โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 20

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่2ตอนจบพาร์ทจบส่วนที่ 1

พลังเวทย์ปกคลุมไปทั่วทั้งคฤหาสน์ของตระกูลฟรานซิส

พลังเวทย์เข้าโอบล้อมพวกโนโซมุจนทำให้เกิดอาการง่วงอย่างรุนแรงเข้าโจมตีพวกเขา

「อึก!อะ!」

อาการง่วงนอนของโนโซมุถูกสลัดทิ้งไปเมื่อเขาเปิดใช้งานพลังจิตวิญญาณทั่วร่าง มองไปรอบๆฉากรอบๆนั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

「นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ยค่ะ?」

โซเมียถามพี่สาวของเธอ

「บางทีนี่เป็นบาเรียเวทย์………ส่วนผลของมันก็คือ」

บาเรียเวทย์เป็นหนึ่งในในการใช้เวทย์ที่จะสร้างพื้นที่รอบๆที่ถูกปลุกไปด้วยพลังเวทย์เป็นอาณาเขต

มีผลอยู่เป็นระยะเวลานานและขึ้นอยู่กับผู้ใช้ที่เป็นคนร่าย แต่โดยทั่วไปแล้วมันเป็นเวทย์ที่ใช้เวลาเตรียมการค่อนข้างนานพอตัว

นอกจากนี้หากยิ่งมันแสดงผลนานเอฟเฟกต์ของมันก็จะน้อยลงตามระยะเวลา

เมื่อมองไปที่มาร์และคนอื่นๆ มาร์ ไอริส และทิม่าดูท่าทางจะยังไหวอยู่ แต่อิน่านั้นหอบหายใจรุนแรง

「ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่จู่ๆก็ทำแบบนี้ อย่างไรก็ตามๆที่สัญญาเอาไว้กระผมจะสกัดวิญญาณของคุณหนูโซเมียออกจากเตาหลอมให้เองครับ」

โนโซมุสงสัยในคำพูดของชายชราที่ชื่อรูกาโต้นี่

「……สกัดวิญญาณของฉันออกมา……………หมายความว่ายังไงคะ?」

โซเมียถามรูกาโต้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไอริสเองก็ทำท่าทางโกรธมาก

จากมุมมองของพวกเขาแล้วชายชราตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับพวกน่าสงสัย

「ก็ตามที่กระผมได้กล่าวไป สัญญาที่ทำไว้เมื่อ 300 ปีก่อนของตระกูลวาเซียร์ตที่จะให้ความช่วยเหลือตระกูลฟรานซิสที่มีอยู่ในขณะนั้น ในเวลานั้นทางเราก็ได้มอบเตาหลอมวิญญาณนี่ให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือ มันคือสัญญาที่ได้พูดคุยกันในตอนนั้นครับ」

ชายชราคนนั้นหยิบแผ่นหนังเก่าๆออกมาจากอกและกางออกให้พวกโนโซมุได้เห็น ในแผ่นหนังนั่นระบุไว้ว่าตระกูลวาเซียร์ตจะให้ความช่วยเหลือตระกูลฟรานซิสเพื่อโชคลาภครั้งใหญ่และได้มอบอุปกรณ์เวทย์เป็นเตาหลอมวิญญาณให้กับตระกูลฟรานซิสเป็นการยืมใช้ชั่วคราว ยังไงก็ตามเพื่อปกป้องสัญญานี่จะไม่ให้ทั้งสองตระกูลเป็นฝ่ายถือสัญญาด้วยตัวเองแต่จะมีตัวกลางหากตระกูลใดผิดสัญญา ผู้ที่เป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบันจะต้องเป็นคนรับผิดชอบสัญญานั่นด้วยตัวเองนอกจากนี้มันยังมีตราประจำตระกูลของตระกูลฟรานซิสที่มีแต่หัวหน้าตระกูลที่ใช้ได้อยู่ด้วย

「ก็เพราะเหตุนี้แหละครับ………………」

「พี่คะ…………」  

ไอริสและโซเมียต่างตกใจเพราะเนื้อหาในสัญญาไม่มีการปลอมแปลงใดๆ

「ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ช่วยทำสัญญาให้เสร็จสมบูรณ์ด้วยนะครับ」

「ดะ เดี๋ยวก่อน!」

รูกาโต้พูดเช่นนั้นพร้อมกับหยิบลูกบอลสีดำออกมาจากอกของเขา เมื่อเห็นบอลตรงหน้ามันเหมือนกับนรกที่ถูกจองจำจากนั้นเองเขาก็เริ่มจะใช้เวทย์มนต์

ลูกบอลสีดำนั่นมีอะไรที่เหมือนกับชีพจรกำลังเต้นอยู่พลังเวทย์ที่ไหลเข้าไปในนั้น ทำให้คลื่นปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของลูกบอลนั่น แสงสีดำนั่นก็เริ่มปรากฏขึ้นที่แขนของโซเมียเช่นกันราวกับว่ามันกำลังทำพันธสัญญาอยู่

ถัดมานั้นเองแสงสีดำที่ประดับอยู่นั้นก็พุ่งออกมากลายเป็นเงาดำที่โผล่ออกมาจากความมืดมิด

ภาพของเงานั้นเป็นรูปร่างของยมฑูตสีดำ

เป็นโครงกระดูกสีดำที่สวมฮู้ดคลุมสีดำ ดวงตาแดงก่ำและในมือถือเคียวที่สูงกว่าลำตัวมันเป็นสัญลักษณ์ของยมฑูต

「เจ้าหมอนี่ก็เป็นเหมือนตัวแทนผู้ควบคุมการทำสัญญาและเป็นคนที่นำพาดวงวิญญาณ เจ้านี่จะเป็นคนนำทางวิญญาณของท่านโซเมียครับ」

「อ่าาาาาาาา ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาาา!」

เมื่อรูกาโต้วางสัญญานั่นลงพร้อมกับลูกบอลสีดำโซ่นั่นก็โผล่ออกมาจากใต้ผ้าคลุมของยมฑูตและผูกมัดโซเมียเอาไว้ ยมฑูตนั่นยกเคียวของมันพร้อมกับพยายามฟันลงมาที่เธอ…………。

「ไม่ยอมให้ทำแบบนั้นหรอกน่า!!」

ไอริสปลดปล่อยพลังเวทย์ออกมาโซ่สีดำปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเข้าไปจับยมฑูต

 เวทย์ป้องกัน“โซ่สีดำพันธนาการ”

ความเร็วในการทำงานของมันรวดเร็วมากแม้จะเป็นเวทย์ธาตุมืดระดับกลางแต่เธอก็เปิดใช้ด้วยความเร็วสูง

เธอใช้เวทย์ได้โดยไม่ต้องร่าย

「อืมความเร็วในการใช้งานแบบนั้น เป็นเพราะ “การปรับใช้ทันที”งั้นเหรอครับเนี่ย」

ความสามารถ“ปรับใช้ทันที”

ความสามารถที่ทำให้ผู้ใช้เวทย์สามารถใช้เวทย์ได้ตามใจคิดโดยไม่ต้องใช้คำร่ายหรือสร้างพิธีกรรมต่างๆให้วุ่นวาย

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพลังนั่นจะไม่เพียงพอจะหยุดเคียวของยมฑูตได้ โซ่ที่มัดนั่นแตกขาดเป็นเสี่ยงๆ

「บ้าเอ้ย!」

 ไอริสดึงดาบที่เอวออกมาและก็เริ่มเข้าไปรับการโจมตี มันตวัดเคียวในมือพยายามที่จะโจมตีใส่โซเมีย……。

「หนอยแน่!ทิม่าสนับสนุนที!!」

「อืม!」

อย่างไรก็ตามยมฑูตไม่เคลื่อนไหว

เวทย์ธาตุทั้งสี่ถูกร่ายอยู่รอบๆยมฑูตนั่นวงเวทย์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือหัวของมัน

เพียงแค่นั้นก็เพียงพอที่จะซื้อเวลาให้ไอริสได้ปล่อยเวทย์ลูกใหญ่แล้วซึ่งเป็นเวทย์ป้องกัน

 เวทย์มนต์นั่นถูกใช้งานทันที“พันธนาการแห่งธาตุทั้งสี่”。

ธาตุทั้งสี่หลอมรวมเข้าด้วยกันจากนั้นก็สร้างเป็นพื้นที่กังขังกลายเป็นพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่

「กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นเวทย์ที่ยอดเยี่ยมมีธาตุแต่ละธาตุต่างไหลเวียนอยู่และทำให้เกิดการยับยั้งอันแข็งแกร่ง กระผมที่อยู่มานานแล้วไม่เคยเห็นเวทย์เช่นนี้เลย ท่านไอริสนี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆครับ ความสามารถในการ “ปรับใช้ทันที”ก็ใช้งานได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าเวทย์แค่นั้นหยุดยั้งหมอนี่ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นคับ」

รูกาโต้ชมทั้งสองด้วยความจริงใจ

「ไม่ว่ายังไงการได้หยุดหมอนั่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีหรอกนะครับ。」

พลังเวทย์อันมากมายที่รูกาโต้รวบรวมมานั้น ได้ตัดสินแล้วว่าไอริสกับทิม่าเป็นภัยคุกคามต่อสัญญาเขาจึงต้องกำจัดทิ้ง

รูกาโต้ยื่นมือซ้ายไปในอากาศจากนั้นใช้นิ้วชี้ กระสุนเวทย์จำนวนมากหลั่งไหลออกมาและมันก็ทะลุไหล่ของทิม่าไป

◇◆◇

「คิย๊าาาาาาาาาาาา!」

 

ฉันตกใจกับกระสุนเวทย์ที่ทะลุผ่านไหล่ของฉันไป เสื้อผ้านั้นฉีกขาดพร้อมกับแผลที่ปรากฏขึ้นมา

 

 แต่ฉันไม่มีเวลามามัวสนใจรักษาตัวเองถ้าฉันไม่รักษาวงเวทย์ ชีวิตของโซเมียจะตกอยู่ในอันตราย!

 

 

น้องสาวของเพื่อนรักและเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุด

 

ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กนั้นไม่มีใครแม้จะอยากเข้าใกล้ฉันแม้แต่น้อย

 

ฉันที่ไร้ซึ่งเพื่อนไร้คนคุย

 

 

ฉันยังจดจำภาพในวันนั้นได้ ตัวตนของฉันที่พลังเวทย์มากมายมหาศาลได้ตื่นขึ้น ตัวฉันที่ไม่สนใจสิ่งใดได้แต่เหม่อลอยอยู่ในชั้นเรียน

 

ฉันเป็นคนพูดน้อยและมักจะคุยกับตัวเองอยู่เสมอ ช่องว่างระหว่างเพื่อนร่วมชั้นนั้นกว้างมากนัก……。

 

ตอนนั้นเองไอจังก็เข้ามาคุยกับฉันจนได้มาเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นฉันก็ได้พบกกับโซเมียจังด้วย

 

ทั้งสองคนต่างเจิดจรัสไม่เหมือนตัวฉันที่อยู่ท่ามกลางความมืดมิด ดวงตาที่ส่องประกายทอแสงยามค่ำคืน เปรียบดั่งดาวดวงแรกที่ส่องประกายนำพาเหล่านักผจญภัย โซเมียเปรียบเสมือนพระอาทิตย์ที่ฉายแสงทอดลงมาท่ามกลางความมืดมิด

 

ต้องขอบคุณทั้งสองคน ทำให้ฉันไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

 

 

 

「ยังไหวอยู่อีกเหรอครับเนี่ย? ดูเหมือนจะมีพลังใจกล้าแกร่งน่าดูเลยนะครับ」

 

 ชายชราคนนั้นพูดเช่นนั้น……นิ้วทั้งห้าของรูกาโต้มือข้างซ้ายนั่นสร้างวงเวทย์ห้าวงขึ้นมากลางอากาศ วงเวทย์แต่ละวงถูกสร้างขึ้น ณ ปลายนิ้วของเขา……。

 

「ยกโทษให้ไม่ได้!」

 

 ไอจังพูดเช่นนั้นและพุ่งเข้าหาชายชราคนนั้น เขาใช้นิ้วของมือขวา 4 นิ้วสร้างวงเวทย์ขึ้นมา สองวงเวทย์เป็นเวทย์เดียวกัน แต่อีกสองอันนั้นต่างออกไป ไม่มีทางน่าการจะสร้างวงเวทย์และปรับเปลี่ยนวงเวทย์ที่ใช้ในแต่ละนิ้วเนี่ยนะ……。

 

ดาบสีเลือดแดงสดปรากฏขึ้นออกมาจากช่องว่างของวงเวทย์ ดาบนั่นปรากฏขึ้นต่อหน้าทั้งสอง ดาบโลหิตที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระและโจมตีไอจังและเมื่อมองการเคลื่อนไหวอันซับซ้อนของเขาแล้วนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะใช้นิ้วสองนิ้วในการควบคุมดาบโลหิตนั่น

 

เมื่อคิดแบบนั้นเองกระสุนเวทย์ห้านัดก็ถูกยิงออกมาจากวงเวทย์ทั้งห้าทางมือซ้ายของรูกาโต้เข้าหาฉัน

 

「อั่ก! อึกกกกก! อ้าาาาาาาาาาา!」

 

ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างทัศนวิสัยเริ่มขาวโพลน แต่ฉันก็พยายามควบคุมเวทย์ต่อไป

 

ริมฝีปากถูกคบแน่นเลือดนั้นไหลออกมาจนทั่วปาก ฉันคบฟันแน่นขึ้น

 

อดทนต่อความเจ็บปวดทั้งหลายร่ายเวทย์ต่อไป แม้จะเป็นการสร้างภาระให้ตัวเองเพิ่มก็ตามแต่ไม่มีทางเลือก

 

 

ไอและโซเมียที่แสนเจิดจรัสคอยนำทางฉันมาตลอด

 

ฉันพยายามรักษาเวทย์อย่างสุดหัวใจ ไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดมือไปแน่ๆ ถัดมานั้นเองก็มีกระสุนเวทย์อันทรงพลังมากกว่าเดิมทั้ง 5 นัด  ถูกยิงมาทางฉัน

 

ไอยิงเวทย์ตอบกลับและฟันเวทย์เหล่านั้นทิ้ง แต่ว่าก็มีกระสุนเวทย์อีกสามนัดจากนิ้วของมือขวามาขัดขวางและมีดาบโลหิตที่ขัดขวางเธออีกชั้น

กระสุนเวทย์ห้านัดนั้นถูกยิงออกมา ฉันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะพยายามรักษาเวทย์ที่พันธนาการตัวยมฑูตไว้อย่างเต็มที่ ถ้าเสียสมาธิแม้แต่นิดเดียวเจ้านั่นหลุดออกมาแน่

 

ฉันตัดสินใจที่จะรักษาวงเวทย์ต่อไปแม้กระสุนเวทย์ทั้งห้าจะเข้าหาฉันก็ตาม

แต่เวทย์นั่นก็มาไม่ถึงฉันสักทีก่อนที่มันจะมาถึงตัวฉันกก็มีเงาของคนผู้หนึ่งมาช่วยกันเวทย์เหล่านั้นให้

◇◆◇

ข้าที่เห็นวงเวทย์ทั้งห้าจะโจมตีใส่ทิม่าข้าก็พุ่งเข้าไปกันการโจมตีและทำลายการโจมตีเหล่านั้นด้วยหมัดแห่งสายลม

 

「……มาร์คุง…………?」

 

เธอพึมพำชื่อของข้าออกมาด้วยความตกตะลึง

 

 

 …………ตอนแรกข้าก็ไม่ค่อยชอบเธอเท่าไร ถึงแม้จะเป็นถึงแรงค์ A แต่กลับไม่มีแรงจูงใจที่จะทำอะไรสักอย่าง แถมยังทำท่าทางหวาดกลัวอีกฝ่ายที่อ่อนแอกว่าตัวเอง

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเห็นแสงแห่งความมุ่งมั่นของเธอที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าบอกว่า “อย่ายอมแพ้”

 

 

「……ข้าเองก็กลัว แต่ว่ามุ่งเน้นไปที่การใช้เวทย์เถอะนะ ข้าจะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเวทย์ของหมอนั่นเอง。」

 

ข้าจ้องมองไปทางชายแก่นั่นและบอกเธอเช่นนั้น

 

ข้าส่งพลังไปที่กำปั้นทั้งสองมากขึ้นไปอีก

 

 คิ“ฝ่ามือวายุ”

เป็นเทคนิคการใช้คิที่ทำให้มวลลมบีบอัดไว้ที่กำปั้นทั้งสอง บีบอัดจนเป็นมวลลมที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

「…………อืม!ฝากดว้ยนะ!」

 

เธอพูดเช่นนั้นพร้อมกับผ่อนคลายนิดหน่อย

 

「โนโซมุแกพาอิน่าหนีไปและไปเอาดาบของพวกเรามา。」

 

「อ่า!」

 

เมื่อตอนที่เราเข้ามาในคฤหาสน์ถูกห้ามไม่ให้เอาดาบเข้ามา

อิน่าหลับไปเพราะผลของเวทมนตร์ที่ถูกปล่อยออกมาจากชายคนนั้น หากอยู่ที่นี่ต่อไปมีแต่จะเกะกะเปล่าๆ

 

「แต่ว่า เก็บไว้ที่ไหนกันแน่นะครับ!」

 

「ที่เก็บของคือห้องเล็กๆทางด้านขวาของทางเข้าคฤหาสน์! เพราะฉะนั้นเอาสิ่งนี้ไปด้วยค่ะ!」

 

ไอริสโยนกุญแจให้โนโซมุดูเหมือนจะเป็นมาสเตอร์คีย์ของคฤหาสน์หลังนี้

 

ทั้งข้าและโนโซมุตอนนี้ต่างไม่มีอาวุธติดตัว ทิม่าและไอริสเองก็ดูท่าจะไม่สามารถสู้กับตาแก่นั่นตรงๆได้เลย เพราะฉะนั้นเหตุนี้เองเป็นเหตุที่พวกเราต้องเข้าร่วมศึกครั้งนี้ด้วย

 

「เข้าใจแล้ว!ทุกคนระวังตัวด้วยนะครับ!」

 

โนโซมุวิ่งออกไปพร้อมกับอุ้มอิน่าไว้บนไหล่ของเขา

 

เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของชายชราคนนั้นร่างกายก็เกร็งโดยไม่รู้ตัว เลือดทั่วร่างกำลังไหลด้วยความเดือดพล่าน

 

ชายตรงหน้าทำกับคนที่มีความแกร่งแรงค์ A สองคนเป็นของเล่นแบบนี้ ท่าทางที่ดูอารมณ์ขันจนเหมือนกับจิฮัด รัลเดล นักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในสถาบันแห่งนี้

ความสามารถน่าจะอยู่ในแรงค์ S

 

 

“แรงค์ S”

 

เป็นแรงค์ของผู้ที่แข็งแกร่งไม่กี่คนในทวีปนี้ที่จะได้ครอบครองมัน

 

และอาณาจักรทั้งสองที่ถูกพูดถึงนั้น

 

ประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการฑูตกับประเทศอื่นๆนิดหน่อย แต่มีอำนาจทางการทหารเหลือล้น

แม้ในช่วงการรุกรานครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีที่แล้วพวกนั้นรับมือด้วยตัวของตัวเอง

ต่อหน้าชายผู้แข็งแกร่งขนาดนี้ ข้าเองก็ไม่สามารถข่มความกลัวได้เลย

◇◆◇

「…………แล้วกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?」

 

「เจ้าตัวนั่นถูกเรียกออกมาจากลูกบอลสีดำของรูกาโต้ก็หมายความว่า…………」

 

「ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนี่นอกจากทำลายบอลสีดำนั้น แต่ว่าจำเป็นต้องจัดการชายคนนั้นด้วยไหม。」

 

ชายชราคนนั้นเป็นคนที่สามารถใช้เวทย์สิบอย่างในเวลาเดียวกัน เวทย์ที่มีในตอนนี้และการโจมตีระยะไกลของเขาไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ของแบบนั้นเสียด้วยซ้ำ

สำหรับเขาคนนั้นเขาแพ้การต่อสู้ระยะประชิด

 

「แต่ว่าก็ไม่ง่ายที่จะเข้าใกล้หมอนั่นไม่ใช่รึ」

 

「อ่าาา ความสามารถต่างกันเกินไป。」

 

จนถึงตอนนี้เวทย์ที่หมอนั่นใช้ก็คือ “กระสุนเวทย์”ซึ่งเป็นเวทย์ระดับเริ่มต้น เมื่อพิจารณาจากการที่หมอนั่นสามารถควบคุมดาบโลหิตด้วยการใช้นิ้วเพียงสองนิ้ว อาจเป็นไปได้ว่าจะใช้เวทย์ที่สูงกว่าระดับนี้ได้ แต่ว่าความเร็วนั่นก็ไม่ได้ไวมากนัก

 

「ถึงแม้เช่นนั้นก็ยังมีโอกาสชนะได้เนี่ย!! มาร์ฝากทิม่าด้วยนะ!」

 

「เข้าใจแล้วน่า」

 

ไอริสพูดเช่นนั้น

บอกตามตรงไม่ว่าจะเป็นใคร ฉันก็คิดว่าตัวเองจะไม่แพ้ใครหน้าไหนทั้งนั้น!

 

ทั้งสองพยักหน้าให้กัน ชายชราคนนั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีความสามารถมากขนาดนั้นในทวีปแห่งนี้

ถ้าเขาเอาจริง เขาสามารถจัดการพวกเราได้ง่ายๆ

 

ชายชราคนนั้นผายมือขึ้น ราวกับกำลังเล่นออเคสตร้า

 

 เราอ่อนกว่าทุกด้าน แต่ถึงยังงั้น………เราก็ยังมีโอกาสชนะ!!

 

ด้วยความมุ่งมั่นเช่นนั้น พวกเราเผชิญหน้ากับชายชราคนนั้น

 

 

◇◆◇

 

โนโซมุหยิบดาบของเขาและมาร์จากที่เก็บของและรีบวิ่งไปตามโถงทางเดินเพื่อกลับไปยังพื้นที่ต่อสู้ ระหว่างทางโนโซมุก็คิดถึงเรื่องของรูกาโต้

 

 

 

(ชายคนนั้นรูกาโต้น่าจะเทียบกับอาจารย์ได้เลย……)

 

ข้านึกถึงอาจารย์ของข้า

แม้ว่าเวทย์และวิชาดาบมันจะต่างกัน แต่รูกาโต้ก็มีบรรยากาศออร่าของผู้แข็งแกร่งเหมือนที่อาจารย์มี

และในเวลาเดียวกันข้าก็เชื่อมัน

 

(บางทีแล้ว……………………สำหรับคุณไอริสไม่น่าจะไหวแน่ๆ……)

 

เขาพูดเช่นนั้นเพราะเขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของอาจารย์ตัวเอง ตัวเขาที่ฝึกกับอาจารย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่านั่น หากเทียบความสามารถของรูกาโต้กับไอริส ข้าก็ตระหนักได้เช่นนั้นว่าไม่มีทางเอาชนะได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ต้องจัดการผู้รับใช้ของรูกาโต้ด้วย

 

(ถ้าไม่รีบละก็!……แต่ว่าจะเอาชนะได้งั้นเหรอ?โดยไม่ใช้สิ่ง “นั้น”……)

 

หนทางชนะนั่นก็คือการปลด “พันธนาการ”ของตัวข้าเองออกมา

แต่ว่าความกลัวในพลังอันแข็งแกร่งนั่นก็ยังฝังลึกในจิตใจ จิตใจที่ยังคงลังเลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

กลัวว่าหากปลดปล่อยพลังออกมาแล้วจะถูกมองว่าเป็น “สัตว์ประหลาด”และถูกปฏิเสธ

เมื่อคิดเช่นนั้นร่างกายก็สั่นไหว กลัวว่าจะได้กลับไปใช้ชีวิตตัวคนเดียว

แล้วข้าจะต่อสู้โดยที่ไม่พึ่งพลังนั่นได้จริงๆน่ะเหรอ

 

「โถ่วเอ้ย!บ้าจริง!!」

 

ข้าเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง ทำได้แต่วิ่งต่อไปเพื่อซ่อนความอ่อนแอนั่นเอาไว้

◇◆◇

「อ๊ากกกกกก! อ้าาาาาาาาาาาา!!」

 

มาร์พยายามกันการโจมตีของรูกาโต้สุดชีวิตเพื่อช่วยทิม่าให้รักษาเวทย์ไว้ เขารับการโจมตีนั้นราวกับเป็นโล่ให้กับเธอ

อย่างไรก็ตามการจะสลัดกระสุนเวทย์ด้วยมือเปล่าเช่นนี้ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน แต่ว่านั่นคือเวทย์ระดับเริ่มต้นแต่ว่าเป็นเวทย์ของแรงค์ S หมัดของมาร์ค่อยๆไหม้จนเกรียมจนเผยให้เห็นกระดูกภายใน

เขายังคงใช้กำปั้นคู่นั้นป้องกันการโจมตีไปเรื่อยๆทุกๆครั้งที่เขากันการโจมตีเลือดจำนวนมากก็จะไหลสู่พื้นสีขาว

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกก!」

 

ไอริสเองก็อยู่ในสภาพเดียวกันเธอไม่แม้แต่จะเข้าใกล้รูกาโต้ได้เลย

รูกาโต้รับมือกับเวทย์ของเธอได้และสร้างวงเวทย์มาคอยรับมือกับเวทย์ของเธอ

ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังใช้ดาบโลหิตนั่นป้องกันการโจมตีไม่ให้เธอเข้ามาใกล้ได้

◇◆◇

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!」

 

「อึก………มาร์คุง………ยังไหวไหม?」

 

「แฮ่ก แฮ่ก……หนวกหูน่า รีบรักษาวงเวทย์ไว้เถอะทำหน้าที่ของเธอไปซะ……」

 

ทิม่าถามด้วยความห่วงใย แต่ว่าผิวของเธอเองก็เริ่มซีดเพราะเสียเลือด

 

(ฉันจำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างมากในการรักษาเวทย์ระดับสูงเช่นนี้)

 

เวทย์ของทิม่าเป็นเวทย์ชั้นสูงที่ใช้คุณสมบัติของธาตุทั้งสี่และใช้พลังเวทย์มหาศาลในการใข้งาน

นอกจากนี้ร่างกายของเธอที่โดนกระสุนเวทย์ไปหลายนัด ทำให้เธอเริ่มหมดแรงและเจ็บปวดตามร่างกาย ซึ่งมันค่อยๆกลืนกินสมาธิของเธอไปทีละนิด

 

 

ทั้งสามค่อยๆถูกผลักดันมาจนถึงขีดสุด กระสุนเวทย์จำนวนมากพุ่งเข้าหามาร์จนเขาล้มลง

 

「อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาากกกก!!!」

 

มาร์กรีดร้องพร้อมกับกระเด็นเข้ากระแทกกับกำแพง

 

「มันจบแล้วครับ」

 

「!!」

 

เมื่อมาร์โดนกำจัดก็ไม่มีใครมารับเวทย์ให้ทิม่าแล้ว กระสุนเวทย์ถูกปล่อยออกมาหลายนัด

 

「คิย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!」

 

ไม่มีทางที่เธอจะหลีกเลี่ยงมันได้เลยแม้แต่น้อย

ในเวลาเดียวกันพันธนาการต่อเนื่องก็ถูกปลดปล่อยจากยมฑูตตัวนั้น

 

 

「ทิม่า! มาร์คุง!」

 

「อั่ก!」「แฮ่กแฮ่ก!」

 

ไอริสตะโกนเรียกทั้งสองคนแต่ทั้งสองทำได้แต่อดทนกับความเจ็บปวด

 

「หนอย!」

 

เธอพยายามวิ่งเข้าไปหาโซเมียเพื่อหยุดยมฑูตตนนั้นแต่เธอก็ถูกหยุดด้วยกระสุนเวทย์

รูกาโต้ยิงกระสุนเวทย์ต่อเนื่องด้วยมือซ้ายและใช้มือขวาควบคุมดาบโลหิต ไอริสโดนขัดขวางมากกว่าเดิม

เมื่อยมฑูตตนนั้นถึงหน้าโซเมียมันก็ยกเคียวขึ้น ไม่มีใครหยุดความตายที่กำลังเข้าหาโซเมียได้อีกต่อไป ถ้าเป็นแบบนี้โซเมียต้องตายแน่ๆ

 

「โซเมียยยยยยยยยยยย!!!!」

 

「พี่คะ……」

 

พี่น้องต่างเรียกหาซึ่งกันและกันอย่างสิ้นหวัง ความตายที่เข้าใกล้น้องสาว ชะตากรรมของโซเมียได้รับการยืนยันแล้ว

◇◆◇

ช่วงเวลานั้นเองที่ยมฑูตกำลังเหวี่ยงเคียวด้วยแขนทั้งสองข้างนั่น

 

「……เอะ。」

 

ความคิดของทุกคนต่างหยุดนิ่งมีเงาๆหนึ่งพุ่งผ่านเข้ามาในเวลานั้น

เงานั่นพุ่งเข้าใส่ตัวยมฑูตด้วยความเร็วประกายดาบที่ถูกฟันออกมาอย่างรวดเร็วสร้างบาดแผลให้กับยมฑูตนั่นมากมาย

 

 คิ“คมดาบผ่ามายา-หวนคืน-”

 

การฟันที่คมเฉือดเฉือนร่างกายของยมฑูตนั่นขาดออกเป็นสองท่อน คอร์แกนกลางของมันแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

คอร์ร่างกายของมันแหลกสลายและหายไปราวกับหมอก ส่วนเครื่องประดับแขนที่แหลกสลายนั่นก็ปลิวไสวท่ามกลางอากาศ

 

 

「คุณโนโซมุ……?」

 

โซเมียพึมพำ

 

โนโซมุจ้องหน้ารูกาโต้โดยไม่ตอบคำถามของโซเมียเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

(…………อาจารย์ครับตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดี…………)

 

 คำถามนั้นยังคงไร้ซึ่งคำตอบ…………。

 

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท