โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 86

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่6ตอนที่3

 

 

ในห้องทำงานห้องหนึ่ง ณ สถาบันโซลมินาติ มีผู้ที่เป็นเจ้าของห้องกับผู้ช่วยกำลังปรึกษากันอยู่

 

 

เจ้าของห้องคือ จิฮัด・ รัลเดล ถือกระดาษมัดหนึ่งเอาไว้ในมือ และกำลังกรอกตาอ่านเอกสารเหล่านั้น

 

 

แนวสายตานั้นแคบลงเพื่อที่จะไม่ได้พลาดสักตัวอักษร และภายในห้องทำงานก็เต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด

 

 

บางทีเพราะแรงกดดันที่ปล่อยออกไป หยาดเหงื่อจำนวนมากไหลออกมาจากหน้าของอาจารย์อินด้า

 

 

「โนโซมุ・เบลาตี้คุง……。คุณอินด้าสิ่งที่เขียนในนี้เป็นความจริงใช่ไหม?」

 

 

「คะค่ะ อย่างน้อยในเอกสารเหล่านั้นก็เป็นรายงานที่ติดอยู่กับข้อมูลของโนโซมุ เบลาตี้」

 

 

จิฮัดเหลือบดูกระดาษเหล่านั้นหลายต่อหลายครั้ง ขณะที่ฟังคำพูดของอินด้าพูดไปด้วยท่าทางจริงจัง

 

 

ในมือของจิฮัดคือเอกสารของนักเรียนที่ได้เป็นท็อป 10 ในการฝึกพิเศษครั้งก่อน

 

 

ผลคะแนนและผลการทดสอบของพวกเขาได้รับการบันทึกไว้ในเอกสารเหล่านี้

 

 

「…………」

 

 

จิฮัดจ้องมองข้อมูลของโนโซมุเป็นเวลานานและบางครั้งเขาก็เอามือปิดปากราวกับคิดอะไรบางอย่าง

 

 

อินด้าที่อยู่ข้างๆไม่พูดอะไร แม้แต่สำหรับเธอ มันก็เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ

 

 

「ท่านจิฮัด……」

 

 

「อืม ขอบคุณมาก คุณอินด้า กลับไปทำงานได้แล้วล่ะ」

 

 

「คะ ค่ะ……」

 

 

อินด้าดูเหมือนจะมีคำถามบางอย่างอยากจะถาม แต่เธอก็โค้งคำนับและออกจากห้องไป

 

 

จิฮัดค่อยๆทิ้งตัวลงบนเก้าอี้

 

 

มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเกิดขึ้นและไหล่ที่ตรึงก็เริ่มผ่อนคลายลง จิฮัดจ้องมองเพดานห้องทำงานและนึกถึงเนื้อหาของเอกสารที่อ่านก่อนหน้านี้

 

 

「แรงค์โดยรวมคือ D-。 อย่างน้อยคนที่อยู่ในระดับนี้ก็สามารถเอาชีวิตรอดจากมังกรแห่งความตายได้……」

 

 

แรงค์ D- ซึ่งหมายความว่าระดับพลังนั่นเทียบเท่ากับนักผจญภัยมือใหม่เท่านั้นเอง

 

 

ในช่วงเวลาที่ต่อสู้กับมังกรแห่งความตาย เขามีสมาชิกระดับสูงของเด็กปี 3 อย่าง ไอริส ดีน่า และ ลิซ่า เฮาวด์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะเติบโตขึ้นมาเพื่อได้สู้กับมังกรอยู่แล้ว แต่ก็ยังขาดแคลนประสบการณ์

 

 

บุคคลเหล่านี้มีท่าทีว่าจะแพ้เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์จริงมาก่อน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ต้องการเวลาและประสบการณ์ในการเติบโตขึ้น

 

 

ในสถานการณ์นั้น คงไม่แปลกหากจะมีคนตาย มันอาจจะมีคนโดนฆ่าในกรณีเลวร้ายที่สุด

 

 

อย่างไรก็ตามทุกคนรอดชีวิตกันหมด หลายคนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ไม่สามารถแก้ไขได้เมื่อมองไปแบบนั้นมันก็ยังมีอีกหลายๆจุดที่ไม่สอดคล้องกัน พวกเขาที่ดูไร้ซึ่งประสบการณ์ในการต่อสู้กับมังกร

 

 

แต่ว่าหนึ่งในนั้นที่โดดเด่นกลับเป็น โนโซมุ เบลาตี้ นักเรียนที่จิฮัดจ้องมองข้อมูลก่อนหน้านั้น

 

 

แน่นอนว่าเขารอดชีวิตจากมังกรแห่งความตาย และยังรอดจากสัตว์อสูรสีดำที่มีนามว่า “อบีส กรีฟฟ์(Abyss Griefアビスグリーフ) แม้กระทั่งก่อนการฝึกก็รอดมาได้ เป็นเรื่องแปลกมากที่ความสามารถเขาอยู่ในระดับนี้  

 

 

「ท้ายที่สุดแล้ว การทดสอบก็เป็นเพียงการทดสอบ ไม่สามารถทราบความสามารถนั้นได้จากการอ่านเอกสารเพียงอย่างเดียวสินะ?」

 

 

จิฮัดวางเอกสารในมือลงบนโต๊ะเบาๆ พลางพึมพำราวกับจะถอนหายใจ

 

 

「อบีส กริฟฟ์ ก็ไม่สามารถละเลยได้เช่นกัน มีอะไรให้กังวลอีกมากมาย……」

 

 

หายใจออกราวกับจะเปลี่ยนความรู้สึกเหล่านั้นไป

 

 

จิฮัดยืนขึ้นและออกจากห้องทำงานหลังจากรวบรวมเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะแล้วนำไปวางไว้อีกโต๊ะหนึ่ง

 

 

เหตุการณ์เหล่านี้ชวนปวดหัว แต่ก็ต้องจัดการไปทีละอย่าง

 

 

「ควรไปคุยกับคุณหนูก่อนที่จะไปคุยกับคุณอันริและเขาสินะ……」

 

 

เสียงพึมพำของจิฮัดดังก้องและหายไปในห้องทำงานนั่น แสงแดดอันอบอุ่นส่องประกายตรงกันข้ามกับน้ำเสียงอันเคร่งขรึม

 

 

◇◆◇

 

 

พูดถึงเวลาพักกลางวันแล้ว น่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีชีวิตชีวามากที่สุด ในอาคารเรียนพบเห็นเหล่านักเรียนมากมาย

 

 

เหล่านักเรียนรีบรุดไปโรงอาหารเพื่อหาซื้อของด้วยความกระตือรือร้น

 

 

มันเป็นภาพอันแสนคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน และเป็นช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดของวัน ซึ่งบางครั้งก็เกิดการต่อสู้แย่งชิงอาหาร

 

 

แม้จะเร่งรีบและคึกคักมากเพียงใด โนโซมุก็มองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการได้อย่างรวดเร็ว

 

 

เขาหยิบขนมปังดำ ผักสด และไส้หมูย่างที่ราคาถูกที่สุด

 

 

โนโซมุซื้ออาหารกลางวันมากกว่าปกติและเขาก็เดินเข้าไปในอาคารเรียน

 

 

ห้องเล็กๆตั้งอยู่ในอาคารเรียนสีขาว โนโซมุมาถึงหน้าห้องพยาบาล เปิดประตูและระมัดระวังไม่ให้อาหารกลางวันร่วง

 

 

ในห้องนั้น มีเพื่อนๆของโนโซมุมารวมตัวกันและพูดคุยกัน เมื่อเขาโบกมือให้ สหายก็โบกมือกลับ

 

 

เมื่อโนโซมุเข้าไปข้างๆพวกเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่

 

 

「อืม โนโซมุ วันนี้มาเร็วนะเนี่ยนะคะ」

 

 

「ก็นะ ขนมปังนี่มันไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไรนี่ครับ」

 

 

ระหว่างแลกเปลี่ยนคำพูดกับไอริสเพียงเล็กน้อย โนโซมุก็โยนขนมปังอีกอันให้ฟีโอ

 

 

「เอ้านี่ ตามที่สัญญาไว้」

 

 

「อุ โหวว มาแล้วมาแล้ว! ขอบคุณนะโนโซมุ!」

 

 

ขนมปังที่ถูกที่สุดเท่าที่จะหาซื้อได้ แป้งแห้งและขนมปังไม่อร่อยเลยสักนิด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับฟีโอที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้น ตอนนี้เขามีเครื่องปรุงรสที่ดีที่สุดคือความหิวนั่นเอง

 

 

「แฮมมุ! หง่ำๆๆ……」

 

 

เขาเขี้ยวขนมปังดำแห้ง มันเป็นขนมปังที่แห้งสนิท กลืนยาก แต่มันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรสำหรับฟีโอ

 

 

สำหรับโนโซมุก็คิดว่ามันไม่ค่อยจะเป็นการขอบคุณที่ดีสักเท่าไรที่ให้ฟีโอสอนวิชาปามีดโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรเลย ดังนั้นจึงไม่ได้ซื้อแค่ขนมปังแต่ยังซื้อพวกผักและเนื้อให้ด้วยเพราะปริมาณน่ะ สำคัญกว่าคุณภาพยามท้องหิว

 

 

เครื่องเคียงต่างๆที่โนโซมุให้ไปก็ไม่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

คนอื่นๆต่างมองฉากตรงหน้าด้วยความตกตะลึงพร้อมกับค่อยๆเข้ามาใกล้

 

 

โนโซมุเองก็เริ่มทานอาหารกลางวันบ้างขณะพูดคุยกับเหล่าเพื่อนๆ

 

 

「อาระ? คุณทิม่า เกิดอะไรขึ้นกับกิ๊บตัวนั้นเหรอคะ?」  

 

 

ซีน่าเหลือบมองเครื่องประดับผมของทิม่า

 

 

ผมสีน้ำตาลที่ตัดแต่งอย่างสวยงามของเธอเปล่งประกายด้วยเครื่องประดับผมสีเงิน

 

 

เป็นเครื่องประดับผมที่ดูเรียบร้อยและมีสไตล์แต่สีเงินมันก็ตัดเข้ากับสีผมได้อย่างฉูดฉาด

 

 

อย่างไรก็ตามซีน่าสังเกตเห็นเครื่องประดับผมนั่นเพราะรู้สึกถึงพลังเวทย์จางๆจากเครื่องประดับเหล่านั้น

 

 

「อ๋อ นี่นะเหรอคะ? ฉันพยายามสร้างมันขึ้นมาโดยผสมผสานพลังเวทย์เข้ากับเครื่องประดับ พลังเวทย์เหล่านี้เก็บไว้ได้ไม่นานนัก และอย่างดีที่สุดมันก็ทำหน้าที่เป็นเหมือนยากันแมลงเท่านั้นเองค่ะ……」

 

 

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่ทิม่าทำขึ้น

 

 

「ไม่ล่ะ ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ ถ้าเกิดมีแมลงมีพิษมาก็ไล่มันแบบได้ผลเลยไม่ใช่เหรอไง?」

 

 

มาร์ชื่นชมผลงานเครื่องประดับผมของทิม่า โนโซมุเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

 

แมลงในป่าบางชนิดมักมีพิษและวางไข่ในสิ่งมีชีวิตเพื่อเลี้ยงตัวอ่อน เป็นความจริงที่ว่ามีแมลงขนาดเล็กและหลากหลายตัวที่ทำแบบนี้ มันเหมาะสำหรับเป็นยากันแมลงสำหรับเข้าป่าจริงๆ

 

 

โนโซมุเองก็เข้าป่าบ่อยๆและเดินผ่านรังผึ้งเองก็เคยเจ็บตัวเพราะผึ้งเหล่านั้น

 

 

ทิม่าหน้าแดงเพราะเธอได้รับคำชมจากมาร์และคนอื่นๆ ใบหน้านั่นซ่อนอยู่ภายใต้ผมม้าของเธอ แถมแก้มยังเป็นสีแดง

 

 

「นั่นสิน้า~。อีกอย่างเวลาเข้าป่าโดนแมลงกัดจนผิวแดงก่ำเลย……。」

 

 

「เอ๊ะ? งั้นเหรอ?」

 

 

อันริยังชื่นชมเครื่องประดับผมของทิม่า

 

 

อย่างไรก็ตามคำพูดที่ออกจากปากอันริก็ดูเหมือนจะเป็นแผลฝังใจ

 

 

โนโซมุเผลอหลุดเสียงแปลกๆออกมาเพราะจากหัวข้อสนทนาที่คุยกันเรื่องแมลงมีพิษกลายเป็นเรื่องผิวกันเฉยเลย

 

 

「แน่นอน หากผิวเป็นรอยแดงเวลาไปทำงานเป็นตี้เสื้อผ้าที่ใส่ได้ก็โดนจำกัดเข้าไปอีกค่ะ……」

 

 

「การรักษาให้มันหายก็ยากเอาเรื่องเลยเนอะ~」  

 

 

โนโซมุและมาร์ที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ดูจะไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลเหล่านั้นเท่าไร

 

 

อย่างไรก็ตามแมลงที่ทำให้ผิวหยาบกร้านก็เป็นอันตรายพอๆกับแมลงมีพิษสำหรับเหล่าหญิงสาว

 

 

「แต่ว่าน้า เครื่องประดับนั่นทำด้วยตัวเองซะด้วยสิ~? เป็นเครื่องประดับที่สวยจังเลยน้า~」

 

 

「อะ เอ่อ เครื่องประดับนี่ขายที่ร้านน่ะ ทั้งหมดที่ฉันทำก็แค่ผสานพลังเวทย์ลงไปในเครื่องประดับเองนะคะ……」

 

 

อันริดูท่าทางจะชอบกิ๊ฟติดผมมาก และพยายามเข้าหาทิม่า

 

 

บางทีไอริสและซีน่าเองก็สนใจด้วย ก็เลยเข้าไปดูกิ๊ฟติดผมของทิม่า

 

 

「ถึงจะดูฉูดฉาดไปหน่อยแต่ดีไซน์สวยใช้ได้เลยนะ」

 

 

「ดูเหมือนว่าจะเป็นร้านเปิดใหม่ที่อยู่ตรงถนนสายหลักของย่านการค้า ฉันซื้อมันที่นั่น วันนี้ไอจังจะไปกับฉันไหมล่ะ?」

 

 

ตามคำเชิญของทิม่า ไอริส พึมพำ “วันนี้…”ด้วยใบหน้าผิดหวังเล็กน้อย

 

 

「อืมมม ก็อยากไปอยู่หรอก แต่วันนี้คิดจะไปทำคำขอของกิลด์ที่รับมาเมื่อวานนี้ และฉันคิดว่าควรทำให้เสร็จเร็วที่สุดเพราะมันเป็นคำขอปราบปรามน่ะ……」

 

 

ความจริงที่ว่ากิลด์ออกคำขอปราบปรามหมายความว่าบางคนมีปัญหาเพราะสัตว์อสูร ซึ่งคำขอเหล่านั้นจะถูกเหล่านักผจญภัยรับคำขอเอาไว้

 

 

ในฐานะที่ไอริสเป็นเหมือนผู้ผดุงความยุติธรรม เธอรับโดยไม่ลังเล และเหนือสิ่งอื่นใดเธออยากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

 

 

「ช่วยไม่ได้น้า……」

 

 

แม้แต่ทิม่าที่รู้ถึงความจริงจังของไอริสก็ได้แต่ต้องปล่อยไป อย่างไรก็ตามบุคลิกของเธอก็ไม่สามารถที่จะบังคับใครได้อยู่แล้ว

 

 

「ขอโทษนะทิม่า ไว้ครั้งหน้านะ」

 

 

ทิม่ายิ้มให้กับไอริสที่ขอโทษเธอและบอกว่าไม่ต้องกังวล

 

 

พอเห็นรอยยิ้มนั่นก็โล่งใจ จากนั้นไอริสก็เรียกโนโซมุ

 

 

「วันนี้โนโซมุคิดจะทำอะไรหลังเลิกเรียนล่ะคะ?」

 

 

「ผมเหรอ? วันนี้ตั้งใจจะเข้าป่า แต่…จะขอยืมมืองั้นเหรอ?」

 

 

โนโซมุแปลกใจที่จู่ๆก็โดนเรียก จากเรื่องราวที่ฟังมาเธอน่าจะต้องการคนนำทาง

 

 

อันที่จริงไอริสที่รู้เรื่องคำขอก็กะจะยืมมือโนโซมุอยู่แล้ว

 

 

「อืม ก็นายคุ้นเคยกับป่านี่น่า และทิม่าก็มีธุระด้วย และไม่มีใครอื่นให้ขอแล้ว ดังนั้นจะช่วยมาด้วยกันหน่อยได้ไหมคะ……」

 

 

เนื่องจากแรงค์ของโนโซมุค่อนข้างต่ำเลยรับคำขอไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากจัดปาร์ตี้กับคนจำนวนหนึ่งหรือคนระดับสูง ก็จะได้รับอนุญาตให้ทำคำขอได้

 

 

ในฐานะที่เป็นไอริส จึงเป็นที่รู้กันดีว่าโนโซมุคุ้นเคยกับป่ามากแค่ไหน

 

 

「ไม่…เอ่อคือ …จำได้ไหมที่ฉันเคยสัญญาไว้ว่าจะทำปาร์ตี้ด้วยกันเพราะตอนฝึกพิเศษ ก็เลยคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ทดแทนโอกาสที่เสียไปน่ะ……」

 

 

บางทีเพราะนึกถึงเรื่องนั้นได้ไอริสเลยลังเลเล็กน้อย

 

 

แน่นอนว่าวันที่สองของการฝึกพิเศษจะจัดตั้งปาร์ตี้กับห้องอื่นได้แต่ก็ต้องโดนปัดตกไปเพราะมังกรแห่งความตายที่เข้ามาขัด

 

 

เดินทีแล้ว นี่เป็นเกมส์ลงโทษที่โซเมียลงโทษไอริสเพราะแอบตามการเดทของทั้งสองไป

 

 

โนโซมุครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเพราะอาจจะทำให้เธอไม่สบายใจและเกิดความกังวลต่างๆ แต่ไอริสเองก็จ้องมองมาที่โนโซมุราวกับจะขอร้อง

 

 

ชั่วครู่หนึ่งในหัวเขาก็มีคำพูดนั้นผุดขึ้นมา มันเป็นคำพูดที่ว่าเธอต้องการให้เขาปกป้องแผ่นหลังของเธอ

 

 

「……อะ อืม เข้าใจแล้ว」

 

 

โนโซมุยอมรับคำขอของไอริส แม้ว่าคำพูดนั่นจะดูไม่จริงใจก็ตามที

 

 

เขาตั้งใจจะฝึกหลายๆอย่างมากมาย รวมถึงพลังแห่งดราก้อนสเลเยอร์ที่ได้มา แต่เพราะสัญญาก่อนหน้านั้นเองทำให้ต้องเลื่อนการฝึกออกไป

 

 

เหนือสิ่งอื่นใดคำพูดของเธอเป็นสิ่งเดียวที่ดึงจิตใจของเขากลับมาเข้าสู่สภาวะปกติ

 

 

「อา…ค่อยยังชั่ว ขอบคุณนะคะ」

 

 

ไอริสคิดว่าจะถูกปฏิเสธเลยถอนหายใจออกมา

 

 

รอยยิ้มของเธอดึงดูดผู้คนมากมาย เธอไม่สูญเสียท่าทางอันแสนสง่างามเลย

 

 

นี่เป็นสิ่งที่น่าตกใจสำหรับโนโซมุที่หลงใหลในรอยยิ้มนั่น

 

 

โนโซมุทำเพียงได้แค่ยืนอึ้งกับภาพตรงหน้า แต่ก็มีบุคคลไม่คาดคิดเข้ามาแทรก

 

 

「……ถ้างั้น ข้าน้อยขอไปด้วย」

 

 

เป็นคำพูดอันแสนไร้สาระของฟีโอที่มาทำลายบรรยากาศตรงหน้า

 

 

「……หะ!?」

 

 

จู่ๆไอริสก็ส่งเสียงพึมพำด้วยความไม่พอใจ

 

 

กลิ่นคล้ายน้ำผึ้งหวานๆที่พูดออกมาปลิวหายไป มีแต่ความไม่พอใจเข้ามาแทนที่

 

 

「ใช่ไหมตอนนั้นเราคุยว่าจะรวมตี้กันนี่ ใช่ไหมซีน่า?」

 

 

「เอะ อืม!?」

 

 

นอกจากนี้ไอริสยังแสดงความไม่พอใจมากเข้าไปอีกกับคำพูดของฟีโอ

 

 

ซีน่าก็มองเธอเช่นกันเธอก็พูดกลับในทันใด

 

 

「……ทำไมฉันด้วยล่ะเนี่ย?」

 

 

「พูดอะไรน่ะ? ก็ตอนนั้นพวกเราควรจะร่วมทีมกันนี่~」

 

 

แน่นอนว่าซีน่าก็มีกำหนดการจะร่วมตี้กับโนโซมุ เพราะข้อเสนอของฟีโอ

 

 

แต่ยังไงก็ตามใบหน้ายิ้มแย้มของฟีโอมันชวนให้หงุดหงิดชะมัด

 

 

ก็รู้หรอกนะว่าพูดเรื่องอะไรอยู่ แต่ว่าสิ่งที่โนโซมุพูดมันน่าสนใจกว่านั้น

 

 

「นั่นสินะ……」

 

 

ซีน่าจ้องมองโนโซมุและไอริส จากนั้นก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

สายตาที่พวกเขาจับจ้องมานั้น ทำให้โนโซมุเสียวสันหลังเล็กน้อย

 

 

ซีน่าวางมือบนริมฝีปากและส่ายหัว

 

 

「เอ่อ วันนี้ฉันคงต้องละไว้ก่อนละกันนะพอดีนึกได้ว่ามีธุระ……」

 

 

「อ่า นั่นสินะ กำลังจะกลายเป็นเรื่องน่าสนใจ..โอ้มาร์ก็ด้วยนะ! มาด้วยกันสิ!?」

 

 

โนโซมุกำลังกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับคำพูดของฟีโอ

 

 

เหลือบมองซีน่า เธอถอยออกไปและออกไปโดยไม่ทักท้วงอะไร

 

 

「เอ่อคือว่าพอดี ข้ายังช่วยงานที่ร้านไม่เสร็จ」

 

 

「น่าเบื่อจังเลยนะช่วยงานบ้านเหรอ……」

 

 

ฟีโอทำสีหน้าเบื่อหน่าย

 

 

ทันใดนั้นเองมาร์ก็รีบออกไปจากสถานที่แห่งนี้

 

 

「แกเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทำงานที่ร้านไม่เสร็จ ถ้าลืมละก็แกตายแน่?」

 

 

「ฮะฮะฮะ ใช่ ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ! ทอมละจะทำไง!?」

 

 

มาร์พูดกับฟีโอด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์เล็กน้อยพร้อมยิ้มหัวเราะ

 

 

เมื่อมองดูสถานการณ์ตรงหน้า ดูเหมือนว่าที่ร้านของมาร์กำลังลำบากเพราะการเมาแอ้วันนั้น

 

 

ฟีโอเผชิญหน้ากับคำขู่ของมาร์ จึงตัดสินใจถอนตัวทันที ทอมเองก็ทำใบหน้าเจื่อนๆ

 

 

「ขอโทษด้วยนะ ผมเองก็ถูกอาจารย์เรียกตัว……」

 

 

「ฉันก็จะไปกับทอม!」

 

 

「หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้จิ้งจอกเวรนี่」

 

 

เห็นได้ชัดว่าทอมและเพื่อนๆของเขามีธุระเช่นเดียวกับซีน่า เสียงของทอมแข็งขึ้นเล็กน้อยอาจเป็นเพราะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศไม่พึงประสงค์

 

 

「ไม่รู้ด้วยแล้ว! ถ้างั้นก็ให้ทั้งสามคนเข้าป่าไปแล้วกัน!」

 

 

「ใช่แล้ว……」

 

 

มาร์พยายามลากฟีโอที่กำลังหนี แต่ฟีโอก็พยายามหนีจากมาร์และพยายามจบการสนทนาในครั้งนี้

 

 

เมื่อฟีโอเมาและคุมตัวเองไม่ได้ ทอมและเพื่อนๆของเขาที่ไม่รู้เรื่องก็ทำได้แต่เอียงศีรษะ แต่ว่าโนโซมุก็ทำได้เพียงถอนหายใจ

 

 

อาจารย์อันริหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายซึ่งเป็นสาเหตุให้เหล่าหนุ่มๆหลงไหลก็ไม่ได้เข้ามาช่วย แต่ยังยืนยิ้มอยู่ข้างๆอาจารย์นอร์น

 

 

เมื่อคิดว่าอาจารย์คนนี้นี่ร้ายสุดๆนั่นเองก็โดนไอริสเรียก

 

 

「อืม ถ้างั้นก็ฝากตัวด้วยนะโนโซมุ」

 

 

「……อืม ฝากตัวด้วยนะ」

 

 

โนโซมุตอบกลับด้วยคำพูดติดขัดเล็กน้อย

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฟีโอก็เริ่มเก็บถุงขยะ

 

 

「เพราะแบบนั้นไปรวมตัวกันที่กิลด์หลังเลิกเรียน! แล้วก็เข้าป่าาาาาา! ไม่สิตั้งหน้าตั้งตารอเลยล่ะ นั่นแหละเหตุผล!」

 

 

「รอก่อนสิเฟ้ย!」

 

 

ฟีโอที่พูดเช่นนั้นก็รีบกระโดดออกจากห้องไป มาร์เองก็ตามฟีโอที่หนีไป

 

 

โนโซมุยิ้มพร้อมกับมองทั้งสองคนที่วิ่งไปเอะอะไป

 

งานยุ่งๆอาจจะไม่ได้ลงถี่ๆแบบแต่ก่อนนะครับ ขอโทษด้วยครับ

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท