โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 24

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่ 3 ตอนที่ 1

 

 

เช้าตรู่ ณ ถนนของเมืองอาร์คาซัม

 

 

นักเรียนหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปที่สถาบันโซลมินาติ

 

 

ในบรรดานักเรียนจำนวนมากมีชายสองคน

 

 

 

 

คนหนึ่งคือ โนโซมุ・เบลาตี้ ชายหนุ่มที่คาดดาบคาตานะไว้ที่เอว นักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำสุดในปี 3 ของสถาบันโซลมินาติ

 

 

อีกคนคือ มาร์ ・ดิกเกนส์ ชายร่างใหญ่ผู้สะพายดาบใหญ่ไว้กลางหลัง เช่นเดียวกับโนโซมุเป็นนักเรียนปี 3 และแม้เขาจะมีความสามารถมากมายแต่ว่าพฤติกรรมแย่ๆเลยมาลงห้อง 10 นี่ละ

 

 

ขณะที่เดินไปยังสถาบันก็ได้ยินข่าวลือของเหล่านักเรียน

 

 

◇◆◇

 

 

 

 

「นี่ได้ยินหรือเปล่า? ข่าวลือที่ว่ามีเครื่องมือเวทย์ที่ควบคุมไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ของไอริสดิน่าน่ะ」

 

「อ่า ได้ยินมาแล้วล่ะ เป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะ แต่ก็ดีใจมากเลยนะที่ไม่มีใครบาดเจ็บเหรือเสียชีวิตเลย」

 

ไม่กี่วันหลังจากความวุ่นวายในตระกูลฟรานซิส เพราะความวุ่นวายดังกล่าวนั้นโด่งดังไปทั่วจนทำให้เกิดข่าวลือต่างๆในสถาบันโซลมินาติและทั่วเมืองอาร์คาซัม

เครื่องมือเวทย์ของตระกูลฟรานซิสที่ควบคุมไม่ได้ คฤหาสน์ที่ถูกเวทย์บาเรียขวางกั้นอย่างสมบูรณ์และมีเหล่ามนุษย์โดนขังอยู่ภายใน

 อย่างไรก็ตามไอริสดิน่าก็จัดการกับเครื่องมือเวทย์นั่นได้จนสถานการณ์สงบลง……。

 

「โนโซมุเหตุการณ์นั่นมันก็แปลกจริงๆล่ะนะ…………แต่ว่าแกคิดว่าตระกูลฟรานซิสปิดข่าวนี้ไปเหมือนกันปะ?」

 

มาร์กระซิบข้างๆหูข้า

 

「ไม่รู้สิ ไอริสเองก็ดูท่าทางไม่สนใจด้วยว่าเรื่องนี้จะเปิดเผยออกไปรึเปล่า แต่สำหรับข้าแล้วคนรอบๆก็คงมีบ่นอุบบ้างแหละเกี่ยวกับตระกูลฟรานซิส」

 

กรณีเมื่อไม่กี่วันก่อนนั้นทางตระกูลฟรานซิสเองก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน บางทีเพราะสั่งให้บอกความจริงออกไปสถานการณ์ก็เลยเป็นแบบนี้ละมั้ง

 

「…………แต่ว่าก็ดีไม่ใช่เหรอไงกันล่ะ ตอนนี้โซเมียจังเองก็ปลอดภัยแล้วนะ」

 

「อ่า นั่นสินะ」

 

มาร์ตอบกลับคำพูดของข้า

 

ข้าไม่เข้าใจหรอกว่าตระกูลฟรานซิสเป็นอะไรไปจะเป็นขุนนางหรืออะไรก็ช่าง ตอนนั้นข้าก็แค่สู้เพียงเพราะอยากจะปกป้องเพื่อนคนสำคัญ

ข้าคิดแบบนั้นอาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ

 

แต่ว่า…………。

 

 

 

「โซเมียจังหวังว่าจะไม่เป็นไรนะ………หวังว่าคงจะไม่มีผลกระทบอะไรต่อตัวเธอนะ」

 

แม้ว่าเธอจะกลับสู่สภาพปกติแล้ว แต่เธอที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปครั้งหนึ่ง เพราะเครื่องมือเวทย์นั่นที่หลอมรวมกับตัวของเธอ ทำให้โนโซมุกลัวผลกระทบที่ตามมา

 

「จากที่หมอดูอาการแล้วไม่น่าจะเป็นอะไรหรอกมั้ง」

 

「……อืม ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นไว้ครั้งหน้าค่อยถามละกัน」

 

 

◇◆◇

 

 

แม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแต่สถาบันโซลมินาติก็ยังเปิดสอนตามปกติ

 

 

คาบเรียนตอนเช้าเป็นคาบเรียนเวทมนตร์กับ อาจารย์นอร์น

 

 

เนื้อหาก็เป็นเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เวทย์ในวิธีต่างๆ โนโซมุเองก็ไม่พลาดที่จะจดโน้ตเอาไว้แม้ว่าจะใช้เวทย์ไม่ได้แต่มันทำให้เขาสอบข้อเขียนได้

 

 

ยังไงสำหรับมาร์ที่เก่งด้านปฏิบัติอยู่แล้ว ก็ไม่ค่อยสนใจคาบเรียนสักเท่าไร

 

 

มาร์เองก็เป็นคนที่มีพลังเวทย์เยอะพอตัว แต่มันก็ยากสำหรับมาร์ที่จะเรียนเทคนิคใหม่ๆเพราะเขาเป็นพวกสมองกล้ามดังนั้นก็เลยใช้ได้แค่เวทย์บางประเภทเท่านั้น

 

 

 

 

 

ในห้องเรียนตอนเที่ยงหลังจากจบคาบเช้าแล้ว เพื่อนร่วมชั้นก็เริ่มออกไปทานอาหารกลางวัน

 

 

ตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มมีที่ตั้งในการทานอาหารกลางวันมาร์และข้าก็กินด้วยกันบ่อยๆยกเว้นมีเรื่องบางอย่างจะไปทำ

 

 

 

「โนโซมุ มื้อกลางวันนี่กินไรดี?」

 

「ก็ว่าจะหาซื้อแถวนี้ละนะ แล้วมาร์ล่ะ?」

 

「ข้าน่ะมีข้าวกล่องมาจากบ้านแล้วล่ะ」

 

พูดเช่นนั้นมาร์ก็โชว์ข้าวกล่องให้โนโซมุดู

 

 

โนโซมุนึกถึงสเต็กเนื้อกระต่ายที่เคยกินก่อนหน้านี้ ข้าวกล่องที่ทำโดยเจ้าของโรงแรมของ “เรือนร่างของโค”ก็น่าจะอร่อยแน่ๆล่ะ

 

 

 

(ตอนนี้เองก็ไปหาที่ๆจะไปทานกันดีกว่านะ……)

 

「มาร์ไปกินข้าวที่ไหนกันดี「ขอโทษด้วยนะคะ โนโซมุ・เบลาตี้?」……เอะ」

 

 

ทันใดนั้นเองข้าก็ได้ยินเสียงของสาวสวยสองคนที่ได้ยินบ่อยๆอยู่ตรงนั้น

 

คนหนึ่งเป็นไอริสดิน่า・ฟรานซิส หญิงสาวผู้มีผมสีดำขลับ ร่างกายที่งดงามได้รูปและมีออร่าของความเป็นผู้ดี

 

 

อีกคนก็ทิม่า・ไลม์ หญิงสาวผมสีน้ำตาลยาวถึงไหล่ หน้าตาดีพอๆกับไอริส

 

 

「「「「………………………………」」」」

 

ทั่วทั้งห้องนี้ต่างเต็มไปด้วยความเงียบ

 

 

การที่สาวสวยมากความสามารถบุกมายังห้อง 10 ที่เป็นห้องของนักเรียนชั้นต่ำเช่นนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้ง

 

 

 

 

 เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้เพื่อนทั้งห้องต่างสับสน…………。

 

 

「อะ อะ เฮ้ย ไม่ใช่ว่าเธอเรียกชื่อหมอนั่นเหรอ?」「อะ อ่า ข้าเองก็ได้ยินแบบนั้น」「ทำไมมันถึงได้รู้จักกับเจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬได้ละเว้ย……」

 

เธอที่เรียกชื่อเต็มของโนโซมุ ถ้าคิดตามปกติแล้วการที่ตัวตนสูงส่งอย่างเธอกลับจำชื่อของไอ้ชั้นต่ำเช่นนี้ได้มันก็ดูแหม่งๆใช่ไหมล่ะ

 

 

โนโซมุในตอนนี้อยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

เมื่อมองไปรอบๆห้อง ไอริสก็เจอกับโนโซมุและเดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้ม เพื่อนทั้งห้องต่างมองกันตาค้างด้วยความตกตะลึงกับฉากตรงหน้า

 

 

 ขณะที่ทุกคนกำลังจดจ่อว่าเธอจะทำอะไรนั่นเอง……。

 

「สวัสดีค่ะโนโซมุคุง ทานข้าวกลางวันกันรึยังเหรอคะ? ถ้ายังไม่ได้ทานละก็ไปทานข้าวกลางวันกับพวกเราเถอะค่ะ?」

 

ตอนนั้นเองระเบิดลูกใหญ่ก็ถูกโยนเข้ากลางห้องเรียน

 

「「「「「อะ อะไรกันวะเนี่ยยยยยยยยย ไอ้บ้านี่ーーーーーー!」」」」」」

 

ทันใดนั้นเอง ทั้งห้องเรียนก็ระเบิดตู้มเพราะความสับสน

 

 

 

 

◇◆◇

 

 

 

 

「……เอ่อกลายเป็นเรื่องวุ่นวายซะแล้วสิ……」

 

มาร์พึมพำด้วยความตกใจ

 

 

 

 

ด้วยความเอะอะเสียงดังไปทั่วห้องโนโซมุไม่มีทางเลือกนอกจากตอบรับคำเชิญและรีบพาไอริสออกจากห้องเรียนทันที นักเรียนในห้อง 10 รวมทั้งมาร์ทุกคนต่างระเบิดอารมณ์กันหมดเลย

 

 

คำพูดของเธอนั้นทำให้ทั้งห้องต้องตะลึงไปตามๆกัน

 

 

 

ไอริสดิน่าที่มีผู้ชายและผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาชื่นชอบ บุคคลผู้มีความสามารถอยู่ในระดับท็อปของสถาบัน ท่าทางอันจริงจังของเธอ ตัวเธอนั้นมักบอกปัดผู้ชายที่เข้าหาเธออยู่เสมอคนที่เปรียบเสมือนเจ้าหญิงผู้เย็นชาคนนั้น  

 

 

ตัวเธอที่เป็นเหมือนดอกฟ้าที่ไม่มีใครเอื้อมมือไปแตะต้องได้นั้น

 

 

ตัวเธอที่เป็นตัวตนถึงระดับนั้นกลับมาชวนผู้ชายชั้นต่ำที่มีเกรดการเรียนยอดแย่แถมยังมีข่าวลือเสียๆหายๆมากมาย ทำให้หลายๆคนต่างมองเธอว่าเธอบ้าไปแล้วแน่ๆ

 

 

 

 พวกเราสี่คนมาถึงมุมหนึ่งของลานกว้างและเริ่มทานอาหารกัน…………。

 

「เฮ้ย นั่นมันไอ้บ๊วยห้อง 10 ไม่ใช่เหรอ」「ทำไมไอ้หมอนั่นถึงสนิทกับเธอได้วะ?」

 

สายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างจับจ้องมาทางนี้ พวกนั้นต่างจ้องโนโซมุและมาร์กันตาเขม็งราวกับบอกว่า “ทำไมต้องเป็นไอพวกนี้ด้วย”

 

 

สายตาอาฆาตแค้นราวกับไปเหมือนไปฆ่าใครตายก็มิปานจับจ้องมา

 

 

สายตาที่จ้องมองมาที่โนโซมุนั่นแย่กว่าเกินจะจินตนาการได้

 

 

 

พอมาคิดดูแล้วไม่ว่าจะในห้องเรียนหรือลานกว้างก็มีนักเรียนเยอะ

 

 

 

(แหวะ ไม่อร่อยสักนิด!)

 

「…………ชิ!」

 

แม้แต่ตัวโนโซมุที่เคยชินกับคนที่คิดลบกับเขายังต้องหวาดหวั่นกับสายตาทิ่มแทงของผู้คนที่จ้องมองมาทางนี้ ตอนนี้แม้แต่ตัวข้าเองก็ไม่สามารถรับรู้รสของสิ่งที่กินไปได้เลย มาร์เองก็เริ่มหงุดหงิดกับสายตาที่จับจ้องมาทางนี้

 

 

「……ขอโทษด้วยนะคะที่จู่ๆก็รีบไปหาที่ห้องเรียนเช่นนี้……」

 

「…………ขอโทษด้วยนะคะ พวกเราไปสร้างความน่ารำคาญใจให้รึเปล่า?」

 

ทั้งสองที่สังเกตเห็นท่าทางแปลกๆของโนโซมุและมาร์ก็ต่างขอโทษ

 

「ไม่หรอกครับ ก็แค่ตกใจที่จู่ๆก็มาโผล่ที่ห้องแบบนั้น」

 

「อ่าาา นั่นไม่ใช่ความผิดของพวกเธอหรอกนะ……」

 

ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่มาร์กับโนโซมุก็ต่างขอโทษไอริสและทิม่า

 

โนโซมุคิดว่าได้โอกาสดีเลยถามไอริสเพราะเธอตกเป็นที่สนใจตั้งแต่เช้า

 

「ยังไงก็ตามโซเมียจังเป็นยังไงบ้างครับ?」

 

「อ่าค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เธอไปสถาบันอีคอร์สตามปกติ」

 

โนโซมุพิจารณาภาพรวมและถามเธอออกไปเพราะเป็นห่วง แต่จากที่ฟังแล้วไม่น่าจะมีอะไรให้กังวล

 

 

เธอที่ถูกดึงวิญญาณออกมาแม้จะชั่วคราว แต่ว่าพอมาตอนเช้าเธอก็ปกติดีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกต่อไปดังนั้นเลยถามเผื่อเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไรจริงๆ

 

 

 

 

 

ยังไงก็ตามยังหายกังวลไม่ได้เพราะเตาหลอมวิญญาณนั่นยังไม่ได้เอาออกจากร่างของโซเมียจัง แต่ว่าตอนนี้ก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งจึงเริ่มทานอาหารกลางวันกันต่อ

 

หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จ ไอริสก็ถามข้า

 

「……แล้วปกติพวกคุณสองคนทำอะไรหลังเลิกเรียนเหรอคะ?」

 

「เอ่อก็ไม่มีแผนว่าจะทำอะไรครับ คิดว่าน่าจะไปฝึกตามปกติ……」

 

โนโซมุไม่เคยละเลยการฝึก

เพราะว่าเขาฝึกหนักจนกลายเป็นนิสัยปกติไปแล้ว เพราะความสามารถพื้นฐานถูกกดให้ต่ำลงก็เลยต้องชดเชยด้วยการฝึกฝนเพื่อเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น เขาเลยฝึกทุกวันเพื่อไม่ให้ฝีมือต้องตก

 

 

「วันนี้………ไม่ทราบว่าจะไปเที่ยวข้างนอกกับฉันจะได้ไหมคะ? พอดีว่าอยากจะขอบคุณสำหรับเรื่องในวันนั้นค่ะ……」

 

 

 

ไอริสขอให้โนโซมุมาด้วยกันหลังเลิกเรียน เพราะเธออยากจะขอบคุณโนโซมุ

 

 

ความจริงที่ว่าพ่อของเธอไปเคลียร์กับตระกูลวาเซียร์ตและทำให้คฤหาสน์ถูกปกคลุมไปด้วยความจริงนั่น ถูกบิดเบือนกลายเป็นข่าวปลอมไป

 

 

สำหรับเธอแล้วที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลฟรานซิสคนต่อไป เธออยากจะขอบคุณทั้งสองที่ช่วยเธอไว้

 

 

 อย่างน้อยเธอก็อยากจะขอบคุณโนโซมุที่ช่วยน้องสาวของเธอด้วยตัวเธอเอง…………。

 

 

「ขอบคุณนะครับ แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกครับ」

 

「ไม่ใช่แบบนั้นเลยนะคะ สำหรับเธอที่ทำเพื่อฉันมากขนาดนี้แล้ว…ฉันคิดว่าอย่างน้อยก็อยากจะขอบคุณเธออยากเป็นทางการค่ะ เพราะฉะนั้นจะช่วยยอมรับจะได้ไหมคะ?」

 

ไอริสพูดเช่นนั้นพร้อมกับมองหน้าโนโซมุ

 

(โนโซมุคุง……วันนี้เองก็ดูท่าทางจะสบายดี……)

 

ไอริสกังวลเกี่ยวกับตัวโนโซมุเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นได้ชัดตอนที่เขาต่อสู้กับรูกาโต้เขากลายเป็นเหมือนคนที่คลั่ง

 

“มันมีเหตุผลที่ทำให้เขาต้องคอยซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้”

 

พอตระหนักได้เช่นนั้น ไอริสก็ไม่สามารถบอกพ่อของเธอได้เกี่ยวกับเรื่องพลังของโนโซมุ

 

 

「…………เข้าใจแล้วครับ แล้วมาร์ล่ะครับ?」

 

「ถามข้าทำไมล่ะ? นี่เป็นสิ่งที่แกควรจะได้รับ?และก็ความจริงแกหยุดหมอนั่นด้วยตัวคนเดียวด้วยซ้ำ」

 

หลังจากตอบรับคำขอของไอริสแล้วถามมาร์ มาร์ก็ทำหน้าจะบอกว่า “ตรูไม่เกี่ยว”

สำหรับมาร์แล้ว โนโซมุเป็นคนเดียวที่หยุดรูกาโต้ได้ ดังนั้นสำหรับเขาไม่ควรจะได้รับคำขอบคุณหรอก…………。

 

「ไม่หรอกค่ะ ตอนนั้นเองนายก็ปกป้องทิม่าด้วยไม่ใช่หรือไง ก่อนที่โนโซมุคุงจะมา」

 

「ใช่แล้วล่ะคะ ถ้ามาร์คุงไม่เข้ามาช่วยในตอนนั้น ฉันเองก็คงโดนห่ากระสุนเวทย์มากมาย ถ้าเป็นแบบนั้นละก็โซเมียจังก็จะ…………」

 

ไอริสและทิม่าต่างปฏิเสธคำพูดของมาร์ แม้โนโซมุจะเป็นคนหยุดรูกาโต้ก็จริง แต่ว่ามาร์เองก็เป็นคนที่คอยซื้อเวลาให้

 

「…………เข้าใจแล้วล่ะน่า」

 

มาร์ยอมรับดังนั้นก็เลยนัดกันไว้แล้วหลังเลิกเรียน

 

ระฆังคาบพักดังขึ้น คาบพักหมดลงแล้วนักเรียนต่างเริ่มกลับเข้าห้องเรียนเพื่อเข้าเรียนช่วงบ่าย

 

 

 

 

โนโซมุเองก็กลับห้องเรียน แต่ว่ามีเงาหนึ่งตามหลังเขาอยู่

 

——————

 

「เฮฮฮดูเหมือนจะมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นสินะ」

 

ชายคนนั้นโผล่ออกมาจากหลังสิ่งก่อสร้างของโรงเรียนพร้อมรอยยิ้ม

 

「ถ้ามองจากมุมมองนี้แล้ว ไม่ว่าใครต่างก็ต้องอิจฉาไอ้บ๊วยห้อง 10 นั่นแน่ๆที่ได้อยู่ด้วยกันกับ “เจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬ”กับ”การสั่นพ้องของธาตุทั้งสี่”เช่นนี้~」

 

ชายหนุ่มคนนั้นทำท่าเหมือนกับเจอของเล่นชิ้นใหม่กำลังจ้องมองโนโซมุที่กำลังกลับห้องเรียน

 

「เอาล่ะ เจอเรื่องน่าสนุกเข้าซะแล้วสิ ไม่อยากจะเชื่อเลยน้า เป็นเรื่องเหลือเชื่อเลยจริงๆสถาบันนี้เนี่ยนะ ถ้างั้นก็ช่วยแสดงความบันเทิงจนถึงขีดสุดด้วยเถอะนะ」

 

ชายหนุ่มคนนั้นหันหลังกลับ เขามองไปทางโนโซมุกับมาร์อีกครั้ง เขาเดินไปคนละทางกับพวกนั้นหูและหางสีทองที่ขยับไปมาตามการเคลื่อนไหวของเขา

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท