โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 95

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่6ตอนที่12

 

 

ณ ห้องในหอพักชายโนโซมุเตรียมตัวพร้อมที่จะไปสถาบันแล้ว

 

 

พระอาทิตย์แม้จะยังไม่ขึ้นข้างนอกและเมืองก็ถูกรายล้อมไปด้วยความมืดสลัว

 

 

เข้าใส่เครื่องแบบและเอาดาบคาตานะมาคาดเอว

 

 

เขารีบออกไปตั้งแต่เช้า มันยังไม่ถึงเวลาเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าโนโซมุนั้นไม่ได้ตื่นเร็วแต่อย่างใด แต่เขานอนไม่หลับต่างหาก

 

 

 

「เฮ้อ……」

 

 

 

หลังจากยืนยันสภาพตัวเองเรียบร้อยแล้ว โนโซมุก็ออกจากหอพักพร้อมกับอาหารเช้าและกระเป๋าที่บรรจุอุปกรณ์การเรียนไว้แล้ว

 

 

หลังจากออกจากหอพักชายแล้ว เขาก็เดินไปบนถนนทางเดินที่ต่างจากปกติตรงไปยังสถาบันโซลมินาติ

 

 

เขาไปที่อาคารหนังหนึ่งผ่านถนนที่ปกติเขาไม่ค่อยผ่าน เป็นสถานที่ๆเขาหลีกเลี่ยงมาตลอดในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา

 

 

◆◇◆

 

 

ไม่นานหลังจากที่โนโซมุออกจากหอพัก เมื่อแสงแดดยามเช้าเริ่มส่องสว่างไปทั่วทั้งเมือง ลิซ่าที่กำลังจะออกจากหอพักหญิงเพื่อไปที่สถาบันพร้อมกับคามิลล่าตามปกติ

 

 

 

「ลิซ่า ไม่เป็นไรใช่ไหม?」

 

「อือ ….. ไม่เป็นไรแล้วล่ะ」

 

คามิลล่าถามลิซ่าที่อยู่ข้างๆ ลิซ่าตอบว่าไม่เป็นไรแต่ใบหน้าของเธอดูไม่ค่อยโอเคเลย

 

 

คิดว่าเมื่อคืนเธอคงนอนไม่หลับเลย ขอบตาดำนั้นก่อตัวขึ้นภายใต้ตาของเธอและผิวของเธอก็ซีด

 

 

ลิซ่าซึ่งโดนคามิลล่าพากลับหอพักมาหลังจากกลับมาที่ห้องก็มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง

 

 

มีเสียงดังก้องอยู่ในหัวราวกับเอาค้อนทุบหม้ออยู่ตลอดเวลา

 

 

ใบหน้าของโนโซมุที่ผุดขึ้นมาในใจตอนที่เขาจับมือลิซ่าเอาไว้

 

 

เสียงกระแทกดังขึ้นในศีรษะอย่างไม่หยุดยั้ง ตอกย้ำจิตวิญญาณของเธอ

 

 

ขณะที่คร่ำควญ ลิซ่าก็ส่ายหน้ากับคำพูดของโนโซมุที่บอกว่า “ผมไม่ได้ทรยศเธอเลย” พูดซ้ำดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

 

เธอพยายามลบรูปลักษณ์ของโนโซมุที่ปรากฏขึ้นมาในใจเธอ แต่ว่ามันก็ไม่หายไป

 

 

ลิซ่านั้นเข้าไปในส่วนลึกของความมืดมิดราวกับร้องขอความช่วยเหลือ เหมือนคนหลงทางที่ต้องการแสงสว่าง

 

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เห็นก็ไม่ใช่ร่างของเคนที่ยื่นมือเข้ามาหาเธอตลอดสองปี แต่เป็นร่างของโนโซมุที่เผชิญหน้ากับมังกรแห่งความตาย

 

 

 

「ลิซ่า ท่าทางดูไม่โอเคเลยนะ ฉันว่าไปพักเถอะ?」

 

「ไม่เป็นไรหรอกน่า ก็แค่นอนไม่หลับนิดหน่อยเองถ้าไม่ไหวจริงๆก็จะพัก……」

 

คามิลล่ายังคงมีสีหน้าเจ็บปวดขณะที่ลิซ่าพยายามออกจากทางเข้าหอพักและบอกว่าไม่เป็นไร

 

 

ลิซ่าพยายามทำเหมือนว่าไม่มีอะไร แต่ใบหน้าของเธอมีแต่ความโกรธอย่างเห็นได้ชัด

 

 

เมื่อเห็นลิซ่าเป็นเช่นนั้น คามิลล่าก็รู้สึกเจ็บปวด

 

 

เหตุการณ์เมื่อคืนผุดขึ้นมาในใจของคามิลล่า

 

 

 

“จะโกรธจะเกลียดผมเท่าไรก็ได้จะด่าผมมากแค่ไหนก็ตาม แต่ว่าตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้หากไม่รู้จักลิซ่าเลยแม้แต่น้อย!”

 

ดวงตาของโนโซมุที่แสดงความจริงจังเหมือนกับเมื่อสองปีก่อน ไม่สิต้องบอกว่าตัวเขานั้นเติบโตขึ้นมากกว่าครั้งนั้นมากและมีจิตแน่วแน่

 

 

อีกทั้งถ้อยคำที่เล่าต่อจากนั้น เรื่องราวของสาเหตุหลักที่ผลักดันลิซ่าและคนอื่นๆมาจนถึงตอนนี้

 

 

จนถึงตอนนี้มันอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ตอนนี้ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันไร้สาระจริงๆ เพราะมันก็มีเหตุผลอยู่

 

 

ดวงตาของโนโซมุที่เล่าด้วยความจริงจังและเรื่องราวเล่านั้นมันยังสะท้อนอยู่ในใจของคามิลล่า

 

 

มันเป็นความจริงที่ถูกมากข้ามไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะค่อยๆถูกลอกออกทีละน้อย

 

 

เมื่อคามิลล่าหันไปมองลิซ่าที่อยู่ข้างๆ ก็เห็นเธอเบิกตากว้าง

 

 

 

「ลิซ่า? เป็นอะไรไป!?」

 

คามิลล่างงกับท่าทางของลิซ่า เมื่อมองตามลิซ่าไปก็พบตัวตนที่สร้างบรรยากาศแบบนี้ขึ้นมาก็คือโนโซมุ เบลาตี้นั่นเอง

 

「อรุณสวัสดิ์นะ ทั้งสองคน」

 

โนโซมุยกมือขึ้นทักทายพวกเธอ ราวกับไม่สนใจเรื่องเมื่อวาน

 

「อะเอ่อ อืม อรุณสวัสดิ์……」

 

「…………」

 

อาการช็อคราวกับโดนค้อนมาทุบเข้าที่หัว คามิลล่าทำได้เพียงแค่ส่งคำทักทายออกไป แต่ว่าลิซ่านั้นพูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่น้อย

 

 

รู้สึกเหมือนว่ามันจะย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน ณ ปลายสายตาของคามิลล่า เห็นลิซ่ากัดริมฝีปากแน่น

 

 

ตาของเธอสั่นอย่างรุนแรง เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขายังถึงโผล่หน้ามาให้เธอเห็นอีก

 

 

ในเวลานั้นเองชายหนุ่มผมบลอนด์ก็เดินมาจากอีกฟากหนึ่งของโนโซมุที่ยืนอยู่หน้าประตูหอพัก

 

 

 

「ลิซ่า คามิลล่า อรุณสวัสดิ์!?」

 

「เคน……」

 

เคนเข้าไปทักทายคามิลล่า แต่พอเขาเห็นหน้าของโนโซมุก็บิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด เขาเบิกตากว้างและปล่อยจิตสังหารใส่เขา

 

「ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่……」

 

เสียงทุ้มหนักแน่นพุ่งมาที่โนโซมุ

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุยังคงมีท่าทีสงบนิ่ง แม้ว่าจะโดนความเกลียดชังของเคนพุ่งใส่

 

 

 

「ก็พอดีว่าว่างเลยหาวิธีเดินวนไปโรงเรียนด้วยเส้นทางแปลกๆ ระหว่างนั้นก็มาเจอเส้นทางนี้เข้า」

 

หอพักหญิงและหอพักชายนั้นอยู่ไกลกัน ซึ่งการจะมาแบบนี้มันต้องใช้ทางอ้อม และเห็นได้ชัดว่าโนโซมุจงใจมาหาลิซ่า  

 

「อย่ามาทำตัวบ้าๆหน่อยเลย แกไม่เหมาะกับลิซ่า……」

 

「ก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าผมอาจจะไม่เหมาะกับลิซ่า ความจริงที่ว่าผมหนีความจริงมาตลอดมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยตลอดสองปีที่ผ่านมานี้ แต่แล้วนายล่ะ?」

 

「หนอย……」

 

「คำมั่นสัญญาที่ได้ให้กันไว้ว่าจะปกป้องลิซ่าและให้เธอได้เดินตามความฝันแล้วเหตุใดลิซ่าถึงได้มีสีหน้าแบบนั้นล่ะ?」

 

สีหน้าของลิซ่ายังคงเหมือนเดิมเหมือนกับคนป่วยที่อมทุกข์

 

 

เมื่อมองไปรอบๆก็จะเห็นพวกสาวๆมองผ่านหน้าต่างหรือประตูด้านหน้า และสายตาจากทั่วทุกทิศ

 

 

อาการของลิซ่ายิ่งแย่ลงไปอีก

 

 

 

「ทั้งคู่เลย หยุดได้แล้วมาทะเลาะอะไรกันแต่เช้า」

 

บรรยากาศของโนโซมุและเคนนั้นตึงเครียดอย่างมาก พร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ใส่กันได้ทุกเมื่อ คามิลล่าคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้ก็หยุดเอาไว้

 

 

หลังจากคามิลล่าพูดเช่นนั้นโนโซมุก็ถอยกลับแต่โดยดีและปล่อยให้พวกเธอเดินผ่านทางได้ตามปกติและไปอยู่ที่ถนนอีกฟากหนึ่งคอยมองพวกเธอ

 

「แต่ว่า……」

 

「ไปกันเถอะ」

 

เคนที่พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่บอกตามตรงมันก็เป็นเพียงแค่การทะเลาะกันต่อหน้าลิซ่า

 

 

คามิลล่าเริ่มเดินไปกับลิซ่า และบอกให้เคนเงียบ

 

「อืม…..ลิซ่า ไม่เป็นไรใช่ไหมเนี่ย?」

 

เคนเข้ามาข้างๆขณะเหลือบมองโนโซมุ บางทีเขาอาจจะกังวลลิซ่าที่ล้มลงได้ทุกเมื่อเลยพูดใส่เธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

 

 

เคนพยายามจะจับมือลิซ่าเพื่อพยายามให้กำลังใจเธอ เหมือนเมื่อก่อนตอนที่โดนโนโซมุทรยศนั่นเอง

 

 

 

「ปล่อยนะ!!」

 

「เอ๋?」

 

อย่างไรก็ตามลิซ่าก็สะบัดมือด้วยท่าทางหวาดกลัวและรักษาระยะห่างจากเคน

 

 

ใบหน้าของเคนเขาตกตะลึงอย่างมาก

 

 

 

「อะเอ่อ ขอโทษนะ」

 

「มะมะไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกังวลก็แค่ตกใจเฉยๆ รีบไปสถาบันกันเถอะ」

 

「อะอื้อ……」

 

ลิซ่ารีบขอโทษเคน เคนโบกมือบอกปัดราวกับไม่ใส่ใจ แต่คามิลล่าที่เห็นท่าทีแบบนั้นก็แปลกใจ

 

 

คามิลล่าก็เดินไปที่สถาบันพร้อมๆกัน โนโซมุเองก็เดินตามไปอยู่ที่ถนนอีกฟากหนึ่งแต่เห็นได้ชัดว่าลิซ่ากำลังจ้องไปที่โนโซมุ

ราวกับว่ากำลังกังวลเรื่องระยะห่างที่ห่างไกลยิ่งกว่าเมื่อก่อน

 

 

 

「…………」

 

โนโซมุนั้นไม่พูดอะไร แค่เดินตรงไปข้างหน้า ย่างก้าวไปอย่างไม่ลังเล ชวนให้นึกถึงต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึกลงในดิน

 

 

คามิลล่ารู้สึกสับสนเล็กน้อยที่เห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของตัวโนโซมุ ที่แต่ก่อนเอาแต่อมทุกข์มาจนถึงตอนนี้

 

 

ทั้งสี่คนเดินไปที่สถาบัน ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆต่างเฝ้ามอง

 

 

◆◇◆

 

 

「หมายความว่ายังไงน่ะ! ดูนั่นสิ!」

 

「…………」

 

ตามปกติแล้ว พวกซีน่าเองก็เห็นเหตุการณ์ที่โนโซมุโผล่มาที่หอพักหญิงเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถาบันเช่นกัน

 

 

ซีน่าจ้องมองโนโซมุที่เดินจากไป มองไปด้านข้างของเพื่อนสนิทของเขาที่กำลังอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด

 

 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือฉากที่เธอเห็นเมื่อวานนี้ ตอนที่เชื่อมต่อวงจรเวทย์กับเขา

 

 

เธอได้เห็นเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างโนโซมุและลิซ่าเมื่อคืนนี้

 

 

ตั้งแต่นั้นมาเธอก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก หน้าอกของเธอรู้สึกแน่นขึ้นและกำมือเอาไว้อยู่ตลอดเวลา

 

 

เป็นความรู้สึกผิดบาปที่เผลอไปเชื่อมต่อวงจรเวทย์เพราะอยากรู้เรื่องราวของเขา? หรือเหตุผลอื่น?

 

「ฟู่ววววววววว……」

 

ซีน่าถอนหายใจออกมาเพื่อปรับเปลี่ยนความรู้สึกของเธอ

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเองก็พยายามสนับสนุนให้โนโซมุก้าวเดินไปข้างหน้า ไม่สิ ต้องบอกว่าเธอยินดีช่วยมากกว่า เพราะว่านั่นคือการชดใช้บุญคุณเท่าที่เธอทำได้

 

 

 

「เอ๋? โนโซมุที่อยู่กับไอริสดิน่าเมื่อวานนี้ เออออออออ๋?」

 

「มิมูรุ มานี่เลย……」

 

อารมณ์ที่เธอยังไม่เข้าใจยังฝังลึกอยู่ในอกของซีน่าอย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของเขาเธอนั้นเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว เพราะตัวเธอกับเขาเชื่อมโยงกันด้วยเวทย์พันธสัญญากับเทียแมตที่สถิตย์อยู่ในตัวเขา และพยายามยึดร่างของเขา

 

 

ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับบาดแผลอันยิ่งใหญ่ที่สุดในอดีตสองปีที่ผ่านมา และแรงกระตุ้นของเทียแมตเองก็รุนแรงกว่าที่เคยมาอีก

 

 

ดังนั้น เมื่อโนโซมุพยายามจะก้าวเดินไปข้างหน้า ซีน่าก็สาบานว่าจะคอยปกป้องแผ่นหลัง สนับสนุนเขาเท่าที่เธอทำได้

 

「เอาล่ะอย่างน้อยก็มาปราบเจ้าแมวป่าตัวนี้กันก่อน……」

 

ด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นของซีน่าเธอจับมือมิมูรุในขณะนั้นและได้ตัวเจ้าแมวป่าที่เป็นต้นเหตุของความสับสนวุ่นวาย

 

 

เมื่อเธอเห็นโนโซมุที่เดินอยู่ห่างๆจากสาวผมแดงหน้าอกของเธอก็รู้สึกเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามซีน่ายังคงเผยรอยยิ้มออกมา

 

 

ในขณะนั้นเธอก็นึกถึงภาพที่เธอนั่งพูดคุยกับเขาภายใต้แสงจันทร์ได้

 

「เอ๋? ซีน่าทำไมไม่แสดงอาการอะไรเลย……………..เดี๋ยวก่อน รั้งฉันไว้ทำไมเนี่ยยยย ย่าห์……!」

 

ซีน่าเมินมิมูรุและปิดปากของเธอขณะที่ซีน่าลากมิมูรุตามหลังพวกเขาไป

 

 

◆◇◆

 

 

ในเวลานั้นเหล่าหนุ่มสาวทั้งสี่กำลังเดินอยู่ภายในเมืองอาร์คาซัม มีสาวผมดำและเด็กสาวอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มผมบลอนด์และหญิงสาวผมสีน้ำตาลตัดบ่าของเธอ

 

 

พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังประตูหลักของสถาบันโซลมินาติ

 

 

ผมสีดำของหญิงสาวพริ้วงามไสวท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ส่องประกาย และเด็กสาวเองก็ยิ้มออกมา

 

 

เด็กชายผมบอลนด์ถามเด็กสาวผมสีน้ำตาลด้วยสีหน้าลำบากใจ เธอเองก็ตอบคำถามช้าๆพร้อมกับรอยยิ้ม

 

 

ไอริส โซเมีย ทิม่า และ มาร์ กำลังเดินไปที่สถาบันอย่างพร้อมเพรียงกันและทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้อง

 

 

ในฤดูนี้แม้แแต่แสงแดดก็ยังคงรุนแรง แต่ตอนเช้าตรู่นั้นค่อนข้างเย็นสบาย

 

 

อย่างไรก็ตาม สาวผมดำ ท่าทางของไอริสนั้นดูราวกับกังวลใจ

 

 

เธอกำลังจ้องมองไปที่ถนนหน้าประตูหลักขณะที่ผมอันแสนสวยงามกำลังปลิวไสว

 

 

ตอนนี้สิ่งที่ยึดติดอยู่ในใจของเธอคือความโกลาหลที่เกิดขึ้นระหว่างโนโซมุและลิซ่าเมื่อคืนนี้

 

 

โนโซมุพยายามเข้าหาลิซ่าขณะที่ถูกความกังวล ความทุกข์ทรมาน และแม้กระทั่งมังกรที่อยู่ในร่างของเขา มันยังคงคาใจเธอตลอดมา

 

 

ทิม่าเรียกโซเมียอาจเป็นเพราะกังวลท่าทางนั่น

 

 

 

「นี่โซเมียจัง ไอเป็นอะไรไปน่ะ?」

 

「อืม หนูเองก็ไม่รู้อะ พี่สาวจู่ๆก็ไม่รู้เป็นอะไร แต่ก็เห็นเป็นแบบนี้ตั้งแต่เช้าแล้วท่าทางหัวเสียน่าดูเลยค่ะ」

 

โซเมีย ทิม่า และ มาร์ ต่างงงกับท่าทางของไอริส แต่เธอก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลย เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดถึงเรื่องของโนโซมุอยู่แน่ๆ

ไอริสบ่นพึมพำราวกับพูดคนเดียวโดยไม่สังเกตเห็นทั้งสามที่จ้องด้วยความสงสัย

 

「บางทียังคงจะคิดอยู่สินะ?…..เดาว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆเลย….ถ้าไม่ล่ะก็ ถ้าฉันได้อยู่ตรงนั้นแทน….ไม่..ไม่สิ…แต่แบบนั้นมัน……」

 

ไอริสเอามือปิดปากและมีท่าทีกระสับกระส่าย มองแวบแรกก็เหมือนหญิงสาวในห้วงแห่งความรัก

 

 

อย่างไรก็ตาม เพราะเธอพึมพำแบบว่าขนาดที่คนรอบข้างยังได้ยินราวกับคุยกับใครบางคน และไม่ได้สนใจโซเมียเลย

 

「มีอะไรผิดปกติรึเปล่าเนี่ย? หายากนะที่จะเห็นท่าทางแบบนี้……」

 

「นั่นสิ เมื่อตอนเช้าก็เผลอคาบขนมปังออกมาจากคฤหาสน์ แถมตอนใส่รองเท้าก็ยังใส่สลับกันอีกค่ะ……」

 

「อาการหนักแล้วนะเนี่ย……」

 

เธอที่ปกติจะเป็นคนที่คิดเร็วทำเร็วและทำทุกอย่างได้โดยไม่ติดขัด ฉลาดอย่างมาก เธอแทบไม่เคยสูญเสียท่าทางเหล่านั้นเลยแม้ในสถานที่สาธารณะเช่นนี้ก็ตาม

 

 

เมื่อเร็วๆนี้ท่าทางของเธอก็กลายเป็นเหมือนหญิงสาวทั่วไปที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักแถมยังเก็บทรงไม่อยู่อีก

 

 

 

「แน่นอนเลยเหตุผลที่เขามาที่สถาบันแห่งนี้ก็เพราะเธอ……」

 

โซเมียที่แอบฟังพี่ตัวเองบ่นก็ได้ยินเสียงชื่อของโนโซมุและหญิงสาวที่ทำให้เขาต้องมาที่สถาบันแห่งนี้

 

 

 

「ดูเหมือนว่าพี่จ๋าจะติดคุณโนโซมุงอมแงมเลยค่ะ……」

 

「อย่างไรก็ตาม คราวที่แล้วหลังจากแก้ปัญหาและเคลียร์ใจกับโนโซมุ ก็ยังไม่เคยเห็นท่าทางแบบนีเลยนะ……」

 

ตามที่ทิม่ากล่าวความสัมพันธ์ระหว่างโนโซมุและไอริสนั้นค่อนข้างดี ไอริสเองก็พยายามชวนเขาเข้าปาร์ตี้ด้วยกันอยู่เลย และโนโซมุเองก็ยอมที่เข้าร่วมปาร์ตี้ด้วยกันกับเธอ

 

 

 

「แน่นอน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็คงหลังเลิกเรียนเมื่อวานนี้……」

 

อืมมมมม ทั้งสามต่างครุ่นคิดถึงเรื่องนี้และเอามือแตะคาง แต่ก็ไม่เข้าใจสาเหตุเลยจริงๆ

 

 

ทั้งสามคนหันไปจ้องมองไอริสอีกครั้ง ไอริสยังคงบ่นพึมพำอะไรแปลกๆซ้ำๆและยืนกอดอก

 

 

 

「แต่ว่านะ….ก็ได้สร้างผลงานไปแล้วอย่างตอนที่ช่วยพวกเอลเดอร์…ดังนั้นก็หวังว่ามันจะช่วยกำจัดข่าวลือเกี่ยวกับเขาได้บ้าง….แต่ว่าฉันเองก็จะไม่ยอมแพ้หรอก……」

 

「มาถามกันตรงๆกันเลยดีกว่า พี่จ๋า พี่ปกติดีไหมคะเนี่ย สมองไม่ได้ไปโดนอะไรกระแทกมานะคะ?」

 

「เอ๊ะ อะ โซเมีย? มีอะไรงั้นเหรอ?」

 

ไอริสที่กำลังคิดถึงเรื่องของคนๆหนึ่ง ก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงตามคำพูดของโซเมีย

 

 

แม้ว่าจะตกใจที่โดนเรียกอย่างกะทันหัน แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้าง

 

 

โซเมียเองก็พูดอะไรไม่ออกเพราะภาพลักษณ์ที่ดูเหม่อลอยนั่นไม่เหมาะกับพี่สาวเธอเลยสักนิด

 

 

 

「อืมจะว่ายังไงดีล่ะคะถ้าพูดว่าแค่อยากรู้มันก็คงจะน้อยเกินไปหน่อยค่ะ……」

 

 

 

โซเมียไม่สามารถพูดตรงๆได้กับพฤติกรรมของพี่สาวของเธอ ยังไงก็ตามเธอก็ยังนึกถึงภาพลักษณ์ของพี่สาวที่สติหลุดไปเมื่อกี้นี้

 

「อืม พี่จ๋า พี่ดูท่าทางไม่สบายใจตั้งแต่เช้าเลยนะคะ พฤติกรรมก็ผิดแปลกไปหมด เป็นเพราะว่า คุณโนโซมุเหรอคะ?」

 

อย่างแรกเลยโซเมียพยายามตัดเรื่องที่หยุมหยิบออกไป และโซเมียก็ถามถึงพี่สาวที่กำลังกังวลอะไรก็ไม่รู้

 

「เอออออออออออออออออ๋……!?」

 

ไอริสหันหน้ากลับมาพร้อมกับตกใจอย่างมาก อย่างไรก็ตามไอริสก็เบิกตากว้างกับภาพที่พุ่งเข้ามาในสายตาของเธอ

 

 

ทิม่าเองก็จ้องมองมาด้วยแววตาแปลกๆ และทำท่าราวกับผิดหวังในตัว ไอริส

 

 

แต่ว่าเหนือสายตาของพวกเขาคือร่างของโนโซมุที่ถูกพูดถึงก่อนหน้านี้

 

 

อย่างไรก็ตาม ก็มีพวก ลิซ่า เคน และคามิลล่าเดินเคียงข้างกันมาแม้จะมีการเว้นระยะห่างกันบ้าง

 

 

 

「เออออออออออ๋…….นี่มันอะไรกันเนี่ย?」

 

「ฉันเองก็ไม่รู้……」

 

「เหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆสินะ……」

 

โซเมีย ทิม่า และ มาร์ ต่างประหลาดใจเพราะเห็นไอริสนั้นแข็งตัวเหมือนกับรูปปั้นหินไปแล้ว

 

 

นักเรียนที่อยู่รอบๆต่างก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นพร้อมกับอ้าปากค้าง

 

 

ในเวลานั้นเอง ก็มีใครบางคนที่โซเมียเห็นอยู่ด้วย

 

 

 

「อา มิมูรุซัง ! ซีน่าซัง!」

 

「โอ้วว โซเมียจัง!」

 

มิมูรุตอบโซเมียที่รีบวิ่งไปหาทั้งสองคนพร้อมกับโบกมือและตะโกน

 

「นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย?」

 

「ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ แต่…..อะ โอ้ ไอริสดิน่า อธิบายได้นะถ้าอยากล่ะก็……」

 

มิมูรุที่จับร่างของไอริสที่อยู่ด้านหลังโซเมีย เรียกไอริสให้เล่าเรื่องราว

 

「…………」

 

อย่างไรก็ตามสายตาของไอริสยังคงจับจ้องไปที่โนโซมุไม่เปลี่ยนแปลง

 

「นี่อธิบายสถานการณ์มาเดี๋ยวนี้เลยน้าาาาาาา~」

 

มิมูรุเงยหน้าขึ้นและพยายามแสดงสีหน้าอันแสนน่ารักเพื่อดึงดูดความสนใจของไอริส

 

 

อย่างไรก็ตาม หูของไอริสนั้นไม่ได้ยินคำพูดของมิมูรุเลย

 

 

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีมิมูรุก็รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้แล้ว

 

 

 

「ซีน่า~พูดอะไรหน่อยสิ~」

 

มิมูรุเข้าไปอ้อนซีน่าเหมือนกับเด็ก

 

 

ดูเหมือนว่าจะตอบสนองต่อเสียงของมิมูรุและซีน่าก็จ้องมองมิมูรุ

 

 

 

「…………」

 

ในที่สุดมิมูรุก็พูดกับซีน่าที่หันหน้ามา แต่สายตาของเธอก็หันไปจ้องมองไอริสที่อยู่ข้างๆ

 

 

และซีน่าก็ยักไหล่และหันไปมองโนโซมุ

 

 

มิมูรุโดนเมินโดยสมบูรณ์  

 

「อืมมมมมมมมมม…..เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ยยยยยยยย~~!!」

 

เสียงร้องของมิมูรุเป็นวิญญาณของเมืองที่ขานรับแสงอาทิตย์ยามเช้า

 

 

ในท้ายที่สุดแล้วพวกมิมูรุและเพื่อนๆก็เข้าไปในสถาบันโดยที่ไม่ได้รู้สถานการณ์อะไรเลย

 

 

◆◇◆

 

 

แน่นอนว่าเรื่องของพวกโนโซมุถูกลือกันในช่วงพักกลางวัน

 

 

อย่างไรก็ตามชื่อเสียงของโนโซมุก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เนื้อหาในข่าวลือก็จะประมาณเรื่องลิซ่าอีกแล้วเหรอ? อะไรแบบนั้น

แน่นอนว่าสายตาที่มุ่งเป้ามาที่โนโซมุนั้นรุนแรงกว่าที่เคย

 

 

นักเรียนบางคนยังพึมพำด้วยเสียงที่เขาได้ยิน และทุกครั้งที่เพื่อนร่วมชั้นของพวกโนโซมุ โดยเฉพาะมาร์และจินนั้นต่างโกรธกันมาก

 

 

ในหมู่พวกเขามาร์จะโกรธก็ไม่ใช่่เรื่องแปลก และพยายามจะเข้าใส่พวกที่พูดจาเหลวไหลไปเรื่อย

 

 

อย่างไรก็ตามตัวโนโซมุนั้นไม่ได้่สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อย และเขาก็ใช้ชีวิตตามปกติของเขา เพื่อนร่วมชั้นก็ต่างได้แต่งงงวย

 

 

เหมือนกับพวกมิมูรุและคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิมูรุที่เห็นภาพชวนทึ่งเมื่อตอนเช้าตรู่แต่ไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้เลย และเมื่อพยายามจะเข้าไปที่ห้อง 10 ในช่วงพัก พวกเพื่อนสนิทก็ต่างมากวนจนเวลาพักหมดลง

 

 

ฟีโอที่เห็นภาพแบบนั้นก็ได้แต่ยิ้มและปฏิเสธที่จะพูดและบอกว่า「ก็น้าาา มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเลยล่า~」

 

 

อันที่จริงฟีโอกำลังเยาะเย้ยมิมูรุที่กำลังกรีดร้องเพราะไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่เดิมทีเธอก็สงสัยและไม่สามารถทนต่อสถานการณ์ที่มีจิตสังหารอันท่วมท้นนี่ได้

 

 

ด้วยเหตุนี้เองมิมูรุเลยมุ่งมาทันทีที่คาบเรียนตอนเช้าจบลงและเข้าหาโนโซมุ

 

 

โนโซมุนั้นโดนคุมตัวได้ตอนช่วงพักกลางวัน ก็ถูกสอบปากคำท่ามกลางเหล่าสหายทั้งหลาย

 

 

 

「แล้ว!??โนโซมุคุง ข่าวลืออะไรกำลังแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนในตอนนี้เนี่ย!?」

 

ตอนนี้โนโซมุกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพยาบาล

 

 

เพื่อนๆรอบตัวต่างทานข้าวกลางวันแต่มิมูรุนั้นยังคงสอบปากคำโนโซมุโดยไม่ได้แตะข้าวกลางวันสักแอะ

 

 

เบื้องหลังมิมูรุคือทอมที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเช้านี้

 

 

ซีน่ายังคงกุมขมับด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่มิมูรุก็รีบเข้าหาโนโซมุเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเธอ

 

 

 

「เมื่อตอนเช้าน่ะเกิดอะไรขึ้น ! มันหมายความว่ายังไง!? แววตานั้นเห็นได้จากในหอพักเลยนะรู้ไหม!?」

 

ไม่ใช่แค่คนในสถาบันโซลมินาติแต่ยังรวมถึงอีคอร์สด้วยที่มาทานข้าวกลางวันด้วยกัน

 

「ก็เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อน……」

 

โนโซมุเกาหัวกับคำถามของมิมูรุ

 

「เมื่อวานสินะ !? เมื่อวานเห็นไปทำคำขอกับไอริสดิน่าจังนี่ใช่ไหม? แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?」

 

「มิมูรุ เสียงดังเกินไปแล้ว……」

 

ทอมพยายามสงบสติมิมูรุ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก

 

「เอ๋ ข้าน้อยเองก็อยู่ด้วยนะเมื่อวาน?」

 

「ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ หุบปากไปเลย ! คำพูดแกนั้น 90% แทบจะโกหกทั้งหมด ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้!」

 

「เอ่อ? นี่ข้าน้อยดูไม่มีค่าขนาดนั้นเลย?」

 

ฟีโอนั้นโดนถอดออกจากกลุ่มโดยสมบูรณ์ พยายามประท้วง

 

 

เพราะฟีโอชอบแกล้งมิมูรุบ่อยๆ เธอจึงไม่ไว้ใจ

 

 

ดวงตาของมิมูรุจับจ้องไปที่ไอริสขณะปล่อยให้ฟีโอไปแบบนั้น

 

 

 

「ท่าทางของไอริสเองก็แปลกเหมือนกัน……」

 

「เอ๋? งั้นเหรอคะ?」

 

ไอริสที่จู่ๆก็ถูกพูดถึงในทันใดก็พูดด้วยท่าทีแปลกใจเล็กน้อย

 

「ไม่ ไม่ต้องบอกว่าฉันไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายมากกว่า……」

 

ดวงตาของมิมูรุจ้องมองไปยังมือของไอริส มือของเธอยังถือแซนด์วิชที่กินไปแล้วครึ่งหนึ่ง แม้ว่าคนอื่นจะกินกันเกือบหมดแล้ว

 

「ซีน่าเองก็ด้วย……」

 

「เอ๋?」

 

คราวนี้มิมูรุหันไปมองซีน่า

 

「แต่ว่าฉันกินเสร็จแล้วนะ?」

 

ซีน่านั้นถือบรรจุภัณฑ์อาหารกลางวันไว้ อย่างไรก็ตามมิมูรุก็จ้องมองมาด้วยท่าทางสงสัย

 

「ปาก……」

 

「เอ๋…อ่า อ๋อ!?」

 

ขณะที่จ้องมองไปที่ซีน่าพร้อมกับหรี่ตาเล็กน้อย มิมูรุก็ชี้ไปที่ปากของเธอ

 

 

ซีน่าก้มหัวลงราวกับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น บนแก้มของเธอมีซอสมะเขือเทศติดอยู่

 

 

มิมูรุรู้ดีระหว่างนั่งกินกันอยู่ ซีน่าจ้องมองโนโซมุอยู่ตลอด

 

 

ขณะดูซีน่าที่พยายามเช็ดซอสมะเขือเทศออกด้วยผ้าเช็ดหน้า โซเมียก็ถามพี่สาวของเธอ

 

 

 

「พี่จ๋า ทุกคนท่าทางจะสนใจมากเลยนะคะ แล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้กันแน่ค่ะ?」

 

「เอ่อ….จะพูดยังไงดีล่ะ……」

 

ไอริสสับสนขณะเอามือปิดปาก

 

 

สายตาของเธอล่องลอยไปในอากาศและจ้องตรงไปยังโนโซมุ

 

 

 

「……เอ่อคือ……」

 

ไอริสจ้องมองไปที่โนโซมุราวกับไม่รู้ว่าต้องทำยังไง โนโซมุเองก็เกาหัว หากสังเกตดูดีๆซีน่าเองก็จ้องไปที่โนโซมุ

 

 

โนโซมุที่ถูกจ้องมองแบบนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก

 

 

มิมูรุที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ ก็สงสัยว่าควรจะถามใครจากนั้นเธอก็ถามโนโซมุ

 

 

 

「ยอมแต่โดยดีซะเถอะโนโซมุคุง สารภาพบาปของนายมาซะ!」

 

มิมูรุเอาหน้าของเธอไปแนบกับโนโซมุ

 

 

เมื่อมองดูภาพตรงหน้าผมของเธอปัดขึ้นและหางเองก็ส่ายไปมา เขาเองก็ตื่นเต้น

 

 

หัวของโนโซมุที่คิดว่าหากปล่อยไว้ทั้งๆแบบนี้ไม่นานเธอแปลงร่างแน่

 

 

เมื่อโนโซมุมองไปรอบๆทุกคนก็จ้องมองมาราวกับว่า “อยากรู้”

 

 

 

「อืม ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนด้วยนี่นะ……」

 

มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และโนโซมุก็ไม่ได้คิดจะซ่อนมันเอาไว้ เขาหายใจออกและค่อยๆเล่าเรื่องเมื่อวาน

 

 

เขาเจอกับลิซ่าหลังจากทำคำขอเสร็จ และก็ถูกปฏิเสธขณะที่พยายามปรับความเข้าใจ เขาเองก็ไล่ตามลิซ่าไปพร้อมๆกับคามิล่าและบอกความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนกับเธอเล็กน้อย

 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมิมูรุได้ยินเช่นนั้นก็เอียงคอและยืนกอดอก

 

「เหหหหหหหหห แล้วโนโซมุคุงบอกทุกอย่างกับคามิลล่าแล้วใช่ไหม? แล้วทำไมไม่บอกกับลิซ่าด้วยล่ะ?」

 

「ก็คิดแบบเดียวกันเลย นี่ โนโซมุอย่างน้อยก็ควรจะบอกทุกอย่างเหมือนที่ทำกับพวกเรา?」

 

โนโซมุไม่ได้บอกว่าเคนปลอมตัวเป็นเขา ทั้งมาร์และมิมูรุต่างก็สงสัยทำไมไม่บอก

 

 

มาร์และคนอื่นต่างบ่นว่าทำไมไม่เล่าให้หมด

 

「ไม่ใช่ว่าไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอกนะ อันที่จริงตอนที่ไล่ตามลิซ่าไป ก็กะจะเล่าทุกอย่าง」

 

โนโซมุกำลังเกาหัวและนึกถึงเรื่องเมื่อวาน

 

 

ตอนที่ไล่ตามลิซ่าที่หนีไป เขาก็บอกทุกอย่างกับคามิลล่า

 

「แต่ในตอนนั้นคิดว่าพูดไปก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้ แม้ว่าจะฝืนบอกเธอไปทั้งๆแบบนั้น มันไม่เหมือนกับสถานการณ์ที่พูดคุยกับไอริสและมาร์เลยน่ะ สภาพของลิซ่าเมื่อวานนั้นแย่มาก」

 

「เกิดอะไรขึ้นกันแน่?」

 

มาร์เอียงคอด้วยความสงสัย เขาคิดว่าโนโซมุจะเล่าทุกอย่างออกไปจนหมด เช่นเดียวกับการระบายอารมณ์ในตอนนั้น

 

 

โนโซมุค่อยๆพูดขณะมองไปที่มาร์

 

 

 

「แน่นอนว่าผมต้องบอกทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองให้มันถูกต้อง ด้วยความสำนึกผิด ผมเองก็คิดว่านายเองก็น่าจะรู้?」

 

「อ่า」

 

「แต่ว่ามันจะเข้าใจกันได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองมีความตั้งใจที่จะเข้าใจซึ่งกันและกัน」

 

มาร์พยักหน้าให้กับคำพูดของโนโซมุ

 

 

โนโซมุและมาร์เข้าใจกันได้เพราะทั้งสองคนอยากจะทำความเข้าใจกันและเผชิญหน้ากันทำให้เข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริง

 

 

 

「แต่ว่าลิซ่าและคนอื่นๆนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ลิซ่าก็ไม่ต่างกับผมเมื่อก่อน ตอนนี้เธอกำลังหนีความจริงเหมือนกับตัวผมเมื่อสองปีที่แล้ว」

 

สิ่งสำคัญคือความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายหนึ่งและการกระทำด้วยความตั้งใจที่อยากจะเข้าใจกัน

 

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ลิซ่าละทิ้งความปรารถนาที่ว่าจะทำความเข้าใจต่อตัวอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง ด้วยสิ่งนี้ไม่ว่าโนโซมุจะพูดเท่าไรก็จะทำให้เธอยิ่งไม่ฟังและดื้อรั้นมากไปอีก

 

 

อย่างไรก็ตาม แต่แค่นั้นก็ยังดีแล้ว เมื่อวานความตกใจของลิซ่า และเทียแมตที่ปล่อยแรงกดดันมากกว่าที่เคย

 

 

ที่ด้านหลังอกของโนโซมุ มีความกังวลว่าหากเขาไม่ทำให้ดีเมื่อวานคงแย่ยิ่งกว่านี้

 

 

 

「แล้วจะทำยังไงต่อไป?」

 

「ค่อยๆเข้าใกล้และทำความรู้จักไปทีละขั้น ความเข้าใจผิดจะค่อยๆถูกแก้ไข แล้วลิซ่าอาจจะฟังผมทีละเล็กทีละน้อยก็ได้」

 

ดังนั้นโนโซมุตัดสินใจเข้าหาลิซ่าทีละน้อย ระยะห่างของทั้งสองคนที่เปิดกว้างในสองปีที่ผ่านมามันไกลมาก

 

 

เช่นเดียวกับโนโซมุที่ไม่รู้สถานการณ์ปัจจุบันของลิซ่า ลิซ่าก็รู้เพียงแค่ว่าโนโซมุทรยศเธอเท่านั้นเอง

 

 

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าภาพในวัยเด็กของโนโซมุจะถูกทาสีทับไปหมดแล้ว

 

 

 

「เมื่อเช้านี้ก็เลยทำแบบนั้นเหรอ……」

 

โนโซมุพยักหน้าเล็กน้อยต่อคำพูดของมาร์

 

「อย่างแรกเลยก็ต้องให้พวกเขาฟังเรื่องเล่าจากฝั่งเรา….สำหรับเรื่องความรู้สึกเมื่อวาน ผมคิดว่าคามิลล่าน่าจะรับฟังมันไปแล้ว วันนี้ตอนที่ไปหอเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธผม….หลังจากนั้นก็ค่อยจัดการข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง?」

 

หากสามารถเคลียร์เรื่องข่าวลือได้ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน

 

 

ไม่มีการรับประกันว่าลิซ่าจะยอมฟังแต่โดยดี แต่โนโซมุคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่ว่าถ้าเขาไม่ทำอะไรเลย

 

「……แล้ววิธีจัดการ?」

 

「อ่า นั่นสินะ……」

 

โนโซมุมองย้อนกลับไปเมื่อวานกับคำถามของมาร์

 

「ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเลย」

 

「ให้ตายสิ……」

 

เห็นได้ชัดว่าโนโซมุตั้งเป้าหมายไว้แต่ไม่มีวิธีที่เป็นรูปธรรม

 

 

มาร์เองก็ได้แต่ถอนหายใจ และเอนไหล่

 

 

เป็นเวลานานแล้วที่ข่าวลือของโนโซมุถูกแพร่สะบัด และโนโซมุก็ไม่เคยคิดจะแก้ตัวตั้งแต่ตอนนั้น

 

 

การหาหลักฐานที่ชัดเจนมันก็ยิ่งยากเข้าไปอีกและมันไม่ง่ายที่จะลบล้างข่าวลือนี่

 

 

 

「นี่มาร์ มีไอเดียอะไรดีๆไหม?」

 

「เอ๋ ข้าเหรอ!? เอ่อ อืม……」

 

มาร์สับสนที่จู่ๆก็โดนถาม

 

 

เขาพยายามคิดว่ามีอะไรที่พอจะทำได้บ้าง

 

 

โนโซมุเองก็พยายามคิด แต่ก็ไม่มีไอเดียดีๆเลย

 

 

ทั้งสองเปรียบเสมือน พวกบ้าพลังไม่ใช้สมอง(มาร์) กับ พวกป่วยออทิสติกที่หันหลังให้กับสิ่งรอบตัว(โนโซมุ)

 

 

อืมเป็นตัวตนของสองขั้วที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าพยายามจะคิดหาไอเดียดีๆแต่ก็ไม่ได้ผล

 

 

 

「เอ่อโนโซมุขอเวลาสักครู่สิ?」

 

「เอ๋ ? มีอะไรเหรอ ไอริส」

 

ไอริสที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ ก็พูดขึ้นมาอาจเป็นเพราะเห็นทั้งสองที่กำลังกังวลอยู่

 

 

 

「เกี่ยวกับการจัดการเรื่องข่าวลือฉันมีข้อเสนอแนะนะ ทำไมไม่ลองไปทำคำขอกับฉันเหมือนเมื่อวานล่ะและไปไล่ทำคำขอในกิลด์สักพัก?」

 

「ก็ไม่มีปัญหาเรื่องรับคำขอหรอก…แต่…อืม…มันมีความหมายอะไรงั้นเหรอ?」

 

「ก็คือ……」

 

โนโซมุเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำคำขอไปกับเธอ แต่โนโซมุไม่รู้ว่ามันจะช่วยจัดการกับข่าวลือได้ยังไง

 

 

ขณะที่เธอพยายามจะบอกว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในห้องพยาบาล

 

 

 

「เจอแล้ว~โนโซมุคุงงงงงงง มาร์คุงงงงงงง ค่อยยังชั่วหน่อย~?」

 

「อาจารย์อันริ? มีอะไรเหรอครับ?」

 

「อื้ม~พอดีมีข่าวดีมาบอกแนะ~!」

 

เป็นอาจารย์อันรินั่นเองที่คอยดูแลโนโซมุอยู่บ่อยๆ ซึ่งเข้ามาในห้อง

 

 

แม้ว่าเธอจะเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ แต่อาจารย์อันริในตอนนี้ดูมีความสุขมากกว่าที่เคย

 

 

 

「มาร์คุง โนโซมุคุง จากนั้นคนที่ร่วมทีมกันเข้ากำจัดเป้าหมายพิเศษ ก็คือเค้าเองจะต้องมารวมตัวกันที่สนามฝึกตอนบ่ายล่ะ~เทะเฮะ」

 

「อาจารย์ แล้วทำไมต้องไปสนามฝึกล่ะครับ? วันนี้น่าจะจบลงที่คาบบรรยาย……」

 

อย่างที่โนโซมุพูดวันนี้สำหรับห้อง 10 เป็นเพียงคาบบรรยายในห้องเรียนเท่านั้น เว้นแต่จะเป็นการฝึกปฏิบัติหรือการทดลองเวทย์ ไม่มีชั้นเรียนใดใช้พื้นที่ใหญ่เฉกเช่นสนามฝึก

 

 

แล้วทำไมถึงเป็นสนามฝึก? ยิ่งไปกว่านั้น การเสนอชื่อเฉพาะบุคคลมันก็แปลก ที่ไม่ใช่ห้อง 10 ทั้งหมด

 

 

โนโซมุยังคงสงสัย อย่างไรก็ตามทันทีที่ได้ยินคำพูดของอาจารย์อันริ โนโซมุและเพื่อนๆต่างก็มีสีหน้าตกตะลึง

 

 

 

「ในคาบเรียนตอนบ่ายอะน้า~ โนโซมุและเพื่อนๆจะได้เข้าร่วมชั้นเรียนร่วมกับห้อง 1 และห้อง 2 ล่ะ~ อ้อ แล้วเด็กๆจากห้องอื่นเองก็จะมาดูด้วยน้า~ เพราะงั้นก็พยายามเข้าน้า~จะเป็นกำลังใจให้อย่างเต็มที่เลยล่ะ เทะเฮะ~!」

 

 

 

「เอ๊ะ เอออออออออออ๋!?」

 

 

งดสปอยล์ทุกกรณีนะครับ อย่าสปอยให้ผมเห็นน้า เดะตีมือหักเลยนี่

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท