ตอนที่ 33 จุดยืนทั้งสอง
เปลวเพลิงพุ่งออกไปโดยใชวงเวทเป็นตัวเสริมกำลัง วงเวทแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆทันทีที่อสรพิษเพลิงพุ่งผ่านมันออกไป ต้นไม้ที่อยู่ระหว่างทางก็ถูกเผาไปพร้อมกับที่มันเลื้อยผ่านไป มันพุ่งตรงไปที่กลางฐานของพวกกอบลิน
ในทันใดนั้น ก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง รัศมีของมันประมาณสามสิบเมตร แสงและไฟสีขาวต่างหมุนไปรอบๆคล้ายกับทอร์นาโด
ฮิคารุเข้ามาป้องกันลาเวียจากลมกรรโชกที่รุนแรงที่เกิดจากกการระเบิด ตัวเขานั้นแทบจะลืมตาไม่ขึ้นส่วนลาเวียก็เกาะฮิคารุไว้แน่น
“อดทนไว้นะ ลาเวีย!”
“เราไม่คิดเลยว่ามันจะใช้มานามากขนาดนี้เลยอ้ะ”
ทั้งคู่เข้าไปหลบหลังต้นไม้ และแล้ว เปลวเพลิงก็สงบลง เหลือไว้เพียงความตาย ความร้อน และควันเท่านั้น ฮิคารุค่อยๆออกมาจากหลังต้นไม้อย่างช้าๆ
“สุดยอด”
ควันพวกพุ่งออกมาจากซากของต้นไม้ เศษดินกระจายไปทั่ว ไม่ต้องพูดถึงกอบลิน ตายเรียบ มีอยู่ตัวหนึ่งที่อยู่ตรงขอบของรัศมีการระเปิด ทั้งขาและแขนซ้ายของมันขาดไป แต่ไม่มีเลือดไหลออกมาเลยแม้แต่หยดเดียว
กอปลินที่หนีออกไปได้ทันวิ่งหนีเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
“อึก!”
โซลแรงค์ของฮิคารุเพิ่มขึ้น
【Soul Board】Hikaru
Age: 15 Rank: 19
2
【Soul Board】Lavia
Age: 14 Rank: 11
5
ของฮิคารุเพิ่มมาสองส่วนลาเวียเพิ่มมาสี่
“ลาเวียไม่เป็นไรใช่มั้ย”
ลาเวียที่หายใจหอบหนักมากมองมาที่เขา
“มะ ไม่เป็นไร เราแค่ไม่นึกว่ามันจะต้องใช้พลังงานเยอะขนาดนี้น่ะคงจะเป็นเพราะเพิ่งเคยใช้คลาสนี้ครั้งแรกล่ะมั้งนะ”
“จริงเหรอ”
“คลาสผู้บงการเปลวเพลิงของเราปรากฎออกมาตอนที่เราฆ่ามอนสเตอร์ไปครั้งแรกที่บ้านน่ะ จากนั้นมาเราก็ใช้แต่คลาส ผู้สร้างเวทมาตลอด แล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่าเวทของเราน่ะไม่ได้รุนแรงไปกว่าเดิมตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็การใช้มานาของเรามันก็ไม่เท่าตอนนี้ด้วย”
แล้วฮิคารุก็ได้รู้ว่าลาเวียนั้นซ่อนคลาสนี้จากเคาท์มาตลอด เขานั้นดีใจที่เธอบอกเรื่องนี้กับตัวเขา
ถ้างั้นไอ้ รังสรรค์เวท ในโซลบอร์ดของลาเวียส่งผลกับการใช้มานาสินะ
แล้วจากการยิงเวทเมื่อกี้ก็ทำให้เขารู้ว่า การประสานงานระหว่างเขาและลาเวียนั้นสุดยอดมากทีเดียว ถ้าให้เทียบง่ายๆก็ ปืใหญ่เคลื่อนที่ได้ที่ไม่มีใครมองเห็นนั่นแหละ
ทั้งคู่นั้นสามารถสังหารหมู่พวกมอนสเตอร์ได้ในรอบเดียว แถมยังซุ่มโจมตีได้อีก ทำให้ฮิคารุนั้นทั้งตื่นเต้นและกลัวไปเลยทีเดียว
“ฮิคารุ นายจะไม่ทิ้งเราใช่มั้ย”
ประโยคนี้นั้นทำให้ฮิคารุรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นราด เพราพลังนี้ ทำให้ทุกคนในบ้านต่างหวาดกลัวเธอ ทำให้เธอถูกขังไว้ในบ้าน ทำให้อาณาจักรหมายหัวเธอ แต่ฮิคารุก็ยังให้เธอใช้พลังนั้น
ลาเวียนั้นไม่ได้ปฎิเสธก็จริงแต่ว่า นั่นเป็นเพราะเธอไม่อยากขัดใจฮิคารุต่างหาก ถึงจะบอกว่าเป็นการทำเพื่อเก็บข้อมูลไปใช้ในดันเจียนก็ตาม แต่ว่า การพูดแบบนั้นมันก็เหมือนกับบอกว่าบอกทำตัวให้มันมีประโยชน์หน่อย นั่นล่ะ แล้วอีกอย่าง ถึงที่ฆ่าไปจะเป็นมอนสเตอร์แต่มันก็ยังคงเป็นการสังหารหมู่อยู่ดี
เราให้เธอทำลงไปได้ยังไงกัน ทำไมเราถึงไม่เอะใจเลยเนี่ย
“ฉันน่ะเป็นคนที่พาเธอมานะ จะทิ้งไปได้ยังไงล่ะ แล้วยิ่งไปกว่านั้นนะ ความรักที่มีให้ต่อการผจญภัยของเธอน่ะ มันทำให้ฉันทิ้งเธอไม่ลงหรอก”
“จริงเหรอ ดีใจจังเลย”
เธอยิ้มออกมาส่วนฮิคารุก็หยิบผ้าขึนมาซับเหงื่อของเธอ
“ลาเวีย”
ถ้าขอโทษออกไปยังไงเธอก็ต้องยกโทษให้อยู่แล้ว
แต่เราทำไม่ได้ เราอาจจะทำร้ายจิตใจของเธอก็ได้ แล้วความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันไม่ใช่แบบเท่าเทียมกันด้วย เธอน่ะบอกเราทุกเรื่องแต่เรายังเก็บหลายเรื่องเป็นความลับอยู่
และเพื่อที่จะขอโทษนั้น ก็ต้องมายืนในจุดเดียวกับเธอ
“สักวัน เธอคงจะต้องจากฉันไปแล้วไปใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง”
“……”
“แต่ก่อนหน้านั้น ฉันน่ะ อยากให้จุดยืนของเราเท่าเทียมกัน ดังนั้น ฉันจะ…”
…บอกความลับของตัวเองให้เธอฟัง
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ” ลาเวียพูดขึ้นพร้อมกับวางนิ้วชี้ลงที่ริมฝีปากของเขา “อย่าพูดต่อเลย สิ่งที่นายทำให้กับเราน่ะ มันมีมูลค่ามากเกินกว่าที่เราจะชดใช้ได้โดยแค่ใช้เวทไปแค่ครั้งเดียวนะ เพราะอย่างนั้น เรากับนายน่ะไม่ต้องมีจุดยืนที่เท่ากันก็ได้”
เธอยืนชึ้นอย่างช้าๆ และเซนิดหน่อย
“การเดินทางของพวกเราน่ะ มันเพิ่งเริ่มขึ้นนะ อย่าให้เรื่องแค่นี้มารั้งเราไว้สิ”
“….อืม”
พูดไม่ออกเลยแฮะ เธอแข็งแกร่งกว่าเราอีก
“เข้าใจล่ะ ถ้างั้นก็ ไปกันเถอะ”
“อื้ม”
ฮิคารุยื่นมือไปให้และลาเวียก็จับมืออย่างนุ่มนวล ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไป จุดยืนของทั้งคู่ ก็ยังไม่เท่าเทียมกันเหมือนเดิม แต่ว่าไออุ่นจากมือของลาเวียนั้นทำให้ฮิคารุรู้สึกว่าตัวเองนั้นได้ใกล้ชิดกับเธอมากกว่าเดิม
หลังจากนั้นทั้วคู่ก็กลับไปที่พอนด์และเข้าเมืองไปโดยใช้อำพรางหมู่เพื่อซ่อนตัวลาเวีย และกลับออกมานอกเมืองอีกครั้งเพื่อเข้าเมืองอย่างถูกต้องและยื่นกิลด์การ์ดให้กับผู้เฝ้าประตูดู
“แล้วที่เมืองหลวงเป็นไงบ้างล่ะ” คนเฝ้าประตูถามอย่างอารมณ์ดี
“ใหญ่มากเลยล่ะครับ”
“ใช่มั้ยล่า แล้วอย่างอื่นล่ะ อย่างพวกผู้หญิงน่ะ พี่สาวอกโตอะไรอย่างนี้น่ะ”
“นี่เอ็งสนแต่เรื่องผู้หญิงเหรอเห้ย” เพื่อนร่วมงานของเขาขัดขึ้นมา
เป็นคนดีจริงๆเลยน้า ดีใจจังที่ได้อยู่ที่นี่
“ที่นั่นมันใหญ่เกินไปสำหรับผมน่ะครับ”
“งั้นเหรอ พวกนักผจญภัยส่วนใหญ่ชอบออกไปสร้างชื่อที่นั่นนี่นา นายเองก็ไปที่นั่นเพื่อเลื่อนแรงค์ใช้มั้ยล่ะ”
“ใช่ครับ แต่ผมก็เลื่อนเป็นแรงค์ E ได้ที่นี่เหมือนกัน”
“เข้าใจล่ะ ถ้างั้นก็ โชคดีนะ”
ผู้เฝ้าประตูนั้นดูอารมณ์ดีมาก อย่างที่เขาและพนักงานต้อนรับที่เมืองหลวงพูด ที่เมืองหลวงนั้นมีคำร้องมากมายให้เลือกทำ ดังนั้นการที่นักผจญภัยจะแห่กันไปที่นั่นมันก็ไม่แปลกเลย แต่ในบางครั้ง นักผจญภัยของเมืองหลวงก็จะถูกเรียกให้ไปรบในสงครามเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
มันก็ต้องมีพวกที่อยากออกไปสร้างชื่อในสงครามอยู่บ้างเหมือนกันล่ะนะ
ฮิคารุนั้นชอบเมืองเล็กๆอย่างพอนด์ ที่สามารถเดินไปที่ไหนก็ได้ มันทำให้เขาไม่อยากที่จะจากเมืองนี้ไป แต่ว่า เมื่อที่เขาได้เลื่อนขั้นเป็นแรงค์ E เขาก็คงต้องบอกลาเมืองนี้เพื่อไปสำรวจดันเจี้ยน และถ้าเกิดตัวตนของลาเวียถูกเปิดเผยขึ้นมา เขาอาจจะต้องหนีออกไปนอกอาณาจักรเลยก็ได้
“ฮิคารุ เป็นอะไรเหรอ”
“หืม?”
“นายดูอารมณ์ดีนะ”
“งั้นเหรอ คงใช่ล่ะมั้งนะ”
แล้วทั้งคู่ก็ไปที่กิลด์เพื่อที่จะเอาวัตถุดิบไปส่งที่กิลด์