อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 20.2

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

ตอนที่ 20.2 ชีวิตในต่างโลกกับสกิลลอบเร้น

ฮิคารุกลั้นหายใจและรอ มีอะไรกำลังวิ่งตรงมาทางนี้ มาใกล้ขึ้นใกล้ขึ้น ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่กำลังขี่ม้าตรงมาทางนี้

แค่คนธรรมดารึเปล่า ไม่สิ

เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง คาดไม่ถึงเลยว่านั่นจะเป็น อีส อัศวินที่อยู่ที่คฤหาส

ทำไมล่ะ? ต้องเกี่ยวกับลาเวียแน่ๆ….แต่เขาก็ไม่น่าจะรู้แผนของเรานี่นา อีสมาเพราะไม่ไว้ใจพวกนักผจญภัยรึเปล่า มาเพื่อร่วมขบวนไปด้วยงั้นเหรอ

ฮิคารุอยากจะเดาะลิ้น ถ้าอัศวินคนนั้นไปถึงที่รถม้า เขาจะต้องเช็คข้างในแน่ๆ ถ้ารู้ว่าลาเวียหายไปล่ะก็ พวกนั้นจะต้องหาเธอก่อนที่ทั้งสองคนจะกลับไปถึงเมืองแน่ๆ

แน่นอนว่าด้วยลอบเร้น ทั้งคู่จะต้องซ่อนตัวไว้ได้แน่อยู่แล้ว แต่มันก็แค่นั้น เสบียงล่ะ แล้วถ้าเกิดจิลพูดถึงเรื่องที่เขาถามเธอเรื่องการฆาตกรรมเคาท์ล่ะ

แผนของฮิคารุคือ เขาจะกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติเมื่อไปถึงที่เมือง เธออาจจะถามเรื่องที่ลาเวียหนีไป แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคนที่มาทำงานที่กิลด์อยู่ทุกวันจะเป็นคนที่ทำแบบนั้น

แต่ถ้ากลับไปไม่ได้ แปลว่าทั้งคู่จะต้องใช้ชีวิตแบบไม่มีหลักแหล่ง แต่ถ้าพวกเขาสงสัยฮิคารุ พวกนั้นอาจจะตามรอยจากกิลด์การ์ดก็ได้ แปลว่าพวกเขาอาจจะต้องหนีไปนอกอาณาจักรอย่างไม่มีทางเลือก

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือฮิคารุกับลาเวียไม่เคยเดินทางไกลมาก่อน โดยเฉพาะลาเวียที่มีชีวิตเหมือนนกในกรง 

ฮิคารุตัดสินใจ

เราจะต้องหยุดอีส

“อยู่ตรงนี้นะ อย่าขยับ”

“ใครน่ะ”

“ผู้ติดตามเหรอ”

ฮิคารุหยิบหน้ากากเทพสุริยันออกมาสวมและเรียกโซลบอร์ดออกมา

คิดถูกแล้วแฮะที่เก็บแต้มไว้

เขาปลดล็อคสายชำนาญอาวุธ และลงแต้มให้อาวุธขว้างสองแต้ม

พลังจู่โจมแต้มเดียวก็ให้กำลังกับเขาอยู่บ้าง และสองแต้มในชำนาญอาวุธก็น่าจะเทียบเท่ากับพวกที่เก่งๆแล้ว ถึงฮิคารุจะไม่เคยสู้มาก่อน สกิลก็น่าจะพอทดแทนในส่วนนั้นได้

ฮิคารุคิดไว้บ้างแล้วว่าจะต้องใช้สายอาวุธขว้าง ไม่ก็ ธนู เพราะตัวเขามีสกิลซุ่มยิงอยู่ ส่วนเหตุผลที่เขาไม่เลือกธนูก็เพราะว่าเขาอาจจะมีปัญหาได้ถ้าลูกธนูหมด และในบางสถานการณ์ธนูก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก แต่อาวุธขว้างนั้นไม่เหมือนกัน เขาจะหยิบพวกหินตามทางมาใช้ก็ได้ 

จากนั้นฮิคารุก็หยิบหินขึ้นมาและเก็บมันไว้ในกระเป๋า

หวังว่าจะไม่ได้คลาสเทพโจรกรรมนะ

เขาหันไปทางที่อีสกำลังมา

อีสควบม้าไปอย่างต่อเนื่อง นักผจญภัยพวกนั้นทำให้เขาเป็นกังวลอย่างมาก 

นี่เป็นเพราะเรา เพราะเราปกป้องท่านเคาท์ไม่ได้

ความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดีพอนั้นทำให้เขารูสึกผิด อย่างน้อยเขาก็อยากจะหาความจริงให้เจอ

เรารู้ดีว่านี่มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แต่เราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้

เขาเชื่อใจให้อัศวินที่ติดตามเขาคอยจัดการเรื่องผู้สืบสวนให้ และเขาก็ขึ้นม้าและควบมันตรงไปที่เมืองหลวง เขารู้ว่าการกระทำของเขาจะต้องถูกตั้งคำถามแน่ แต่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าหลังจากที่งานคุ้มกันจบลง เขาจะตรงเข้าไปหาผู้บังคับผู้บัญชาเพื่ออธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น ความยุติธรรมในใจของเขามันบอกให้ทำอย่างนั้น

ถ้าด้วยความเร็วระดับนี้ล่ะก็ น่าจะไปถึงรถม้——

“?!”

มีบางอย่างพุ่งตรงเข้าใส่ตาขวาของม้า อีสพยายามจะควบคุมไม่ให้มันพยศแต่ว่าเขาก็กระเด็นตกจากหลังม้าอย่างรุนแรง ส่วนม้าก็เซไปมาก่อนที่จะล้มลงไป

“เกิดอะขึ้นกันเนี่ย?”

เขาสำรวจร่างกายตัวเอง ไม่มีส่วนไหนหัก แต่ซี่โครงของเขาร้าว ทันทีที่รู้ว่าโดนโจมตีเขาก็เอื้มมือไปที่ดาบ

“อั่ก..”

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่มือขวา หินที่พุ่งมาเร็วจนแทบจะป่นกระดูกได้ เขาปล่อยมือออกจากดาบ ตอนนีเขาถือมันไม่ไหวแล้ว

“คุกเข่าลงกับพื้นซะ ถ้าทำตามที่บอก ผมจะไว้ชีวิต”

“ไอ้เวรเอ้ย ข้าเป็นอัศวินนะเว้ย แกรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแกโจมตีอัศวินน่ะ”

“ช่างมันสิ ผมแค่อยากได้เงินเท่านั้นล่ะ”

“เผยตัวออกมาซะ”

“ใจเย็นลงก่อนซะ ผมเป็นคนเดียวที่ออกคำสั่งได้”

“ชิ”

อีสยื่นมือซ้ายไปทางที่มีเสียงออกมา

“จิตวิญญาณเอ๋ย จงสดับรับฟังเสียงเพรียกของข้า จงแผดเผาศัตรูของข้าให้เป็นเถ้าถ่านด้วยเปลวเพลิงชั้นแรก”

แหวนที่มือซ้ายบรรจุเวทย์ไฟเอาไว้ มันคือสิ่งที่ให้กับอัศวินที่ไม่สามารถใช้เวทย์ได้

บอลไฟพุ่งออกมจากมือซ้ายของเขา พุ่งออกไปโดนพุ่มไม้

“…ได้ผลมั้ย”

“ม่ายอะ”

“!?”

เป็นไปไม่ได้ 

เสียงมาจากอีกทางหนึ่ง เขาไม่เห็นใครข้ามถนนเลย ถ้างั้นก็เหลือแค่อย่างเดียวคือ เวทย์เคลื่อนย้าย

“แย่หน่อยนะ แต่คุณต้องอยู่ที่นี่สักพักไปก่อน”

“ไอ้เวรเอ้ย!!!!”

หินพุ่งเข้าใส่มืออีกข้าง และต่อมาก็ตรงเท้าที่เขาใส่รองเท้าสำหรับขี่ม้าอยู่ โดนไปถึงสามครั้งที่ปลายเท้า ปลายรองเท้าขี่ม้านั้นถือว่าแข็งเป็นอย่างมากแต่เด็กหนุ่มก็ยังสามารถโยนหินใส่ที่เดิมจนมันทะลุมาป่นเท้าของเขาได้อยู่ดี

แบบนี้เราก็วิ่งไม่ได้สิ แบบนี้ก็ไม่มีทางตามรถม้าไปได้แล้ว บ้าเอ๊ย

เขากัดฟัน ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว ตามรถม้าก็ไม่ได้ ศัตรูก็ไม่โผล่ออกมาจากพุ่มไม้เลย

“ผมไม่เอาชีวิตหรอกนะ”

“…..เพราะข้าเป็นชนชั้นสูงงั้นเรอะ”

“ไม่อะ จะเป็นชนชั้นสูงหรือไม่ใช่ผมก็ไม่สนอยู่ดี ผมมีกฎว่าจะไม่ฆ่าคนน่ะ ทีนี้เอาเงินมาได้แล้ว”

“…โชคไม่ดีเลยนะแต่ข้าขยับมือไม่ได้น่ะ” อีสแดกดันกลับไป “เงินอยู่ในกระเป๋าหนังที่เอว”

“นั่นสินะ ลืมไปเลยว่าผมเพิ่งป่นมือคุณไปนี่นา”

เด็กหนุ่มเย้ยกลับ อีสไม่เคยรู้สึกเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน เขาโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“หันไปทางอื่นซะ”

“……”

อีสทำตามที่เด็กหนุ่มบอก และเขาก็ได้ยินเสียงเดินออกมาจากพุ่มหญ้าฝั่งตรงข้าม

 

ฮิคารุรู้สึกว่าเกินคาดไปมาก ไม่ใช่แค่สองแต้มของอาวุธขว้างแต่เป็นแต้มหนึ่งที่พลังจู่โจมก็ด้วย  ตอนนี้เขามั่นใจเลยว่าเขาจะยินถูกเป้าแน่นอนในระยะสิบเมตร

ต้องขอบคุณสกิลทรีของเราล่ะนะ

แล้วไหนจะลอบเร้นอีก ก่อนที่อีสจะร่ายเวทย์เสร็จ เขาใช้เวลานั้นออกจากพุ่มไม้และข้ามถนนไปโดยที่อีสไม่เห็นเขาเลย แต่ถ้าอีสเห็นเขาตั้งแต่แรก เขาก็จะใชลอบเร้นไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องซ่อนก่อน

ตอนนี้เขารู้ถึงอานุภาพของตัวเองแล้ว ด้วยลอบเร้น เขาก็ทำได้แทบจะทุกอย่างแล้ว แถมยังสามารถเอาชนะอีสที่ฝึกมาหลายปีได้อีก นี่มันโกงชัดๆ

“รับไปล่ะนะ”

อีสเหลือบมองไปที่ฮิคารุ เด็กหนุ่มนั้นยืนอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์และสวมหน้ากากเทพสุริยันอยู่ อีสเห็นเด็กหนุ่มเป็นแบบไหนกัน

ฮิคารุตัดกระเป๋าหนังออกมาจากเอว ข้างในนั้นมีเงินอยู่เยอะเลยทีเดียว

“….ข้ามีหน้าที่ที่ต้องทำก่อน” อีสพูด พยายามเค้นคำออกมาจากปาก“เห็นรถม้าที่มีคนคุ้มกันสามคนผ่านมาทางนี้มั้ย”

“….เห็นสิ”

“พวกนั้นเป็นไงบ้าง”

“พวกนั้นค่อนข้างระวังตัวน่ะ ผมก็เลยไม่จู่โจม”

“เข้าใจล่ะ….”

“พวกนั้นทำงานได้เรียบร้อยดีสินะ” อีสพึมพัมออกมาด้วยความโล่งใจ

“….งั้นก็อยู่ตรงนั้นไปสักพักแล้วกัน”

“เออ ยังไงข้าก็ลุกไปไหนไม่ไหวอยู่แล้ว”

ฮิคารุเดินกลับไปในที่ที่ลาเวียอยู่ จับมือเธอและใช้อำพรางหมู่ ทั้งคู่เดินออกไปที่ถนน ไม่มีเวลาแล้ว

“ฮิคารุ”

“ว่าไง?”

“ขอบคุณนะ”

“…ก็บอกแล้วไงว่าไว้เราออกจากป่าก่อนน่ะ”

 

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ขอบคุณที่ไม่ฆ่าอัศวินคนนั้นนะ”

“ก็สัญญาไปแล้วไงว่าจะช่วยเธอโดยไม่ฆ่าใครน่ะ”

“นั่นสินะ”

ฮิคารุรู้สึกว่าเธอจับมือแน่นขึ้น

ตอนที่ไปถึงจุดพัก คาราวานก็เริ่มออกเดินทางต่อแล้ว ทั้งคู่ก็แอบขึ้นไปบนรถม้า ลาเวียตกใจมากที่ทหารยามมองไม่เห็นทั้งคู่ แต่เธอก็ไม่ได้ถามออกไป

กุญแจมือคลายตอนที่ทั้งคู่เข้ามาในเมืองพอดี เวทย์ดูเหมือนจะหมดฤทธ์เร็วกว่าที่คาด

ฮิคารุจ่ายค่าโรงแรมเพิ่มขึ้นอีกสามคืน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว ฮิคารุก็ถอนหายใจยาวๆออกมาอย่างโล่งอก ก่อนหน้านี้เขารู้สึกกดดันมาก

“ตอนนี้น่าจะปลอดภัยแล้วล่ะ ปล่อยมือได้แล้วนะ”

ในที่สุดก็สำเร็จสักที

“……”

“ลาเวีย?”

“…นี่เราหายตัวได้เพราจับมือกับนายเหรอ”

“ก็ประมาณนั้นล่ะนะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ แค่อย่าเสียงดังเกิบไปก็พอ เดี๋ยวคนข้างห้องจะได้ยินเข้า”

“เข้าใจแล้ว เราจะพยายามทำตัวให้เงียบที่สุดนะ”

“เธอยังกระซิบได้นาอุ๊บ?!”

ลาเวียดึงฮิคารุและบรรจงจูบเข้าตรงๆ ลิ้งอุ่นๆแทรกเข้ามาในปากของเขา

“….หวา%#$”

ทั้งทีปค่วิเดียวแต่ดูเหมือนเป็นจูบที่ช่างยาวนาน ฮิคารุแตกตื่นส่วนลาเวียก็มองมาด้วยสายตาที่ชุ่มฉ่ำ

“เราบอกแล้วไงว่าถ้าช่วยเราเราจะให้ทุกอย่างกับนายน่ะ”

“ไม่ใช่ว่ากลัวผมเหรอ”

“กลัวเหรอ?”

“ก็จู่ๆผมไปโผล่ในรถม้าได้ยังไง ไหนจะพาเธอรอดจากพวกทหารมาได้อีก แล้วก็การต่อสูกับอัศวินคนนั้นก็ด้วย ผมไม่ใช่คนธรรมดานะ”

“แล้วมันทำไมล่ะ”

“ก็ที่จะบอกก็คือ”

“จำได้มั้ยว่าเราเคยบอกว่าจะยกทุกอย่างของเราให้น่ะ”

“…อืม”

“ไม่ว่านายจะเป็นพวกเลือดเย็นหรือเน่าเฟะขนาดไหน แต่เราก็ไม่คืนคำหรอกนะ”

ฮิคารุหัวใจเต้นแรง เธอหมายความว่าทุกอย่างจริงๆ

ที่ผ่านมา ฮิคารุก็พยายามออกห่างจากทุกคนเพราะกลัวพลังของตัวเอง เขากลัวว่าจะสูญเสียการควบคุมแล้วจะทำร้ายคนรอบข้าง

แต่ลาเวียนั้นต่างจากคนอื่น เธอนั้นยอมรับในตัวของเขาได้

“เธอจะให้ผมทุกอย่างจริงๆสินะ”

ลาเวียมองช้อนขึ้นมา หน้าแดงไปถึงหู

“เราได้ยินมาว่าครั้งแรกมันจะเจ็บหน่อย แต่ถ้าเป็นไปได้ ช่วยจับมือเราไว้ได้มั้ย”

จากนั้นฮิคารุก็สูญเสียเหตุผลทั้งหมดของตัวเองไป ทั้งคู่อาจจะเปื้อนจากการเดินทางทั้งวัน แต่ก็ช่างมัน

ทั้งคู่ก็จัดกิจกรรมเข้าจังหวะกันทั้งคืนและหลับในอ้อมแขนของกันและกัน

ตอนที่ฮิคารุตื่นขึ้นมาเขาก็ตัดสินใจว่า

เอาล่ะ เป้าหมายของเราในโลกนี้คือใช้ทุกอย่างที่เรามีเพื่อปกป้องเธอให้ได้ 

เขาคิดและมองลาเวียที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมแขน                                                                                                                          

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท