สิ่งแรกที่โนโซมุและผองเพื่อนได้รับการแนะนำก็คือการเข้าไปในบ้านของตระกูลฟรานซิสเพื่ออาบน้ำ
นี่ถือเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับพวกโนโซมุ เนื่องจากเขาฝึกฝนอยู่ในป่ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นร่างกายของเขาจึงเต็มไปด้วยเหงื่อและสิ่งสกปรก
อย่างไรก็ตามพวกเขาเองก็ทำใจให้สงบไม่ได้เพราะโรงอาบน้ำอันใหญ่โตของตระกูลฟรานซิส ซึ่ง สามารถเข้าไปแช่ได้ทั้ง ทอม โนโซมุ และมาร์ พวกเขาต่างอยู่ไม่สุขตลอดเวลา
คนเดียวที่กำลังสนุกสนานอยู่ก็คือฟีโอที่ไม่อ่านบรรยากาศรอบข้าง
ยังมีหลายสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจอีกมากมาย
เมื่อผมลงแช่ที่อ่างอาบน้ำ มีสาวใช้จำนวนมากมาช่วยแต่งตัวให้ผมไปรับประทานอาหารเย็น
โนโซมุและเพื่อนๆในตอนนี้ต่างอยู่ในชุดทักซิโด้ซึ่งเป็นชุดสำหรับชนชั้นสูง
พูดตรงๆเลย มันเป็นของราคาแพงสำหรับโนโซมุและผองเพื่อน ไม่มีเงินจะจ่ายซื้อชุดแพงๆแบบนี้หรอก ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมไซส์ของเสื้อผ้ามันถึงได้พอดีกับทุกคนขนาดนี้
แล้วไปทำชุดมาตั้งแต่ตอนไหน?
แม้ว่าโนโซมุจะสับสนเล็กน้อยกับการที่สวมชุดทางการเป็นครั้งแรก แต่เขาก็ต้องประหลาดใจกับการที่ตระกูลฟรานซิสกล้ามอบชุดแพงๆให้กับพลเรือนทั่วไป
แต่สิ่งที่ทำให้ผมกังวลมากที่สุดก็คือตอนออกมาจากโรงอาบน้ำก็ถูกรายล้อมด้วยเมดเกือบ 10 คน
ทุกคนต่างกล่าวว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยทุกท่านในการแต่งตัวและมารับใช้พวกคุณค่ะ”
มาร์และคนอื่นๆเองก็ต่างเขินอายกับการที่มีเมดมาหาพวกเขา
โนโซมุและผองเพื่อนต่างพยายามเต็มที่ที่จะซ่อนความเขินอาย แต่สุดท้ายก็โดนเหล่าเมดจับแต่งตัวกันไปทีละคน บอกตามตรงมันเหนื่อยยิ่งกว่าให้ไปซ้อมกับจิฮัดเสียอีก
หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว โนโซมุและเพื่อนๆก็ไปที่ห้องรับประทานอาหาร
สถานที่ที่เคยจัดงานเลี้ยงในวัดเกิดของโซเมียมาก่อน ในห้องรับประทานอาหารที่มีขนาดใหญ่จนน่าขันนั้น วิคเตอร์กำลังนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะยาวที่มีไว้สำหรับปาร์ตี้ กำลังนั่งรอเหล่าโนโซมุและคนอื่นๆอยู่
「มากันแล้วงั้นเหรอ? อืม ช่างเหมาะจริงๆเลยนะ」
「เอ่อมันดีเหรอครับ ที่ให้เสื้อผ้าแบบนี้กับพวกเรา……」
「ไม่ต้องกังวลนี่เป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านที่ต้องสร้างความบันเทิงให้กับแขก」
โนโซมุถ่อมตัวกับเสื้อผ้าที่ได้รับมา แต่วิคเตอร์ดูไม่ได้กังวลเป็นพิเศษ
「นอกจากนี้ อย่าลืมเสียล่ะ ว่าแต่ละชิ้นไม่ใช่ถูกๆ เพราะงั้นก็จงแต่งตัวให้สมเกียรติในฐานะที่เป็นแขกเถอะ」
「เอ่อ ผมเองก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสเช่นนี้……」
ในสังคมชั้นสูง คุณภาพของเสื้อผ้าและเครื่องประดับสะท้อนถึงฐานะทางสังคม
เป็นเครื่องมือที่เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ต่อสู้กับสังคมชั้นสูง
อย่างไรก็ตาม สิ่งพวกนี้เป็นไปไม่ได้ที่โนโซมุจะเข้าถึงมันได้
「ไม่ต้องเข้าใจในทันทีก็ได้ ถ้าได้เรียนจบจาดสถาบันแล้วและต้องสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะเข้าใจเองแม้ว่าจะไม่ชอบก็เถอะนะ」
「ครับ……」
เป็นเรื่องจริงที่คนมีชื่อเสียงส่วนมากใส่ของแพงๆ เพื่อบ่งบอกสถานะของพวกเขา อย่างไรก็ตาม โนโซมุที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อหลังจากเรียนจบก็ได้แต่ตอบส่งเดช
ถึงแบบนั้น โนโซมุก็รู้สึกแปลกๆกับคำพูดของวิคเตอร์
「ไอริสดิน่า กับคนอื่นๆยังไม่มาเหรอครับ……」
「ก็นะ สาวๆน่ะต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวสักหน่อย」
ดูเหมือนว่าไอริสดิน่าและคนอื่นๆ จะต้องใช้เวลาแต่งตัวพอสมควร วิคเตอร์นั้นไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนั้นและมองไปที่เตาผิง
「ก็นะคงใช้เวลาอีกสักพักเลย ถ้างั้นพวกเราก็มาคุยกันจนกว่าสาวๆจะพร้อมดีกว่านะ? ข้าเองก็มีเรื่องอยากจะถาม」
「อยากจะถามอะไรงั้นเหรอครับ?」
「ก็แบบว่า ข้าเองก็อยากได้ยินเรื่องลูกสาวของข้าว่าถูกล่ำลือยังไงในเมืองนี้ แม้ข้าจะดูเป็นแบบนี้แต่ข้ากเป็นพ่อแม่ของพวกเธอนะ」
「เข้าใจแล้วครับ」
วิคเตอร์กำลังรอคำตอบจากโนโซมุด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าอันเข้มงวด
「นั่นสินะครับ ไอริสดิน่า ผลการเรียนของเธออยู่ในระดับสูงสุดทั้งด้านวิชาดาบและด้านวิชาการ แถมในด้านเวทมนตร์ยังมีพรสวรรค์มากๆด้วย แต่เธอก็ไม่เคยหยิ่งผยองกับพลังที่เธอมี อันที่จริงเวทมนตร์ของเธอเป็นเวทย์ที่พิเศษกว่านักเรียนคนอื่นๆจนไม่ต้องร่ายออกมาเลย
เธอยังมีคนมาชอบอีกตั้งมากมาย หลายๆคนก็ต่างมาสารภาพรักกับเธอ
เธอเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก และแม้ว่าบางครั้งจะดูหยาบกระด้างไปบ้าง แต่เธอก็ได้รับความเคารพจากบรรดารุ่นน้องที่ติดตามเธออยู่เสมอ มีหลายครั้งที่รู้สึกสับสนยามที่เธอพูดถึงโซเมีย……」
วิคเตอร์พยักหน้าขณะฟังเรื่องราวจากโนโซมุ
「โซเมียจัง….อืมสำหรับโซมิเลียน่ากำลังทำอะไรในชั้นเรียนผมเองก็ไม่อาจทราบได้เพราะพวกเราเรียนกันคนละอาคารเรียน แต่เธอเป็นคนที่ขยันขันแข็งและอัธยาศัยดี เธอมีเพื่อนสนิทมากมาย และเมื่อเร็วๆนี้ดูเหมือนเธอจะพยายายามอย่างหนักกระทั่งเลิกเรียนแล้ว เธอยังไปค้นคว้าที่ห้องสมุด ดูเหมือนเธอจะมีความสุขกับชีวิตในสถานบันนะครับ」
เมื่อวิคเตอร์ได้ยินเช่นกันก็พูดว่า “เข้าใจแล้ว” และเริ่มเอามือเท้าคาง
บางทีอาจจะเพราะได้รับผลกระทบจากความสง่างามนั่น ทำให้โนโซมุรู้สึกสั่นเล็กน้อย
ในขณะนั้น ฟีโอก็เข้ามาและตัวของเขาก็สั่น
เขาจ้องมองที่ประตูห้องรับประทานอาหาร ดวงตาเป็นประกาย ราวกับสุนัขที่ถูกทิ้งไว้ก่อนงานเลี้ยง
「เฮ้ย ไอ้จิ้งจอกนี่ ทำไมส่งเสียงกรนดังแบบนั้น」
มาร์ที่อยู่ใกล้ๆก็เตือนฟีโอ
ตอนนี้ทั้งมาร์และฟีโอต่างสวมชุดทางการเช่นเดียวกับโนโซมุ
มาร์สวมชุดทักซิโด้ที่มีสีขาวเป็นหลัก ผมสีบลอนด์ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกเหมือนขุนนางจริงๆ
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาพูด น้ำเสียงหยาบคายตามธรรมชาติของเขาก็หลุดออกมา ทำให้กลายเป็นเหมือนพวกขุนนางกร่าง
ฟีโอเองก็สวมชุดทักซิโด้สีขาวแบบเดียวกับมาร์ อย่างไรก็ตาม เขาสวมสร้อยคอเงินรอบๆคอด้วย
ร่างกายของเขาเพรียวบางเมื่อเทียบกับมาร์ แต่ไม่ได้ดูอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย เมื่อมองจากด้านข้าง ก็เหมือนกับพวกพ่อค้าผู้มากพรสวรรค์
「แน่นอน สาวๆน่ะจะต้องแต่งตัวแจ่มๆออกมาแน่ ข้าน้อยกำลังรอส่องอยู่เด้อ!」
「ไอ้หมอนี่มันไร้ซึ่งความอดกลั้นซะไม่มี……」
อย่างไรก็ตาม แม้จะสวมชุดราคาแพง ฟีโอก็ยังเป็นฟีโอ แม้ว่าจะดูเด่น แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับความบันเทิงของตัวเองเป็นอันดับแรก
เครื่องแต่งกายของทอมเป็นทักซิโด้สีดำแบบเดียวกับโนโซมุ
เมื่อทอมที่มีรูปร่างเล็กตามธรรมชาติสวมใส่มัน ก็ทำให้เขาดูเป็นหนุ่มหล่อขึ้นมาในทันที
ทอมสวมชุดราคาแพงในท่าทีคุ้นเคย และอาจเป็นเพราะได้อยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลฟรานซิสด้วยแล้ว เขาจึงดูกระสับกระส่ายเป็นกังวลและมองไปรอบๆ
「นี่ โนโซมุรู้ไหมว่าเจ้าหญิงผมดำ ซีน่า และคนอื่นๆจะแต่งตัวแบบไหนงั้นเหรอ?」
「ถามบ้าอะไรน่ะ……!」
ดูเหมือนฟีโอจะเอาแขนมาโอบไหล่ของโนโซมุโดยไม่สนใจมาร์และเอาหน้าเข้ามาใกล้ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ฟีโอกำลังชักจูงโนโซมุเข้ามาเส้นทางสายหื่นกามโดยไม่สนใจวิคเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าเลย
ดูเหมือนว่าฟีโอจะให้ความสนใจกับเรื่องของตัวเองมากที่สุดโดยไม่สนใจรอบข้าง
โนโซมุคิดว่าเขาทำตัวหยาบคายต่อวิคเตอร์ที่เป็นเจ้าบ้าน และพยายามตำหนิฟีโอ แต่ก่อนที่จะได้ทำแบบนั้น วิคเตอร์ก็ยิ้มและโบกมือให้กำลังใจโนโซมุ
「ข้าไม่คิดมากหรอก เพราะงั้นพูดคุยกับเพื่อนๆของเจ้าจนกว่าสาวๆจะมาเถอะ」
「ขอโทษด้วยนะครับ งั้นขอคุยเล่นสักพัก」
เมื่อโดนพูดเช่นนั้นฟีโอก็คว้าไหล่โนโซมุไว้แน่น ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้มหัวลงเล็กน้อย
ฟีโอไม่สนใจปัญหาของโนโซมุ และดึงให้โนโซมุก้มต่ำลงในระดับความสูงของเขาพร้อมหอบหายใจแรง
「โนโซมุ ช่วยเหลาให้ฟังทีสิ!」
「เฮ้ย ทำไมถึงไม่คิดเรื่องสถานที่และบุคคลให้มันดีกว่านี้ล่ะ……」
โนโซมุอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจกับฟีโอที่กำลังตื่นเต้น
อย่างไรก็ตาม ผมคงจะโกหกไม่ได้ที่รูปลักษณ์อันแสนเย้ายวนของไอริสดิน่า ซีน่า และคนอื่นๆ มันช่างกวนใจผม โดยรวมแล้วโนโซมุเองก็เป็นวัยรุ่นสุขภาพดี
「เอ้า ถ้างั้นโนโซมุคอยผู้ใดมากที่สุดงั้นเหรอ?」
「เอ่อ ไม่บอก……」
อย่างไรก็ตามโนโซมุพูดจากใจจริงไม่ได้หรอก
เดิมทีเขาเองก็เป็นชายหนุ่มที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ยกเว้นบางคนที่จะตอบคำถามของฟีโออย่างตรงไปตรงมา
ความจริงๆแล้ว สาวๆทุกคนที่เข้ามาในใจของโนโซมุล้วนแต่ชวนให้หนักใจในการตัดสิน
ขณะที่โนโซมุกังวลว่าจะตอบยังไง ฟีโอก็ยังคงพูดต่อ
「“ไม่ ไม่บอก……”อย่าพูดแบบนั้นเลยน่า โนโซมุ ชั้นรู้นะว่าในใจก็แอบเล็งไว้อยู่ใช่ม้า」
「เอ๊ะ?」
โนโซมุไม่เข้าใจคำพูดของฟีโอ และความเงียบก็เกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง
อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันฟีโอก็จ้องมาทางนี้ด้วยท่าทีสงสัย
「หรือว่าจะชอบไม้ป่าเดียวกัน?……」
「……นี่อยากจะโดนโกนขนหมดตัวเลยใช่ไหม?」
สิ่งที่ออกมาจากปากของฟีโอทำให้โนโซมุไม่อาจเมินเฉยได้
เขาคว้าคอของฟีโอที่อยู่ข้างๆทันทีและบีบมันแน่น
บางทีอาจจะเป็นเพราะปัญหามากมาย โนโซมุจึงไม่ยั้งแรงเลย
「นะนะโนโซมุ….ข้าน้อยหายใจบ่ออก」
มาร์และทอมต่างถอนหายใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยด้วย
「โนโซมุ หยุดเถอะ เอามันไปขายดีกว่านะ」
「หวาาา นั่นแย่กว่าเดิมอีก……」
แทนที่มาร์จะหยุดแต่กลับใส่ไฟเข้ามาอีก
「แล้วถ้าเอาไปสตัฟฟ์ล่ะ?」
「สุนัขจิ้งจอกที่หน้าตาบูดบึ้ง จินตนาการได้แค่ว่าคงเอาไว้แขวนข้างทาง ไม่ก็พวกพ่อค้ารสนิยมแปลกๆ ไม่ก็ปล่อยให้หนูข้างทางแทะมันก็ได้」
ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน มันก็รุนแรงสำหรับฟีโอทั้งนั้น
「อืม ถ้าแค่นั้นสำหรับเราสองคนไม่ใช่เรื่องใหญ่……」
คำพูดของโนโซมุและมาร์ก็ยังคงไร้ความปราณีเสียจนแม้แต่ทอมที่ยืนอยู่ยังยิ้มอย่างขมขื่นและพูดเตือนออกมา
อย่างไรก็ตาม ทอมเองก็ไม่ได้คิดจะหยุดด้วยเช่นกัน
「……ถ้าจับไปทำเป็นตุ๊กตาพวกเราควรจะตั้งชื่อมันว่าไงดีครับ?」
「「“ชะตากรรมของคนโง่” ไงล่ะ」」
「……อุหวา~~」
「เอ่อ จะตายแล่ว」
ราวกับว่าในที่สุดก็ถึงขีดจำกัด ฟีโอก็ทรุดตัวลงไปกับพื้น
บางทีอาจจะเพราะบีบคอแรงไปหน่อย ใบหน้านั้นซีดเผือก
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังไปทั่วทั้งห้องรับประทานอาหาร
「สาวๆมาแล้วค่าาาา」
ประตูถูกเปิดออกและก็มีเหล่าหญิงสาวเดินเข้ามาทีละคน
ฟีโอที่หมดสติปล่อยไว้คงไม่ดีเลยจับไปนั่งพิงเสา
「เฮ้ย ฟีโอ ตื่นได้แล้ว」
「อะ ฮืมมมมมม ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ถ้าจำไม่ผิดข้าน้อยกำลังจะข้ามแม่น้ำ……」
「เหอะ เหอะ ดูท่าจะแข็งแรงดีนะถ้างั้นก็เดี๋ยวกลับไปทำงานใช้หนี้ที่ร้านข้าต่อได้เลย……」
ดูเหมือนว่าวิญญาณของฟีโอจะลอยไปยังสถานที่ที่ไม่ควรไป
โนโซมุคิดว่าจะไปไกลเกินไปไหม โดยพยายามจับแก้มที่กระตุกของฟีโอ และพยุงตัวฟีโอขึ้นมา
「โอ้วววว ดูเหมือนว่าไอริสดิน่าและคนอื่นๆจะพร้อมแล้ว ดังนั้นน่าจะได้เวลาอาหารเย็นแล้วล่ะมั้ง?」
「หะ! ไหนน! ช่วงนี้ได้กินแต่ขอบขนมปัง!วันนี้จะกินให้ท้องแตกเลย~~!」
「ปกติกินอะไรนะ?……」
「ก็วัชพืชไม่ก็แมลงแถวๆนั้น」
「…………」
ดูเหมือนว่าชีวิตอันแสนยากจนข้นแค้นของฟีโอจะไกลเกินกว่าที่โนโซมุคิด
โนโซมุพูดไม่ออกกับชีวิตของฟีโอที่แม้จะกินขนมปังดำยังทำไม่ได้
「โนโซมุ รู้หรือเปล่า? ถ้าเลียก้อนหิน ก็จะทำให้รู้สึกหิวน้อยลง และถ้ากลืนเข้าไปจะทำให้อิ่มเลยนะ……」
น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตาของฟีโอ ขณะที่พูดถึงความยาจกของตัวเอง หางสีทองห้อยลงมาและราบไปบนพื้น
แม้ว่าตัวเขาเองจะมีประสบการณ์เลวร้ายในป่า แต่เขาก็ไม่ได้ขับแค้นถึงขนาดกินก้อนหิน
น่าเสียดายแต่ดูหมอนี่จะกินของแย่ๆมาเยอะ
โนโซมุตบไหล่ฟีโอที่กำลังลุกขึ้น ขณะที่กลั้นน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความสงสาร
「……พรุ่งนี้จะเลี้ยงข้าวกลางวันให้นะ」
「……เอ๊ะ」
ต่อไปจะทำตัวอ่อนโยนกับแกกว่านี้อีกหน่อยก็ได้ ในขณะที่คิดเช่นนั้นโนโซมุก็ลูบหัวฟีโอ
เมื่อเห็นเพื่อนๆพยักหน้าโนโซมุก็สงบสติอารมณ์ได้
ในขณะนั้นประตูห้องรับประทานอาหารก็เปิดออกมา
ดูเหมือนว่าไอริสดิน่าและคนอื่นๆจะมาถึงแล้ว
โนโซมุเงยหน้าขึ้นมองขณะลูบหัวฟีโอที่กำลังหลบอยู่ข้างๆเขา ดอกไม้หลากสีสันก็เบ่งบานตรงหน้าโนโซมุ
「โอ้วววววววว……」
「สวยมาก……」
เสียงชื่นชมต่างดังออกมาจากบรรดาฝ่ายชาย
ดอกไม้ดอกแรกที่สะดุดตาของโนโซมุและเพื่อนๆก็คือโซเมียที่สวมชุดเดรสที่ชมพู
ทันทีที่ประตูเปิดออก เธอก็กระโดดเข้ามาในห้องรับประทานอาหารอย่างกระฉับกระเฉง
โซเมียสวมชุดเดรสที่ผ้าดูนุ่มๆพร้อมจีบน่ารักมากมาย ชุดสีชมพูสดใสคลุมไหล่และมือของเธอจนไม่เผยผิวหนังเลยแม้แต่น้อย
「อิอิ สายันห์สวัสดิ์นะคะคุณโนโซมุ ! มองดิฉันแล้วคิดว่ายังไงบ้างคะ!?」
โซเมียวิ่งเข้าไปหาโนโซมุพร้อมกับหมุนตัวรอบๆด้วยรอยยิ้มกว้าง ชุดเดรสที่พริ้วไหวลอยอยู่ในอากาศขณะที่เธอหมุนไปรอบๆ
บนศีรษะของเธอมีมงกุฏดอกไม้สีสันสดใสทำจากดอกไม้ประดิษฐ์ที่มีสีชมพูเช่นเดียวกับชุดของเธอ และรอยยิ้มที่เจิดจ้าดั่งดวงตะวันยิ่งตอกย้ำเสน่ห์ของโซเมียมากยิ่งขึ้น
「อืม น่ารักมากๆเลยล่ะ เหมาะกับวัยของโซเมียจังมากๆเลย」
「……เอะเฮะเฮะ ขอบคุณนะคะคุณโนโซมุ คุณโนโซมุเองก็ดูดีมากเลยนะคะ」
แก้มของโซเมียดูผ่อนคลายลง ขณะที่ยิ้มออกมาอย่างน่ารัก
โนโซมุและโซเมียต่างยิ้มให้กัน ทันใดนั้น เงาของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นที่ทางเดิน
「เอ่อ คุณซีน่า」
「ซีน่า….ฮะ?」
เมื่อจู่ๆโนโซมุเงยหน้ามองตามที่โซเมียพูด เขาก็หันกลับไปพร้อมกับพบซีน่าอยู่ในชุดเดรสสีน้ำเงิน
ซีน่าสวมชุดเดรสสีน้ำเงิน กระโปรงสั้น ยาวเหนือเข่าและ ขาเรียวยาวสีขาวของเธอก็เยียดออกอย่างงดงามจากภายใน
ผมสีฟ้ายาวสลวยถูกมัดด้วยกิ๊บติดผมที่ประดับด้วยดอกไม้ประดิษฐ์สีขาว เผยต้นคอขาวบริสุทธิ์
ชุดนี้ทำขึ้นโดยเน้นปริมาณหน้าอกพอประมาณ โดยไม่กระทบกับรูปร่างของเธอ และดึงเสน่ห์ที่สุดแสนจะหยั่งถึงของเธอออกมาได้เต็มที่
ผ้าคลุมไหล่ยาวโปร่งแสงและกระโปรงซีทรูที่คลุมกระโปรงสั้นตั้งแต่ไหล่จนถึงเอว ตอกย้ำบรรยากาศเหมือนเจ้าหญิงในนิยาย
ไม่ใช่ชุดที่เน้นความน่ารักแบบโซเมีย แต่เป็นชุดที่เน้นความบริสุทธิ์และไร้เดียงสา
เมื่อโนโซมุเห็นซีน่าในสภาพน่าอัศจรรย์เช่นนี้ เขาก็พูดไม่ออกจนหัวใจเต้นแรง
「อะไรเล่า…ถ้ามีอะไรอยากจะพูดก็พูดมาสิ」
「เอ่อ….คือว่า……」
ในที่สุดโนโซมุก็รู้สึกตัวหลังถูกซีน่าเรียก ซึ่งหน้าของเธอเต็มไปด้วยสีหน้าเขินอาย แต่ไม่มีคำพูดที่ดูเหมาะสมกับชุดเลย
「เหมือนกับนางฟ้าเลยล่ะ」
「อะไรล่ะนั่น เดิมทีฉันก็สวยระดับนั้นอยู่แล้ว……」
「ไม่เลย ผมคิดว่ามันเหมาะกับซีน่ามากๆเลยล่ะ สวยมากเลย……」
「เอะ……」
เมื่อได้ยินคำชมจากโนโซมุอย่างบริสุทธิ์ใจ ซีน่าก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมากเข้าไปอีก
สักพักหนึ่ง ความเงียบก็เกิดขึ้นระหว่างโนโซมุและซีน่า ซีน่าที่ดูเขินอายและอยู่ไม่สุขด้วยมือของเธอ และโนโซมุเองก็ละสายตาจากเธอไม่ได้ ซึ่งปกติเขาจะไม่ทำแบบนี้เลย
「อาาาาาาาาาาาาาาาาา……」
「เอาน่าทิม่า อย่าเอาแต่ซ่อนอยู่ตรงนั้นสิ」
โนโซมุและซีน่าที่หน้าแดงยังคงเงียบ แต่จู่ๆก็มองหน้ากันเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากโถงทางเดิน
มีเสียงดังอยู่ทางด้านหลังประตู ดูจากเสียงก็เหมือนจะเป็นเสียงของไอริสดิน่ากับทิม่า
โนโซมุได้แต่เอียงคอว่าเกิดอะไรขึ้น
「นี่ ทิม่ามัวทำอะไรอยู่กันคะเนี่ย……」
ซีน่าที่ไม่สบายใจจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งและเอามือก่ายหน้าผาก ถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า
พวกผู้ชายกระพริบตาโดยไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในระหว่างนั้นไอริสดิน่ากับทิม่ายังคงคุยกันต่อ
「การแต่งตัวแบบนี้มัน……」
「มันไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ มันเหมาะกับเธอมากๆเลยเพราะงั้นทุกคนรออยู่รีบไปได้แล้วค่ะ」
「นี่ ทิม่า ไม่ได้เขินอายเพราะจะถูกผู้ชายทุกคนเห็นแต่จะอายเพราะถ้า “คนๆนั้น” เห็นเข้าสินะคะเนี่ย~」
「ไม่น้าาาาาาาาาาาาา~~!」
「มิมุรุ……」
「อุ๊ยขอโทษทีนะ~~」
ดูเหมือนว่าไม่เพียงแค่ทิม่าและไอริสดิน่า ยังรวมถึงมิมูรุด้วย
「มะมะมมะมะมะมะมมะมะมะมม่ายยยยยย~~!」
「เฮ้อทำอะไรไม่ได้เลยงั้นเหรอเนี่ย……」
「หยุดน้า อย่าน้า ปล่อยฉันนนนนนนนนน~~!」
นอกจากคำพูดที่ไอริสเริ่มเบื่อหน่าย แล้วเสียงกรีดร้องของทิม่าก็ยังคงดังก้องกังวาลไปทั่ว
ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายค่อนข้างจะไฟแรงน่าดู ไม่สิดูเหมือนไอริสจะผิดหวังนิดหน่อย
「เร็วเข้า เตรียมตัวให้พร้อม」
「อ๊าาาาาาาาา……」
หลังจากพูดคุยกันนาน ทิม่าก็ดูเหมือนจะยอมแพ้และเข้ามาในห้องพร้อมกับไอริสดิน่าที่ควงแขนเธอเข้ามา ข้างหลังมีมิมูรุอยู่พร้อมกับรอยยิ้ม
「ว้าวววววววว……」
「ไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเองเลยนะเนี่ย……」
ชายที่เห็นทั้งสองก็ส่งเสียงขึ้น
ไอริสดิน่าสวมชุดเดรสสีดำราวกับคืนเดือนหงาย และทิม่าสวมชุดสีเขียวที่มีลักษณะคล้ายทุ่งหญ้าที่เปรียบไปด้วยชีวิตชีวา มิมูรุที่อยู่ด้านหลังก็สวมชุดสีแดงที่มีรอยกรีดเล็กน้อยเดินเข้ามาอย่างห้าวหาญ
เครื่องแต่งการทั้งสามคนแตกต่างจากโซเมียและซีน่าเป็นชุดที่เรียกได้ว่างดงาม
ด้านหลังเปิดให้เห็น หน้าอกที่เปิดกว้างจนแทบล้น ทุกอย่างนั้นให้ความประทับใจที่แตกต่างสองคนจากปกติโดยสิ้นเชิง
「เอ่อ……อายนะคะ อย่างน้อยก็ให้ฉันสวมอะไรบังหน่อยเถอะ~~!」
ชุดของทิม่ามีรอยย่นบนกระโปรงและสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลเช่นเดียวกับโซเมีย
อย่างไรก็ตาม ร่างกายส่วนบนนั้นถูกเปิดให้เห็นตั้งแต่ไหล่จนถึงส่วนอก และดูเน้นส่วนที่เป็นภูเขาสองลูกนั่นเป็นพิเศษ
สวมชุดเดรสและถุงมือสีฟ้าในมือ เป็นชุดที่มีสีสันจนไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเธอมีความเป็นผู้ใหญ่และเซ็กซี่ได้ถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตามชุดที่ออกแบบด้วยสีเขียวทำให้เป็นภาพที่คั่นกลางระหว่างสาวน้อยกับผู้ใหญ่
「ฟังนะ มาร์ ทำไมถึงไม่พูดอะไรสักคำเลยล่ะ?」
ทิม่าที่ถูกไอริสดิน่าจูงมือมาพูดออกไปข้างหน้า
ที่อยู่ข้างหน้าคือมาร์ที่อยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวกำลังยืนจ้องมองทิม่าตาไม่กระพริบ
แต่ในที่สุดเขาก็เริ่มทำหน้าเคร่งขรึมหลังจากอ้าปากค้างไปหลายวิ
「เอ่อ….อืม…..ดูดีมาก……」
「หะ!?」
「ดะเดี๋ยวก่อนสิ!」
ทิม่าที่ถูกมาร์เรียกก็วิ่งไปด้านข้างอย่างรวดเร็วและหลบอยู่หลังม่าน
มาร์ที่เร่งรีบเพื่อจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ม่านที่พองเป็นรูปมนุษย์นั้นสั่นเทา
ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะอายมากที่ได้ยินมาร์ชมแบบนั้น
「โอ้มายก็อด สงสัยคงต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าเธอจะสงบสติได้」
「อา ฮะฮะฮะ ไอริส ทำได้ดีมาก」
「หุหุหุ ขอบคุณค่ะ โนโซมุ」
โนโซมุชื่นชมไอริสดิน่าที่เอามือก่ายหน้าผากราวกับทำอะไรไม่ได้แล้ว
จากมุมมองของทิม่า คงจะต้องลำบากมากตั้งแต่สวมเดรสเลย
「แล้ว….ชุดของฉันคิดว่ายังไงคะ?」
เช่นเดียวกันนั้น ไอริสก็ถามโนโซมุเกี่ยวกับความเห็นเรื่องชุดของตัวเอง
ชุดเดรสสีดำที่จับคู่กับสีผมของเธอ ด้านหลังเปิดให้เห็นแผ่นหลังอันงดงามแม้จะไม่เท่าทิม่า แต่หน้าอกก็ยังคงใหญ่ หน้าอกอันอุดมสมบูรณ์ถูกปิดด้วยผ้าบางๆ
แผ่นหลังที่เปิดให้เห็นและเมื่อเธอหันไปด้านข้างก็จะเห็นแผ่นหลังสีขาวสนิท
กระโปรงยาวไร้ซึ่งรอยเย็บ
ผมสีดำที่พริ้วไสวมีเครื่องประดับผมเลียนแบบดอกกุหลายสีดำและเน้นความงามของเธอยิ่งขึ้นไป
ไม่มีอะไรที่เน้นความน่ารักฟรุ้งฟริ้งแบบโซเมีย แต่เสื้อผ้าของเธอนั้นแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่
เมื่อเทียบกับรูปร่างของไอริสแล้ว ชุดนั้นดึงเสน่ห์ของเธอออกมาราวกับเทพธิดามาโปรด
「อืม……」
「……ไม่เหมาะงั้นเหรอคะ?」
โนโซมุที่เงียบอยู่นานก็จ้องมองไอริสขณะที่กำลังประเมินตัวเธอ
「เอ่อ ไม่ไม่ไม่ไม่ ไม่เลยสักนิดครับ เหมาะมากสุดๆ งามจับใจเลยครับ……」
「เอ๊ะ! หุหุ งั้นเหรอคะได้ยินแบบนั้นฉันก็โล่งใจ แม้ว่าจะอายนิดหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่ใช้เวลานานค่ะ……」
เมื่อโนโซมุบอกปัดว่าเธอสวยอย่างมาก ใบหน้าของไอริสก็ดูดีใจสุดๆ
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุขจากส่วนลึกของหัวใจสะท้อนให้เห็นในชุดสีดำราวกับดวงจันทร์บนท้องฟ้ายามค่ำคืน
「อย่างไรก็ตาม ฝ่ายผู้หญิงก็ใช้เวลาเตรียมตัวนานไปหน่อย ถ้างั้นจะเริ่มกันเลยรึยัง」
วิคเตอร์พูดแบบนั้นจนพวกโนโซมุนั่งลง
ทิม่าที่ซ่อนอยู่หลังม่านยังถูกมาร์กระตุ้นและแสดงท่าทางกลัว
อย่างไรก็ตาม ทิม่ายังไม่เลิกอาย และยังคงปกปิดร่างกายด้วยม่านอย่างแน่นหนา พร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้นอกจากให้เธอไปทานอาหารแยกคนเดียว
เพื่อยืนยันว่ามาร์และทิม่าเริ่มนั่งลงแล้ว วิคเตอร์ก็ตบมือดังปัง
จากนั้นพวกเมดก็ค่อยๆเอารถที่ใส่อาหารมา เริ่มจัดจานวางไว้บนโต๊ะ
มีไอน้ำออกมาจากซุปที่วางอยู่บนจานสีขาวและขนมปังอบใหม่
ตรงกลามโต๊ะมีนกที่ถูกอบเป็นสีทองเรียงกันเป็นแถว และมีน้ำจากเนื้อไหลออกมาจากเนื้อที่ถูกตัด
คอของโนโซมุที่รู้สึกโล่งมากหลังจากฝึกหนักกับจิฮัดเริ่มหิวขึ้นมา
「ดีล่ะ ไม่มีอะไรต้องกังวลเชิญทานได้ตามใจชอบ」
「โอ้ววววว ถ้างั้นก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!」
จากนั้นฟีโอที่หิวโหยหลังจากยาจกมานาน
เริ่มจากผักเรียกน้ำย่อยไปยังซุป ขนมปังและเนื้อตามลำดับ
「อุหวาาาาาาาาาาาา ประทับใจสุดๆไปเลย……」
ฟีโอเริ่มร้องไห้เพราะรู้สึกประทับใจมาก
แม้ว่าท่าทางการกินจะไร้มารยาทสุดๆ แต่วิคเตอร์ก็แค่ยิ้มและไม่ใส่ใจ
ในทางกลับกัน ดูเหมือนจะพอใจในรูปร่างของฟีโอที่กินอย่างเอร็ดอร่อย
「เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับคำชมเช่นี้ พวกเธอไม่ต้องกังวลเรื่องมารยาทเชิญทานให้เต็มที่」
「อย่างไรก็ตาม มันเป็นหน้าที่ของเจ้าภาพที่สร้างความบันเทิงให้กับแขกทั้งโนโซมุแล้วก็มาร์ ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ」
「ถ้าอย่างงั้นพวกเราเองก็……」
วิคเตอร์และไอริสดิน่ากระตุ้นเหล่าโนโซมุที่สับสน
โนโซมุรู้สึกงงงวยชั่วขณะ แต่หลังจากติดตามทั้งสองคนก็เริ่มแตะอาหารตรงหน้าอย่างช้าๆ
「อืมมมมมมม!」
「ว้าววว อร่อยมาก……」
จากนั้นทั่วทั้งห้องก็เงียบไปพร้อมกับสีหน้าตกใจและมีแต่เสียงเครื่องดื่มที่ขยับไปมาเท่านั้น
ไม่น่าแปลกใจ อาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะมักจะไม่ค่อยถูกปาก
ณ ตอนนั้นเองระหว่างที่โนโซมุต่างหมกมุ่นอยู่กับการทานอาหารอยู่นั้น
「หุหุ กินได้น่ากินไม่น้อยน่ากันเลยสินะ」
「อ่า ขอโทษครับกินอย่างเดียวเลย……」
「ไม่ ดีแล้วที่เจ้ากินได้กินดีขนาดนั้น」
วิคเตอร์โบกมือบอกราวอย่าใส่ใจ
ความตึงเครียดเกิดขึ้นอยู่ชั่วขณะเพราะโนโซมุเอาแต่กิน แต่บรรยากาศก็กลายเป็นภาพที่ชวนอมยิ้ม
อย่างไรก็ตามวิคเตอร์เริ่มครางเสียงต่ำในขณะที่เอามือแตะเคราของเขา
「นี่ ถ้าดูจากท่าทีแล้วกำลังประหม่าเพราะข้าอยู่งั้นเหรอ?」
「ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติค่ะ ก็ท่านพ่อเล่นทำหน้าตาบึ้งตึงอยู่เสมอ」
「โอ้ แม่คุณ ไม่เจอกันนานหน่อยลูกสาวคนโตปากคอเราะร้ายจริงเลยนะ……」
วิคเตอร์ยิ้มอย่างขมขื่นในขณะที่ไอริสยิ้มแย้มอย่างสดชื่น อาจเป็นเพราะเป็นพ่อลูกกันบรรยากาศเลยคล้ายคลึงกัน
「โซเมียก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกันสินะ?」
「งั้นเหรอคะ? แต่โซเมียคิดว่าท่านพ่อเป็นคนดีมากเลยนะ」
「หุหุ ขอบใจนะโซเมีย ลูกสาวคนรองนี่ช่างเหมือนเฟอร์น่า จริงๆ อ่อนหวานสุดๆ」
บทสนทนาระหว่างพ่อลูกที่ไม่สนใจผู้อื่น ก็นะนี่ก็คงสำหรับครอบครัวธรรมดาทั่วไป
ซีน่ากำลังมองพ่อลูกพูดคุยกันและพูดกับตัวเอง
「ครอบครัวงั้นเหรอ….」
เธอจ้องมองทั้งสามคนเหมือนกับเห็นภาพในอดีต
ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะครอบครัวของเธอไม่อยู่แล้วและเธอมาที่สถาบันแห่งนี้ก็เพื่อแก้แค้น
「ซีน่า….เป็นอะไรไป」
โนโซมุที่สังเกตเห็นท่าทีเปลี่ยนไปก็พูดกับซีน่าด้วยความเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม เธอก็ตอบกลับมาตามปกติ
「เอ๊ะ? อะไรเหรอ?」
「เปล่า ไม่มีอะไร……」
โนโซมุคิดว่าเธอคงกำลังเศร้าอยู่ก็เลยพูดทักเธอไป แต่ซีน่าก็ทำได้แต่งงกับคำถามของโนโซมุและพูด「หืมมม……」
「ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะ แม้ว่าจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวได้แล้ว แต่ตอนนี้ฉันมีทุกคนอยู่ดังนั้นก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยวเลยล่ะ」
ขณะเดียวกันซีน่าก็มองเหล่าเพื่อนๆที่เพลิดเพลินกับอาหารรอบตัวเธอ
ทอมที่งงเพราะโดนมิมูรุสั่งให้ “อ้าาาาาม” เธอพยายามเอาใจทอมโดยการเอาหน้าอกกดทับทอม
ฝั่งตรงข้ามของทั่งคู่ มีมาร์และทิม่าที่พูดคุยกันอย่างสบายๆ
ดูเหมือนว่าจะไม่ได้คุยอะไรจริงจังจนถึงเมื่อครู่ ไม่รู้ว่าทิม่าสงบสติได้แล้วรึยัง ช่วงเวลาที่เงียบสงบของทั้งสองก็ผ่านไป
และฟีโอก็ยังคงบันเทิงกับอาหารมากมายบนโต๊ะ
ทอมที่ต้องทานอาหารที่มิมูรุป้อนเขาพร้อมกับฟังพวกมาร์คุยกัน
มิมูรุเริ่มพูดคุยเรื่องความรักเกี่ยวกับทอมในขณะที่ทั้งสองคนก็แสดงความหวานให้เห็น ทิม่าเองก็เริ่มจะหน้าแดงเพราะเห็นทั้งสองคนจีบกัน ในขณะที่สถานการณ์เริ่มจะดูรุนแรงมากขึ้นก็เป็นมาร์ที่ยกหมัดเหล็กเพราะการหยอกล้อของมิมูรุ
และแล้วความวุ่นวายก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วงานเลี้ยง แต่มันก็เป็นภาพที่เห็นได้ปกติทั่วไป
ในขณะที่มองแบบนั้นซีน่ายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
「หืมมมมมมมม มิมูรุจะต้องให้สอนมารยาทใหม่สินะคะ รู้ไหมคะว่าที่นี่ที่ไหน?」
「รู้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่สนใจหรอก ถ้าพูดให้ถูก ก็เป็นตัวตนพวกเราตามปกติไงงง?」
วิคเตอร์เองก็ไม่มีท่าทีว่าจะตำหนิอะไรเลยแม้แต่น้อย
ทั้งไอริสและโซเมียต่างพูดคุยกับพ่อของเธออย่างสนุกสนาน
เมื่อโนโซมุและซีน่าสบตากันและกันก็ยิ้มอย่างขมขื่นราวกับว่าช่วยไม่ได้
โนโซมุเองก็รู้ว่าเธอจะพูดอะไร พวกเราต่างเป็นเพื่อนกันดังนั้นเลยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ
「งั้นฉันจะไปจัดการทางขวา ฝากโนโซมุไปจัดการทางซ้ายทีนะคะ」
「รับทราบ เริ่มปฏิบัติการเลยไหม?」
「一เริ่มได้เลยค่ะ รีบจัดการให้พวกนั้นกลับมามีมารยาทกันได้แล้วค่ะ」
สองคนลุกขึ้นจากที่นั่งเงียบๆและพยักหน้าให้กัน
ไม่กี่วินาทีต่อมา โนโซมุกับซีน่าก็เข้าไปด้านหลังโดยไร้ซึ่งเสียงจากนั้นมิมูรุที่กำลังส่งเสียงเชียร์ก็สลบไป และสาเหตุของความวุ่นวายก็จบลงในคราวเดียว
การจู่โจมครั้งนั้นทำให้วิคเตอร์ส่งเสียง “โฮ่ววววววววว” ออกมาในคราวเดียว