โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 53

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

เรื่องราวแสนลับ ไอริสดิน่าผู้อยากช่วยทำงาน

 

 

ช่วงบ่ายของวันหยุด ไอริสดิน่า・ฟรานซิส กำลังเดินเล่นอยู่ในเมืองตามลำพัง

 

 

เป็นคนที่สวยมีเสน่ห์กำลังเดินเริงร่าอยู่ตามถนน

 

 

สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดมากระทบผมยาวๆเงางามของเธอและแสงแดดที่ทอแสงลงมาในดวงตาสีดำสนิท

 

 

เหนือสิ่งอื่นใดความสง่างามของเธอนั้นทำให้เธอเด่นสะดุดสายตาประชาชี

 

 

ผู้คนบนท้องถนนต่างจ้องมองรูปลักษณ์อันแสนงดงามของเธอ แต่ไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้ และบริเวณรอบๆก็เงียบราวกับภาพวาดที่ถูกวาดออกมาอย่างประนีต

 

 

「อืมม…………วันนี้อากาศดีจังเลย ท้องฟ้าเองก็สวยน่าจะชวนโซเมียมาด้วย?」

 

 

เธอมักจะไม่ขาดฝึกแม้แต่ในวันหยุด แต่วันนี้เธอฝึกขั้นต่ำเสร็จเรียบร้อยและออกมาในเมืองเพื่อหยุดพัก

 

 

ฉันคิดว่าจะชวนน้องสาวแสนรักของฉันมาเที่ยวด้วยกัน แต่ว่าฉันที่งานยุ่งมากจนไม่มีเวลาว่างไปชวนเธอเลย

 

 

ฉันก็แค่อยากจะเดินไปรอบๆเมืองอาร์คาซัม

 

 

ทางเหนือนั้นเป็นที่ตั้งคฤหาสน์ของตระกูลฟรานซิสและผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ฉันเดินมาทางย่านใจกลางเมืองและกำลังไปย่านการค้าทางตอนใต้

 

 

หลังจากเดินชมย่านการค้าและดูของหายากมากมายจากทั่วทั้งทวีป คราวนี้ฉันก็ไปทางส่วนของทางช่างฝีมือที่อยู่ทิศตะวันตก

 

 

ในเขตของช่างฝีมือ มีช่างจำนวนมากที่ทำงานเพื่อเมืองอาร์คาซัมแห่งนี้อย่างหนักแทบทุกวัน

 

 

งานฝีมือมีหลากหหลายประเภทตั้งแต่ก่อสร้าง ช่างไม้ ช่างทำขนมปัง ช่างตัดเสื้อ และช่างฝีมืออีกมากมายในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงช่างเครื่องประดับ ช่างแก้วฝีมือ และช่างระดับไฮเอนต์

 

 

อย่างไรก็ตามสินค้ามากมายที่พวกเขาผลิตออกมาก็ชวนน่าหลงไหล ไอริสเองก็ได้เห็นสินค้าชั้นยอดมากมายตั้งแต่อายุยังน้อย

 

 

บางครั้งฉันก็เจอสินค้าที่ราคาถูกแต่คุณภาพดีมาก และไอริสเองก็เพลิดเพลินกับการเดินเล่นในบริเวณนี้

 

 

ขณะที่พยายามเที่ยวเล่นต่อไป ดวงตาของไอริสก็เจอกับคนๆหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะเจอ ขณะที่เธอกำลังมองสิ่งของเรียงรายมากมายในถนน

 

 

「เขา……」

 

 

เหนือดวงตาของเธอคือร่างของเขาที่เดินพร้อมกับแบกวัสดุขนาดใหญ่ไว้บนหลัง

 

 

ฉันไม่รู้ว่ารูปร่างหน้าตาเขาเป็นยังไงแต่ดูจากที่แบกของเกินกว่าตัวเองได้น่าจะเป็นผู้ชาย

 

 

ไอริสค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาคนนั้นแล้วเรียกเขา

 

 

「……โนโซมุ?」

 

 

「เอ๋ ไอริส? ทำไมถึงมาอยู่ที่แบบนี้ล่ะครับ?」

 

 

โนโซมุหันมามองด้วยใบหน้าตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่

 

 

โนโซมุไม่คิดเลยว่าจะได้มาพูดคุยกับไอริสในที่แบบนี้

 

 

โนโซมุคิดว่าไอริสน่าจะมาซื้อของในเขตช่างฝีมือ

 

 

ลูกสาวของตระกูลฟรานซิสอาจจะต้องการสินค้าเชิงพาณิชย์ แต่การสั่งซื้อสินค้าเหล่านั้นส่วนมากจะเป็นงานของเมด ผมเองก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เธอมาที่นี่ด้วยตัวเอง

 

 

「ออกมาเที่ยวเล่นค่ะ พอดีว่ามีเวลาว่างอยู่ ผลิตภัณฑ์แถวนี้คุณภาพสูงกว่าแถบบ้านดิฉันอีกนะคะ แค่เดินดูก็เพลินตาแล้วล่ะคะ」

 

 

เธอที่ดูสง่างามตามปกติกำลังยิ้มให้กับผมและตอบคำถามของผม รอยยิ้มนั่นทำให้มันไม่ดีต่อใจผมเท่าไร รอยยิ้มอันแสนทรงเสน่ห์นั่น

 

 

ตามปกติแล้วไอริสเองก็มักจะดึงดูดคนรอบตัวอยู่เสมอ ทุกคนต่างหลงเสน่ห์ของเธอ แน่นอนรวมถึงผมด้วย

 

 

「อย่างงั้นเหรอครับ……」

 

 

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่โนโซมุก็ได้แค่ตอบโง่ๆออกไป ไอริสถามเขา

 

 

「แล้วโนโซมุมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ?」

 

 

「ทำงานน่ะครับ พอดีได้รับคำขอทั่วไปจากทางกิลด์มา」

 

 

「งั้นเหรอเนี่ย ขยันทำงานเลี้ยงตัวเองเหมือนกันนะคะ……」

 

 

ขณะพูดเช่นนั้น เธอก็จ้องมองดูสัมภาระที่โนโซมุแบกอยู่ มันมีหญ้าสีแดงจำนวนมากอยู่ในถุงหนังที่เขาแบกอยู่

 

 

「……โนโซมุ หญ้านี่เอาไว้ทำอะไรงั้นเหรอคะ?」

 

 

「ไว้ใช้เป็นสีย้อมผ้าน่ะครับ ช่างตัดเสื้อต้องการให้ไปช่วยย้อมสีเสื้อผ้าครับ」

 

 

เสื้อผ้าแถวนี้จะถูกย้อมด้วยการใช้หญ้าแช่กับแป้งเพื่อสกัดสีย้อมออกมา

 

 

จำเป็นต้องใช้สีย้อมผ้าจำนวนมากและโนโซมุเองก็อยู่ในขั้นตอนส่งหญ้าเหล่านี้เพื่อเอาไปทำสีย้อม

 

 

ไอริสที่ฟังเรื่องราวก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

 

 

「……โนโซมุ ให้ฉันช่วยงานด้วยได้ไหมคะ?」

 

 

「เอ๊ะ? ทำไมล่ะครับ?」

 

 

โนโซมุสงสัยที่จู่ๆเธอก็อยากจะช่วย แต่ไอริสเองก็บอกว่าจะช่วยให้ได้

 

 

「พอดีว่าฉันไม่เคยทำงานแบบนี้เลยค่ะ อย่างไรก็ตามครอบครัวฟรานซิสเอง ก็ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับชีวิตชาวเมืองเท่าไรแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวเมืองฉันอยากจะรู้เกี่ยวกับประชาชนที่คอยสนับสนุนพวกเราค่ะ」

 

 

หากได้ตั้งข้อสงสัยกับเธอแล้วเธอก็จะตอบคำถามนั้นสุดความสามารถเลยล่ะ

 

 

เห็นได้ชัดว่าตัวเธอนั้นโดนอิทธิพลทางการเมืองครอบคลุมตลอดมาตั้งแต่ที่กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูล ผมเองก็ไม่ได้กังวลเรื่องนี้หรอก แต่ว่าเธอก็ไม่รู้ว่าวันไหน เมื่อไร ที่เธอจะต้องขึ้นเป็นผู้นำตระกูลจริงๆ

 

 

นอกจากนี้หนึ่งในเป้าหมายของเธอคือการเข้าร่วมอัศวินเงินสีรุ้ง

 

 

การเป็นอัศวินที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีปแห่งนี้จะทำให้ได้รับภารกิจโดยอัศวินโดยตรงและไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจของทางตระกูลฟรานซิส

 

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เธออยากจะเรียนรู้ทุกอย่างให้มากที่สุด

 

 

「……เข้าใจล่ะถ้างั้นขอผมไปถามปาร์ตี้อื่นๆก่อนนะ ดังนั้นตามผมมา บางทีอาจจะขาดคนอยู่ก็ได้」

 

 

「อืม ขอบคุณนะคะ โนโซมุ」

 

 

ไอริสส่งยิ้มให้กับคำตอบของโนโซมุ

 

 

โนโซมุไม่อยากจะปฏิเสธคำขอจากใจจริงของเธอ

 

 

แต่โนโซมุก็ชอบเธอที่เป็นคนตรงไปตรงมาและตัดสินใจที่จะช่วยเธอ

 

 

◇◆◇

 

 

ทั้งสองคนมาถึงที่โรงย้อมหลังจากได้รับการต้อนรับจากคุณป้าแสนใจดีและชายวัยกลางคนซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของร้านตัดเสื้อ ที่เวิร์กช็อป แม่บ้านจากบ้านข้างเคียงเองก็ต่างมาช่วยกันทำงาน

 

 

จากผลลัพธ์แล้วคุณป้าเจ้าของร้านตัดเสื้อยินดีอย่างมากที่ไอริสจะมาช่วยงาน พอดีเธอกำลังต้องการคนและไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำขออันแสนจริงใจของเธอได้

 

 

 

「ก่อนอื่นก็เอาหญ้าออกมาก่อนและบดมันให้ละเอียดตรงนี้」

 

งานของไอริสนั้นง่ายๆก็คือให้ฉีกหญ้าสีแดงให้เป็นส่วนๆที่กองเป็นภูเขาตรงนี้ ส่วนโนโซมุจะรับหน้าที่เป็นคนบดหญ้าให้ละเอียด

 

 

เหล่าแม่บ้านทั้งหลายต่างช่วยกันแยกหญ้าออกมาอย่างประณีต ไอริสเองก็เริ่มที่จะเรียนรู้ไปทีละน้อย

 

 

 

「มาอยู่ที่เมืองนี้หลายปีแล้วก็หมายความว่าเป็นลูกสาวที่มาเรียนที่สถาบันโซลมินาติสินะจ้ะ?」

 

「ค่ะ แม้ว่าฉันจะยังเด็กอยู่ แต่ว่าก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายเลยล่ะคะ」

 

「นั่นสิน้าาา! เอ๊ะแล้วเด็กคนนั้นก็หน้าตาคุ้นๆนะเรียนที่เดียวกันรึเปล่าเอ่ย……」

 

จากที่ไอริสกล่าวเช่นนั้น เธอก็มองโนโซมุที่อยู่ทางส่วนด้านหลังของเวิร์กช็อป

 

 

เขากำลังบดหญ้าสีแดงด้วยครกขนาดใหญ่และใช้สากยาวๆที่สามารถใช้คนเเดียวได้

 

 

บางทีมันคงไม่ใช่เรื่อง่ายเลยที่จะบดหญ้าจำนวนมาก โนโซมุพยายามอย่างมากในการจะบดหญ้าด้วยสาก

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุก็คงไม่หยุดมือแม้จะมีหญ้าจำนวนมากไหลลงไปในครกนั่น เขาใช้น้ำหนักของร่างกายให้เป็นประโยชน์ หญ้าที่ถูกส่งลงไปก็โดนบดเรื่อยๆและกลายเป็นน้ำสีแดงที่จะกลายเป็นสีย้อมที่จะนำไปสกัดต่อ

 

 

โนโซมุยังคงทำงานต่อไปแม้จะมีเหงื่อจำนวนมากไหลออกมา เมื่อมองไปทางเขาที่ทำงานอย่างจริงจัง ไอริสเองก็ตั้งใจทำงานตามโนโซมุ

 

 

เธอค่อยๆฉีกหญ้าที่ละเล็กละน้อย บางทีเพราะเธอเรียนรู้ได้เร็วก็เลยทำให้ความเร็วในการทำงานเพิ่มมากขึ้น

 

 

แม้ว่าจะช้ากว่าแม่บ้านที่อยู่รอบๆตัวเธอ แต่เธอก็สามารถทำงานด้วยความเร็วที่เหมาะสมได้ใน 10 นาที

 

 

 

「อืมมมม เรียนรู้ได้ไวดีนะจ้ะ หญ้าชนิดนี้น่ะมีส่วนที่แข็งอย่างมากดังนั้นมันเลยมีเคล็ดลับในการที่จะฉีกมันออกด้วยนะ」

 

คุณป้าที่ประทับใจในฝีมือของไอริสที่แสดงความสามารถทางการเรียนรู้ให้ได้เห็น

 

 

ไม่มีแม้แต่จะลังเลในการทำงานเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

「นอกจากนี้เธอเนี่ยน้าสวยเหลือเกิน ไม่เคยเห็นสาวสวยขนาดนี้มาก่อนเลยล่ะ ทำไมไม่ลองมาคบกับลูกชายของฉันหน่อยละจ้ะ?」

 

「พูดอะไรกันนะ ถ้าให้ไปแต่งกับลูกของเธอละก็มีหวังเธอคนนี้ไม่มีความสุขแน่ๆเลย!」

 

เหล่าแม่บ้านที่ประทับใจในตัวไอริสต่างเสนอลูกชายมาให้ไอริสทีละคนๆ

 

 

「ขอโทษนะคะ ฉันดีใจนะคะที่ทุกคนอยากจะแนะนำให้ฉันรู้จักกับลูกชายของทุกท่าน แต่ว่าฉันคงไม่ได้มาที่นี่บ่อยนักหรอกค่ะ พวกคุณเองก็เข้มแข็งมากขนาดนี้ ดิฉันว่าลูกชายของพวกคุณเองก็ต้องเข้มแข็งและหาภรรยาดีๆได้อย่างแน่นอนค่ะ」

 

อย่างไรก็ตามไอริสปฏิเสธอย่างชัดเจน

พูดได้เลยว่าเธอพูดชัดแจ่มแจ้งว่าจะไม่ขอพบหน้าลูกชายของเหล่าๆแม่บ้านในนี้สักคน

 

「อ่านั่นสินะจ้ะ ผู้หญิงดีๆแบบเธอคนนี้น่ะ คงหาผู้ชายที่ดีกว่าลูกชายฉันได้แน่นอนเลยล่ะ……」

 

「นั่นสินะว่าแต่เธอล่ะ?ถึงแม้การแต่งงานอาจจะดูเร็วเกินไป แต่ไม่มีผู้ชายที่สนใจบ้างเหรอจ้ะ?」

 

「ใช่ๆ! อยากจะรู้จังเลยน้าว่าหมายตาใครไว้อยู่น่ะ~!?จะช่วยบอกหน่อยได้ไหมเอ่ย」

 

เดิมทีก็ไม่ได้ซีเรียสแต่แม่บ้านทุกคนก็พากันถอนตัวหลังจากได้ยินคำปฏิเสธของไอริส

 

 

อย่างไรก็ตาม คราวนี้กลายเป็นหัวข้อรักๆใคร่ๆของไอริสไปเสียแล้ว

 

 

เป็นพวกชอบฟังข่าวซุบซิบนินทาสินะเนี่ย

 

 

ปกติชีวิตประจำวันของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่แสนเบื่อหน่ายและสงบสุข นานๆทีจะมีน้ำตาลหวานอร่อยแบบนี้มาให้ลองชิมก็เป็นธรรมดา

 

「เอ่อ……แล้ว ว่าไงล่ะจ้ะ?」

 

อย่างไรก็ตามไอริสยังคงนิ่งเงียบ

ลังเลและทำหน้าโป๊กเกอรเฟคใส่เหล่าคุณป้าทั้งหลาย

 

「เข้าใจแล้ว! ผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นละสินะ!ที่มาทำงานที่นี่ก็เพราะอยากจะมาเฝ้าดูเขาทำงานด้วยใช่ม้า!」

 

「นั่นสินะ! มั่นใจเลยล่ะ!」

 

ยังไงก็ตามคุณป้าคนหนึ่งก็ชี้ไปทางโนโซมุที่กำลังขยันทำงานและคุณป้าคนอื่นๆก็พากันมั่นใจกับคำสันนิฐานนั่น

อย่างไรก็ตาม ไอริสยังคงสงบนิ่ง

 

「ฉันเป็นหนี้บุญคุณเขาน่ะคะ แต่ว่าทางฝั่งเขาเองไม่ได้คิดอะไรกับทางฝั่งฉันเลย」

 

การโจมตีจากทุกทิศทางทำให้ไอริสทนไม่ไหวอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามไอริสเองก็เล่าเรื่องออกไปโดยแสดงใบหน้าที่เรียบเฉย

 

「……เฮ้ เจ้าหนุ่ม」

 

「ใส่หญ้าลงไปเร็วๆหน่อยสิครับ มาสเตอร์เดี๋ยวจะไม่ทันเอานะครับ」

 

ที่ปลายทางนั่นทั้งมาสเตอร์เจ้าของงานและโนโซมุต่างกำลังอยู่ในสภาพเดือดดาล

 

 

เมื่อโนโซมุส่งสายไปราวกับบอกว่า “ทำอะไรสักอย่างสิครับ” ทางฝั่งมาสเตอร์เองก็อยากจะบอกว่า “ข้าเองก็กลัวภรรเมียเหมือนกันนะเว้ย เพราะงั้นช่วยข้าด้วย”

 

 

เป็นผู้ชายที่น่าสงสารจริงๆ

 

 

แต่ก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน เหล่าป้าๆก็พูดถึงข่าวลือเรื่องสัตว์อสูรที่โผล่มาพร้อมมังกร

 

 

พวกเธอหันใบมีดมาทางนี้ครั้งหนึ่งราวกับจะบอกว่า “ผู้ชายที่ไม่ทำงานก็ไม่ควรมีเงินติดตัวหรอก เข้าใจไหม?” มันเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดเพื่อชิงค่าขนมในแต่ละวันเลยล่ะ

 

 

หากก้าวพลาดเพียงนิดเดียว เขาคนนี้ก็จะอดได้เงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไปหนึ่งวันเต็มๆเลย……。

 

 

โนโซมุที่กำลังบดหญ้าด้วยท่าทางสดใส กับมาสเตอร์ที่เก็บหญ้าภายในหม้ออย่างเร่งรีบ พวกเขาพยายามไม่สนเสียงรบกวนใดๆทั้งสิ้น พอหันไปมองทางนั้นก็ดูเหมือนจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาของทางฝั่งนั้นอยู่

 

 

โนโซมุก้มหน้าและนั่งบดหญ้าต่อไป โดยหวังว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับตัวเขานะ

 

 

ในเมืองยามเที่ยงเช่นนี้ ผมคร่ำครวญยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในป่าอีกนะ

 

 

◇◆◇

 

 

หลังจากทำงานเสร็จแล้ว พวกโนโซมุที่ทำคำขอสำเร็จก็มาที่สวนสาธารณะใจกลางเมือง สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็ยื่นว่าทำคำขอเสร็จแล้ว

 

「ขอบคุณโนโซมุมากเลยนะได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเลยละคะ」

 

「งั้นเหรอครับ……」

 

 เรียนอะไรของเธอไปกันนะ……。ร่างของไอริสที่กำลังสนทนากับเหล่าป้าๆอย่างสนุกนานนั่นเรียกว่าเรียนรู้งั้นเหรอ

 

「ถึงอย่างงั้น ผมก็ได้แต่สงสัย ว่าควรจะดีใจไหมที่ได้รับอะไรแบบนี้มา?」

 

โนโซมุมองลงไปที่กระเป๋าใบใหญ่

 

 

ในมือของโนโซมุมีถุงหนังที่มีผ้าที่ย้อมสีแล้วเป็นผ้าส่วนที่ไม่ได้ใช้

 

「แล้วจะใช้ทำอะไรงั้นเหรอค่ะ?」

 

「อ่าก็อย่างเช่นใช้เย็บเสื้อผ้าที่ขาด หรือไม่ก็ใช้แทนเชือกอะไรประมาณนั้นครับ?แม้ว่าจะเอาไปขายที่ร้านเสื้อผ้ามือสองก็ได้ราคาประมาณหนึ่ง เอาไปใช้ได้หลายอย่างครับ」

 

อันที่จริงมันมีผ้าไม่ได้เยอะขนาดนั้น นอกจากใช้ซ่อมเสื้อที่ขาดแล้ว ก็เอาไปใช้เป็นเชือกที่ใช้ผูกกับเกราะเหล็กต่างๆได้เหมือนกัน

 

 

อันที่จริง เข็มก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใช้ชีวิตในป่า เชือกและด้ายเองก็ใช้สำหรับมัดด้วยมีดสำหรับตรึงและขึงและเย็บ

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการสร้างเครื่องมือ และบางครั้งโนโซมุก็ใช้ด้ายสำหรับทำเขตป้องกัน

 

「งั้นเหรอคะ……โนโซมุคุงนี่รู้เยอะจังเลยนะคะ ทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองแถมยังเข้าป่าคนเดียวได้อีกด้วย」

 

「งั้นเหรอครับ? แต่ว่าผมไม่สามารถใช้เวทย์ได้เหมือนไอริสนะ……」

 

พูดตามตรงตอนนี้ไอริสประทับใจในตัวเขามากๆ

 

 

เพราะไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกันเลยเงียบกันชั่วขณะ

 

「……หืม!?」

 

「ว่าไงเหรอครับ?」

 

ทั้งสองเงียบแต่เป็นไอริสที่ทำลายความเงียบนั่น

 

 

เมื่อโนโซมุถามว่าเกิดอะไรขึ้น ไอริสก็ยื่นมืออกมา มือของเธอบวมแดงมากเลย

 

「คือว่า……มันคันมือแปลกๆอะคะ……」

 

「เหบวมมากเลยนะครับ……。บางทีคงโดนน้ำของหญ้านั่นตอนที่ฉีกหญ้าอยู่สินะครับ」

 

ตามคำกล่าวของโนโซมุน้ำของหญ้าใช้เป็นสีย้อมผ้าได้ แต่หากโดนเข้าไปตรงๆก็จะทำให้เป็นผื่นคันตามผิวหนัง ปล่อยสักพักไปเดี๋ยวก็หาย แต่ดูเหมือนว่าน้ำเหล่านั้นมันจะไม่ดีต่อสุขภาพผิวมากนัก

 

 

เหล่าป้าๆก็คุ้นเคยกันอยู่แล้วเลยไม่ค่อยโดนน้ำพวกนี้เท่าไร แต่ไอริสยังเป็นเด็กฝึกงานอยู่

 

「ถ้าจะให้หายเร็วน่าจะใช้สบู่ถูเอานะครับ แต่ว่าถ้าปล่อยไปสักพักเดี๋ยวก็หายได้เหมือนกัน ถ้าอยากให้หายไวๆก็ไปซื้อครีมมาทาตามร้านอุปกรณ์ได้ครับ……เอ่อ? เป็นอะไรไปเหรอครับ?」

 

ขณะที่อธิบายบางอย่างให้ไอริสฟัง มือของโนโซมุที่ถือถุงผ้าก็สัมผัสกับอะไรบางอย่าง

 

 

เมื่อโนโซมุหยิบของในถุงออกมา ก็มีขวดเล็กๆคล้ายสารวุ้นสีขาวขุ่นอยู่ภายใน

 

「……นี่มันขี้ผึ้งนี่น่า」

 

โนโซมุหยิบขี้ผึ้งออกมามันใช้สำหรับทามือไอริสพอดีเลย

 

 

คนที่ใส่ลงมาน่าจะเป็นป้าเจ้าของร้านตัดเสื้อ คงจะรู้ว่าไอริสน่าจะมือบวมเพราะน้ำของหญ้า เลยใส่มาไว้ในกระเป๋า ต้องขอบคุณจริงๆ

 

「ไอริส บางทีทาสิ่งนี้น่าจะช่วยลดอาการบวมได้นะครับ」

 

โนโซมุจ้องมองขี้ผึ้งในขวด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างไอริสไม่ยอมรับไป

 

 

ขณะที่โนโซมุเอนหัวด้วยความสงสัย ไอริสก็ยื่นมือที่บวมแดงออกมา

 

「โนโซมุ คือว่ามันคันมาก ช่วยทาขี้ผึ้งนั่นให้หน่อยได้ไหมค่ะ?」

 

「……เอ๊ะ?」

 

อันที่จริงไอริสคันมือมากจนไม่สามารถหยิบจับอะไรได้เลย เธอเลยขอให้โนโซมุช่วยทาขี้ผึ้งให้ แต่โนโซมุก็ได้แต่สงสัย

 

 

หมายความว่าไงนะ? โนโซมุที่ได้ยินคำขอของไอริสขึ้นมาก็หน้าแดงแจ๋ทันทีเลย

 

 

โนโซมุคิดว่าคงไม่เป็นไรแต่ดูเหมือนไอริสเองก็เร่งเร้าให้เขารีบๆทำมันไวๆ

 

「……คือว่ามันคันมากเลยค่ะ โนโซมุ ขอร้องล่ะคะ ช่วยทาขี้ผึ้งให้ทีนะคะ」

 

「เข้าใจแล้วครับ……」

 

ในที่สุดโนโซมุก็เข้าใจสถานการณ์และจ้องไปที่มือของเธอที่ยื่นออกมา

 

 

ผิวของไอริสที่ขาวราวหิมะสดใส กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับกำลังลุกไหม้

 

 

เขาเปิดฝาขวดออกมาจากนั้นค่อยๆทาขี้ผึ้งลงบนมือของเธอ

 

「อร๊าาาาาาาาาาา!」

 

「เอ๊ะ! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?」

 

「อะอืม ไม่เป็นไรค่ะ แค่มันเย็นนิดหน่อยจนเผลอส่งเสียงแปลกๆไปซะได้」

 

โนโซมุทาขี้ผึ้งขณะที่ไอริสกำลังร้องเสียงหลงออกมา

 

 

สายตาของบริเวณโดยรอบต่างจับจ้องมาที่โนโซมุ ตอนนี้จากมุมมองทางภายนอกมองโนโซมุกำลังทำเรื่องแสนเร่าร้อนกับคู่รักอยู่

 

 

ใบหน้าของโนโซมุแดงแจ๋เมื่อสังเกตเห็นสถานการณ์ตรงหน้า เขาพยายามจะไม่กังวลและเน้นไปที่การทาขี้ผึ้งให้กับเธอ

 

 

ทว่าการที่มุ่งมั่นจ้องไปที่มือเธอ ก็จะสัมผัสมือที่แสนนุ่มนิ่มและขาวเนียนน่าสัมผัสเป็นอย่างมาก

 

 

มือที่นุ่มจนไม่คิดว่าจะเป็นมือของคนที่ฝึกดาบเลย อุณหภูมิที่ต่ำกว่าร่างกายของโนโซมุทำให้ผิวของเธอค่อนข้างจะเย็น ร่างกายของโนโซมุก็ร้อนขึ้นยิ่งไปอีก

 

 

ในทางกลับกันไอริสยังมีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ว่าจะโดนจ้องยังไงเธอก็ไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลงเพราะโดนฝึกนิสัยทางสังคมมาอย่างดี

 

 

หลังจากทาขึ้ผึ้งเสร็จแล้ว ไอริสก็หายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

 

โนโซมุหายใจหอบเหนื่อยอย่างรุนแรง

 

「เน่เน่ แม่ดูสิ สองคนนั้นดูสนิทกันจังเลย! เป็นคนรักกันสินะ!?」

 

「นั่นสิน้าาาา~。สงสัยจะเป็นคู่รักไฟแรงล่ะมั้งน้อ~」

 

เสียงของพ่อแม่และลูกๆที่ดูเหมือนจะมาที่สวนสาธารณะกำลังจ้องมองมาทางโนโซมุ

 

 

 คนรักงั้นเหรอ……。

 

 

ใบหน้าของโนโซมุแดงขึ้นอีกครั้งทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุก็นึกถึงเพื่อนที่ทรยศเขาและขโมยคนรักของเขาไป ทำให้แผลใจเก่าเปิดขึ้นมาชั่วขณะ

 

「ฟุฟุ คู่รักงั้นเหรอ……สาวน้อยคนนั้นน่ารักน่าชังมากเลยนะ」

 

「อืม………」

 

ไอริสพูดกับโนโซมุขณะที่โบกมมือให้กับพวกเขาเหล่านั้น

 

 

หลังจากสงบใจได้แล้ว เธอดูต่างจากปกติเล็กน้อย

 

 

โนโซมุที่พยายามจะตอบด้วยน้ำเสียงปกติ กลับตอบด้วยน้ำเสียงติดขัดเล็กน้อย

 

 

 

「โนโซมุ?」

 

「……ไปกันเถอะครับ」

 

ไอริสเรียกโนโซมุ โนโซมุรีบมุ่งหน้าไปที่กิลด์ราวกับจะบอกปัดคำพูดของเธอ

 

 

โนโซมุเริ่มเดิน ทำใบหน้าเคร่งเครียดราวกับจะปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอีกครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตามคำพูดของไอริส รั้งตัวเขาเอาไว้

 

 

 

「โนโซมุ ขอบใจนะที่อยู่ด้วยกันตลอดทั้งวันเลย ถ้าไม่ว่าอะไรละก็ วันหลังมาเที่ยวและไปทำงานแบบนี้ด้วยกันอีกไหมคะ? ฉันอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนอีกค่ะ」

 

คำที่รั้งตัวเขาไว้ก็คือคำขอบคุณของเธอและขอให้ไปด้วยกันอีก

 

 

คำขอเหล่านั้นเข้าในไปในใจของโนโซมุ ซึ่งมันทำให้จิตใจเขาเริ่มอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย หัวใจของโนโซมุกำลังเต้นช้าๆ พร้อมกับแผ่ความร้อนไปทั่วทั้งอก

 

「……ครับ ถ้าว่างๆไว้ไปด้วยกันอีกนะครับ」

 

เมื่อมองย้อนกลับไปก็พบกับไอริสที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม

 

 

ทันใดนั้นผมก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

◇◆◇

「……ถ้าว่างงั้นเหรอคะ」

 

ไอริสเดินกลับบ้านพร้อมกับครุ่นคิดกับคำพูดของโนโซมุ

 

「แต่วันนี้มันวิเศษมากเลยนะคะ เหมือนได้ฝึกเป็นแม่ศรีเรือนเลยล่ะ……」

 

ไอริสที่เป็นขุนนางผู้มีชื่อเสียงแห่งอาณาจักรฟอร์ซิน่า ทำให้เธอเป็นคนหัวอ่อนต่อโลกภายนอก ทำให้เธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับผู้คนทั่วไป

 

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอพยายามช่วยเขาทำงานอย่างหนัก โดยคิดว่าความจริงมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นเลย แต่วันนี้มันเหมือนเปิดโลกใหม่ๆในมุมมองของเธอ

 

 

บอกตรงๆว่าอยากลองหลากหลายงานมากกว่านี้ แต่คราวนี้ช่วยไม่ได้ และเนื่องจากก็สัญญากับเขาแล้ว ยังไงฉันก็มีโอกาสที่จะได้ช่วยงานเขาในอนาคตอีก

 

 

พอมองที่ฝ่ามือแล้ว

 

 

ขี้ผึ้งที่โนโซมุทาให้เริ่มออกผล ทำให้มือของฉันเริ่มหายบวม

 

 

ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในใจของฉันมันเป็นเช่นไร หัวใจมันเต้นรัวไปยอมหยุดกับคำถามของเหล่าแม่บ้านพวกนั้น และตอนที่เขาทาครีมให้ฉันใจฉันเต้นรัวผิดปกติ หน้าอกร้อนผ่าว ยังไงก็ตามความรู้สึกที่มีมันยิ่งกว่าตอนที่เดทครั้งแรกกับเขาเสียอีก

 

 

สิ่งนี้เห็นชัดเจนเลยตอนที่โนโซมุสัมผัสมือของฉัน

 

 

ภายนอกฉันอาจจะดูสงบแต่ในใจกลับว้าวุ่น

 

 

ด้วยมือที่ร้อนผ่าวจากอาการบวม

 

 

 ในอกของเธอ เธอมีอารมณ์ที่สนใจในตัวโนโซมุมากมายนัก และในขณะเดียวกันก็สนใจเรื่องแฟนเก่าของเขา……。

 

 

ไอริสเดินไปตามถนนที่ตรงไปยังคฤหาสน์ของเธอ พร้อมกับสัมผัสหน้าอกของตัวเองที่มีความร้อนสุมอยู่ในอก

 

“อยากจะรู้จักเขามากกว่านี้”

 

ความรู้สึกเหล่านี้ต่างถูกสลักไว้ในใจของเธอ

 

 

อัพเดทถึงตอนล่าสุดที่แปลในปัจจุบัน บทที่ 5 จะลงหลังจากแปลครบทุกตอนที่หลังในแมวดุ้น ส่วนใครที่อยากอ่านก่อนรู้เนื้อเรื่องก่อนเชิญไปนายท่านมู้ แปลยั่วLC ผมอัพเดทที่นั่นทุกวัน การแปลอาจจะไม่ได้สละสลวย เพราะไม่ใช่มืออาชีพ แต่ก็ตั้งใจแปลอย่างมาก เพราะงั้นขอเถอะครับเรื่องตัดกำลังใจกันน่ะไม่ชอบเลย

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท