โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 84

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่6ตอนที่1

 

 

ณ ริมทะเลสาบอันมืดมิดไร้สิ้นสุด

 

 

มีชายหนุ่มและมังกรยักษ์กำลังห่ำหั่นกันกลางทะเลสาบที่เต็มไปด้วยน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับ

 

 

「บ้าเอ้ยย!!」

 

 

เท้าของมังกรยักษ์ที่ใหญ่เหมือนหุบเขากระแทกลงมาที่พื้นอย่างแรงทำให้คลื่นน้ำกระจายโจมตีใส่ชายหนุ่ม

 

 

ชายหนุ่มกระโดดถอยกลับเพื่อไม่ให้โดนแรงต้านมากนัก

 

 

คลื่นกระแทกที่ปล่อยออกมาจู่โจมเข้าใส่ชายหนุ่มคนนั้นเหมือนกิ่งไม้

 

 

ชายหนุ่ม นาม โนโซมุ・ เบลาตี้ กระแทกลงไปกับพื้นหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่เขาอยู่นิ่งๆ จิตใจก็จะได้ความสงบกลับคืนมา

 

 

แม้ว่าจะเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะโดนโจมตีรุนแรงแค่ไหน โนโซมุก็ลุกกลับมาได้อย่างสง่าผ่าเผย อย่างไรก็ตาม ผมไม่สามารถปล่อยให้ระยะห่างระหว่างพวกเราเป็นแบบนี้ได้

 

 

โนโซมุถือดาบคาตานะเล่มเดียวอยู่ในมือ

 

 

สำหรับโนโซมุที่ไม่มีวิธีโจมตีจากระยะไกลที่มีประสิทธิภาพมากมายนัก การต่อสู้ในระยะไกลเป็นไปไม่ได้เลย

 

 

เหนือสิ่งอื่นใด มังกรยักษ์ตรงหน้าคือเทียแมท ต่อให้เข้าใกล้ได้แค่ไหนก็เหมือนกับการงมหามุขสีทองท่ามกลางหาดทราย

 

 

ตอนสู้กันครั้งแรกเทียแมทไม่เคยระวังตัวและไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะจัดการเขาได้ แต่ตอนนี้หมอนี่ตื่นตัวแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตามเทียแมทที่สู้กับโนโซมุตอนนี้ไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตัวมากนัก

 

 

เกล็ดที่ซึ่งน่าจะได้บาดแผลจากแฟนท่อมของโนโซมุ มันเป็นเหมือนรอยขีดข่วนตามร่างกาย

 

 

ยังไงก็ตามมีโฟโตสเฟียร์จำนวนมากปรากฏขึ้น

 

 

「หมอนี่……!」

 

 

「กร๊าซซซซซซซซซ!!」

 

 

พร้อมกับเสียงคำรามเหล่านั้น กลุ่มแสงที่สร้างด้วยเวทย์วิญญาณก็กระหน่ำใส่โนโซมุ

 

 

กลุ่มของแสงพวกนั้นเข้ามาใกล้โดยไร้ซึ่งช่องว่างให้หลบเลี่ยง

 

 

หากเห็นภาพนี้ตรงหน้า ก็คงพูดได้ว่ามันคือความสิ้นหวังระหว่างความต่างของพลัง และเลิกที่จะคิดต่อต้านและยอมแพ้ไป

 

 

「ความตาย…ที่สั่งสมมา!!」

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุไม่ยอมแพ้กับเหตุการณ์เช่นนี้

 

 

ณ ริมทะเลสาบแห่งนี้ เป็นการต่อสู้ในโลกวิญญาณระหว่างโนโซมุและเทียแมท

 

 

ถ้าผมยอมแพ้และยอมจำนนให้กับมังกรตรงหน้า เจตจำนงที่ชื่อโนโซมุจะหายไปและเทียแมทจะฟื้นคืนชีพ หากเป็นเช่นนั้นภาพแห่งฝันร้ายที่เคยเห็นจะกลายเป็นจริง

 

 

เหล่าผู้คนที่ยอมรับในตัวผม จะกลายเป็นเถ้าธุลี โนโซมุทนเห็นภาพนั้นไม่ได้หรอก

 

 

นั่นคือเหตุผลที่เขายังสู้ต่อไป

 

 

แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงพลังงานจำนวนมากที่ตกลงมา อย่างไรก็ตามการสู้แบบนี้จะใช้พลังกายและเวลามากเกินไปโดยไม่จำเป็น

 

 

โนโซมุเพ่งความสนใจไปที่เท้าของเขา

 

 

เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ก็ได้เวลาที่จะปลดปล่อยพลัง

 

 

เปินใช้งานก้าวพริบตาและเหยียบย่ำไปทุกๆฝีเก้าที่เสริมไปด้วยพลังคิที่อัดแน่นจนเอ่อล้น ร่างกายของโนโซมุพุ่งเร็วราวกับลูกธนูที่ถูกปล่อยออกมา

 

 

「โอววววววววววววววววววว!」

 

 

โนโซมุจ้องมองประกายแสงตรงหน้าที่ใกล้เข้ามาขณะที่เขามองภาพรอบๆที่ทอดยาวออกไป โลกแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยสีเทาและภาพทั้งหมดก็ค่อยๆเผยออกมาอย่างช้าๆ

 

 

ภายใต้สมาธิที่ถูกเร่งความคิดจนถึงขีดสุด โนโซมุชักดาบออกมาและถือฝักราวกับถือดาบสองมือ

 

 

เขาฟันประกายแสงที่พุ่งเข้ามาและสะบัดมันออกไป

 

 

ไม่กี่นาทีหลังจากปลดปล่อยพลัง ก็ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว

 

 

ทุกครั้งที่ขยับขา ร่างกายก็เหมือนกับกำลังพังทลายลง และแขนที่กำลังฟาดฟันไปมาก็เหมือนกับฉีกขาด ร่างกายกำลังร่ำร้อง

 

 

ถึงกระนั้นประกายแสงเหล่านั้นก็ไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมดมันพุ่งทะลุร่างของเขาทีละเล็กทีละน้อย

 

 

ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย และการเคลื่อนไหวก็ช้าลงเล็กน้อย

 

 

ราวกับรอเวลานั้นเองเทียแมทอ้าปาก

 

 

แสงแห่งความโกลาหลมาบรรจบกันกระสุนเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่ทำให้กระสุนเปลวเพลิงของมังกรแห่งความตายเหมือนเทียนไข

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

 

โนโซมุยังไม่สามารถฝ่าสายฝนที่หนักแน่นได้ ระหว่างนี้ เปลวเพลิงสีดำก็มารวมตัวกันในปากของเทียแมทขนาดค่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาทำให้โนโซมุรู้สึกอุ่นๆเลย

 

 

「ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!」

 

 

เปลวเพลิงขนาดใหญ่มหึมาถูกปล่อยไปที่โนโซมุ

 

 

โนโซมุฝ่าสายฝนเหล่านั้นมาได้แล้ว แม้ว่าร่างกายจะมีรูพุนไปทั่วแต่เปลิวเพลิงนั่นก็กำลังใกล้เข้ามา

 

 

「หนอยแน่……!」

 

 

จะหลบก็ไม่ทันเวลา ไม่มีประโยชน์ที่จะป้องกันต่อไป แล้ว…ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าปะทะ

 

 

ขณะที่พยุงร่างกายที่จะล้มลงอย่างสิ้นหวัง โนโซมุพุ่งเข้าหาเปลวเพลิงนั่น

 

 

ในเวลาเดียวกันก็ปลดปล่อยพลังออกมาจนถึงขีดสุด

 

 

พลังเดียวกับเทียแมทที่ใช้อยู่ครอบคลุมร่างกายไหลมาบรรจบกันในดาบ

 

 

การเต้นของหัวใจที่ดังกึกก้อง เลือดไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย เส้นเลือดฝอยราวกับจะแตกออกย้อมทุกอย่างที่เห็นกลายเป็นสีแดงสด

 

 

เนื่องจากไม่มีพลังเหลือแล้ว เพราะครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายของเขา

 

 

แม้ว่าจะฟันลมหายใจที่ออกไปได้ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ แต่ก็ยังไม่อยากยอมแพ้

 

 

ยกดาบขึ้นและฟันมันออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกห์!!」

 

 

เปลวเพลิงแห่งความโกลาหลปะทะเข้ากับการฟันที่เป็นประกายแสงห้าสี

 

 

อย่างไรก็ตามการฟันของโนโซมุไม่สามารถตัดผ่านเปลวเพลิงขนาดยักษ์ได้ และมวลเปลวเพลิงก็กลืนกินคมมีดของโนโซมุจนหมดสิ้น

 

 

ขณะที่รู้สึกถึงแสงจำนวนมากที่กำลังพุ่งเข้ามา ขอบเขตการมองเห็นก็ขาวสนิท

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

 

ขณะที่กัดริมฝีปากของเขาต่อความแตกต่างของพลังที่วัดไม่ได้ โนโซมุจ้องมองไปที่เปลวเพลิงแห่งความโกลาหลที่ลุกโชนโดยไม่ละสายตา

 

 

ในขณะนั้นเองก็เกิดบางอย่างแปลกๆ

 

 

ระลอกคลื่นเหล่านั้นกระจายไปในขอบเขตการมองเห็นของโนโซมุราวกับโยนก้อนหินลงบนผิวน้ำ

 

 

「เอ๋……?」

 

 

ระลอกคลื่นนั่นกระจายออกไปและเติมเต็มวิสัยทัศน์โดยรอบของโนโซมุ แลพร้อมกันนั้นเองเปลวเพลิงแห่งความวุ่นวายและมังกรยักษ์ตรงหน้าก็หายไป

 

 

◇◆◇

 

 

「อืม……」

 

เขาค่อยๆเริ่มได้สติกลับคืนมา

 

 

โนโซมุมองไปรอบๆและสำรวจร่างกายของเขาอีกครั้ง แต่แน่นอนเขาอยู่ในห้องพักและร่างกายก็ยังเป็นของเขาเองที่พ่อแม่ได้ให้กำเนิดเขามาเมื่อ 17 ปีที่แล้ว

 

「……กลับมาแล้วยังงั้นเหรอเนี่ย」

 

โนโซมุตกตะลึงและพูดอยู่คนเดียว เขาโล่งใจที่สามารถกลับมาได้

 

 

แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างนั้นเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน และฤดูกาลจากใบไม้ผลิก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นฤดูร้อน

 

 

เมื่อโนโซมุลุกจากเตียงก็ล้างหน้าและเตรียมตัวให้พร้อม

 

 

แต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบสีขาวและถือกระเป๋าพร้อมกับชุดเครื่องมือ

 

 

อุ่นซุปที่เหลือของเมื่อวาน ตักใส่จาน หยิบขนมปังดำใส่แล้วคนให้เข้ากัน

 

 

ขณะที่กำลังทานซุปอุ่นๆและกลิ่นหอมของขนมปังที่อบมานิดหน่อย โนโซมุก็นึกถึงฝันเมื่อวาน

 

「หลังจากนั้นก็ประมาณ 3 ถึง 5 วันสินะ……」

 

หลังจากการต่อสู้ที่ป่าชานเมืองเทียแมทที่พยายามปรากฏตัวในฝันของโนโซมุทุกๆสองสามวันเพื่อพยายามทำลายจิตใจของเขา

 

 

แน่นอน โนโซมุก็ต่อต้านมันมาตลอด แต่คู่ต่อสู้นั้นก็แข็งแกร่งเกินไป

 

「ก็ไม่ชัดเจนเลยนะทำไมผมถึงกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้ ทั้งๆที่ควรจะติดแหง็กอยู่ในโลกนั้น..!」

 

โนโซมุเหลือบมองเล็กน้อย กี่ครั้งแล้วที่ถูกฆ่าตายในฝัน

 

 

ทำไมถึงกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้และไม่ถูกช่วงชิงเจตจำนงไป

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้พยายามต่อต้านก็หยุดมันไว้ไม่ได้

 

 

ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลับมาจากโลกวิญญาณได้ แต่ตามปกติ มันมีลางสังหรณ์แปลกๆ ที่ว่าหากยอมแพ้จริงๆอาจจะหายไปจริงๆ ตอนนั้นแหละยามที่ผมยอมแพ้หมอนั่นจะมาแทนที่ผม

 

 

โนโซมุทานอาหารช้าๆ โดยตระหนักถึงความกังวลในใจ

 

 

หลังจากรับประทานอาหารเช้าและล้างจานจนเสร็จ โนโซมุก็มองไปที่ดาบสามเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะ

 

 

แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างและสะท้อนเงาดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก

 

 

โนโซมุค่อยๆชักด้ามดาบออกมาจากดาบทั้งสามเล่ม สองเล่มนั้นได้ใช้ชีวิตสมกับที่เป็นตัวมันเองแล้ว

 

 

ใบมีดที่แตกออกแล้วเหลือเพียงใบมีดอันน้อยนิดและด้ามจับเท่านั้น ดาบนั้นเป็นเครื่องช่วยชีวิตสำหรับเขา

 

 

ในตอนแรกตอนที่โนโซมุได้จับดาบของอาจารย์ที่ได้มาเป็นครั้งแรก

 

 

เขาเอาชนะอาจารย์มาด้วยตัวเอง ตอนนั้นตัวเขาที่แตกสลายยังไม่พร้อมที่จะใข้ดาบเล่มนั้น

 

 

สิ่งต่อไปคือโนโซมุก็พยายามลูบดาบที่อยู่ข้างสะโพกเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

 

 

แม้ว่าจะได้รับการยอมรับ แต่ผมก็ยังเหยียบย่ำตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

 

ดาบที่กล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่ปกป้องเขา ดาบที่ทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าได้และปกป้องสถานที่ๆควรจะกลับมา

 

 

และในที่สุดก็จับดาบแสนสำคัญที่อาจารย์ได้มอบทิ้งไว้ เป็นดาบที่อาจารย์ใช้มาหลายปีเรียกได้อีกอย่างนี่คืออีกครึ่งหนึ่งของชีวิตเธอก็ว่าได้

 

 

จนถึงตอนนี้ผมไม่กล้าที่จะสวมมันไว้ที่เอวเลย

 

 

ปัญหาของโนโซมุยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งเทียแมท ลิซ่า และมังกรแห่งความตาย

 

 

ตัวเขารู้สึกได้ว่ามีสิ่งเลวร้ายอีกมากมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

「แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย……」

 

ถึงแม้โนโซมุจะรู้สึกถึงความมืดมิดภายในอก แต่ดวงตาของเขากลับสงบและมีเพียงความวิตกเท่านั้น เขาจึงย้อนมองตัวเอง

 

 

เหมือนมองตัวเองจากฟากฟ้า

 

 

ในป่านั้นผมสามารถสื่อทุกสิ่งไปถึงไอริสได้

 

 

ในเวลานั้นผมยกภาระที่ต้องแบกรับไว้มากมายนั้นออกจากบ่า แต่ว่าผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือการสงบจิตใจได้ในที่สุดและความเต็มใจที่จะก้าวเดินต่อไปอีกครั้ง

 

 

โนโซมุจับดาบเฉยๆ ยืนยันจิตใจที่ยังคงกังวลและตัวเขาเองก็จ้องมองมันอย่างสงบ

 

 

ในฝ่ามือของผมที่ถือดาบ ผมรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่อบอุ่น ไม่ใช่เพียงแค่แสงแดด

 

 

ผมยังมีความวิตกกังวลและในใจยังคงมืดมน

 

 

ถึงกระนั้นตัวผมในตอนนี้ก็เริ่มที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

 

「……เอาล่ะ ได้เวลาไปแล้ว!」

 

โนโซมุเปิดประตูห้องด้วยเสียงดังลั่นและออกเดินทางสู่วันใหม่

 

 

◇◆◇

 

 

 

 

หลังจากออกจากหอพักแล้ว โนโซมุก็มุ่งหน้าไปยังเขตชานเมือง

 

 

โนโซมุที่รักษาบาดแผลแล้ว และไอริสกับคนอื่นๆก็กลับมาฝึกที่นี่เป็นเวลาหลายวันแล้ว

 

「เซยะ!」

 

「โอ้ววว!」

 

ตอนนี้ไอริสและมาร์กำลังแลกดาบกัน ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากันท่ามกล่างทุ่งหญ้า

 

 

ดาบใหญ่ของมาร์เหวี่ยงเข้าไปใกล้สีข้างของไอริส แต่เธอก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วและใช้ดาบของเธอเพื่อปัดดาบใหญ่ออกไป

 

 

อย่างไรก็ตามมาพุ่งเข้าใส่ทันที

 

 

เขาใส่พลังคิลงไปและใช้คมดาบวายุและพุ่งเข้าหาไอริส

 

 

ในทางกลับกันไอริสก็ใช้ปรับใช้ทันทีเพื่อสร้างกระสุนเวทย์ห้านัดและยิงไปที่มาร์

 

 

กระสุนเวทย์สีดำพุ่งเข้าใกล้มาร์ขณะตัดผ่านชั้นบรรยากาศ

 

 

ดาบขนาดใหญ่ของมาร์ไม่ใช่ของที่ฟันได้อย่างรวดเร็ว มันต้องใช้เวลาและแรงกาย

 

 

มาร์คิดว่าการที่เธอปล่อยกระสุนเวทย์มาคือการซื้อเวลา เขายังคงพุ่งเข้าหาไอริสด้วยดาบขนาดใหญ่ที่ถือไว้ราวกับเป็นโล่

 

 

ด้วยความสามารถปรับใช้ทันทีของไอริส ไม่ต้องร่ายเวทย์เพื่อใช้งานเวทย์ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ได้ถนัดด้านดาบอย่างเดียวยังถนัดเวทย์ด้วย

 

 

เป็นเรื่องชัดเจนยิ่งเธอซื้อเวลาได้นานเท่าไร  มาร์ก็จะจนมุมมากขึ้นเท่านั้น

 

 

กระสุนเวทย์ของไอริสและตัวเธอที่ยกดาบขึ้น มาร์เองถึงกับต้องตกตะลึง

 

 

นอกจากนี้แรงกระแทกรุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้งและมาร์ก็เริ่มที่จะพลาด

 

 

มาร์คว้าดาบเล่มใหญ่แล้วยกดาบขึ้นต่อหน้า แต่ก็จบแล้ว

 

 

 

「จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าต้องใช้มือหนึ่งคุมกระสุนเวทย์ไว้ยังงั้นรึ」

 

มาร์ถอนหายใจพร้อมกับรับกระสุนเวท์ญที่ชนเข้ากับดาบใหญ่

 

 

พลังเวทย์ที่เปิดใช้ด้วยปรับใช้ทันทีนั้นใช้ความแม่นยำของผู้ร่าย นอกจากนี้เธอยิงพลังเวทย์จากหลายจุดมาจุดๆเดียวที่ดาบของมาร์

 

 

ด้วยเหตุผลนั่นก็ทำให้พอรู้แล้วว่าทักษะควบคุมเวทย์ของเธอแข็งแกร่งแค่ไหน

 

 

 

「……ท้ายที่สุดแล้วไอริสเองก็น่าตกใจ แต่ถึงยังงั้นก็บอกว่าเป็นเรื่องยากที่จะใช้มันพร้อมกัน……」

 

เมื่อมาร์พูดถึงการใช้สกิลผสาน เธอก็บอกว่ามันลำบากมากๆ แม้เป็นเธอก็ตาม

 

 

แม้แต่โนโซมุที่ใช้แฟนท่อมก็ยังน่าทึ่งที่สามารถปล่อยมันออกมาได้ในสถานการณ์ตึงเครียด

 

 

มาร์เหลือบมองโนโซมุและเขากำลังพูดอะไรบางอย่างโดยถือดาบของฟีโออยู่ในมือ

 

 

มาร์ที่เห็นเช่นนั้นก็ช็อคไปอีกครั้ง และรีบกลับมาสนใจที่การต่อสู้ต่อ

 

 

มาร์เน้นไปที่การเคลื่อนไหวของไอริส ในขณะที่เปิดใช้คมดาบวายุ

 

「ตอนนี้ไม่สามารถใช้มันได้ก็จริง มันหนักหนาเกินไปสำหรับข้า……」

 

ความผิดพลาดนั่นผุดขึ้นมาในใจอีกครั้ง

 

 

การควบคุมเวทย์และคิ การควบคุมตนเองให้สงบเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ตอนนี้ไม่มีทุกสิ่งที่เพียงพอสำหรับตัวเขา

 

 

 

「แต่ว่า ถึงยังงั้นมันก็มีแค่ข้าคนเดียวที่เข้าถึงแก่นแท้ของมัน……」

 

มาร์พูดกับตัวเองเงียบๆและทันใดนั้นก็ใส่คิลงไปในดาบ

 

 

ลมที่เกาะอยู่รอบดาบได้รับแรงผลักดันและลมก็เริ่มพัดรุนแรงขึ้น

 

 

 

「แต่ว่าสิ่งที่ทำได้ก็มีแค่ตอนนี้เพียงเท่านั้น……」

 

โนโซมุไม่สามารถก้าวเข้าถึงพื้นที่ๆเขาสร้างขึ้นมาได้ ตัวเขาใช้เวลาฝึกมานานหลายปีกว่าจะผลิดอกออกผล สำหรับข้าเองก็เช่นกัน

 

 

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้อย่างมั่นคงก็มีแต่ต้องก้าวไปทีละน้อย

 

 

เมื่อคำนึงถึงสิ่งนั้นมาร์จึงเปิดใช้สายลมซึ่งได้รับแรงผลักดันออกไปทางด้านหน้า

 

 

เทคนิค คิ “ค้อนสะบั้นปฐพี” พุ่งเข้าหาไอริส

 

「ในที่สุดก็มาแล้วสินะคะ」

 

อย่างไรก็ตามไอริสเองก็รวบรวมสิ่งนั้นไว้มันคือหอกสีดำ

 

「ฮ่าห์!」

 

ด้วยพลังที่อัดแน่นไอริสขว้างหอกไปที่ค้อนสะบั้นปฐพี

 

 

หอกแห่งขุมนรกที่พุ่งทะลุเข้าปะทะกับค้อนสะบั้นปฐพีและระเบิดออก จากนั้นเกิดฝุ่นและควันบริเวณรอบๆนั้น

 

 

ไอริสมองไม่เห็นมาร์เนื่องจากควันจำนวนมาก แต่สร้างกระสุนเวทย์ไว้ในอากาศหลายนัด

 

 

ในการต่อสู้ระยะไกล มาร์เสียเปรียบจนต้องเข้าใกล้ เธอที่มีพลังเวทย์สูงก็พยายามสร้างระยะห่าง

 

 

ขณะที่จ้องมองฝุ่นควันเพื่อไม่ให้ละเลยว่าพลาดอะไรไป ไอริสก็เสริมพลังกายตัวเองเพื่อพร้อมรับมือกับทุกสิ่ง

 

 

 

「…………」

 

ความเงียบเข้าครอบงำพื้นที่ชั่วครู่

 

 

มันเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่มันเป็นช่วงเวลาแสนยาวนานสำหรับทั้งสองที่ใช้สมาธิหนัก

 

 

และสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน

 

 

 ตึงๆ! มีบางอย่างพุ่งเข้าหาเธอ มันฉีกออกมาเป็นชิ้นๆราวกับกำลังพ่นบางอย่างออกมา。

 

 

 

「ฮ่าห์!」

 

ไอริสยิงกระสุนเวทย์ไปที่สิ่งนั้นทันที

 

 

มาร์ไม่มีวิธีโจมตีระยะไกลตราบใดที่ยังใช้แค่มวลลมเหล่านั้น

 

 

กระสุนเวทย์พุ่งเข้าหามาร์และล้มเขาได้ มันควรจะเป็นแบบนั้น

 

 

 

「อึก!?」

 

กระสุนเวทย์ตกลงไปและระเบิดออก อย่างไรก็ตามมาร์ไม่ได้อยุ่ตรงนั้น

 

 

เป็นมวลลที่มีพลังเวทย์พุ่งเข้าหาไอริส ดวงตาของเธอเห็นภาพของมาร์ที่กำลังยื่นแขนซ้ายออกมาก่อนที่ควันจะจางลง

 

 

เมื่อควันเกิดขึ้น มาร์ก็ปล่อยเวทย์ท้งหมดออกไปทันที เขายิงเวทย์ใส่ไอริส

 

 

 เวทย์“มวลลมพัดผ่าน”。

 

 

ไอริสระบุว่ามวลลมที่พุ่งเข้ามากับค้อนสะบั้นปฐพีผิดไปเลยปล่อยกระสุนเวทย์ไปจนหมด

 

 

มาร์พุ่งเข้ามาแล้วใช้ดาบใหญ่ที่อัดคมดาบวายุพุ่งเข้ามาและใช้ค้อนสะบั้นปฐพีอีกรอบ

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกห์!!」

 

มาร์พุ่งเข้าหาไอริสและใช้คมดาบวายุให้รุนแรงขึ้นไปอีก

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

อย่างไรก็ตามไอริสก็ไม่ยอมแพ้และใช้เวทย์เสริมพลังกายก่อนที่จะโดนดาบของมาร์

 

 

นอกจากนี้ดาบของเธอไม่สามารถรับดาบของมาร์ที่เต็มกำลังได้

 

 

เสียงแหลมสูงของดาบปะทะกันทำให้เกิดคิกระจายไปทั่ว

 

 

วินาทีถัดมาดาบของทั้งสองก็เข้าห่ำหั่นกัน

 

 

◇◆◇

 

 

ในทางกลับกันโนโซมุและเพื่อนๆของมาร์และไอริสกำลังดูการดวลดาบจากระยะไกล

 

 

 

「โฮ่ว~。หลังจากนั้นทั้งคู่ดูแกร่งขึ้นมากเลย มาร์เองก็เก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย~!」

 

มิมุรุชื่นชมทั้งสองที่ต่อสู้กันอยู่

 

 

แน่นอนการเคลื่อนไหวของไอริสนั้นลื่นไหลแต่มาร์เองก็มองข้ามไม่ได้เช่นกัน

 

 

ทั้งสองกวัดแกว่งดาบเข้าห่ำหั่นกันแต่มาร์ที่อัดคมดาบวายุเข้าไปทำให้ดาบของไอริสเบี่ยงไปเล็กน้อย

 

 

ใบบางครั้งไอริสก็ใช้การย่อตัวเพื่อฟันมาร์ แต่มาร์ก็ย่อตัวและปัดป้องโดยการใช้ปลอกแขน

 

 

 

「แต่ว่ามาร์กำลังต่อสู้ด้วยท่าทีสุขุม หากเคลื่อนไหวทื่อๆมีหวังโดนเจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬจัดการไปแล้ว……」

 

 

 

ฟีโอเห็นการเคลื่อนไหวของมาร์ก็พึมพำ

 

 

อย่างที่ฟีโอพูดหากมาร์ไม่มีสมาธิ ก็จะทำอะไรไอริสไม่ได้เลย

 

 

การโจมตีที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั้นเผยให้เห็นถึงการพัฒนา

 

 

แน่นอนมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถล้มมาร์ลงได้

 

 

อย่างไรก็ตามสำหรับบางคนมันตรงกันข้าม นักเรียนไม่กี่คนนั่นก็คือไอริสและฟีโอ

 

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่ามาร์จะเข้าใกล้ได้แล้ว แต่ก็ไม่มีบรรยากาศที่ว่าจะกุมชัยได้

 

 

สิ่งที่กระตุ้นตัวเขาอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา

 

 

เหตุการณ์เหล่านั้นทำให้ตัวเขาเติบโตขึ้นทั้งจิตใจและร่างกาย

 

 

 

「ว่าแต่ว่า โนโซมุคุงไปทำอะไรมาตั้งนานแน่ะ?」

 

ทอมที่อยู่ข้างๆมิมุรุถาม โนโซมุถือดาบของฟีโอและจ้องมองไปที่เขา

 

「เปล่าหรอก ก็แค่สงสัยว่าจะใช้ดาบแบบนี้ได้ไหม เพราะมันแทบไม่มีวิธีใช้การโจมตีระยะไกลเลย」

 

ทอมโกรธกับคำพูดของโนโซมุ แต่พยักหน้าราวกับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

 

「อ้อ อีกอย่างโนโซมุใช้เวทย์ไม่ได้นี่เนอะ?」

 

「แทบจะใช้ไม่ได้เลย ผมไม่สามารถใช้อะไรที่เป็นการต่อสู้ระยะไกลได้เลย เพราะไม่มีพลังเวทย์……」

 

พลังเวทย์ของโนโซมุแทบจะไม่มีเนื่องจากพันธนาการ และไม่มีพลังเวทย์พอจะใช้เวทย์เริ่มต้นด้วยซ้ำ เขาทำอะไรไม่ได้เลยในคาบเรียนเวทย์

 

 

จนถึงตอนนี้โนโซมุมักจะหาทาออกคนเดียว มักจะจบด้วยการเข้าประชิดและหลีกเลี่ยงระยะไกลให้มากที่สุด

 

 

ไม่สามารถใช้เวทย์ป้องกันได้ และมีพลังน้อยนิด ดังนั้นการโจมตีระยะไกลอย่างแฟนท่อมที่ใช้งานได้ก็มีจำกัด แน่นอนว่าห้ามใช้ใส่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นมนุษย์เด็ดขาด

 

 

สำหรับโนโซมุที่ไม่มีตัวเลือกการโจมตีระยะไกลมากนัก เลยมีตัวเลือกไม่มาก

 

 

 

「เพราะแบบนั้นเองเลยมีกระเป๋านั่นที่พกอุปกรณ์ไว้สินะ และโดยพื้นฐานอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งเนี่ย คิดว่าเป็นตัวเลือกท้ายๆ เพราะฉะนั้นก็เลยพยายามหาอุปกรณ์ที่ช่วยให้อุ่นใจได้」

 

ด้วยเหตุนั้นเองโนโซมุเคาะด้ามดาบที่เอว

 

 

ไม่ว่าจะใช้เวทย์ที่ทรงพลังได้แค่ไหน ไม่ว่าอาวุธจะแกร่งขนาดไหน สิ่งที่ช่วยเขาไว้ก็คือดาบที่อยู่ข้างกายและวิชาดาบที่เรียนมาจากอาจารย์ อีกทางเลือกหนึ่งก็คือฝึกใช้อาวุธอื่นเป็นอาวุธสำรองและใช้สกิลดาบเป็นตัวประสาน

 

 

 

「อย่างไรก็ตามมีบางครั้งที่วิธีการอื่นที่ไม่ใช่ทักษะดาบก็มีความจำเป็น」

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุรู้ดีหากเขาละเลยไม่ทำเช่นนั้น ไม่เพียงแต่จะแพ้อย่างเดียว ชีวิตอาจตกอยู่ในอันตราย เป็นสิ่งที่ตระหนักได้ตอนโดนสัตว์อสูรไล่ตาม

 

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาวางกับดักไว้ในป่า

 

「แล้วข้าน้อยควรจะสอนวิชาดาบให้?」TN:โนโซมุใช้คาตานะนะครับ คนอื่นใช้เซเบอร์บ้าง ลองซอร์ดบ้าง เรเปียร์ก็มี และอาวุธจำพวก บรูทส์ (Brute)ก็อย่างฟีโอ

 

「ได้ไหมละ?」

 

「ไม่คิดเลยว่าจะมาขอร้องกันแบบนี้」

 

ฟีโอถูกโนโซมุขอร้องให้สอนใช้เทคนิคปามีด (คือโนโซมุไม่มีวิธีโจมตีระยะไกลเลยหาอาวุธจำพวกอื่นมาทดแทน เช่นพวก ดาบสั้น อะไรประมาณนี้)

 

 

ดูเหมือนว่าจะไม่มีข้อติเรื่องการสอน

 

「เนื้อหาคือกระเป๋าเงินจะโดนสูบหนักเลย……」

 

「เงียบน่า!」

 

ฟีโอตอบสนองต่อคำพูดของซีน่าข้างๆเธอ

 

 

อย่างใดก็ตามดวงตาของผมชุ่มชื้นเห็นได้ชัดว่าเรื่องขาดเงินยังแก้ไขไม่ได้เลย ขนหางสีทองก็ดูหมองคล้ำด้วย

 

 

ในเวลานั้นไอริสและมาร์ที่แลกดาบกันอยู่ก็มาหาโนโซมุและคนอื่นๆก็เห็นผลลัพธ์แล้ว

 

 

 

「อืมมมม ท้ายที่สุดต้องใช้การสลับเวทย์กับคิเหรอเนี่ย? ต้องเร็วและแม่นยำกว่านี้」

 

「สำหรับตอนนี้มาร์คุงดีขึ้นมากแล้วล่ะ คิดว่าปรับปรุงเรื่องความแม่นยำของพลังเวทย์นี่น่าจะดีขึ้นเลย ที่เหลือก็ฝึกสกิลผสานของนาย ให้คุ้นเคยก็พอแล้ว」

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าไอริสชนะ

 

 

เมื่อพิจารณาจากเรื่องราวแล้ว มาร์ใช้เวลานานเกินไปในการสลับการใช้เวทย์กับคิ จนทำให้เกิดช่องว่าง

 

「แล้วกำลังคุยอะไรกันอยู่ล่ะ?」

 

「ก็แบบว่าอยากจะให้ฟีโอสอนเกี่ยวกับเทคนิคปามีดน่ะ ตอนนี้ได้แค่พื้นฐาน และกำลังจะไปกินข้าวเที่ยงกัน」

 

โนโซมุตอบคำถามของไอริส ฟีโอเองก็ตอบสนองต่อท่าทีของไอริส

 

 

อันที่จริงดูเหมือนว่าแม้แต่เรื่องอาหารก็ยังตึงเครียด

 

「โอเค ฝากฉันได้เลย!」

 

ขณะพูดเช่นนั้น ผมดึงมีดสั้นออกมาจากอกและหันไปทางต้นไม้ใกล้ๆ

 

「โดยพื้นฐานแล้วมันก็เหมือนกับถือดาบ ระวังเส้นศูนย์กลางที่จะขว้างมันออกไประหว่างฝ่ามือกับนิ้วหัวแม่มือ」

 

ฟีโอปามีดไปแล้วมันแทงทะลุต้นไม้

 

 

ฟีโอมองและบอกว่า”ลองดูสิ”และโนโซมุก็เข้ามาแทนที่

 

 

ถือมีดในลักษณะเดียวกับฟีโอแล้วเล็งเป้าไปที่ต้นไม้

 

 

 

「อา……」

 

อย่างไรก็ตามมีดที่ขว้างออกไปส่งเสียงก้องและโดนลำต้นของต้นไม้ผลักออกมา

 

 

เขาหยิบมีดสั้นขึ้นมาและขว้างมันหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ติดดีเลย

 

 

 

「โนโซมุพื้นฐานแล้วเหมือนดาบคาตานะนั่นละ นอกจากนี้ความเร็วในการขว้างไม่เกี่ยวกัน หากขว้างไปตามธรรมชาติมันจะเกาะติดศัตรูเอง」

 

ฟีโอดึงมีดสั้นออกและขว้างกลับเข้าไปใหม่

 

 

มีดแทงทะลุเข้าไปในต้นไม้อีกครั้งด้วยเสียงอันไพเราะดังตุบ

 

 

โนโซมุมองไปยังมีดสั้นที่หยิบขึ้นมาและเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง

 

 

 

「เหมือนกับคาตานะ……เหมือนกับคาตานะ……」

 

ในขณะที่ถือมีดสั้น โนโซมุก็ทวนคำพูดของฟีโอและเพ่งความสนใจไปที่มีดสั้นและขว้างออกไปพอดีกับฝ่ามือและร่างกายของเขา

 

 

ขั้นแรกเคลื่อนจุนศูนย์ถ่วงไปข้างหน้าด้วยเท้า

 

 

จากนั้นยกมีดสั้นขึ้นและเหวี่ยนงแขนไปในลักษณะเดียวกับที่เหวี่ยงดาบลง โดยคำนึงถึงเส้นกึ่งกลางและด้านข้าง

 

 

เมื่อแขนยื่นไปถึงจุดหนึ่งก็ปล่อยมีดออกไป มีดที่ปล่อยจะหมุนขณะบินไปและแทงเข้าไปที่เป้าหมาย

 

 

เสียงแหลมดังก้องในเวลาต่อมา มีดของโนโซมุแทงเข้าไปลึกในลำต้นของต้นไม้คล้ายกับมีดของฟีโอ

 

 

 

「……ทำได้แล้ว」

 

「ไม่คิดว่าจะทำได้เลยนะเนี่ย มีสมาธิมั่นน่าดู」

 

แม้จะมีคำแนะนำอยู่บ้างแต่ฟีโอก็ตกใจที่เขาทำได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยปกติจำเป็นต้องฝึกอย่างหนัก

 

「ที่กล่าวว่ามันยังมีอีกมาก และตอนนี้มันดูออกจะทะแม่งๆไปหน่อย ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เวลาฝึกเพื่อใช้ในการต่อสู้จริง」

 

「ก็แบบนั้นแหละน้า อย่างที่โนโซมุบอกนั่นแหละ มันเป็นอาวุธที่ต้องพกไว้เยอะๆ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือความแม่นยำ」

 

「อืม เพราะแบบนั้นก็ละเลยการฝึกไม่ได้ค่อยๆทำทีละเล็กทีละน้อย……อะ!」

 

ท้ายที่สุดก็ต้องฝึกต่อไป ได้ข้อสรุปเช่นนั้น ก็ปวดหัวขึ้นมา

 

 

เมื่อมองไปทางอาการปวดกระทันหัน โนโซมุก็นึกถึงฝันเมื่อเช้านี้

 

 

ท้ายที่สุดการต่อสู้กับเทียแมทก็สร้างภาระทางจิตให้กับโนโซมุ แม้ว่าร่างกายกำลังหลับแต่จิตใจไม่ได้พักผ่อนตาม

 

 

 

「……โนโซมุ ฝันแบบนั้นอีกแล้วเหรอ?」

 

「อา……」

 

โนโซมุพยักหน้าให้กับคำถามของไอริส

 

 

ความฝันที่เขามีในวันนี้โนโซมุพูดถึงเกี่ยวกับการต่อสู้ของเขากับเทียแมทในโลกวิญญาณ

 

 

เสียงกังวลของไอริสดังมาถึงหูของโนโซมุ

 

 

ทันใดนั้นโนโซมุก็เงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่ไอริสด้วยท่าทางกังวล ไม่เพียงแต่ไอริสแต่ยังรวมถึงคนอื่นๆ

 

「พักผ่อนหน่อยก็ดีนะ?」

 

「ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่อาการปวดแบบว่าทนไม่ไหว โฮมรูมจะเริ่มแล้วรีบไปกันเถอะ」

 

ไอริสจ้องมองโนโซมุ แต่ก็ไม่มีเวลาแล้วเพราะเดี๋ยวไปสาย

 

 

โนโซมุปฏิเสธข้อเสนอของไอริสอย่างนุ่มนวล ยิ้มที่ปากราวกับบอกว่าไม่ต้องกังวล

 

「โอเคจริงๆงั้นเหรอ? อย่าฝืนเกินไปจะดีกว่านะ……」

 

「เข้าใจดีครับ จะไปห้องพยาบาลเองถ้าทนไม่ไหวจริงๆ มีอาจารย์นอร์นอยู่ด้วย」

 

ซีน่าซักถามแต่โนโซมุก็บอกไม่เป็นไร

 

 

หากกังวลมากเกินไปและเครียดเกินไป ก็อาจจะถูกตัดสิทธิ์ไปจริงๆก็ได้

 

 

อันที่จริงสัปดาห์ก่อนมันเป็นความโกลาหลครั้งใหญ่

 

 

อาจารย์นอร์นที่รู้อาการของโนโซมุและบอกว่าให้ไปพักผ่อนได้เพราะผมรู้สึกไม่สบาย

 

「……อะ โอ้ว! ถ้างั้นก็แล้วไป!」

 

อากาศเริ่มหนักขึ้นเล็กน้อยแต่มาร์ก็พยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น

 

 

คำพูดนั่นทำให้บรรยากาศตึงเครียดหายไป

 

 

มาร์คงเข้าใจว่าไม่อยากให้มีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น

 

 

แม้แต่ในคำพูดที่ไร้คำสุภาพ โนโซมุก็ขอบคุณเขาที่เป็นกังวลเช่นกัน

 

 

โนโซมุและเพื่อนๆก็ไปที่สถาบันโซลมินาติตามเสียงตะโกนของมาร์

 

ป.ล.

ไม่นึกเลยแหะว่าจะมีคนตามเรื่องนี้เยอะขนาดนี้จนแบบเอ้อ ที่หายไป 2 เดือนเพราะผมเรียน ม. แล้วมีเรียนออนไลน์ครับ +มีหน้าที่ต้องหาเงินเลี้ยงชีพเพราะทุกวันนี้ไม่มีจะกินแล้วครับ รายได้ไม่มี/ วันอาทิตย์นี้สอบ และหยุด 1 สัปดาห์ ทำให้กลับมาแปลต่อได้ เพราะฉะนั้นจะกลับมาแปลหลังวันจันทร์ครับ และก็ผู้แปลไม่ได้มีเพจแปลอย่างเป็นทางการ(ไม่อยากสร้างและดูแลเพจมากนัก) และงานแปลก็ไม่ได้แสวงหาผลกำไร แปลเพียงเพื่อหวังให้ได้LCในไทย ไม่อนุญาตให้เอาไปลงที่อื่นด้วยครับ ถ้าพบเห็นไปลงที่อื่น นอกจากแมวดุ้นหรือนายท่านก็ลาก่อนครับ

มีคำถามอะไรเม้นไว้ในตอนนี้เลย เดี๋ยวจะตอบคำถามให้ครับ

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท