โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 102

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่6ตอนที่19

 

 

เมื่อพวกจิฮัดได้รับจดหมายจากเม็กเลีย พวกโนโซมุก็อยู่ในลานกว้าง

 

 

ในลานกว้าง มีนักเรียนหลายคนต่างหาสถานที่ประจำเพื่อเพลิดเพลินไปกับอาหารของตัวเอง ที่ลานกว้างยังมีโรงอาหารที่ติดกันอยู่ด้วยเพื่อตอบสนองเหล่านักเรียนที่หิวโหย และเต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดดังมากมาย

 

 

เมื่อพบร่มไม้ที่เหมาะแก่การทานข้าวกลางวัน แต่ละคนก็เริ่มนั่งและเปิดกล่องอาหารกลางวัน

 

 

ไอริสและโซเมียนั้นเป็นขนมปังเนื้อนุ่มสีขาวประกบด้วยแฮมกับชีส

 

 

กล่องอาหารของซีน่าและทิม่านั้นคล้ายกับของไอริสมาก โดยมีขนมปังโดนัทพร้อมกับผลไม้และสลัด อย่างไรก็ตาม ปริมาณอาหารนั้นน้อยกว่าไอริสอย่างมาก

 

 

ในทางกลับกันมาร์นั้นนำอาหารกลางวันมาสองกล่อง กล่งหนึ่งเต็มไปด้วยขนมปังก้อนโต และอีกกล่องเป็นเครื่องเคียง

 

 

เครื่องเคียงที่เอามานั้นค่อนข้างเย็นหมดแล้ว แสดงว่าน่าจะเอาของเหลือจากที่ร้านมา

 

 

มิมูรุและทอมกำลังกางกล่องอาหารกลางวันขนาดใหญ่สำหรับสองคนและดูเหมือนมิมูรุจะเป็นคนทำมัน

 

 

อาหารกลางวันที่ใส่เครื่องปรุงหลากสีสันมากมายแม้จะเย็นแล้วแต่เห็นก็น้ำลายสอ

 

 

อย่างไรก็ตามใบหน้าของทอมซีดด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

 

มื้ออาหารของโนโซมุและฟีโอนั้นค่อนข้างยาจกอย่างมาก

 

 

ฟีโอนั้นไม่มีเงินและโนโซมุที่เอาแต่ฝึกก็ไม่มีเงินเหมือนกัน

 

 

จริงๆแล้วเงินเองก็ไม่ค่อยพอด้วย แต่ก็ช่วยไม่ได้

 

 

ถึงกระนั้นก็ต้องเคี้ยวขนมปังดำแห้งและไร้รสชาติ

 

 

 

「อึก แข็งชะมัด……」

 

ขนมปังดำที่แข็งและแห้งกลืนได้ยาก โดยเฉพาะวันนี้กินได้ยากกว่าปกติ

 

 

โนโซมุพยายามเอียงคอขณะที่เคี้ยวมันอย่างช้าๆ เพื่อทำให้นิ่มลงก่อนกลืนลงไป ความรู้สึกที่ว่ามันติดอยู่ในลำคอยังคงอยู่และโนโซมุก็ขมวดคิ้ว

 

 

จู่ๆจิฮัดก็ไปที่ห้องเรียนเมื่อเลิกเรียนตอนบ่าย

 

 

ขณะที่ตะลึงกับการที่จิฮัดมาอีกแล้วและอาจารย์ก็โดนพาตัวออกไป โนโซมุก็โดนจับลากไปที่ลานฝึกอีกครั้ง ก่อนที่จะถามว่าอะไรก็ซัดกันซะแล้ว

 

 

รู้สึกได้ถึงอันตรายถึงชีวิต โนโซมุพยายามต้านทานด้วยสุดกำลังของเขา

 

 

อย่างไรก็ตามเป็นเพียงการต่อต้านอย่างสิ้นหวังและโนโซมุก็ลอยขึ้นไปในบนอากาศและล้มลง

 

 

 

「อึก……」

 

โนโซมุถอนหายใจออกมา ในเวลาเดียวกันก็ “ตาลุงนี่มันบ้าอะไรกัน”

 

 

เมื่อเร็วๆนี้ภาพลักษณ์ของจิฮัดสำหรับโนโซมุนั้นเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ พูดตามตรงว่าชินกับมันแล้ว

 

 

 

「โนโซมุ สบายดีไหม?」

 

「ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร……」

 

「ก็เป็นการฝึกกับอาจารย์นี่……」

 

ไอริสและซีน่าจ้องมองโนโซมุด้วยสีหน้าเศร้าๆ บางทีอาจจะกังวลเกี่ยวกับโนโซมุ

 

 

โนโซมุยิ้มและโบกมือให้ แต่ก็ถอนหายใจออกอีกครั้ง

 

 

การต่อสู้จำลองกับจิฮัดเกิดขึ้นทุกๆสองสามวัน

 

 

แม้ว่าคำแนะนำโดยตรงจากอาจารย์จะยอดเยี่ยมที่อนุญาตเฉพาะพวกห้อง 1 ขึ้นไป แต่ก็มีสถานการณ์ผิดแปลกที่จิฮัดลงมาให้คำแนะนำกับโนโซมุเช่นนี้

 

 

อย่างไรก็ตามสาเหตุของเรื่องนี้มันค่อนข้างชัดเจน

 

 

 

「บางทีอาจจะเป็นเพราะโนโซมุที่อาละวาดในการต่อสู้จำลองแน่เลย」

 

「อืม อันที่จริงในชั้นเรียนของพวกเราก็ไม่มีใครทำให้จิฮัดถึงกับต้องหยิบ “เขี้ยวยักษ์”มาใช้เลย……」

 

「กล่าวคือเป็นกรรมตามสนองของโนโซมุ」

 

คำพูดของฟีโอ ทิม่า และมาร์ทำให้โนโซมุก้มหน้าลง

 

 

ตัวโนโซมุเองไม่ได้นึกเสียใจที่ได้ทำแบบนั้นลงไปกลับดีใจเสียด้วยซ้ำ

 

 

อันที่จริงข่าวลือที่เคนทำไว้มันค่อนๆมลายหายไปและรุ่นน้องก็เข้าหาโนโซมุด้วยความกระตือรือร้น

 

 

นักเรียนรุ่นน้องทุกคนยังกังวลเรื่องการไปทำคำขอในป่าและมาปรึกษาโนโซมุ และบางครั้งที่พวกเอลเดอร์เจอก็มักจะโยนดาบไม้และให้โนโซมุฝึกให้

 

 

โนโซมุเองก็ดีใจที่ความรู้ของเขามีประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง และก็พอมีเวลาให้พูดคุยกับเหล่านักเรียนรุ่นน้องและให้คำแนะนำบ้าง

ตอนนี้ชื่อเสียงของโนโซมุในหมู่นักเรียนปีต้นๆกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีเพียงไม่กี่คนที่ดูถูกเขา

 

 

โนโซมุเองก็ตอบและทักทายรุ่นน้องอย่างสุภาพ

 

 

โนโซมุที่ถูกดูหมื่นอยู่เสมอ แต่สภาพแวดล้อมของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดว่าการต่อสู้จำลองกับจิฮัดต้องดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โนโซมุก็จะนึกถึงความหลัง และแววตาของเขาก็เเหมือนกับน้ำตาคลอ

 

 

 

「อาจารย์จิฮัด ไม่รุนแรงไปหน่อยเหรอ~」

 

แม้ว่าความประทับใจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเร็วๆนี้

 

 

เขาผู้มากความรู้ความสามารถทำให้เมืองอาร์คาซัมยังมีความสูงส่ง

 

 

ยิ่งได้รับการยกย่องและเคารพนับถือแต่ละประเทศและสามารถกล่าวได้ว่าเป็นเสาหลักของสถาบันโซลมินาติ

 

 

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เขาจะได้กวัดแกว่งดาบนั้นลดลงเพราะต้องสอนและทำตามหน้าที่เป็นตัวการทางการเมือง

 

 

จิฮัดเดิมนั้นเป็นนักดาบตัวยง มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่อยากแลกดาบกับเขา แต่หาโอกาสได้ยาก ดังนั้นการที่เขาได้พบโนโซมุที่มีความสามารถพอๆกับเขาอาจจะทำให้เขาได้ระบายความอัดอั้น

 

 

จิฮัดเองก็คอยมาสู้กับโนโซมุทุกๆสองสามวัน

 

 

ด้วยเหตุนี้ โนโซมุจึงต้องเผชิญอันตรายกับชีวิตหลายต่อหลายครั้งเช่นตอนที่ฝึกกับชิโนะ

 

 

 

「มันอาจจะมากเกินไป แต่คิดว่าจะให้ค่าโนโซมุคุงสูงขนาดนั้น」

 

「แต่ว่าเพราะแบบนั้นก็ต้องขอบคุณสิ่งนั้นที่ทำให้โนโซมุไม่มีใครมาดูถูกความสามารถของเขาอีกต่อไปนี่?」

 

ในขณะที่สู้กับจิฮัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความสามารถของโนโซมุก็รู้จักไปทั่วทั้งสถาบัน

 

 

ตอนนี้ไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับทักษะของโนโซมุ

 

 

ข่าวลือเรื่องที่เขาเป็นคนทรยศก็ยังมีอยู่บ้าง แต่นักเรียนส่วนใหญ่ที่ดูถูกเขาก็พยายามหลีกเลี่ยง

 

 

คนที่กลายเป็นคนโง่ที่สุดในสถาบันกลับแกร่งขนาดที่สู้กับนักผจญภัยแรงค์ S ได้อย่างสูสีและพวกนั้นก็กลัวการโดนเอาคืน

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้น เขาคิดแต่เกี่ยวกับเรื่องของเขา

 

 

 

「โนโซมุคุงช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?」

 

「เอ่อ อะไรเหรอครับ?」

 

「เอ่อ….เกี่ยวกับมังกรตัวนั้นไง……」

 

「อ่า วันนี้ก็ยังคงฝันเหมือนเดิม……」

 

การต่อสู้กับเทียแมตในความฝัน เกิดขึ้นเป็นประจำตั้งแต่สารภาพทุกอย่างกับไอริส และมันยังคงอาละวาดและพยายามยึดร่างเขา

ทุกครั้งที่รู้สึกอัดแน่น ก็จินตนาการได้ถึงความตายครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

ถึงกระนั้นเขาก็สามารถตื่นขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริงได้

 

 

อย่างไรก็ตาม ภาระทางจิตใจยังคงหนักแน่น

 

 

หากสังเกตดีๆจะมีรอยคล้ำใต้ตา และผิวเองก็ซีด โนโซมุไม่สามารถมีสมาธิกับบทเรียนตอนเช้ามากนัก และดูเหมือนว่ายังมีหมอกควันปกคลุมอยู่ในหัว

 

 

สภาพของโนโซมุที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้จำลองกับจิฮัด มันก็ไปพร้อมๆกับการต่อสู้กับเทียแมตทำให้สภาพย่ำแย่

 

“และเมื่อเร็วๆนี้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหมอนั่น……”

 

เทียแมตที่พยายามฆ่าโนโซมุอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนไป

 

 

แววตาที่ปลดปล่อยความโกรธแต่ตอนนี้มีอารมณ์อื่นซ่อนอยู่ภายใน

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร

 

 

ครุ่นคิดอยู่สักพักโนโซมุก็เขี้ยวขนมปังดำต่อ

 

 

 

「นี่ทอม ! ชา!」

 

「อะ อืม……」

 

ทันใดนั้นที่ขอบสายตาของโนโซมุ ร่างของมิมูรุที่ถือแซนวิชก็สะท้อนออกมา

 

 

ท่าทางอันแสนซุกซนของเธอที่หายไปและคอมดูแลทอมอย่างห่วงใย ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่รักที่เป็นมิตรเท่านั้น

 

 

แต่ทำไม ตาของทอมดูลนลาน จ้องไปที่แซนวิชที่มิมูรุเสนอให้

 

 

โนโซมุเรียกทอมที่ท่าทางแปลกๆ

 

 

 

「ทอม เป็นอะไรไปน่ะ?」

 

「ไม่ ไม่มีอะไร!?」

 

โนโซมุได้แต่สงสัย

 

 

เขามองเข้าไปในกล่องอาหารกลางวันของมิมูรุเพื่อดูว่ามันมีอะไรแปลกๆหรือเปล่า แต่มันก็มีแค่แซนวิช

 

「ทำออกมาได้สวยเลยนะ」

 

「แน่นอน ก็เพื่อทอมเลยนี่!」

 

「น่าแปลก ที่ไม่คิดว่ามีสกิลทำอาหารกับเขาด้วยนะ」

 

「……หมายความว่าไง」

 

โนโซมุและมาร์พูดตามที่คิดและเห็นว่าท่าทางของเธอมันต่างจากปกติ

 

 

มิมูรุจ้องมองไปที่มาร์ที่พูดความเห็นตามจริงออกไป แต่ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะพูดเช่นนั้น

 

 

อันที่จริงคนรอบตัวไม่ได้พูดออกมา แต่พวกเขาก็เบิกตากว้าง

 

「ทำออกไหม้หน่อยก็เถอะแต่กลิ่นหอมดีนะ」

 

ฟีโอจ้องมองไปที่แซนวิชของมิมูรุอย่างกระตือรือร้น อาจเป็นเพราะเขาไม่สามารถทานอาหารมื้ออร่อยได้เพราะยาจก

 

「ต้องการอะไรเนี่ย? ถึงจะมองแบบนั้นแต่คิดเงินนะ?」

 

「ยังคิดเงินอีกเหรอ!?」

 

ฟีโอขึ้นเสียงและเห็นมิมูรุหยิบแซนวิชขึ้นมาและเรียกเก็บเงิน

 

 

เห็นได้ชัดว่าเก็บเงินหมดยกเว้นทอมคนเดียว

 

「ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ? ทุกคนก็กินด้วยกัน แบ่งกันดีกว่าไหม」

 

「ถ้าพูดแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้นะ」

 

「อ่า อย่างที่คิดเลยทอม เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว!」

 

ฟีโอทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็รู้สึกดีขึ้นที่ได้รับแบ่งปันแซนวิชมาด้วยการที่ทอมช่วยกล่อม

 

 

ฟีโอที่ได้รับแซนวิชก็ตอบกลับมาอย่างยินดีและคว้าแซนวิชมา

 

 

มิมูรุไม่พอใจเล็กน้อย แต่ถอนหายใจราวกับช่วยไม่ได้ และก็ส่งแซนวิชให้กับทุกคน

 

 

 

「ให้พวกเราด้วยจะดีเหรอ?」

 

「ไม่หรอก มันมีเยอะน่ะ」

 

แม้ว่าจะไม่พอใจเล็กน้อยที่โดนพูดใส่ก่อนหน้านี้แต่เธอก็ยอมแบ่งให้กับทุกคน

 

 

ตรงกันข้ามกับน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด มีรอยยิ้มบนมุมปากของเธอ

 

 

 

「งั้นก็ขอรับไว้แล้วกันนะ」

 

「อ่าจะกินมันอย่างดีเลย」

 

「ถ้าอย่างงั้นก็รบกวนหน่อยนะ」

 

「ถ้าพูดขนาดนั้นก็จงน้อมรับชะตากรรม……」

 

「เอ๋ ? ฟุบ……」

 

โซเมียและไอริสเองก็กังวลขณะหยิบแซนวิชขึ้นมาหนึ่งชิ้น

 

 

ซีน่าดูท่าทางจะอารมณ์เสีย แต่โนโซมุก็รับแซนวิชมา

 

 

เห็นเนื้อที่ประกบระหว่างแซนวิชมันหนามากๆ และกลิ่นที่ชวนให้อยากอาหารก็ลอยมา

 

 

แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการจากภาพลักษณ์ตามปกติของเธอ แต่ว่าหน้าตาดูคาดหวังได้

 

 

 

「เอ้า ดูสิใครๆก็อยากกิน……?」

 

ในขณะที่ทุกคนรับแซนวิชมาหมดแต่ซีน่าไม่เอากับเขา

 

「เอ่อ ซีน่าไม่เป็นไรงั้นเหรอ?」

 

「เอ่อ พอดีฉันไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไรน่ะ……」

 

ซีน่ากินเข้าไปเพียงเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากรูปร่างอันเพรียวบางของเธอน่าจะเป็นคนที่กินช้า

 

 

ซีน่าโบกมือปฏิเสธ

 

 

ฟีโอที่เขี้ยวแซนวิชเข้าไปก็ไม่ได้กังวลเลยสักนิด

 

「ฮิฮิ หง่ำ…………….จ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!」

 

「……เอ๋?」

 

วินาทีถัดมาฟีโอก็กรีดร้องและล้มลงกับพื้น ทุกคนนั้นพูดอะไรไม่ออกเพราะเห็นลงไปนอนชักดิ้นชักงอแล้ว

 

「อ๋อ เข้าใจแล้วล่ะ……」

 

「……ซีน่า หมายถึงอะไรเนี่ย?」

 

โนโซมุถามซีน่าอย่างหวาดกลัวเมื่อมองไปที่เธอ

 

「มิมูรุนั้นทำอาหารเองได้ก็จริง แต่ด้วยความที่ว่าเป็นพวกลิ้นแมวเลยทำให้รสชาติมันแปลกกว่าคนธรรมดาทั่วไปกินน่ะ แม้ว่าจะดูน่ากินแค่ไหนหากไม่ได้ลองกินเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันอร่อยหรือ……」

 

「「「…………」」」

 

โนโซมุตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของซีน่า และตรวจสอบแซนวิชที่อยู่ในมืออย่างหวาดกลัว

 

 

แม้ว่ากลิ่นและส่วนผสมจะดูเหมือนแซนวิชทั่วไป แต่ว่ามันก็เหมือนพิษร้ายที่เชิญชวน ยิ่งได้ยินคำพูดของซีน่าแล้ว

 

 

ไอริสและคนอื่นๆต่างก็หมดคำพูดกับโศกนาฏกรรมตรงหน้า

 

 

 ที่ชายสายตาของโนโซมุมีมิมูรุที่โกรธฟีโอและบอกว่า「หยาบคายเกินไปแล้ว กัดไปแค่คำเดียวก็ตะโกนลั่นแล้วเนี่ยนะ!」พูดแบบนั้นอยู่

 

「อะเอ่อ นี่มันของทอมนี่น่า!」

 

「อ่าขอบคุณนะแต่ว่าขอรับไว้เพียงน้ำใจ……」

 

อย่างไรก็ตามฟีโอที่ร่วงหล่นลงไปก็ได้แต่บอกว่า “ลาก่อย” กับมิมูรุที่ทำสีหน้านิ่งเฉย

 

 

แซนวิชที่กลายเป็นของอันตรายอยู่ในมือทุกคน

 

 

หางของมิมูรุส่ายไปมาราวกับจ้องมองปฏิกิริยาของทอมอันผู้เป็นที่รักของเธอ

 

 

 

「นี่ เร็ว เร็ว เข้าสิ!」

 

มิมูรุพูดแบบนั้น

 

 

ท่าทางของเธอนั้นเห็นได้ว่าเธอพยายามทำอาหารกลางวันให้กับทอมอย่างมาก

 

 

แต่ว่าเมื่อเห็นสภาพของมิมูรุแบบนั้นแล้วพวกโนโซมุก็ถอยกลับไม่ได้แล้ว มีทางเลือกเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะทอมแล้ว

 

 

โนโซมุ ไอริส ทอม และคนอื่นๆต่างจ้องมองกัน

 

 

โนโซมุและเพื่อนๆต่างปิดตาแน่นและเตรียมใจพร้อมและกินพร้อมๆกัน

 

 

ในเวลาเดียวกันรสชาติที่อธิบายไม่ได้ก็กระจายไปทั่วปากตรงกันข้ามกับกลิ่นหอมที่กระตุ้นความอยากอาหาร

 

 

พูดได้คำเดียวว่ารสชาติทุกอย่างมันยำกันมั่วไปหมด

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างผักกลับชวนให้คลื่นไส้อย่างบอกไม่ถูก ขนมปังก็เค็มจัดๆแม้จะมีสีขาวล้วน และเนื้อแซนวิชเองก็แข็งมากๆและมีรสหวานปนเปรี้ยว

 

 

แซนวิชที่พูดได้ว่าเป็นดั่งปาฏิหาริย์ ผสมรสชาติทุกอย่างเข้าไป ใบหน้าของโนโซมุกลายเป็นสีแดงสดและหน้าซีดในทันใด

 

 

 

「โนโซมุคุง ไม่เป็นไรใช่ไหมเนี่ย!?」

 

โนโซมุหมดสติขณะฟังเสียงของซีน่าที่ตื่นตระหนก

 

 

◆◇◆

 

 

ตามปกติแล้ว ณ โรงอาหารของสถาบันโซลมินาติ จะเต็มไปด้วยผู้คนในตอนเที่ยงและเต็มไปด้วยความคึกคัก

 

 

เหนือสายตาของคนสานคนที่กำลังทานอาหารกันอยู่ มีไอริสและคนอื่นๆที่เข้าไปกอดโนโซมุที่ล้มตัวลงกลางลานกว้าง

 

 

คามิลล่าที่เป็นหนึ่งในนั้นก็วางอาหารตรงหน้าเธอและจ้องมองไปยังทางเพื่อนสนิท

 

 

ช้อนในมือนั้นตกและซุปก็เย็นจนหมดแล้ว

 

 

 

「ลิซ่า」

 

「เอ๊ะ ! มีอะไรเหรอ?」

 

「ซุปเย็นหมดแล้วนะ」

 

「……อา」

 

เมื่อเรียกเธอที่ตกใจ เธอก็กลับมากินด้วยความรีบร้อน

 

 

อย่างไรก็ตามลิซ่ารู้สึกว่าซุปมันไม่อร่อยเลย

 

 

ข้างๆลิซ่าก็มีเคนที่กำลังนั่งทานอาหารแบบเดียวกัน

 

 

 

「ลิซ่า ไม่เป็นไรใช่ไหม?」

 

「เอ่อ อืม…ไม่เป็นไร……」

 

ลิซ่าตอบคำถามของเครนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

 

ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย อย่างไรก็ตาม คามิลล่าที่เห็นรอยยิ้มนั่นก็รู้สึกไม่สบายใจ

 

 

ลิซ่ายังมีความรู้สึกที่ไม่ลงรอยและวิตกกับรอยยิ้มของเคน และท่าทางของเธอก็ดูอึดอัด

 

 

ลิซ่าและเคนนั้นไม่เหมาะกันเลยแม้แต่น้อยในตอนนี้ ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง และระยะห่างก็แผ่ขยายราวกับหุบเขาที่ไร้ก้นบึ้ง

 

 

คามิลล่าที่นิ่งเงียบมองดูสองคนที่พูดคุยกันอย่างอึดอัด

 

「นี่ นั่น……」

 

「เอ๊ะ คนนั้น……」

 

ในหูของคามิลล่าได้ยินเสียงจากรอบข้าง

 

 

เมื่อคามิลล่าหันไปมองก็มีรุ่นน้องสองคนที่กำลังเฝ้าดูลิซ่าและเพื่อนๆของเธอ

 

 

 

「คนๆนั้น รุ่นพี่ลิซ่าใช่ไหมนะ? เธอเคยคบกับรุ่นพี่โนโซมุนี่……」

 

「เอ๋ที่ว่ารุ่นพี่โนโซมุทรยศเธองั้นเหรอ? ฉันคิดว่ามันไม่ใช่ความจริงหรอกนะ มันก็แค่ข่าวลือเอง แต่ว่า……」

 

สายตานั้นจ้องเขม็งไปยังที่คามิลล่า

 

 

คำพูดที่เข้ามาในหูทำให้นึกถึงคามิลล่า เหมือนกับลิซ่าที่นั่งข้างกับเธอ

 

 

ลิซ่านั้นตัวสั่นด้วยคำพูดของพวกเขา ใบหน้าของเธอนั้นโดนผมหน้าม้าปิดเอาไว้และไม่เห็นสีหน้าของเธอ

 

 

นักเรียนรุ่นน้องต่างพูดถึงข่าวลือของโนโซมุและลิซ่าที่เป็นข่าวลือเมื่อสองปีก่อนเอามาถกเถียงกันอีกครั้ง แต่ว่าเรื่องในครั้งนี้มันต่างกับคราวที่แล้ว

 

 

ก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องของโนโซมุที่ทรยศลิซ่าไป และฝ่ายโนโซมุโดนลุมประนามอยู่ฝ่ายเดียว แต่เมื่อไม่นานมานี้ เหล่ารุ่นน้องคิดว่ามันไม่ใช่ความจริง และคิดว่าลิซ่านั้นเป็นฝ่ายที่หมดรักและทิ้งโนโซมุไป

 

 

ความสงสัยและคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา พวกเขาต่างจ้องมองด้วยลิซ่าแววตาแบบนั้น

 

「……ขอโทษนะ จะกลับแล้วล่ะ」

 

ลิซ่ากังวลเกี่ยวกับคำพูดของรุ่นน้องวางช้อนในมือลงเงียบๆและลุกขึ้นยืน

 

 

เสียงนั้นอ่อนแอและเมื่อเห็นจากด้านข้างก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังอารมณ์เสีย

 

 

 

「ลิซ่า ข้าเองก็จะไปด้วย」

 

「เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษนะ……」

 

ลิซ่าออกจากโรงอาหารไป ควบคุมเคนที่พยายามเข้าหาเธอ

 

 

ใบหน้าของเธอปฏิเสธเคนที่แสดงรอยยิ้มจอมปลอมอยู่เสมอ

 

 

 

「ชิ!!」

 

เมื่อลิซ่าหายตัวไป เคนมองไปที่ลิซ่าและจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่พูดถึงเรื่องนี้

 

 

ความโกรธที่เล็ดลอดออกมาจากปากของเคนนั้นแสดงความเป็นปรปักษ์และจ้องมองเหล่ารุ่นน้อง

 

 

ด้วยความรู้สึกอันแสนน่าหวาดกลัวพวกรุ่นน้องที่จ้องคามิลล่าก่อนหน้านี้ ก็ลุกขึ้นอย่างเร่งรีบด้วยใบหน้าที่ซีด

 

 

 

「น่ารำคาญจริงๆเลย ไอ้รุ่นน้องเวรเอ้ย……」

 

「นี่เคนทำแบบนั้นไม่ได้นะ!?」

 

ที่นี่ไม่ใช่ที่สนามฝึกหรือป่า แต่เป็นโรงอาหารที่มีคนมากมายรวมตัวกัน

 

 

คามิลล่าและเคนกำลังดึงดูดสายตาคนรอบข้าง เพราะความอาฆาตที่ถูกปลดปล่อยออกมา

 

 

ไม่สิต้องเรียกว่าเป็นจิตสังหารมากกว่า ณ ห้องทานอาหารกลับปกคลุมไปด้วยบรรยากาศแบบนั้น

 

 

จิตสังหารที่ราวกับปลดปล่อยเพื่อจะฆ่าอีกฝ่ายอย่างแท้จริง

 

 

แต่ว่ายังไงมันก็ไม่ควรจะทำแบบนี้เลยในที่สาธารณชนแบบนี้

 

 

อันที่จริงนักเรียนคนอื่นๆที่ทานข้าวอยู่ก็ขมวดคิ้วแล้วจ้องมองที่เคน

 

 

 

「……เหอะ」

 

อย่างไรก็ตามเคนดูไม่ใส่ใจ

 

 

เคนบ่นออกมาและไม่ขอโทษที่ทำตัวแบบนี้ เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด

 

 

การแสดงออกอย่างไม่ลังเลนั่นทำให้คามิลล่าเริ่มเป็นกังวลและสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

「นี่เคน ตามมาหน่อย」

 

「หะ มีอะไร?」

 

「เร็วๆเถอะน่า!」

 

คามิลล่ากระตุ้นให้เคนลุกขึ้น ในขณะที่กำลังร้อนใจ

 

 

คว้ามือของเคนที่กำลังสงสัยและออกไปนอกโรงอาหาร

 

 

ถ้ายังคงอยู่ในโรงอาหารก็คงจะทำอะไรไม่ได้

 

 

 

 

ขณะที่กังวลแบบนั้น คามิลล่าก็รีบออกจากโรงอาหารโดยไม่สนใจเคนที่พยายามจะพูดอะไร

 

 

คามิลล่าพาเคนไปที่มุมหนึ่งของทางเดินอันเงียบสงบ ซึ่งไม่มีผู้คน

 

 

แสงแดดส่องผ่านหน้าต่าง

 

 

เมื่อมาถึงสถานที่ๆไม่มีคนเข้ามา คามิลล่าก็บ่นเคนด้วยน้ำเสียงหยาบคาย

 

「นี่นายบ้าไปแล้วเหรอไง !? จู่ๆก็ปล่อยจิตสังหารใส่รุนน้องในที่แบบนั้น!」

 

แม้ว่านักเรียนรุ่นน้องจะพูดจาเกินเลยไปบ้าง แต่การกระทำของเคนมันก็เกินไปหน่อย

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นรอบข้างก็สังเกตเห็นได้ชัด และมันไม่จำเป็นต้องมาปล่อยความเกลียดชังใส่ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย

 

 

แม้แต่ลิซ่าในตอนนี้จิตใจของเธอก็ยังคงไม่มั่นคงและหัวใจเธอก็พร้อมที่จะแตกสลายได้ทุกเมื่อ ภายใต้สถานการณ์แบบนั้น คามิลล่าคิดว่าปล่อยให้เคนตามไปก็ไม่ดีแน่ๆ

 

 

ไม่สิ ต้องบอกว่าเคนโกรธทุกครั้งเลยที่ได้ยินเรื่องข่าวนั่น และมันทำให้ลิซ่าต้องเจ็บปวด และเขาก็เริ่มไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนรอบข้างแล้ว

 

 

และเนื่องจากเคนที่เปิดเผยความเป็นปรปักษ์ต่อสิ่งรอบข้าง วงจรอุบาทว์จึงเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทำให้คนต่างมองมาที่เขาด้วยสายตาเหยียดหยามแทน

 

 

ตามจริงแล้ว หลังจากที่โนโซมุได้แสดงความสามารถออกมา เพื่อนร่วมชั้นก็เริ่มตีตัวออกห่างจากลิซ่ามากขึ้นเรื่อยๆ

 

「เป็นเรื่องธรรมดาเพราะพวกมันทำร้ายลิซ่า」

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ยินคำพูดของคามิลล่า เคนก็ทำเป็นหูทวนลม มากกว่านั้นยังพยายามทำตัวเป็นปรปักษ์กับเหล่ารุ่นน้อง

คามิลล่าเหล่มองด้วยความสงสัยและจ้องเขม็งกับแววตาที่ถูกย้อมไปด้วยความเกลียดชังนั่น

 

 

 

「ช่วงนี้นายทำตัวแปลกๆนะเคน ไม่ได้ทำตัวดีเหมือนแต่ก่อนเลยนะ」

 

เคนยังจ้องมองคามิลล่า

 

 

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาถอนหายใจออก เขาก็ยักไหล่ และในเวลาต่อมาเคนก็ตีหน้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม

 

 

 

「แปลก แปลกตรงไหน ข้าก็แค่อยากจะปกป้องลิซ่า?」

 

「ก็เพราะแบบนั้นไง…..เพราะนายไปกระตุ้นคนรอบข้างมันยิ่งทำให้โดนคนรอบข้างมองมาด้วยสายตาแบบนั้น และทำให้ทุกคนโกรธขึ้นเรื่อยๆ!」

 

เสียงของคามิลล่าที่พูดออกมาด้วยความโกรธ ซึ่งตรงกันข้ามกับน้ำเสียงเรียบๆของเคน

 

 

ตาของคามิลล่าจ้องไปที่เคน กำลังพยายามหาเรื่องที่เขาซ่อนเอาไว้

 

 

เคนไม่ได้เปลี่ยนท่าทางเลยแม้แต่น้อยเขาที่เห็นคามิลล่าสงสัยก็ได้แต่ยิ้มที่มุมปาก

 

 

เปลวไฟแห่งความโกรธยิ่งเพิ่มพูนขึ้นในอกของคามิลล่า แต่เธอก็ยังคงแสดงสีหน้าตามปกติ

 

 

อย่างไรก็ตามคำตอบของเคนนั้น ทำให้คามิลล่าถึงกับต้องช็อค

 

「คามิลล่าเธอพูดอะไรอยู่? คนที่ทำร้ายลิซ่ามันต้องโดนกำจัดทิ้งซะให้หมด?」

 

「หะ!?」

 

แววตาพร้อมกับรอยยิ้มเย็นชานั่นและน้ำเสียงเรียบๆทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อ

 

 

คำพูดและการกระทำของเคนนั้นทำให้กระดูกสันหลังของคามิลล่าเสียวหวาบ

 

 

เธอไม่สามารถขยับร่างกายได้เลยแม้แต่นิดเดียวราวกับร่างกายถูกแช่แข็ง

 

 

 

「ถึงแม้ว่าไอ้โนโซมุมันจะแข็งแกร่งขึ้นแล้วก็ตาม แต่ข้าก็ยังเป็นคนเดียวที่ปกป้องลิซ่าได้」

 

「นาย…..เป็นบ้าอะไรไปเนี่ย……」  

 

รอยยิ้มอันแสนว่างเปล่านั้นลึกล้ำมากขึ้นไปอีก และลางสังหรณ์ที่ไม่พึงประสงค์นั้นมันทำให้ผุดความสงสัยขึ้นในตัวเคน

 

 

ร่างของเคนที่ควรจะอยู่ตรงนั้นมันกลับไม่มีอยู่อีกไปแล้ว

 

 

มันไม่ใช่คำพูดของคนที่คามิลล่ารู้จักอีกต่อไป

 

 

คำพูดของโนโซมุผุดขึ้นมาในใจของคามิลล่า

 

 

โนโซมุไม่เคยถูกอะไรครอบงำเลยแม้ว่าจะต่อให้ล้มลุกคลุกคลานมากแค่ไหนก็ตาม

 

 

และเหนือสิ่งอื่นใดคำพูดของเขานั้นทำให้ลิซ่าสงบใจได้มากกว่าใคร

 

“ผมเคยวิ่งหนีความจริง ถ้าผมแคร์ลิซ่า ผมควรที่จะเข้าไปคุยกับเธอมากกว่านี้ แม้ว่าจะโดนเธอต่อว่าดุด่าสาปแช่งหรือทำร้ายผมมากแค่ไหนก็ตาม”

 

“ผมคิดว่าผมจะพยายามให้ดีที่สุดสำหรับเธอ แต่ผมก็หนีความจริงไปฝึกฝนและไม่กล้ามาเผชิญหน้ากับเธอตรงๆ ผมคิดว่าหากฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น สักวันหนึ่งเธอก็จะได้เชื่อว่ามันไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย

งี่เง่าใช่ไหมล่ะครับ ผมที่หนีและไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเธออย่างตรงไปตรงมา และไม่มีทางที่ลิซ่าจะได้เห็นในสิ่งที่ผมเป็นเลยจริงๆ……

……“

 

คำพูดของโนโซมุที่ไหลราวมกับอุกกาบาต ในเวลาเดียวกันความหนาวเย็นก็แล่นไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ

 

 

ในเวลานั้น โนโซมุปฏิเสธอย่างหนักแน่น

 

 

“ผมไม่เคยทรยศลิซ่า!”คำนั้นมันกลายเป็นความจริงขึ้นมาทันที และในขณะเดียวกันข้อเท็จจริงที่เธอเชื่อมาจนถึงตอนนี้เป็นเรื่องโคมลอย

 

 

“โนโซมุคือคนทรยศ”นั้นถูกสร้างข่าวลือขึ้นมาและ “เป็นเคนที่ทรยศ”แทนที่จะเป็นความจริงทุกสิ่งมันกลับตาลปัตรไปเสียหมด เหมือนกับเหรียญที่มีสองด้านที่พวกเรามักจะจมปลักอยู่กับด้านใดด้านหนึ่ง

 

 

 

「นั่นสินะ….แล้วฉัน……」

 

คามิลล่าไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ยืนรับความจริงที่ว่าความจริงที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวนี่ เธอกำลังตกลงสู่ความมืดมน

 

 

ต่อหน้าคามิลล่าที่ยังคงนิ่งอยู่ เคนยิ้มออกมา

 

 

 

「ข้าจะปกป้องลิซ่าแน่นอน ด้วยเหตุนั้นจึงต้องกำจัดไอ้โนโซมุ ใช่ไหมล่ะคามิลล่า?」

 

แน่นอน คำพูดนั้นทำให้เธอหงุดหงิดอย่างมาก

 

 

เมื่อรู้ว่าถูกหลอกมาจนถึงตอนนี้ คำพูดที่โดนโกหกมาตลอดสองปีนั่นทำให้ใบหน้าของคามิลล่าขับเคลื่อนไปด้วยความโกรธ

 

「หนอย! นี่นายยยย……!」

 

「อย่ามองข้าด้วยสายตาแบบนั้นสิ พวกเราคือ “เพื่อน” กันไม่ใช่เหรอ」

 

“เพื่อน”

 

คำพูดนั้นแทงทะลุอกคามิลล่า มือของคามิลล่าที่พยายามกำมันก็หยุดนิ่ง

 

 

ใช่ เธอถูกหลอกมาตลอด ตำหนิโนโซมุและสาปแช่งตัวเขา และพยายามช่วยลิซ่าอย่างสุดความสามารถ แต่ผลที่ตามมาก็คือ ตัวเธอที่ไม่สามารถก้าวหน้าต่อไปได้

 

 

และเป็นความจริงที่ว่าคามิลล่าก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่ฉีกกระชากความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนไม่เหลือชิ้นดี จนไม่สามารถแก้ไขได้

 

 

มือที่ยื่นออกไปกลับห้อยลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

 

 

ก่อนที่จะรู้ตัวเล็บที่มือก็จิกกัดมือไว้แน่น และตัวสั่นด้วยความรู้สึกผิด

 

 

ในขณะนั้นเสียงระฆังก็ดังขึ้น นักเรียนต่างเริ่มเดินผ่านมา

 

「ได้เวลาแล้ว รีบๆกลับจะดีกว่านะ」

 

เคนกระตุ้นคามิลล่าให้กลับห้องเรียนและเริ่มเดินหลังจากหันหลังเช่นนั้น

 

 

แม้ว่าเคนจะเริ่มเดิน แต่คามิลล่าก็ยังไม่สามารถขยับตัวได้

 

 

ริมฝีปากนั้นกัดแน่น และหมัดที่กำแน่นนั้นถูกย้อมไปด้วยสีแดงสดด้วยเลือดก่อนที่จะรู้ตัว

 

 

ราวกับจะบ่งบอกถึงความเสียใจที่เธอมี

 

 

◆◇◆

 

 

นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพยาบาลที่อบอวลไปด้วยสารเคมี หญิงสาวแสนสวยผู้เผยขาที่แวววาวของเธอโดยไม่มีการปิดบัง มองดูเด็กชายที่นอนอยู่บนเตียงข้างหน้าเธอและมองมือของเธอที่แตะหน้าผากอยู่

 

「แล้วทำไมถึงได้พามาที่นี่……」

 

นอร์นเจ้าของห้องพยาบาล ถอนหายใจขณะที่เขียนสมุดบันทึกขณะที่ได้ยินเรื่องที่ว่าฟีโอและโนโซมุถูกพาตัวมาที่นี่ได้ยังไง

 

 

มีเพียงฟีโอและโนโซมุเท่านั้นที่นอนอยู่บนเตียง เห็นได้ชัดว่าไอริสและเพื่อนๆไม่ได้โดนของดี

 

 

ตามคำกล่าวของไอริสและคนอื่นๆ แซนวิชที่พวกเธอกินนั้นรสชาติปกติ

 

 

แซนวิชสุดแสนอัศจรรย์ที่ให้รสชาติสุดพรรณนา ไม่มีใครเลียนแบบได้

 

 

พวกเธอที่ได้ทานของอร่อยไม่ได้ผิดแปลกก็มีรอยยิ้ม

 

 

อีกอย่าง แม่สาวแมวป่าผู้ที่เป็นต้นเรื่องก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมพวกฟีโอและโนโซมุถึงล้มฟุบไปแบบนั้น

 

 

 

「อาจารย์นอร์น ขอโทษนะ」

 

「ก็ไม่ได้โกรธหรอกนะ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นักเรียนเข้ามาที่ห้องพยาบาลเพราะเรื่องแบบนี้……」

 

โนโซมุส่งเสียงขอโทษออกมา ฟีโอที่นอนอยู่ข้างๆยังแสดงสีหน้าเผ็ดจัดและครางอยู่

 

 

ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาด้านรสชาติและปากก็เป็นอัมพาต

 

 

 

「อืม ก็ไม่ได้มีไข้ สักพักเดี๋ยวก็หายแล้วล่ะ ….บางทีนะ」

 

เหงื่อไหลออกมาที่หน้าผากของทุกคนที่อยู่ที่นั่น

 

 

ไม่ใช่ว่าอาหารมันเสียและทุกคนยกเว้นมิมูรุก็มีท่าทีโล่งอกที่ตัวเองได้กินของธรรมดา

 

 

 

「วันนี้โนโซมุคุงและฟีโอคุงน่าจะกลับบ้านไปก่อนนะ เดี๋ยวจะแจ้งอาจารย์อันริให้ เพราะงั้นกลับหอไปพักซะเถอะ」

 

「อืม เข้าใจแล้วครับ……」

 

ทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้นเหล่าเพื่อนๆก็กลับไปทีห้องเรียน และโนโซมุกับฟีโอก็พากันกลับหอและนอนพัก

 

 

โนโซมุผล็อยหลับไปในห้องอันแสนเงียบสงบ

 

 

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันต่อมา เขาที่ตื่นขึ้นมาก็ต้องเข้าไปพัวผันกับเหตุการณ์ครั้งใหม่

 

 

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลายครั้งใหม่

 

 

 

 

เมื่อคืนนอนไม่หลับเลยครับ นอนไม่พอ ง่วงมาก~

 

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท