โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 32

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่ 4ตอนที่2

 

 

โนโซมุกำลังเดินไปตามถนนสายหลักที่จะพาไปสู่สถาบัน นักเรียนที่เดินผ่านกันก็กำลังสนทนาหัวข้อของตัวเอง อย่างขยันขันแข็ง

 

 

เครื่องแบบสีขาวอันโดดเด่นบนถนนเส้นนี้มีทั่วไปหมด แต่ว่าไอริสที่เป็นไม้งามก็ยังคงเด่นกว่าใครเหมือนเคย

 

 

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างมองมาที่พวกเขาทุกครั้งไป มองมาด้วยความอิจฉาริษยาและอีกมากมาย แต่โนโซมุก็ได้แต่ปล่อยผ่านมันไป

 

 

ทางฝั่งมาร์เองก็ไม่ได้ดูแย่ ดูเป็นคนเจ้าระเบียบขึ้นมาเพราะน้องสาวอิน่าที่คอยตามประกบนั่นเอง

 

 

แต่ก่อนเขาจะมีสายตาชอบหาเรื่องชาวบ้านที่มองใครก็ต้องขยาด แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วท่าทางของเขาที่ดูสงบทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูดีขึ้นมา

 

 

(แน่นอนว่าตัวผมเป็นคนธรรมดาที่สุดในหมู่พวกเขาแล้ว……)

 

 

ในทางกลับกันโนโซมุน่ะดูปกติสุดในกลุ่ม เพราะใบหน้าเหมือนคนธรรมดาดาษดื่นที่เห็นได้ทั่วไป ส่วนสูงก็อยู่ในเกณฑ์มาตราฐาน ดังนั้นเขาจึงเป็นคนที่โดนกดดันมากที่สุด

 

 

◇◆◇

 

 

(เฮ้อถึงไหนแล้วนะ อะ ยันต์นั่นที่หลังโรงเรียน ก็รู้อยู่หรอกว่าเป็นเทคนิคของโทวโฮวที่ใช้มองไกล แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนใช้มัน……)

 

ทันใดนั้นโนโซมุก็จำยันต์นั่นที่อยู่หลังอาคารเรียนได้

 

 

บนยันต์นั่นมีเขียนไว้ว่า “ดวงตาแห่งการเชื่อมต่อ”มันเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ผมพบในห้องสมุด แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าใครใช้มัน

 

 

มิตรภาพของโนโซมุที่มีอันน้อยนิดทำให้ไม่ค่อยรู้จักใครในชั้นเรียนอื่นมากนัก

 

 

เมื่อพิจารณาได้ว่าเครื่องหมายนี่มันกวนใจผมอยู่มาร์เองก็สงสัยเช่นกัน

 

 

(……บางทีไอริสกับทิม่าน่าจะรู้)

 

 

「เอ่อคือว่าผมมีอะไรจะถามไอริสกับทิม่าซังครับ?」

 

「อืม มีอะไรเหรอคะ?」

 

 

「เอ๊ะ….งั้นมีอะไรเหรอ…คะ?」

 

 

โนโซมุแสดงยันต์ที่เก็บได้หลังอาคารเรียน

 

 

「ฉันรู้นะว่ามันคืออะไร?」

 

 

ทิม่าตอบสนองต่อโนโซมุเป็นคนแรก เห็นได้ชัดว่าทิม่าเชี่ยวชาญด้านเวทย์อย่างมาก

 

 

「เจ้านี่คือยันต์ มันเป็นสื่อกลางที่เอาไว้ใช้เวทย์ของคนฝั่งตะวันออก」

 

「อืม แล้วจำอะไรได้อีกไหมครับ?」

 

 

เธอทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และจ้องไปที่หน้าของโนโซมุ แต่ว่าท่าทางของเธอดูไม่ดีเท่าไร

 

 

「้หืมมมมมม ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ไว้ใช้ระยะไกล…………」

 

「ส่วนตัวฉันไม่รู้ค่ะ เพราะมีไม่กี่คนที่จะใช้เทคนิคของโทวโฮวที่สถาบันแห่งนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ไม่ค่อยได้ออกนอกประเทศบ่อยค่ะ อย่างน้อยขั้นต่ำก็น่าจะเป็นพวกห้อง 3 ขึ้นไปค่ะ」

 

 

ไอริสที่กำลังจ้องมองมันก็พูดบอกว่าไม่คุ้นกับมันเลย ในขณะเดียวกันเธอก็สงสัยว่าโนโซมุได้มันมาได้ยังไง เพราะเธอก็รู้ดีว่าโนโซมุใช้พลังเวทย์ไม่ได้

 

 

「…………หรือมากกว่านั้น ยันต์นี่มันมีอะไรแปลกๆยังงั้นเหรอ?」

 

「เออ! อืมนั่นก็คือ…………」

 

โนโซมุหยุดนิ่งกับคำถามที่ถูกถามมากระทันหัน

 

 

อันที่จริงโนโซมุไม่ได้บอกเรื่องที่เขาโดนพาตัวไปด้านหลังสถาบัน เขาไม่อยากให้ไอริสต้องกังวลเกี่ยวกับเขาเพราะว่าสาเหตุมันมาจากตัวเธอ

 

เมื่อโนโซมุได้ยินว่ามาร์จะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ก็เลยจะดีกว่าที่จะบอกไอริสหลังจบเรื่องราวทุกอย่างลงได้แล้ว

 

 

「………………ซ่อนอะไรบางอย่างไว้งั้นเหรอ?」

 

「……นั่นสินะ?」「เป็นแบบนั้นจริงๆสินะ?」

 

 

ขณะนั้นเองโนโซมุก็โดนคนอื่นๆทักว่าตัวเองกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่

 

 

บางทีพวกเขาอาจจะรู้ว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไอริสจ้องมองโนโซมุเสียจนไม่ให้แก้ตัว

 

 

「เอ่อคือ「หมอนี่ โดนพาตัวไปหลังอาคารเรียนเมื่อวันก่อนหลังจากที่เธอมาหาพวกเรา」เดี๋ยวสิ! มาร์!!」

 

 

「…………หมายความว่ายังไงคะ?」

 

 

「โนโซมุคุง……」

 

 

「คุณโนโซมุ……」

 

 

โนโซมุพยายามจะแก้ตัวแต่โนโซมุหนีไม่ได้พวกเธอต่างจับจ้องราวกับจะบอกว่า “อย่าคิดจะโกหกเด็ดขาด”

 

 

เสียงของไอริสทุ้มต่ำลงจนน่ากลัวอย่างแปลกประหลาด ดวงตาของเธอแหลมคมขึ้นราวกับจะมองทะลุโนโซมุลงไป

 

 

ใบหน้าของโซเมียและทิม่าที่จ้องโนโซมุด้วยความเป็นห่วง………ตัวโนโซมุเองก็รู้สึกผิดกับการที่ต้องปกปิด

 

 

「……เอ่อคือก็บอกแล้วว่า「มาคุยกันหน่อยสิ」…………ครับ」

 

 

ในที่สุดโนโซมุก็ทนสายตาของทั้งสามที่กดดันไม่ได้และยอมบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

เมื่อไอริสได้ยินเรื่องราวก็โกรธมาก ความโกรธของเธอที่อยากจะระบายใส่นักเรียนที่เข้ามาทำร้ายเขา ความโกรธที่โนโซมุต้องอดกลั้นเอาไว้

 

 

「……แล้วทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรก?」

 

「ตอนแรกผมก็คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องทั่วไป มันจะดีกว่าถ้าผมแก้ปัญหาด้วยตัวผมเอง……」

 

「นั่นไม่ใช่ปัญหาสักหน่อยค่ะ!! ไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้คนเดียวนะคะ!」

 

 

「ใช่แล้วล่ะคะ คุณโนโซมุ! ปัญหาคือทำไมไม่ยอมคุยกับพวกเราต่างหาก!!」

 

 

「นั่นสิคะ! มันเจ็บปวดนะที่ต้องมานั่งเห็นเพื่อนนั่งอมทุกข์อยู่คนเดียว แต่มันจะยิ่งเศร้ากว่าอีกถ้าไม่คิดจะบอกกันเลยแบบนี้!!」

 

 

โนโซมุถูกทั้งสามสาวตำหนิ พวกเธอไม่สามารถเมินเฉยได้เพราะพวกเธอก็มีส่วนร่วมในความผิดครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะพยายามระมัดระวัง แต่สิ่งที่ปกปิดไว้สำหรับพวกเธอนั่นเป็นสิ่งที่ทำร้ายตัวพวกเธออย่างมาก

 

 

「คุคุ! รอบนี้แกแย่เองนะโนโซมุ。」

 

 

มาร์พึมพำด้วยท่าทางสนุก มาร์ยืนอยู่ข้างทั้งสามแม้ว่าเขาจะมีส่วนร่วมแต่หาได้สนใจไม่

 

 

 แต่ว่าไอริสไม่ลืมมาร์หรอก

 

 

「………………ยังไงซะมาร์ก็มีส่วนเอี่ยวด้วยนี่นะคะ。」

 

 

「อึ๋ย!」

 

 

「…………ฉันเห็นด้วยคะ กรณีนี่คุณมาร์มีความผิดค่ะท่านพี่」

 

 

「……มาร์คุงงงงงงงงง」

 

 

「…………อืมมจริงสิ! วันนี้ข้าต้องไปเฝ้าร้านนี่หว่า……」

 

 

มาร์ตระหนักดีว่าหอกของไอริสชี้ไปทางเขาแล้วและพยายามหนีออกจากที่นั่นด้วยคำโกหกทันที อย่างไรก็ตามมาร์รีบวิ่งแต่ก็โดนกระชากคอเสื้อไว้ ไอริสดึงมาร์กลับมา รอยยิ้มสวยเหี้ยมเกรียมนั่นเผยให้เห็น โซเมียและทิม่าเองก็หัวเราะแบบไม่เป็นมิตรเลย

 

 

「เอาล่ะถึงเวลาเทศนากันหน่อยแล้ว」

 

 

โนโซมุและมาร์ไม่สามารถขัดขืนได้เลยและตัดสินใจยกธงขาวใส่สาวๆแต่เนิ่นๆ

 

 

 

ในที่สุดหลังจากที่ทั้งสามคนเทศนาใส่พวกโนโซมุเสร็จสิ้นก็ไปที่สวนสาธารณะหน้าโรงเรียนจนกระทั่งถึงสถานที่ๆต้องแยกกับโซเมียที่ไปโรงเรียนอีคอร์ส

 

 

「โนโซมุ จากนี้ไปก็อย่าซ่อนอะไรอีกนะคะ」

 

 

「นั่นสินะคะ! ห้ามซ่อนนะคุณโนโซมุ!」

 

 

「มาร์คุงเองก็ด้วยนะ……」

 

 

 

 

「หะหะหะ」

 

「……เข้าใจแล้วล่ะน่า……」

 

 

ทั้งโนโซมุและมาร์ต่างไหล่ตกกับใบหน้าซีดเซียว ดูเหมือนว่าเส้นทางต่อจากนี้คงลำบากน่าดู

 

 

โซเมียที่ยังเด็กทำท่าทางโกรธแก้มป่อง แต่ไอริสที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่สงบเหมือนดั่งเคย

 

 

โนโซมุไม่คิดว่าเธอจะโกรธเขาถึงขนาดนี้ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ขอโทษเธอ

 

 

ทิม่าเองก็จ้องไปทางมาร์ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง สำหรับการที่ทำให้สาวสวยเช่นเธอมารู้สึกเช่นนี้คงทำให้มาร์รู้สึกผิดมากจริงๆนั่นละ

 

 

มาร์เองก็รู้สึกผิดและทำท่าทางคร่ำครวญ เช่น “เอ่อ” “โม่ว”และในที่สุดก็ขอโทษเธอจากใจจริง

 

 

◇◆◇

 

 

「โอ๊ะ! ตรงนั้นคุณหนูเมื่อตอนนั้นไม่ใช่เหรอนั่น!」

 

 

เมื่อโนโซมุมองไปก็พบกับชายชราหัวขาวมีเครากำลังเดินมาทางนี้ นั่นคือตาแก่ซอนเน่จอมลามากที่ลวนลามไอริสเมื่อไม่กี่วันมานี้

 

 

「…………ทำไมตาแก่นั่นถึงมาอยู่ที่นี่?」

 

 

เมื่อโนโซมุถามชายชราก็เริ่มตอบกลับมาด้วยท่าทางราวกับถูกหวย

 

「ก็ได้กลิ่นหอมๆของดอกไม้แสนสวยก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับคุณหนูแสนสวยอีกครั้ง….นี่มันชะตากรรมสินะเนี่ย!」

 

 

 

(กลิ่นงั้นเหรอ…………พาตาแก่นี่ไปหาทหารดีไหมเนี่ย? หรือควรจะพาไปหาหมอดี?)

 

 

ตามปกติแล้วตาแก่นี่มีแต่เลือกลามกจกเปรตอยู่ในหัวตลอดเวลา แต่ว่าหมอนั่นบอกตามกลิ่นมาตามธรรมชาติ โนโซมุรู้สึกแปลกใจควรจะส่งหมอนี่ให้ทหารยามแถวนี้ดีไหมเนี่ย

 

 

「ว่าไงนะ! มีสาวสวยเพิ่มอีกคนยังงั้นเหรอ! เป็นไปได้ไงกันเนี่ย!ถ้าไม่รังเกียจไปดื่มชากับตาแก่คนนี้จะได้ไหมน้อ ?!」

 

「เอ๋ ฉันงั้นเหรอคะ」「……เอออออ๋!」

 

ทันใดที่ซอนเน่สังเกตเห็นโซเมียและทิม่าก็พุ่งเข้าหาทันที ราวกับว่าจะลักพาตัวไปได้ตลอดเวลา แถมแถวนี้ยังใกล้กับเขตประตูหลักของสถาบันอีก มีนักเรียนหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปทางสถาบัน คนรอบข้างก็เริ่มมองมา แต่ดูเหมือนซอนเน่จะไม่สนใจ

 

 

「อุมุ! มีร้านแจ่มๆแถวนี้ด้วยน่าาา!ถึงยังงั้นพวกเธอเนี่ยก็สวยเหมือนดอกลิลลี่สีขาวที่บานสะพรั่งเลยน้า!」

 

ซอนเน่เริ่มเข้าใกล้โซเมียและทิม่า เมื่อวันก่อนผมอารมณ์ขึ้นมากเกินไปเพราะคิดว่าเหมือนชิโนะ

 

 

「อะเอ่อ……………คาบแรกจะเริ่มแล้วด้วยสิเนี่ย…………」

 

 

โซเมียดูท่าทางไม่ค่อยเข้าใจ แต่ปัญหาคือทิม่าที่รับมือผู้ชายไม่เก่ง ซอนเน่โดนคำพูดนั่นจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว

 

 

「ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม! สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการได้พบกัน! คนเราน่ะนานๆพบกันครั้งหนึ่ง การพบกันครั้งนี้อาจเรียกได้ว่าโชคชะตา อาจจะไม่ได้พบกันอีกแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นการได้พบอัญมณีแสนล้ำค่าอยู่ตรงหน้าเช่นนี้! นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าพวกเธอควรมาออกเดทกับตาแก่คนนี้「「ไม่ต้องกลัวหรอกนะ!!!」」อั่กกกกกกกกกกก!!」

 

 

หมัดของโนโซมุและมาร์กระแทกเข้าศีรษะซอนเน่โดยตรงหมัดทั้งสองประสานกันเป็นหนึ่งเดียวจนตาแก่ซอนเน่ปลิวไปไกล หมอนั่นโอดครวญด้วยท่าทางน่าสมเพช

 

 

「ทำอะไรกันหะ!」

 

 

「หนอยแน่ตาแก่บ้ากาม! ถ้ายังคิดจะฝืนไปต่อละก็หามส่งทหารยามแถวนี้คงไม่ว่ากันนะ!!」

 

 

ซอนเน่ที่ล้มลงพื้นและหน้าบวมแดงก็พูดออกมาอย่างเห็นแก่ตัว ตามที่คิดไว้โนโซมุไม่คิดจะปล่อยเขาไว้เลยพูดออกไปกับหมอนั่นอย่างไม่ลังเล

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุรู้สึกสับสนที่ได้ยินคำพูดถัดไป

 

 

 

「……ไม่ล่ะข้าไม่ต้องการเจ้าพวกนั้น ถ้างั้นมาเริ่มกันเลยไหมละ……」  

 

「……หะ!」

 

มาร์เองที่ตอบสนองต่อจิตสังหารของซอนเน่ด้วยดาบใหญ่

 

 

หากมองใกล้ๆแล้วตอนนี้ดวงตาของตาแก่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดจนลืมความโกรธไปแล้ว

 

「เห้ย ตาแก่!คิดจะทำอะไรกันแน่ในสถานที่แบบนี้หะ!!」

 

「ก็เพราะว่าข้าตัดสินใจแล้วน่ะสิ!! ว่าจะจัดการไอ้ตาแก่ลามกทิ้งซะตรงนี้เลย!!」

 

มาร์ชักดาบใหญ่ออกมาจากฝัก ทิม่าและโซเมียต่างตกใจเพราะคิดว่ามันแย่แน่ๆ

 

「เดี๋ยวก่อนสิคะ! อย่าทำแบบนั้นเลยนะคุณมาร์คะ!!」

 

 

「เดะเดี๋ยวก่อนสิมาร์คุง! แบบนี้มันเกินไปหน่อยแล้วนะ!!」

 

 

「ช่วยข้าด้วยสิ~~!!」

 

 

「อาาาาา! รอก่อนสิฟะ ตาแก่เวรเอ้ย!!」

 

 

ทิม่าและโซเมียพยายามหยุดมาร์ที่กำลังพุ่งเข้าไปมาซอนเน่ บางทีเพราะรับรู้ความโกรธของมาร์ได้ก็เลยเผ่นแน่บไปแล้ว

   

(เร็วมาก! นี่แก่แล้วจริงเหรอฟะ……)

 

ซอนเน่วิ่งหนีไปด้วยความเร็วที่ไม่เหมือนตาแก่เลยแม้แต่น้อย  

 

อย่างไรก็๖ามหากคิดดูอาจารย์เองก็เคลื่อนไหวได้ประมาณเขาเลย เมื่อคิดดูแล้วน่าจะเกิดในคนประเภทเดียวกับอาจารย์

 

 

เป็นตัวตนที่หายาก พบเจอได้ยาก แต่ถ้าคิดว่าอีกฝ่ายเหมือนชิโนะ โนโซมุเองก็โกรธเหมือนกัน

 

 

「จะหนีไปไหน ! รอก่อนสิวะ!!」

 

 

「เอ่อ ใจเย็นได้แล้วนะคะ มาร์คุง!」

 

 

「ทั้งพี่สาวและทั้งคุณโนโซมุเลยโม่ว! มาช่วยกันด้วยสิคะ~~」

 

 

 

(เออะ ผมลืมดูมาร์เลย……・)

 

 

โนโซมุรีบไปช่วยตามคำพูดของโซเมีย

 

 

◇◆◇

 

 

โนโซมุและมาร์แยกทางจากไอริสและเดินไปที่ห้อง 10

 

 

มาร์ยังคงทำท่าทางหงุดหงิดไม่หาย

 

 

 

 

「ชิ ไอ้ตาแก่นั่น……」

 

ข้าไม่สามารถหยุดความโกรธที่มีต่อตาแก่ลามกนั่นได้เลย แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็มีเปลวไฟแห่งความโกรธอยู่ในตัวของข้า

 

「ผมเองก็ไม่เห็นใจตาแก่นั่นหรอก ว่าแต่ว่ามาร์ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ?」

 

「……อืม!」

 

 

โนโซมุเรียกข้าที่ยังโกรธไม่หาย แต่ข้าก็ส่งเสียงออกมาเล็กน้อย

 

ทำไมข้าถึงโกรธหนักขนาดนี้กันนะ?  

 

 

พอเห็นหมอนั่นเข้ามาใกล้ทิม่าแล้ว ข้าก็รู้สึกโกรธจนบอกไม่ถูก รู้สึกหงุดหงิดมากที่เห็นตาแก่นั่นมาเซ้าซี้เธอ ความรู้สึกมันผสมปนเปไปทั่ว

 

 

ทันใดนั้นเองเขาก็นึกถึงภาพของชายคนนั้นคือศัตรูและพยายามจะจัดการให้พ้นตาให้เร็วที่สุด ข้าเองก็รู้ตัวว่าทำเกินไปแต่ว่าเหตุผลในใจข้ามันผลักดันการกระทำเหล่านั้น

 

(เกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่เนี่ย? ข้าน่ะ…………)

 

เพื่อนของข้าก็จ้องมองมาทางนี้ด้วยท่าทางเป็นห่วง แต่ข้าไม่ได้สังเกตเห็นเลย

 

◇◆◇

 

โนโซมุถอนหายใจที่เห็นมาร์ยังโกรธไม่หาย แม้ว่าจะมาถึงห้องเรียนแล้วก็ตาม

ตอนนั้นเองก็มีนักเรียนชายคนหนึ่งโผล่มาตรงหน้าผม

 

 

「โอ้ตโตะ」「โอ้ว!」

 

 

ผมพยายามหลีกเลี่ยงแต่ว่าก็เลี่ยงไม่ได้จนไหล่ของพวกเราชนกัน โนโซมุรู้สึกประหลาดใจที่เห็นฝั่งตรงข้ามลุกขึ้นมาในทันที

 

เขามีรูปร่างผอมบางมีหูและหางสีทอง ผู้หญิงส่วนใหญ่ถ้าได้เห็นต้องร้องกรี๊ด

 

 

「อ่าาา ขอโทษด้วยนะพอดีรีบอยู่ เจ็บตรงไหนรึเปล่า?」

 

「อืม ก็โอเค……แล้วนายล่ะ?」

 

「ก็โอเคดี ถึงแม้จะหน้าตาแบบนี้ก็เถอะน้า」

 

 

ทันใดนั้นหางนั่นก็วนเข้าไปคลุมอกเขาและก็ยืดอกด้วยท่าทางภูมิใจ ไม่มีอารมณ์เชิงลบแม้แต่น้อย เป็นความบริสุทธิ์ที่ดูเหมือนเด็กๆ โนโซมุรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกเหล่านี้

 

 

「โอ้วววว ข้าน้อยชื่อ ฟีโอ・ริซิสซ่าส์ ปี 3 ห้อง 2 ล่ะ 」

 

「อ่า ผม โนโซมุ ・เบลาตี้ อยู่ปี 3 ห้อง 10」

 

「หืมมมมมมมมมม หรือว่า เป็นคนใน “ข่าวลือ” โนโซมุ เบลาตี้」

 

「อ่าาา…………」

 

 

เมื่อฟีโอได้ยินชื่อของผมเขาก็หรี่ตาจ้องมองโนโซมุ โนโซมุพยายามขุดคุ้ยความทรงจำเพราะเขารู้สึกคุ้นเคยกับคนๆนี้มากๆ

 

 

“แกร๊งๆ”

 

 

ตอนนั้นเองระฆังคาบเช้าก็ดังขึ้น

 

「แย่จัง ถ้าอยู่นานกว่านี้เดี๋ยวจะสาย ข้าน้อยขอตัวก่อนนะ โนโซมุ!」

 

จากนั้นฟีโอก็กล่าวลาและรีบเดินออกไป โนโซมุเองก็ไม่มีทางเลือกได้แต่เดินกลับไปที่ห้องเรียนโดยที่ยังไม่สามารถขจัดความข้องใจได้

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท