โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 45

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่4ตอนที่15

 

 

 

เมื่อคาบเรียนเลิกเสียงระฆังดังขึ้นทุกคนต่างลุกออกจากที่นั่ง แม้ว่าระฆังจะยังคงดังอยู่แต่หลายๆคนก็เริ่มกลับบ้านกันแล้ว

 

 

ผมและมาร์เองก็ไปที่ทางเดินพร้อมกับแบกกระเป๋าไปด้วย

 

 

「นี่โนโซมุวันนี้ทำไรดี?」

 

 

「…………ทำอะไรยังงั้นเหรอ?」

 

 

「หลังเลิกเรียนจะเอาไง ถ้าไม่รังเกียจไปฝึกที่เขตนอกเมืองไหม?พวกไอริสเองก็จะไปด้วยไปมะ?」

 

 

「……อืม……」

 

 

มาร์ชวนผม แต่ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปเมื่อคืนยังคงอยู่ในหัวผม ผมเลยค่อนข้างลังเลนิดหน่อย

 

 

ความจริงที่ว่าเคนมันทำอะไรลงไปบ้าง

 

 

หมอนั่นระเบิดความเกลียดชังที่มีต่อผมและความรักที่มีต่อลิซ่ามากเกินไปจากนั้นก็ปลอมตัวเป็น “ผม”

 

 

หลังจากนั้นผมก็ต้องทุกข์ทรมานเพราะสิ่งที่เคนทำไว้

 

 

เช่นเดียวกับความฝันสีเลือดที่เห็นเมื่อเช้านี้ พื้นดินต่างย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาด และเครื่องในรวมทั้งอวัยวะของเหล่าสัตว์อสูรจำนวนมากที่ผมพรากชีวิตพวกมันไปเมื่อวาน มันยังคงฝังอยู่ในใจ

 

 

「เอ๊ะ!!」

 

 

และ”หมอนั่น”ก็พยายามจะบอกว่าผมน่ะเหมือนกับ “เขา”มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเข้าไปใหญ่ความขยะแขยงของคราบเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าพยายามผลักดันให้ผม อ้วกออกมาแต่ผมก็กลั้นมันเอาไว้

 

 

「……โนโซมุไหวเปล่าเนี่ย? แปลกๆตั้งแต่เช้าแล้วนะ」

 

 

มาร์พูดด้วยท่าทางกังวล แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปและพยายามจะทำตัวตามปกติ และบอกปฏิเสธมาร์ว่าไม่เป็นไร ทันใดนั้นผมก็เห็นร่างของมันผู้นั้นตรงหน้าผม

 

 

「แล้วก็เคน สถานที่และเวลานัดพบล่ะ?」

 

 

「เจอกันที่สวนชูโอเวลาประมาณ 10 โมงเช้าเป็นไง?」

 

 

สิ่งที่ผมเห็นคือลิซ่าและเคนที่เดินคู่กัน

 

 

บางทีเธออาจจะสัญญากับเคนว่าจะไปเดทในวันหยุดพรุ่งนี้ เธอยิ้มอย่างมีความสุขและเคนเองก็ยิ้มอยู่ข้างๆเธอ

 

 

ตอนที่ผมเห็นมัน เปลวไฟที่สุมอยู่ในอกคู่ในมันก็เริ่มโหมกระหน่ำอีกครั้ง

 

 

ผมพยายามอดทนต่อตัวเองที่กำลังโกรธจัดด้วยการกำหมัดแน่นๆ แต่เปลวไฟที่เคยลุกโชนมันพยายามกลืนกินตัวตนของผมในชั่วพริบตาและพยายามระเบิดอารมณ์ออกไป

 

 

พวกเขาที่สังเกตเห็นผมก็พยายามแสดงสีหน้าที่ไร้อารมณ์ออกมา พยายามหลีกหน้าผม

 

 

「ชิ!!!」

 

 

สีหน้าของลิซ่าที่เห็นผมก็แข็งทื่อทันที เธอจ้องมองมาทางนี้ด้วยความเกลียดชัง แต่สำหรับผมตอนนี้มันไม่มีอะไรมากกว่า การที่จะทำให้ผมโกรธมากขึ้นไปอีก ผมพยายามระงับความโกรธนี่อย่างสุดชีวิต

 

 

ถึงกระนั้นผมก็ยังกัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ระเบิดความโกรธดั่งเช่นเมื่อวาน

 

 

เล็บที่จิกกัดเข้าไปในมืออย่างแน่นหนาและกัดเลือดเนื้อของผม ความเจ็บปวดทำให้เกิดเลือดเล็กๆน้อยๆบนฝ่ามือของผมที่กำลังทนกับความสิ้นหวัง

 

 

แต่ว่าเลือดนั่นเคนก็เห็นเข้า

 

 

(อึดอัดมาก!!)

 

 

 …………ราวกับกำลังร่ำไห้。

 

 

เคนมันทำท่าทางร่ำไห้ภายด้านหลังของลิซ่า

 

 

การแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไป แต่สายตาของเขาเหมือนกับที่ล้อเลียนผมเมื่อวาน

 

 

「!!!」

 

 

ทันทีที่เห็นมัน ความรู้สึกที่กำลังถูกซ่อมแซมอยู่ภายในก็พังทลายลง

 

 

คิ้วตั้ง เลิกคิ้วพร้อมๆกัน แก้มฉีกจนเห็นเขี้ยว

 

 

สายตาเกลียดชังของลิซ่ายังคงส่งตรงมาไม่หยุด และสีหน้าของลิซ่าก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นใบหน้าอันโกรธแค้นของผม

 

 

 ผมพยายามที่จะควบคุมมันเอาไว้จนถึงที่สุด……。

 

 

「อาาา……」

 

 

ภาพสุดท้ายของเมื่อวานที่เห็นก็คือคอของไซคลอปส์ที่หลุดออกจากบ่าในวินาทีสุดท้าย

 

 

ตัวตนที่น่ารังเกียจนั่นมันกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ผมพยายามอดกลั้นอย่างเต็มที่ และผมก็ต้องรีบละสายตาเพื่อไม่ให้บุคลิกด้านนั้นมันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง จนต้องหันหลังกลับ

 

 

「อะ เฮ้ยโนโซมุ!!」

 

 

「ขอโทษนะมาร์ แต่ว่าผมมีธุระนิดหน่อย……」

 

 

ผมเมินเสียงของมาร์และเริ่มเดินออกไป

 

 

แววตาของ “หมอนั่น”มันผุดขึ้นในใจผมอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากผมอยู่ที่นี่ต่อไป ผมต้องออกห่างจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

 

ขาที่ควรจะเดินอย่างปกติกลับเร็วขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและก่อนที่จะรู้ตัวก็ออกวิ่งเต็มกำลังแล้ว

 

 

ผมเลิกที่จะระงับความโกรธเอาไว้ ไม่อยากได้ยินอะไรอีกแล้ว และวิ่งต่อไปราวกับจะสลัดความรู้สึกเหล่านั้นให้หลุดลง

 

 

◇◆◇

 

 

ขณะที่ผมออกวิ่งต่อไป ก็กลับเข้ามาในป่าอีกครั้ง

 

 

พระอาทิตย์ที่ส่องแสงบนท้องฟ้ากำลังจะตกดินในหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีแดงสดยามพระอาทิตย์ตกดิน

 

 

เมื่อผมมาถึงที่นี่ ผมก็หอบหายใจอยู่พักหนึ่งและเมื่อควบคุมลมหายใจได้ ความเกลียดชังในตัวผมเองก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

 

 

ผมพยายามทำตัวให้เหมือนปกติ แต่ก็ทำไม่ได้เลย

 

 

 

ต้องขอโทษมาร์และคนอื่นๆแต่พูดตามตรงตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร และผมกลัวมากที่จะต้องอยู่กับทุกคนในสภาพเช่นนี้

 

 

ถึงกระนั้น ช่วงเวลาของวันก็สงบสติลงได้บ้าง

 

 

 รู้อยู่แล้วละผมกำลังหนีความจริงอีกแล้ว นอกจากนี้ “หมอนั่น”ก็เป็นคนใจร้อนมากๆด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องมีสติให้มากที่สุด ดังนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังกระท่อมของชิโนะที่ๆผมใช้ชีวิตอยู่อย่างยาวนานในอาร์คาซัม……。

 

 

 

「?มันแปลกๆนะ……」

 

สภาพของป่ามันแปลกไป ไม่มีร่องรอยของสัตว์อสูรเลย

 

 

สัตว์ธรรมดาก็ไม่เห็น  

 

 

กระต่าย หนู นก มากมายหลายชนิด แม้จะแตกต่างกันออกไปแต่ตอนนี้ในป่ามันแปลกมากๆ ตามปกติจะรู้สึกถึงพวกมันได้บ้างแต่ตอนนี้สัมผัสไม่ได้เลย

 

 

 

「…………」

 

ประสบการณ์ที่สั่งสมมากำลังบอกว่าป่าเปลี่ยนแปลงไป จิตสำนึกตามธรรมชาติจะเตือนสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อตันเอง หัวใจของผมเต้นรัวเล็กน้อยเพื่อให้เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ตลอดเวลา และเลือดเองก็ไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง

 

 

เสียงถูไถของกิ่งไม้ปลิวไสวไปตามสายลมและเสียงอื่นๆนอกจากเสียงหัวใจของผม

 

 

ได้ยินอะไรบางอย่าง

 

 

「ชิ………。…………」

 

「…………งั้น…………、ข้างหลัง…………………」

 

จากนั้นก็ได้ยินเสียงของคนหลายคนผสมปนเปกันไป และก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน อย่างไรก็ตามผมไม่รู้ว่าพวกนั้นกำลังพูดว่าอะไร อยู่ไกลแค่ไหน

 

 

ผมไม่รู้ว่านี่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ป่าผิดแปลกไปหรือเปล่า แต่ผมเองก็ชักดาบออกมาและเริ่มตามเสียงไป

 

 

「มิมุ……! ทางซ้าย…………หวาาา! มันล่อมา……!」

 

「บางที………! รุ……สนับสนุน…………………」

 

「อย่าพูดบ้าๆ……。มียารักษา………………」

 

 

หลังจากเดินมาได้สักพัก เสียงก็เริ่มดังขึ้นและแสงที่ส่องผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้ก็ค่อยๆมีมากขึ้น

 

 

ในเวลาเดียวกันก็เริ่มได้ยินเนื้อหาของการสนทนา แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังสู้กับสัตว์อสูรอยู่

 

 

เมื่อเดินต่อไปก็พบว่าต้นไม้รกรานถูกตัดออกและยิ่งไปกว่านั้นมันกลายเป็นพื้นที่เปิด

 

 

ผมซ่อนร่างกายตัวเองท่ามกลางพุ่มไม้ในเขตนั้น

 

「ผู้หญิงคนนั้นมัน…………」

 

ที่ตรงนั้นมีนักเรียนของสถาบันโซลมินาติสามคนกำลังต่อสู้กับก็อบลินสายพันธุ์ย่อย สิบตัว และในมือพวกมันต่างถืออาวุธ เช่น มีด ดาบ และกระบองเก่าๆ

 

ก็อบลินเป็นเผ่าพันธุ์กึ่งมนุษย์ที่พบเห็นได้ทั่วทวีป แต่พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกจัดอยู่ในเผ่าเดียวกับเหล่าสัตว์อสูร เนื่องจากมีสติปัญญาต่ำและโจมตีมนุษย์ตามใจชอบ

 

สิ่งที่ดึงดูดสายตาของผมก็คือนักเรียนสามคนที่กำลังสู้อยู่ ชายหนุ่มตัวเล็กกำลังร่ายเวทย์ สาวน้อยเผ่าแมวป่าที่กำลังสู้กับก็อบลิน และสาวเอลฟ์ที่กำลังยิงธนูอยู่

 

 

「ซีน่า・จูเรียล……」

 

 

คนที่รักษาแผลให้ผมเมื่อวานนี้ แต่เขาก็โกรธมากเพราะสิ่งที่เธอพูดใส่กับผมจนเผลอปล่อยจิตสังหารออกไป

 

 

ทั้งสามคนกำลังเอาชนะก็อบลินทีละตัวด้วยการเคลื่อนไหวเป็นทีม

 

 

ในที่สุดทั้งสามก็จัดการก็อบลินจนหมด เนื่องจากผมเกือบจะเข้าไปช่วยทำให้พุ่มไม้มันสั่นเล็กน้อย

 

 

วินาทีนั้นเองก็มีลำแสงผ่านหน้าผมไป

 

 

◇◆◇

 

 

「จบกันเพียงเท่านี้ละ!」

 

มิมุรุใช้มีดฟันใส่เหล่าก็อบลินตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่และแทงมันลงไป

 

 

ซีน่ามองไปรอบๆเพื่อเช็คดูว่ามีก็อบลินเหลืออยู่ไหม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหลือแล้ว

 

 

 

「หมดแล้วล่ะ ทอม แล้วรวบรวมของมาพอรึยัง?」

 

「อืม เดี๋ยวจะรีบไปเก็บนะ」

 

 

ทอมหยิบกระเป๋าสะพายไหล่

 

 

พวกเขาเก็บรวบรวมวัตถุดิบเสร็จแล้วและพบกับพวกก็อบลินระหว่างทางกลับเมือง

 

นั่นคือสิ่งที่”ฉันเจอ”

 

ไม่นานก่อนจะเกิดเรื่อง เมื่อสามคนกำลังรวบรวมวัตถุดิบและกำลังเดินมาถึงที่โล่งตรงนี้ ก็อบลินสิบตัวก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้

 

 

ในตอนแรกทั้งสามคิดว่าถูกซุ่มโจมตีแต่เป็นพวกก็อบลินเองที่ตกตะลึงกับการปรากฏตัวของทั้งสามอย่างกระทันหัน และหลังจากที่จ้องกันอยู่นานมันก็เริ่มโจมตี

 

 

แน่นอนสามคนที่โดนโจมตีก็ต้องสู้กลับ เป็นผลให้ก็อบลินทั้งหมดถูกจัดการ

 

「แต่ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่โจมตีเรา และดูเหมือนไม่ได้กำลังล่าเหยื่อเลย……」

 

ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงดังนิดหน่อย ซีน่าหยิบลูกธนูและยิงออกไปด้วยความรวดเร็วทางพุ่มไม้

 

 

ลูกธนูหายไปในพุ่มไม้ แต่เธอก็หันธนูไปยังจุดเดิมอีกครั้ง

 

「……ออกมาซะ ฉันรู้นะว่ามีคนอยู่ตรงนั้น」

 

หลังจากที่เธอส่งเสียงเช่นนั้น ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ แต่ไม่นานนัก โนโซมุ ก็ปรากฏตัวขึ้น

 

「……นาย!!」

 

ซีน่าที่ยืนยันภาพตรงหน้าก็ทำหน้าเกร็งทันที เสียงที่ฉันพูดออกไปก็ดูรุนแรงมากๆ

 

 

เป็นเรื่องจริงที่ว่าเธอค่อนข้างมีความสันพันธ์อันแสนละเอียดอ่อนกับเขา และฉันก็คิดถึงเรื่องเมื่อวาน แต่อารมณ์ของเธอก็ดิ่งลงเพราะเขาเข้าป่าด้วยตัวคนเดียว

 

 

 

 

「……เอ่ออ……หวัดดี……」

 

ในทางกลับกันโนโซมุมองมาทางนี้ด้วยท่าทีเขินอายเพราะเรื่องเมื่อคืนกับเมื่อเช้านี้

 

 

◇◆◇

 

 

「อืมมมมมม。งั้นนายก็คือ โนโซมุ・เบลาตี้~~。ก็เห็นอยู่หรอกนะเมื่อเช้า แต่เมื่อเช้าใบหน้าดูแย่มากเลยนะ~~」

 

「มิมุรุเองก็สบายดีสินะครับ……」

 

「…………………」

 

มิมุรุจ้องมองโนโซมุและทอมเองก็ได้แต่นิ่งเงียบ ซีน่ายืนกอดอกและจ้องมองโนโซมุ

 

 

เธอไม่พูดเพราะถ้าพูดเมื่อไรได้เทศยาวแน่ๆ เมื่อเธอพยายามจะพูดก็นึกถึงเรื่องเมื่อวาน

 

 

「…………ใบหน้าดูแย่มากเลยนะครับ」

 

โนโซมุกังวลเกี่ยวกับซีน่าแต่เธอก็พยายามหลบตา

 

「โนโซมุคุง……จะว่ายังไงดีล่ะ เข้าป่ามาคนเดียวเหรอ?」

 

「อืม ก็บางทีละนะ………」

 

「………………………………………………………」

 

ทอมถามโนโซมุแต่โนโซมุกังวลเกี่ยวกับซีน่ามากกว่าและตอบแบบคลุมเครือ

เมื่อโนโซมุเหลือบมองใบหน้าของเธอ ก็ดูท่าทางโกรธมาก

 

「อีกอย่างนะมีเรื่องจะถามหน่อย~~。ทำอะไรลงไปกับเจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬงั้นเหรอ!」

 

「ก็บอกแล้วไงว่าอย่าน่ะ มิมุรุ」

 

มิมุรุพยายามถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอริสโดยไม่สนใจอารมณ์ของซีน่าเลย แต่ทอมเองก็ได้แต่ยอมแพ้กับท่าทางของเธอ

 

「อืมมมมมม~~! ก็อยากรู้น่ะสิทำไมเจ้าหญิงที่แสนสูงส่งดันมาสนใจผู้ชายต่ำต้อยเช่นนี้น่ะ~~。เน่!เดทกันอยู่รึเปล่าน่ะ!?」

 

「……เปล่าหรอก ไม่ได้เดทกันหรอกครับ…………」

 

「อืมมมม~~จริงเหรอ~~?แล้ว!!「มิมุรุ ถ้าเธอยังมัวแต่ทำตัวโง่ๆอยู่แบบนี้ฉันกลับแล้วนะ」อืออ~โอกาสดีก็จริง แต่น่าเบื่อจังเลยน้า~~」

 

อันที่จริงโนโซมุไม่ได้คบกับไอริส แต่ซีน่าเองก็ดุมิมุรุที่พยายามตื้อ อาจเป็นเพราะเธอไม่พอใจกับคำตอบของโนโซมุ

 

มิมุรุทำท่าทางไม่พอใจ แต่บรรยากาศก็บอกว่ายอมแพ้แล้วจ้า ซีน่าเองก็หยิบลูกธนูและถือคันธนูด้วยความตึงเครียด

 

 

 

「นั่นก็อีกเรื่องหนึ่งแต่ว่าจิตวิญญาณในป่ามันแปลกไป。……ดูท่าทางน่ากลัวมาก……ต้องรีบออกจากที่นี่โดยทันที」

 

ใบหน้าของทอมตึงเครียดขึ้นมาทันทีและบรรยากาศขี้เล่นนั่นก็เปลี่ยนมาเป็นโหมดจริงจัง

 

เธอบอกว่าไม่มีร่องรอยของสัตว์อยู่เลย เนื่องจากเธอเป็นเอลฟ์จึงตอบสนองกับจิตวิญญาณในป่าได้ โนโซมุเองก็สังเกตได้ว่าป่ามันแปลกไป

 

เมื่อโนโซมุพยายามตัดสินใจจะกลับ โนโซมุรู้สึกประทับใจเล็กน้อยกับความรู้สึกที่ถูกปิดกั้นนี่

 

 

「อั่ก!!!!!」

 

ร่างกายเปลี่ยนเป็นท่าทีต่อสู้ในทันทีด้วยความรู้สึกแห่งความตายที่ใกล้เข้ามา กล้ามเนื้อตึงแน่นและหัวใจเต้นรัว เลือดกำลังไหลเวียนไปทั่วร่าง

 

 

โนโซมุมองดูพุ่มไม้ตรงป่า ผมรู้สึกได้ว่าแรงกดดันมหาศาลมาจากทางนั้น

 

 

ซีน่าและเพื่อนๆเองก็รู้สึกได้เช่นกัน พวกเขาก็ต่างมองมาทางที่โนโซมุจับจ้อง

 

 

 

ในที่สุดสัตว์อสูรตัวร้ายก็โผล่มาจากพุ่มไม้

 

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดา แน่นอนมันมีสี่ขาเหมือนสัตว์เดรัจฉาน และรูปร่างหน้าตาของมันคล้ายกับหมาป่า แต่ขนาดมันใหญ่อย่างเห็นได้ชัด ความยาวของลำตัวใหญ่กว่าผู้ใหญ่ทั้งตัวและความสูงก็สูงเท่าๆกับหน้าอกของโนโซมุเลยด้วย  

 

 

นอกจากนี้ยังมีสติปัญญา

 

 

เหนือสิ่งอื่นใดร่างกายมันถูกปกคลุมไปด้วยตะกอนสีดำและควันดำก็พวกพุ่งขึ้นพร้อมกับเสียง

 

 

ไม่มีม่านตามีเพียงดวงตาสีแดงที่จ้องมาทางนี้เท่านั้น

 

 

มันเป็นสัตว์อสูรที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างน้อยโนโซมุก็ไม่เคยเห็นมันในป่าแถวนี้เลย และไม่เคยเห็นมันในหนังสือด้วย

 

 

 

「อะไรกัน……หมอนี่มัน?……」

 

「อาาาาาาา…………」

 

「ชิ…………」

 

「อุหวาาาาา…………」

 

มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากโนโซมุและซีน่าที่กำลังส่งเสียงคราง เหงื่อเย็นๆไหลออกจากใบหน้าของมิมุรุและทอมก็ก้นจั้มเบ้า

 

 

สัตว์อสูรร้ายสีดำ

 

เห็นได้ชัดว่าโนโซมุค่อนข้างไม่พอใจเพราะไม่มีข้อมูลของศัตรูเลย

 

「บรู้วววววววววววววววววววววววววววว!!!!」

 

มันแผดเสียงคำราม ต้นไม้โดยรอบพริ้วไหวราวกับหวาดกลัว

 

 

วินาทีถัดมาตัวมันตั้งสติชั่วครู่ และก็พุ่งเข้าหาพวกโนโซมุราวกับว่าสถานการณ์พลิกกลับ

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท