โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 136

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่7ตอนที่20

ภายในห้องพยาบาลของสถาบันโซลมินาติ ในห้องนี้เต็มไปด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ไอริสและคนอื่นๆต่างฟังสถานการณ์จากนอร์น

 

 

 

「สรุปแล้วอาจารย์นอร์นก็อยากให้โนโซมุกับลิซ่าคุยกันสองต่อสองสินะคะ?」

 

 

 

「อืม ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้น มันจะลากยาวไปเรื่อยๆ บางครั้งการรอมากไปมันก็ไม่ดี แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ยังไม่แก้ไขความเข้าใจผิดอีก ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่ต้องเปิดอกคุยกันแล้วล่ะ?」

 

 

 

นอร์นตอบคำถามของไอริสแบบง่ายๆ

 

ถึงเวลาแล้วที่โนโซมุและลิซ่าจะต้องแก้ไขความเข้าใจผิดในอดีตของตน

 

ไม่มีการวินิจฉัยว่าเกิดผลกระทบอะไรขึ้นกับร่างกายของโนโซมุและจิตใจอันไม่มั่นคงของลิซ่า

 

 

 

「แน่นอน ก็เดาไว้อยู่แล้วแต่ว่าถ้าถึงเวลาตัดสินใจจริงเขาจะลังเลไหม」

 

 

 

「เจ้าหญิงผมแดงกำลังก้มศีรษะลงราวกับจะขอโทษกับทุกสิ่งแต่ปัญหาคือ……」

 

 

 

「โนโซมุจะตอบกลับแบบไหนล่ะ」

 

 

 

มาร์ที่ฟังเรื่องราวของนอร์นพยักหน้าด้วยความเข้าใจ จากนั้นฟีโอและทอมเองก็ทำนายอนาคตอย่างใจเย็น

 

เมื่อได้ยินคำพูดของทอม ไอริสก็มองไปนอกหน้าต่าง

 

ข้างหน้าเธอ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอาร์คาซัมได้

 

 

 

「เฮ้อ……」

 

 

 

「ก็พอเข้าใจความรู้สึกหรอกนะ……」

 

 

 

ไอริสตอบเสียงกังวลของเพื่อสนิทที่ทักด้วยความเป็นห่วง

 

เข้าใจว่าทั้งสองคนต้องเผชิญหน้ากัน

 

ไอริสและคนอื่นๆไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องดังนั้นในท้ายที่สุดก็ไม่มีทางไปแทรกปัญหาระหว่างสองคนนั้น เป็นเรื่องจริงที่โนโซมุไม่ยอมจัดการปัญหาให้มันจบๆ

 

ตอนนั้นลิซ่ากำลังจะทำร้ายตัวเองและไม่ยอมให้อภัยตัวเอง แต่ตอนนี้ไอริสเองก็รู้สึกโกรธลิซ่าอยู่เหมือนกัน

 

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างผ่านดวงตาอันแสนเศร้าของเธอ

 

ในทางกลับกันซีน่าดูแลคันธนูอย่างใจเย็นและเฝ้าดูสถานการณ์

 

เช็ดคันธนูเบาๆเพื่อขจัดความชื้น จากนั้นก็ยกขึ้นเพื่อตรวจสอบว่ามันบิดเบี้ยวหรือไม่

 

ธนูเป็นอาวุธที่ค่อนข้างบอบบางและหากไม่ได้รับการดูแล ก็จะพังเร็ว การปล่อยให้เชือกตึงจะทำให้คันธนูเสียหาย ดังนั้นต้องถอดออกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้

 

ไม่มีความเหนื่อยล้าทางจิตใจเลยดูเธอจะไม่ได้กังวลกับโนโซมุและลิซ่า

 

 

 

「ถึงอย่างนั้น ซีน่าดูไม่ค่อยสนใจเลยนะคะ?」

 

 

 

「หืมมม? ทำไมต้องสนใจด้วยล่ะไม่ว่าโนโซมุคุงจะตอบแบบไหนความสัมพันธ์ของพวกเราก็ไม่เปลี่ยนนี่?」

 

 

 

「เอ๊ะ!?」  

 

 

 

ดวงตาของไอริสเบิกกว้างราวกับถูกคว้านไปที่อกด้วยคำพูดไม่แยแสของซีน่า

 

เมื่อมองดูแวบแรกคำพูดของซีน่าอาจจะดูไม่เข้าท่า แต่ไอริสก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อคำพูดเหล่านั้นให้โนโซมุ

 

ไอริสเองรู้สึกว่าถ้าโนโซมุกลับไปคบกับลิซ่า ตัวตนของพวกเธออาจจะหายไปก็ได้ เพราะแบบนั้นเธอเลยกังวลมาก

 

อย่างไรก็ตาม ความผูกผันที่ได้ทักทอขึ้นมาจะไม่หายไป

 

นั่นคือสิ่งที่เอลฟ์สาวตรงหน้าพูด โดยเคารพความปรารถนาของชายหนุ่มที่เผชิญหน้าโดยตรง

 

 

 

「เข้าใจแล้ว เข้มแข็งจังเลยนะคะ」

 

 

 

ก่อนที่จะรู้ตัวฉันก็เผลอชมออกไปเสียแล้ว

 

ในทางกลับกันซีน่ากำลังมองดูไอริสอย่างประทับใจ และเธอก็เงยหน้าขึ้นสงสัย

 

 

 

「งั้นเหรอ? ฉันคิดว่าเพียงเพราะฉันเป็นคนที่ใช้เวลากับเขาสั้นที่สุดมั้ง……」

 

 

 

「เฮ้อ….เธอเนี่ยนะ…..」

 

 

 

เมื่อเห็นท่าทางของซีน่า ไอริสก็ถอนหายใจแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอก็ผ่อนคลายลง

 

 

 

「นั่นสินะคะ ฉันเองก็ต้องเข้มแข็งด้วย……」

 

 

 

ไอริสมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

 

ดวงตาของเธอในตอนนี้ค่อนข้างที่จะสงบ

 

 

 

「อะแหม่ ส่วนโนโซมุ คิดว่าคงต้องพักเรื่องนั้นตามที่ซีน่าจังบอก ไม่ว่าเขาจะตอบยังไงความสัมพันธ์ของพวกเราก็ไม่เปลี่ยนแปลง」

 

 

 

「มาร์อย่างที่คิดเลยน้าาาาา เป็นพวกสมองกล้ามใช่ไหม~!」

 

 

 

「หม่ยความว่ายังไงหะ……」

 

 

 

มาร์มองไปที่ฟีโอที่เริ่มจะล้อเลียนเขาและค่อยๆยื่นมือออกไป

 

ฟีโอหลบและมาร์ที่หงุดหงิดก็ไล่ตามฟีโอ

 

เอาอีกแล้วงั้นเหรอ? ทิม่าและทอมทำได้แต่สับสน ซีน่าและมิมูรุดูตกตะลึง

 

โซเมียที่กำลังจับตาดูสถานการณ์ ก็มองดูพี่สาวแล้วถามว่าให้ช่วยหยุดไหมคะ แต่ไอริสก็ยักไหล่

 

สุดท้ายอาจารย์นอร์นก็เดือดและฟาดไปที่ทั้งสองคน

 

อาจารย์ยืนอย่างภูมิใจต่อหน้าทั้งสองที่หมอบลงและโดนเทศนาไปเต็มๆ

 

ก่อนที่จะรู้ตัว ความตึงเครียดก่อนหน้านี้ก็หายไปและบรรยากาศอันเงียบสงบก็ปกคลุมห้องพยาบาล

 

 

 

「จริงๆเลย ฟังนะ พวกเธอทั้งคู่ ที่นี่มันห้องพยาบาล……」

 

 

 

ขณะที่นอร์นกำลังจะเทศนา ทันใดนั้นก็มีแสงผุดขึ้นมาจากมุมหนึ่งของห้องพยาบาล

 

ดวงตาของไอริสเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งนั้น

 

 

 

「นั่นมันอะไรน่ะ!?」

 

 

 

สิ่งที่ปรากฏคือมวลแสงสีขาวบริสุทธิ์ ทรงกลมแห่งแสงซึ่งมีขนาดฝ่ามือกำลังเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

「ไม่รู้ ยังไงก็ตามทุกคนออกไปข้างนอกเร็วเข้า!」

 

 

 

ไอริสและคนอื่นๆรีบถอยห่างจากเขตแดนแห่งแสงและเตรียมตัวให้พร้อม พัฒนาพลังเวทย์พอที่จะร่ายได้ทัน

 

ไอริสปล่อยบอลเวทย์หลายลูกไว้ใกล้ตัวเธอ ทิม่า ทอม ฟีโอ และนอร์นก็ยืนยันเรื่องบาเรีย

 

ซีน่าเตรียมลูกธนูและใส่พลังเวทย์ลงไปในขณะที่มาร์ควบคุมลมไว้ที่ดาบของเขา

 

 

 

「นี่ พี่คะ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?」

 

 

 

「ฉันเองก็ไม่รู้ รู้สึกได้ถึงพลังเวทย์ไม่พึ่งประสงค์ได้จากมัน」

 

 

 

「มันดูอันตรายมากถ้าไปยุ่งกับมัน……」

 

 

 

โซเมียเปล่งเสียงกังวลขณะมองอยู่ด้านหลัง ไอริสเองก็พูดอะไรไม่ออก

 

ไอริสกลืนน้ำลายขณะจ้องไปยังวงกลมแห่งแสงที่ปรากฏขึ้นในห้อง

 

ในความเห็นของเธอ พลังเวทย์ที่อยู่ในทรงกลมนั่นพอจะพังโรงพยาบาลได้เลย

 

เหงื่อออกที่หน้าผากของนอร์นขณะที่เธอเตรียมบาเรียเอาไว้

 

ทรงกลมแสงที่ลอยอยู่ในอากาศก็ขยายตัวและสว่างขึ้นในคราวเดียว

 

ในขณะนั้นนอร์นและทั้งสี่ใช้เวทย์บาเรียพร้อมกัน เพื่อปกป้องตัวเองและคนภายนอกได้วางวงเวทย์บาเรียไว้ถึงสองชั้น

 

ไอริส ซีน่า และมาร์เพ่งสายตาเพื่อระบุตัวตนที่แท้จริงของเจ้าสิ่งนั้น และเตรียมพร้อมจะปลดปล่อยเวทมนตร์

 

จากนั้นราวกับว่ามันขยายตัวถึงขีดสุดก็ปล่อยแสงสว่างวาบออกมาราวกับระเบิด

 

แสงวาบที่เผาประสาทตา อย่างไรก็ตาม แม้แสงจะมากมาย แต่ก็ไม่ได้มีดาเมจอะไรมากนัก

 

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก กว่าจะกลับมาได้」

 

 

 

「อ่าตาแก่……」

 

 

 

มีชายชราผมขาวปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา ซอนเน่หอบหายใจแรงไหล่ตก

 

จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นทำให้ทุกคนต่างสงสัย

 

ในทางกลับกันซอนเน่เมื่อเห็นไอริส ก็ยิ้มอย่างเต็มที่

 

 

 

「อ่าาาาาาาาา ได้พบกันในสถานที่แบบนี้พรหมลิขิตดีแท้เหลา! บางทีอาจจะเป็นโชคชะตา ! โว้ย ไม่ใช่เวลามาทำตัวงี่เง่า!」

 

 

 

ซอนเน่เล่นมุขเองตบเอง จากนั้นก็นั่งอยู่บนพื้นและลูบเครา

 

 

 

「ขอโทษๆด้วยนะสาวๆ แต่ขอยืมพลังหน่อยได้ไหม!」

 

 

 

จากนั้นเขาก็คุกเข่าและก้มหัวทำท่าโดเกสะขอร้องทุกคน

 

ไอริสและคนอื่นๆต่างงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นได้แต่จ้องชายชราตรงหน้าด้วยความตกใจ

 

 

 

「……เอ่อ คุณปู่มีอะไรงั้นเหรอ ทำไมถึงได้มาขอร้องพวกเรา?」

 

 

 

นอร์นตอบสนองเป็นคนแรกและก้าวไปข้างหน้า น้ำเสียงของเธอราบเรียบมาก และระมัดระวังขณะมองไปที่ชายชรา

 

ความสามารถพิเศษของชายชราที่แสดงให้เห็นครั้งก่อน สามารถไล่การไล่ตามของ เงาแห่งดวงดาว(นักฆ่า) ได้อย่างง่ายดายเป็นเรื่องปกติที่นอร์นจะระวัง

 

 

 

「ถ้างั้นจะถามตรงๆ นายเป็นใคร มีวัตถุประสงค์อะไรถึงมาหาพวกเรา?」

 

 

 

ตัวตนและจุดประสงค์แท้จริงของซอนเน่ อย่างน้อยก็ต้องรู้

 

นอร์น ไอริสและคนอื่นๆต่างกลั้นหายใจเมื่อได้ยินคำตอบ

 

 

 

「……ข้าเป็นสมาชิกหนึ่งในตระกูลมังกรขาวและเป็นผู้คอยจับตาดู ดราก้อนสเลเยอร์เทียแมตอยู่ ซึ่งหนีจากการผนึกมายังดินแดนแห่งนี้」

 

 

 

ซอนเน่เงยหน้าขึ้นช้าๆ พอพูดแบบนั้นเขาก็สบตากับไอริสโดยตรง

 

 

 

「เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ในครั้งนี้ก็หวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากสาวๆ ซึ่งตระกูลของข้าได้ไปมีความข้องเกี่ยวกับพ่อหนุ่มนั่น ตอนนนี้โนโซมุ เบลาตี้กำลังตกอยู่ในอันตรายจากครอบครัวของข้า」

 

 

 

「……ตกอยู่ในอันตราย?」

 

 

 

「หลานสาวที่ไม่คู่ควรของข้าพยายามกำจัดเทียแมตที่รอดจากผนึกมาได้ คงกำลังเอาดาบจ่อคอเด็กหนุ่มคนนั้นอยู่」

 

 

 

「แกกกกกกกกกก……!」

 

 

 

มาร์อดไม่ได้ยื่นมือไปหาชายชรา ไอริสและคนอื่นๆก็เริ่มวิตกกังวลเมื่อได้ยินว่าโนโซมุตกอยู่ในอันตราย

 

 

 

「ในกรณีเลวร้ายที่สุด พ่อหนุ่มนั่นคงถูกฆ่าและเทียแมตจะถูกปลดปล่อย หากเป็นแบบนั้นก็สายเกินแก้ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ามาขอร้องพวกเจ้า!」

 

 

 

บางทีเพราะอาจจะรู้ถึงความโกรธของพวกเขา ซอนเน่ก้มหัวขอร้องอีกครั้ง

 

 

 

「……คิดว่าจะเชื่อใจได้งั้นเหรอ?」

 

 

 

「ก็รู้อยู่หรอกว่าข้ามันคนปลิ้นปล่อน แต่เรื่องนี้คือเรื่องจริง ข้าไม่เอาเรื่องความเป็นตายมาพูดเล่นหรอกนะ นี่ก็เพราะความอ่อนหัดของข้าเอง นั่นเป็นโอกาสที่ข้าอยากจะขอร้องพวกเจ้า!」

 

 

 

เขาร้องขอความช่วยเหลือจากพวกไอริสอย่างสิ้นหวังราวกับว่ากำลังจะฆ่าตัวตาย

 

ไม่มีร่องรอยของความเหย่อหยิ่งอีกต่อไป

 

 

 

「ตาแก่ หยุดหลานสาวตัวเองไม่ได้งั้นเหรอ?」

 

 

 

「ถ้าแค่อาเซลข้าไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม เทียแมตมีความแค้นมากต่อมังกรขาวอย่างพวกเรา โดยเฉพาะสำหรับข้าที่จับตาดูเป็นพิเศษ หากข้าปรากฏตัวแบบไม่ระมัดระวัง เทียแมตในตัวเจ้าเด็กนั่นได้อาละวาดอย่างบ้าคลั่งแน่นอน ซึ่งมันอาจจะนำพาไปสู่สถานการณ์เลวร้ายที่สุด」

 

 

 

ตามที่ซอนเน่กล่าวเผ่ามังกรขาวนั้นเป็นศัตรูตามธรรมชาติกับเทียแมต

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความเกลียดชังทั้งหลายแหล่จะพุ่งเป้ามาที่ซอนเน่ที่เป็นผู้สังเกตการณ์

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องการความช่วยเหลือจากไอริสและคนอื่นๆทำให้โนโซมุกลับมามีสติอีกครั้ง

 

 

 

「ขอร้องล่ะ อยากให้พวกเจ้าเข้มแข็งเพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกครั้ง……」

 

 

 

คำวิงวอนที่ถูกบีบออกมาทำให้พวกไอริสตกลงปลงใจ

 

——————————————-

 

อาเซลมังกรขาวที่มีเกล็ดเปล่งประกายราวหิมะ และโนโซมุที่ร่างกายเปล่งพลังงานออกมาคล้ายกับดาบ

 

ทั้งสองต่างเผชิญหน้ากันในโลกสีเทาที่ไม่มีชีวิตใดสัมผัสได้ จ้องมองกันราวกับจะฆ่ากันอย่างชัดเจน

 

โนโซมุยกดาบขึ้นเปิดใช้ก้าวพริบตา เหมือนกับเสือดาวที่วิ่งผ่านทุ่งหญ้าเข้าหาอาเซล

 

ในทางกลับกันอาเซลก็เสกลูกศรแห่งแสงจำนวนมากเพื่อขัดขวางโนโซมุ

 

 

 

「อึก!」

 

 

 

อย่างไรก็ตามแค่นั้นหยุดโนโซมุไม่ได้

 

เขาใช้ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-เพื่อหลบศรแห่งแสงที่เข้ามาใกล้บางครั้งก็ปัดออกปิดช่องว่างอย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตามอาเซลก็ใช้ร่างจริงของเธอเพื่อไม่ให้โนโซมุรุดหน้าเข้ามาใกล้

 

 

 

「หะ!?」

 

 

 

ทันใดนั้นพื้นใต้เท้าโนโซมุก็เปล่งแสงออกมา

 

ทันทีหลังจากนั้น หอกแสงจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากพื้นราวกับทิ่มแทงตัวเขา

 

โนโซมุกระโดดขึ้นในทันทีบิดร่างกลางอากาศหลบหนีจากปลายหอก

 

หอกที่ออกมาจากพื้นดินกินหญ้ารอบๆ ไม่สามารถแทงโดนเขาได้ โนโซมุลงจอดและเข้าหาอาเซลอีกครั้งในทันที

 

 

 

「ยังหรอก!」

 

 

 

อาเซลยังไม่ยอมให้โนโซมุเข้ามา

 

กระสุนแสงจำนวนนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า ในเวลาเดียวกันที่ยิงใส่โนโซมุ ก็ยิงหอกแห่งแสงจากภาคพื้นดินด้วย

 

คลื่นโจมตีระหว่างท้องฟ้าและผืนดินหากกระโดดก็ต้องโดนฝั่งไหนฝั่งหนึ่ง

 

ฝูงกระสุนแสงปกคลุมทั่วท้องฟ้าและกองทัพหอกก็พุ่งเข้าหาโนโซมุ

 

มันเป็นเหมือนภัยพิบัติทางธรรมชาติที่กลืนกินมนุษย์ตัวกระจ้อยได้สบายๆ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปโนโซมุไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเนื้อแน่

 

แต่ว่า……。

 

 

 

「เฉยๆวะ!」

 

 

 

โนโซมุปฏิเสธด้วยคำพูดสั้นๆต่อภัยพิบัติตรงหน้า

 

ยกแขนขวาขึ้นแล้วกระแทกลงกับพื้น ช่วงเวลาต่อมาแสงก็ปรากฏใต้ฝ่าเท้าของเขา

 

 

 

 คิ“ระเบิดทำลายล้าง”

 

 

 

เทคนิค คิ ที่มีขอบเขตการโจมตีกว้างที่สุดในบรรดาทั้งหมดของโนโซมุ

 

กระแสแสงที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทำลายหอกที่ยื่นออกมาจากพื้นโลกและกลืนกระสุนแสงที่เป็นธาตุต้นกำเนิด

 

อย่างไรก็ตามสำหรับโนโซมุที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นดาบสองคม

 

 

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」

 

 

 

มีบาดแผลไหลไปตามแขนและเลือดออกจำนวนมาก การใช้คิจำนวนมากจะสร้างความเสียหายแก่ร่างกาย

 

ความเจ็บปวดอันแสนรุนแรงจนอยากจะตัดแขนตัวเองทิ้ง แต่ความโกรธก็กลืนกินความเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว และลบกระทั่งความรู้สึกเจ็บออกไป

 

โนโซมุพุ่งเข้าไปที่คอของอาเซล ตัดผ่านองค์ประกอบต้นกำเนิดสีขาวเหมือนดั่งหมอก

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

อาเซลเดาะลิ้นและกระพือปีก

 

โนโซมุแสดงความโกรธผ่านดวงตาอันแดงก่ำ เร่งความเร็วขึ้นไปอีกพร้อมกับเสียงคำรามที่กระแทกหู

 

ถ้าหนีไปในอากาศโนโซมุก็จะโจมตีไม่ได้อีก อาเซลเข้าใจเรื่องนั้น

 

โนโซมุวิ่งเร็วราวกับพายุ แต่ก่อนที่ดาบของเขาจะจับอาเซลได้ เธอก็บินขึ้นไปแล้ว

 

 

 

「บ้าอะไรกัน!」

 

 

 

ทั้งสองสลับตำแหน่งกัน คนหนึ่งมองย้อนขึ้นไปบนท้องฟ้าขณะที่กระแทกลงพื้น อีกคนลอยขึ้นไปบนอากาศด้วยท่าทีสบายๆ

 

ทันทีหลังจากนั้นอาเซลก็สร้างศรแสงจำนวนนับไม่ถ้วนและปล่อยมันออกไป

 

แสงนับไม่ถ้วนกระจายออกไปและเข้าใกล้โนโซมุ ทันทีที่โนโซมุเห็นราวกับฝนดาวตก เขาก็หลบเลี่ยงโดยไม่ลังเล

 

 

 

「มีปัญญาแค่นี้เหรอ!」

 

 

 

โนโซมุเปิดใช้งานก้าวพริบตาอีกครั้งกระโดดเข้าไปในป่า

 

ทันทีหลังจากนั้นกระสุนแสงตกลงมา ทะลุผ่านต้นไม้และดินจำนวนมาก

 

เสียงระเบิดหลายครั้งทำให้บรรยากาศไร้สีสั่นสะเทือนทิ้งหลุมจำนวนมากไว้บนพื้น

 

จากนั้นสิ้นสุดลูกศรแสงก็เกิดความเงียบ

 

อาเซลเงียบและจ้องมองฝุ่นหนาทึบ

 

 

 

「หึ ก็ไม่เท่าไรนี่หว่า!」

 

 

 

ใบมีดเล่มหนึ่งตัดผ่านกลุ่มเมฆฝุ่นและเข้าไปที่คอของอาเซล

 

อาเซลเหวี่ยงแขนอย่างรวดเร็วกระแทกดาบที่บินออกมา

 

ดาบวิญญาณทำให้เกล็ดของอาเซลกระเด็นออกบางส่วน แต่พวกมันก็กระจัดกระจายราวกับหมอกควัน ทันใดนั้นโนโซมุที่ไร้บาดแผลก็ออกมาจากกลุ่มเมฆนั่น

 

 

 

「ชิ ! ไกลเกินไปงั้นเรอะ คิดว่าจะตัดคอให้ขาดอยู่แล้วเชียว!」

 

 

 

แม้ว่าจะสาปแช่งอาเซลที่กำลังเจ็บปวด แต่โนโซมุก็ไม่หยุดและเหวี่ยงดาบต่อไป ทุกครั้งที่ฟาดฟันจะเกิดคมดาบมายาตามมาเสมอ

 

อาเซลยังคงหลบเลี่ยงคมดาบมายาของโนโซมุด้วยการกระพือปีกไปในอากาศ แต่เนื่องจากตัวใหญ่จึงโดนอยู่หลายนัด

 

อย่างไรก็ตาม คมดาบผ่ามายาของโนโซมุฉีกเกล็ดเข้าไม่เยอะมากนัก และไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ง่ายๆ

 

เดิมทีระยะการยิงคมดาบอยู่ที่สิบเมตร แม้ว่าพลังของโนโซมุจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะสร้างความเสียหายร้างแรงกับมังกร

 

 

 

「เห้ยๆ คิดจะหนีไปถึงเมื่อไร!」

 

 

 

ทุกครั้งที่เขาใช้คมดาบมายา แขนของโนโซมุก็เกิดรอยฉีกขาดขึ้นเรื่อยๆและหากทุ่มเทพลังทั้งหมดแขนเขาคงจะขาดเป็นสองท่อนเป็นแน่

 

เมื่อเห็นว่าไม่ค่อยได้ผลเท่าไร โนโซมุก็เบะปากด้วยความหงุดหงิด

 

อย่างไรก็ตาม พลังคิของเขาพิเศษมากเพราะสร้างความเสียหายให้มังกรในตำนานได้

 

อย่างไรก็ตาม อาเซลก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน ท่าโจมตีของโนโซมุที่เต็มไปด้วยพลังนั้นไม่ใช่ภัยคุกคามใหญ่โต แต่มันทรงพลังจนเพิกเฉยไม่ได้

 

 

 

「โถ่วเว้ย น่ารำคาญจริงๆ ตอดอยู่ได้!」

 

 

 

ด้วยเสียงคำรามของอาเซล เปิดใช้งานบาเรีย และในขณะที่ปัดป้องคมดาบของโนโซมุ ก็สร้างลูกศรแสงยิงออกไปอีกครั้ง

 

โนโซมุหลบในทันที

 

ขณะที่วิ่งไปรอบๆ พร้อมกับใช้ ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ- ปัดลูกศรแสงที่กำลังพุ่งเข้ามา

 

ทรายที่ปลิวว่อนรอยแผลเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนฝังอยู่บนพื้นดิน ต้นไม้ที่ถูกระเบิดขาดครึ่งบินไปในอากาศ และโนโซมุยังใช้เป็นเกราะป้องกัน

 

เมื่ออาเซลเปิดปาก แสงก็เริ่มหดตัวลง

 

ฉากนั้นสะท้อนให้เห็นชัดเจนในดวงตาของโนโซมุ

 

เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเตรียมการโจมตีที่เทียบไม่ได้กับครั้งก่อน

 

 

 

「รับไปซะ!」

 

 

 

ทันทีหลังจากนั้น ลมหายใจเฮือกใหญ่ก็ถูกปล่อยออกจากปากอาเซลพร้อมเสียงคำราม

 

ลมหายใจที่ปล่อยออกมากลืนลูกศรแสงที่มันยิงเข้าไปแล้วพุ่งตรงไปยังโนโซมุ

 

โนโซมุเปิดใช้งาน ก้าวพริบตา-หวนตืน- ทันที เพื่อไม่ให้เสียความเร็วในการเคลื่อนไหว กระโดดออกด้วยความเร่งที่เร็วราวกับระเบิดได้

 

ครู่ต่อมาอาเซลหายใจถี่เผยให้เห็นเขี้ยวของมันที่อยู่รอบๆตัว

 

โนโซมุฟาดดาบออกเป็นวงกลมขณะที่สนใจไปที่พายุแห่งแสงที่พุ่งเข้ามา

 

คิ “พัดใบบัว”

 

ดาบที่ควงอยู่จะดูดซับพลังงานมหาศาลได้อย่างยืดหยุ่น

 

ในเวลาเดียวกันโนโซมุก็จะปรับท่าทีพร้อมกับสะท้อนมันไปทางเก่า

 

อย่างไรก็ตาม พลังของอาเซลนั้นรุนแรงร่างกายของโฯโซมุจึงปลิวไปราวกับใบไม้หลังสวนกลับ

 

 

 

「เหอะ!」

 

 

 

โนโซมุกัดลิ้นและพยายามรักษาสมดุล

 

เอื้อมมือไปให้ไกลที่สุดและคว้าต้นไม้ที่ใกล้ที่สุดเอาไว้

 

พยายามควบคุมร่างกายอย่างจริงจัง ซึ่งกำลังเคลื่อนที่ไปตามแรงเฉื่อย โดยเขาเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้ออย่างมาก แต่แขนเขาได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้ไม่สามารถหยุดมันได้

 

โนโซมุไม่มีทางเลือกลงจอดพร้อมกับบิดตัวไปในอากาศและพยายามลดความเร็วด้วยการขูดพื้น เมื่อเขาเงยหน้าก็เจออาเซลเตรียมจะปล่อยลูกถัดไป

 

 

 

「จบสักที!」

 

 

 

คำประกาศของอาเซลที่พูดออกมาด้วยความมั่นใจ

 

อาเซลเตรียมพร้อมสำหรับการไล่ล่าและโนโซมุก็ยังหยุดไม่ได้ ชัดเจนเลยว่าใครได้เปรียบ

 

ช่วงเวลาต่อมาแสงสีขาวออกมาจากปากอาเซล

 

ลมหายใจเฮือกใหญ่จับเหยื่อด้านล่างไว้นแ่น ขณะที่พุ่งเข้าหาโนโซมุราวกับดาวหาง

 

 

 

「…………」

 

 

 

อย่างไรก็ตามในสายตาของโนโซมุ ไม่มีร่องรอยของการกลัวตายและเปลวไฟแห่งความเกลียดชังก็กลายเป็นสีแดงส่องเจิดจ้า

 

ร่างกายของโนโซมุถูกแผดเผาไปด้วยความเกลียดชังและความโกรธ

 

สิ่งที่อยู่ในใจคือภาพของลิซ่าที่โดนอาเซลซัดจนปลิวว่อน เขารู้สึกโกรธจนอธิบายไม่ได้ และไม่ให้อภัยอาเซลที่ทำร้ายเธอ และโกรธตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเธอได้

 

 

 

“แกนั่นแหละที่ทำร้ายลิซ่า!”

 

 

 

“แกมันคนทรยศ!”

 

 

 

เสียงโกรธสองเสียงซ้อนทับในอกของเขา

 

ความโกรธกลายเป็นไฟ กลายเป็นฟืนและเชื้อเพลิงขับเคลื่อนพลังในการต่อสู้ให้กับเขา มันค่อยๆเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ลมหายใจที่อาเซลปล่อยมาจับตัวโนโซมุได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจะแสร้งทำเป็นออกจากตรงนี้ได้แต่ก็คงหลบไม่พ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ต้นไม้ในป่ายังเติบโตหนาแน่น โนโซมุมีอุปสรรคมากมายเกินกว่าจะหลบ

 

 

 

「…………」

 

 

 

ยากที่จะหลบ แม้ว่าจะหลบได้แต่อาเซลก็ยังอยู่ในอากาศ การโจมตีของโนโซมุก็จะขาดการปิดฉาก ดังนั้นถึงได้สิ้นหวัง

 

ความสูงของอาเซลสูงเกินกว่าที่จะใช้วิธีเดียวกันในการจัดการกับมังกรแห่งความตายในตอนนั้น

 

ขณะนี้ยังไม่มีตัวช่วยที่ช่วยบูสต์ตัวเขาขึ้นไปบนท้องฟ้า แม้ว่าจะปัดป้องการโจมตีได้ แต่ก็น่าจะหลบได้อยู่ดี

 

 ถ้าเป็นแบบนั้น……。

 

 

 

「เหอะ!」

 

 

 

โนโซมุหายใจเข้าสั้นๆ ผ่อนคลายขา เลิกออกพลังของตัวเอง และร่างกายส่วนบนเบาอย่างน่าประหลาด ในเวลาเดียวกันพื้นสีเทาก็เข้าใกล้โนโซมุ

 

 

 

「ฮึบ!」

 

 

 

ช่วงเวลาต่อมาโนโซมุทุ่มแรงทั้งหมดไปที่ขาแล้วกระโดดหันกายไปรอบๆราวกับกงล้อและตกลงไปบนลำต้นของต้นไม้ที่พัดผ่านและทำแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

ด้วยพลังงานที่ระเบิดออกมาเขาเน้นมันไปที่ขาทั้งสองข้าง

 

เปิดใช้งานก้าวพริบตาขณะที่ใช้ท่อนไม้เป็นแท่นเหยียบบูสต์ตัวเองขึ้นไปข้างบน

 

 

 

「อึก!เร็วอย่างกับลิง!」

 

 

 

เมื่อเห็นโนโซมุหลบการโจมตีได้ อาเซลก็หงุดหงิด คิดว่าจะปิดฉากได้แล้วเชียว

 

อาเซลสร้างกระสุนแสงจำนวนมากนับไม่ถ้วนรอบตัวเขา

 

โนโซมุเป็นมนุษย์ บินผ่านอากาศไม่ได้หรอก

 

รอยยิ้มปรากฏบนปากของอาเซล ราวกับมั่นใจในชัยชนะ แต่ช่วงเวลาต่อมา ก็ต้องเปลี่ยนท่าที

 

โนโซมุหมุนตัวตีลังกาควงสว่านอยู่ในอากาศและหมุนตัวเป็นวงกลม

 

โนโซมุใช้ พัดใบบัว เป็นแรงส่งทำให้เขาบินขึ้นมาหาอาเซล

 

การระเบิดของลมหายใจเป็นตัวส่งและพัดเศษฝุ่นกระเด็นไปหมด

 

คลื่นกระแทกแพร่กระจายออกไปและโนโซมุก็ใช้มันเป็นแรงส่ง

 

ดาบที่หมุนวนจนเหมือนใบผัดเรือ ทันทีหลังจากนั้นโนโซมุก็ยัดคิลงไปที่ขาของเขาจนถึงขีดสุดและเตะลมรอบๆเท้าเท่าที่จะทำได้

 

ด้วยเสียงที่แหลมจนเจาะหู แผ่นอากาศก็ระเบิดออกและร่างโนโซมุก็บินมาบนท้องฟ้าอีกครั้ง เหนือมังกรขาว

 

 

 

「อะไรกัน!?」

 

 

 

「ไง ตามมาเช็คบิลและนะไอ้เวรเอ้ย!」

 

 

 

หากไม่สามารถทำให้ศัตรูร่วงลงมาได้ก็แค่ขึ้นไปหามันซะก็สิ้นเรื่อง

 

โนโซมุพุ่งตรงเข้าหาอาเซลราวกับหอก ในดาบมีคิจำนวนมากอัดแน่น

 

อาเซลไม่เคยขึ้นว่ามนุษย์จะขึ้นมาได้ ก่อนที่จะรู้ตัว โนโซมุก็อยู่ตรงหน้าแล้ว

 

อาเซลซ้อนบาเรียเป็นชั้นๆในทันทีกลายเป็นบาเรียนับไม่ถ้วน

 

แสงห้าสีปรากฏตัวออกจากร่างของโนโซมุ มันไหลเข้าสู่ ดาบ “ไร้นาม”ที่เขาถือไว้ราวกับอ่างน้ำวน และดาบก็ถูกแสงย้อมไปด้วยความโกลาหล

 

นั่นคือพลังแห่งความโกลาหลที่เทียแมตถือครองอย่างแท้จริง

 

 

 

「ตายไปซะ ไอ้เวรเอ้ยยยยยยย!」

 

 

 

ทันทีที่โนโซมุเหวี่ยงดาบในมือ บาเรียของอาเซลก็พังทลาย

 

บาเรียทั้งหมดแตกออกกลายเป็นฝุ่นหายไปในท้องฟ้าสีเทา

 

 

 

「อย่ามาพูดบ้าๆ ! มนุษย์เนี่ยนะจะควบคุมพลังของมังกรได้……」

 

 

 

ในขณะที่อาเซลกำลังตกอยู่ในความงุนงง โนโซมุก็หยิบดาบเล่มที่สองของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว ดาบพลังงานที่ระเบิดไปตามแนวดาบกลายเป็นดาบจำนวนนับไม่ถ้วนแยกเขี้ยวไปที่ปีกข้างหนึ่งของอาเซล

 

 

 

“ปัดฝุ่น”

 

 

 

ดาบมายาจำนวนมากซัดเข้าที่ปีกข้างหนึ่งของอาเซลและปีกนั่นก็ขาดโดยสิ้นเชิง

 

 

 

「อ๊ากกกกกกกก! แกกกกกกกกกกก!」

 

 

 

ตามแรงโน้มถ่วงร่างของอาเซลเริ่มร่วงหล่น เธอพยายามฟาดฟันใส่โนโซมุด้วยแรงที่มี

 

อย่างไรก็๖าม โนโซมุใช้ประโยชน์จากการที่ขยับบนท้องฟ้าไม่ได้ หนีจากปลายแขนของอาเซล

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

หลังจากเสียปีกไปข้างหนึ่งและพยายามโจมตีใส่โนโซมุ อาเซลก็เสียการทรงตัวไปโดยสิ้นเชิง โนโซมุฟาดฟันดาบต่อไป

 

 

 

「เหอะ!」

 

 

 

ดาบแห่งความโกลาหลแทงเข้าที่ร่างของอาเซลอย่างล้ำลึกและทำให้เลือดสีแดงสดกระจาย

 

ดาบของโนโซมุตัดผ่านเกราะมังกรขาวได้อย่างง่ายได้

 

นอกจากนี้โนโซมุยังฟาดฟันไปอีกสองสามดาบ แต่ละครั้งก็เกิดรอยฉีกขาดบนร่างอาเซล

 

 

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา!」

 

 

 

「อึก!?」

 

 

 

อย่างไรกตาม อาเซลไม่ยอมแพ้ยิงศรแสงจำนวนมากทิ้งไว้ในอากาศ

 

ฝนแห่งแสงร่วงหล่นจากท้องฟ้าราวกับเหยี่ยวที่พบเหยื่อแน่นอนว่ามีโนโซมุและอาเซลอยู่ตรงหน้า

 

เมื่อเปรียบเทียบกับอาเซลที่สวมชุดเกราะมังกร โนโซมุที่มีเนื้อหนังราวกับเยลลี่คงจะต้านการโจมตีไม่ได้แน่

 

 

 

「……เฮ้อ!」

 

 

 

อาเซลพยายามกำจัดโนโซมุ แม้ว่าจะเป็นการโจมตีฆ่าตัวตายก็ตาม อย่างไรก็ตามโนโซมุเตะร่างของอาเซลแล้วกระโดดเข้าหาศรแสง

 

เขาดึงฝักที่ผูกไว้กับเอวออกมาและในขณะที่หมุนตัวไปในอากาศ เขาก็สกัดกั้นการโจมตีด้วยดาบและฝักทั้งสองมือ

 

ในเวลาเดียวกัน เขาก็เปิดใช้เทคนิคปัดฝุ่นจากกลางอากาศเพื่อทำการหักล้างพลังที่เข้ามา

 

แม้ว่าเขาจะยอมจำนนต่อความโกรธแต่ก็ไม่ได้สูญเสียเหตุผล

 

 

 

「ฮะฮะฮะฮ่าาาาาาาาาาาา!」

 

 

 

อย่างไรก็ตามร่างกายของโนโซมุกำลังกรีดร้อง พลังที่ไม่สิ้นสุดเริ่มกัดกร่อนร่างกายของเขา ทุกครั้งที่ขยับกล้ามเนื้อจะฉีกขาด และเลือดก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยหลีกเลี่ยงผิวหนัง

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุไม่สามารถหยุดความต้องการได้ ความเกลียดชังของโนโซมุและเทียแมตหลอมรวมกัน ยังคงเติบโตไร้ที่สิ้นสุด และราวกับว่าไร้ซึ่งความเจ็บปวด

 

แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุด

 

อาเซลตกตะลึงและตัวสั่นเมื่อโนโซมุจัดการศรแสงจำนวนมากด้วยตัวคนเดียวที่เข้ามาหาเขา แม้ว่าร่างกายจะฉีกขาดและเลือดออกก็ตาม

 

 

 

「อึก นั่นสินะ……!」

 

 

 

ช่วงเวลาต่อมาร่างของเธอกระแทกลงกับพื้น ความเจ็บปวดและความตกใจไหลไปทั่วร่างทำให้หัวเธอขาวโพลน

 

 

 

「โอ้ววววววววววววววววววววววว!」

 

 

 

จากด้านบนอาเซลที่คร่ำควญ โนโซมุก็ยกดาบขึ้นพร้อมกับจะแทงใส่อาเซล ใส่พลังงานและความโกรธจำนวนมหาศาลลงไปในดาบและกำลังจะปิดฉากอาเซล

 

โนโซมุกระโดดขึ้นไปบนอากาศ 3 ครั้ง กำลังลงมาจากที่สูง ถ้าเขาถูกกระแทกลงพื้นก็ไม่รอด

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุถูกความโกรธเข้าครอบงำและไม่ได้คิดถึงการลงจอด

 

ปลายทางของมันคืออาเซลที่นอนหลาอยู่บนพื้น

 

 

 

「จบกันสักที ไอ้มังกรขาวเฮงซวย!」

 

 

 

ธาตุทั้งห้าพุ่งออกมาจากร่างของโนโซมุ

 

โนโซมุและเทียแมต พลังที่เอ่อล้นผสานเข้ากับความโกรธของทั้งสองและไหลเข้าสู่ดาบ “ไร้นาม” ย้อมไปด้วยสีแห่งความเกลียดชังมากยิ่งขึ้น

 

ดาบที่พยายามเก็บเกี่ยวชีวิตของอาเซล พร้อมปล่อยแสงแห่งความโกลาหลเพื่อจะกลืนกินทุกสิ่ง อย่างไรก็ตามก่อนที่ดาบจะถึงอาเซล แสงจำนวนมหาศาลก็ปกคลุมโนโซมุกับอาเซลเอาไว้

 

ทันใดนั้น เกิดอาการช็อคขึ้น และร่างกายของโนโซมุก็กระเด็นเบาๆ

 

 

 

「อะไรกัน!?」

 

 

 

เมื่อโนโซมุรักษาสมดุลได้หลังจากถูกเบี่ยงเบน ก็มีสิ่งแปลกๆปรากฏขึ้นตรงหน้า

 

คริสตัลสีขาวที่มีเครื่องประดับแวววาวติดอยู่ข้างใน มันลอยระหว่างโนโซมุและอาเซล ราวกับกำลังขอร้องอะไรบางอย่าง

 

 

 

「อย่ามาขวางทางนะ!」

 

 

 

โนโซมุซึ่งโกรธแค้นจนหมดสติ ยกดาบขึ้นและพยายามฟันอาเซลกับคริสตัล

 

อย่างไรก็ตาม ชั่วครู่ต่อมาคริสตัลก็สว่างขึ้นและมุมหนึ่งของพื้นสีเทาก็ระเบิดออก

 

 

 

「อั่ก!?」

 

 

 

วัตถุสีขาวเป็นประกายนับไม่ถ้วนโผล่ออกมาจากฝุ่นที่ตกลงมา

 

กระดาษสี่เหลี่ยมบางเฉียบปลิวไปรอบๆโนโซมุและตกลงไปบนพื้นรอบๆทีละแผ่น

 

ในเวลาเดียวกันวงเวทย์ก็ส่องแสงสว่างรอบๆโนโซมุ แสงนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากวงเวทย์และรันรอบร่างของโนโซมุพร้อมกับกดเขาลง

 

 

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกก……”

 

 

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก……」

 

 

 

ทันทีหลังจากนั้นโนโซมุก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างรุนแรงไปทั่วร่างกาย รู้สึกอ่อนแอราวกับความร้อนถูกพรากไปจากร่างกาย

 

เข่าของโนโซมุอ่อนแรงลงและเขาก็กระแทกลงกับพื้นราวกับจะล้มลง อาเซลค่อยๆลุกขึ้นพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

 

 

「ขอบคุณค่ะ พ่อ」

 

 

 

อาเซลโค้งคำนับคริสตัลที่ลอยอยู่ในอากาศด้วยความเคารพ

 

 

 

“มิคาเอลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล!”

 

 

 

เทียแมตเปล่งเสียงไม่พอใจที่ฟังดูเหมือนจากส่วนลึกของนรก จิตสำนึกของเธอไม่ได้เล็งไปที่อาเซล แต่มุ่งเน้นไปที่คริสตัลเล็กๆที่ลอยอยู่ตรงหน้า

 

 

วันนี้ได้เท่านี้แหละ

 

สนับสนุนผู้แปลได้ที่

097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์/วอลเล็ต

 

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท