บทที่7 ตอนที่ 24
ไอริสและคนอื่นๆต่างเบิกตากว้างเมื่อเห็นลิซ่าผมสีเพลิงที่ยืนอยู่โดยไร้ซึ่งบาดแผล
「เอ่อ…ไม่เป็นไรนะ?」
「อืม ขอบคุณที่ช่วยไว้นะ……」
ไอริสอดไม่ได้ที่จะตอบกลับสั้นๆ เพื่อขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ
บรรยากาศอันอ่อนไหวไหลเวียนระหว่างทั้งสอง เท่าที่ลิซ่ากังวล ผู้หญิงผมดำคนนี้ก็เป็นคนที่เจ้าปัญหาพอๆกับตัวเธอและเป็นคนที่ใกล้ชิดกับโนโซมุที่สุดในตอนนี้
แม้ว่าไอริสจะเลิกหึงหวงแล้วก็ตาม แต่เธอยังคงรู้สึกว่าเป็นหนี้ลิซ่าที่ไปทำร้ายเธอตอนช่วงที่เธอช็อค
ทั้งสองคนต่างมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากัน ก็เลยคุยกันไม่ถูก
ตอนนี้ไม่มีเวลาให้กังวลเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว
「「ก๊าซซซซซซซซ!」」
พร้อมกับเสียงคำรามของโนโซมุ พลังงานได้ถูกปลดปล่อยออกมา
เนื่องจากถูกขัดขวางทำให้โนโซมุยังคงจ้องมองไปยังซีน่าที่ถือมิคาเอลเอาไว้
「แย่แล้ว!」
ไอริสและคนอื่นๆเสียสมาธิเพราะลิซ่าที่เข้ามา โนโซมุเองก็รีบมุ่งหน้าไปหาซีน่า
มาร์ มิมูรุและฟีโอก้าวไปข้างหน้าทันที
ต่อมาก็มีลูกศรแสงจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าราวกับปิดกั้นหนทางของโนโซมุ
ฟู่มมมมมมมมมมมม ! ลูกศรแห่งแสงหมุนวนขึ้นไปจนเกิดพายุขึ้นขณะส่งเสียงคำรามอันแสบแก้วหู
ภายในไม่กี่วินาที กระสุนแสงจำนวนหลายร้อยหลายพันนัดก็ตกลงมาอย่างไม่เลือกฝ่ายทั้งโนโซมุและไอริส
「ว๊ายยยย!」
「ฮี้!」
มาร์และทั้งสามกระโดดไปข้างหน้าทันทีและถูกคลื่นกระแทกที่โหมกระหน่ำซัดกระเด็นไป
พวกเขาลอยขึ้นไปในอากาศและลงกับพื้นไปแทบเท้าของไอริส
「โอ้ย พ่อคุณแม่คุณจะประมาทเกินไปแล้วรึเปล่าเนี่ย……」
ซอนเน่ที่กำลังรักษาลิซ่าอยู่ก็ปรากฏตัวจากหลังพุ่มไม้
ข้างหลังยังมีทอมและโซเมียอยู่ด้วย
「อย่ามาพูดอะไรบ้าๆนะ ! ตาแก่นี่คิดจะฆ่าพวกเรารึไง!」
「บัดซบเอ้ย ! หางอันแสนสวยงามของฉันถูกเผา ! นี่มันทำร้ายทรัพย์สินส่วนตัวกันชัดๆเลยตาแก่~!」
「เฮ้อ….มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นเลยนะ~」
มาร์และมิมูรุซึ่งปลิวมาตามสายลมบ่นกับซอนเน่
「ทุกคนปลอดภัยดีไหม?」
「พี่คะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? หนูจะช่วยรักษาแผลให้พี่เองนะ!」
「โซเมีย……」
โซเมียวิ่งเหยาะๆไปหาพี่สาวของเธอ แม้จะดูงุ่มง่ามแต่ก็ร่ายเวทย์ฟื้นฟูไว้แล้ว
หลังจากที่ไอริสและมาร์ถูก “ปืนใหญ่”ของโนโซมุก็ได้รับบาดแผลไปทั่วร่างกายจนได้แผลไปทั่วตัว
แสงจางๆส่องออกมาจากฝ่ามือของโซเมีย ห่อหุ้มร่างกายของทั้งสองและรักษาบาดแผล
อาจเป็นเพราะได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนักด้วยแรงผลักดันจากโนโซมุ โซเมียนั้นได้พัฒนาความสามารถทางเวทย์ของเธอ
「ฟีโอเอ้ย เร็วๆหน่อยสิ ! พวกเราต้องร่ายเวทย์เสริมพลังให้กับไอริสนะ!」
「ฮึบ ! ว๊ากกกกกก….ปากข้าน้อยเหนียวไปหมดแล้ว….รสชาติแย่พอๆกับอาหารของมิมูรุเลย……」
「โม่ว หยาบคายจังเลยนะ ! ทอมน่ะชอบอาหารของฉันนะ! โดยทั่วไปแล้ว นายนั่นแหละที่กินแต่ก้อนหินเข้าไปในท้อง ดังนั้นกระเพาะเหล็กน่าดูเลยสินะ?」
「นังบ้านี่นะ……」
「ฟีโอ หยุดพล่ามได้แล้วน่า จะบ่นอะไรเอาไว้ที่หลัง มิมูรุ ถ้ายังพูดอะไรไม่เข้าเรื่อง เดี๋ยวจับทำโทษซะเลยนี่」
「เอ๊ะ ลงโทษ!? ทอมจะทำอะไรกับเค้างั้นเหรอ……。บางทีจะทำเรื่องแบบนั้น งุ้ย หรือทำเรื่องอย่างว่า อุ้ย อิย๊าาาาาาาาาาาา!」
มิมูรุจินตนาการบ้าอะไรเนี่ยถึงได้นึกอะไรไปไกลขนาดนั้น? การที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บมันคงสะเทือนไปถึงสมองด้วยใช่ไหมเนี่ย
ฟีโอขมวดคิ้วจู่ๆก็เบือนหน้าหนีราวกับไม่พอใจ
「อาาา คนที่จะโทษเธอน่ะไม่ใช่เขาหรอกแต่น่าจะเป็นฟีโอมากกว่ามั้ง?」
「เอ๊ะ? อึ๋ย?」
「อ่าาาา! แกกก! หมายความว่าไงคิดจะพรากทอมไปจากฉันงั้นเหรอ!」
จู่ๆมิมูรุที่เขินอายก็แสดงความโกรธเกรี๊ยวให้ได้เห็น บีบคอฟีโอและยกร่างของเขาขึ้น
ตัวเธอยืนขึ้นตรง หางที่บอกว่าไหม้ก่อนหน้านี้กลับตั้งชูชัน
「หึ่ย ข้าน้อยทำอะไรผิดไปงั้นรึ?」
「ฟ่อวววววววววーーー! เงี๊ยว! เมี๊ยววววーーー!」
「เฮ้อพูดภาษาคนเหอะแม่คุณ……」
ดูเหมือนว่าหัวของเธอจะไร้ซึ่งสติไปแล้ว ไม่มีภาษามนุษย์หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย
ตะโกนอะไรสักอย่างที่เป็นภาษาแมว เผยเขี้ยวเล็บอันแหลมขมและฟันไปที่ฟีโอ
「นี่มันเหมือนกับตอนที่เธอเรื้อนเพราะเมาที่ร้านของมาร์……」
「ขออภัยอย่างยิ่ง ได้โปรดช่วยข้าน้อยด้วย ยัยแมวผู้บ้าคลั่งนี่จะฆ่าข้าน้อยแล้วววววววววววววว」
ชายหนุ่มจากเผ่าจิ้งจอกยกธงขาวอย่างเชื่อฟังขณะที่ทอมเริ่มบ่นเกี่ยวกับการกระทำอันไร้สาระของฟีโอ
「จะเลิกเล่นตัวได้รึยังฟีโอ อยากจะให้ช่วยควบคุมพลังเวทย์ของทิม่าโดยเร็วเพื่อเสริมพลังให้กับไอริส มิมูรุ เงียบปากหน่อยเหอะ」
「เหมียวเหมียว?」
เมื่อทอมลูบไล้คอของมิมูรุ มิมูรุก็โยนฟีโอออกไป และเริ่มถูร่างของเธอเข้ากับมือของทอม
ฟีโอที่ถูกโยนออกมาก็ได้แต่ตะโกน「นังบ้านี่!」แต่มิมูรุไม่สนใจและยังคงอ้อนคนรักของเธอ
เหมือนกับแมวที่กำลังดมกัญชาแมวอยู่
ขณะเดียวกันซอนเน่ก็เดินผ่านไอริสอย่างช้าๆและจ้องมองไปที่พื้นที่ด้านหน้า
พายุค่อยๆจางลงและเผยให้เห็นโนโซมุ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
「ตาแก่……」
「ลองถามเด็กคนนั้นที่ลูบแมวเกี่ยวกับรายละเอียดหลังจากนี้ ตอนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง แม้ว่าข้าจะใช้พลังได้ไม่มากนัก แต่กับแค่คุมเด็กที่ไม่ได้สติข้าพอจะทำได้อยู่」
ซอนเน่และโนโซมุก้าวมาข้างหน้าและเผชิญหน้ากัน
โนโซมุยังคงจ้องมองไปยังมิคาเอล แต่ตอนนี้หันมาทางซอนเน่
「「ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!」」(TN:บอกตรงนะไม่ถนัดเรื่องเสียงคำรามเลยจริงๆ)
โนโซมุและเทียแมตส่งเสียงกรีดร้องแห่งความแค้นพุ่งตรงมาที่ซอนเน่
หลังจากที่พวกมิคาเอลปรากฏตัวต่อหน้าโนโซมุและเทียแมต ตอนนี้จุดเปลี่ยนความสนใจได้กลายเป็นที่ชัดเจน ข้อเท็จจริงนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตาแก่นี่ก็มีส่วนเกี่ยงข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้
「「โซเรียอา(ソールアーラ)ーーーーーーーー!」」
「แหมๆยังจะจำชื่อนั้นได้อีก ใช่แล้วข้าเองก็เป็นหนึ่งในศัตรูของเจ้าไงล่ะ ด้วยความโกรธแค้นหน้า จงหันดาบเข้าหาข้า」
พลังจำนวนมหาศาลถูกปลดปล่อยออกจากร่างของซอนเน่ ก่อตัวในรูปแบบ*มันดะละ(曼荼羅)วนรอบตัว ในเวลาเดียวกัน โนโซมุเองก็เปิดใช้งานก้าวพริบตาพร้อมกับเสียงคำรามและพยายามปิดช่องว่างด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว
(TN:*มันดะละ เป็นของฮินดู ซึ่งหมายถึงจักรวาลในภาษาฮินดู)
ลูกศรแห่งแสงก่อตัวขึ้นในอากาศ ซึ่งมากกว่าของอาเซลไปไกลโพ้น ถูกยิงตรงใส่โนโซมุ
และไม่ใช่เพียงครั้งเดียว มันก่อตัวขึ้นใหม่ในพริบตาและถูกยิงไปอีกสองสามครั้ง
ลูกศรแสงที่เข้าปกคลุมการมองเห็นถล่มการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน เหมือนกับสึนามิที่ถล่มลงมา
「「!?」」
โนโซมุกระโดดอย่างสุดกำลังและหลบการโจมตีครั้งแรกได้ แต่ชุดที่สองก็เข้ามาในพริบตาทันที
บางทีเมื่อรู้ว่าไม่มีที่จะให้หลบโนโซมุจึงตวัดดาบปัดป้องและสร้างคิบีบอัดที่คมดาบแต่ละครั้งเพื่อสะท้อนการโจมตีออกไป ขาของเขายึดติดกับพื้นจนแทบจะจมไปทั้งเท้า จากนั้นก็กระโดดออกมาในจังหวะที่ลูกศรเข้าปะทะกัน รีบออกจากระยะโจมตีอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังรวมพลังไว้ที่มือซ้ายและกระแทกเข้ากับพื้นทันทีที่ลงจอด
「ฮึบ!」
คิ“ระเบิดทำลายล้าง”
เทคนิคที่พยายามใช้ถล่มพวกไอริสและผองเพื่อนได้โจมตีใส่ซอนเน่จากใต้ฝ่าเท้า
อย่างไรก็ตาม ซอนเน่โบกมืออย่างรวดเร็วและสร้างบาเรียขึ้นมาทันใด
บาเรียเวทย์เข้าปะทะกับพลังคิอันล้นหลาม พลังงานที่เข้าปะทะกันทำให้คิแตกออกเป็นสองส่วนแยกพื้นดินตรงหน้าเขา
ในที่สุดบาเรียก็พังทลายลง และในเวลาเดียวกันพลังคิก็หายไป
พื้นดินรอบๆถูกขุดออกไปลึกราวสิบเมตร กลายเป็นปล่องภูเขาไฟขนาดย่อม
ดินและทรายต่างตลบอบอวลไปทั่วทั้งพื้นที่ และซ่อนพวกเขาทั้งสองอีกครั้ง
โนโซมุสามารถสร้างปล่องภูเขาไฟได้ด้วยการใช้พลังคิเพียวๆ หรือเป็นตาแก่ที่สามารถป้องกันพลังคิได้อย่างสมบูรณ์
ไม่มีทางที่โนโซมุจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ
「หึ!」
เมื่อฝุ่นจางลงโนโซมุปรากฏตัวจากด้านขวาของซอนเน่
คู่ต่อสู้นั้นเก่งกาจกว่าอาเซล หากคุมสถานการณ์ไม่ดีจะเป็นฝ่ายแย่เสียเอง แม้ว่าจะรีบร้อนเกินไปก็ทำได้แค่รักษาระยะ มันเป็นการทำเพื่อหวังผลไว้อยู่แล้ว
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้เลยนอกจากซอนเน่
「แม้ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าภูติ ข้าก็สามารถมองการกระทำนั้นได้น่า」
เมื่อซอนเน่โบกสะบัดแขนขวาของเขา วงเวทย์จำนวนมากก่อตัวขึ้นและโนโซมุก็โดนโซ่แห่งแสงพุ่งเข้าจากทุกทิศทาง
โซ่นี้เป็นเพียงแค่เวทย์พันธนาการ ต่างจากบาเรียผนึกมังกรตรงที่ไม่มีผลใดๆโดยตรงต่อเทียแมต
ถึงกระนั้นการหยุดเคลื่อนไหวของโนโซมุก็ถือเป็นการชี้ชะตาของเขา โดยเฉพาะกับศัตรูที่สามารถโจมตีวงกว้างได้แบบซอนเน่
โนโซมุพยายามหลบโซ่แห่งแสงจากทุกทิศทาง ด้วย “ก้าวพริบตา-ดาบเริงระบำ-”และก้าวไปข้างหน้าเพื่อเข้าหาซอนเน่
อย่างไรก็ตาม โซ่แห่งแสงนั้นเลื้อยตามมาเหมือนกับงูและค่อยๆเข้าใกล้โนโซมุจากด้านหลัง
นอกจากนี้ยังมีแรงระเบิดจำนวนมากต่อหน้าโนโซมุและมีหอกแห่งแสงหลายอันพุ่งออกมา
แม้ว่าจะคล้ายกับอาเซลที่ใช้ได้หลายรูปแบบ แต่ซอนเน่สามารถใช้เวทย์หลายประเภทในเวลาเดียวกันได้ นอกจากนี้จำนวนยังต่างกันลิบลับ
เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าอาเซล
หอกที่ยื่นออกมาจากพื้นดินขัดขวางเส้นทางของโนโซมุ
เส้นทางหลบหนีของโนโซมุถูกขัดขวางด้วยอุปสรรคมากมายทั้งหอกแสงจากด้านหน้าและพื้นดิน โซ่แห่งแสงที่ตามมาจากด้านหลัง นอกจากนี้ ยังมีศรแห่งแสงตกลงมาจากฟากฟ้าที่พร้อมจะเป่าร่างของโนโซมุให้เป็นจุล
ลำแสงเข้ามาใกล้และขุดพื้นดินและต้นไม้พัดปลิวไปหลายเมตร
มันเป็นการโจมตีที่ไม่สามารถป้องกันได้ ไม่มีทางหนี และเป็นไปไม่ได้ที่ศัตรูจะใช้บาเรียได้ ใช่ เว้นแต่คู่ต่อสู้คือโนโซมุ
「「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกห์!」」
ธาตุทั้งห้าปะทุออกมาจากร่างกายของโนโซมุ มันหมุนวนและไหลเวียนเข้าสู่ดาบของโนโซมุและย้อมคมดาบของโนโซมุด้วยสีสันอันหลากหลาย
นอกจากนี้โนโซมุยังอัดคิเข้าไปที่ดาบที่มีแสงทั้งห้ารวมกันอยู่และฟันมันออกไปด้านความเร็วแสง
ลำแสงเปล่งประกายห้าสี ลำแสงถูกตัดออกเป็นสองท่อนทำให้โซ่ที่เข้ามาจากด้านหลังนั้นหายไป
สิ่งที่เห็นจากอีกฝากของลำแสงที่ไหลไปด้านหลังโนโซมุคือร่างของชายชรายืนขมวดคิ้ว นอกจากนี้โนโซมุยังโดดเข้าไปในช่องว่างระหว่างลำแสง
หอกแสงที่ปิดกั้นทางด้านหน้าของโนโซมุและโซ่แห่งแสงที่เข้ามาใกล้ถูกลำแสงของซอนเน่สลัดจนหลุด
ในชั่วพริบตาโนโซมุปิดช่องว่างและฟันดาบลงเล็งไปที่หัวของซอนเน่
「ฮึบ!」
เมื่อซอนเน่ยกมือขึ้น ธาตุต้นกำเนิดที่ไหลออกมาจากร่างกายของเขาก่อตัวเป็นไม้เท้าแห่งแสง
โนโซมุเอาดาบของเขาเข้าปะทะไม้เท้าแห่งแสงของซอนเน่
ทันใดนั้นคลื่นกระแทกก็ถูกปลดปล่อยจากทุกทิศทาง
「「!?」」
「ฮึ่มมมมมมมมมมมมมม」
ซอนเน่รับการโจมตีอันแสนร้ายกาจของโนโซมุไว้ได้
ดวงตาของโนโซมุเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
ซอนเน่ลดสะโพกลงแล้วหมุนไม้เท้าของเบาโยนร่างของโนโซมุขึ้นไปในอากาศขณะที่พลังยังคงไหลเวียนอยู่ด้านหลังเขา
นอกจากนี้ซอนเน่ชี้ปลายไม้เท้าไปที่โนโซมุซึ่งถูกซัดลอยขึ้นไปในอากาศ
โนโซมุบิดร่างกายของเขาและฟาดดาบกลับไปที่พื้นดิน กระสุนเวทย์เข้าปะทะคมดาบอีกครั้ง
ดาบของโนโซมุตัดผ่านกระสุนเวทย์ของซอนเน่และกระจายออก
「ฮึ่ม แบบนี้ก็ยังเอาไม่อยู่รึ」
หลังจากลงจอดแล้ว โนโซมุก็ยืนอยู่นิ่งๆ แต่ยังคงตื่นตัวและจ้องมองซอนเน่
ในขณะเดียวกันซอนเน่ก็ควงไม้เท้าอันเล็กๆด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
「ตกใจล่ะสิ? ถึงกระนั้นข้าก็มีชีวิตอยู่มานับหมื่นปี ไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อยที่ข้าเองก็เรียนรู้ทักษะต่างๆมาจากมนุษย์เหมือนกับที่เจ้าทำนั่นแหละ?」
เทคนิคดังกล่าวไม่ได้มาจากวิญญาณสูงส่งหรือสัต์วเดรัจฉาน แต่มันเป็นของมนุษย์
และมันดีที่สุด ในการต่อกรกับเทคนิคมนุษย์ด้วยกันเอง
หากถามว่าตัวเขามีชีวิตอยู่มาหมื่นปีซึ่งเฝ้าดูทวีปนี้ตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกได้ว่าคงไม่แปลกที่เขาจะมีทักษะเหล่านี้ติดตัว
「「กัซซซซซซซซซซซซซซซ……」」
「เอาล่ะ พ่อหนุ่มจะลุยต่อไหม?」
ซอนเน่ถือไม้เท้าโดยคว่ำปลายลง ดูเหมือนศึกระยะประชิดจะดำเนินต่อไป
ระยะห่างระหว่างทั้งสองน้อยกว่าสิบเมตร โนโซมุสามารถย่นระยะภายในชั่วพริบตาก่อนที่ซอนเน่จะได้ร่ายเวทย์
แม้ว่าซอนเน่จะยิ้มให้กับโนโซมุ แต่เขาก็ระงับความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นจากตัวเขาไม่ได้เช่นกัน
“บาเรียผนึกมังกรกินชีพจรของโลกนี้มากเกินไปจนไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว ในสถานการณ์นี้ การกลับสู่ร่างเดิมเพื่อเผชิญหน้ากับเด็กคนนี้มีแต่จะทำให้แย่ลงเท่านั้น…ในตอนแรกคงจะไม่มีเวลาให้ข้าได้กลับสู่ร่างดั้งเดิมแน่นอน และข้าก็ไม่มีพลังมากพอที่จะฟื้นกลับร่างเดิมด้วย……”
ตอนนี้ซอนเน่มีปัจจัยที่เป็นข้อเสียเปรียบมากมาย ซึ่งทำให้ยากที่จะเข้าสู่ร่างดั้งเดิม
หนึ่ง คือไม่สามารถใช้บาเรียผนึกมังกรได้อีกแล้ว
เมื่ออาเซลเริ่มเคลื่อนไหว เทคนิคก่อนหน้านี้ของซอนเน่ถูกทำลายลง บาเรียผนึกมังกรยังกินชีพจรของโลกนี้มากเกินไป ทำให้ยากต่อการร่ายอีกครั้ง นี่เป็นข้อเสียประการหนึ่งของบาเรียผนึกมังกร ซึ่งโดนปัจจัยภายนอกรบกวนได้หลายรูปแบบ
ในตอนแรก ไม่มีทางที่บาเรียผนึกเทียแมตจะมีข้อบกพร่องใดๆ
อย่างที่สองตอนนี้เขาไม่สามารถแปลกร่างเป็ฯมังกรได้ นี่เป็นเพราะเขาได้สละส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณเพื่อปิดผนึกอาเซลซึ่งใช้พลังไปอย่างมาก
แม้ว่าเผ่าพันธุ์มังกรจะมีพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ความเป็นอยู่ของพวกเขานั้นผูกติดกับจิตวิญญาณ ร่างกายของมนุษย์นั้นมีขีดจำกัดในการใช้พลัง
และแม้กระทั่งการสร้างร่างกายใหม่เพื่อคืนร่างดั้งเดิม ยังต้องการพลังงานมากมายมากว่าเผ่าอื่นๆ ทำให้ต้องขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด
แม้ว่าจะกลับคืนสู่ร่างมังกรได้ แต่โนโซมุคนปัจจุบันที่ได้เห็นการคืนร่างของอาเซลคงไม่ยอมให้เกิดขึ้นเป็นหนที่สอง
「ไม่มีปัญหากับขีดจำกัดสูงสุดที่ใช้ได้ภายในร่างนี้ แต่มันยากที่จะยับยั้งเจ้าเด็กเวรคนนี้……」
ข่าวดีก็คือว่าโนโซมุค่อนข้างล้าจากศึกหนักถึงสองรอบ
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะต่อสู้ได้เพราะยืมพลังของเทียแมต แต่ร่างกายพังไม่เป็นท่าแล้ว และมันเริ่มแสดงออกผ่านการเคลื่อนไหวอันเชื่องช้า
ในความเป็นจริงความเร็วของเขาในตอนนี้เทียบไม่ได้กับตอนที่สู้กับมังกรแห่งความตาย
แต่ความจริงที่ว่าร่างกายของโนโซมุใกล้ถึงขีดจำกัดทำให้การต่อสู้นั้นง่ายขึ้น แต่ก็หมายความว่าเทียแมตเองก็ใกล้คืนชีพเสร็จสมบูรณ์
แม้ว่าจะเผชิญหน้ากันต่อไป โนโซมุก็ยังเสียเลือดออกจากร่างกายไปเรื่อยๆ ราวกับแสดงความจริงให้ได้เห็น
「ถึงกระนั้น หากเป็นเมื่อก่อน ร่างกายของเจ้าเด็กนี่คงพังทลายไปแล้ว ยังไงก็ตามตอนนี้เขาปรับตัวเข้ากับพลังของเทียแมตได้แล้ว และนั่นมันก็ช่างเป็นความเร็วที่น่าอัศจรรย์จริงๆ……」
「「ก๊ากกกกกกกกกกกกกก」」
「หึ! ตอนนี้มันยากมากที่จะดึงสติเขากลับมาเพราะความโกรธที่ถูกครอบงำงั้นรึ!」
โนโซมุเก็บดาบเข้าฝักแล้วพุ่งเข้าหาซอนเน่พร้อมกับเสียงคำราม
ระยะทางสิบเมตรเขาเข้ามาเพียงครึ่งวินาที และจับซอนเน่จนอยู่ในระยะโจมตีของเขา
เขาชักดาบออกจากฝักและฟันออกมา
“แฟนท่อม(คมดาบผ่ามายา)” ถูกปลดปล่อยออกมาปะทะกับแสงของไม้เท้าซอนเน่ที่ทำมาจากธาตุต้นกำเนิดถูกเฉือนออกไปเล็กน้อย และแสงเรืองรองสีขาวก็กระจัดกระจายไป TN:(ขี้เกียจแปลเป็นไทยมันยาว)
นอกจากนี้ โนโซมุยังยิงตอบโต้อย่างรวดเร็ว
ยังคงมี “แฟนท่อม -หวนคืน-”ถูกปล่อยมาจากทิศทางตรงกันข้ามเป้าหมายคือไม้เท้าของซอนเน่ มันถูกปล่อยออกมาอย่างแม่นยำไปยังตำแหน่งที่โจมตีใส่ก่อนหน้านี้ทุกประการ
แสงวูบวาบลอยออกมาจากไม้เท้าของซอนเน่ และในขณะเดียวกันก็ส่งเสียงดังสะท้าน
「อั่ก!?ท้ายที่สุดแล้วพลังของเขากับพลังของข้า มันวัดกันไม่ได้!」
แม้ว่าซอนเน่กับเทียแมตจะได้รับพลังวิญญาณมาจากแหล่งเดียวกัน แต่ทิศทางแห่งพลังกับตรงกันข้าม
เนื่องจากเทียแมตที่ได้พลังแห่งความโกลาหล แก่นแท้ของเทียแมตคือ “พลังแห่งการทำลายล้าง”
ในทางกลับกันพลังของซอนเน่คือพลังแห่ง “แสง” ที่เกิดจากการจัดระเบียบ ธรรมชาติแก่โลกใบนี้
ขณะที่พลังทั้งสองต้องปะทะกัน พลังของซอนเน่ก็ครอบคลุมพลังของเทียแมต และพลังของเทียแมตก็พยายามกลืนกินซอนเน่
หากเป็นมังกรเผ่าอื่น พลังของเทียแมตอาจจะโดนลบล้างได้ หากคิดเช่นนั้นก็จงคิดได้ว่าพลังของข้าเป็นพลังที่ “เข้ากันไม่ได้” กับพลังของเทียแมต
ซอนเน่รวบรวมพลังต้นกำเนิดอย่างรวดเร็วและซ่อมไม้เท้าที่เสียหาย
โนโซมุไม่พลาดโอกาสนี้
เขารีบเข้าโจมตีและปล่อยการโจมตีหลากหลายเพื่อพยายามสกัดกั้นการหลอมรวมใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังเล็งไปที่ตำแหน่งเดิมของไม้เท้าที่แตกหัก เห็นได้ชัดว่าซอนเน่เริ่มที่จะลนลาน
นอกจากนี้หากจิตสำนึกของซอนเน่มุ่งเน้นไปที่ไม้เท้ามากเกินไปก็จะโดนเล็งไปที่คอแทน
「หนอยยยยยย!?」
ซอนเน่กระโดดถอยหลังและหลบดาบของโนโซมุที่พยายามตัดขาของเขา
ในครั้งนี้ เขาพยายามแยกซอนเน่ออกจากไม้เท้าด้วยการฟันจากด้านบน แน่นอนว่าเป้าหมายคือการทำลายไม้เท้าพร้อมกับฟันซอนเน่ให้ขาดเป็นสองท่อน
「หุหุ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความโกรธเกรี๊ยว แต่ก็ “สุดยอด” เกินไปในฐานะคู่ต่อสู้!」
ซอนเน่ยิงกระสุนเวทย์ออกไปข้างหน้าโนโซมุ ทำให้เขาเสียสมาธิจากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าและฟันไม้เท้าแห่งแสง
แม้จะโดนกดดันจากความสามารถของโนโซมุ แต่ซอนเน่ก็ยืนหยัดต่อสู้ได้สมศักดิ์ศรี ซึ่งมากเกินพอสำหรับเขาที่จะ “เอาชนะ” ได้่
เพื่อตอบสนองต่อแสงที่โบกสะบัด โนโซมุจึงจับดาบในมืออีกครั้ง เสียงของดาบและไม้เท้าดังก้องไปทั่วป่าครั้งแล้วครั้งเล่า
—————————————————————————————–
「อัศจรรย์……」
มาร์และคนอื่นๆต่างดูการต่อสู้ระหว่างโนโซมุและซอนเน่ด้วยสีหน้าตกตะลึง
พวกเขาได้เห็นความสามารถของซอนเน่ในระหว่างเหตุการณ์ที่สู้กับเคน แต่เมื่อเผชิญหน้ากันตรงๆแบบนี้พวกเขาก็พูดอะไรไม่ออก
ทอมก้าวไปข้างหน้าต่อมาร์และคนอื่นๆ
「ทุกคนฟังนะ หากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พวกเราอาจจะเรียกสติโนโซมุคุงกลับมาได้」
「ถามจริง?」
「ใช่ ต้องบอกว่าไม่ใช่สิ่งที่ถูกมองว่าไม่สมเหตุสมผลหรืออาจจะไม่ใช่ยุทธวิธีที่ดีเพียงแค่เรายิงเวทย์ที่ทรงพลังใส่หน้าอกด้านซ้ายของเขาเพื่อทำให้หัวใจหยุดเต้น……」
「หะ!?」
ข้อเสนอของทอมนั้นง่ายมากและเนื้อหาก็ฟังดูไร้สาระ มาร์อดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง
แท้จริงแล้วถ้าหยุดการเต้นของหัวใจและระบบเลือดหยุดไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกาย หมดสติระยะเวลาหนึ่ง แต่หากปล่อยนานเกินไปทั้งสองก็จะตาย
เป็นที่เข้าใจได้ว่าหากพิจารณาถึงผลกระทบต่อการช่วยชีวิต ดังนั้นจึงต้องใช้พลังเวทย์บริสุทธิ์ที่มีผลเพียงเล็กน้อยต่อร่างกายของเขา
อย่างไรก็ตาม หากพลาดแม้แต่นิดเดียวก็เป็นการฆ่าโนโซมุไปโดยปริยาย
ไอริสและคนอื่นๆทำสีหน้าราวกับทรมานใจ
「ตามที่ชายชราคนนั้นได้ว่าไว้ เพื่อที่จะทำลายการหลอมรวมระหว่างโนโซมุและเทียแมต จำเป็นต้องทำให้เขาอยู่ในสภาวะช็อค」
「นั่นหมายความว่าจะไม่กลับมาจนกว่าจะไปถึงขั้นนั้นเลยงั้นเหรอ……」
「ใช่ แม้จะมีพันธสัญญากับซีน่าเข้าช่วย แต่หากไม่ทำถึงขั้นนั้นก็จะเรียกสติเขากลับมาไม่ได้ พวกเราจึงต้องบังคับให้พวกเขาแยกการหลอมรวมวิญญาณด้วยการทำให้เกิดอาการช็อคแก่ร่างกาย รู้ดีว่ามันเสี่ยงมากแต่……」
ไอริสจับมือของเธอขณะที่ตระหนักถึงความจริง
แม้จะเสี่ยงอันตรายจากการเดินผ่านน้ำแข็งบางๆ แต่โนโซมุก็รักษาสติไว้ได้ตลอด ตระหนักได้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นมหาศาลหากเขาถูกปัจจัยภายนอกรบกวน
ต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นโนโซมุยังคงกวัดแกว่งดาบไม่หยุดแม้ร่างกายจะถึงขีดจำกัด
「……เอาล่ะ มาลุยกันเถอะค่ะ」
「เอาจริงงั้นเหรอ!?」
「นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้ นอกจากนี้เวลาของเขากำลังจะหมดลงแล้ว」
คำพูดของทิม่าหลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจ และก็จับไม้เท้าบางๆไว้
สิ่งที่ไอริสพูดก็สมเหตุสมผล เวลาผ่านไปนานพอควรแล้ว ตั้งแต่โนโซมุปลดปล่อยพลัง ไม่มีเวลาให้ลังเลแล้ว
「แล้วจะอัดพลังเวทย์ใส่อกซ้ายของโนโซมุยังไงดีล่ะ?」
「มาร์และคนอื่นๆให้สนับสนุนแนวหน้าและกองหลังคอยซัพพอร์ต โดยพื้นฐานแล้ววิธีนี้จะเหมือนกับที่มาร์ทำก่อนหน้านี้」
ตอนนั้นลิซ่าที่ฟังอยู่เงียบๆก็พูดขึ้น
「ฉันจะลุยเอง ให้ฉันได้ช่วยเถอะ」
「ไม่เป็นไรใช่ไหม? อย่างเลวร้ายที่สุด ก็จะถูกโนโซมุฆ่านะ?」
「ฉันดูแลตัวเองได้ จริงๆแล้วฉันไม่รู้หรอกว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง แต่ฉันจะอยู่เฉยไม่ได้!」
ลิซ่าแสดงความรู้สึกของเธอขณะกำหมัดแน่นจนคิดว่ากระดูกในมืออาจจะหักได้
「ฉันถูกโนโซมุช่วยเอาไว้ ฉันได้รับความช่วยเหลือจากเขามาเสมอ ดังนั้นหากฉันหนีจากตรงนี้ ฉันจะไม่มีวันที่จะยืนหยัดต่อหน้าเขา ! ความรู้สึกของโนโซมุจะถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใยดีอีกครั้ง ได้โปรด ให้ฉันทำมันด้วยเถอะขอร้องล่ะ……」
ลิซ่าก้มหัวขณะขอร้องทั้งน้ำตา
บางทีฉันอาจจะไม่สมควรอยู่ที่นี่เพราะฉันเป็นคนที่ทำร้ายเขามาตลอด
ถึงกระนั้นฉันก็ไม่อยากจะหนีไปจากที่นี่ ฉันอยากจะช่วยเขาเท่าที่เป็นไปได้
「ทอม……」
「รู้แล้วล่ะ เพราะชั้นเองก็คิดถึงตัวเธอเหมือนกัน ซีน่าพยายามทำให้คันธนูที่สายขาดกลับมาใช้ได้อีกครั้งที」
「เข้าใจแล้ว」
「ฟีโอคุงขอให้ช่วยซ่อมแซมการควบคุมพลังเวทย์ทั้งหมด」
「ครับครับ เข้าใจแล้ว……」
ทอมและไอริสให้คำแนะนำอย่างรวดเร็ว และคนอื่นๆก็เริ่มการเคลื่อนไหว
ซีน่าตัดผมของเธอด้วยมีดเพื่อทดแทนเชือกที่ขาดไป มัดมันและเกี่ยวห่วงเชือกไว้ที่ด้านบนของคันชัก
ตรงกันข้ามกับรูปร่างหน้าตา ผมแข็งแรงและเป็นสื่อพลังเวทย์ที่ดี
นอกจากนี้แม้จะไม่มีนัยสำคัญเท่าหินเวทย์ แต่มันก็มีคุณสมบัติในการกักเก็บพลังเวทย์ของคนที่ขาดแคลน นั่นจึงเป็นเหตุผลส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงมักจะไว้ผมยาวเพื่อกักเก็บพลังเวทย์ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ในทางกลับกัน ทิม่าและคนอื่นๆที่มีพลังเวทย์เหลือล้นก็ไหวผมยาวประมาณไหล่เท่านั้น
ฟีโอหยิบยันต์ออกมาสี่ใบและสลักคาถาไว้บนนั้น
ขณะที่ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหว ลิซ่าและไอริสก็มองหน้ากัน
ไอริสอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เพราลึกเข้าไปในดวงตาที่สั่นเทาของลิซ่า ฉันเห็นแสงที่เปล่งประกายราวกับทับทิม
ความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าแม้จะมีความเสียใจรออยู่ คำสารภาพบาป และความสงสัยนั้น เพราะมีความคล้ายคลึงกับคนที่เธอรักสุดหัวใจอย่างน่าประหลาด
「ลิซ่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจะขอให้ฟีโอและคนอื่นๆ ให้การสนับสนุนเธอเพราะเธอป้องกันตัวเองไม่ได้ในขณะที่ใช้พลังเวทย์ใช่ไหม」
「เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากเลยนะ……」
「มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องขอบคุณเลย ฉันก็ปรารถนาให้เขากลับมาเหมือนกันนอกจากนี้……」
「นอกจากนี้……?」
「ไม่หรอก ไม่มีอะไร……」
ผมสีแดงของเธอปลิวไสวไปตามสายลมขณะที่เธอเอียงศีรษะ
จนเมื่อวันก่อนเธอเป็นเหมือนหอคอยบนผืนทรายที่พร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อ แต่ตอนนี้เธอกลับมองไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
มันเป็นความแข็งแกร่งที่เธอซ่อนไว้ในตัวเธอเองหรือเป็นเพราะอิทธิพลของเขาคนนั้น
น่าอิจฉาเหลือเกิน ไอริสกลืนคำพูดนั้นลงไปในลำคอ
ฉันตัดสินใจสลัดมันทิ้งไปชั่วคราว แทนที่จะมามัวรู้สึกอิจฉาสู้เอาเวลาไปคิดหาวิธีทำให้เขากลับมาได้ดีกว่า
ค่อยๆวางมือซ้ายลงบนอก
สิ่งที่ฉันจำได้คือคำพูดที่ฉันบอกโนโซมุในป่านั่น
“ฉันอยากจะอยู่เคียงข้างนาย และอยากให้นายอยู่เคียงข้างฉัน”
นั่นเป็นคำพูดที่มาจากใจ ฉันยืนยันความรู้สึกของตัวเอง ว่าฉันนั้นได้หลงรักเขาอย่างจริงจัง
อย่าจมอยู่กับความคิดแย่ๆที่มันคั่งค้างในใจอีกเลย
「เอาล่ะ ! ไอริส การเตรียมการเสร็จสิ้น!」
「ไปกันเถอะค่ะ!」
「อืม!」
ผมสีดำเงางามที่ปกคลุมยามราตรีพร้อมกับผมสีแดงเพลิงที่จะแผดเผาทุกสิ่ง
ด้วยเสียงตะโกนของทอม ทั้งสองก็ยืนข้างกันและวิ่งเข้าหามรสุมที่โหมกระหน่ำ
พิมพ์ผิด พิมพ์ตกตรงไหน ขออภัยไว้ก่อน
ไปละ