บทที่7ตอนที่12
ชายและหญิงสามคนกำลังเผชิญหน้ากันในสำนักงานของจิฮัดที่สถาบันโซลมินาติ
ผู้หญิงในเสื้อคลุมสีขาวและชายสูงอายุในเสื้อผ้าที่เรียบร้อยและชายผู้สูงศักดิ์ผมบลอนด์ผู้สง่างาม
ลูกบอลคริสตัลขนาดใหญ่พอที่จะให้ผู้ใหญ่ถือนั้นถูกวางไว้ด้านหน้าทั้งสามและมีการฉายร่างของจิฮัดกับโนโซมุตรงนั้น
พวกเขาทั้งสองสู้กันด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ อากาศแหลกสลายและพื้นดินก็ระเบิดจากการโจมตีแต่ละครั้ง
และแล้วการโจมตีสุดท้ายของจิฮัดก็ถูกปลดปล่อย
โนโซมุดึงดาบออกจากฝัก
ในเวลาต่อมา โนโซมุก็เห็นใบมีดข้างหน้าที่หนามากซึ่งพุ่งไปข้างหน้าในขณะที่บดทุกอย่างเป็นผุยผง
「เป็นพลังที่แปลกประหลาดอย่างมาก เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมท่านจิฮัดถึงได้ระวัง」
ชายผู้สูงศักดิ์ วิคเตอร์ลูบเคราของเขาและพึมพำเห็นด้วย
「เห็นด้วยเลย โดยเฉพาะท่าคิตอนสุดท้าย นั่นไม่ใช่สิ่งที่เด็กนักเรียนทั่วไปสามารถปล่อยมันออกมาได้เลยล่ะ」
ถัดจากวิคเตอร์ ไฮเบ๋า โฟก้า ชายสูงอายุที่กำลังมองลูกแก้วก็พยักหน้า
น้ำเสียงของเขาเรียบๆ แต่เหงื่อที่หน้าผากบอกความรูัสึกของเขา
「ยิ่งไปกว่านั้น ยังรู้สึกถึงกับวิชาดาบของเขาอีกด้วย……」
ดูเหมือนว่าวิคเตอร์จะสนใจวิชาดาบและพลังของโนโซมุ
นอร์น หญิงสาวในชุดขาวก็พูดหลังจากที่นิ่งเงียบ
「เป็นยังไงบ้างล่ะ」
「ไม่สิ มันวิเศษมากเลย ตอนที่ถูกส่งมาที่นี่ ก็ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น….」
ใบหน้าของไฮเบ๋าพังทลายลงด้วยความชื่นชม ในมือของเขามีรายงานเกี่ยวกับจิฮัดที่เขียนด้วยลายมือ
สิ่งสำคัญที่สุดคือโนโซมุที่เป็นดราก้อนสเลเยอร์ระบุไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังบอกว่าพลังของเขาไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่
「แล้วจะให้ทำยังไงกับ โนโซมุ เบลาตี้ดีล่ะ?」
ไฮเบ๋ายักไหล่ราวกับช่วยไม่ได้เมื่อนอร์นพูดแบบนั้น
「ก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่าปฏิเสธไม่ได้นี่?」
「อืม ไม่อย่างนั้นก็คงไม่โชว์ภาพนี้ให้ดูหรอกใช่ไหม」
ใช่สรุปไม่ได้ว่าจะไม่ให้ความร่วมมือไม่ได้หลังจากมาไกลขนาดนี้แล้ว
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิกเฉย และการกำจัดพลังมังกรนั่นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้
ขณะยืนยันพลังของโนโซมุ แสดงให้เขาเห็นว่าเขาต่อสู้อย่างไร และอยากขอความร่วมมือ
และถ้าต้องการแสดงพลังของโนโซมุให้เห็น ก็มีเพียงคนเดียวที่พอรับมือได้คือจิฮัด
เนื่องจากจิฮัดรู้ว่าเรื่องจะมาแบบนี้แต่แรก เขาจึงตัดสินใจว่ามันคงจะดีแม้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ หากมีคนอื่นช่วยดูแล
「ดี ในฐานะประธานสภาของเมืองอาร์คาซัม จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วย อย่างไรก็ตาม เป็นการดีที่สุดที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลนี้ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ จะคุยกับจิฮัดโดยตรงในภายหลัง」
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น นอร์นก็ยิ้มอย่างพอใจ
「ขอบคุณมากค่ะท่านไฮเบ๋า แล้วเป็นยังไบ้างท่านวิคเตอร์?」
นอร์นยังคงถามวิคเตอร์ซึ่งเงียบไปนานแล้วเพื่อขอคำตอบ
อย่างไรก็ตาม วิคเตอร์หรี่ตาลงและจ้องไปที่บอลคริสตัลสงสัยว่ามีบางอย่างที่จับจ้องเขาอยู่
ภาพนั้นแสดงให้เห็นถึงไอริสที่นั่งอยู่บนพื้นและเอื้อมมือไปหาโนโซมุที่ได้รับการรักษา
「……แน่นอน เห็นด้วยกับการให้ความสำคัญกับเขาและซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้ ชั้นไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากตัวตนที่แท้จริงเขาถูกเปิดเผย จะเก็บรายงานผลนี้เอาไว้ในใจ แต่ว่า……」
「แต่ว่า?」
「……ไม่มีอะไร เดี๋ยวจะไปคุยกับจิฮัดโดยตรงในภายหลัง สำหรับวันนี้จะปล่อยไปก่อน」
วิคเตอร์โบกมือและใช้เวทย์มนตร์ จุดไฟใส่รายงานที่ถืออยู่แล้วโยนลงในเตาผิงของสำนักงาน
จากนั้นเมื่อเขาเหลือบดูรายงานที่ลุกโชน เขาก็หันหลังให้และออกจากสำนักงานไป
「อืม อย่างงั้นหรอกเหรอ? อาจารย์นอร์น ข้าเองก็จะกลับด้วย จะเก็บสิ่งที่เห็นในวันนี้ไว้ในใจเท่านั้น」
เมื่อเห็นบางอย่างจากเบื้องหลังของวิคเตอร์ ไฮเป๋าก็พยักหน้าเล็กน้อย โยนรายงานในมือไปที่เตาผิง และเดินตามวิคเตอร์ออกจากห้องไป
หลังจากจ้องมองไปที่ประตู นอร์นก็ถอนหายใจออกมาแล้วผ่อนคลายไหล่
「……ก็จบไม่สวยเสียเท่าไร ดูเหมือนว่าโนโซมุคุงและพวกเราจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากแล้วล่ะ」
นอร์นพึมพำกับตัวเองให้ห้องสำนักงาน
หลังจากยืนยันว่ารายงานทั้งหมดถูกเผา นอร์นก็เก็บบอลคริสตัลออกจากสำนักงานไป
สำนักงานของจิฮัดเงียบลงในทันใด มีเพียงรายงานที่เผาไหม้ในเตาผิงเท่านั้นที่จุดไฟให้สำนักงานที่มืดมิด
◆◇◆
หลังจากการต่อสู้จำลองกับจิฮัดจบลง การฝึกก็จบลงแล้ว
อย่างที่คาดไว้ วันนี้เล่นแรงไปหน่อย
โนโซมุได้รับการรักษาจากไอริสและคนอื่นๆและเก็บพวกเครื่องมือเวทย์ของจิฮัดมาด้วย
ความประทับใจของจิฮัดที่แลกดาบกับโนโซมุเริ่มต้นจากความผิดพลาดและจบลงด้วยคำพูดไม่กี่คำกับความจำเป็นในการฝึกฝน
「ไม่เคยได้ยินเลยว่าพลังของดราก้อนสเลเยอร์จะถูกพันธนาการไว้ได้ แต่ต่อจากนี้ไป โนโซมุคุงจะต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อควบคุมพันธนาการได้อย่างอิสระ?」
「หากปลดปล่อยพลังของเทียแมตเพียงเล็กน้อย พันธนาการทั้งหมดก็จะหายไป ก็เลยไม่ได้ใช้มันเลย หรือทำได้แค่ควบคุมมันสุดความสามารถประมาณ 5 นาทีเองครับ..อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ แม้ว่าผมจะปลดปล่อยพันธนาการแต่ก็รู้สึกได้ว่าเทียแมตแทรกแซงจิตใจของผมได้ยากขึ้น」
เมื่อชำเลืองมองโนโซมุละสายตาไปและเห็นไอริสและคนอื่นๆเอียงคอ
ในทางกลับกันอินด้าที่ได้ยินเรื่องของโนโซมุก็เอามือปิดปากและคิด
「ไม่หรอกบางทีร่างกายนายอาจจะใช้พันธนาการเพื่อล็อคความสามารถนั่นเอาไว้」
「การป้องกันตัวเองงั้นเหรอครับ……」
「อ่า เมื่อมีคนกำลังจะถูกทำร้าย ผู้คนก็มักจะตอบโต้ เช่นเดียวกับการยกมือหรือหลับตา มันอาจจะเป็นสิ่งที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้นก็เลยสงสัยว่าพลังของเทียแมตจะสามารถโดนผนึกได้ด้วยพลังของมนุษย์เพียงคนเดียวงั้นเหรอ……」
จากข้อมูลของอินด้าดูเหมือนว่ายังเป็นที่น่าสงสัยอีกด้วย ว่าทำไมจึงเน้นไปที่การรักษาจิตใจแทนที่จะรักษาทางกายภาพ โดยปกติจะต้องปกป้องทั้งสองอย่าง
ทำไมโนโซมุถึงระงับพลังของเทียแมตได้ ตัวเขาเองก็สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากคิดอยู่นานก็พอจะได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ สามารถคาดเดาได้ว่าพันธนาการนั้นเกี่ยวกับการที่เทียแมตโดนผนึก
ดูเหมือนอินด้าจะสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน
「ขณะที่โนโซมุคุงหลับไป เราก็ได้ค้นหาวรรณกรรมต่างๆเกี่ยวกับพันธนาการ แต่ไม่มีตัวอย่างอะไรแบบนี้เลย」
จิฮัดกล่าวต่อแทนอินด้าที่กำลังจมอยู่ในความคิด
「ในตอนนี้ ก็จะให้โนโซมุคุงปลดปล่อยพันธนาการทุกวันจากนี้ไปและเผชิญหน้ากับเทียแมต」
「เอ๋!?」
โนโซมุถึงกับตกใจ
จนถึงตอนนี้เขาก็พบกับเทียแมตค่อนข้างบ่อยในความฝัน แต่ก็ค่อยได้คุยกันตรงๆ
ตอนแรกก็เกือบตายทุกครั้งที่ได้เจอกัน จำนวนที่คิดว่าตายไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งหรือสอง
สำหรับโนโซมุมันเป็นข้อเสนอที่ทำให้ค่อนข้างกังวล แต่ว่าก็ยังคงพูดต่อมาโดยไม่ได้คำนึงถึงโนโซมุ
「เทียแมตนั้นเป็นเจ้าของพลังที่โนโซมุคุงครอบครองอยู่ วิธีการที่ดีที่สุดในการเรียนรู้วิธีควบคุมพลังนั้นคือการถามเกี่ยวกับเจ้าของพลังเอง “ตามที่ได้ยินมา จำนวนครั้งที่โนโซมุคุงปลดพันธนาการมีไม่มาก” หากเปิดใจแค่ครึ่งๆกลางๆก็ไม่สามารถปรับร่างกายให้เข้ากับพลังได้หรอก」
สำหรับตอนนี้มันก็สมเหตุสมผล
พลังที่โนโซมุได้รับเป็นของเทียแมต และมันก็สมเหตุสมผลที่จะปลดพันธนาการบ่อยๆเพื่อปรับตัวให้คุ้นชินกับพลัง
อย่างไรก็ตาม ความกังวลของโนโซมุก็ไม่สามารถขจัดออกไปได้
「เอ่อ โอเคไหม?」
「เท่าที่เคยได้ยินมา เคยถูกรบกวนมาแล้วหลายครั้งใช่ไหม ถึงอย่างนั้นนายก็ปลอดภัย ดังนั้นต้องทำอะไรสักอย่างกับมัน」
「ฮะฮะฮะ ไร้เหตุผลเหมือนอาจารย์ผมเลยนะ……」
「พูดมากน่า ! เพราะเรื่องของโนโซมุคุงมันหนักหนาเกินไปต่างหาก!」
「ถ้าไม่ระวัง อาจเป็นไปได้ว่าสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้จะกลืนกินจิตใจของโนโซมุ!?」
ไอริสและซีน่าขึ้นเสียงราวกับขัดจังหวะการสนทนา
บางทีอาจจะกังวลเรื่องของโนโซมุจริงๆ ตอนนี้มีสีหน้าสิ้นหวังมาก
「แน่นอน ว่าพวกเราจะใช้มาตราการป้องกันที่เป็นไปได้ทั้งหมด เนื่องจากมีแบบอย่างในการหลีกหนีการแทรกแซงของเทียแมตด้วยพันธสัญญาของซีน่าคุง เพราะงั้นก็คิดหาวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากจุดนั้นให้มากที่สุด」
แน่นอนว่าจิฮัดอยู่ในฐานะคนประกันเรื่องนั้น
ไม่คิดว่ามันหนักหนาหรอกกับการปลดปล่อยเธอ แต่ถ้าต้องการเผชิญหน้ากับเทียแมตเป็นเรื่องปกติก็มักจะต้องคิดเกี่ยวกับมาตราการรับมือหนึ่งถึงสองไว้ก่อน
โนโซมุต้องการควบคุมเทียแมตให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นอกจากนี้ อินด้าจะนำเสนอแผนรับมือเฉพาะทาง
「โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อประกอบวงเวทย์ที่เหมาะสม ความแข็งแกร่งทางเส้นวงจรเวทย์ที่เชื่อมกันด้วยเวทย์พันธสัญญาสามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยการเตรียมการเบื้องต้นดังกล่าว」
「เห……」
คำอธิบายของจิฮัดและอินด้าทำให้ชัดเจนว่าพวกเขาพิจารณามาตรการรับมืออย่างรอบคอบแล้ว แต่ว่าขวัญกำลังใจของไอริสกับซีน่านั้นลดลง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเหลือบมองโนโซมุข้างๆพวกเธอ เพื่อดูว่าพวกเธอจะสามารถเปลี่ยนใจความคิดของเขาได้ไหม
จิฮัดและอินด้าอธิบายต่อด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส
「ส่งต่อสัญญาให้คนอื่นและแบ่งเบาภาระให้กับเขา นี่ก็เป็นวิธีที่พวกเธอเคยทำ」
「อย่างไรก็ตาม ไม่ควรจะส่งต่อมากเกินไปจนเกินความจำเป็น หากมีคนมากเกินไป วงเวทย์จะซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่การทำงานมันจะไม่คงที่อาจทำให้เกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด」
ฝ่ายตรงข้ามคือเทียแมต จำเป็นต้องสร้างวงเวทย์ที่เผื่อเอาไว้มากๆ
「……ถ้างั้นสามารถทำสูงสุดได้กี่คนครับ?」
โนโซมุขอคำอธิบายเพิ่มเติม
อินด้าคำนวณถึงความยากและขนาดของวงเวทย์ที่ต้องการอย่างรวดเร็วก็ได้คำตอบ
「มันขึ้นอยู่กับความสามารถของซีน่าซัง แต่เมื่อพิจารณาจากจำนวนคนที่โนโซมุได้ประสบพบเจอ ก็น่าจะประมาณสองสามคน รวมถึงคนที่ใช้เวทย์พันธสัญญาด้วยนะ」
สองหรือสามคนคำนวณจากจำนวนคนที่เชื่อมต่อพันธสัญญาของโนโซมุที่คลั่ง
เมื่อเร็วๆนี้เวทย์ภูติของซีน่าได้รับการขัดเกลามากขึ้น แม้แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าจะยืมพลังของทิม่าและอุปกรณ์เวทย์ แต่ก็ได้สร้างเครือข่ายการสื่อสารขนาดใหญ่ทั่วอาร์คาซัม
เมื่อพิจารณาถึงความสามารถของซีน่าแล้ว อินด้าจึงตัดสินใจเลือกจำนวนนี้เพื่อความปลอดภัย
จิฮัดจ้องมองไปที่โนโซมุอย่างแน่วแน่ สายตานั้นกำลังถามโนโซมุว่าจะทำการฝึกนี้หรือไม่
「……เข้าใจแล้ว มาฝึกกันเถอะครับ」
「โนโซมุคุงแน่ใจนะ?」
ขณะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง โนโซมุก็ยอมรับข้อเสนอของจิฮัดอยางชัดเจน
ซีน่าขมวดคิ้วใส่เขา
「อืม เอาเถอะ ผมว่าผมเองก็ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว」
จนถึงตอนนี้ส่วนใหญ่โนโซมุพบกับเทียแมตโดยบังเอิญในรูปแบบของความฝัน หรืออีกฝ่ายหนึ่งนั้นแทรกแซงโนโซมุ โนโซมุเองไม่เคยพบกับเทียแมตเลย
แต่ว่าจะปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ โนโซมุเองก็เข้าใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เป็นการฝึกที่ไม่สามารถทำได้โดยปราศจากความร่วมมือของซีน่า โนโซมุเหลือบมองเธอราวกับถามความสมัครใจ
「……เข้าใจแล้ว ถ้าโนโซมุคุงพูดถึงขนาดนั้น ฉันเองก็จะให้ความร่วมมือ」
ถ้าปฏิเสธก็ช่วยไม่ได้ โนโซมุคิดแบบนั้น แต่แปลกใจที่ซีน่ายอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี
「……โอเคงั้นเหรอ?」
「ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเนี่ย นายฝึกได้โดยไม่มีฉันงั้นเหรอ?」
「อืม นั่นสินะ……」
โนโซมุโดนถามกลับด้วยความประหลาดใจ
ในทางกลับกันซีน่ายักไหล่และแสดงท่าทีที่ทำอะไรไม่ถูก แต่มีรอยยิ้มตามธรรมชาติ บนริมฝีปากของเธอ
ด้วยรอยยิ้มที่สดใสราวกับน้ำพุ ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของความวิตกกังวลหรือความไม่พอใจ
เมื่อรวมกับรูปลักษณ์ดั้งเดิมของเธอแล้ว สร้างบรรยากาศที่เหมือนราวกับเทพธิดา
โนโซมุรู้สึกว่าแก้มของเขาร้อนขึ้น
「ในกรณีนั้น อาจารย์อันริและข่าน่าจะเหมาะกับบทบาทในการช่วยลดภาระ」
จิฮัดดำเนินบทสนทนาต่อไปเนื่องจากเขาได้รับความยินยอมจากโนโซมุ หลังจากนั้นก็เลือกคนมาแบ่งเบาภาระให้กับโนโซมุ
เขาแนะนำตัวเองกับอันริเพื่อแบ่งเบาภาระของโนโซมุ
เมื่อพิจารณาว่าอินด้าจะต้องสนับสนุนซีน่าด้วยเทคนิคต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม มีคนหนึ่งที่หยุดคำพูดของจิฮัด นั่นคือไอริส
「ฉันจะทำมันเองค่ะ!」
โนโซมุและเพื่อนๆคนอื่นๆต่างเบิกตากว้างเมื่อได้ยินน้ำเสียงตึงเครียดซึ่งปกติเธอมักจะสงบนิ่ง
ในทางกลับกันไอริสโดนจิฮัดจ้องมองจากด้านหน้า
「บทบาทนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเติมเต็มได้ด้วยความแข็งแกร่งทางจิตใจ ข้าคิดว่าเจ้าพยายามมามากพอแล้ว?」
「ในอดีต ฉันเองก็เคยทำพันธสัญญากับโนโซมุค่ะด้วยเวทย์ของซีน่าคุง และก็ดำเนินการแบบเดียวกัน ขณะนั้นเองก็ประสบความสำเร็จในการลบความกดดันจากเทียแมตค่ะ」
จิฮัดพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมอย่างไรก็ตาม ไอริสก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
「นอกจากนี้ ฉันน่ะ……」
คำพูดที่เธอเคยตะโกนใส่เทียแมต ซึ่งเทียแมตที่กำลังจะเข้ามาแทรกแซง ฟื้นขึ้นมาในความคิดของเธอ
มันเป็นความปรารถนาและคำปฏิญาณของเธอ
อยู่เคียงข้างเขาคอยสนับสนุนเขา ความจริงใจของเธอที่ไม่ยอมแพ้ที่จะทำตามสัญญาที่โนโซมุเคยช่วยน้องสาวเธอเอาไว้
「……นี่คือความประสงค์ของฉันค่ะ ไม่อยากจะยกมันให้ใคร」
น้ำเสียงไม่ได้ดัง แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูสง่างามและดวงตาที่จริงใจของเธอได้ถ่ายทอดมันอย่างตรงไปตรงมา
จิฮัดอาจยอมทำตามเจตจำนงของไอริส ดังนั้นเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วคลายไหล่ของเขาราวกับว่าช่วยไม่ได้
「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันกับไอริสคุงน่ะ……」
「เข้าใจแล้ว~ฉันและไอริสจะเป็นคนเชื่อมโยงพันธสัญญากับโนโซมุคุง~」
คราวนี้อันริขัดจังหวะการตัดสินใจจิฮัด
ปากของจิฮัดจ้องไปที่อันริอีกครั้ง
「อาจารย์อันริ……」
「ขอโทษน้าาาา~แต่โนโซมุคุงเป็นลูกศิษย์ของฉัน~บทบาทนี้ไม่สามารถมอบให้แก่ท่านจิฮัดได้เน้อ~」
น้ำเสียงยังคงช้าเหมือนเคย อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังน้ำเสียงนั้นความตั้งใจของเธอกำลังไหลออกมา เช่นเดียวกับไอริส
「เฮ้อ…เข้าใจแล้ว」
「ขอบคุณน้า~」
จิฮัดส่ายหัวราวกับว่าเขาทำอะไรไม่ได้ ดูเหมือนว่าด้านหลังจะแสดงความเศร้าโดยไม่รู้ตัว
โนโซมุรีบเดินไปที่ด้านข้างของไอริสและพูดด้วยเสียงที่ต่ำจนคนรอบข้างไม่ได้ยิน
「ไอริส ไม่เป็นไรแน่นะครับ?」
「อะไรงั้นเหรอคะ?」
「เอ่อ คือ ว่าเกี่ยวกับอาจารย์จิฮัด」
「อะไรงั้นเหรอคะ?」
เสียงของไอริสไม่สั่นคลอนเลยไม่เหมือนกับน้ำเสียงกังวลของโนโซมุ
แก้มของเธอดูจะแดงเล็กน้อย แต่ยากที่จะบอกได้ในป่าที่มืดมิด
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะฟังดูเรียบๆ แต่ก็มีน้ำเสียงที่ชัดเจน และก็สัมผัสได้ว่าดูจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง
「ไม่ใช่แบบนั้นนะ……」
โนโซมุไม่อยากให้ไอริสและซีน่าต้องมาเสี่ยง
อันที่จริงตอนที่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ พวกเธอต้องมาเสี่ยงชีวิตจริงๆ
ดังนั้นโนโซมุเลยไม่อยากให้พวกเธอทำอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล
“ไม่เป็นไรแล้ว จงยึดมั่นในพวกพ้อง”
ไอริสพูดแบบนั้นใส่โนโซมุราวกับพยายามขัดขวางเขา
「ตามที่ฉันบอกกับอาจารย์จิฮัด นั่นคือความประสงค์ของดิฉันค่ะ ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ」
คำพูดของไอริสไม่สามารถปฏิเสธได้ โนโซมุรู้สึกทึ่งกับการที่เธอยึดมั่นในตัวเอง
「แต่ว่า……」
แต่ว่า? เมื่อโนโซมุเอียงคอด้วยความสงสัย ไอริสก็แสดงใบหน้าเศร้าๆเล็กๆหลังจากบรรยากาศดีอกดีใจเมื่อกี้
「เพราะฉะนั้นอย่าได้โกหกอีกนะคะ เหมือนในครั้งนั้น……」
เธอพึมพำด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาจนมีเพียงโนโซมุที่ได้ยิน
「เอ๋……」
“คำพูดในครั้งนั้น” นั่นเป็นคำพูดที่ให้สัญญากันเอาไว้
“ผมเองก็จะปกป้องแผ่นหลังของเธอ!เธอเองก็ต้องปกป้องแผ่นหลังของผมด้วยนะ!!”
นั่นเป็นคำพูดที่เชื่อมโยง โนโซมุและไอริสเข้าด้วยกันอย่างแน่นอน
ถ้าผิดสัญญาอีก แม้แต่โนโซมุก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้แล้ว
พวกเขายังกังวลอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน โนโซมุก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นจากใจ
แต่นั่นคือเหตุผลงั้นเหรอ? อดไม่ได้ที่จะคิดถึงใบหน้าของเธอที่กำลังกังวลอยู่
◆◇◆
ระหว่างทางกลับบ้าน โนโซมุและคนอื่นๆเดินผ่านป่า ผ่านกำแพงของอาร์คาซัม และเดินไปตามขอบด้านนอก
บริเวณโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดแล้ว
หลังจากฝึกฝนที่กระท่อมของชิโนะ เราก็ทำความสะอาดจนเสร็จ แต่เราไม่สามารถทำอะไรกับป่าทีพังทลายได้ เราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยทิ้งเอาไว้
กระท่อมของชิโนะตั้งอยู่เข้าไปในป่าลึก และถูกปกคลุมด้วยบาเรีย ดังนั้นไม่น่าจะมีใครสังเกตเห็น แต่โนโซมุพูดด้วยรอยยิ้มที่ตึงเครียดว่าเขามีเรื่องที่ต้องทำความสะอาดอีกมากมาย
「โอ้ยเจ็บ….เพราะใช้พลังนั่น เลยทำให้ร่างกายกรีดร้องเลยเนี่ย」
ความเจ็บปวดไหลผ่านร่างกายของเขา ท้ายที่สุดแม้จะได้รับการรักษา พลังของเทียแมตก็สร้างผลกระทบต่อร่างกายของโนโซมุ
แม้ว่าบาดแผลบนผิวจะหายได้ แต่ภาระอยู่ภายในแกนกลางของร่างกาย
ในขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นว่าโนโซมุเองก็ยังสามารถควบคุมพลังของเทียแมตได้อย่างเต็มที่
「เมื่อพิจารณาถึงแหล่งที่มาของพลังของเขาแล้ว มันอาจจะเป็นเพียงแค่โชค แต่ถาระของนโนโซมุคุงนั้นมากเกินไป……」
「ก็ไม่เปลี่ยนที่ยังคงเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ไม่สามารถลดความระมัดระวังลงได้ อันที่จริงเทียแมตก็พยายามจะหลอกนายมาหลายวิธีแล้ว」
โนโซมุพยักหน้เงียบๆกับคำบ่นของเพื่อนๆ
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาพูด มีบางอย่างที่กวนใจโนโซมุ
(เกิดอะไรขึ้นในอดีตที่ทำให้เทียแมตเปลี่ยนไปมากขนาดนี้?)
ฉากจากอดีตของเทียแมตที่นึกขึ้นได้ในใจของโนโซมุ
มังกรดำสาวที่เหมือนจะมีช่วงเวลาที่ดีในกลุ่มเพื่อนๆของเธอ
หลังจากแสดงฉากอันแสบอบอุ่นหัวใจ ก็กลายเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าสยดสยองที่ไม่อาจจินตนาการได้ ร่างของเทียแมตพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะดึงดูดเหล่าสหายที่กำลังประณามการกระทำของเธอ
เทียแมตตกสู่ห้วงเหวแห่งความสิ้นหวังด้วยการพูดคุยที่ไมลงรอย
(……ถูกทรยศโดยเพื่อนของตัวเอง? ที่ถูกกล่าวหาว่ามีหลายจุดที่เข้าใจได้ยาก หรือมีอย่างอื่นอีก?)
ความรู้สึกใกล้ชิดกับเทียแมตที่เขารู้สึกเมื่อไม่นานนี้ อย่างไรก็ตาม ความหวาดระแวงของมังกรที่หลับไหลอยู่ภายในตัวก็ไม่สามารถลบล้างไปได้
「เฮ้อ……」
ดูเหมือนจะแชร์ความรู้สึกร่วมกันไม่ได้
ตั้งแต่เขามีความฝันนั้น เขาก็ถูกหลอกหลอนด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
พยายามสลัดความรู้สึกไม่พอใจออกไป โนโซมุเหลือบมองเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆ
เป็นความจริงที่แค่คิดถึงการพบกับเทียแมตทำให้ร่างกายของเขาตึงเครียดแต่น่าแปลกที่พลังงานส่วนเกินทั้งหมดออกจากร่างกายของเขาทันที
บางทีเมื่อสังเกตเห็ฯการจ้องมองของโนโซมุ ไอริสก็เอียงคอด้วยความสงสัย
「โนโซมุ เป็นอะไรไปเหรอคะ?」
แก้มของเธอดูร้อนรนขึ้น โนโซมุเองก็เหมือนกัน เลยละสายตาจากเธอ
「เอ่อมีหลายเรื่องที่ไม่ชัดเจน……」
ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาต้องการที่จะอยู่กับเพื่อนๆของเขา
เด็กสาวผมดำผู้สง่างาม เด็กสาวที่มีรอยยิ้มน่ารักราวกับดวงอาทิตย์ เอลฟ์งามดุจเทพธิดาที่บริสุทธิ์ดั่งดวงจันทร์ เพื่อนสนิทที่บ้าระห่ำ เพื่อนผู้หญิงที่ทำตัวโง่ๆ และครึ่งสัตว์ทั้งสองที่เป็นตัวป่วนกับเพื่อนร่วมชั้นที่เล่นแร่แปรธาตุ
คนเหล่านี้เป็นคนสำคัญที่โนโซมุไม่อยากเสียไป
「นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เทียแมตที่สร้างปัญหา……」
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาคิดถึงไอริสและคนอื่นๆมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้นึกถึงลิซ่ามากขึ้น
ในเวลาเดียวกันสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เข้ามาในอกของโนโซมุ
ยังไงก็ต้องหาเวลาคุยกันดีๆ
ขณะที่โนโซมุคิดอย่างนั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคย
「ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ท่านไอริสดิน่า คุณหนูโซลมิเลียน่า ดิฉันกำลังรออยู่เลยค่ะ」
เมื่อโนโซมุหันไปทางที่ถูกเรียก มีหญิงวัยกลางคนสวมชุดเมดยืนอยู่ตรงทางเข้าเมือง
เธอพับมือที่ต่ำลงและก้มศีรษะลงต่ำมาก
เป็นคนที่โนโซมุไม่เคยพบมาก่อน
อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าที่สวมดูคุ้นเคย เป็นชุดเดียวกับที่ทำงานให้บ้านฟรานซิส
「เอ่อ….เป็นใครงั้นเหรอครับ?」
「ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ดิฉันมีชื่อว่ามีนาและฉันเป็นหัวหน้าเมดที่รับใช้นายท่านวิคเตอร์ ขอบคุณที่ช่วยดูแลเหล่าคุณหนูนะคะ」
「เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักครับ……」
โนโซมุก้มหน้ารับคำทักทายอย่างสุภาพโดยไม่ได้ตั้งใจจากผู้หญิงที่เรียกว่ามีนา
เมื่อหญิงคนนั้นก้มศีรษะลง โนโซมุก็ก้มตาม
ในทางกลับกัน ไอริสและโซเมียซึ่งรู้จักดีก็ตกใจกับการปรากฏตัวของบุคคลที่ไม่ควรมาที่นี่
「……มีนา ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ」
คำพูดของไอริสที่รั่วไหลออกมา ราวกับจะดุ
「ก็เพราะดิฉันมาที่เมืองนี้ไงล่ะคะ」
「เอ่อ ท่านพ่อคะ…」
ชายวัยกลางคนที่มีเคราสีทองสดใสปรากฏขึ้นด้านหลังเมด
แม้ว่าเขาจะสวมชุดที่ดูหรูหราในแวบแรก แต่การตกแต่งก็ดูเบาบาง
แต่ที่สำคัญที่สุด สิ่งที่ทำให้โนโซมุประหลาดใจก็คือไอริสเรียกชายที่อยู่ตรงหน้าว่าท่านพ่อ
หัวหน้าคนปัจจุบันของตระกูลฟรานซิส แม้แต่โนโซมุก็เคยได้ยินชื่อเสียงนั้นมาก่อน
ผู้ติดตามผู้ภักดีที่แนะนำให้กษัตริย์แห่งฟอร์ซิน่าส่งกองทัพโดยเร็วที่สุดในช่วงการบุกรุกครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ตัวเขาเองยังเป็นคนที่ยื่นมือช่วยเหลือไปยังประเทศที่ถูกสัตว์อสูรรุกราน
「ไม่เจอกันนานเลยนะไอริสดิน่า ยิ่งโตยิ่งเหมือนฟิลาน่า สวยขึ้นมากเลยนะ」
「ไม่หรอกค่ะท่านพ่อ ดิฉันดีใจนะคะที่ท่านพ่อสุขภาพแข็งแรง」
เมื่อวิคเตอร์เห็นลูกสาวสุดที่รักเติบโตขึ้นอย่างสวยงาม ใบหน้าเคร่งขรึมก็ผ่อนคลายลง
ไอริสที่มีดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ยิ้มอย่างเขินอาย
「ท่านพ่อ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ!」
「อ๋า โซเมีย ลูกเองก็โตขึ้นแล้วสินะ ขอโทษนะที่พ่อไม่มีเวลาว่างมาเจอลูกเลย」
หลังจากยืนยันการปรากฏตัวของพ่อ โซเมียก็รีบวิ่งเข้าไปหาเขาอย่างกระตือรือร้น
วิคเตอร์อุ้มลูกสาวขึ้นมาและลูบหัวเธอเบาๆขณะที่ยิ้มกว้าง
「ท่านพ่อ มันจั๊กจี้นะคะ」
「ขอโทษ ขอโทษ โซเมียเองก็น่ารักขึ้นมากเลยนะ อุมุแต่ว่าตัวยังเบาเหมือนขนนกเลย」
「ง่าาา~! ท่านพ่อ หนูเองก็โตแล้วนะคะ!」
「อืม ! ทราบดีอยู่แล้ว โซเมียเป็นลูกสาวที่น่ารักและจะต้องเป็นผู้หญิงที่วิเศษมากแน่นอนเลยล่ะ」
「ใช่แล้ว ! หนูน่ะจะโตเป็นผู้หญิงที่วิเศษค่ะ!」
โซเมียยิ้มด้วยความพึงพอใจและกอดพ่อเธอเต็มแรง
ไม่ว่าเธอจะมีความสุขมากที่ได้พบพ่อของเธอ เธอก็ตื่นเต้นมากกว่าปกติ
「ท่านพ่อ ! แล้วเรื่องงานเป็นยังไงบ้างค่ะ?」
「อ่า ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะมีมีนาคอยดูแลให้น่ะ。」
ไปที่ไหนมาบ้าง? เกิดอะไรขึ้นบ้าง? เป็นยังไงบ้าง?
คำถามของโซเมียผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และวิคเตอร์ก็คุยกับลูกสาวอย่างมีความสุข
ไอริสที่นั่งฟังอยู่ข้างๆก็ยิ้มให้กับการรวมตัวกันของครอบครัวหลังจากผ่านไปนาน
ในทางกลับกันโนโซมุและคนอื่นๆถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยสิ้นเชิง
ปล่อยให้พวกเธอได้อยู่ในโลกส่วนตัวสักพักเพราะนี่เป็นการพบกันของพ่อลูก แต่การสนทนาดูท่าจะไม่จบ
ไม่กล้าจะเข้าไปพูดคุยเลย
「ท่านพ่อ ที่นี่คือในตัวเมือง อย่ากอดโซเมียแบบนั้นสิคะ……」
ไอริสสังเกตเห็นว่าโนโซมุและคนอื่นๆสงสัยว่าจะต้องทำอะไร จึงเรียกร้องวิคเตอร์กับโซเมีย
「อะขอโทษ」
「อืม ขอโทษ」
ด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว วิคเตอร์ค่อยๆปล่อยโซเมียลงกับพื้น
บางทีโวเมียอาจจะอายที่ตื่นเต้นต่อหน้าโนโซมุ ดังนั้นเมื่อเธอถูกปล่อยจากอ้อมแขนของพ่อ แก้มของเธอก็กลายเป็นสีแดงสด และเธอก็ก้มลงหลบหลังพี่สาวของเธอ
「ถ้างั้นก็จะขอแนะนำตัวนะครับ ชั้นมีนามว่าวิคเตอร์ บาเรนท์ ฟรานซิส เป็นพ่อของไอริสดิน่าครับ」
「ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผม โนโซมุ เบลาตี้ครับ」
「ข้า มาร์ ดิกเก้น」
「เอ่อ ดิฉัน ทิม่า ไลม์……」
「ซีน่า จูเลียต」
หลังจากนี่โนโซมุและคนอื่นๆแนะนำตัวเองสั้นๆ วิคเตอร์ก็พยักหน้า
「อา เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเธอมาแล้วล่ะ ดูเหมือรว่าลูกสาวของชั้นจะได้รับการดูแลในหลายๆด้านเลยนะ」
「เอ่อ…ฝ่ายพวกเราต่างหากที่โดนคอยดูแลเสมอ……」
「ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงมาที่อาร์คาซัมละค่ะ?」
「เอ๋? ก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอันใดเป็นพิเศษเพราะอยากจะเจอหน้าลูกสาวมาดูเหมือนเป็นยังไงบ้างใช่ไหม? ก็จริงที่มาทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่บ้าง……」
วิคเตอร์ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลกที่จะมาเยี่ยมลูกสาว แต่เมื่อสังเกตเห็นจิฮัดที่ใกล้กับโนโซมุก็เลยรีบเข้าหาและพูดคุย
「ท่านจิฮัด ตอนนี้ชั้นเข้าใจ “สถานการณ์”แล้ว ชั้นจะตรวจสอบมันก่อนหน้านี้ พรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกัน」
「เข้าใจแล้ว พรุ่งนี้เจอกันที่ออฟฟิศ ไว้เจอกันนะทุกคน」
หลังจากแลกเปลี่ยนคำพูดกันไม่นาน จิฮัดก็กลับไปที่สถาบันกับอินด้าและอันริ
「ท่านพ่อทำอะไรงั้นเหรอคะ?」
「เอ่อพอดีไม่ได้มีเรื่องยากจะคุยกับท่านจิฮัด ก็เลยบอกไปว่าวันนี้มืดแล้วค่อยคุยกันใหม่พรุ่งนี้」
วิคเตอร์บอกปัดราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่
「กลับบ้านกันเถอะ เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้ทานอาหารเย็นกับลูกสาว โอ้ใช่ทำไมไม่พาพวกเพื่อนๆมาด้วยล่ะ?」
「เอ๋!?」
โนโซมุและคนอื่นๆถึงกับผงะ
อีกฝ่ายเป็นขุนนางผู้มากชื่อเสียง ซึ่งไอริสเป็นลูกขุนนางคนนั้น แต่วิคเตอร์ก็ไม่ได้ใส่ใจและดูเหมือนจะให้ความสำคัญเรื่องเพื่อนของไอริสมากกว่า
นอกจากนี้ มันเป็นการรวมตัวกันของครอบครัวหลังจากที่หายไปนาน ยังต้องการให้พวกเขาทำตัวสบายๆโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับตัวเอง
บางทีเมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของโนโซมุ วิคเตอร์ก็ยิ้มที่ริมฝีปากราวกับจะบอกว่าอย่ากังวลไปเลย
「เป็นโอกาสอันดีที่อยากจะได้ยินเรื่องราวของลูกสาวในสถาบันเป็นอย่างไร หวังว่าจะไม่ใช่เป็นพวกทอมบอยกันหมดแล้วนะ……」
「นี่พ่อค่ะ!」
ไอีิสขึ้นเสียงด้วยความเขินอาย เมื่อวิคเตอร์ยิ้มแบบซุกซน
วิคเตอร์ยังคงยิ้มขณะที่มองไปทางลูกสาว
「อืมพวกเราไปได้งั้นเหรอครับ?」
「ถ้าไม่ไปละก็แย่เลย อุตสาห์ให้พวกเมดเตรียมการไว้แล้ว หากปฏิเสธล่ะงานหนักพวกเมดแหงๆ?」
ดูเหมือนว่าตั้งใจจะเชิญพวกโนโซมุตั้งแต่ต้น
ถ้าพูดถึงขนาดนี้โนโซมุก็ปฏิเสธไม่ได้
「เข้าใจแล้ว」
「อืม ไปกันเถอะ」
วิคเตอร์ยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบของโนโซมุและเริมเดินไปพร้อมกับลูกสาวของเขา
โนโซมุเดินตามหลังพวกเขาไป และมีนาก็เดินไปในที่สุด
กลุ่มขุนนาง นักเรียน และเมดที่แปลกประหลาดสะดุดตาอย่างเป็นธรรมชาติ
โนโซมุและคนอื่นๆเดินไปที่คฤหาสน์ฟรานซิสผ่านอาร์คาซัมที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดยามค่ำคืนขณะที่ชาวบ้านต่างมองผ่านหน้าต่าง