โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 105

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่6ตอนที่22

 

 

วันรุ่งขึ้นหลังจากเมาส์และจิฮัดได้พูดคุยรายละเอียดเนื้อหากัน โนโซมุก็ได้รับการปล่อยอย่างเป็นทางการ

 

 

เมื่อโนโซมุรีบไปที่สถาบัน เพื่อนร่วมชั้นก็เอาแต่ถามคำถามใส่ไม่หยุดหย่อน แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องอธิบายว่าเขาถูกพาตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุและโดนปล่อยตัวมา

 

 

นักเรียนที่ไม่ทราบรายละเอียด ก็เข้าหาพวกไอริสและคนอื่นๆพยายามจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ต้องบอกปัดเพราะตอนนี้กำลังทำหน้าที่สืบสวนคดีกันอย่างหนักแน่น

 

 

ในการตอบสนองต่อเรื่องนี้ คือเคนที่นั่งกัดริมฝีปากแน่น

 

 

 

「โถ่วเว้ย ยังจะรอดมาได้อีกนะ?」

 

ในขณะที่เดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจ ณ อาคารเรียนหลังเลิกเรียน โดนไม่มีใครสังเกตเห็น เขาก็เตะก้อนหินบริเวณนั้น

 

 

ขณะที่รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกับเสียงสะท้อนของก้อนหินที่กระทบกัน เคนก็คิดหาวิธีจัดการกับโนโซมุอีกครั้ง

 

 

 

「มันต้องไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองอย่างเดียวแล้ว ต้องทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่านั้น……」

 

เคนไม่รู้เลยว่าตอนนี้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ดั้งเดิมนั้นหายไปหมดแล้ว

 

 

ตอนแรกก็เป็นแค่ทำให้มันหนีความจริงจากการที่ถูกลิซ่าปฏิเสธและโดนคนรอบข้างลุมประนามแต่สุดท้ายมันก็กลับมาได้อีกครั้ง จนตอนนี้เขาต้องหาวิธีจัดการให้สิ้นซาก

 

 

อย่างไรก็ตามจิตใจของเขาในตอนนี้เริ่มร้อนรนเพราะกลยุทธ์ครั้งหนึ่งที่เคยสำเร็จกลับไม่ได้ผล และเคนเองก็สูญเสียเป้าหมายไปในช่วงสองปีที่ผ่านมา

 

 

และถึงแม้ว่าจะทำร้ายจิตใจของโนโซมุได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็ต้องเผยไต๋ในมือทั้งหมด

 

 

ความประมาทเลิ่นเลอของเขาทำให้ดวงตาของเขามืดบอดไปหมด

 

 

 

 

「มาทำอะไรในที่แบบนี้」

 

「……คามิลล่า มีอะไร?」

 

เคนสั่นขาอย่างหงุดหงิดขณะที่คิดหาวิธีจัดการต่างๆนาๆ และได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

 

 

เคนหันกลับไปมองก็เจอคามิลล่าที่จ้องมองเขาด้วยแววตาเย็นชา

 

「ทางนี้ต่างหากที่ต้องถาม คิดอะไรอยู่กันแน่」

 

「มันก็แน่นอนอยู่แล้ว อย่าถามอะไรที่รู้อยู่แล้วสิ」

 

คามิลล่าจ้องไปที่เคนที่บอกปัด

 

 

ทั้งสองต่างจ้องมองกันและกันและสำรวจสถานการณ์ของอีกฝ่าย เกิดความเงียบและรอยแตกร้าวระหว่างทั้งสองคนที่ไม่สามารถกลับมาซ่อมแซมได้อีกต่อไป

 

 

ทั้งสองจ้องตากัน แต่เคนนั้นไร้ซึ่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

 

 

คามิลล่าจ้องมองออกไปราวกับว่าเธอยอมแพ้ต่อสายตาของเคน ผู้ซึ่งเห็นทุกอย่างเป็นความยุติธรรม

 

「ฉันเองก็จะไม่พูดอะไร อืม นายเองก็เหมือนกับฉัน ฉันเองก็จะทำทุกอย่างเพื่อลิซ่าเช่นกัน?」

 

เคนยิ้มด้วยรอยยิ้วอันบิดเบี้ยว บางทีอาจจะเข้าใจผิดเพราะว่าคามิลล่ายอมแพ้

 

 

คามิลล่ายิ้มด้วยความรู้สึกที่โกรธตัวเองในขณะที่สงสารเคนไปด้วย

 

 

แน่นอน คามิลล่าตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อลิซ่ามาตลอด

 

 

ต้องขอบคุณลิซ่าตอนที่เธอมาถึงสถาบันเพียงลำพัง ทำให้เธอได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง จากการที่เป็นคนต้องโดดเดี่ยว

 

 

ตัวตนอันแสนซุ่มซ่าม ไม่น่ารัก และทำได้แค่แว้งกัดคนที่เข้ามาหาเธอ นั่นคือลิซ่าสำหรับตัวคามิลล่า

 

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็นยังไง อย่างที่เคนพูด คามิลล่าเองก็มีส่วนช่วยในการทำร้ายโนโซมุ และเมื่อพิจารณาถึงลิซ่าที่ยังโกรธมาจนถึงตอนนี้ การเปิดเผยความจริงจะทำให้เกิดแผลใจที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก

 

 

การทรยศของเพื่อนอันเป็นที่รักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เคนอาจจะทำแบบนี้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คามิลล่าจะทำมัน มีเพียงไม่กี่คนที่จะจินตนาการถึงการประณามและทรมานอย่างแสนเลวร้ายแบบนั้น หมอนั่นยังคงเชื่อมั่นและยังเดินไปในเส้นทางแบบนั้นต่อไป

 

 

เคนยินดีใช้ทุกสิ่งรอบตัวเป็นอาวุธอย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

ในขณะที่รู้สึกโกรธและเกลียดกับรอยยิ้มเสแสร้งจอมปลอม คามิลล่าก็พยายามเก็บงำความรู้สึกเอาไว้และทำตามหน้าที่ที่ได้รับมา

 

「ฉันรู้ว่าการบอกความจริงจะทำให้ลิซ่าต้องเจ็บปวด แต่ว่าฉันเองก็ไม่เห็นนายเป็นหนึ่งในพวกเราอีกต่อไปแล้ว」

 

 

 

คามิลล่าอดทนต่อความแค้นในใจโดยยังคงใช้เล็บจิกกัดอยู่ที่ฝ่ามือของเธอ พร้อมกับบอกว่าเธออยู่ข้างลิซ่าอย่างเต็มตัว

 

 

คำพูดนั้นตรงกับที่เคนคาดเอาไว้ รอยยิ้มอันแสนบิดเบี้ยวของเคนยังคงปรากฏให้เห็น

 

 

 

「ไม่มีปัญหา ข้าจะปกป้องลิซ่าให้ได้」

 

ขณะพูดแบบนั้น เคนก็ได้ยินคามิลล่าพูด “แล้วจะคอยดู” และเคนก็เดินผ่านคามิลล่าไป

 

 

ขณะจ้องมองจากด้านหลัง คามิลล่าพยายามระงับความโกรธที่จะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ

 

 

 

「คิดว่าจะปกป้องลิซ่าได้ด้วยวิธีนี้งั้นเหรอ? สิ่งที่นายทำมันไม่ไร้สาระเกินไปหน่อยเหรอ」

 

「แล้วคิดว่าเป็นโนโซมุมันถึงจะดีงั้นเหรอ? มันอาจจะแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่ก็ยังอ่อนแอไม่เปลี่ยนแปลง」

 

 

 

ร่างของโนโซมุที่สู้กับจิฮัดผุดขึ้นมาในหัวเคน

 

 

แน่นอนว่าโนโซมุมันมีสกิลสุดเหลือเชื่อที่ทำลายโล่และดาบของจิฮัดได้อย่างไม่ยากเย็น และพลังดาบที่จะจัดการอีกฝ่ายแม้จะเสียเปรียบก็ตาม

 

 

อย่างไรก็ตาม “พันธนาการ” ของมันก็ไม่ได้หายไป และตัวมันเองก็ไม่เหมาะกับศึกยืดเยื้อ หากจุดอ่อนนั่นไม่ได้รับการแก้ไข เขาก็มั่นใจว่ามันก็ทำอะไรไม่ได้มาก

 

 

อย่างไรก็ตาม ยิ่งพูดมากเท่าไร ภาพของโนโซมุมันก็ยิ่งผุดเข้ามาในหัวมากขึ้น

 

 

 

「ยังไงมันก็ปกป้องลิซ่าไม่ได้หรอกเพราะความสามารถ “พันธนาการ” ของตัวมันเอง!」

 

เคนละสายกับความคิดที่เข้ามาทิ้งไป ในเวลาเดียวกันก็กัดฟันแน่น อาจเพราะอยากจะปลดปล่อยความรู้สึกไม่สบายใจที่กลืนกินอยู่ในอก

 

 

น้ำเสียงของเคนที่ควรจะราบเรียบ แปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงหยาบกระด้างและใบหน้าก็มีรอยยิ้มอันแสนน่าเกลียด

 

 

เมื่อมองไปที่เคน คามิลล่าก็บ่นออกมา

 

 

 

“อย่างน้อยมันก็พยายามจะเล่นบทเป็นคู่รักให้กับเพื่อนสนิทของฉัน และฉันแน่ใจว่ามันไม่ใช่คนที่จะอยู่กับลิซ่าไปได้ตลอดรอดฝั่งหรอก……”

 

「แล้วจะทำยังไง? ถ้านายอยากจะอยู่ข้างลิซ่า….อย่างน้อยนายก็น่าจะรู้」

 

เป็นเพราะกลับไปเชื่อมั่นในตัวโนโซมุหรือเปล่า? เคนหันไปจ้องคามิลล่าราวกับแววตากระหายเลือด

 

 

คามิลล่าเองก็พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ แต่เธอก็พูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาของเคน

 

 

เหลือบมองก็เห็นได้ว่ามันขุ่นมัวเต็มไปด้วยความมืดมิด มันเป็นความเกลียดชังที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

 

จิตสังหารของเคนมันบีดรัดร่างกายของคามิลล่าให้แน่นราวกับยักษ์กำลังบดขยี้นกตัวน้อย

 

 

 

「อึก……」

 

ตรงกันข้ามกับความหนาวเย็นที่กระดูกสันหลัง หัวใจเต้นแรง แรงราวกับว่าเส้นเลือดจะแตก

 

 

คามิลล่าพยายามเค้นเสียงออกจากลำคออย่างหมดท่า พยายามหลบหนีจากเจตนาฆ่าอันแสนชัดเจน

 

 

จำเป็นต้องเคนแสดงความประมาทออกมาและทำให้เธอดูเหมือนกับว่ายอมแพ้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามแรงกดดันนั่นทำให้ตัวคามิลล่าราวกับจะแหลกสลาย

 

 

คามิลล่ากัดฟันแน่นจนเล็บนั้นกัดเข้าไปที่ผิวหนังของเธอ ทนต่อเลือดและความเข็บปวดทีเล็ดรอดออก

 

 

 

「……ลิซ่าเองก็ยอมรับความจริงไม่ได้เช่นกัน ถึงจะเกลียดจนอยากจะอ้วก แต่ว่าจะทำตามแผนของนายก็ได้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำแบบนั้น……」

 

ตัวคามิลล่าเองก็ออกเสียงแบบนั้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจด้วยความรู้สึกต่อต้าน

 

 

อย่างไรก็ตามเคนที่กำลังมองคามิลล่าก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ โชคดีที่ตีบทแตก

 

 

ความรู้สึกกดดันจากเคนค่อยๆลดลงและคามิลล่าก็สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง

 

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก…..แล้วจะทำอะไรต่อไป?」

 

「……การกำจัดไอ้โนโซมุใช้เพียงแค่ความวุ่นวายในเมืองมันยังไม่พอ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเล็งเป้าที่ใหญ่ขึ้นถูกไหม?」

 

แน่นอนว่ามันเล็งจะสร้างเรื่องอีกแล้ว เคนทำสีหน้าแบบนั้นโดยไม่สนใจสิ่งใด

 

 

คามิลล่านั้นตัวแข็ง และคิดว่านี่มันเกินที่คนทั่วไปจะคิดแล้วมันระดับอาชญากรรมและชายที่อยู่ตรงหน้าก็มัวเมามันอย่างสมบูรณ์

 

「เอาเถอะ ข้าจะจัดการเอง ข้าคิดแผนไว้แล้ว……」

 

ด้วยความมั่นใจเคนหันหลังกลับและเดินไปที่ประตูหลัก คามิลล่ายังคงนิ่งเงียบและเดินตาม

 

 

ประตูหลักที่เริ่มย้อมไปด้วยพระอาทิตย์ที่ตกดิน รู้สึกเหมือนเป็นประตูนรกสำหรับคามิลล่า

 

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีแววตาจับจ้องมองพวกเขาอยู่ในอาคารเรียน

 

 

และลมที่พัดจากหน้าต่างที่เปิดอยู่ก็เป่าผมสีแดงเข้มของเธอ ราวกับเป็นตัวแทนของเธอที่เริ่มเคลื่อนไหว

 

 

◆◇◆

 

 

เมื่อถึงเวลาที่คามิลล่าจะพูดคุยกับเคน โนโซมุก็นั่งบนเก้าอี้ในหอพักเพราะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

 

 

พระอาทิตย์ค่อยๆตกดินและแสงที่ส่องเข้ามาก็เริ่มจางลง

 

「ต้องขอโทษด้วย ที่ทำให้ไม่สบายใจ」

 

เสียงที่ดูเหมือนจะขอโทษซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ได้มาจากตัวโนโซมุเองดังก้องอยู่

 

 

เมื่อเขาลืมตาขึ้นไปยังจุดที่ได้ยินเสียง ชายหนุ่มผู้อ่อนโยนก็ยืนอยู่ ข้างหลังเป็นชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราอายุราว 30 ปี

 

 

พวกเขาเป็นทหารรักษาความปลอดภัย ที่เอาไว้เฝ้าติดตามตัวโนโซมุ และแม้ว่าจะถอดชุดเกราะออกแล้ว แต่ก็เป็นทหารที่มีสภาพร่างกายดีพร้อมปกป้องเมือง

 

 

ในเวลาเดียวกันเพื่อพิสูจน์ข้อแก้ตัวของโนโซมุ แม้ว่าจะมีผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ แต่ว่าตัวโนโซมุก็ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่

 

「ไม่หรอกครับ ผมเข้าใจดีว่ามันจำเป็น ช่วยไม่ได้นี่」

 

「ถ้านายพูดแบบนั้นพวกชั้นก็ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย……」

 

「พวกเราทำแบบนี้ไปไม่นานหรอก เพราะงั้นยกโทษให้ด้วยเถอะนะ」

 

โนโซมุเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างดี เลยไม่ค่อยกังวลเท่าไร

 

 

เมื่อหันกลับมาชายหนุ่มตรงหน้าก็ยิ้มให้กับผม เขาชื่อจิบิน ก้มไหล่ของเขาราวกับว่าโล่งใจ

 

 

บารอซซ่า ที่เป็นทหารวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลัง กำลังเกาหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

 

 

ถ้าเคนลงมือ ก็คือตอนที่โนโซมุนั้นอยู่ตัวคนเดียว และตอนนี้โนโซมุได้รับสั่งว่าห้ามออกไปข้างนอกหลังเลิกเรียน และก็มีทหารสองคนรออยู่ในห้องอยู่ก่อนแล้วเพื่อไม่ให้คนภายนอกสังเกตเห็น

 

 

ในมุมหนึ่งของห้อง มีถุงนอนที่ถูกนำเข้ามาและเนื้อรมควันและฮาร์ดแทควางอยู่ อันที่จริงพวกขาอยู่ในห้องนี้ก่อนวันที่โนโซมุจะถูกปล่อยตัว

 

 

 

「ดื่มหน่อยไหมครับ?」

 

ขณะพูดอย่างนั้น โนโซมุก็ยกหม้อที่มีน้ำสมุนไพรขึ้นมา

 

 

มันทำโดยการต้มสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมแรง และถึงแม้จะไม่ได้แรงเป็นพิเศษ แต่ไอน้ำที่ออกมาจากหม้อก็มีกลิ่นที่ช่วยบรรเทาได้

 

「ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกทำตัวตามสบาย」

 

「ในทางกลับกันมันไม่ดีหรอกนะที่จะปล่อยไว้แบบนี้ ชั้นไม่อยากให้บรรยากาศอึดอัดมันออกไปนอกห้อง เพราะงั้นช่วยรับไว้เถอะ……」

 

「รุ่นพี่เอาไงดี……」

 

ในขณะที่เขาพยายามทำตัวดีๆนั้น แต่ว่ารุ่นพี่เขาก็ไม่สนใจและร่วมดื่มไปด้วย

 

 

โนโซมุเทน้ำสมุนไพรลงในถ้วยของจิบินด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าของบารอซซ่าที่กำลังเหลาปากอยู่

 

 

กลิ่นไอของสมุนไพรเข้ากระทบจมูก และแรงที่ไหล่ก็ผ่อนคลายลง ร่างกายปล่อยตัวไปตามธรรมชาติ

 

 

ทหารทั้งสองยังคงเพลิดเพลินกับกลิ่นสมุนไพรที่อยู่ในปากและความอบอุ่นของน้ำสมุนไพร

 

 

 

「อืม ฝาดนิดหน่อยแต่ก็ไม่เลว」

 

「เป็นสมุนไพรที่เอามาจากป่าครับ และมันค่อนข้างต่างที่เอามาจากนอกเมืองนิดหน่อย」

 

เขามักจะดื่มและอาบมันตอนที่ฝึกกับชิโนะ

 

 

กลิ่นหอมดีแต่ฝาดไปหน่อย ดังนั้นตอนดื่มครั้งแรกก็ไอแค่กแค่ก

 

「แค่ก แค่ก……!」

 

「ไม่เป็นไรนะครับ?」

 

「ไม่เป็นไร แค่กแค่ก ! พอดีช็อคนิดหน่อย!」

 

จิบินกระแทกหน้าอกด้วยแขนของเขา

 

 

จิบินไออยู่พักหนึ่ง บางทีอาการอาจจะสงบลง เขาพยายามสงบลมหายใจที่กระท่อนกระแท่นและเริ่มดื่มน้ำเข้าไปอีกครั้ง

 

 

ทั้งสามคนที่ดื่มก็ปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายอยู่ครู่หนึ่ง และมีเพียงเสียงกลืนน้ำดังอยู่ในห้อง

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม เกิดอะไรขึ้นกับพวกไอริสเหรอครับ?」

 

โนโซมุถามคำถามกับจิบิน

 

 

ไอริสและคนอื่นๆตัดสินใจเข้าร่วมการสอบสวนครั้งนี้ แต่ไม่ได้ยินว่าจะทำยังไง

 

 

 

「พวกนั้นมีหินเวทย์ติดตัวและแต่ละอันแตกต่างกันไป อาจารย์เองก็ด้วย ส่วนใหญ่ต่างกระจายไปในย่านเขตการค้า และสำนักงานใหญ่ที่จัดตั้งขึ้นในสถาบัน หินรับสารที่เป็นรากฐานของหินพวกนี้ก็ถูกตั้งไว้ที่สำนักงานใหญ่」

 

「ถ้าไม่มีผู้หญิงพวกนั้นการสืบสวนคงยากขึ้นน่าดูเลยล่ะ」

 

บารอซซ่าพูดแบบนั้นและเล่นกับหินเวทย์สีฟ้า

 

 

เครือข่ายการสื่อสารกระจายไปทั่วทั้งเมือง รวมั้งโนโซมุและคนอื่นๆก็ถูกรวมอยู่ในการสื่อสารนั้นด้วย

 

 

เดิมทีแล้วถ้าใช้เส้นทางเดียวมันก็ไม่น่าจะครอบคลุมได้ใหญ่ทั่วเมือง

 

 

อย่างไรก็ตาม เพราะได้ “ความสามารถ”ของซีน่าช่วยเอาไว้เลยทำให้มันเป็นไปได้

 

 

พลังเวทย์อันมหาศาลของทิม่าและพลังภูติของซีน่า

 

 

อัญเชิญภูติจำนวนมากที่มีพลังเวทย์สูงสุดและคอยดูแลพลังภูติของซีน่าเพื่อเสริมการเชื่อมต่อพลังเวทย์กับหินเวทย์และตัวหินรับสาร ทำให้สามารถสร้างเครือค่ายที่ครอบคลุมอาร์คาซัม

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกอย่างน้อยก็มีทหารหนึ่งนายคอยดูแลเหล่านักเรียนที่ประจำอยู่ทั่วเมือง และยังมีจิฮัดอยู่ที่สำนักงานใหญ่」

 

「นอกจากนี้ยังมีบางครั้งยังมี “ผู้ที่ให้ความร่วมมือ” ด้วย」

 

「งั้นเหรอครับ……」

 

ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยึดติดกับแค่โนโซมุเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพวกไอริส นอกจากจะเป็นผู้ร่วมงานระหว่างนักเรียนด้วยกัน

 

「อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ของการสอบสวน จึงเป็นเรื่องยากที่จะวางพวกทหารไว้ข้างๆ นักเรียนคนนั้นที่ชื่อคามิลล่า แต่ดูเหมือนว่าจิฮัดจะเป็นฝ่ายลงมือจัดการด้วยตัวเอง」

 

ตราบใดที่เคนยังไม่รู้สึกตัวและเธอยังเป็นคนใกล้ชิดกับเคนดังนั้นความปลอดภัยของคามิลล่านั้นค่อนข้างเสี่ยงมาก

 

 

ถ้าเป็นเช่นนั้น จิฮัดตัดสินใจให้นักเรียนหลายคนถือหินเวทย์เอาไว้และกระจายไปยังจุดต่างๆ

 

 

แน่นอนว่าตัวคนติดตามนั้นก็มีทักษะอย่างมากและแม้แต่อาจารย์ของสถาบันยังตรวจจับได้ยาก

 

「ถ้างั้นก็ดีไปครับ」

 

เมื่อได้ยินชื่อของคามิลล่า โนโซมุก็อดเป็นห่วงไม่ได้

 

 

ร่างกายของเธอที่พยายามขอโทษโนโซมุอย่างจริงใจทั้งน้ำตา และตอนที่ผมโดนปล่อยตัวเธอก็ยังมาพูดคุยด้วย

 

 

โนโซมุและคามิลล่าพูดคุยขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน เป็นการสนทนาครั้งแรกในรอบสองปี

 

 

 

“โนโซมุอยากจะให้ลิซ่าทำอะไรล่ะ?”

 

โนโซมุนึกถึงคำพูดของคามิลล่า พอเขาได้คุยกับเธอ เขาก็บอกไปว่า “อยากให้ลิซ่ากลับมาเป็นปกติดั่งเดิม”

 

สิ่งสำคัญของโนโซมุตอนนี้ก็คือ ทำให้กาลเวลาที่หยุดไปของลิซ่ากลับมาเดินอีกครั้ง

 

โนโซมุกำลังเคลื่อนไหวขณะคิดแบบนั้น

 

 

แน่นอนว่าโนโซมุเองนั้นไม่ค่อยได้ใส่ใจลิซ่าจนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น บางครั้งก็เกิดการทะเลาะกับตัวเองขึ้นมา

 

「ซึ่งก็บอกได้ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร ตอนนี้สัมผัสมันได้แล้ว……」

 

โนโซมุยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มอันขมยื่นและเกาหัวของเขาขณะดื่มยาเข้าไปเพื่อสลัดความปวดร้าวในใจ และหน้าผากของโนโซมุก็เกิดรอยย่นโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

「นะนี่ เป็นอะไรไป?」

 

เมื่อโนโซมุหันไปทางเสียง ก็มีร่างของบารอซซ่ากำลังมองดูสิ่งนี้อยู่ข้างหน้าเขา

 

「แฮ่ก……มะมะไม่เป็นไรครับ」

 

ต่างจากบารอซซ่าที่ดูร้อนรน คำตอบของโนโซมุนั้นยังสดชื่น

 

 

แม้ว่าจะใช้มันเป็นเหตุผลในการหลีกหนี แต่ความรู้สึกของเขาที่มีต่อลิซ่าก็อยากสนับสนุนกันต่อไป

 

 

ปฏิเสธไม่ได้และไม่อยากปฏิเสธ

 

 

ความโกรธยังไม่หายไป ไม่ได้สลัดหายไปไหน เคลื่อนไปข้างหน้าขณะที่กุมมันเอาไว้ เพราะตัดสินใจไว้แล้ว

 

 

 

「……นายเองก็ดูท่าทางจะลำบากนะ」

 

บารอซซ่าที่เห็นเช่นนั้นก็ยักไหล่และดื่มยาที่เหลือและอ้าปากพูด

 

「ในฐานะที่เป็นคนแก่ ได้แต่บอกว่าเสียใจกับเรื่องก่อนหน้านี้ บอกได้อย่างเดียวว่าสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือการจดจ่อกับเรื่องตรงหน้า」

 

บารอซซ่าเองก็เข้าใจสถานการณ์ในระดับหนึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยินรายละเอียดมากนัก และพบกันเมื่อไม่กี่วันก่อน

ด้วยเหตุนี้ จึงเลือกใช้คำพูดไม่ถูก

 

「เมื่อสิ่งต่างๆเริ่มขึ้นไปแล้ว สิ่งต่างๆก็จะดำเนินต่อไปโดยไม่คิดว่านายจะคิดยังไง และหากอาชญากรเป็นเพื่อนในวัยเด็กของนายจริงๆ เขาก็ก้าวข้ามในสิ่งที่ไม่ควรข้ามามาแล้ว หลังจากนั้นเขาก็จะจมดิ่งลงสู่ความมืดมิด ในขณะที่ทำร้ายสภาพแวดล้อมโดยรอบ」

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นเห็นอาชญากรจำนวนมากในเมืองนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ก่อาชญากรรม แต่ก็เหลือบเห็นปัญหาของเหล่ามนุษย์เฉกเช่นทุกวัน

 

 

สำหรับพวกเขา คนที่ทำอะไรตามใจโดยไม่สนถูกหรือผิดนั่นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด มันจะไม่แคร์สิ่งรอบข้าง มันคิดว่าตัวเองถูก ตัวเองแน่มาตลอด และหลายๆคนก็ต้องตกเป็นเหยื่อของมัน

 

 

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกมันคือการดำรงอยู่ในโลกอันแสบคับแคบของตัวมันเอง และเทียบเท่ากับอาหารของมดเมื่อมาอยู่ในโลกภายนอก

 

 

กองทหารที่อยู่ตรงหน้าไม่สามารถให้อภัยเรื่องเหล่านั้นได้

 

 

บรรยากาศอันแสนเหนื่อยหน่ายจนถึงตอนนี้เป็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีเท่าไร

 

 

 

「อืม ทราบดีอยู่แล้วครับ」

 

บารอซซ่าพูดอย่างเฉียบขาด ขณะที่โนโซมุรับคำนั้นโดยไม่ลังเล

 

 

บารอซซ่าเข้าใจสิ่งที่โนโซมุพูด อย่างที่เขาพูด เคนจะต้องหยุดการกระทำเหล่านี้

 

 

โนโซมุที่ต้องการจะหยุดเพราะมันไม่ใช่ตัวเขาคนเดิมอีกต่อไปและมันเป็นการทรมานลิซ่า

 

 

ไม่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ก็อยากให้ลิซ่าเผชิญหน้ากับความเป็นจริงเสียที

 

 

 

“ไม่เป็นไรที่จะหนีความจริง แต่จงรู้ไว้ว่าตัวเองนั้นกำลังหนีความจริงอยู่”

 

ลิซ่าและเคนเป็นคนสำคัญของโนโซมุ เหมือนโนโซมุที่เป็นคนสำคัญของชิโนะ

 

 

ดังนั้นโนโซมุพยายามเข้าหาลิซ่าอย่างต่อเนื่อง

 

 

แม้แต่ในการต่อสู้จำลองกับจิฮัด เขาก็ได้เผยไพ่ตายทั้งหมดเพื่อให้ได้รู้ว่าตัวเขาเป็นยังไงในตอนนี้

 

 

และตอนนี้เคนที่เห็นว่าโนโซมุเป็นภัยคุกคามอีกครั้งก็เริ่มเดินซ้ำรอยกับเมื่อสองปีก่อน

 

 

เคนไปไกลเกินกว่าจะกลับมาแล้ว ถ้าปล่อยไว้ต่อไป ก็จะทำในสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป

 

 

เวลาผ่านไปโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว จากนั้นแม้จะไม่ได้คำตอบที่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินหน้า

 

 

 

「อ่า ผมรู้แล้ว คราวนี้ผมจะต้องหยุดเขา……」

 

นั่นคือสิ่งที่เขาควรทำในตอนนี้ เขาจารึกมันลงในใจและมองทหารตรงหน้า

 

 

บารอซซ่าตกใจกับแววตาของโนโซมุที่เด็ดเดี่ยว เขาเบิกตากว้าง และยิ้มที่มุมปากเพราะพอใจกับคำตอบ

 

 

ในเวลานั้น เอื้อมมือออกไปที่อกราวกับจิบินสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

 

 

มันคือหินเวทย์ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนในครั้งนี้ มันกลายเป็นสีแดง อาจเป็นเพราะเสียงถูกส่งมาแล้ว

 

 

ฟังเสียงที่ได้ยินโดนการสัมผัสกับตัวหิน

 

 

บางทีการโทรออกคงสิ้นสุดและหินก็กลับเป็นสีน้ำเงิน และจิบินก็ค่อยๆลดมือของเขาที่ถือหิน

 

 

 

「เกิดอะไรขึ้น?」

 

「ได้รับการติดต่อจากท่านจิฮัดดูเหมือนว่าผู้ต้องสงสัยกำลังลงมือแล้ว」

 

เมื่อพลังเวทย์ที่จิบินส่งไปยังหิน ก็ได้ยินเสียงจากหินเวทย์สีแดงที่ร้อนแรงกว่าเดิม

 

“ขณะนี้เป้าหมายกำลังเคลื่อนไปตามถนนสายหลักทางทิศตะวันตก ทีม A และ B ในพื้นที่การค้า และทีม C และ D ในส่วนเหนือย้ายไปยังเขตชายแดนของพื้นที่ทางทิศตะวันตก สร้างเครือข่ายไล่ตามเป้าหมาย”

 

“ฝ่ายตรงข้ามมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ตามต้องการ เพราะงั้นให้สังเกตที่หินเวทย์ดีๆ เริ่มดำเนินการโดยทันที”

 

สถานการณ์นั้นเริ่มขึ้นแล้ว ทันทีที่ได้ยินคำนั้นความตึงเครียดก็เข้าครอบงำโนโซมุ

 

 

ใบบรรยากาศอันตึงเครียดโนโซมุค่อยๆจับดาบที่เอวเขา

 

 

◆◇◆

 

 

เคนและคามิลล่าเดินไปในเขตทางฝั่งตะวันตกของอาร์คาซัม

 

 

เมืองในตอนพลบค่ำและเต็มไปด้วยผู้คนที่เร่งรีบกลับบ้าน

 

 

คามิลล่าตามเคนหลังเคนตกเป็นเป้าหมาย

 

 

เธอเดินอยู่เงียบๆไม่พูดอะไร แต่จู่ๆเคนที่อยู่ข้างๆก็หันหน้ากลับมา

 

 

 

「คามิลล่าแยกกันตรงนี้」

 

「……หมายความว่าไง?」

 

ทันใดนั้นคามิลล่าก็หรี่ตามอง

 

「พวกเราจะแยกกันจากตรงนี้ แล้วค่อยมานัดเจอกันใหม่ เพราะงั้นจะทำอะไรก็รีบลงมือเข้า ถ้าคิดจะร่วมมือกันจริง」

 

「…………」

 

บางทีอาจจะโดนรู้ตัวแล้ว เหงื่อเย็นๆไหลผ่านกระดูกสันหลังของคามิลล่า

 

 

คามิลล่าพยายามเก็บงำอารมณ์เอาไว้และไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่เคนก็ยังคงบอกให้ทำตามคำพูดต่อไป

 

「คามิลล่ารออะไรอยู่รีบไปเร็วเข้า แล้วค่อยมาพบกันที่นี่」

 

เคนยื่นกระดาษให้คามิลล่าโดยพับเป็นสองท่อน โดยไม่เปลี่ยนท่าทางและเดินเข้าไปในฝูงชนโดยไม่รอคำตอบจากเธอ

 

“ควรทำยังไงดี”

 

ความลังเลปรากฏขึ้นในหัวของคามิลล่า

 

 

หากฝืนทำตามนี้ อาจจะโดนไม่ไว้ใจมากขึ้นไปอีก แต่ถ้าละสายตาไปตอนนี้ ก็ยากที่จะหาเจอ

 

 

ช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวด ในขณะเดียวกันเคนก็เริ่มซ่อนตัวไปในฝูงชน

 

 

คามิลล่าหงุดหงิดและตัดสินใจไม่ได้ แต่เมื่อเธอสังเกตเห็น เธอจึงไล่ตามเคน

 

“คามิลล่าคุง ได้ยินไหม?”

 

「เอ๊ะ!」

 

อย่างไรก็ตามเสียงของอาจารย์จิฮัดก็ดังมาจากหินเวทย์

 

“ตอนนี้มีคนติดตามเขาอยู่ เพราะงั้นรีบไปตำแหน่งที่กำหนดเลยเร็วเข้า”

 

คามิลล่าเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินว่า “มีคนติดตาม” ซึ่งตอนแรกเธอไม่รู้เรื่องนี้เลย และไม่รู้ตัวเลยด้วย

 

 

เป็นความจริงที่คามิลล่านั้นความสามารถต่ำกว่าเคนและลิซ่า แต่เธอก็มีผลการเรียนที่สูงมากในชั้นปี 3

 

 

เพราะเธอเคยเอาชนะสัตว์อสูรมาแล้ว เธอจึงประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยินจิฮัดพูดแบบนั้น

 

 

อย่างไรก็ตามพอคิดเกี่ยวกับมันแล้ว ความสามารถของเหล่าอาจารย์ที่ทำการฝึกพิเศษในตอนนั้นก็เป็ฯคนที่รวบรวมและจัดการนักเรียนได้มากที่สุด อาจเป็นธรรมดาที่ไม่รู้สึกถึงการติดตาม

 

「……เข้าใจแล้วค่ะ」

 

บางทีอาจจะไม่ต้องการเธอด้วยซ้ำ

 

 

คามิลล่าส่ายหัวขณะคิดอะไรไม่เข้าท่า

 

 

เป็นที่ทราบกันดีตัวเธอนั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ หากมีผู้ติดตามมากฝีมือ ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากไปยังพื้นที่ๆกำหนด

 

 

เธอเปลี่ยนใจและเปิดกระดาษที่เคนยื่นมาให้

 

 

 

「สวนสาธารณะกลาง……」

 

ที่นั่นมีชื่อที่อยู่ของใจกลางเมืองถูกเขียนเอาไว้

 

สร้างเพจก็ไม่เป็น โอ้ยเนาะ~ น่าสงสารแท้ ไปติดตามผลงานแปลได้ที่เพจเนอะ ส่วนใหญ่แล้วจะอัพหมดแล้วมากกว่านะ ถ้าอยากอ่านแบบฉบับสมบูรณ์ก็ลงไว้อยู่แค่ที่เดียว คือ เว็บนายท่าน ส่วนไฟล์ Google Doc ไม่กล้าปล่อยแล้วครับ กลัวโดนก็อปไปเอา สิริอ่านอีก

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท