โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 15

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่2 ตอนที่6

 

อิน่านำทางเราไปยังมุมหนึ่งของย่านการค้า เนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้ามากมายจากหลายประเทศทำให้มีโรงแรมขนาดเล็กจำนวนมากที่นี่ไว้ให้สำหรับพักผ่อนมีตั้งแต่โรงแรมราคาถูกไปยันหรูหราเลยทีเดียว

โรงแรมที่โนโซมุเข้าไปเป็นโรงแรมที่มีชื่อว่า “เรือนร่างของโค”เห็นได้ชัดว่าชั้นหนึ่งของโรงแรมเป็นบาร์และดูเหมือนว่าชั้นสองจะเป็นส่วนของห้องพัก

「ที่นี่คือโรงแรมขนาดเล็ก “เรือนร่างของโค”ที่พวกเรากำลังบริหารอยู่」

อิน่าชี้ไปทางเข้าร้าน โนโซมุเดินตามเข้าไปเจอกับคุณป้าท่าทางใจดีกำลังต้อนรับพวกเราอยู่

「อุมุ กลับมาแล้วงั้นเหรอจ้ะอิน่า เจอมาร์ไหมจ้ะ?」

「กลับมาแล้วค่า ฮันนะ ก็จัดไปชุดใหญ่เลยล่ะคะ ก็ชอบทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ แถมยังสร้างปัญหาด้วย และนั่นก็คือคนที่พี่เขาไปรบกวนไว้ค่ะ」

「อ่าา นั่นสินะจ้ะ ต้องขอโทษแทนลูกชายที่แสนงี่เง่านี่ด้วยนะที่ไปรบกวนเธอเข้า ดังนั้นรอนี่สักแป๊ปหนึ่งน้า」

「ไม่ล่ะครับ อย่าใส่ใจไปเลย ไม่ต้องสนใจข้าขนาดนั้นก็ได้ครับ」

「เป็นเด็กดีอะไรขนาดนี้กันนะ รอสักเดี๋ยวเถอะนะจ้ะ นี่! นี่แกไปรวกวนคนอื่นมาีกแล้วสินะ!! ไปสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอีกแล้ว!! มานี่เลยเจ้าตัวดี!!」

「จะจะจะจะจะจะเจ็บ!! ปล่อยนะยัยแม่บ้านี่!! บ้าเอ้ย!!」

จากนั้นคุณฮันนะดึงหูและลากหาไปในครัวและหลังจากนั้นเองก็ได้ยินเสียง “ตุบ” “โบ๊ะ”ก้องไปทั่วทั้งโรงแรม

◇◆◇

หลังจากนั้นไม่นานฮันนะก็กลับมาพร้อมถาดขนมปังและเนื้อสีน้ำตาลชุ่มช่ำ เสิร์ฟพร้อมสลัด

 

「นี่น่ะน้าาา เป็นอาหารที่ทาง “เรือนร่างของโค”ภูมิใจนำเสนอเลยนะจ้ะ สเต็กกระต่ายบ้านพร้อมสลัดผัก ถือซะว่าแทนคำขอโทษที่ลูกชายเจ้าปัญหาของฉันไปสร้างปัญหาให้เธอด้วยนะจ้ะ」

 

เธอพูดเช่นนั้นพร้อมกับเอาอาหารมาวางไว้ตรงหน้าข้า กลิ่นหอมๆของเนื้อกระต่ายและน้ำเกรวี่ไหลเยิ้มออกมากระตุ้นความอยากอาหารให้กับโนโซมุเป็นอย่างมาก ตอนนี้ก็ถึงเวลามื้อกลางวันพอดี โนโซมุเองก็หิวเช่นกัน

ฮันนะบอกกับโนโซมุว่า「ทานได้เลยไม่ต้องคิดมาก。」ดังนั้นเขาเลยหยิบจานที่เตรียมไว้ให้ทันที

กระต่ายบ้าน(アナウサギ)เป็นกระต่ายป่าที่อาศัยอยู่แถวๆนี้และตามชื่อของมันๆเป็นกระต่ายที่ชอบขุดหลุมและอาศัยอยู่ในนั้นราวกับบ้านของมันและถูกล่าอยู่บ่อยๆ

สเต็กกระต่ายบ้านนี่มีความนุ่มมากผ่านการอบมาอย่างดีและมีกลิ่นหอมของสาเกที่ใช้อบด้วย น้ำเกรวี่ที่ใช้ราดเองก็ให้รสชาติเข้มข้นจนเรียกได้ว่าจานนี้เพอร์เฟคสุดๆ

สลัดและขนมังที่ติดมาด้วยกันนั้นก็เข้ากันได้ดีมากกับเนื้อกระต่ายและดูเหมือนว่ายิ่งกินก็ยิ่งอยากอาหารมากขึ้นไปอีก

「ขอบคุณมากครับสำหรับอาหารมื้อนี้ อร่อยมากๆเลยล่ะครับ!」

 

เมื่อโนโซมุทานอาหารเสร็จในพริบตานั้น ฮันนะที่จ้องมองก็หัวเราะออกมาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

 

「น่า น่า ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ! ไม่ต้องกังวลไป เพราะลูกบ้านั่นทำให้เธอเดือดร้อน อร่อยใช่ไหมล่ะ」

 

「ใช่แล้วล่ะ แต่เดิมพี่ชายก็ชอบสร้างปัญหาตลอดเวลา คุณโนโซมุไม่ต้องกังวลนะคะ แล้วทำไมจู่ๆเขาถึงเรียกคุณไปและจะฆ่าแกงแบบนั้นละคะ………………」

 

「เพราะลูกงี่เง่านั่นทำให้สามีฉันต้องลำบากไปด้วย ช่วยยกโทษด้วยจะได้ไหมจ้ะ?」

 

「อ่าาา ครับตอนแรกข้าก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับเขาอยู่แล้วด้วย…………」

 

ก็จริงที่ข้าอาจจะโกรธไปบ้างเพราะเขาเข้ามาโจมตีแบบกระทันหันแต่หลังจากเห็นอิน่าดุพี่ชายของเธอแล้วแค่นั้นก็พอแล้วล่ะ

 

「นั่นสินะ……ขอบคุณจริงๆ…………อิน่าจัง้ตองขอโทษด้วยนะจ้ะ แต่ว่าสามีฉันต้องเตรียมงานตอนกลางดึก ดังนั้นมาช่วยกันหน่อยได้ไหมจ้ะ」

 

「เอะ……อะ ค่ะ เข้าใจแล้ว」

 

อิน่าเข้าใจราวกับว่าฮันนะพยายามจะสื่ออะไรบางอย่างและหายเข้าไปในครัวพร้อมกับจานเปล่านั่น

 

「……โนโซมุคุงสินะจ้ะ? มีอะไรอยากจะคุยด้วยน่ะ…………ถ้าไม่รังเกียจขอเวลาสักครู่จะได้ไหม?」

 

「อยากจะคุยเรื่องอะไรเหรอครับ?」

 

「ก็เด็กสองคนนั้นไง มาร์กับอิน่าจัง เธอคิดยังไงกับสองคนนั้นเหรอ?」

 

「เอะ?」

 

โนโซมุรู้สึกปวดหัวทันทีเพราะอยู่ๆก็ไม่เข้าใจกับคำถามตรงหน้านั่น ยังไงก็ตามข้าก็พูดไปตามตรง เพราะจากสายตาของฮันนะดูแล้วจริงจังมาก

 

「……เอ่อ………ข้าเองก็คงพูดอะไรไม่ได้มากหรอกครับเพราะเพิ่งได้เจอกับอิน่าได้ไม่นาน แต่ข้าคิดว่าเธอเป็นคนที่เข้มแข็งเป็นอย่างมาก บางทีส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะมาร์ด้วยครับ」

 

อิน่าสำหรับโนโซมุยังไม่แน่ใจ แต่คิดว่าเธอเป็นคนที่เข้มแข็งและคอยไปไล่จับผิดพี่ชายของเธออยู่เสมอ

 

「เกี่ยวกับตัวมาร์……ข้าไม่รู้หรอกว่าเขาคิดยังไงกับข้ากันแน่ แต่ก่อนเขาไม่ค่อยสนใจข้าเลยแม้แต่น้อย…แต่ว่าตั้งแต่ขึ้นปี 3 ก็เริ่มทำตัวแปลกๆครับ」

 

มาร์ที่แพ้โนโซมุก่อนจะจบการสอบปลายภาคปี 2

ตั้งแต่นั้นมามาร์ก็ไม่เคยดูถูกโนโซมุอีกเลย

โนโซมุเองก็คิดว่าตัวมาร์เองก็เปลี่ยนไปอย่างมากเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

อย่างไรก็ตามตอนที่ฮันนะได้ยินเกี่ยวกับการต่อสู้เธอก็หัวเราะออกมาราวกับเชื่ออะไรบางอย่าง

 

「นั่นไง……อย่างที่คิด」

 

「แล้วหลังจากนั้นเป็นยังไงครับ?」

 

「ฉันรู้ว่าสำหรับตัวเธอแล้วอาจจะสับสน แต่ฉันที่ได้ฟังเรื่องราวจากโนโซมุคุงแล้ว ก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมดแล้วล่ะ」

 

「เหตุผลงั้นเหรอครับ…………………?」

 

「ใช่แล้วล่ะ………ตอนนี้เองเริ่มหายห่วงหมอนั่นละ อย่างน้อยเขาก็ยังมีคนที่สามารถเป็นเพื่อนได้อยู่นี่น่ะ」

 

「……เอะ หมายความว่ายังไงครับ?」

 

ฮันนะพูดออกมาอย่างมีความสุขแต่โนโซมุยังคงสับสนกับคำพูดของเธอ เธอดูร่าเริงขึ้นเล็กน้อย มาร์ที่แสดงท่าทางกับโนโซมุที่เปลี่ยนไปทำให้เธอคิดว่าเป็นเพื่อนกันงั้นเหรอ

 

 

「น่าาา เอาจริงๆแล้วหมอนั่นไม่ได้เกลียดการที่เธอมาที่นี่หรอกนะ แต่ว่าบางทีเพราะหมอนั่นคงจะรู้สึกผิดในแบบของตัวเองนั่นละนะ?」

 

โดยปกติแล้วมาร์ไม่เคยพาใครมาที่โรงแรมที่เป็นบ้านของเขาเลย เพื่อนที่เขารู้ว่าไม่ดีจริงเขาก็จะไม่พามา แต่ว่าฟังจากเรื่องราวของเธอแล้วดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับโนโซมุเป็นเพื่อน โนโซมุเองก็ตกใจเหมือนกัน

 

(อย่างน้อยเขาก็สำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองเคยทำกับข้าเอาไว้ ดูเหมือนว่าเขาไม่ใช่คนที่แย่ตามที่คิดไว้นะ…………)

 

อย่างน้อยสำหรับมาร์และโนโซมุในตอนนี้บรรยากาศยังคงคลุมเครือแต่ว่าจากการกระทำของมาร์แล้ว เขาพยายามปกป้องครอบครัวของตัวเองในแบบของเขาอยู่ ซึ่งนั่นก็ทำให้โนโซมุรู้จักอีกด้านหนึ่งของตัวมาร์

◇◆◇

ย้อนเวลากลับไปตอนที่โนโซมุกำลังทานอาหารของฮันนะ มาร์อยู่กับพ่อที่ทำหน้าตาบึ้งตึงในห้องครัว

ชื่อของชายร่างยักษ์คนนั้นคือเดล สามีของฮันนะและเป็นเจ้าของร้านแห่งนีั

มาร์ที่เพิ่งโดนฮันนะเทศนาและในที่สุดก็หลุดพ้นสักทีเมื่อเดลทำอาหารเสร็จก็ส่งให้ฮันนะเอาไปให้โนโซมุ

อย่างไรก็ตามมาร์ที่นั่งหัวโนอยู่เพราะถูกฮันนะทุบด้วยกระทะเหล็ก จนน้ำตาไหล

 

 

 

「เฮ้อ แกคิดว่า…ตัวเองจะทำตัวแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหรกัน?」

 

「………………」

 

ตัวเดลเองประหลาดใจอย่างมากกับสิ่งที่มาร์ทำต่อโนโซมุ มาร์ที่ทำเกินเลยไปเองก็ได้แต่ทำแต่เงียบอยู่อย่างนั้น

 

「เป็นเพราะว่าเขางั้นเหรอช่วงนี้แกเลยทำตัวบ้าๆแบบนี้?」

 

「……………………」

 

「จากมุมมองของแกแล้ว บางทีแกคงจะ…………เด็กที่ชื่อโนโซมุคุงสินะ? เขาเอาชนะแกได้ใช่ไหมล่ะ?」

 

「อ่าาา!!」

 

มาร์ตกใจที่พ่อของเขารู้ความจริง ทั้งๆที่เขาไม่เคยบอกใครเลยแท้ๆ

 

「แกจะทำตัวแบบนั้นไปอีกสักกี่ปีกัน เมื่อไรจะมาช่วยงานที่บ้าน? แกรู้ไหมว่าข้าเนี่ยเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็นเลี้ยงดูแกมาแต่แกทำแบบนี้เนี่ยนะ「ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อยน่า!」?」

 

 

 

「……ข้าก็แค่อยากจะรู้ว่าหมอนั่นมันทำยังไงถึงได้แข็งแกร่งขึ้นขนาดนั้น……」

 

มาร์หันหน้าไปหาพ่อเขาและบ่นเช่นนั้น เดลที่ได้ยินเช่นนั้นก็「งั้นรึ……」

มาร์เองก็มักจะมีปัญหากับฮันนะและอิน่าบ่อยๆ ท้ายที่สุดเขาก็ยังคงยึดมั่นในเกียรติไม่ยอมบอกพวกเธอ พยายามปกป้องพวกเธอเหล่านั้นอยู่ในเงามืดเสมอ

 อย่างไรก็ตามเดลเองก็มีเรื่องหลายครั้งที่ต้องคุยกับเขาตรงๆ สำหรับมาร์ เดลเป็นพ่อที่ไม่มีใครมาแทนได้ในครอบครัวของเขาเรียกได้ว่าเป็น “พ่อที่มีความน่าเชื่อถือ”เป็นอย่างมาก เขานับถือพ่อคนนี้จริงๆ แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดก็ตาม……。

 

「แล้วทำไมแกถึงได้ไปทำตัวแบบนั้นกันล่ะ แค่ถามเขาตรงๆก็น่าจะพอแล้วนี่」

 

「………………ตอนนั้นพ่อเองก็เคยได้ยินนี่? ใครๆก็ต่างบอกว่าข้าเป็นคนแย่ๆไม่มีด้านดีๆสักอย่างเลย……」

 

เห็นได้ชัดมาร์ยังไม่อยากพูดอย่างตรงไปตรงมากับคนอื่น ถึงยังงั้นเขาก็ยังคงเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป นั่นละท่าทางตามปกติของเขา

 

「แกเองก็รู้ตัวนี่ว่าตัวเองแย่」

 

「นี่คิดว่าข้าโง่หรือไงกัน!」

 

「ไม่หรอก ข้าเองก็จับตาเฝ้าดูเจ้ามาตลอด แค่คิดว่าตัวเจ้ามีแมงกระพรุนไฟฟ้าฝังอยู่ในหัวปะเนี่ย…………」

 

「ไม่รู้วุ้ย!!」

 

มาร์หันหน้าแดงๆหนีออกไป แต่ว่ามาร์ที่เห็นเช่นนั้นก็โล่งอก

มาร์นั่นมักจะคบเพื่อนแย่ๆเสมอและก็ไม่เคยคิดว่าพวกนั้นเป็นพวกที่ไว้ใจได้เลยและพยายามกีดกันพวกนั้นออกจากที่แห่งนี้

บางทีอาจจะเป็นเพราะว่ากังวลกับตัวเอง ถึงแม้ว่ามาร์จะเป็นคนน่ารำคาญ แต่เมื่อเขาเห็นอิน่า เขาก็ไม่เถียง และยอมให้พาโนโซมุมาด้วย แสดงว่ามาร์เองก็ยอมรับในตัวโนโซมุ

 

 

ยังไงก็ตามแมงกระพรุนไฟฟ้าเป็นสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในทะเล ขณะที่ตัวมันลอยอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรมันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกไปด้วยหนวดยาวๆของมันจนเหยื่อสลบไป

แม้ว่าตัวโตเต็มวัยของมันจะมีขนาดใหญ่พอๆกับผู้ใหญ่ แต่ว่ามันทำได้เพียงแค่ลอยไปตามทะเลดังนั้นจึงเป็นอันตรายน้อย

 

 

 

เดลรู้สึกดีใจที่มาร์หาเพื่อนได้ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นสิ่งที่เขาควรจะทำ

 

 

 

「…………อย่างน้อยแกก็ควรไปขอโทษในสิ่งที่แกเคยทำกับเขาเอาไว้นะ」

 

「เออ รู้แล้วละน่า…………」

 

เดลแสดงท่าทีผ่อนคลาย มาร์ที่ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้ารับอย่างช้าๆ

◇◆◇

โนโซมุได้รับการปฏิบัติอย่างดี ดังนั้นเขาคิดว่าตัวเองมารบกวนมากเกินไปเขาเลยจะขอตัวกลับ

 

「รบกวนไว้เยอะเลยนะครับ แต่ว่าอาหารอร่อยจริงๆนะครับ」

 

「ไมเ่ป็นไรหรอก ไว้มาใหม่นะ อาหารมีให้ทานเยอะแยะเลยล่ะ อย่างอันนี้เองก็ด้วยนะ」

 

「คุณโนโซมุบางทีอาจจะต้องรบกวนอีกค่ะ ดังนั้นขอบคุณนะคะ」

 

เดลตอบกลับเช่นนั้นพร้อมกับยิ้ม อิน่าเองก็โค้งคำนับให้ข้า

 

「เออ ถ้างั้นมาร์แกเองก็สร้างปัญหาให้โนโซมุไว้มาก ดังนั้นก็ไปส่งเขาหน่อยสิ」

 

「เข้าใจแล้ว…………」

 

 

มาร์ตอบสนองต่อท่าทีของฮันนะ ที่กำลังทำท่าทางโกรธ เขาทำท่าทางขี้เกียจเล็กน้อย ข้าเองก็ขอบคุณและกลับหอพักพร้อมกับมาร์

 

 

 

ระหว่างทางทั้งสองยังคงเงียบ จนถึงตอนนี้ มาร์สร้างปัญหาให้โนโซมุไว้มากมาย แต่ว่าโนโซมุเองก็ไม่เคยบ่นอะไรเขา มาร์คิดว่ามันดูไร้เหตุผลจริงๆเลย

 

 

มาร์เองเป็นคนที่ทำลายความเงียบนี่ออกไป

 

 

「อ่าาา…ตลอดมาข้าทำไม่ดีกับแกมาโดยตลอด………」

 

มาร์เริ่มพูดขอโทษโนโซมุด้วยท่าทางเกร็งๆ

 

「เอ่อ อย่าใส่ใจไปเลยข้าเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักหรอก(อย่างที่คิดเขาเองก็เป็นคนดีใช่ว่าจะทำร้ายคนอื่นโดยไร้เหตุผล)」

 

โนโซมุเองจำได้ว่าอิน่าที่ทำร้ายจิตใจพี่ชายของเธอ มาร์ตอนนั้นเองน่าจะหนักเลยล่ะ

โนโซมุไม่สามารถคิดอะไรต่อไปจึงพูดต่อ

 

「…………ตอนนี้ คิดอะไรแปลกๆอยู่รึเปล่าเนี่ย?」

 

มาร์ถามโนโซมุที่กำลังทำท่าทีสับสนกับตัวเอง

 

「เปล่า สำหรับข้าแล้วน่ะนะ การโดนน้องสาวพูดทำลายจิตใจซะขนาดนั้นเป็นข้าเองก็คงทนไม่ไหวจนเศร้าเหมือนกัน ว่าแต่ทำไมถึงต้องทำให้น้องสาวผิดหวังขนาดนั้นละ?…………。」

 

「แกก! แกคิดแบบนั้นเองสินะ!! แกจำเรื่องพวกนั้นได้สนิทเลยสินะ?!!」

 

「เอ่อ เรื่องแบบนั้นเห็นต่อหน้ามันดูทำร้ายจิตใจอย่างหนักมันก็เลยจำได้แม่น…………」

 

「ลืมไปซะ! ลืมไปซะให้หมดเลย!! รีบๆลืมมันไปเดี๋ยวนี้เลย!!!」

 

「ฮะเฮ้ย!คิดจะทำยังไง!!!」

 

มาร์พุ่งเข้าหาโนโซมุโนโซมุก็พุ่งเข้าหามาร์ แต่ว่ารู้สึกว่าระยะห่างระหว่างสองคนนั้นสั้นลงแล้ว

 

(น่าคิดถึงจริงๆ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถพูดได้อย่างสบายใจเช่นนี้เหมือนอาจารย์)

 

สองคนนั้นเอะอะโวยวายอยู่หน้าประตู จากมุมมองแล้วไม่ว่ายังไงเพื่อนที่ดูเป็นคนเลวคนนี้ก็กลับมาสนิทกับข้าเสียแล้วซะนี่

 

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท