ตอนที่ 37 เตรียมอุปกรณ์
ลาเวียรู้สึกดีขึ้น ทำให้เมื่อคืนทั้งคู่ นอน ดึกมาก
เช้าวันต่อมา ฮิคารุกับลาเวียก็ตรงไปที่ร้านไส้กรอกเจ้าเดิม เจ้าของร้านหันมาที่เขาแล้วกอดอก พร้อมพยักหน้า
“หกสิบกิลลัน”
“นี่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
แล้วเจ้าของร้านก็จัดการกับฮอทดอก ราดซอสและมาสตาร์ดลงไปก่อนที่จะยื่นให้ทั้งคู่ ฮิคารุจ่ายเงินและลองกัดเข้าไปคำหนึ่ง
“หืม…”
ทันทีที่กัดเข้าไป รสชาติของเนื้อก็กระจายอยู่เต็มปาก กลิ่นที่กลมกลืนกันของมาสตาร์ดและซอสมะเขือเทศนั้นทำให้รสชาติกลมกล่อมเข้าไปอีก
“ครั้งนี้ผมให้ผ่านนะ”
“…เข้าใจล่ะ”
“เอ๋ ทำไมดูไม่ค่อยจะดีใจเลยล่ะ”
“ก็แบบว่า สุดท้ายนายก็ยอมรับฮอทดอกของที่นี่สักทีนะ ท่านอาจารย์”
“……”
เดี๋ยวนะ ตะกี้ลุงแกพูดว่าอะไรนะ ทำไมลุงแกถึงมองเราด้วยตาเป็นประกายขนาดนั้นล่ะ
“ถ้างั้นหลังจากนี้ก็ค่อยๆเพิ่มความหลากหลายด้วยแล้วกัน อย่างชีส ไม่ก็หัวหอมน่ะ แล้วก็จะใส่ ซัลซ่าซอสลงไปแทนก็ได้นะ”
“เข้าใจแล้ว อาวล่ะ ตูข้าจะเริ่มครองโลกด้วยสูตรฮอทดอกนี่ล่ะเหวย ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วเจ้าของร้านก็พูดออกมา
“อะ อืม”
“ไม่เผ็ดเลยอะ”
ฮิคารุเมินความเห็นของลาเวียไป หลังจากนั้นฮอทดอกสูตรนี้ก็ได้เป็นที่รู้จัดข้ามผ่านทวีป แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องหลังจากนั้น
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตรงไปที่ร้านของโดโดโรโน่ เพื่อที่จะซื้อเครื่องสวมใส่ก่อนที่จะออกไปจากเมืองวันพรุ่งนี้
“แหมวันนี้เซนส์ด้านแฟชั่นของข้าก็ยังดูดีอยู่เหมือนเคยเลยนะเนี่ย”
“อึก…”
คนแคระวัยกลางคนโพสท่าชูสองนิ้วพร้อมกับส่งวิ้งค์ให้ เป็นภาพที่ไม่ค่อยจะเจริญตาเท่าไรสำหรับฮิคารุ
“ขอซื้ออะไรหน่อยสิ”
“ได้สิ อยากได้อะไรล่ะ”
“อย่างแรกอยากได้อุปกรณืที่ปกปิดกลิ่นอายของผู้ใส่น่ะ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แค่บอกราคามาก็พอ”
“นายจะเป็นคนใส่งั้นเหรอ”
“ไม่ล่ะ เรนคลอวตรงนี้จะเป็นคนใส่น่ะ เราอาจจะได้ขายมันทีหลัง เพราะงั้นขอแบบใส่ได้ทั้งชายและหญิงนะครับ”
“หืมม..”
โดโดโรโน่เริ่มศึกษาตัวลาเวีย ฮิคารุแอบกลัวอยู่นิดหน่อยว่าโดโดโรโน่จะรู้ว่าลาเวียเป็นใครรึเปล่า
“เธอ…”
“คะ…ครับ” ลาเวียตอบอย่างสั่นกลัว
“ผิวสวยมากเลยนะเนี่ย อิจฉาจัง”
บ้าเอ๊ย แล้วตกใจหมด ฮิคารุคิดพร้อมกับถอนหายใจ
“เธอน่ะจะใส่อะไรก็ดูดีหมดแหละ รอนี่นะ เดี๋ยวจัดเต็มให้เอง”
ทั้งคู่ก็ได้ซื้อชุดอืนๆไว้สำหรับเปลี่ยนด้วย เพราะฮิคารุมีชุดของ ไนท์วูล์ฟแค่ชุดเดียว (ผป: เดี๋ยวนะ ชุดเดียว นี่ใส่แบบเน่าๆมาตลอดเลยเหรอ) เขาเลือกชุดผ้าลินินมาจำนวนหนึ่ง ส่วนลาเวียก็ซื้อชุดชั้นในของผู้หญิงไปด้วยและบอกว่าซื้อไปให้น้องสาว
ส่วนผ้าคลุมที่ขาดตอนสู้กับลอวเรนซ์ที่เมืองหลวง ฮิคารุได้ซื้อผืนใหม่จากร้านมือสองที่เมืองหลวงมาเรียบร้อยแล้ว
“อาวล่ะ ข้าตีราคาเสร็จแล้ว ค่อนข้างแพงเลยนา”
“เท่าไรล่ะครับ”
แล้วเขาก็ยื่นกระดาษแผ่นนึงมาให้
หนังของ กิ้งก่าลวงตา 9200 กิลลัน
ถ้าเป็นหนังของ มังกรลวงตา 18000 กิลลัน
หินวิญญาณธาตุลม 1500 กิลลัน
ค่าแรง 1000 กิลลัน
ทั้งหมด 11,700 กิลลัน
“เอ่อ คุณโดโดโรโน่ครับ….”
“ขะ ข้ารู้ว่ามันออกจาะแพงไปหน่อย แต่หินเวทมันก็จำเป็นสำหรับการกลบกลิ่นน่ะ ข้าเองก็คิดเหมือนกันว่าคงจะไม่…”
“ค่าแรง 1000 กิลลันมันถูกเกินไปแล้วนะครับ”
“เดี๋ยวสิ เรื่องนั้นหรอกเหรอ”
“ผมไม่ยอมเรื่องนี้หรอกนะ อย่างน้อยก็เรียกราคามากกว่านี้สักสองเท่าสิครับ”
“อะ เอ่อ..แต่ พันนึงมันก็แพงแล้วนะ”
“อย่างน้อยก็สัก 2000 สิครับ แล้วก็ช่วยเร่งมือให้หน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้ส- เดี๋ยวนะ นี่นายจะซื้อจริงๆเหรอ”
“แน่อยู่แล้ว ถ้าไม่ซื้อจะถามทำไมล่ะครับ”
“แต่ราคามัน…”
ฮิคารุหยิบถุงเงินออกมาวาง เสียงของเหรียญที่กระทบกันทำให้เขาแทบหยุดหายใจไปเลย
“ขอถามเกี่ยวกับเรื่องหนังของมังกรลวงตาหน่อยสิครับ มันดีแค่ไหนเหรอ”
“ของดีสุดๆไปเลยล่ะ ไอ้เจ้ามังกรลวงตาเนี่ยเป็นมอนที่พบได้บ่อยในดันเจี้ยนน่ะ แล้วหาตัวมันยากไปหน่อยเพราะว่ามันปกปิดกลิ่นอายของตัวเองได้ดีมาก แต่เพราะว่าเราใช้หนังของตัวที่ตายแล้วมันอาจจะม่ได้มีประสิธิภาพเท่าเดิมแต่ว่ามันก็ดีกว่าของกิ้งก่าลวงตาเยอะเลยล่ะ”
“แล้วความหาง่ายล่ะ อันไหนหาซื้อง่ายกว่ากันน่ะครับ”
“แน่นอนว่าเป็นหนังของมังกรลวงตาน่ะ มันค่อนข้างแพงเลยไม่ค่อยมีคนซื้อเท่าไร พวกมันก็เลยจะค้างสต็อกอยู่นาน เพราะฉะนั้นพวกพ่อค้าที่เมืองหลวงส่วนใหญ่ก็เลยมีมันอยู่แทบทั้งนั้น ส่วนกิ้งก่าลวงตาก็จะจำศีลในช่วงฤดูหนาวน่ะ เลยทำให้ล่าได้ง่ายๆในช่วงนั้น แต่หน้าร้อนแบบนี้ก็คงมีไม่เยอะเท่าไรหรอก”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอเป็นหนังมังกรลวงตาแล้วกันครับ”
“ได้สิ”
โดโดโรโน่ไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้น
“นี่ค่าแรงแค่สองพันกิลลันพอจริงๆเหรอครับ”
“อืม ยังไงหนังของมังกรลวงตาก็จัดการง่ายกว่าอยู่แล้วน่ะ”
“แล้วจะเสร็จตอนไหนเหรอครับ”
“ไหนดูซิ ถึงจะเร่งทำให้ก็น่าจะประมาณสิบวันน่ะ การจัดซื้อวัตถุดิบมันต้องใช้เวลาน่ะ”
“สิบวันเหรอ..”
แล้วฮิคารุก็คิดอยู่พักหนึ่งเพราะเขาอยากออกตัวพรุ่งนี้เลยดังนั้นการรอถึงสิบวันมันไม่ใช่เรื่องที่อยากทำเท่าไร
“ถ้าได้วัตถุดิบมาจะทำให้เสร็จได้เลยมั้ยครับ พอดีผมว่าจะออกไปที่ดันเจี้ยนเร็วๆนี้น่ะ”
“โอ้ นี่นายจะไปดันเจี้ยนสินะ เข้าใจล่ะ ได้สิ ยังไงของพวกนี้ก็เป็นประโยชน์ในดันเจี้ยนมากอยู่แล้วล่ะ”
“อย่างนั้นเหรอครับ”
“ใช่สิ ถ้าสามารถจัดการได้โดยไม่ให้พวกมันรู้ตัวได้ก็จะมีประโยชน์มากเลยล่ะ”
“ถ้างั้นช่วยส่งไปที่กิลด์นักผจญภัยสาขานั้นให้หน่อยได้มั้ยครับ”
“รูท ฮับบาร์ท สินะ”
ฮิคารุพยักหน้า เมืองที่ใกล้ดันเจี้ยนที่สุดก็คือที่นั่น
“โอเค ถ้าอย่างนั้น…”
ต่อไปก็ที่ร้านอาวุธของเลนนิวูด เพื่อหาอาวุธสำหรับป้องกันตัวให้ลาเวีย
“ว้าว ใช้มาเยอะเหมือนกันนะเนี่ย” เลนนิวูดพูดออกมาหลังจากที่ได้เห็นมีดของฮิคารุ แน่นอนว่าช่างตีเหล็กจะต้องดีใจเมื่อได้รู้ว่าอาวุธของตัวเองถูกใช้งานบ่อยอยู่แล้ว “ใบมีดโทรมเมือนกันนะเนี่ย นี่ไปทำอีท่าไหนเนีย”
“หลายอย่างน่ะครับ”
“เดี๋ยวจะซ่อมให้แล้วกัน แต่คงต้องใช้วลาพรุ่งนี้ทั้งวันล่ะนะ”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมซื้อสำรองไว้แล้วกันครับ แล้วก็ ผมอยากได้ไม้เท้าสำหรับเวทจิตวิญญาณน่ะครับ”
“ไม่ลองไปที่กิลนักแปรธาตุล่ะ ที่นั่นมีไม้เท้าดีๆเยอะเลยนะ ส่วนที่นี่ก็มีอยู่นิดหน่อยน่ะ” เขาพูดพร้อมกับหยิบไม้เท้าที่ถูกห่อด้วยผ้าลงบนเคาท์เตอร์
“หืม ทำมาจากเหล็กทั้งหมดเลยนี่”
“แม่นแล้ว ก็ฉันเป็นช่างตีเหล็กนี่นา ก็เลยตีไม้เท้าที่คงทนไว้ฟาดแสกหน้าได้ยังไงล่ะ”
“แต่เวทจิตวิญญาณถ้าใช้ไม้จะควบคุมง่ายกว่านี่..”
“ถูกต้อง แน่นอนว่าบัพของเด็กพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเวทมนต์เลย”
แล้วฮิคารุก็ได้รู้ว่า อาวุธพวกนี้นั้นถูกปฏิเสธ
“อันนี้จะทำให้มีแรงมากขึ้น ส่วอันนี้ก็แรงขึ้นไปอีก อันนั้นก็แรงโคตรมากกว่าสองอันก่อนไงล่ะ!!”
“โคตรจะไม่สมดุลเลยครับ..”
“คิดงั้นเหมือนกันเหรอ ฮ่าๆๆๆ ที่ขายไม่ออกก็เพราะแบบนี้แหละ”
“เข้าใจล่ะ มิน่าทำไมคนอื่นถึงไปที่กิลด์นักแปรธาตุ”
“แต่จำไว้ล่ะ ไม่มีที่ไหนที่ทำไม้เท้าที่บัพพลังหรอกนะ!!”
แล้วเลนนิวูดก็ชี้ไปที่ไม้เท้าอันหนึ่ง มันมีสีเงินยาวประมาณสามสิบเซนติเมตร รูปร่างคล้ายกับกระบองตำรวจ
“ไอ้นั่นจะช่วยเพิ่มพลังกายน่ะ”
“โอ้ เท่าไรล่ะครับ”
“ถ้าซื้อตอนนี้ก็สี่ร้อยเท่าน้านนนน”
“..ขายไม่ดีขนาดนั้นเลยสินะ”
มีดสั้นแห่งกำลังของฮิคารุนั้นราคา 5000 กิลลัน ไม้เท้าอันนี้ถูกว่าถึงสิบเท่าเลยทีเดียว เขาซื้อไม้เท้าและมีดสั้นที่ไม่มีบัพอะไรเลยมา รสิริราคารวม 4000 กิลลัน บวกกับค่าซ่อมมีดอีก 300 กิลลัน
หลังจากนั้น ฮิคารุกับลาเวียก็นั่งม้าเร็วไปที่ทะเลสาปฝั่งตะวันออก และไปถึงประมาณ เที่ยงๆ แล้วก็กินข้าวกันที่นั่น
หืม มีพวกนักผจญภัยอยู่แถวนี้ด้วยแฮะ
นักผจญภัยสามคนกำลังล่าเหยื่ออยู่แถวๆนั้น
เหอะคนจะเห็นว่าเราเอาวัตถุดิบมากมายมาจากที่นี่เมื่อวานนี้สินะ คงจะอยากได้แบบเราล่ะสิ ขอให้โชคดีแล้วกัน
ฮิคารุยิ้มและหลังจากที่กินข้าเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็มุ่งหน้าเข้าป่าไป