ตอนที่ 16 เตรียมการหลบหนี
ฮิคารุตื่ขึ้นมาในตอนเช้า เขาไม่ได้นอนมากนักและรู้สึกอ่อนแรงจากการเดินไปนู่นมานี่ทั้งวันของเมื่อวาน
“…..คิดถูกแล้วที่ย้ายมานอนโรงแรมนี้ ได้ผ่อนคลายเต็มที่ในห้องส่วนตัวนี่ดีจริงๆ”
เขาไม่เคยนอนโรงแรมตอนสมัยที่ยังอยู่ญี่ปุ่น แต่ว่าก็ยังพอมีความรู้อยู่บ้าง ตอนที่เขาเข้าไปในห้องครั้งแรกก็คิดว่า เข้าใจล่ะ เป็นแบบนี้สินะ
ซึ่งไม่ใช่แบบนั้น มันไม่มีอ่างอาบน้ำอุ่น ไม่มีทีวี ที่ระเบียงก็ไม่มีเครื่องซักผ้าด้วย
“โชคดีนะค้า!” สาวหูแมวคนเดิมโบกมือจากหลังเคาท์เตอร์
…นี่อยู่ตลอด 24 ชั่วโมงเลยเรอะ ฮิคารุคิด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วเขาก็ออกจากโรงแรมไป
ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว
“…….”
“…….”
อีกแล้วเหรอ เจ้าของร้านฮอทดอกยืนจ้องเขาอีกแล้ว
“สามสิบกิลลัน”
“ครั้งนี้ดีแน่นา”
มันมีซอสมะเขือเทศและมาสตาร์ดราดอยู่ด้วย ลองดูก็ไม่เสียหาย แล้วก็ลองกัดไปคำนึง
“?!”
ตาของเขาเปิดกว้าง
“ว่าไง!? รสชาติเป็นไงบ้าง?”
“…..อ่อน”
“ว่าไงนะ?”
“ทำไมซอสมันเหลวเป็นน้ำอย่างนี้ห๊า นี่มันแย่กว่าเดิมอีก”
ฮอทดอกรสชาติอ่อนมาก เขาผิดหวังมากที่ซื้อมันมาแล้ว หลังจากกินเสร็จ ฮิคารุก็เดินออกจากตรงนั้น เจ้าของร้านก็คอตกอย่างเศร้าใจ
ฮิคารุออกมานอกเมือง เขามีสิ่งที่อยากทำอยู่แล้ว
อย่างแรกเลย เราต้องการเงิน
ยิ่งมีเงินยิ่งดี เขาอาจจะต้องใช้เพื่อช่วยลาเวียก็ได้ ปัญหาในตอนนี้คือราชาที่เป็นคนจั่วหัวว่าลาเวียเป็นฆาตรกร ถึงจะเป็นแค่การคาดเดาของเธอ แต่ว่ามันก็มีน้ำหนักดี แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ถูกฆ่าเป็นถึงเคาท์ การตายของหนึ่งในสามสิบของผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆของอาณาจักรนี้ คนร้ายถูกจับภายในเวลาสองถึงสามวัน ลาเวียเองก็ไม่ได้สารภาพอะไรด้วย แปลวาบางที อาจจะเป็นความคิดของหนึ่งในสามสิบคนนั้นแน่ๆ
ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะต้องเจอจับใคร แต่เราจะต้องช่วยเธอให้ได้ เราสัญญาไว้แล้ว
ฮิคารุนั้นมีโอกาสที่จะทำสำเร็จอยู่ เธอจะถูกส่งไปที่เมืองหลวงในสองวันจากนี้ เขาจะต้องเตรียมพร้อมให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเงิน
นั่นไงล่ะ…
ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือการล่ากระต่ายเขาแดง สิบห้านาทีหลังออกจากเมือง เขาก็เจอตัวหนึ่ง ฮิคารุชักมีดออกมาและฆ่ามัน เขารู้สึกผิดน้อยกว่าเมื่อวาน
เราคงเริ่มชินแล้วล่ะมั้งนะ
เขามองดูมีดที่เปื้อนเลือด ที่คมมีดมีเศษไขมันติดอยู่ เขาจึงเอาเศษผ้ามาเช็ดมัน
บางทีการฆ่าคนก็อาจจะเหมือนกัน ต้องจิตใจเข้มแข็งเข้าไว้ไม่งั้นหลุดแน่
เพราะความผิดพลาดเมื่อคืน เขาเกือบจะฆ่าอัศวินไปแล้ว โชคดีล้วนๆที่มันจบลงด้วยดี แต่ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าครั้งหน้าเขาจะโชคดีอีก บางทีอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ หลังจากที่ผิดพลาดไปเมื่อคืน เขาจึงได้ตั้งกฎไว้กับตัวเอง
ลอบเร้นนั้นโดดเด่นในการรวบรวมข้อมูลโดยไม่ต้องเสี่ยงมาก แล้วทำไมถึงจะไม่เอามาใช้ล่ะ
ยังไงนี่ก็เป็นจุดแข็งของเราอยู่แล้ว
“หืมมม?”
ตอนที่เขาฆ่ากระต่ายไป เขาก็รู้สึกบางอย่าง
“นี่มัน แบบเดียวกับตอนที่ฆ่าเคาท์นี่นา”
มันเกิดขึ้นประมาณสิบวิ และฮิคารุก็เปิดโซลบอร์ดขึ้นมา
[โซลบอร์ด] ฮิคารุ
อายุ 15 แรงค์ 5
1
“ว่าแล้วเชียว แรงค์เพิ่มสินะ”
เขาไม่ได้รู้ว่าต้องฆ่าขนาดไหนถึงจะเพิ่มแรงค์ได้ แต่จากข้อมูลที่รวบรวมมา พวกนักผจญภัยมือใหม่ในช่วงอายุประมาณ 10-20 ปีจะมีแรงค์ต่ำกว่าสิบ ยี่สิบขึ้นไปก็จะประมาณสิบถึงยี่สิบ และพวกอายุสามสิบขึ้นไปก็จะประมาณ ยี่สิบห้า ดังนั้น แรงค์51 ของอันเค็นนั้นค่อนข้างสูง
แปลว่ายิ่งแรงค์สูงยิ่งเพิ่มยากสินะ
“….ฆ่ากระต่ายเขาแดงก็ยังเพิ่มแรงค์ได้สินะ แล้วสองวันนี้จะได้เยอะขนาดไหนกันนะ”
สิ่งที่ต้องเตรีมตัวคือ รวบรวมข้อมูลในส่วนของนักผจญภัย และเพิ่มระดับ ทุกๆแรงค์จะได้แต้มเพิ่มหนึ่งแต้มจากที่เห็นพวกเขาใช้มันแล้ว แค่แต้มเดียวก็ทรงพลังมากแล้ว
“งั้นก็ลงไปที่อันนี้แล้วกัน”
[พละกำลัง]
[พลังจู่โจม] 1
[ชำนาญอาวุธ]
“ไหนดูซิ”
กระต่ายสองตัวนั้นเคยหนักเกินไปสำหรับเขา เขาเคนลองขยับมันดูแล้วแต่มันไม่ขยับเลย แต่การจะให้กลับกิลด์ไปทุกครั้งที่ฆ่ามันได้ก็จะเสียเวลาเกินไป ดังนั้น ทางลัดก็คือการเพิ่มพลังจู่โจมยังไงล่ะ!!
“…..เดี๋ยวนะ”
กระต่ายที่เขาเพิ่งฆ่าไปนั้นทั้งตัวสั้นและกลม ขนาดประมาณแตงโมสองลูกวางต่อกัน แล้วตอนนี้ เขาก็ยกมันได้ด้วยมือเดียว
“เบาชะมัด…..สุดยอด….”
แค่แต้มเดียวก็ต่างขนาดนี้แล้ว เขานึกขึ้นได้ว่าเซอเนนโค่นั้นมีพลังจู่โจมสามแต้ม และจิลบอกว่าเขาแกร่งมาก
“อันเค็นมีเก้าแต้ม แปลว่า”
นี่มันโลกแบบไหนกันเนี่ย
“อ๊ะ ไม่มีเวลามามัวคิดแล้ว รีบกลับไปดีกว่า”
ตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว ฮิคารุแบกกระต่ายเขาแดงกลับเข้าเมืองไป
ผู้เฝ้าประตูบอกให้เขาหยุดและตรวจสอบภายในกระสอบ เขาตกใจมากที่ฮิคารุล่ากระต่ายเขาแดงได้ เขาดูพอใจมากตอนที่ฮิคารุบอกว่ามีคนสอนวิธีล่าให้
ฮิคารุนึกขึ้นได้ว่าจะต้องให้ของขวัญกับเขาเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ ทหารยามดีใจเป็นอย่างมากตอนที่เขายกกระต่ายเขาแดงให้ตัวนึง เขาบอกว่าจะเอามันไปทำสตูว์แล้วเบ่งกับเพื่อนร่วมงานของเขา เนื้อของมันอริ่ยมาก ส่วนใหญ่เข่จะกินกันในงานฉลองใหญ่ๆ
ตอนนี้เขาเหลือแค่ตัวเดีญว เขาเลยต้องไปล่าเพิ่ม หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จเขาก็นำกระต่ายทั้งสองตัวมุ่งหน้าไปที่กิลด์
“หืมมม?”
หูเขาได้ยินเสียงของอะไรบางอย่าง เขาหันไปดูแล้วก็พบว่ามีนักผจญภัยวัยรุ่น ชายสองคน หญิงสามคน กำลังดูกระดานคำร้องอยู่
ปาร์ตี้เหรอ ไม่ใช่แนวเราเลยแฮะ
การใช้ลอบเร้นระหว่างอยู่ในปาร์ตี้นั้นลำบากมาก เพราะคนอื่นจะมองไม่เห็นเขา
ถ้าเราเกิดใหม่ในแบบที่ต่างกว่านี้ เราจะเลือกสกิลต่างจากนี้มั้ยนะ
“อะไรน่ะ”
“ก็พวกเด็กที่รวมกันเป็นปาร์ตี้งาย”
“โอ้ รวมตัวกันงั้นเหรอ มีคนสอนมาล่ะสินะ”
“มีอีกห้าคนที่คิดเหมือนแกนา ฮีฮี่ฮี่”
พวกนักผจญภัยเข้าไปหาเด็กพวกนั้น
ดูเหมมือนว่าพวกนั้นจะทำอะไรแย่ๆสินะ ที่นี่มันแย่ชะมัด นี่ล่ะมั้นที่ทำให้จิลปัดตกมันทุกคนน่ะ
เขาถอนหายใจและเดินไปที่เคาท์เตอร์ที่กลอเรียอยู่ จิลนั้นหมดกะไปเรียบร้อยแล้ว
“สวัสดีค่า อ้าวว ฮิคารุคุงเองเหรอค้า”
“เรียกตาแก่อันเค็นให้หน่อยสิ แล้วก็ฝากดูเด็กพวกนั้นหน่อย เดี๋ยวก็ได้เป็นเหยื่อของพวกนักผจญภัยอีกหรอก”
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค้า ได้ค่ะ….”
กลอเรียจ้องเขม็งไปที่พวกนั้น พวกเด็กและนักผจญภัยกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน แค่ผิวเผินอะนะ
“เดี๋ยวจัดการให้นะค้า แล้วเรื่องคุณอันเค็นน่ะ…..” เธอพูดและมองมาที่กระสอบที่ฮิคารุแบกมา
“ตาแก่นั่นเป็นคนที่จัดการเรื่องกระต่ายเขาแดงไม่ใช่เหรอ” เขาพูด
มีเสียงฮือฮาในหมู่นักผจญภัย จิลพูดถูก ดูเหมือนว่ากระต่ายเขาแดงนั้นหายากกว่าที่คิดไว้ เขาถอนหายใจเล็กน้อย
เราคงจะรีบเกินไป ครั้งงหน้าต้องระวันให้มากกว่านี้แล้ว
ยังมีวิธีการสื่อสารอื่นนอกจากการพูดอยู่ เช่น การเขียน คงไม่ดีถ้าถูกหมายหัวโดยพวกนักผจญภัย
“โอเคค่า รอสักครู่นะค้า”
น้ำเสียงไม่ต่างจากเดิมแต่ว่าเขาเห็นอะไรบางอย่างในตาของเธอ ต้องระวันเธอคนนี้ไว้ซะแล้วสิ ฮิคารุถอนหายใจอีกครั้ง
พอได้เจอกับอันเค็นที่โรงชำแหละแล้ว เขาดูหัวเสียเล็กน้อย
“ไหนข้าบอกให้มาตอนเย็นไง”
“ก็คุณเป็นคนเดียวที่ตีค่ากระต่ายเขาเดียวได้นี่นา แล้วผมคิดว่ามันน่าจะดีกับการเรียนด้วย งั้นเดี๋ยวผมกลับออกไปแล้วค่อยเข้ามาอีกทีก็ได้นา ถ้าต้องการแบบนั้นน่ะ”
“นี่เอ็งจะกลับมาพร้อมกับทุอย่างเลยเหรอฮะ ยังไงก็เหอะ ทำตอนนี้แหละ …..เดี๋ยวนะ นี่เอ็งล่ามาสองตัวงั้นเรอะ”
วีรบุรุษแห่งชาตินั้นตกใจมากเมื่อฮิคารุเอากระต่ายทั้งสองตัวออกมาวงบนโต๊ะ
“ไม่เอาน่า…..ถ้าพวกนี้มันหายากขนาดนั้นก็บอกมาสิ แบบ [สายพันธุ์หายาก]อะไรเทือกนี้น่ะ”
ฮิคารุคิดว่าเขาอาจจะเจอเรื่องยุ่งยากจากนักผจญภัยก็ได้ถ้าเขาเอามาสามตัว การที่ให้ทหารยามไปนั้นถือว่าเป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว
“อ้อใช่ เขามันหักอยู่แล้วนะ”
“ก็เออสิวะ! ถ้าเอ็งเอามาอีกก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว แล้วก็ ข้าได้ราคาเขามาเรียบร้อยแล้ว”
“โอ้ เท่าไรล่ะ”
“140,000 กิลลัน”
“………”
“ว่าไง ตกใจล่ะสิ”
“ไม่ใช่ซักหน่อย”
ที่จริงโคตรๆเลยต่างหาก เลขศูนย์อย่างเยอะ เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่จะตกใจ
“บวกค่าเนื้อแล้วก็เป็น 147,500 แสนนึงจะถูกฝากไว้ที่กิลด์ ส่วนที่เหลือจะได้เป็นเงินสด ว่ายังไงล่ะ”
“เดี๋ยวสิ หมายความว่ายังไงที่ว่า ฝาก น่ะ แปลว่าผมต้องมาถอนเงินที่นี่อย่างเดียวเหรอ?”
“อะไรนะ แกไม่รู้เรื่องนี้เรอะ”
เรื่องการฝากเงินที่กิลด์นั้นถือว่าเป็นสวัสดิการ เงินนั้นจะถูกถอนที่สาขาไหนก็ได้
ไม่ใช่ใช้แค่เป็นบัตรประชาชนสินะ ใช้เป็นบัตรเอทีเอ็มได้ด้วยแฮะ เหมือนกับในนิยายวิทยาศาสตร์เลย
“โอ้ ราคาจะสูงขึ้นอีกนาถ้าเอ็งเอามันไปประมูลน่ะ ว่ายังไงล่ะ”
“ที่นี่มีจัดประมูลด้วยเหรอ”
“ที่เมืองหลวงสิวะ”
“เขาลงขายเขามอนส์เตอร์กันด้วยเหรอ”
“ก็มีหลายประเภทล่ะนะ อันนึงเลยก็คือพวกศิลปะน่ะ วัตถุดิบจากมอนสเตอร์ก็ถูกขายผ่านการประมูลหมือนกันนา”
“แล้วการประมูลครั้งต่อไปมีตอนไหนล่ะ”
“สิบวันจากนี้น่ะ”
“ผมรอนานขนาดนั้นไม่ได้น่ะ ขายเลยแล้วกัน แล้วก็ขอฝากเงินแสนนึงไว้กับกิลด์ด้วยนะ”
“เข้าใจแล้ว”
เขารับถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญทองมา ถ้าเขาเลือกถอนเงินออกมาล่ะก็ คงแบกไม่ไหวแน่
เอาล่ะ เท่านี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินแล้ว ขอบใจนะกระต่ายเขาแดง
หลังจากนั้น อันเค็นก็สอนวิธีแล่เนื้อให้เขา ตาแก่เสนอขายมีดชำแหละจากกิลด์ให้ในราคาร้อยกิลลัน และฮิคารุก็ซื้อมันมา
“….เท่านี้น่าจะพอนะ”
“ขอบคุณมากครับ นี่ไม่ใช่อะไรที่เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองเลย”
ฮิคารุเดินไปล้างมือ พวกกลวิธีจากในหนังสือนั้นยังไม่พอ เขาต้องอาศัยการฝึกด้วยเพื่อให้ชำนาญ รวมทั้งเรื่องที่อันเค็นสอนด้วย
“พอมาคิดว่ามีพวกสิ่งมีชีวิตหลายชนิดแล้ว ชักอยากปล่อยการชำแหละให้เป็นหน้าที่คนอื่นเลยแฮะ”
“ฮ่าฮ่า เอ็งคงไม่พูดอย่างนั้นแน่ถ้าอยู่ในดันเจี้ยน เอ็งอาจจะได้กินเนื้อมอนเลยนา มันก็ต้องมีบ้างที่แกต้องเอากลับมาเฉพาะที่จำเป็นล่ะ”
“ดันเจี้ยน? ที่นี่มีดันเจี้ยนด้วยเหรอ”
“ใช่แล้ว ที่พอนโซเนียนี่ก็มีอยู่สองที่นะ”
“สองที่!?”
“ทำไมอยู่ดีๆก็ไฟแรงขึ้นมาล่ะเฮ้ย”
แน่นอนสิ ถ้าพูดถึงการผจญภัยก็ต้องหมายถึงดันเจี้ยนสิ!!!
แต่คงต้องรอไปก่อน การช่วยลาเวียน่ะสำคัญที่สุด
“มีคำถามอยู่ครับ มีมอนอะไรแถวนี้ที่ผมล่าได้บ้างล่ะ”
“มาดูสิ….”
อันเค็นแนะนำมอนสเตอร์บางชนิดให้
“เข้าใจล่ะ แล้วมีตัวไหนที่ควรเลี่ยงบ้างล่ะ”
นี่เป็นคำถามที่ฮิคารุอยากจะถามตั้งแต่แรกแล้ว ในห้องอ้างอิงมันก็มีพวกข้อมูลของมอนส์เตอร์แบบคร่าวๆอยู่ แต่ว่าไม่มีข้อมูลของพวกมอนอันตรายมากนัก
“ทำไมอยากรู้ล่ะ”
อันเค็นหรี่ตามาทางเขา นี่จะต้องเป็นเพราะสกิลสัญชาติญาณ 4 แน่ๆ
“ก็จะได้อยู่ให้ห่างไว้ไงครับ ผมต้องหาเงินอยู่ที่นี่สักพักอยู่แล้ว บางทีอาจจะได้เข้าไปในป่าลึกด้วย จะได้รู้ว่าอะไรมันตรายไง”
“เอ็งพูดถูก”
เหมือนว่าเขาจะตอบได้ถูกต้อง ฮิคารุคาดการณ์ไว้แล้วว่าอันเค็นจะต้องถามแบบนี้
“มีอยู่สามชนิดหลักๆล่ะนะ อันดับแรกเลยก็ กรีนวูล์ฟ”
“พนักงานต้อนรับเคยบอกมาแล้วน่ะ”
“เข้าใจล่ะ โร้คบีล่ะ”
“ไม่เคยได้ยินครับ”
จากที่อันเค็นบอก โร้คบีนั้นมีขนาดพอๆกับเหรียญ ปีกของมันไม่แข็งแรงมันเลยเคลื่อนที่ด้วยการกระโดดจากต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่ง ปรกติมันจะอยู่ตัวเดียวแต่ถ้าเจอศัตรูมันจะเรียกเพื่อนมา
“ผึ้งเหรอ…..”
“เอ็งคงคิดว่าคงไม่ใช่ปัญหามากใช่มั้ย”
นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฮิคารุคิดอยู่ เขากำลังคิดว่าจะต้องฆ่ากี่ตัวถึงจะแรงค์อัพ
“พวกมันค่อนข้างเร็วน่ะ แถมการเคลื่อนไหวยังไม่เหมือนมอนส์เตอร์ชนิดอื่นด้วย กว่าจะชินน่าจะใช้เวลานานเลยล่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ สุดท้ายล่ะ”
“พวก ฟอเรส บาร์บาเรี่ยนน่ะ”
ยกตัวอย่างได้แจ๋ว ข้อมูลของพวกมันที่อยูในห้องอ้างอิงก็มีแค่ว่าเป็น ยักษ์เขียว กับ ผู้พิทักษ์ป่า เท่านั้น
“แล้วจะเจอได้ที่ไหนล่ะ”
“แค่อย่าเข้าไปลึกเกินก็พอ โดยเฉพาะตรงตีนเขาน่ะ ระบบนิเวศน่ะเปลี่ยนไปหมด แล้วยิ่งมีอีกที่นึงเลยที่ต้องเลี่ยง ทะเลสาบฝั่งตะวันออกน่ะ พวกมอนส์เตอร์ขยายพันธุ์กันแถวนั้น”
“เข้าใจแล้ว”
“เท่านั้นล่ะ……เดี๋ยวสิมีอีกอย่างนึงที่เอ็งอาจต้องระวัง”
“อาจ?”
“พักนี้แถวๆเมืองมีก็อปลินมาป้วนเปี้ยนน่ะ อาจจะมีรังอยู่ใกล้ๆนี้ก็ได้ ถ้าเจอตัวนึงก็รีบอยู่ให้ห่างเลย เพราะถ้าเอ็งเจอตัวนึงแล้วก็อาจจะเจออีกเป็นสามร้อยเลย”
อารมณ์คล้ายแมลงสาปสินะ
ฮิคารุขอบคุณอันเค็นและออกมา หลังจากกินข้าวเที่ยง เขาก็กลับไปที่โรงแรม
เงินที่เหลือ 48,710 (+100,000)
สองวันก่อนที่ลาเวียจะถูกส่งไปเมืองหลวง เช้าวันต่อมา ฮิคารุตื่นแต่เช้าออกไปที่ร้านฮอทดอกแต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่มา เขาเลยไปกินที่ร้านอื่น หลังจากนั้นก็ห่อไปกินนอกเมืองด้วย
อันดับแรกก็ที่ทะเลสาปฝั่งตะวันออกสินะ
มันเป็นที่ที่อันเค็นบอกว่ามอนส์เตอร์ขยายพันธุ์ เขาต้องไปแน่อยู่แล้ว ถ้าเดินไปจะใช้เวลาสามชั่วโมง เขาจึงใช้บริการนั่งซ้อนท้ายม้าเร็วไป
เป็นทริปขาไปอย่างเดียวราคา 100 กิลลัน แพงกว่าที่คิดไว้ เขาไม่รู้ว่าจะออกมาเมื่อไรเลยไม่ได้บอกไปว่าจะให้มารับขากลับด้วย
“อย่าเข้าไปลึกมากนะ ข้าจะกลับมาตอนช่วงบ่าย เดี๋ยวจะดูว่าเจ้าจะอยู่แถวนี้มั้ย แต่อย่าหวังมากล่ะ แล้วก็ อย่าเข้าไปลึกมากล่ะ”
ดูเหมือนว่าที่ทะเลสาปจะมีคนมาตกปลาอยู่บ้าง
เหมือนที่อันเค็นเคยพูดไว้สินะ ถ้ายิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งเจอเยอะขึ้น
“นั่นแหละที่ต้องการล่ะ”
ฮิคารุเปลี่ยนคลาสเป็นStealth God: Darkness Wanderer และเปิดใช้งานสกิล
“ไปอัพเวลกันเลย”
ฮิคารุมุ่งหน้าตรงไปที่ทะเลสาป
“เป้าหมายคือ ผู้พิทักษ์แห่งป่า”