โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 55

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่5ตอนที่2

 

 

หลังจากแยกทางกับพวกไอริส ในการโฮมรูมช่วงเช้าโนโซมุและมาร์ก็มาที่สนามฝึกสำหรับชั้นเรียนตอนเช้า

 

 

เนื้อหาของบทเรียนคือการต่อสู้จำลองแบบกลุ่ม ตอนนี้นักเรียนที่มาถึงสนามฝึกก็เริ่มวอร์มร่างกายและพูดคุยกับสมาชิกในปาร์ตี้กันเป็นส่วนใหญ่ ผมเองก็ได้แต่ครุ่นคิดอยู่

 

 

「โนโซมุ ไหวปะเนี่ย?」

 

 

「หืม? ว่าไงนะ มาร์」

 

 

โนโซมุที่กำลังจ้องมองคู่ต่อสู้ แต่มาร์ก็เรียกเขาจากด้านข้าง

 

 

「วันนี้เป็นการต่อสู้จำลองก็จริงแต่ข้ามีบางอย่างอยากจะลอง」

 

 

「?จะลองอะไรงั้นเหรอ?」

 

 

「……ก็อยากจะทดสอบเวทย์ที่เรียนมากับทิม่าน่ะสิ อยากเห็นผลลัพธ์ของมันในการต่อสู้จำลองวันนี้」

 

 

「……งั้นเหรอ?」

 

 

มาร์อยากทดสอบเวทย์ที่เรียนรู้มาจากทิม่า

 

 

โนโซมุเองก็ตกลงตามนั้น

 

 

「……แม้ว่าจะบอกว่าเรียนรู้มาแล้วก็เถอะ แต่ข้าว่าหนทางมันยังอีกยาวไกลนัก ข้าทำได้ไม่ดีพอ เท่าไอริส แต่ว่าอยากจะลองสู้แบบตัวต่อตัวน่ะ」

 

 

「……กล่าวอีกนับหนึ่งให้ผมดึงดูดความสนใจของฝ่ายตรงข้ามว่างั้น?」

 

 

เห็นได้ชัดว่ามาร์อยากจะใช้เวทย์แต่ขาดความมั่นใจ

 

 

「……อ่า พูดตามตรง สร้างภาระให้แกอีกจนได้ แต่ถ้าไม่สามารถใช้มันได้ชำนาญสักที มันก็ไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้จริงเลย。……เพราะงั้นฝากหน่อยนะ?」

 

 

「อ่าาา จะลองดูนะ……ไม่รู้ว่าจะล่อศัตรูไว้ได้นานแค่ไหน? ผมเองก็ใช้เวทย์ไม่ได้ และไม่สามารถใช้คิในการโจมตีคนอื่นได้มันอันตรายเกินไป」

 

 

「แค่นิดหน่อยก็ยังดีน่า เพราะงั้นขอร้องล่ะ สำหรับแกเองก็น่าจะสบายๆเลยไม่ใช่เลยนี่ ในทางตรงกันข้ามแกอาจจะจัดการพวกนั้นจนเรียบเลยก็ได้นี่?」

 

 

「……ก็ถ้าเข้าประชิดได้ก็อีกเรื่องล่ะนะ ก็มีคำถามอยู่หรอก ทำไมถึงคิดจะใช้มันในการต่อสู้จำลองล่ะ? ถ้าหากลองคิดดูแล้วไปฝึกข้างนอกอีกสักนิดหน่อยให้พร้อมกว่านี้จะไม่ดีกว่าเหรอ……」

 

 

「เอ่อ…ก็คือ………แบบว่า ลองใช้จริงยังไงมันก็ดีกว่าใช่มะ สำหรับข้าที่สมองช้าแล้วสู้ลองใช้จริงดีกว่าต้องไปนั่งกดดันอยู่บนโต๊ะเรียนอะ」

 

 

โนโซมุรู้สึกโกรธกับคำตอบของมาร์เล็กน้อยแต่เขาก็พอเข้าใจเหตุผล

 

 

ด้วยบุคลิกของมาร์สำหรับเขาแล้วการต่อสู้จริงเหมาะกว่าการให้เขาไปนั่งที่โต๊ะเรียนนั่นละ แต่ละคนก็ถนัดในการเรียนรู้แตกต่างกันไป

 

 

โนโซมุคิดว่าถ้าแบบไหนเหมาะกับเขาก็ควรจะปล่อยให้เขาลองดู

 

 

นอกจากนี้ นี่ก็เป็นแค่การต่อสู้จำลอง มันก็เหมาะสำหรับใช้ศึกษาละนะ

 

 

「……เข้าใจล่ะ จะพยายามเท่าที่ทำได้แล้วกัน」

 

 

ถ้าหากไม่ได้ใช้คิในการโจมตี โนโซมุก็ต้องเข้าประชิดคู่ต่อสู้ในการล้มพวกเขา แต่โนโซมุเองก็มีประสบการณ์มากมายจากการต่อสู้จริง เพราะงั้นต่อให้รับมือกับศัตรูจำนวนมาก เขาก็ไม่แพ้ในทันทีหรอก

 

 

「ถ้างั้นผมขอตัวก่อนละกัน มาร์เองก็ตามพวกเขาไปเพื่อไปอยู่ในจุดสำหรับใช้เวทย์เถอะ」

 

 

「อืม」

 

 

「เอาล่ะ~ทุกโคนมารวมตัวกันได้แล้วจ้าาาาาาา~~ถึงเวลาเริ่มเรียนแล้ว~~」

 

 

โนโซมุบอกให้เขาไปเตรียมตัว มาร์ขอบคุณเขาอีกครั้งหนึ่ง และอาจารย์อันริก็ตะโกนให้เรียกรวมพล

 

 

นักเรียนแต่ละคนก็เรีบต่างไปรวมพลตามเสียงเรียกของเธอ

 

 

โนโซมุกับมาร์เองก็พยักหน้าให้กันและเริ่มเดินไปหาเธอ

 

 

「พวกนั้นคือคู่ต่อสู้ของเราสินะ……」

 

 

มาร์บ่นและจ้องไปทางคู่ต่อสู้

 

 

คู่ต่อสู้เป็นกลุ่มขนาดเล็กไม่ก็ขนาดกลางสำหรับห้อง 10 แต่ว่าตอนที่มาร์รวมทีมกับโนโซมุคู่ต่อสู้ก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีของพวกเขา ไม่เหมือนเมื่อก่อนคราวนี้มีถึง 5 คน

 

 

มีนักเรียนชายสองคนถือดาบยาวชื่อจินและทอมมี่

 

 

นักเรียนที่ถือหอกชื่อเดร็ก

 

 

กองหลังมีนักเรียนหญิงชื่อคามี่ ที่สามารถใช้เวทย์พร้อมกับมีดสั้นได้ ส่วนอีกคนเป็นนักเวทย์ชื่อแฮมเรีย ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่

 

 

ในทางกลับกันปาร์ตี้ของโนโซมุมีแค่มาร์กับเขาเท่านั้น

 

 

「เอาล่ะน้าถ้าอย่างงั้นก็~、เริ่มได้เลยน้าาาา~~!」

 

 

การต่อสู้จำลองเริ่มด้วยน้ำเสียงอันสดใสของอันริ

 

 

「ฟู่!!」

 

 

「หะ!?」

 

 

เมื่อสัญญาณเริ่มต้นโนโซมุพุ่งเข้าหาจินในทันที

 

 

ในการต่อสู้จำลองจนถึงตอนนี้ โนโซมุนั้นเป็นฝ่ายซัพพอร์ตมาร์อยู่เสมอ

 

 

ครั้งนี้มันสร้างความแปลกใจให้พวกเขาเพราะโนโซมุบุกไปด้วยตัวเองยังไงก็ตาม เขายกดาบขึ้นมาและจะฟันโนโซมุ

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุเบี่ยงวิถีดาบของเขาและผ่อนแรงลงจนดาบไหลไปทิศทางตรงข้าม จากนั้นเขากระโดดหมุนตัวเตะทันที

 

 

การเตะของโนโซมุถูกดาบของจินป้องกันไว้แต่โนโซมุใส่แรงลงไปที่ขาจำนวนมากจนปัดดาบของจินปลิวกระเด็นไป จนเขาเสียท่า

 

 

โนโซมุเอามือเท้าเอว อัดพลังคิลงไป และใช้ “ปืนใหญ่”ใส่ศัตรู

 

 

ชายคนนั้นปลิวไปตามกระแสพลังของปืนใหญ่ที่โนโซมุปล่อยออกไปและกระเด็นไปโดนคามี่ที่กำลังร่ายเวทย์อยู่

 

 

โนโซมุใช้ก้าวพริบตาเพื่อพุ่งเข้าหาแฮมเรียที่กำลังร่ายเวทย์ทางด้านหลัง

 

 

「เอ๊ะ!?」

 

 

แฮมเรียที่กำลังร่ายเวทย์ใส่โนโซมุโดนฝ่าเข้ามาถึงกองหลังในระยะเวลาไม่กี่วิ ทำให้ตกใจอย่างมาก แต่โนโซมุไม่สนและเหวี่ยงดาบใส่ทันที

 

 

「ชิ~!」

 

 

อย่างไรก็ตามดาบที่ฟันลงไปโดนทอมมี่ขัดขวางไว้

 

 

「ฟู่!」

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุยังคงฟันดาบอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง

 

 

เดิมทีจุดประสงค์ของเขาคือดึงดูดความสนใจและปล่อยให้มาร์เคลื่อนไหวอย่างอิสระ

 

 

อันที่จริงมาร์กำลังสู้ตัวต่อตัวกับเดร็ก

 

 

「โอร่าาาาาาาาาา!!」

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

 

มาร์กำลังโดนกดดันอยู่ เป็นเรื่องปกติถ้ามาร์ใช้ดาบตั้งแต่แรกเขาคงชิวๆ แต่ดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวแปลกๆนั่นเพราะว่าเขากำลังใช้เวทย์อยู่

 

 

หากมองใกล้ๆจะเห็นแสงของเวทย์จางๆที่ดาบใหญ่ของเขา มันเป็น”คมดาบวายุ”ที่มาร์ซ่อนเอาไว้

 

 

บางทีตัวดาบเองก็มีพลังเวทย์สถิตย์อยู่

 

 

อย่างไรก็ตามเท่าที่เห็นดูเหมือนว่าจะทำสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ว่าความแข็งแกร่งนั่นมันยังไม่เท่าของดั้งเดิมเท่าไร

 

 

「หนอยแน่!」

 

 

「อุหวาาา!!」

 

 

ทอมมี่ที่เคยปะทะหน้ากันก่อนหน้านี้เล็งเป้าไปทางมาร์ทันที

 

 

โนโซมุที่โดนผลักถอยหลังไปเล็กน้อย และคราวนี้จินที่โดนปืนใหญ่ไปก็กลับมาและฟันจากด้านข้าง

 

 

「ไอ้เวรเอ้ยยยย!」

 

 

โนโซมุพยายามหลบดาบด้วยการเคลื่อนไหวอันน้อยนิดและพยายามรักษาระยะห่าง แต่คราวนี้คามี่หันตามโนโซมุที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่

 

 

「ย๊าห์!!」

 

 

มีดสั้นในมือของคามี่เหวี่ยงลงมาเล็งที่คอและลำตัวของโนโซมุ

 

 

โนโซมุผลักคมดาบเหล่านั้นที่เข้ามาใกล้และบิดร่างเล็กน้อยพร้อมกับจับมีดสั้นที่แทงเข้ามาจากนั้นผมก็ดึงแขนเธอและเอามือที่ถือมีดไปจ่อที่คอเธอ

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

เมื่อคามี่คิดว่าจะโดนมีดสั้นนั่นจู่โจมใส่ตัวเธอแน่ๆ โนโซมุที่ไปอยู่ด้านหลังเธอก็โจมตีใส่เธอ เธอส่งเสียงร้องแปลกๆออกมา

 

 

โนโซมุยัดปืนใหญ่เข้าไปที่กลางหลังของเธอจนตัวเธอปลิวกระเด็นไป

 

 

นอกเหนือจากเธอแล้วทอมมี่ที่พยายามจะเข้ามาหาเองก็โดนลูกหลงไปด้วย

 

 

「อาาาาาาาาาาาาาาาา~~~」

 

 

เธอเบากว่าจินแต่แรงกระทบที่ทั้งสองชนกันนั้นทำให้แววตาของผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

 

「เห้ย!?」

 

 

「ไอเวรนี่!!」

 

 

จินและทอมมี่ประหลาดใจอย่างมากที่พวกเขาโดนจัดการโดยคนที่อ่อนแอกว่าตัวเอง ทั้งสองคนพยายามโจมตีโนโซมุ แต่โนโซมุก็เคลื่อนไหวไปรอบๆและใช้ฝักดาบกันการโจมตีของทั้งสองไปด้วย

 

 

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่โนโซมุเคลื่อนที่ไปรอบๆ หากรับดาเมจจากตรงด้านหน้า เวทย์ที่ถูกยิงออกมาจะเบากว่า

 

 

ในระหว่างนี้ โนโซมุจ้องไปทางแฮมเรียที่กำลังร่ายเวทย์และหันไปหาเธอ

 

 

บางทีเธอคงจะใจร้อนกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เธอไม่มีสมาธิในการร่ายเวทย์เลย

 

 

ท้ายที่สุดแล้ว โนโซมุก็พุ่งเข้าหาเธอด้วยก้าวพริบตา ทั้งสองคนไล่ตามมาช้ากว่าเล็กน้อย ถึงจะไม่ชอบก็เถอะนะ แต่คงต้องทำให้หมดสติไปก่อน

 

 

นอกจากนี้เนื่องจากทั้งมาร์และโนโซมุที่อยู่ใกล้ๆกันทำให้เธอกลัวว่าเหล่าเพื่อนๆจะโดนลูกหลงจากพลังเวทย์ของเธอ

 

 

(……อืม ถ้าต้องการยื้อเวลามันก็ได้อยู่หรอก。……“แฟนท่อม”และ“สิ่งนั่น”ผมไม่อยากจะใช้มันออกมา…)

 

 

ฝันยามเช้า เทียแมทกับโนโซมุที่กลัวผลจากการหนีความเป็นจริงเพราะพลังของตัวเอง จึงเลือกที่จะไม่ใช้พลังของ “หมอนั่น” ให้มากที่สุด และเลือกที่จะใช้ความสามารถที่เขาฝึกฝนมาเป็นเวลานานเพื่อใช้ในการต่อสู้

 

 

ในฐานะที่โนโซมุเป็นตัวหลัก และมาร์เป็นตัวรอง เรียกได้ว่าเขาเป็นตัวแถมของงานนี้แหละ

 

 

「โฮ่ยโฮ่ย หมายความว่าไงกัน……」

 

 

「อ่า เอ่อ ไอ้หมอนี่มันใช่คนที่เรารู้จักแน่เหรอวะ……」

 

 

อย่างไรก็ตามจากมุมมองของพวกเขาแล้วโนโซมุนั้นไม่เห็นเหมือนในข่าวลือเลยสักนิด ทำให้เขาประหลาดใจ

 

 

คนที่อยู่ต่ำสุดของชั้นปี ฝ่ายตรงข้ามที่มองเขาต่ำตมแต่ว่ากลับแข็งแกร่งกว่าใครหลายๆคนที่อยู่ตรงนี้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห้อง 10 ก็เถอะนะ

 

 

นอกจากนี้การต่อสู้ของเขาที่จัดการกับการต่อสู้แบบการโดนรุมได้เนี่ยมันไม่ธรรมดาแล้ว

 

 

จนถึงตอนนี้พวกเขาคิดว่าโนโซมุอ่อนแอกว่าตัวเองอย่างมากเพราะความสามารถ “พันธนาการ” แต่ถ้ามองจากตอนนี้แล้ว ความสามารถอันแสนต่างชั้นนี่ แม้ว่าจะไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องทำใจยอมรับ

 

 

มาร์ที่กำลังดิ้นรนเพื่ออะไรบางอย่างและโนโซมุที่พัฒนาก้าวขึ้นไปอีกขั้นและเริ่มแสดงความสามารถออกมา

 

 

◇◆◇

 

 

「บ้าเอ้ย!」

 

แม้ว่าจะสู้ตัวต่อตัว แต่ข้าก็หงุดหงิดกับตัวเองที่ไม่สามารถโจมตีได้เลย

 

 

ข้าเหวี่ยงดาบขนาดใหญ่ที่มี “คมดาบวายุ”ที่อัดพลังเวทย์ลงไป แต่ว่าก็ไม่สามารถใช้มันได้ตามใจชอบ

 

 

ใบมีดแห่งลม(พลังเวทย์)ผสมกับใบมีดแห่งฝุ่น(ความสามารถของมาร์ที่เปิดใช้ได้)ทำให้พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าที่เคยใช้มา

 

 

อย่างไรก็ตามการใช้คิประสานเวทย์มันต้องการเทคนิคในการควบคุมที่มากมหาศาล ตัวข้าที่พยายามจะใช้เทคนิคประสานและพยายามควบคุมมัน

 

 

นอกจากนี้ตัวข้าก็วุ่นมากที่จะควบคุมเทคนิคนี้และไม่สามารถจดจ่อกับศัตรูตรงหน้าได้

 

 

ดาบที่ปกติจะพัดพาสัตว์อสูรจนปลิวกระเด็นไปตอนนี้กำลังกันการโจมตีของคู่ต่อสู้ที่แทงหอกเข้ามา

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

ข้าปัดหอกของอีกฝ่ายด้วยปลอกแขนที่ใส่อยู่แต่ว่ามันก็เปิดช่องว่างให้อีกฝ่าย

 

 

คู่ต่อสู้ของเขาคือเดร็กผู้ใช้หอก…เขากระหน่ำโจมตีเป็นชุดไม่ยั้ง แต่ในขณะที่ใช้ปลอกแขนกันการโจมตี ถ้าเล็งไปที่การโจมตีไปเรื่อยๆแล้วก็พลิกมันด้วยแรง จากนั้นข้าจะฟาดดาบใหญ่ แต่ว่าตอนนี้มือของข้ากำลังกันการโจมตีอยู่ ทำให้กวัดแกว่งดาบไม่ได้

 

「หนอยแน่!!」

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกห์!」

 

ข้ากับเดร็กกำลังเผชิญหน้ากัน และปะทะกันในระยะใกล้ แต่ข้าก็ไม่สามารถสลัดเขาให้หลุดออกไปได้

 

 

สาเหตุคือพลังทั้งหมดนั้นใช้ไปกับการควบคุมเทคนิคนี้

 

 

พลังของมันดูอ่อนลงกว่าการใช้เทคนิคตามปกติ และข้าเองก็ไม่สามารถใช้คิเสริมพลังกายได้

 

 

ตัวข้าเองโดนเทคนิคนั้นผูกมัดเพราะอยากจะทดลอง

 

 

 

เหลือบมองโนโซมุที่สบตากัน

 

 

เขากำลังจัดการกับศัตรูจำนวนมากกว่าเขาหลายเท่าและรับมือกับศัตรูที่หลากหลาย เขามีความสามารถหลายด้านและมีมุมมองความคิดที่กว้างไกล

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่ยอมใช้เทคนิค “แฟนท่อม” เห็นใช้แต่ “ปืนใหญ่” ที่พัดพาคู่ต่อสู้ด้วยแรงลมเท่านั้น

 

 

 

「หนอยแน่!!」

 

 

 

เมื่อเทียบกับโนโซมุที่รับมือได้อย่างสบายๆ สำหรับข้านั้นเคลื่อนไหวเหมือนเต่าตัวน้อยๆที่กำลังคลานเลย

 

 

ดูเหมือนว่าความแตกต่างระหว่างข้ากับหมอนั่นจะเพิ่มขึ้นอีกแล้ว มันทำให้ข้ายิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

 

 

ตอนปลายปี 2 ตอนทดสอบความสามารถข้าคิดว่าข้าแข็งแกร่ง

 

 

แม้ว่าข้าจะเป็นคนโง่ แต่ข้าก็รู้ว่าเขาพยายามหนักมากกว่าใครๆ แม้ว่าจะโดน “พันธนาการ” แต่ตัวเขาก็มีความสามารถที่มากมาย ข้ารู้สึกสมเพชทั้งๆที่เขาโดนผนึกความสามารถแต่ยังพัฒนาต่อไปได้ แล้วตัวข้าที่ไม่ได้โดนผนึกอะไรเลยกลับทำอะไรไม่ได้

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างหลังจากที่ข้าเห็นเทคนิคของเขา “แฟนท่อม” มันก็เริ่มทำให้ข้าอยากจะฝึกมากขึ้น

 

 

ดาบที่ถูกชักออกมา ดาบที่ผ่านหน้าข้าไปในขณะนั้น คมดาบอากาศที่แหลมคมและบีบอัดด้วยพลังมหาศาลจนสามารถตัดหินขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดายนั่น

 

 

 

 

พูดตามตรง………ข้าโครตชอบมันเลย

 

 

ข้าเองก็พยายามคิดค้นเทคนิคนั้นให้เหมือนกับตัวเขา แต่บางทีเพราะข้าเป็นคนที่มีท่าทางหยาบคาย และข้าเองก็ควบคุมคิได้ไม่ดีมาก ข้าไม่สามารถทำแบบเขาได้

 

 

มันเป็นเวลานั้นเองที่ข้าอยากจะมีเทคนิคที่คล้ายๆกับเขา

 

 

พูดตามตรงแม้ว่าตอนนี้ข้าจะดูเหมือนเด็ก แต่ข้าไม่สนหรอกหากข้าอยากได้ก็ต้องได้

 

 

หลังจากนั้น ข้าเองก็ได้พบกับไอริสและคนอื่นๆ ทำให้เกิดไอเดียเทคนิคประสานนี่ขึ้นมา แต่ว่ามันก็ยากมากที่จะควบคุม

 

 

แม้แต่ตอนที่ข้าอ่านหนังสือและศึกษาถึงเวทย์เก่าๆ ข้าก็ไม่เข้าใจเพราะเดิมทีโดดเรียนตลอดมา

 

 

ถ้าไม่ได้ทิม่าช่วยสอน ข้าก็คงนั่งกุมขมับกับหนังสือเรียนไปอีกนาน อย่างไรก็ตามเวทย์ที่ข้าใช้ได้ในตอนนี้คือเวทย์เสริมพลังให้กับอาวุธของข้า

 

 

นอกจากนี้อัตราความสำเร็จโครตต่ำ และในทางปฏิบัติเองโอกาสมันแค่ 10% แต่วันนี้ข้าก็ทำมันสำเร็จ

 

 

ข้ารู้สึกว่าตัวตนของข้าห่างไกลจากเขามาก

 

 

ตอนที่โนโซมุต่อสู้กับรูกาโต้ความห่างชั้นยิ่งมากขึ้นไปอีก ข้ารู้สึกแบบนั้นเลย

 

 

เขาจัดการกับชายที่ถูกเรียกว่าแรงค์ S ได้ ชายที่แข็งแกร่งในทวีป ทั้งข้าและไอริสก็ทำไม่ได้เลย

 

 

ไม่มีสิ่งใดที่เราทำได้ในตอนนั้น โซเมียเองก็ถูกจับเป็นตัวประกัน และพวกเรายังกลายเป็นกระสอบทรายให้รูกาโต้ซัดเล่นๆ ความต่างชั้นมันห่างกันเกินไป

 

 

เทคนิคเวทย์ขั้นสูงที่สามารถใช้เวทย์ 10 อย่างได้พร้อมกัน

 

 

แม้แต่ไอริสเองก็ยังรู้สึกประทับใจกับความแตกต่างระหว่างแรงค์A กับ S

 

 

และเป็นโนโซมุเองที่ปราบตัวตนสุดแข็งแกร่งนั่น

 

 

ตอนที่เขาปลดปล่อย “พันธนาการ” ความสามารถของเขาทะลุเพดานที่ข้าคิดไว้อย่างมาก ดังนั้นความกระวนกระวายภายในอกข้ามันยิ่งมากขึ้น ตัวตนของข้าที่ห่างไกลเขามากไปอีกครั้ง

 

 

 

(อย่าใจร้อน!)

 

ไม่ว่าจะทำยังไงความกระวนกระวายใจก็ไม่หายไป และดาบที่ข้าสร้างขึ้นมันยังคงแข็งทื่อจนกระทั่งหมดเวลา

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท