ตอนที่ 11 แก้ปัญหา
ไม่นานนักหลังจากที่ฮิคารุออกจากเมืองไป ยามเฝ้าประตูรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก นักผจญภัยหกคนนั้นผ่านประตูออกไปเหมือนกำลังตามเขาไปอยู่
“ขอโทษนะ รบกวนตามมาทางนี้หน่อยได้มั้ย มีอะไรบางอย่างอยากจะตรวจสอบน่ะ ไม่เกินสิบห้านาทีหรอก”
เขาคุยกับทหารยามที่อยู่หน้าประตู พวกเขาตกลงและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ลางสังหรณ์ของเขาถูกต้อง หลังจากเดินไปไม่นานก็เจอกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังเลิ่กลั่กอยู่
“เห้ย มันไม่อยู่นี่ว่ะ”
“ไอ้เด็กเวรนั่นไปไหนวะ”
“แม่งไม่น่าจะหายไปเฉยๆในเวลาสั้นๆแบบนี้ไม่ได้นี่หว่า บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้จับตาดูเอาไว้น่ะเห้ย”
“แกก็เหมือนกันล่ะวะ!!!”
“ทำอะไรกันอยู่น่ะ ได้ยินที่คุยกันแล้ว มีอะไรจะคุยกับเด็กนั่นสินะ ทำไมไม่คุยกับเขาในเมืองล่ะ”
“หา? เฮ้ย พวกทหารยามนี่หว่า!!!”
แล้วพวกนั้นก็เงียบไป
“รบกวนมาที่สถานีด้วยกันสักครู่ได้ไหมครับ”
“พะพะพะพวกเรา มะมะมะไม่ได้มีอะไรซะหน่อย จริงมั้ยไอ้เกลอ”
“นะนะนะนั่นสิเนอะ ไอ้เกลอ”
“ตามมาซะ นี่เป็นคำสั่ง” ยามเฝ้าประตูย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม
พวกนักผจญภัยใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ตัวหดเหลือนิดเดียว แล้วก็ถูกพวกทหารพาตัวไป
“อะไรนะ พวกเอ็งอยากสั่งสอนเด็กคนนั้นแค่เพราะว่าพนักงานกิลด์สองคนให้ความสำคัญกับเขาเนี่ยนะ คิดบ้าอะไรกันอยู่ นี่พวกเอ็งโตๆกันแล้วนะเห้ย ให้ตายเถอะ ก็แบบนี้ไงพวกเอ็งถึงไม่มีผู้หญิงเข้ามาหาน่ะ”
….แล้วพวกเขาก็ได้รับการสั่งสอน อนึ่ง ทางทหารแจ้งเรื่องนี้ไปทางกิลด์นักผจญภัยเรียบร้อย
“อารายน้า?!”
ตอนนี้จิลมีเรื่องให้ห่วงเพิ่มอีกอย่างแล้ว
ฮิคารุเดินผ่านทุ่งหญ้าไปโดยไม่ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย
“กระต่ายเขาแดงนั้นอาศัยอยู่ใกล้ๆเมือง แล้วถ้ายิ่งออกไปไกลจากเมืองเท่าไร พวกกระต่ายก็จะน้อยลงเท่านั้น แต่ว่า ใกล้ๆเมืองนั้น ไม่มีพวกมอนส์เตอร์ดุร้ายอยู่ พวกกระต่ายก็เลยขยายพันธุ์ได้ง่าย”
นั่นคือข้อมูลที่ได้มาจากห้องอ้างอิง
“นั่นหมายความว่าสิ่งที่ยากนั้น ไม่ใช่การฆ่า แต่เป็นการล่าต่างหากก แต่แล้วไงล่ะ”
ฮิคารุพบเป้าหมายแล้ว มันอยู่หลังพุ่มไม้ ระยะห่างออกไปเล็กน้อย กระต่าเขาแดง ตัวค่อยข้างใหญ่เกินไปสำหรับกระต่าย ขนาดของมันพอๆกับลังส้ม ที่หัวของมันมีเขายาวสีแดง ยิ่งเขายาวเท่าไรยิ่งมีค่าเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่นั้นจะหักจากการใช้ชีวิตของมันอยู่แล้ว และตัวที่ฮิคารุเจอนั้นเขาหักอยู่
“หืมมมม….”
ระยะห่างของเขากับกระต่ายนั้นไม่ถึงร้อยเมตร ฮิคารุเปลี่ยนคลาสเป็น Civilian และยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จากนั้น ก็ปิดลอบเร้น
ทันใดนั้น กระต่ายเขาแดงก็ชูหัวขึ้นและมองไปรอบๆอย่างระแวง
“แปลว่าจับสัมผัสของเราได้ทั้งๆที่ไกลขนาดนี้เลยสินะ”
ฮิคารุใช้งานสกิล ลอบเร้น อีกครั้ง และเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ๆ เจ้ากระต่ายน้อยดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่ามีคนอยู่ใกล้ๆ มันกลับเอาหน้าซุกดินอีกครั้ง เขาค่อยๆเข้าใกล้เรื่อยๆ ห้าสิบเมตร สามสิบเมตร
ครั้งนี้มันชูหัวขึ้นมาและมองตรงมาที่ฮิคารุจากนั้น ก็วิ่งหนีไปด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ
“หนีไปจนได้แฮะ….” เขาบ่นพึมพำ
“ไม่ เดี๋ยวนะ สามสิบเมตรเป็ขีดจำกัดของ ลอบเร้น งั้นเหรอ นี่เราค่อนข้างมั่นใจกับสกิลของตัวเองอยู่นะเนี่ย คงจะลำบากไปหน่อยกับพวกมอนสเตอร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการต่อต้านลอบเร้นสินะ”
ฮิคารุบ่นเสียงดัง
“เดี๋นวสิ กระต่ายนั่นมองมาที่เราเลยนี่นา แปลว่ามันรู้ตำแหน่งเราสิ หรือว่า…”
มันมี ตรวจจับชีวิต หรือ มานา!!
“เรามีแต้ม อำพรางชีวิตกับมานาอย่างละแต้ม แปลว่ามันเจาะทะลุสกิลเราได้เหรอ ไม่รู้ว่ามันมีพลังเท่าไร แต่ว่า ช่างมันแล้วกัน คราวนี้ลองคลาสบ้างซิ”
หลังจากสิบห้านาทีผ่านไป เขาก็เจอกระต่ายอีกตัว ครั้งนี้เขาเปลี่ยนคลาสเรียบร้อย
“….เอาจริงดิ”
เขาเข้าหามันทางจุดบอด อาจจะไม่ส่งผลมากนักแต่ว่าเขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง กระต่ายเขาแดงอยู่ห่างจากเขาในระยะแค่หกสิบเซนติเมตร หน้าจุ่มดิน แค่เปลี่ยนคลาสก็สามารถเข้าใกล้ได้ขนาดนี้เลยทีเดียว
เจ้าตัวนี้ยังมีเขาอยู่ จากข้อมูลก่อนหน้านี้ กระต่ายเขาแดงที่เขายังไม่หักนั้นหายากมาก
“ได้เวลาฆ่าแล้ว”เขาพูดพึมพำกับตัวเอง แต่เจ้ากระต่ายก็ยังไม่รัยรู้อยู่ดี
มันขุดดินลงไปและหาแมลงหรือหนอนกิน
“……”
ฮิคารุกำมีดแน่น เขาต้องฆ่ามัน เขาเตรียมพร้อมที่จะทำอย่างนั้นแล้ว แต่ว่าตอนนี้ มีดของเขากลับสั่น ฮิคารุถอนหายใจ
“นี่มันบ้าชัดๆ เราเคยฆ่าคนไปแล้วนะ แต่ตอนนี้กลับ ลังเลที่จะฆ่าเจ้านี่ รู้สึกไม่ดีกับมัน”
แต่ไม่เหมือนกับน้องกระต่ายเขาแดง เจ้ามอร์คสแตทนั้นสมควรตาย
“…..”
เขารู้ดี มันก็เหมือนกับพวกเนื้อที่ขายอยู่ในตลาดนั่นแหละเขาไม่ได้สนใจเลย แต่กลับรู้สึกสงสารสัตว์ที่โดนส่งเข้าโรงเชือด เขาเข้าใจความรู้สึกของเขาดี เขารู้ว่าทำไมเขาถึงลังเล เขาสงสารมัน (น้องงง)
“บ้าเอ้ย เรานี่มันโง่จริงๆ” เขาพูดและประสานมือเข้าด้วยกัน
เขารู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์ ที่โลกนี้นั้นไม่มีพระเจ้าอยู่
จากนั้นก็สังหารมันด้วยการลงมีดครั้งเดียวตัดขั้วหัวใจของมัน เขาไม่รู้สึกถึงแรงต่อต้านเลย นี่อาจจะเป็นผลของสกิลลอบสังหารก็ได้
เลือดเปรอะพื้น รู้สึกอ่อนแรงตั้งแต่ที่เข่าลงไปจนถึงเท้า เขาปล่อยมีดและประสานมือเข้าด้วยกันอีกครั้ง
“เรานี่มัน โง่จริงๆ” เขาพูดกับตัวเองอีกครั้ง
การฆ่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขาแขวนศพกระต่ายเพื่อรีดเลือดออก และผ่าท้องเพื่อจัดการกับเครื่องใน การทำแบบนี้จะทำให้เนื้อมีรสชาติดีขึ้น หัวใจและไตทั้งสองข้างของมันขายได้ราคาดีพอสมควร เขาเลยเหลือพวกมันไว้ แล้วเขาก็เอาศพกระต่ายใส่ถุงพลาสติกที่ซื้อมาจากร้านขายของในเมือง หลังจากที่ล้างมือด้วยสบู่แล้ว เขาก็มุ่งหน้ากลับเข้าเมือง เป็นเวลาข้าวเที่ยงพอดีแต่เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากกินข้าวนัก
ตอนที่ไปถึงประตูเมือง ยามเฝ้าประตูได้แตะไหล่เชาและก้มหัวให้ด้วยเหตุผลบางอย่าง
“อะไรเหรอครับ”
“ไปที่กิลด์นักผจญภัยสิ”
“โอเคครับ…..”
เหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นตอนเราไม่อยู่แฮะ เขามุ่งหน้าไปที่กิลด์ที่เขาตั้งใจจะไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“ฮิ—–คา—-รุ—คู…..”
พอเขากลับมาถึง จิลกับกลอเรียก็อยู่ที่เคาท์เตอร์ จิลแทบจะโผเข้าหาฮิคารุแต่โดนสายตาของกลอเรียห้ามไว้ แล้วเธอก็กลับไปทำงานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“…….”
เธอจ้องมาที่ฮิคารุอยู่ เขาเข้าใจสิ่งที่เธอกำลังจะสื่อด้วยสายตาของเธอ
มาทางนี้สิ ทางนี้ อย่าไปทางกลอเรียนะ แค่สายตานั้นก็สื่อความหมายได้แล้ว
ฮิคารุได้กลิ่นของปัญหา แต่ถ้ายิ่งไปทางกลอเรียก็จะยิ่งทำให้เธอโมโหเปล่าๆ ด้วยไม่มีตัวเลือกมากนัก เขาจึงไปทางจิล เหมือนทุกวัน มีพวกนักผจญภัยรวมตัวกันรอบๆทั้งคู่
พวกนี้เป็นนักผจญภัยจริงมั้ยเนี่ย ไม่มีอย่างอื่นทำกันแล้วรึไง ถึงการที่ตามสัญชาตญาณแล้วหาหญิงที่เหมาะสมแล้วปักหลักด้วยกันมันไม่ผิดก็เถอะ รึเปล่านะ
“มาส่งเคว—-”
“มาได้จังหวะเลยค่ะ คุณนักผจญภัยฮิคารุ ดิฉันต้องการคุยกับคุณในบูธค่ะ”
“อะไรนะ”
“ดิฉันต้องการคุยกับคุณในบูทค่ะ”
“ผม…เอ่อ”
“ดิฉันต้องการคุยกับคุณในบูทค่ะ”
หลังจากพูดซ้ำสามครั้ง เธอก็เดินไปที่บูธ
“……”
ฮิคารุสัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาของพวกผู้ชาย
อ๊ะ ชิบละ มีปัญหาแน่ๆถ้าพวกนี้จำหน้าเราได้ คงต้องซื้อหน้ากากไว้แล้วสิ
ทันทีที่เข้าไปในบูธ
“ขอโทษนะ!!!” จิลพูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร
เธอก้มหัวให้มือทั้งคู่อยู่บนโต๊ะ พวกนักผจญภัยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
พวกนายไม่เห็นต้องออกอาการแบบนั้นเลยนี่นา เธอก็ด้วย กลอเรี เลิกมองด้วยสายตาแบบนั้นสักทีสิ กลับไปทำงานได้แล้ว
“ขอโทษนะครับ….ผมตามไม่ทันแล้ว”
“นายอาจจะไม่รู้ตัวแต่ว่ามีพวกนักผจญภัยหกคนสะกดรอยตามนายไปน่ะ”
“แล้วมันทำไมล่ะ”
“ก็พวกนั้น เอ่อ…..เป็นแฟนคลับฉันล่ะมั้งนะ ดูเหมือนว่าพวกนั้นเห็นว่าฉันดูแลเธอดีเป็นพิเศษเลยกะว่าจะทำร้ายเธอน่ะ”
ทำร้ายเหรอ หมายถึงจะจัดการเราเหรอ
“อาฮะ แล้วไงต่อ?”
“อะไรนะ?”
“ก็พวกนั้นตามผมมาใช่มั้ยล่ะ แล้วมันทำไมเหรอ”
“นายรู้อยู่แล้วงั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิเห็นได้ชัดจะตาย ดูเหมือนว่าระดับของนักผจญภัยที่นี่มันจะน้อยไปหน่อยนะ”
“มะ ไม่จริงนะ เซอร์เนนโค่น่ะ ถูกรู้จักในฐานะของพวกที่เก่งเป็นอันดับต้นๆตั้งแต่ยังอายุน้อยเลยนะ ตอนนี้เขายังอยู่ที่แรงค์ E แต่ว่าทุกคนคาดหวังในอนาคตของเขาอยู่นะ”
อะไรนะ? หมอนั่นเนี่ยนะ ถ้าจำไม่ผิดหมอนั่นมี 1แต้ม ใรสายชำนาญดาบนี่นา แค่แต้มเดียวมันสุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ
“คลาสของเขาคือ One-handed Swordsman Technician: Technical Swordsman 5 ”
“อาเข้าใจล่ะ เพราะว่ามีคลาสห้าตัวอักษรสินะ”
“ใช่สิ”
“…….”
โฮ่ แค่ห้าตัวอักษรยังสามารถดึงดูดความสนใจได้ขนาดนี้เลยเหรอ งั้นถ้าไม่บอกเรื่องคลาสของเราน่าจะดีกว่า
“ฮิคารุคุง เป็นอะไรเหรอ”
“เอ่อ ไม่มีมีอะไร”
“อ๊ะรู้แล้ว เธอกลัวสินะ ฉันเข้าใจ เธอกลัวเพราะนักผจญภัยที่มีคลาสห้าตัวอักษรจับตามองเธออยู่สินะ แต่ไม่เป็นไรแล้วล่ะนะ พวกเขาได้รับคำเตือนจากพวกทหารแล้วล่ะ คงไม่กล้าซ่าไปสักพักใหญ่ๆเลยล่ะนะ”
“เข้าใจแล้ว”
จริงๆแล้วเขสไม่ได้กลัวแม้แต่นิดเดียว แต่ขี้เกียจอธิบาย งั้นก็ปล่อยให้เข้าใจไปแบบนี้ล่ะดีแล้ว
ในอีกด้านหนึงเขาก็เข้าใจถึงการกระทำของยามเฝ้าประตูคนนั้นแล้ว นักผจญภัยพวกนั้นทำลับๆล่อๆ ดังนั้น ทหารก็เลยควบคุมตัวไป
พวกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรกับเราหรอกนะ แต่ว่าก็ยังน่ารำคาญอยู่ดี
ฮิคารุรู้สึกดีที่มีคนเป็นห่วงและปกป้องเขา
ซื้อเค้กไปให้ดีมั้ยนะ จากในความทรงจำของโรแลนด์ ที่นี่ก็มีเหมือนกันสินะ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่ต้องกลัว ตอนนี้เธอถูกปกป้องอยู่นะ” เธอพูดและเริ่มลูบหัวของเขาเพื่อให้หายกังวล
ความคิดของฮิคารุหยุดนิ่งไปเลย เดี๋ยวดิ นี่เธอลูบหัวเราอยู่เหรอ
“นี่มันน่ารำคาญนะ ผมไม่ชอบ”
“อะไรน้า ทำไมล่ะ หรือว่านายเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน ฉันพอจะรู้จักคนแบบนั้นอยู่บ้างนะ”
“ไม่ใช่สักหน่อย อย่าคิดว่าคนอื่นจะดีใจกับสิ่งที่เธอทำให้สิ พูดตรงๆเลยนะ ท่าทีของคุณที่มีต่อผมน่ะ มันทำให้คนอื่นเข้าใจผิดนะ เดี๋ยวไอ้พวกนักผจญภัยสมองขี้เลื่อยพวกนั้นก็มาทำร้ายผมอีกหรอก”
“อ๊ะ ขอโทษนะ เอาไว้เดี๋ยวลูบหัวให้ตอนที่ไม่มีคนเห็นนะ”
ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย!
ฮิคารุอยากจะพูดแบบนั้นแต่ว่าพูดไปเธอคงจะไม่สนใจอยู่ดี เจ็บหัวอะ
“ช่างเถอะ เรียบร้อยรึยัง ผมอยากจะส่งเควสแล้วน่ะ”
“อื้ม ได้สิ เดี๋ยวจัดการใ—-อะไรน้า”
จิลจ้องไปที่เขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“ผมล่ากระต่ายเขาแดงมาแล้ว”
“ล้อเล่นแน่ๆ เป็นไปไม่ได้”
“ไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย นี่ไง ได้มาตัวนึง”
ฮิคารุเปิดถุงให้ดู กลิ่นของเลือดและสาบสัตว์ลอยออกมา
“ฮิคารุคุง เธอนี่เป็นคนที่โชคดีสุดๆไปเลยนะ!” จิลพูดพร้อมกับรู้สึกทึ่ง
———————-
ผู้แปลเองนะครับ พอดีวันพรุ่งนี้ผมติดธุระมาอัพไม่ได้วันนี้เลยขอลงรวดเดียวสองตอนเลยนะครับ