ตอนที่ 18 ข้อมูลส่วนสุดท้าย
หลังจากที่ฆ่ามอนไป ฮิคารุไม่ได้เอาชิ้นส่วนของมันออกมาด้วยเพราะไม่อยากดึงดูดความสนใจ แล้วตอนนี้เขาก็ไม่ได้ต้องการเงินขนาดนั้น ตอนนี้เขาต้องทำตัวให้ไม่น่าสนใจเข้าไว้
“ท่านฮิคารุค้า!”
หลังจากที่ผ่านเข้าประตูไป ยามเฝ้าประตูก็ได้บอกให้เขาไปที่กิลด์ พอไปถึงก็เจอเข้ากับพอลล่า ตอนที่ไปถึงกิลด์ก็ได้เวลาปิดแล้ว แต่จิลยังนั่งอยู่หลังเคาท์เตอร์ ตาของเธอเป็นประกายตอนที่เห็นฮิคารุแต่ก็เปลี่ยนไปเป็นหน้าบึ้งทันทีที่เห็นว่าพอลล่าวิ่งไปหาเธอ
“อะไร?….”
ฮิคารุพยายามทำตัวขวานผ่าซาก แต่พอลล่าก็ไม่ได้สนใจอะไร
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะ อยากเจอมากเลยนะคะ ท่านฮิคารุ หนูก็เลยรอคุณอยู่ที่นี่น่ะค่ะ”
“….ผมไม่คิดว่าพวกเธอเป็นคนที่ทำให้กิลด์เปิดได้จนตอนนี้หรอกนะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ”
“ดีใจที่คุณเข้าใจอะไรได้เร็วนะ” เพียว่า พร้อมกับพอลล่าที่ตกใจ “เราอยากให้คุณมาเป็นพยานน่ะ”
“พยานเหรอ เรื่องที่นักผจญภัยพวกนั้นทำเหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นน่ะ เรื่องนั้นเรียบร้อยไปแล้ว เขาอยากได้ยินเรื่องของฝั่นนั้นก่อนที่จะตัดสินน่ะ”
“หืม…เข้าใจล่ะงั้นก็เป็นเรื่องก็อปลินสินะ?”
“กิลด์อยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้น่ะ” จิลบอก แล้วเข้ามาตัดการสนธนา
“นายจะบอกฉันใช่มั้ย?”
“ชะ….ใช่ครับ แล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะ”
จิลลากเขาออกไปนอกกิลด์
“หิวจะตายแล้วอ้ะ”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“รอนายตั้งนานเลยนะกว่าจะมา ว่าจะถามเรื่องพวกก็อบลินน่ะ แต่นายก็ไม่มาซักที ตอนนี้หิวจะแย่อยู่แล้วอ้ะ”
“…….”
“ฉันรู้จักร้านพาสต้าอร่อยๆด้วยนา”
“เดี๋ยวก่อนเลย จะให้ผมเลี้ยงอีกแล้วเหรอ?”
“เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย?! ทำไมเธอถึงมาเกาะแกะท่านฮิคารุล่ะ”
“ถ้านายอยากเลี้ยงขนาดนั้น ฉันก็ยินดีรับไว้นา”
เพราะลาเวียจะถูกส่งไปเมืองหลวงพรุ่งนี้แล้ว ตอนนี้เลยไม่ใช่เวลาจะมาคุยกับจิล แต่ การคุยกับเธออาจจะได้ข้อมูลดีๆมาก็ได้
“….ก็ได้ ยังไงก็มีเรื่องอยากจะถามคุณอยู่พอดี แต่เปิดกิลด์ไว้แบบนี้จะดีเหรอ”
“คุณอันเค็นอยู่ข้างในน่ะ เคยบอกก่อนหน้านี้ใช่มั้ยล่ะ ว่ารองหัวหน้ากิลด์กับพนักงานอีกคนไปทำธุระที่เมืองหลวงใช่มั้ยล่ะ คืนนี้พวกเขาจะกลับมาน่ะ เขาก็เลยรอ”
“หืม….เข้าใจล่ะ”
ฮิคารุมีคำถามอยู่บ้างแต่ก็ช่างมันไปก่อนตอนนี้
“แล้วสามหน่อนี่ล่ะ?”
พอลล่า เพีย และพริสซิลล่า ตามทั้งสองคนออกมา
“….พวกเธอจะมาด้วยก็ได้นะ ยังไงก็อยากได้ข้อมู,เรื่องก็อบลินอยู่พอดี พวกเธอมาก่อนนี่เนอะ”
“นี่จะให้ผมจ่ายค่าอาหารพวกเธอด้วยเหรอ?”
“พวกเธอน่าจะมีเงินจ่ายเองได้อยู่นะ”
“ชักเริ่มไม่แน่ใจละแฮะ…..”
พวกเธอดูจะมีเงินไม่มากนัก ฮิคารุคิดว่าถ้าเธอพาไปร้านที่ราคาพอๆกันกับร้านก่อนล่ะก็ พวกเธอน่าจะมีเงินไม่พอจ่ายกัน
จิลพาพวกเขาเข้าไปที่ตรอกแห่งหนึ่งที่ดูแล้วคงจะไม่มีใครเข้าไปถ้าไม่มีเหตุผล แล้วก็มาถึงร้าน พาสต้า แมจิค
ตั้งชื่อได้ห่วยชะมัด
ฮิคารุเปิดประตู ข้างในเป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งเป็นกล่องและ มีเคาท์เตอร์
“เฮ้….จิลจังงง”
ผู้จัดการรูปร่างคล้ายๆหมีโบกมือให้จิล เขานั้นกำลังทำอาหารอยู่ข้างหลัง จิลดูเหมือนว่าจะจองที่เอาไว้แล้ว และนำพวกเขาไปที่โต๊ะที่มีที่นั่งสี่คนและขอที่นั่งเสริมให้พริสซิลล่า เธอนั่งลงด้วยสายตาว่างเปล่า ฮิคารุพยายามที่จะไม่มองไปที่หน้าอกของเธอที่กระเพื่อมตอนที่เธอนั่งลง จิลนั่งอยู่ข้างๆเขาส่วนพอลล่านั่งอยู่ตรงข้าม เพียนั่งตรงที่ๆว่างอยู่ เธอเอื้อมือไปหยิบเมนู
“แพงอ้ะ!!!แพงเกินไปแล้ว พวกเราจ่ายไม่ไหวหรอกนะ!!!”
สตูว์เนื้อ และ พาสต้าหญ้าแดง 210 กิลลัน
พาสต้าน้ำมันทะเล 160 กิลลัน
เมนูใหม่ พาสต้ากระต่ายเขาแดงซอสเขียว 590 กิลลัน
แม้แต่ฮิคารุก็ยังตะลึงกับราคา โดยเฉพาะพาสต้ากระต่ายเขาแดง
“ผู้จัดการคะ นี่ฮิคารุคุงค่ะ” จิลบอกกับผู้จัดการที่ออกมารับออเดอร์ด้วยตัวเอง
“โอ้….เตี้ยชะมัดเลยนะเนี่ย”
“ทุกคนก็ดูเตี้ยกันหมดแหละถ้าเทียบกับคุณน่ะ” ฮิคารุพึมพัมอยู่คนเดียว ชายคนนี้สูงประมาณสองเมตรได้
เราไม่ได้เตี้ยซักหน่อย ไม่ ไม่ได้เตี้ยแน่นอน
ดูเหมือนจะมีเหตุผลที่ผู้จัดการถึงกับต้องออกมาเอง
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว นายนี่มันพระผู้ช่วยจริงๆ พักนี้เราไม่มีกระต่ายเขาแดงเลยน่ะ ราคามันก็เลยพุ่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะแค่สั่งซื้อยังทำไม่ได้เลย แต่ก็มีข่าวมาว่ามีกระต่ายเข้ามาในสต็อคแล้ว วันนี้ก็ด้วย ฉันก็เลยถามไปทั่วเลยน่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้นน่ะ แล้วก็ได้ความว่ามีนักผจญภัยหน้าใหม่ล่ากระต่ายมาน่ะนะ ก็เลยบอกให้จิลจังพานายมาที่นี่จะได้กินสิ่งที่นายล่ามาด้วยหยาดเหงื่อของตัวเองไงล่ะ”
อืม งั้นที่จิลพาเรามาที่นี่ก็เพราะแบบนี้สินะ
“เข้าใจล่ะ ก็สงสัยอยู่บ้างล่ะว่าใครที่เป็นคนซื้อไปบ้างน่ะ”
“มาขายที่นี่ตรงๆเป็นไงล่ะ เดี๋ยวให้ราคาดีเลยนา”
“ไม่ได้นะ! ถ้าทำแบบนั้นล่ะก็กิลด์มีปัญหาแน่ๆ!!!!”จิลพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“อ๊าฮ่าฮ่าฮ่า ล้อเล่นหรอกน่า เฮ้ยไอ้หนู ที่จริงฉันอยากได้เครื่องในกระต่ายด้วยน่ะ ถ้าแบบนี้คงไม่เป็นไรใช่มั้ยจิล”
เหมือนว่าไฟในการทำอาหารของเขาจะลุกโชนขึ้นไปแล้ว
“นายเป็นคนชำแหละใช่มั้ยล่ะ ครั้งหน้ารบกวนเอามาหน่อยนะ อยากจะทำอาหารจากพวกมันน่ะ ยังไงมันก็ไม่มีมูลค่าตามตลาดอยู่แล้ว ฉันน่าจะซื้อโดยตรงได้ใช่มั้ยล่ะ”
“….ฮิคารุ”
“..อะไรนะ?”
“คุณจะเรียกคู่ค้าว่าไอ้หนูรึไงล่ะ” ฮิคารุพูดและมองไปที่ผู้จัดการ
หน้าของผู้จัดการเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น
“….ก็จริงนะ โทษที ฮิคารุ ฉันชอบคนแบบนายว่ะ อยากกินอะไรก็กินได้เลย! ครั้งนี้เลี้ยงเอง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนก็ช่วยเก็บไปคิดหน่อยละกัน โอ้ส่วนจิล ที่บอกว่าจะเลี้ยงน่ะ ไม่รวมพวกเหล้านา ถ้าอยากกินต้องจ่ายเพิ่มนะ”
“อูววว….”
ตาของจิลเป็นประกายเมื่อตอนที่เจ้าของร้านบอกว่าจะเลี้ยง แต่พอเขาบอกว่าต้องจ่ายค่าเหล้า เธอก็คอตกทันที
ฮิคารุจ้องไปที่จิล
“…….”
“ไม่ดื่มเยอะหรอกน่า”
“…….”
“อย่ามองด้วยสายตาเย็นชาอย่างนั้นสิ”
ปรกติเธอดื่มเยอะขนาดไหนกันนะ ฮิคารุคิด
ส่วนเด็กสาวคนอื่นก็ตกใจอ้าปากค้าง
“…ได้ยินแล้วใช่มั้ย ทุกอย่างเลี้ยงยกเว้นเหล้านะ โอเคมั้ย”
“จริงอ้ะ”
“สายตาเป็นประกายเกินไปแล้วนะ เพีย” ฮิคารุตะลึง
“น้ำลายหกหมดแล้วนะพริสซิลล่า!”
เพียกับพริสซิลล่าดีใจมากที่จะได้กินของฟรี ยกเว้นพอลล่า
“ขอโทษด้วยนะคะท่านฮิคารุ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน แล้วก็เลิกเรียกว่าท่านได้แล้ว ฉันน่ะอายุน้อยกว่าเธอนะ”
“อย่างนั้นเหรอคะ? ถ้าต้องการแบบนั้นก็ได้ค่ะ อาจารย์”
“ทำไมถึงหนักกว่าเดิมล่ะเฮ้ย”
“นะนะนะนหนูจะได้เป็น…..ทาสกามเหรอค้า!?”
“ถ้ามันลำบากนักก็อย่าพูดสิเห้ย แล้วก็เลิกพูดแบบนั้นได้แล้ว!!!! เข้าใจมั้ย นี่จริงจังนะ”
แล้วก็เริ่มกินข้าวเย็นกันทั้งอย่างนั้น
“แล้วฮิคารุคุง เธอไล่พวกก็อบลินไปได้ยังไงน่ะ”
เพียกับพริสซิลล่ากินอย่างเงียบๆ ถึงจะเปลี่ยนวิธีพูดไปแล้วแต่เธอก็ยังมีมารยาทบนโต๊ะอาหารอยู่ พาสต้านั้นอร่อยมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ฮิคารุได้กินพาสต้าในโลกนี้ และเขาคิดว่ามันอร่อยมาก ทั้งกลิ่นและน้ำมันนั้นดีมาก แต่ยังขาดอะไรบางอย่าง
โอ้ ไม่มีกระเทียมนี่เอง ฮิคารุคิด
“ได้ยินเรื่องก็อปลินมาจากคุณอันเค็นน่ะ”
“นั่นไม่เห็นจะบอกว่านายไล่ไปได้ไงเลยนะ”
“ก็เพราะว่าเป็นท่านฮิคารุยังไงล่ะคะ”
“พอลล่า เธอน่ะเงียบไปก่อนเลย”
“….ก็ก็อบลินที่จับกลุ่มอยู่ด้วยกันน่ะจะเรียกว่าก็อบลินแฟมิลี่ แล้วปรกติมันจะต้องมีสายบัญชาการแน่อยู่แล้วสิ”
“ถูกต้อง ตกใจนะเนี่ยที่นายรู้น่ะ คุณอันเค็นบอกมาเหมือนกันเหรอ”
“ผมอ่านมาจากห้องอ้างอิงน่ะ”
“ห้องอ้างอิงของกิลด์เหรอ หนังสือเก่าๆนั่นน่ะเหรอ ตกใจนะเนี่ยที่นายอ่านมันด้วย”
“ก็แน่อยู่แล้วสิ การมีหรือไม่มีข้อมูลน่ะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเลยนะ”
จิลเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เธอเคยคิดว่าฮิคารุแค่โชคดีเท่านั้น แต่มันไม่ใช่ เด็กคนนี้ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไรเลย แต่ใช้ข้อมูลทุกอย่างและความรู้ที่มีในการเป็นนักผจญภัยสินะ
เธอฟังเรื่องจากคนอื่นมาบ้างเหมือนกัน แต่เธอก็ฟังหูไว้หู เพราะปรกติพวกนักผจญภัยจะชอบพูดเกินจริงอยู่แล้ว
“มากกว่าร้อยงั้นเหรอ แน่ใจนะว่าไม่ใช่สิบหรือยี่สิบน่ะ แล้วเธอบอกว่าฮิคารุคุงเป็นคนไล่ไปสินะ หืมมมม…”
“….ฮิคารุคุง ตรงนั้นมีหัวหน้าก็อบลินด้วยเหรอ”
“ไม่แน่ใจนะ แต่ว่ามันมีตัวที่ใหญ่กว่าตัวอื่นอยู่น่ะ ข้างๆกันก็มีตัวที่ถือแตรเขาสัตว์อยู่ด้วย น่าจะเป็นมือขวาล่ะมั้ง ผมคิดว่าถ้าหัวหน้าของมันถูกโค่นลงไปคงจะอลหม่านน่าดูผมก็เลยโจมตีมันน่ะ”
“นายทำจริงๆเหรอ!? ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย!!”
“โอ๊ย”
“อ๊ะ”
เธอบีบไหล่ฮิคารุในทันที สิ่งที่เขาทำลงไปนั้นเสี่ยงตายมาก ถ้ามีฝูงก็อบลินเยอะขนาดนั้นล่ะก็ กิลด์รอบๆต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการพวกมัน เพราะถ้าปล่อยไว้พวกมันอาจจะบุกทำลายหมู่บ้านรอบๆและขยายพันธุ์ก็ได้ กฎเหล็กคือต้องรีบกำจัดพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ไม่เป็นไรอยู่แล้วสิ ไม่งั้นผมจะอยู่ตรงนี้มั้ยล่ะ”
“ก็จริงนะ ขอโทษที แล้วนายรอดจากหัวหน้าก็อบลินได้ไงล่ะ โจมตีมั้นด้วยอะไรล่ะ ธนูเหรอ?”
“..ก็ แถวนั้นมันมีพืชมีพิษอยู่พอดีน่ะ ผมก็เลยชุบมันกับหินแล้วโยนใส่มันน่ะ”
ฮิคารุแหลสด เขาฆ่าหัวหน้ามันไปก็จริงแต่ว่าแต่เธอก็ไม่ได้เชื่อฮิคารุเต็มร้อย หรือไม่เขาก็ไม่อยากจะดึงดูดความสนใจเกินไป เขาก็เลยแต่งเรื่องขึ้นมา
“ฝูงพวกมันคงไม่แยกย้ายกันง่ายๆหรอกถ้าไม่จัดการตัวหัวหน้าไปน่ะ คนที่จะสู้กับมันทั้งฝูงก็มีแต่พวกโง่เท่านั้นแหละ”
“ก็จริงนะ”
“…..”
“…..”
“….”
สามหน่อที่เพิ่งถูกแทงใจดำเงียบไปพักหนึ่ง แล้วทั้งสามคนก็ระลึกได้ว่าพวกเธอนั้นไม่ระวังตัวกันขนาดไหน
“อ่า….ฮิคารุ ขอบใจนะที่ช่วยพวกเราน่ะ มีอะไรที่เราพอจะตอบแทนได้บ้างมั้ย” เพียถาม
“จะให้ครั้งแรกของเราค่ะ” พริสซิลล่าพูดด้วยหน้าตาว่างเปล่า
“อ๊ะ เป็นความคิดที่ดีนี่นา!!!!”
“อ๊ะ ชิบเป๋งแล้ว พอลล่าเอาจริงแน่แบบนี้”
“พอเลยนะพวกเธอ ฮิคารุคุงเขาลำบากใจอยู่นะ ใช่มั้ย นายไม่ได้อยากจริงๆใช่มั้ย?”
จิลจับแขนฮิคารุเขย่าๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ถ้าเป็นครั้งแรกของพวกเธอก็….. ฮิคารุคิดก่อนที่จะดึงตัวเองกลับมาได้
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องตอบแทนหรอก“
“แต่ถ้ามีอะไรที่เราพอจะทำได้”
“งั้นมีเรื่องอยากจะขอเรื่องนึงน่ะ คุณจิลด้วยนะ”
“ว่าไงล่ะ”
จิลขานตอบทันทีที่ได้ยินชื่อตัวเอง
“อย่าบอกใครเรื่องก็อบลินนะ ผมอยากใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบๆน่ะ”
จิลพยักหน้า เธอเองก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้พวกนักผจญภัยเขม่นฮิคารุเหมือนกัน
“เข้าใจแล้ว ก็มีการสืบสวนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกนักผจญภัยพวกนั้นทำกับพวกเธอล่ะนะ แล้วอีกอย่างถ้าบอกไปพวกชาวบ้านก็จะเป็นกังวลกันมากกว่า ฉันสิที่ต้องขอไม่ให้พวกเธอแพร่งพรายออกไปน่ะ”
“ไม่จริงน่า…..”
พอลล่าคอตก คิดว่าจะคิดว่าจะได้มีความสัมพันธ์กับคนรักแล้วลึกซึ้งกันจนถึง…….
“ถ้างั้นเรื่องนี้ก็จบแค่นี้ล่ะนะ” ฮิคารุยื่นคำขาด
ฮิคารุรู้สึกอึกๆอักเล็กน้อย แต่ก็มีเรื่องอื่นให้ห่วงอยู่
“คุณจิล ผมมีเรื่องอยากจะถามน่ะ”
“ได้สิ ว่าไงล่ะ”
“พวกนักผจญภัยที่จะคุ้มกันรถม้าไปเมืองหลวงอยู่ที่พอนด์แล้วใช่มั้ย”
“!!!”
ฮิคารุปล่อยหมัดตรงเข้าไป เด็กสาวทั้งสามไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยเรื่องอะไรกัน ก็เลยหันความสนใจไปที่อาหารแทน
“ถามทำไมล่ะ? บอกไปแล้วไงว่าพูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วน่ะ”
“ก็พนักงานกิลด์บางส่วนกลับมาแล้วใช่มั้ยล่ะ ก็เลยสงสัยว่าพวกนักผจญภัยจะมาด้วยมั้ยน่ะ”
“ฉลาดเกินไปแล้วนะฮิคารุคุง”
“แค่ถามเฉยๆน่ะ ไม่มีอะไรหรอก พวกนั้นน่าจะเป็นพวกที่เก่งๆแน่เลย ผมก็เลยสนใจน่ะ”
“เข้าใจล่ะ ใช่พวกนั้นจะมากันคืนนี้ล่ะ”
“ข้างนอกมืดแล้วนะ ประตูน่าจะปิดแล้วนี่นา”
“พนักงานกิลด์ผ่านได้ถ้ามีเหตุผลเพียงพอน่ะ ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะไปถึงที่เมืองหลวงช้าน่ะ ก็เลยต้องเลื่อนตารางไปนิดหน่อย”
“เดี๋ยวนะ ผู้หญิงเหรอ?”
“ใช่แล้ว ทีมคุ้มกันเป็นผู้หญิงน่ะ”
ผู้หญิงเหรอ คิดว่าจะเป็นผู้ชายซะอีก เพราะคุ้มกันเด็กผู้หญิงงั้นเหรอ
“แล้วก็เป็นนักผจญภัยแรงค์ B ด้วยนา”
พรูดด!!! เพียอาหารพุ่งออกจากปาก
“ระระแรงค์ B เหรอ!?”
“อี๋”
“ฉกปกอะ”
“นี่ดูไม่ดีเลยนะเพีย”
“อึ๋ย”
“…..ขอโทษค่ะ” เพียขอโทษ
“แรงค์ B สุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็……พวกนักผจญภัยที่อยู่ในพอนด์น่ะ มีแรงค์สูงสุดอยู่ที่ D ถ้าจำไม่ผิดที่เมืองหลวงจะมี แรงค์ A คนนึงนะแล้วนอกจากผู้หญิงพวกนั้นก็มีนักผจญภัยแรงค์ B แค่สิบคนเองนะ”
“…แค่สิบคนก็ถือว่าเยอะในระดับนึงเลยนี่”
“ฮิฮิ ไม่เคยไปเมืองหลวงล่ะสิที่นั่นน่ะคนเยอะกว่าที่นี่หลายเท่าเลยนา”
“ว้าว”
ใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ โรแลนด์ก็มีความทรงจำเกี่ยวกับเมืองหลวงอยู่บ้างแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในรถม้า คฤหาส ไม่ก็ห้องสมุกซะมากกว่า
“ชื่อปาร์ตี้ก็ จตุรดาราแห่งทิศตะวันออก ก็ไม่เคยเจอหรอกนะ อัตตราการสำเร็จเควสนี่ร้อยเปอร์เซนเลยนา”
แล้วฮิคารุก็เก็บข้อมูลนั้นไว้ในสมอง
ที่โลกแห่งนี้นั้นสี่ทุ่มนั้นถือว่าเป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว จะมีแค่บาร์บางแห่งที่เปิดอยู่เท่านั้น
ไฟยังเปิดอยู่เลยแฮะ
ฮิคารุกำลังมุ่งหน้าไปที่กิลด์ พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ลาเวียจะถูกส่งไปเมืองหลวงแล้ว แต่ไม่รู้เวลา เขาก็เลยเก็บแต้มสกิลและเงินเอาไว้จนถึงตอนนี้
สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการก็คือข้อมูล แต่ถึงจะไม่มีข้อมูลเขาก็คิดว่าน่าจะพอใช้สกิลพ้อยต์ทดแทนกันได้
เขาต้องการข้อมูลเรื่องการคุ้มกันในวันพรุ่งนี้ เขาคาดไว้แล้วว่าพวกนักผจญภัยจะมาถึงก่อนวันที่จะต้องไปคุ้มกันแน่ๆ ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน
ไหนดูซิว่าเป็นคนแบบไหน
ฮิคารุแอบเข้าไปทางประตูหลัง แล้วเขาก็เจอห้องที่มีคนอยู่
“ฮ่าฮ่า กังวลเกินไปแล้วนะกิลด์มาสเตอร์”
คนที่กำลังหัวเราะอยู่เป็นชายร่างใหญ่ หญิงสาวรูปร่างสะสวยท่าทางหมดแรงยืนอยู่ข้างๆเขา พวกเขาน่าจะเป็นพนักงานกิลด์ รองหัวหน้าและพนักงานต้อนรับ ที่เพิ่งกลับมาจากเมืองหลวง
“ยิ่งเอ็งพูดแบบนั้นยิ่งน่าห่วงเข้าไปใหญ่เลยว่ะ” อันเค็นตอบ
ฮิคารุเดาถูก ตาแก่อันเค็นนั้นเป็นกิลด์มาสเตอร์
“ก็ เอ่อ….เมื่อกี้เอ็งบอกว่าเอ็งชื่ออะไรนะ”
“ดาวเด่นไงล่ะ จะบอกไว้เลยว่าข้าน่ะแรงค์ C นะ พวกแกควรจะดีใจนะที่ข้ามาที่นี่น่ะ”
ชายที่พูดจาสุนัขไม่รับประทานเป็นนักผจญภัยอายุราวๆสามสิบ ข้างในนั้นเหมือนจะมีอยู่สามคน แต่สิ่งที่ทำให้ฮิคารุสนใจคือเสียงผู้ชายอีกคนนึง
ตอนนี้เขาแอบอยู่ที่ทางเดิน ถึงเขาจะแอบเข้าไปได้โดยไม่ถูกจับได้ก็เถอะ แต่ในนั้นมีอันเค็นอยู่ด้วยเขาไม่อยากเสี่ยงนัก
“แล้วบวกเอ็งจะคุ้มกันไปยังไงล่ะ มาตรฐานมันต้องมีสี่คนสำหรับงานคุ้มกันนะ”
“ก็บอกไปแล้วไงตาแก่หัวโบราณ พวกเราแรงค์ C แล้ว ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนักผจญภัยแรงค์ C โดนซุ่มโจมตีมาก่อนเลยนะเว้ย ถึงจะโดนก็เถอ พวกข้าก็จัดการได้เองล่ะ แล้วถึงเด็กผู้หญิงจะหนีไปได้ก็หนีไปไหนได้ไม่ไกลหรอก”
แล้วฮิคารุก็นึกขึ้นมาได้ว่าจิลเคยบอกว่าชื่อปาร์ตี้คือ จตุรดาราแห่งตะวันออก เป็นปาร์ตี้ผู้หญิงแรงค์ B ไม่ใช่เหรอ แต่นี่ดูไม่เหมือนแบบนั้นเลย และตอนนี้อันเค็นก็เป็นกังวลอยู่
“…..”
“ข้าไม่สนใจพวกตะวันออกอะไรนั่นหรอกนะ ทุกคนต่างบอกกันว่าข้าน่ะแข็งแกร่งกว่าพวกนั้นซะอีก ทำไมทำท่าแบบนั้นหา พวกเราจะกลับไปก็ได้เลยนะเว้ย”
“ไม่นะครับ รบกวนอยู่ต่อก่อนนะครับ” รองหัวหน้ากิลห้ามไว้และถูมือทั้งคู่ด้วยกัน
“งั้นก็รู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอะไร”
“ครับ เรามีที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ”
“เดี๋ยวสิ พรุ่งนี้พวกเอ็งมีงานกันไม่ใช่เหรอ ทำไม่จะออกไปเที่ยวกันอีกวะ”
“กิลด์มาสเตอร์ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยถ้าจะให้พวกเขาออกตัวตอนบ่ายน่ะครับ ถ้าออกตัวตอนบ่ายก็น่าจะถึงตอนเย็นๆพอดี”
“…..”
“เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วนะครับ ไปเถอครับ ท่านโนกุสะ”
“เออ ให้มันได้อย่างที่บอกแล้วกัน”
“แน่นอนสิครับ”
ชายทั้งสามคนออกมาพร้อมกับรองหัวหน้ากิล ฮิคารุรีบออกห่างจากพวกนั้น เขามองเข้าไปข้างในก่อนที่ประตูจะถูกปิด ก็เห็นว่าอันเค็นและผู้หญิงอีกคนอยู่ เขาเอาหูไปแนบกำแพงเพื่อแอบฟัง แล้วก็ได้ยินเสียงอันเค็นถอนหายใจ
“เฮ้อ….เกิดอะไรขึ้นกับกิลด์ที่เมืองหลวงวะเนี่ย”
“ดูเหมือนพวกนั้นจะพยายามชูให้นักผจญภัยแรงค์อัพไวๆน่ะค่ะ เวลาที่มีคำร้องจากอาณาจักรมาจะได้ได้เงินเยอะขึ้นน่ะค่ะ”
“เวรจริงๆ..”
พนักงานต้อนรับถอนหายใจอีกคนหนึ่ง หลังจากที่ทั้งคู่คุยกันจนเสร็จแล้ว ฮิคารุก็ออกมา
ดีเลยนี่นา
โชคเข้าข้างฮิคารุเต็มๆ ฮิคารุแอบตามพวกที่เพิ่งออกไปและเปิดโซลบอร์ดของพวกนั้น
{ขอไม่แปลแล้วนะฮับ เยอะ จะแปลแค่อันใหม่นะฮับ}
【Vitality】
..【Natural Recovery】2
..【Stamina】2
..【Immunity】
….【Magic Immunity】1
….【Disease Immunity】1
….【Toxic Immunity】1
..【Perception】
….【Hearing】1
【Magical Power】
..【Mana】2
..【Spirit Affinity】
….【Earth】3
【Physical Strength】
..【Strength】6
..【Weapon Mastery】
….【Sword】4
….【Armor】2
【Willpower】
..【Mental Strength】4
【Intuition】
..【Instinct】1
..【Detection】
….【Life Detection】1
หมอนี่น่าจะเป็นนักดาบเวทย์อะไรเทือกนั้นสินะ หมอนี่มีตรวจจับชีวิต แต่ก็ยังจับฮิคารุไม่ได้แน่นอน พวกที่เหลือก็สเตตัสคล้ายๆกัน หลังจากที่เขาได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว เขาก็มุ่งหน้าสู่ความมืดของเมือง
ภารกิจช่วยเหลือ เริ่มพรุ่งนี้
___________
มาแล้ววว ขอโทษนะฮับที่เมื่อวานไม่ได้อัพ พอดีติดธุระ
ตอนนี้ยาวโคตร จะร้องไห้
ขอบคุณที่ตามอ่านนะฮับ
อยากเปลี่ยนเป็นชื่อไทยจัง มีใครเสนอชื่อไทยได้บ้างมั้ยฮับ