ตอนที่ 10 ปลดล็อคคุณสมบัติขั้นต้น (โดยไม่ได้รับอนุญาต)
สำหรับมื้อเช้านั้น ฮิคารุเลือกฮอทดอกร้านเดียวกับเมื่อวาน ไม่ใช่ว่าเขาชอบหรืออะไรหรอก แต่คนขายเอาแต่จ้องเขาอยู่นั้นแหละ และ กลิ่นของมันแตกต่างไปจากเมื่อวาน
มื้อเย็นของเมื่อวานฮิคารุเลือกยากิโซบะร้านเดิม ยากิโซบะสดใหม่จากกระทะยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก เจ้าของร้านจำฮิคารุได้เลยแถมเพิ่มให้เป็นพิเศษ มันเยอะมากแต่ฮิคารุก็ยังกินหมดอยู่ดี
“หืมมมมม.?”
ซอสบนฮอทดอกไม่ใช่แบบเดียวกับเมื่อวาน คราวนี้เป็นสีน้ำตาล
“………”
หืมมมม… อะไรเนี่ย ไม่หวานแบบเมื่อวาน แล้วกลิ่นยังคาวอีก
“พูดตามตรงเลยนะ รสชาติห่วยแตกสุดๆอะ” คิดจะพูดแล้วก็พูดอย่างไม่คิด
หลังจากได้ยินคำพูดของฮิคารุแล้ว เจ้าของร้านก็กัดฟัน
“อั่ก….”
“ได้ลองชิมเองรึยังเนี่ย ทำไมถึงใส่อะไรแบบนี้ลงไปฮ๊ะ?”
“ซอสสูตรพิเศษน่ะ ใช้น้ำปลาเป็นฐาน”
ฮิคารุยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
“พยายามได้ดีแต่ยังอ่อนหัด!!! ฮอทดอกน่ะ ต้องกินคู่กับมาสตาร์ดและซอสมะเขือเท่านั้น!!!”
เจ้าของร้านไม่รู้จัก ซอสมะเขือกับมาสตาร์ด ฮิคารุก็เลยอธิบายไป เขารู้ว่าซอสมะเขือเทศทำยังไง แต่ไม่รู้วิธีทำมาสตาร์ดเลยบอกได้แค่รสชาติกับรูปลักษณ์ของมันเท่านั้น
พอก้าวเข้าไปในกิลเขาก็สัมผัสได้ถึงสายตามากมายที่จ้องมาที่เขา
“เฮ้ย….ไอ้เด็กนั่น”
“ไอ้เด็กเปรตที่ได้รับการดูแลจากทั้งจิลจังกับกลอเรียจังนี่หว่า”
ฮิคารุไม่ได้ยินสิ่งที่คนอื่นกระซิบกัน
“ฮิคารุคุง!”
หลังจากที่เธอเห็นเขา จิลก็รีบวิ่งออกมาจากหลังเคาท์เตอร์ทันที
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรนายใช่มั้ย!?”
“อะไรของเธอเนี่ย?”
เธอแตะที่หัวและตัวของเขา ฮิคารุไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อะไรเนี่ย!?”
เธอจูงมือฮิคารุทันที
“มานี่หน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
มือของเธอทั้งอุ่นและนุ่ม เธออยู่ใกล้มากจนได้กลิ่นหอมจางๆจากตัวเธอ พวกนักผจญภัยถึงกับฮือฮาออกมาตอนที่จิลจูงมือฮิคารุไป
ฮิคารุใจเย็นลงก็จริง แต่ก็ยังไม่ชินกับการถูกรายล้อมไปด้วยผู้หญิงอยู่ดี ทั้งคู่เข้าไปข้างหลังเคาท์เตอร์ที่กลอเรียเคยนั่งอยู่ในนั้น
“รู้มั้ยว่าเมื่อเช้าฉันตกใจขนาดไหนน่ะ กลอเรีย เธอให้เควสนายไปใช่มั้ย”
“น่าจะเรียกว่าแนะนำมากกว่านะ ใครจะไปรู้ล่ะว่าแค่งานส่งจดหมายมันจะต้องเข้าไปคุยกับกิลด์กองโจรด้วยน่ะ”
จิลถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ถ้ารู้แบบนั้นแล้วแปลว่าทำเควสเสร็จไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย”
“ก็แค่งานส่งจดหมายง่ายๆน่ะ”
“ไม่มีทางย่ะ ยังกลอเรียไม่มีทางที่จะให้แค่ “เควสส่งจดหมายธรรมดาๆ”แน่นอน แต่เห็นแบบนี้แล้วนายคงโชคดีมากเลยนะเนี่ย”
“โฮ่ นี่แปลว่ากลอเรียก็เป็นพวกเสแสร้งเหมือนกันสิน้า”
“ก็ใช่น่ะสิ เดี๋ยวนะ “เหมือนกัน”นี่มันหมายความว่ายังไงกันยะ?”
ฮิคารุยักไหล่ตอบ
“นี่คงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นเหมือนเธอหรอกนะ?! อ๊า…… อยู่ห่างๆกลอเรียไว้เลยนะฮิคารุคุง รับเควสตอนที่ฉันอยู่เท่านั้นนะ ฉันจะจัดลำดับความสำคัญให้เธอเป็นอันดับแรกเลย”
“ผมเลือกเควสเองได้น่า”
“เธอรับเควสจากกลอเรียไปใช่มั้ยล่ะ ถ้ารับเควสไปโดยไม่คิดให้ดีล่ะก็ อนาคตเธอล่มจมแน่ เข้าใจมั้ย”
“ปัญหาใหญ่มันน่าจะอยู่ที่กิลด์ที่จ้างพนักงานแบบนั้นมากกว่าม้าง แล้วอีกอย่าง ไม่ใช่ว่าผมจะรับเควสโดยไม่คิดซะหน่อย ผมรับเควสเพราะว่ามันเตะตาดีต่างหาก”
“เดี๋ยวนะ! ว่าไงนะ นี่ปรกตินายรับเควสเพราะว่ามัน “เตะตา” งั้นเหรอ!”
“น่าสนุกดีออก”
จิลถอนหายใจอีกรอบ
“ฮิคารุคุง โชคน่ะไม่เข้าข้างนายเสมอไปหรอกนะ นั่นน่ะ เรียกว่าโชคของมือใหม่ไง”
“คร้าบ คร้าบ เข้าใจแล้วคร้าบ ฟังเทศนามากพอแล้วคร้าบ”
“ไม่ได้พูดเยอะขนาดนั้นซักหน่อย!”
“แล้วก็ ที่สำคัญ ผมอยากรับเควสน่ะ”
เขาเกือบจะพูดไปแล้วว่า “ผมไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้แล้ว” แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงไปเพื่อไม่ให้บทสนธนายืดยาวไปมากกว่านี้
“ขะ..เข้าใจแล้ว เอ้านี่”
เธอหยิบกองคำร้องออกมา
[ทำความสะอาด]
[ซื้อของให้โบสถ]
[ซ่อมหลังคา]
[เติมถ่านให้ช่างตีเหล็ก]
[คุยกับผู้สูงอายุ]
……
“ขอปฎิเสธคร้าบ” เขาพูดปัด
“ทำไมล่ะ พวกนี้น่ะทำประโยชน์ให้เมืองมากๆเลยนะ!”
“ให้พวกเด็กจากครอบครัวที่ไม่มีเงินกับพวกว่างงานทำเหอะ ยังไงก็เถอะ ทำไมถึงส่งคำร้องแบบนี้มาให้กิลด์กันล่ะเนี่ย”
“พวกนักล่าเควสชอบอะไรแบบนี้นี่นา”
ก็คล้ายๆกับพวกนักสะสมนั่นแหละ แค่พวกนี้รับทุกเควสโดยไม่สนเนื้อหา ขอแค่ให้ได้รับเควสเท่านั้นแหละ
“ผมอยากได้เงินนี่นา”
“นายอยากรวยงั้นเหรอ อี๋”
เธอมองเขาด้วยสายตาขยะแขยง ทำให้ฮิคารุรู้สึกหยุดหงิดไม่น้อย
“ที่จริงก็พอมีคำร้องที่เหมาะกับเธออยู่นะ”
“แล้วไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ”
ฮิคารุฉกมันมาจากจิล
[Monster Hunter] [ต่อเนื่อง]
กระต่ายเขาแดง จำนวนไม่สำคัญ ขอแค่ล่ามา
รางวัล รางวัลพื้นฐาน 0 กิลลัน 10,000 กิลลัน ต่อกระต่ายหนึ่งตัว
“เควสต่อเนื่องน่ะ จะรับเมื่อไรก็ได้ ส่วนกระต่ายเขาแดงน่ะมีดีแค่ความเร็วเท่านั้นล่ะ เธอสามารถฆ่ามันได้ด้วยมีดเล่มดียวล่ะนะ”
“หืมมมม รางวัลเยอะไม่สมกับความยากเลยนะ”
“ลองดูเดี๋ยวก็รู้เองล่ะน่า”
“คงไม่ส่งผมไปที่ๆอันตรายอีกใช่มั้ยเนี่ย”
“อย่าทำเหมือนฉันเป็นพวกเลวๆสิ! นี่น่ะเป็นเควสต่อเนื่องอยู่แล้ว มันอาจจะต้องใช้เวลาทั้งวันกว่าจะล่าได้ตัวนึงเลยนะ ขอให้โชคดี แต่เธอดูอ่อนแอนะ จะไหวเหรอ เปลี่ยนไปเช็ดหน้าต่างรอบเมืองดีกว่ามั้ย”
“พอได้แล้วๆ ผมจะรับเควสนี้”
“ก็ได้ กระต่ายเขาแดงให้รางวัลสูง นี่น่ะเป็นเควสสำหรับพวกมือใหม่เพื่อสั่งสอนให้รู้ว่ายิ่งทำงานหนัก ก็จะยิ่งได้สิ่งที่ต้องการ เหมาะกับเธอดีนะ พยายามเข้าล่ะ”
“…….”
“แถวเริ่มยาวแล้วแฮะ ต้องรีบกลับไปทำงานแล้วสิ ระวังตัวด้วยล่ะ ฟังนะ การทำตัวขี้ขลาดน่ะไม่ใช่เรื่องแย่หรอกนะ แล้วก็ ถึงจะตัวเปล่ากลับมา ถ้าไม่จำเป็น อย่าตั้งแคมป์นอกเมืองล่ะ ประตูน่ะจะปิดก่อนพลบค่ำรีบกลับมาก่อนตอนนั้นล่ะ”
“…….”
“สัญญานะ บาย”
“……..”
เธอทำตัวเหมือนกับแม่ที่เตือนลูก ฮิคารุมองจิลกลับไปทำงานด้วยสีหน้าขมๆ
“ต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะฆ่าได้ตัวนึงเลยงั้นเหรอ”
หลังจากที่เข้าไปในห้องอ้างอิง ฮิคารุเคลื่อนตัวไปติดกำแพงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ระยะห้าเมตร…….นั่นไง หนึ่งในคนที่เคยจ้องมาที่ฮิคารุ
พอดีเลย กำลังต้องการหนูทดลองพอดี
ฮิคารุตั้งสมาธิ
ดูเหมือนว่าเราจะเรียกโซลบอร์ดได้โดยไม่ต้องเห็นตัวสินะ
[โซลบอร์ด] เซอรเนนโค่ ริกาโลว
อายุ 22 แรงค์ 11
18
[พลังกาย]
[ฟื้นฟูโดยธรรมชาติ] 1
[ความอึด] 2
[ความต้านทาน]
[ต้านทานเวทย์] 0
[ต้านทานโรค] 1
[ต้านทานพิษ] 0
[การรับรู้]
นั่นไงล่ะ หมอนี่ปลดล็อคความต้านทานแล้ว เข้าใจล่ะ หลักมีต้านทาน โรค เวทย์ กับ พิษสินะ
เขาอยากจะเช็ครายละเอียดแต่ทำไม่ได้เพราะมันไม่ใช่โซลบอร์ดของเขา
ช่างเถอะ แค่ชื่อก็อธิบายตัวมันเองอยู่แล้ว แล้วข้อมูลนอกจากนี้ก็มีแค่ค่าสูงสุดแค่นั้น เอาไว้ค่อยหาไปเรื่อยๆก็ได้ เอาล่ะลองอันอื่นซิ
[พละกำลัง]
[พลังจู่โจม] 3
[ชำนาญอาวุธ]
ดาบ 1
ดาบใหญ่ 0
ดาบสั้น 0
หอกสั้น 0
หอกยาว 0
ธนู 0
อาวุธขว้าง 0
โล่ 1
เกราะ 1
หืม มีอาวุธเก้าชนิดใน ชำนาญอาวุธสินะ แล้วขวานหรือกระบองล่ะ แล้วไอ้กฎการเลือกอาวุธนี่มันยังไงกันแน่
ฮิคารุลองเดาไปในหลายๆทางแต่ก็ไม่ได้คำตอบจริงๆ
ยังขาดข้อมูลที่จะสรุปอยู่ ไปอันต่อไปซิ โอ้ ห้าเหลี่ยมสินะ
[ความแม่นยำ]
[ความแม่นยำ] 1
[ชำนาญเครื่องมือ]
หืม ต้องปลดล็อคชำนาญเครื่องมือเป็นอันดับแรกสินะ อันนี้เหมือนจะไม่เกี่ยวกับอาวุธ ถ้าลองเทียบกับเกม RPG นี่น่าจะเกี่ยวกับการสร้างเครื่องมือ อะไรเทือกนี้สินะ แล้วเหมือนว่าความแม่นยำน่าจะเกี่ยวกับชำนาญอาวุธด้วยสินะ
ฮิคารุกอดอกแล้วคิด
หมอนี่มี 2 แต้มในส่วนของความคล่องตัว แปลว่าใช้แต้มไปแล้วสิบห้าแต้มสินะ ยืนยันจากการเอา อายุ+กับแรงค์=แต้มทั้งหมด
โรแลนด์ไม่มีความรู้เกี่ยวกับโซลบอร์ดอยู่เลย นั่นแปลว่ามันไม่ใช่อะไรที่คนปกติจะเข้าถึงได้ แล้วนี่ก็นำมาสู่คำถามว่า แล้วเซอร์เนนโค่ ใช้แต้มได้ยังไง ไม่สิ จิลเคยพูดอะไรบางอย่างไว้นี่นา กลอเรีก็ถามแค่เรื่องคลาสด้วย หรือว่า เจ้าของแต้มจะใช้แต้มไปโดยไม่รู้ตัว หรือไม่ก็…..
หรือไม่ แต้มจะถูกใช้ไปตามความชำนาญส่วนตัวน่าจะเป็นแบบนั้นแหละ เหมือนกับโบนัสสำหรับพวกที่ฝึกหนัก
ความสามารถนี่มันเจ๋งชะมัด ไอ้การลงแต้มได้อย่างอิสระที่มันทางลัดชัดๆ เราไม่จำเป็นต้องฝึกหรืออะไรเลย
ขณะฮิคารุที่กำลังจมอยู่กับความคิด ก็มีเสียงหนึ่งดังเข้าหูของเขา
“เด็กนั่นไปทำอะไรในห้องอ้างอิงวะ”
“ช่างมันสิ แทบจะรอที่จะสั่งสอนให้รู้ถึงบทเรียนทางสังคมไม่ไหวแล้วเว้ย”
“เอะเฮะเฮ่ บทเรียนทางสังคมเรอะ หมายความว่าแม่งจะโดนกระทืบใช่มะ”
นั่นคือเสียงของเซอร์เนนโค่ กับคู่หูนั่นเอง ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะจับตามองฮิคารุอยู่แพราะเรื่องที่ฮิคารุเคยทำไว้
เฮอะ…..วางก้ามเข้าไป ฉันก็ไม่ได้ชอบพวกเอ็งเหมือนกันแหละ อ๊ะ คิดอะไรดีๆออกแล้ว
ความคิดชั่วร้ายแวบบเข้ามาในหัว ฮิคารุสามารถใช้แต้มของคนอื่นได้ แล้วถ้าเขาใช้แต้มไปกับการปลดล็อคบางส่วนล่ะ สกิลที่แทบไม่มีผลอะไร ถ้าแบบนั้น เขาจะได้รู้อะไรหลายๆอย่างด้วย
ฮิคารุยิ้มอย่างชั่วร้าย
[ปลดล็อค โซลบอร์ด หรือไม่ ใช้ 1 แต้ม]
“ใช่”
จะใช้แต้มที่เหลือของแกใช้หมดเลย อย่างแรก หกเหลี่ยม
[อำนาจจิต]
[ความแข็งแกร่งทางจิตใจ] 0
[ความยึดมั่น]
[พรสวรรค์]
[ความดึงดูด]
โอ้ อานาจจิต ล่ะ เท่านี้ก็ครบแล้ว พลังกาย พลังเวทย์ ความแข็งแกร่ง ความคล่องตัว ความแม่นยำ อำนาจจิต การหยั่งรู้
ฮิคารุรู้สึกดีที่เติมเต็มความสงสัยได้สักที
น่าสงสารจริงๆ ทั้งพรสวรรค์และความดึงดูดเป็น 0 โซลบอร์ดดูเหมือนว่าจะให้ผลบางส่วนเท่านั้น เรามีความแข็งแร่งทางกายเป็น 0 แต่ใช่ว่าจะไม่มีกล้ามเนื้อเลย แปลว่าแต้มของโซลบอร์ดใช้เป็บโบนัสสินะ
เขารู้สึกไม่ดีที่ใช้แค่แต้มของเซอร์เนนโค่ อาจจะช้าไปหน่อยแต่ก็ใช้แต้มของที่เหลืออีกสองคนเช่นกัน
ผลก็คือ
[พลังกาย]
[ฟื้นฟูโดยธรรมชาติ] 0
[ความอึด] 0
[ความต้านทาน]
[ต้านทานเวทย์] 0
[ต้านทานโรค] 0
[ต้านทานพิษ] 0
[การรับรู้]
【รูป】0
【เสียง】0
【กลิ่น】0
【รส】0
【สัมผัส】0
【พลังเวทย์】
【มานา】0
【ความสัมพันธ์พทางวิญญาณ】
【ไฟ】0
【ลม】0
【ดิน】0
【น้ำ】0
【สร้างสรรค์เวทย์】0
เขารู้ทั้งหมดของความคล่องตัวและความแข็งแกร่งทางกายแล้ว
【ความแม่นยำ】
【ความแม่นยำ】0
.. 【ชำนาญเครื่องมือ】
【ขวาน】0
【เครื่องทอผ้า】0
【เครื่องปั้นดินเผา】0
【เครื่องดนตรี】0
【อำนาจจิต】
【ความแข็งแกร่งทางจิตใจ】0
【ความยึดมั่น】
【ดี】0
【ชั่ว】0
【พรสวรรค์】0
【ความดึงดูด】0
[การหยั่งรู้]
[สัญชาตญาณ] 0
[ความเข้าใจ]
[การสร้างสรรค์] 0
[วิจิตรศิลป์] 0
[ดนตรี ] 0
[ความฉลาด]
[คณิตศาสตร์】0
[ความเข้าใจภาษา】0
[การพูด】0
[ความจำ】0
[การตรวจจับ】
[ตรวจจับชีวิต】0
[ตรวจจับมานา】0
ชิ บ้าเอ้ย ใช้แต้มมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ฮิคารุเดาะลิ้นให้กับเรื่องเล็กน้อย อนึ่ง ทั้งสองหน่อมีแต้มเท่ากับ เซอร์เนนโค่ ที่มีแต้มในสามสาย แค่เท่านี้พวกนี้ก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว ฮิคารุคิดว่าคงจะน่ารำคาญถ้ามีแต้มใดแต้มหนึ่งเต็ม
ตอนนี้ก็รู้ครบแล้วล่ะนะ ต่อไปก็เหลือแค่สกิลที่แตกหน่อออกมาสินะ น่าเสียดายจริงๆที่ศึกษาไม่ได้
แต่ถ้าจะเช็คก็ต้องแจงแต้มให้พวกที่เขาเหม็นขี้หน้า
ช่างมันละกัน ไม่ได้อยากได้ข้อมูลขนาดนั้นด้วย เอาไว้ค่อยเช็คจากพวกที่เก่งๆละกัน
ฮิคารุผงกหัวและเริ่มศึกษาข้อมูลสำหรับเควส
“ไอ้เด็กนั่นจะออกมามั้ยเนี่ย”
“ชักเริ่มง่วงแล้วอะ”
พวกนั้นก็ยังรอเขาอยู่
หลังออกจากกิลด์ ฮิคารุแวะซื้อข้าวเที่ยงไปด้วย เพราะอาจจะต้องอยู่นอกเมืองทั้งวัน เขาได้แซนด์วิซมาในราคา 30 กิลลัน เขาเตรียมน้ำไปด้วยเรียบร้อย และมีสายตาจับจ้องเขาจากข้างหลัง
“นั่นไง”
“เหมือนหมอนั่นจะรับคำร้องไปนะ”
“นอกเมืองงั้นเหรอ?”
“ถ้าดูจากทางที่เดินไปก็น่าจะใช่นะ”
“งั้นไปจัดการแม่งข้างนอกแล้วกัน”
“ฉลาดดีนี่ ถ้าจัดการมันในเมืองเราโดนจับแน่ๆ”
พวกนี้คือแฟนคลับของจิลและกลอเรีย มีสมาชิกประมาณหกหน่อ ทิ่งระยะห่างและคอยตามฮิคารุไปเรื่อยๆ พวกนี้สะกดรอยได้กากมากๆ แม้แต่ชาวบ้านธรรมดายังรู้
“วันนี้ก็จะออกไปทำเควสอีกแล้วเหรอ?”
ชายคนที่พูดด้วยคือยามเฝ้าประตูตอนที่เขาออกไปเก็บหญ้าพิษเรืองแสงนั่นเอง
“ระวังตัวด้วยล่ะ จำไว้นะ อย่าไปทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายล่ะ เธอน่ะเป็นนักผจญภัย ไม่ใช่ยามเฝ้าประตูอย่างข้า การกลัวน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีหรอกนะ”
“เจ้าใจแล้วครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ”
“ไม่เป็นไร เด็กต้องฟังคำของผู้ใหญ่นา”
“………”
ทำเหมือเราเป็นเด็กอีกแล้ว ก็เข้าใจได้ล่ะนะ ในโลกนี้มีทั้งพวกที่สูงและล่ำบึ้กกว่าเขาอยู่เยอะ ถ้าเทียบกับพวกนั้นเราอาจจะเหมือนเด็ก แต่เราก็ไม่ได้เตี้ยนะเห้ย ฮิคารุคิดพร้อมกับโค้งคำนับ
ยามเฝ้าประตูยิ้มขึ้นมา
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็”
ครั้งก่อนเขาไม่ได้สำรวจมากนักเพราะหิวอยู่ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ครั้งนี้เขาจะพยายามสำรวจให้มากที่สุด
ที่อยู่ข้างนอกเป็นสถานีรถม้า ที่นี่ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้น แต่ยังมีครึ่งมนุษย์ และเอลฟ์อีกด้วย พวกเขามีทั้งยักท่องเที่ยวและพ่อค้า
หลังจากที่ผ่านสถานีไป ก็จะมีโรงแรม และไกลกว่านั้นก็เป็นโรงนา ไม่เหมือนกับในเมืองแต่เป็นแบบที่สร้างด้วยไม้อย่างลวกๆ ข้างหลังนั้นก็เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว
พอไปไกลกว่านั้นบ้านก็ค่อยๆลดลง ลดลง จนกระทั่งเผชิญหน้ากับธรรมชาติ
ถนนก่อนหน้านี้ยืดยาวไปไกล ยอดเขาสีฟ้า ปรากฏอยู่ไกลๆ ข้างหน้าเป็นทุ่งหญ้าที่ปลิวไสวพร้อมกับลมที่โชยอ่อน
“ในที่สุดก็ได้เริ่มซักที”
ฮิคารุเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และข้างหลังของเขามีนักผจญภัยอยู่หกหน่อด้วยกัน
“อาวล่ะ พวกเราจัดการล้อมแม่ง….เดี๋ยวนะเห้ย”
ไม่อยากเชื่อสายตา ฮิคารุอาจจะซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ตรงไหนก็ได้แต่ว่าหาเท่าไรก็หาไม่เจอ
ไม่มีใครสามารถสัมผัสถึงตัวตนของฮิคารุได้ด้วยสกิลและคลาสของเขา แม้แต่ใน พอนด์ หรือ แม้แต่ในอาณาจักรพอนด์โซเนียก็ตาม