าคุง」
อุชิคุระซังที่กำลังคุยอยู่กับชิโนมิยะซังกล่าวคำทักทายมาขณะที่มีท่าทีเชินอายเล็กน้อย
ผมเองก้รู้สึกอึกอักนิดหน่อย แต่ก็เก็บซ่อนมันไว้แล้วยิ้มให้
「อรุณสวัสดิ์ ชิโนมิยะซัง อุชิคุระซัง」
「โอ้ อาจารย์ วันนี้ก็มาสายเหมือนเคยเลยนะ แหม หรือว่าเมื่อวานจะดูวิดีโออะไรแปลกๆจนดึกรึเปล่า?」
คนที่พูดกับผมด้วยสำเนียงคันไซปลอมๆน่าสงสัยก็คือชายร่างอวบ…..โอโน่นั่นเอง
「ไม่ได้ดูซักหน่อย แล้วใครเป็นอาจารย์กัน」
ผมขมวดคิ้วแล้วพูดประโยคที่พูดซ้ำมาแล้วกว่า 1 อาทิตย์
ทันทีเมื่อเริ่มเทอมใหม่ โอโน่ก็เริ่มพูดคุยกับผมอย่างเป็นกันเองและเรียกผมว่าอาจารย์
โดยบอกว่าประทับใจหลังจากที่ได้ดูการแข่งของผม แต่แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นแค่การทำเป็นพิธี
ตอนที่ถูกเรียกครั้งแรกถึงกับสะดุ้งอย่างช่วยไม่ได้ หน้าหนาอะไรแบบนี้
แต่ว่า คงเป็นเพราะความเจ้าเล่ห์แบบนี้เองที่ทำให้โอโน่ผู้ซึ่งไม่มีทั้งหน้าตาดีๆ หรือเก่งการเรียน สามารถยังคงอยู่ในชนชั้นบนของห้องได้
อันที่จริง ถ้าสามารถเอาเขามาอยู่ข้างเดียวกับตัวเองได้ โอโน่ก็ค่อนข้างจะมีประโยชน์อยู่
เหตุผลที่ผมสามารถใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างสงบสุขได้ ก็เพราะเบื้องหลังมีโอโน่ทำการชักนำและควบคุมความอิจฉาริษยาต่อผมที่พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว
พูดอีกอย่างคือ ชายคนนี้ไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นคนที่รู้จักมากพอจะมีความสัมพันธ์เชิงธุรกิจได้
「โอ้ว เกือบจะไม่ทันซะแล้ว! โอ้ อรุณสวัสดิ์นะทุกคน」
ทาคาฮาชิเข้าห้องเรียนมาโดยที่เหงื่อท่วมไปทั้งตัวแม้จะเป็นฤดูหนาว
วันนี้ ชมรมเบสบอลก็ยังคงฝึกซ้อมตอนเช้าอยู่เหมือนเคย
พอได้มาอยู่กลุ่มเดียวกันแล้วก็รู้สึกตัวได้เลยว่า เอสของทีมเบสบอลของหมอนี่ไม่ใช่อะไรที่จะสามารถได้มาด้วยแค่ความพยายามธรรมดาๆ
ทั้งตอนเช้า ตอนเย็น หลังเลิกเรียน และบางครั้งก็ในวันหยุด ทุกๆวันล้วนเต็มไปด้วยเบสบอล ช่วงเวลาเดียวที่ดูสดใสก็คือระหว่างพัก นอกเหนือจากนั้น ทั้งชีวิตเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและดินโคลน
นี่ก็คือวิถีชีวิตของทาคาฮาชิ เอสของทีมเบสบอลผู้มีพรสวรรค์และเปล่งประกายเจิดจ้า
ทาคาฮาชิส่งรอยยิ้มอันสดใสมา
「โอ้ มาโร่ เห็นใน TV เมื่อวานแล้วนะ นักเรียนม.ปลายนักผจญภัยอัจฉริยะ ผู้ค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ของการ์ด! นั่นน่ะ」
「เดี๋- หยุดเลยน่า」
ด้วยคำพูดนั้นทำให้แก้มของผมเริ่มร้อนขึ้นมา
พักนี้ ไม่ว่าจะรายการข่าวอันไหน มันจะต้องมีฉากการแข่งของผมขึ้นฉายอย่างน้อยซักรอบ
ทั้งบทสนทนาระหว่างผมกับเร็นกะก่อนที่จะให้อมฤตเธอดื่มจนถึงตอนเร็นกะแปลงร่าง ถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าบน TV แล้วทุกครั้งที่ผมได้ดูมัน ก็รู้สึกอายมากเสียจนนึกว่าจะตายเพราะความโกรธ
「อะฮะฮะ อย่าพูดแบบนั้นสิ การแข่งนั่น ทำเอาประทับใจมากเลยนะรู้ไหม? แบบว่าไงนะ สายสัมพันธ์อันแท้จริงของนักผจญภัยและการ์ดเหรอ?」
พอทาคาฮาชิพูดมา ชิโนมิยะซังเองก็เริ่มล้อผมบ้าง ยิ้มให้ราวกับเป็นแมวเชสเชียร์
「ใช่ใช่ ไม่มีอะไรต้องอายเลย รู้รึเปล่า? ตอนนี้ ในหมู่นักผจญภัยหน้าใหม่ฮิตกับการตั้งชื่อให้การ์ดอยู่นะ」
「ชั้นเองก็เป็นแฟนเร็นกะจังด้วยนะ ตอนนี้เอง Twitter ของคิทากาว่าคุงเองก็มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเยอะเลยใช่ไหมล่ะ? ชั้นเองก็ชอบการตอบโต้กันของเร็นกะจังกับเมอาจังนะ」
ตามที่อุชิคุระซังบอก จำนวนผู้ติดตามของผมเพิ่มขึ้นในอัตรามหาศาลมาก
นับตั้งแต่ที่การแข่งขันถูกออกอากาศ จำนวนเพิ่มขึ้นมาเกือบ 30,000 ในเวลาแค่ 1 อาทิตย์
และที่พวกนั้นตามดูเกือบทั้งหมดก็คือเร็นกะ
รีวิวขนมของเก่าเองก็ถูกขุดขึ้นมา ได้เป็นกระแสอยู่นิดหน่อยอีกด้วย
「เอาเถอะ นี่เองก็ถือเป็นภาษีของคนดังประเภทหนึ่งที่ต้องจ่ายแหละนะ」
โอโน่แตะไหล่ผมมาเบาๆ พร้อมรอยยิ้มบนในหน้าแบบที่ว่าอดขำไม่ได้
ไอ้เจ้านี่ ขณะที่จ้องเขาอยู่ อาจารย์คาบโฮมรูมก็เปิดประตูเดินเข้ามา
「โอ่ย กลับที่นั่งได้แล้วพวกเธอ ได้เวลาโฮมรูมแล้ว」
เหล่านักเรียนต่างพากันกลับที่นั่งอย่างรวดเร็ว
ห้องเรียนเริ่มวุ่นวายขึ้นมา ผมกวาดสายตาไปรอบๆแบบผ่านๆ
ภาพธรรมดาๆในยามเช้า
และท่ามกลางมันนั้น ไม่มีวี่แววของมินามิยาม่าอยู่
หลังสิ้นสุดการแข่งขัน สภาพแวดล้อมรอบตัวผมก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งนั่น เป็นเพราะได้ชนะการแข่ง…..ซะที่ไหน
เป็นเพราะการแปลงร่างของเร็นกะที่ถูกแสดงออกมาในการต่อสู้นั้น
ก่อนอื่น มาดูสเตตัสปัจจุบันของเร็นกะกัน
【เผ่า】ซาชิกิวาราชิ (เร็นกะ)
【พลังต่อสู้】650 (240UP!)
【ทักษะติดตัว】
– โชคดีและโชคร้ายคือเชือกที่มัดรวมกันแน่น
– ซ่อนแอบ
– เวทมนตร์ฟื้นฟูพื้นฐาน -> เวทมนตร์ฟื้นฟูขั้นกลาง (CHANGE!)
【ทักษะเรียนรู้】
– ตัวตนที่ร่วงหล่น -> หวนคืนจิตวิญญาณ (CHANGE!) : สามารถแรงค์อัพไปสู่แรงค์ขั้นสูงกว่าได้ชั่วคราว, เมื่อใช้งานแล้วจำเป็นต้องเว้นช่วงเวลาตั้งแต่ 1 วันจนถึงหลายวันก่อนจะใช้งานได้อีกครั้ง, พลังต่อสู้เพิ่มขึ้น 100
– จิตวิญญาณอิสระ
– เวทมนตร์โจมตีพื้นฐาน -> เวทมนตร์โจมตีขั้นกลาง (CHANGE!)
– ลดการร่าย (NEW!) : สามารถละกระบวนการใช้งานของสกิลเวทมนตร์ได้, ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นตามระดับสกิล
– ฟื้นฟูพลังเวท (NEW!) : การฟื้นฟูพลังเวทเพิ่มขึ้น
– มิตรภาพร่วมมือ
– เวทมนตร์สถานะผิดปกติพื้นฐาน
—–หวนคืนจิตวิญญาณ
นั่นก็คือตัวตนแท้จริงของพลังที่ตื่นขึ้นของเร็นกะ
ถึงแม้ว่าจะเป็นการชั่วคราว แต่ด้วยความจริงที่ว่าสามารถแรงค์อัพโดยที่ไม่ต้องเตรียมการ์ดมอนสเตอร์ระดับสูงกว่านั้น ทำให้ทั้งโลกตกตะลึง
นับตั้งแต่ที่เขาวงกตปรากฏขึ้นและได้รู้วิธีการใช้งานการ์ดก็เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่มีข่าวการค้นพบอะไรใหม่ๆ แล้วพอคิดว่าศักยภาพของการ์ดถูกเปิดเผยไปแทบหมดแล้วนั้น ข่าวนี้ก็ออกมา
อีกทั้งยังเป็นการออกอากาศทาง TV ไปทั่วประเทศ
รายการข่าวติดต่อผมมาทันที, สถาบันวิจัยแห่งชาติก็ติดด่อผมมา, แถมด้วยการสัมภาษณ์โดยนักข่าวต่างประเทศอีก
วันเวลาเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกตัวว่า โลกทุกวันนี้หมุนรอบเขาวงกตและการ์ดมากขนาดไหน
ผมถูกขอให้อธิบายซ้ำไปซ้ำมาถึงประวัติของเหตุการณ์ นับตั้งแต่เริ่มเป็นนักผจญภัยจนมาถึงการแข่งขันครั้งนั้น ซึ่งพวกนี้เองก็ถูกออกอากาศบน TV
ส่งผลให้ทั่วทั้งโลกทำการค้นคว้าการ์ดใหม่อีกครั้ง และแล้วรายละเอียดของหวนคืนจิตวิญญาณก็เป็นที่กระจ่างชัด
อย่างแรกเลย การ์ดที่จะสามารถได้รับหวนคืนจิตวิญญาณ จะเป็นได้แค่การ์ดที่มีสกิลตัวตนที่ร่วงหล่นเท่านั้น
อย่างที่สอง การ์ดแต่ละใบจะมีไอเทมที่จำเป็นต่อการปลุกตื่นของหวนคืนจิตวิญญาณแตกต่างกันออกไป
อย่างสุดท้าย การปลุกตื่นจำเป็นต้องใช้ความสัมพันธ์อันดีของการ์ดและการตั้งชื่อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเงื่อนไขอย่างสุดท้าย มันคือสาเหตุใหญ่ที่สุดว่าทำไมการค้นพบหวนคืนจิตวิญญาณถึงได้ล่าช้ามาจนถึงตอนนี้
มีสถาบันวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านการ์ดอยู่มากมายในแต่ละประเทศ
แน่นอนว่าในหมู่นั้น บางแห่งก็มีการทดลองกับการ์ดที่มีสกิลตัวตนที่ร่วงหล่น, มอบไอเทมแพงๆอย่างอมฤตให้
มั่นใจว่าบางที่คงจะมอบของทุกอย่างที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการ์ดให้ด้วย
แต่ว่าในหมู่นั้น ไม่มีใครที่ตั้งชื่อการ์ดด้วยความรัก
แน่นอนว่ามันก็มีบางแห่งที่ตั้งชื่อให้การ์ดตามส่วนหนึ่งของการทดลอง แต่ไม่มีนักวิจัยไหนที่จะมีความรักต่อหนูทดลอง หรือมอบความใส่ใจแก่การ์ดที่ถูกนำมาใช้ราวสัตว์ทดลอง
ในหมู่สาธารณชนเอง ก็อาจจะมีบ้างที่ตั้งชื่อด้วยความรักให้กับการ์ดที่มีสกิลตัวตนที่ร่วงหล่น ทว่าคนเหล่านี้ก็ไม่มีเงินทุนในการทดลองมอบไอเทมราคาแพงให้ได้
ที่ผมค้นพบได้ก็เพราะความบังเอิญที่อมฤตเป็นไอเทมสำหรับฟื้นฟูด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าเป็นคนทั่วๆไปบางทีแล้วคงจะเลือกให้ลอสไปแล้วค่อยซื้อซาชิกิวาราชิอีกตัวมาทำการชุบชีวิต
พูดอีกอย่างคือ สกิลหวนคืนจิตวิญญาณเป็นอะไรที่มีแค่ไอ้โง่ที่ไม่สามารถคำนวณกำไรและขาดทุนได้เท่านั้นที่จะค้นพบได้
ด้วยเหตุนี้เอง ต่อให้เหล่านักวิชาการผู้ชาญฉลาดมารวมตัวกันมากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถจะค้นพบมันได้
ด้วยผลจากการรวบรวมเหล่านักผจญภัยผู้มีความรักให้กับการ์ดที่มีสกิลตัวตนที่ร่วงหล่น ทำให้การทดลองได้ผลลัพธ์มากมาย
ในหมู่นั้น ที่โดดเด่นที่สุดคือการตื่นขึ้นของการ์ดแรงค์ B
ลิลิม(Lilim) ปลุกตื่นด้วย “ดินแห่งการรังสรรค์” เป็นลิลิธ(Lilith), หนุมานปลุกตื่นด้วย “รัดเกล้า” เป็นฉีเทียนต้าเซิ่ง(斉天大聖), โกะโฮวโดวจิ ปลุกตื่นด้วย “สาเกพิษ” เป็นชูเท็นโดจิ(Shuten-doji)
มันเป็นความตกตะลึงที่ทำให้โลกอุตสาหกรรมนักผจญภัยต้องพลิกกลับหัว
นั่นก็เพราะในปัจจุบัน มีการ์ดแรงค์ A ที่ถูกยืนยันในโลกแค่เพียงไม่กี่ใบ และทั้งหมดล้วนถูกควบคุมโดยรัฐบาล
พูดอีกอย่างคือ ขีดจำกัดที่นักผจญภัยธรรมดาจะสามารถหาได้คือการ์ดแรงค์ B แล้วในที่สุดก็สามารถเพิ่มการ์ดแรงค์ A เข้ามาได้ แม้จะเป็นแค่การชั่วคราวก็ตาม
อีกทั้ง จากการทดลองนี้ได้เป็นการเปิดเผยวิธีการใช้ไอเทมที่ไม่รู้วิธีการใช้งาน เป็นการช่วยเร่งความเร็วการวิจัยการ์ดได้อย่างมาก
ไม่ว่าจะดินแห่งการรังสรรค์และรัดเกล้า เป็นไอเทมที่บางครั้งได้รับมาจากเขาวงกตแรงค์สูงๆ แต่ไม่รู้วิธีการใช้งานมัน จนถึงตอนนี้มันจึงถูกกองรวมไว้อยู่ตรงมุมของห้องวิจัย
ไอเทมที่ไม่รู้วิธีใช้งานแต่เดิมทีถูกขายเป็นเงินจำนวนเล็กน้อยในตอนนี้ก็ถูกประเมินใหม่ ได้ยินมาว่าตลาดมีการผันผวนอย่างมากในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
เหล่าการ์ดที่มาพร้อมกับหวนคืนจิตวิญญาณ การ์ดที่มีพลังมากเกินว่าแรงค์ของตัวมันเองถูกเรียกว่า แอดแวนเทจการ์ด(advantage card) ใช้แทนด้วยเครื่องหมายอย่าง C+, B+
แต่ทว่า นักผจญภัยหลายคนต่างมองแอดแวนเทจการ์ดแบบไม่สู้ดีนัก
สกิลหวนคืนจิตวิญญาณมันก็แค่ชั่วคราว
เอาการ์ดแรงค์ C+ มาเทียบกับแรงค์ B อย่างหลังมันก็ดีกว่าอยู่แล้ว
เพื่อที่จะได้รับหวนคืนจิตวิญญาณก็อาจจะต้องใช้ไอเทมแพงๆอย่างอมฤตด้วย ถ้างั้นเอาไอเทมแพงๆนั้นไปขายแล้วซื้อการ์ดแรงค์ B เลยจะไม่ดีกว่าเหรอ? นี่คือมุมมองของนักผจญภัยหลายคน
แต่ว่า เหล่านักผจญภัยระดับท็อปเห็นต่างออกไป โดยมุ่งเน้นไปที่ความจริงที่ว่าแรงค์ดั้งเดิมของแอดแวนเทจการ์ดไม่ได้เปลี่ยนแปลง
หรือพูดอีกอย่างคือ ค่าใช้จ่ายในการชุบชีวิตเมื่อลอสจะต่ำ
ที่แนวหน้าของเขาวงกตระดับสูงนั้น ที่ๆการ์ดแรงค์ C เป็นเหมือนของใช้แล้วทิ้ง แม้แต่การ์ดแรงค์ B เองก็มีโอกาศลอสที่สูง
ไม่นับแรงค์ C แต่ถ้าการ์ดแรงค์ B ลอสแล้วล่ะก็ ก็ถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแม้แต่กับนักผจญภัยระดับท็อป
ในจุดนั้น ถ้าหากเป็นแอดแวนเทจการ์ดแล้ว ค่าใช้จ่ายจะลดลงอย่างมาก
แม้จะไม่สามารถเป็นกำลังรบหลักได้ แต่ก็เป็นการ์ดที่ขาดไม่ได้ในสนามรบ นี่คือการประเมินของระดับท็อปต่อแอดแวนเทจการ์ด
ด้วยเหตุนี้ แม้จะมีข้อดีและข้อเสีย แต่แอดแวนเทจการ์ดก็เป็นที่ยอมรับโดยผู้คนอย่างล้นหลาม
ตัวผมจึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะนักผจญภัยหน้าใหม่ไฟแรงผู้ค้นพบสิ่งนี้ด้วยอายุงานสั้นๆ
แน่นอนว่าสายตาที่ผู้คนในโรงเรียนมองผมก็เปลี่ยนไป
ตอนนี้ ตัวผมได้กลายเป็นคนดังเล็กๆในโรงเรียนไปแล้ว
ตอนเช้า พอเปิดประตูห้องเรียน ทุกๆคนก็จะกล่าวคำทักทายมาโดยรอบ
เริ่มคุยกับชิโนมิยะซังและสมาชิกในกลุ่มเรียจูได้เป็นปกติ มิตรภาพกับคู่หูตะวันออก-ตะวันตกเองก็ยังคงอยู่
แล้วเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รับจดหมายรัก…..ไม่สิ เป็นอะไรที่คล้ายจดหมายแฟนๆ
ผมได้กลายเป็นท็อปของชนชั้นโรงเรียนที่ทุกๆคนรู้จัก…..แล้วก็มินามิยาม่าได้ย้ายโรงเรียนไป
เมื่อเริ่มเทอมใหม่ก็ไม่เห็นหมอนั่นแล้ว อาจารย์โฮมรูมก็บอกมาแบบเฉยๆถึงเรื่องที่ได้ย้ายโรงเรียนไป
ปฎิกิริยาของทุกคนในชั้นในเรื่องนี้คือไม่ได้สนใจ ไม่ได้ยินแม้แต่คำพูดสงสารหรือคำนินทาอะไรเลย
ราวกับว่าหมอนั่นไม่เคยมีตัวตนมาตั้งแต่แรก ผมที่ได้เห็นเพื่อนร่วมชั้นเป็นแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน
กับคู่หูตะวันออก-ตะวันตกก็ดูจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แล้วพวกเราก็จงใจหลีกเลี่ยงการเอ่ยถึงหมอนั่นต่อไป
ในวันนั้น ทำไมมินามิยาม่าถึงได้เกลียดชังผมมากขนาดนั้นและพยายามที่จะฆ่า
หลังจากจบการแข่งขันแล้วมาลองคิดดู ก็ได้คำตอบออกมา
มินามิยาม่า บางทีคงจะคิดว่าผมพยายามจะเป็นนักผจญภัยก็เพื่อจะถีบเขาลงมา
แม้จะอุตส่าห์ลำบากเป็นนักผจญภัยเพื่อเข้ากลุ่มเรียจู แต่พอโอโน่กับผมก็กลายเป็นนักผจญภัย นั่นจึงทำให้หมอนั่นกังวลใจ
กับโอโน่ที่อยู่ในกลุ่มเรียจูอยู่แล้ว…..คงจะพอโน้มน้าวตัวเองให้รับได้ แต่กับผมแล้วไม่สามารถทนรับได้อย่างสิ้นเชิง
หากมาคิดดูแล้ว ถ้าผมเข้ากลุ่มเรียจูด้วยฉายาการเป็นนักผจญภัย มันก็จะไม่เหลือที่สำหรับมินามิยาม่า
หากเป็นแบบนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเรียจูอีกต่อไป กลับไปกลุ่มเดิมของผมและคู่หูตะวันออก-ตะวันตกก็ไม่ได้ เพื่อนสนิทคนอื่นก็ไม่มี หมอนั่นก็จะถูกโดดเดี่ยว
ในทันทีทันใด ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของชนชั้นห้องเรียน
ในตอนที่พยายามจะขึ้นไปชั้นบนเพียงอย่างเดียวไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อนเลย
ไม่น่าแปลกใจที่มินามิยาม่าจะคิดว่าเพื่อนที่เคยตัดทิ้งไปแล้ว จะกลับมาแก้แค้นตัวเอง
ผลคือ หมอนั่นจึงเคลื่อนไหวเพื่อกำจัดผมด้วยการเข้าร่วมการแข่งขัน
…..ท้ายสุดแล้วก็อย่างที่รู้กัน
สิ่งที่มินามิยาม่าทำไม่ได้ถูกถ่ายทอดออกบน TV เหล่าผู้ชมที่มาชมการแข่งในวันนั้นเองก็ถูกสั่งห้ามจากทางรายการไม่ให้บันทึกภาพ แม้แต่กับ SNS พฤติกรรมน่ารังเกียจของหมอนั่นจึงไม่ถูกเผยแพร่
หรือก็คือ ไม่มีใครในชั้นเรียนนี้ที่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่หมอนั่นก่อ
อย่างไรก็ตาม มินามิยาม่าก็เลือกที่จะย้ายโรงเรียน เหล่าเพื่อนร่วมชั้นเองก็ทำเหมือนไม่อยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ต้น
สุดท้ายแล้ว นี่คงจะเป็นความจริงของชนชั้นห้องเรียนที่ผมเชื่อมั่นอย่างเด็ดขาด
การที่ไม่รู้สึกผิดหวังหรือท้อแท้กับมัน…..ก็ทำให้ตัวผมเองแปลกใจอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน
『มาโร่เทิร์น ดรอว์! มาโร่ใช้หินเวท 8 ก้อนเพื่ออัญเชิญซาชิกิวาราชิ ซาชิกิวาราชิใช้【โชคดีและโชคร้ายคือเชือกที่มัดรวมกันแน่น】! ด้วยการใช้หินเวท 2 ก้อน ผู้เล่นจะสามารถยกเลิกการโจมตีของศัตรูได้หรือโจมตีโดนศัตรูที่กำลังหลบหลีกได้!』
『อีสต์ฟิลด์เทิร์น! ดรอว์! ความสามารถพิเศษของลิลิธทำงาน! การ์ดนี้ในแต่ละเทิร์น ด้วยการใช้หินเวท 1 ก้อนจะสามารถอัญเชิญลิลิมได้ 1 ใบ! ใช้หินเวท อัญเชิญลิลิมJ! ลิลิธโจมตี! 【โชคดีและโชคร้ายคือเชือกที่มัดรวมกันแน่น】! ถูกยกเลิก ลิลิมAโจมตี! มาโร่ถูกดาเมจโดยตรง 1, ลิลิมBโจมตี! มาโร่ถูกดาเมจโดยตรง 1, ลิลิมCโจมตี! มาโร่ถูกดาเมจโดยตรง 1, ลิลิมDโจมตี! มาโร่ถูกดาเมจโดยตรง 1, ลิลิมEโจมตี! มาโร่ถูกดาเมจโดยตรง 1, ลิลิมFโจมตี! มาโร่ถูกดาเมจโดยตรง 1, ลิลิมGโจมตี! มาโร่ถูกดาเมจโดยตรง 1』
『มาโร่ HP ลดเหลือ 0 ผู้ชนะคืออีสต์ฟิลด์』
「ฟาาาาคคคคค!!!」
ผมโหยหวนให้กับคำว่า『YOU LOSE』ที่แสดงอยู่บนหน้าจอ
—–สุดสัปดาห์วันเสาร์
ผมกับคู่หูตะวันออก-ตะวันตกไปเกมเซ็นเตอร์กันเป็นครั้งแรกหลังจากที่ห่างหายไปนาน พอพวกเรามาถึงร้านเกม ที่เล่นกันส่วนใหญ่ก็คือ『การ์ดมาสเตอร์』เกมอาร์เคดที่สร้างขึ้นตามนักผจญภัย
ทำการท้าแข่งอย่างกระตือรืนร้นโดยคิดว่าจะเป็นการอวดฝีมือที่แท้จริง แต่จากเมื่อครู่ พ่ายแพ้อย่างราบคาบ
แถมแพ้เป็นตาที่ 6 ติดต่อกันอีก
ห…..หมอนี่ แข็งแกร่งจนน่ากลัว ก่อนที่จะรู้ตัว แรร์การ์ดอย่างลิลิธ…..แรร์ในหมู่แรร์การ์ดที่แทบจะไม่ได้เห็นในร้านแลกเปลี่ยนการ์ดเลย!
「ฮะฮะฮะ ชนะนักผจญภัยตัวจริงได้แล้ว พรสวรรค์ของชั้นนี่มันน่ากลัวจริงๆ」
ฮิกาชิโนะผู้ภาคภูมิใจเดินออกมาจากหลังเครื่องเกม ใบหน้านั้น เป็นสีหน้าเย่อหยิ่งอย่างน่าเกลียดจริงๆ
กุนุนุนุนุ…..
「มาโร่ก็ยังอ่อนกับเกมแข่งขันอยู่เหมือนเคย นี่ไปชนะงานแข่งมาได้ยังไงเนี่ย」
นิชิดะพูดด้วยความอึ้ง
「หนวกหู!」
「เด็คของมาโร่เน้นความโรแมนซ์มากเกินไป ถ้าแบบนั้นก็ต้องแพ้ให้กับเด็คจริงจังแน่นอนอยู่แล้ว」
-เคะเคะเคะเคะ-ฮิกาชิโนะหัวเราะ
「อืออออออ! ขออีกรอบ! ขออีกรอบ!」
「ไม่ได้ ตามกฏ คนแพ้ต้องออกไป ต่อไปเป็นตาชั้นกับนิชิดะ」
「ช่ายช่าย พวกขี้แพ้รีบออกไปเลย」
「ม่ายเอาาา! ไม่ยอมยกให้หรอก! ไม่ยอมยกให้หรอออก!」
「ด-เด็กประถมรึไง…..」
พอถูกลากลงจากเก้าอี้ การปะทะกันระหว่างนิชิดะกับฮีกาชิโนะก็เริ่มขึ้น
ฮิกาชิโนะแพ้ไปซะ ฮิกาชิโนะแพ้ไปซะ ฮิกาชิโนะแพ้ไปซะ ผมสาปแช่งไปขณะที่ดูเกมจากด้านหลังฮิกาชิโนะ
「นี่ อุตส่าห์ได้เข้าไปอยู่กลุ่มเรียจูแล้วทั้งที มาเล่นกับพวกชั้นแบบนี้ดีแล้วเหรอ?」
ฮิกาชิโนะพูดมา
「หืม?」
「เป็นถึงวันหยุดทั้งที เลยสงสัยว่าทำไมไม่ไปเที่ยวเล่นกับชิโนมิยะซังอะไรแบบนั้น」
「พวกนายชวนชั้นมาเองไม่ใช่เรอะ」
「ไม่สิ ถึงจะเป็นงั้นก็เถอะ」
ฮิกาชิโนะยิ้มเล็กน้อย
「อุตส่าห์เป็นนักผจญภัยก็เพื่อจะได้เข้ากลุ่มเรียจู ก็เลยคิดว่ามันจะดีแล้วเหรอ」
「…..พ-พูดเรื่องอะไรเหรอ ฮิกาชิโนะคุง ผมอยากจะเป็นมืออาชีพในอนาคตนะ」
「พอเถอะ ไม่ต้องแกล้งทำแบบนั้นก็ได้」
ฮิกาชิโนะพูดตัดบทผมที่เริ่มหวั่นไหวและพยายามแถ
「ตั้งแต่ขึ้นมัธยมมาก็จับกลุ่มกันทุกวันเลยใช่ไหมล่ะ? นายคิดอะไรอยู่น่ะมันบอกง่ายจะตาย ทันทีที่มินามิยาม่าเป็นนักผจญภัยก็เริ่มทำงานพิเศษทันที มันก็เห็นกันโต้งๆ ก่อนหน้าที่โอโน่จะมาเปิดเผย พวกเรารู้กันอยู่ก่อนแล้วล่ะ」
「…..งั้นเหรอ」
นั่นสินะ มันก็ต้องดูออกอยู่แล้ว คงได้แต่ยิ้มแห้งๆ
อย่างที่คิด ตอนนั้นเองก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วยสินะ ตอนที่ผมพยายามจะขอโทษที่ปิดเรื่องการเป็นนักผจญภัยไว้ เพราะงั้นก็เลยจงใจเปลี่ยนเรื่องคุย ก็คิดอยู่มันคงจะเป็นอะไรแบบนั้น
เรื่องแบบนั้นน่ะ ไม่จำเป็นจะต้องขอโทษอะไร เพราะว่าเป็นเพื่อนกันยังไงล่ะ
ถ้าจะให้บอกออกมาเป็นคำพูด…..เดาว่ามันก็คงเป็นอะไรแบบนั้น
「เอาล่ะ ตรงๆเลย เหตุผลที่มาโร่ต้องการเป็นนักผจญภัยเพื่อที่จะเข้ากลุ่มเรียจูและได้ใกล้ชิดกับอุชิคุระซังใช่รึเปล่าล่ะ?」
「พรวด!」
「ฮะฮะ กะเอาไว้แล้ว」
「ไม่ไม่ ไอ้เรื่องนั้นมัน…..จะว่าไปแล้ว ขอถามได้ไหมว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น?」
「ก็แบบ มันเข้าใจได้อยู่แล้ว ก็นายมันเป็นมนุษย์ดาวหน่มน้มตัวพ่อไง อุชิคุระซังนอกเหนือไปจากการเรียนแล้วยังว่ากันว่ามีหน้าอกใหญ่ที่สุดในโรงเรียน แต่ก็นะ พักนี้ก็มีทฤษฎีโลลิค่อนมาด้วยแหละ」
「ไม่ ไม่ใช่ว่าจะตกหลุมรักกับแค่หน้าอกอย่างเดียวซักหน่อย! แล้วก็ไม่ใช่โลลิค่อนด้วย ใครมันบอกมาว่างั้นกัน」
「เอ๋ เป็นงั้นจริงๆเหรอ? ตรงๆเลยนะ ตอนที่ได้ดูวิดีโอการแข่งนั่น ดูจะไปได้ดีกับเร็นกะจังเลยไม่ใช่รึไง?」
「ไม่ใช่เหอะ แต่ถ้าอยู่โหมดเทพธิดามันก็พอจะเป็นไปได้หรอก」
「ถ้าโหมดเทพธิดา จะดูไม่เหมือนเป็นคนรักกันแต่จะดูเป็นแค่สาวกเท่านั้นเอง ก็นะอย่างที่ได้ว่าไป มากลับเข้าเรื่องกันดีกว่า ทั้งที่อุตส่าห์ได้เป็นนักผจญภัย, ชนะงานแข่ง, แถมกลายเป็นคนดังแล้วทำไมไม่รุกเข้าหาอุชิคุระซังซะล่ะ? นี่แหละที่จะบอก」
「…………………….」
「หรือว่า จะยั้งใจเอาไว้เพราะว่าพวกเรา ถ้าเป็นงั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอกใช่ไหม? อย่างตอนมินามิยาม่า พวกเราเองก็ทำผิดไปบ้าง แต่กับนาย…..」
「เจ้าบ้าาา」
ผมสับหัวฮิกาชิโนะไปเบาๆ
「เจ็-」
「ดีแล้วล่ะ ฉันเองได้มาจับกลุ่มอยู่กับพวกนายแล้วรู้สึกสบายใจกว่า」
「มาโร่…..เหะเหะ อะไรล่ะนั่น เป็นเกย์หรอกเหรอ~」
「เดี๋ยวฆ่าซะนี่!」
ขณะที่ต่อยฮิกาชิโนะไปอีกหมัด ผมก็กล่าวขอโทษในใจ
ขอโทษนะ ฮิกาชิโนะ
ความจริงแล้วผม ได้รุกเข้าหาอุชิคุระซังไปแล้วและโดนบอกปฎิเสธมาแล้วล่ะ…..(´・ω・`)
ในวันนั้น ทันทีที่การแข่งจบลง ผมก็รุกเข้าหาอุชิคุระซังด้วยไลน์
คริสต์มาสนี้ อยากจะใช้เวลาร่วมกันกับผมไหม? บอกไปแบบนั้น
และนี่คือคำตอบที่ได้
『เอ๋ ขอโทษด้วยนะ ตอนคริสต์มาสจะไปเล่นกับคาเอเดะจังน่ะ คือว่า ถึงจู่ๆจะมาชวนแต่ก็มีแผนเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้วนะ…..』
ไม่ใช่เรื่องที่ต้องผิดหวัง มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
อันที่จริง ทำไมถึงคิดว่ามันจะไปได้สวยกัน รู้สึกอยากจะตั้งคำถามกับตัวเองในช่วงเวลานั้นซักชั่วโมง
ด้วยเหตุนี้ เวลาที่มาเจอหน้ากันทีไรในห้องเรียนเลยรู้สึกอึดอัด
อาาาาา สงสัยเหลือเกินว่าทำไมตอนนั้นถึงได้ส่งไลน์ไปกัน การที่ใครบางที่ไม่แม้แต่จะสนิทกันจู่ๆก็ส่งไลน์ส่วนตัวมาจากในไลน์กลุ่มมันย่อมน่ารังเกียจอยู่แล้ว แล้วยิ่งบ้าไปอีกที่ใครคนนั้นไปชวนเอาตอนวันก่อนคริสต์มาส สงสัยคงต้องเป็นเพราะของกำลังขึ้นจากที่ชนะงานแข่งแน่ๆ
ถ้าเกิดย้อนกลับไปได้อยากจะย้อนกลับไปตอนนั้น…..!
โชคดีที่อุชิคุระซังไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะแบบนั้น ผมจึงไม่โดนทุกคนในชั้นเรียน『คนที่เข้าใจผิดหลังจากที่ได้ชนะงานแข่ง』แล้วหัวเราะใส่
อุชิคุระซัง คุณคือนางฟ้าตัวจริงเลยครับ จากนี่ไปแค่ได้มองดูหน่มน้มก็พอใจแล้ว แค่ได้มองมันอยู่ห่างๆก็มีความสุขแล้ว
…..ก็นะ ท้ายที่สุดแล้ว
ผมได้เป็นนักผจญภัย ได้เป็นชนชั้นสูงของห้อง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรียจูอย่างที่ได้ฝันเอาไว้ เดาว่าเป็นแบบนั้น
ได้รับความชื่นชมจากทุกคน กับเป็นที่ดึงดูดกับผู้หญิงที่ชอบ ทั้ง 2 อย่างมันคนละอย่างกัน
「อาาา แพ้แล้ว! เด็คขยายจำนวนของฮิกาชิโนะนี่มันไม่โกงไปหน่อยเหรอ? ลิลิธกับเอคิดน่าเนี่ยตัวโกงเลย」
เหมือนกับผม นิชิดะแพ้ให้กับฮิกาชิโนะ
「ชักจะเบื่อแล้วสิ ต่อไปทำอะไรกันดี? ไปคาราโอเกะหรือไม่ก็โบว์ลิ่งดีไหม」
ฮิกาชิโนะพูดขณะลุกขึ้นมา
「โอ้ ได้สิ ว่าไปแล้ว งั้นไปเล่นกันมันทั้งคืนเลย ไปค้างคืนกันที่บ้านใครซักคนเถอะ」
พอผมพูดไป ดวงตาของทั้งคู่ก็ลุกวาว
「โอ้ มาโร่วันนี้ดูคึกจริงเชียว!」
「ถ้างั้นหลังเล่นกันรอบเมืองเสร็จแล้วมาบ้านชั้นสิ แล้วแวะซื้อน้ำกับขนมที่ดองกิกัน」
ขณะที่เรื่องกำลังไปได้สวย สมาร์ทโฟนผมก็เริ่มสั่น พอหยิบมาดู ก็เห็นข้อความเตือนไลน์แสดงอยู่
ด้วยประโยคนั้น ทำให้หัวใจผมเต้นแรง
นี่มัน ไม่สิ แต่ว่า ตอนนี้กำลังเล่นอยู่กับพวกฮิกาชิโนะอยู่นะ…..
ภายในตัวผมมีตาชั่ง ทั้ง 2 ข้างมีน้ำหนักถ่วงอยู่ ที่ข้างหนึ่งคือคู่หูตะวันออก-ตะวันตก ส่วนที่อีกข้างหนึ่งมีผู้ส่งข้อความในไลน์
ทันทีที่ชั่งน้ำหนัก—-คนหลังก็กดตาชั่งลงทันที
‘โทษทีนะ ฮิกาชิโนะ นิชิดะ
「’โทษที ชั้น อย่างที่คิด คงต้องไปจากที่นี่ซะแล้วล่ะ!」
「ห๊ะ!?」
「จู่ๆเป็นอะไรไปเนี่ย!?」
「ก็แหม ฮี่ฮี่ฮี่ เมื่อกี้ชิโนมิยะซังเพิ่งจะทักมาน่ะสิ」
ผมพูดพร้อมโชว์ข้อความไลน์ให้ดู
『ตอนนี้ ชั้นกับเพื่อนผู้หญิงอีก 4 คนกำลังร้องคาราโอเกะกันอยู่ จะมาด้วยไหม? ปล. ชิซุกะเองก็อยู่ด้วยนะ(lol)』
พอได้เห็นข้อความ คู่หูตะวันออก-ตะวันตกก็อ้าปากค้าง
「อ-อ-อ-อย่ามาล้อกันเล่นนะ!」
「ต้องฆ่าทิ้งซะ โอร่า!」
กลายร่างเป็นยักษ์พร้อมชูกำปั้น
「เดี๋- ขอเวลานอกขอเวลานอก」
「หุบปาก เจ้าคนทรยศ!」
「แล้วก็ทำไมไม่ชวนพวกเราไปด้วยกันล่ะ! คิดจะแอบไปแล้วสร้างฮาเร็มงั้นเรอะ!」
「ได้เป็นนักผจญภัยแล้วอย่างเหลิงให้มันมากนักนะ!」
โอ้ววว จิตสังหารอะไรขนาดนี้!
แรงกดดันมากยิ่งกว่าชายเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลินอีก!
ต-ต้องหนี! ผมวิ่งออกไปจากอาร์เคด
「หยุดนะเฟ้ย!」
「จะอัดให้น่วมจนไปโผล่ต่อหน้าสาวๆไม่ได้เลยคอยดู!」
—-ขณะที่กำลังวิ่งหนีพวกเพื่อนๆที่กลายร่างเป็นปีศาจ ผมก็คิด
ในเดือนที่แสนวุ่นวายที่ผ่านมานี้เป็นช่วงเวลาที่เข้มข้นที่สุดในชีวิตของผม และผู้ที่อยู่ตรงกลางนั้น ไม่ใช่ผมแต่อาจจะเป็นเร็นกะก็เป็นได้
ผมที่จับได้พวกเร็นกะในครั้งเดียว
แล้วได้เจอกับชายเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลิน
แล้วก็ได้อมฤตมาไว้ในมือ
ถูกโอโน่รู้เรื่องนักผจญภัยแล้วลงเอยด้วยการลงงานแข่ง
ทุกๆอย่างอาจจะเป็นแค่ขั้นตอนเพื่อที่เร็นกะจะได้พลังดั้งเดิมกลับคืนมา
ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ที่ผมชนะงานแข่งและได้เป็นที่ยอมรับจากทุกคน อาจจะเป็นเพราะได้แบ่งโชคดีมาจากเร็นกะก็เป็นได้
แต่ว่า…..ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดต่อเนื่องนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของคลื่นที่ใหญ่กว่าที่รายล้อมเร็นกะอยู่ล่ะก็
สงสัยจริงๆว่าจะมีโชคดีและโชคร้ายแบบไหนกำลังรอผมอยู่จากนี้ไป
…..ว่าไปนั่น คงจะคิดมากไปเองแหละ
อย่างหนึ่งที่แน่นอนเลยคือ ผมจะยังเป็นนักผจญภัยอยู่ต่อไป
ตอนที่มุ่งจะขึ้นไปชั้นบนของชนชั้นห้องเรียน ความหลงไหลของผมมันคงจะเบี่ยงเอนไปโดยไม่รู้ตัว
เพราะแบบนั้น จึงไม่รู้สึกผิดหวังในตอนที่ได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของชนชั้นห้องเรียน
ทั้งชนชั้นห้องเรียนทั้งเรียจู ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
เทียบกับการได้ผจญภัยไปในเขาวงกตกับเร็นกะและเหล่าการ์ด
มันทั้งน่าสนใจและคุ้มค่ากว่ากันมาก…..นั่นคือสิ่งที่ได้เรียนรู้
…..อา ไม่สิ อย่างที่คิด อยากจะกลายเป็นเรียจูจริงๆ ล่ะมั้ง?
แฟนน่ารักหน้าอกใหญ่…..อยากมีจังน้า
「โอร่า อย่ามัวแต่ซ่อน โผล่หัวมานะ!」
「จับแก้ผ้าแล้วโพสลงไลน์มันซะ!」
โอ้วว แย่แล้ว! นี่ไม่ใช่เวลาจะมาหนีจากความจริง เจ้าพวกนั้นมันเอาจริง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปได้ตายในทางสังคมแน่!
การเล่นไล่จับของพวกเรากินพื้นที่ไปทั่วเมือง แล้วสุดท้ายก็ต่อเนื่องยาวไปยันเช้าวันถัดไป
【Tips】เร็นกะ
ในหมู่การ์ด จะมีบางส่วนที่มีพลังที่สามารถส่งผลถึงโดยรอบได้แม้แต่นอกเขาวงกต พวกนี้จะถูกเรียกว่า”การ์ดต้องสาป” แถมบางส่วนยังควบคุมได้แม้แต่กับมาสเตอร์ของตัวเอง
เร็นกะเองก็เป็นหนึ่งในการ์ดต้องสาป
สกิลของซาชิกิวาราชิ【โชคดีและโชคร้ายคือเชือกที่มัดรวมกันแน่น】ให้พูดก็คือมีพลังในการควบคุมโชคชะตา
เร็นกะถูกเปลี่ยนเป็นการ์ดด้วยมาสเตอร์ที่ไม่เข้ากัน ทำให้ต้องปล่อยเธอไปด้วยการปรากฏของสกิลปิดกั้นจิตใจ เร็นกะที่ถูกขายให้กับกิลล์ตัดสินใจรอที่นั่นเพื่อมาสเตอร์ที่เข้ากันได้กับเธอจะมาได้ไป ทั้งที่ไปอยู่ในแพ็คก็ด้วย เพื่อที่ต่อให้มาสเตอร์ที่เข้ากันได้จะไม่มีเงินก็สามารถได้ตัวเธอไป ในแพ็คเดียวกันนั้นเอง ก็มีการ์ดที่เข้ากันได้รวมอยู่ด้วย การจับได้อย่างสุดยอดของอุทามาโร่เองก็ไม่ได้เกิดจากโชคของตัวเอง แต่เป็นเพราะการควบคุมโชคชะตาของเร็นกะ
ทว่าการควบคุมโชคชะตาอย่างไม่สมเหตุสมผลจะก่อให้เกิดการบิดเบี้ยวในกฏของเหตุและผล นั่นนำไปสู่การเจอกับอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ชายเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลิน ทว่าด้วยการก้าวผ่านมันมาได้ โชคร้ายจึงกลายเป็นดี
ด้วยโชคดีนั้นนำพาไปสู่การได้ไอเทมสำคัญอย่างอมฤต และไปสู่เวทีที่จะใช้มัน และผลลัพธ์ เร็นกะจึงสามารถได้รับสกิลหวนคืนจิตวิญญาณกลับมา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้สึกตัว เจ้าตัวเร็นกะเองก็ไม่ได้รู้ถึงคุณลักษณะของตัวเองด้วย
อันที่จริง เกี่ยวกับอุทามาโร่「เป็นคนที่มีทั้งขึ้นทั้งลงอะไรแบบนี้ ถ้าชั้นไม่คอยอยู่ด้วยล่ะก็ คงจะตายเร็วแน่ ช่วยไม่ได้แหะ」คิดแบบนั้นอยู่
ของแถม…..หมายเหตุข้างเคียง คำสาปที่ทำให้ขี้แตกบนรถไฟนั้นทำงานสมบูรณ์ดี
ข้อมูลเพิ่มเติม
ฉีเทียนต้าเซิ่ง/斉天大聖/ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน, 1 ในฉายาของซุนหงอคงจากนิยายจีนเรื่องไซอิ๋ว
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Great_Sage,_Heaven%27s_Equal
โกะโฮวโดวจิ(護法童子) อยู่ในกลุ่มเทพเจ้าผู้คอยปกป้องพุทธศาสนา กล่าวกันว่า เทพองค์นี้ระหว่างเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ จะมีวงล้อธรรมจักรวิ่งนำหน้า
https://en.wikipedia.org/wiki/Goh%C5%8D_d%C5%8Dji
ชูเท็นโดจิ(Shuten-doji)
https://en.wikipedia.org/wiki/Shuten-dōji
ดองกิโฮเต้ ร้านขายของลดราคาของญี่ปุ่น
https://en.wikipedia.org/wiki/Don_Quijote_(store)