ตอนที่ 38 การเคลื่อนไหวของจตุรดารา
ในเช้าวันเดียวกัน
หากจะถามว่าโรงแรมไหนคือโรงแรมที่หรูหราที่สุดในพอนด์ ทุกคนจะคิดไปในทางเดียวกันนั่นคือ แกรนด์โฮเทล พอนด์
เป็นหนึ่งในสาขาที่ตั้งอยู่ในส่วนที่ดีที่สุดของเมือง ตัวตึกค่อนข้างสูงที่สุดในแถวนั้น
และยังมีสาขาอยู่ที่เมืองหลวงและรูทฮับบาร์ทอีกด้วย
ที่ชั้นหนึ่งของที่นั่นเอง
“เอาล่ะ พวกเรามากันครบแล้วรึยัง”
“ไม่เห็นจะต้องเช็คอีกรอบเลยนี่นา ยังไงเราก็มีอยู่แค่สี่คนอยู่แล้ว”
คนที่พูดอยู่นั่นก็คือ เซลิก้า ทาโนะอุเอะ นั่นเองเธอกำลังกินฮอทดอกที่อยู่ข้างหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
“ฮ่าๆๆๆ… ดูเหมือนว่าจะอร่อยน่าดูเลยนะเซลิก้า”
“ช่วยไม่ได้นี่นา ก็มันอร่อยอะ เอาหน่อยมั้ยเซลิส”
“ไม่ล่ะ ขอผ่าน”
เซลิสลันเด้ หัวหน้าของจตุรดารา ปฏิเสธข้อเสนอลงพร้อมกับหัวเราะนิดหน่อย หน้าของเธอไม่เหลือเค้าลางของคนที่เคยไปคุยกับอันเค็นอยู่เลย เธอกำลังสนุกกับการที่ได้คุยกัเพื่อนที่สามารถเชื่อใจได้อย่างสุดหัวใจ
“นี่ เซลิส พูดไปตรงๆแบบ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก อะไรงี้ไปสิ” ซาร่าพูด
ผมสั้นเป็นลอน สีม่วงเหมาะกับรูปร่างของเธอเป็นอย่างมาก ใส่ชุดโชว์ผิวหนังนิดหน่อย และบรรยากาศที่เธอแผ่ออกมาก็คล้ายๆแมวอีกด้วย
“ไม่อ้วนหรอกน่า เวลาที่ใช้เวทน่ะมันเหนื่อยและหิวมากเลยนะเอ้อ”
“ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่พิสูจน์อย่างหลังได้เลยนี่” เซลิสพูด
“ก็เค้าไง”
“คงงั้นมั้ง” ซาร่าพูด
“…พูดอะไรของเธอน่ะ”
“ก็เธอไม่อ้วนใช่มั้ยล่ะ ถ้าอย่างนั้นหน้าอกของเธอก็คงจะไม่โตไปกว่านี้แล้วล่ะ”
เซลิก้าจ้องเขม็งไปที่ซาร่าที่เอาแต่หัวเราะ ซาร่าเป็นเด็กสาวที่ตัวเตี้ยกว่า แต่หน้าอกใหญ่กว่า แต่ว่า มีอยู่อีกหนึ่งคนที่มีหน้าอกใหญ่ที่สุดของปาร์ตี้นี้
“เอาล่ะมาเริ่มกันเถอะเซลิส”
“นั่นสินะ แล้ว โซเฟียไปไหนซะล่ะ”
“ดูเหมือนว่าจะไปที่โบสถกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าน่ะ”
“เหมือนเคยสินะ เอาล่ะ ถ้างั้นก็เริ่มกันเลยแล้วกัน อันดับแรก รายงานสิ่งที่รวบรวมมาได้แล้วกัน”
เซลิสบอกถึงเรื่องที่เธอได้ไปคุยกับกิลด์มาสเตอร์มา
“ฉันไปที่คฤหาสของเคาท์มาน่ะ แต่ว่าพวกเขากันไม่ให้เราเข้าไป พอปคุยกับพวกคนใช้แล้ว ทางนั้นบอกว่าลูกสาวของเคาท์จะมีความสามารถด้านเวทย์มนต์น่ะ” ซาร่าพูด
“เหหห…”
เซลิก้าหยุดเคี้ยวอาหารทันที
“เดี๋ยวนะ หรือว่า-”
“ไม่ล่ะ ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก เธอโตขึ้นมาบนโลกแห่งนี้ แล้วดูเหมือนว่าเธอจะมีผมสีเงินและตาสีฟ้าน่ะ แล้วยังไม่พูดภาษาแปลกๆด้วย” เซลิสว่า
“อืม…”
“จากที่ได้ยินมาเหมือนว่า เด็กที่ชื่อลาเวียคนนั้นจะถูกส่งไปร่วมสงครามน่ะ” ซาร่าพูด
เซลิสขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำว่าสงคราม
“เธอจะบอกว่าพวกนั้นจะโยนเธอเข้าไปในสงครามระหว่างอาณาจักรเหรอ”
“อืม เคาท์ทำสัญญากับราชาไว้น่ะ”
เซลิสถอนหายใจ
“ใช้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆมาเป็นเครื่องมือเหรอ น่าหยะแหยงจริงๆ”
“พวกเราออกจากอาณาจักรนี้แล้วไปที่ ฟอเรสเทียทางใต้กันเถอะ ไปพักร้อนที่นั่นก็น่าจะดีเหมือนกันนา”
“ฉันไม่ใส่ชุดว่ายน้ำหรอกนะ” เซลิก้าพูด
“ไม่มีใครบังคับเธอหรอกน่า” ซาร่าพูด
เซลิสยิ้มขณะที่กำลังฟังทั้งคู่คุยกัน
“เอาไว้จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนแล้วกัน แล้วก็ เราควรจะตรวจสอบเรื่องคู่แข่งทางการเมืองมั้ย”
“หืมม..ไม่รู้สิ” ซาร่าพูด “ฉันก็คิดเรื่องนั้นไว้บ้างเหมือนกันแต่ว่าพวกที่ทำงานกับเคาท์อยู่ที่เมืองหลวงก็เว้นระยะห่างจากเคาท์อยู่นะ คงจะมีเรื่องอะไรอยู่เบื้องหลังนั่นล่ะ”
“ไปรู้เรื่องนั้นมาจากไหนล่ะ เซลิสถาม”
“ตอนที่อยู่เมืองหลวงฉันแอบย่องเข้าไปในบ้านของทางนั้นแล้วแอบฟังมาน่ะ”
“จริงเหรอ ถ้าโดนจับได้เนี่ยเรื่องใหญ่เลยนะ”
“ยังไงก็ไม่มีใครสัมผัสถึงตัวฉันได้อยู่แล้วล่ะ ยกเว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยล่ะนะ”
“ก็กลัวว่ามันจะมีเข้าสักวันน่ะสิ ช่างเถอะ เข้าเรื่องกันต่อ เซลิก้า หาเวทที่ทำให้คนสามารถหายไปเฉยๆได้มั้ย” เซลิส
“…….”
“เซลิก้า?”
“นี่เป็นค่การคาดเดานะ แต่อาจจะใช่ก็ได้ แต่ตัดหัวหน้ากิลด์นักแปรธาตุไปได้เลย”
“หมายถึงทฤษฎีนั้นเหรอ”
“อืม”
การคาดเดาของเซลิก้าคือ
คนที่ขึ้นไปบนรถม้าไม่ใช่ลูกสาวของเคาท์แต่เป็นภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นจากเวทลมและน้ำต่างหาก
เวทระดับสูงนั้นสามารถทำให้สร้างภาพลวงตาที่สมจริงได้ยันสัมผัสเลยทีเดียว แต่ในหน้าหนาวร่างที่ถูกสร้างมาจะแข็งหรือไม่ก็เย็นเกินกว่าจะเป็นมนุษย์แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนก็หายห่วง
ข้อดีคือเมื่อเวทคลายจะสลายเป็นน้ำไป แต่ข้อเสียคือ ร่างปลอมนั้นไม่สามารถกินข้าวได้ แถมผู้ใช้ยังต้องควบคุมภาพลวงตาอยู่ใกล้ๆอีกต่างหาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าร่างปลอมออกนอกระยะก็หายห่วงแล้ว
“บางทีเด็กคนนั้นอาจจะมีเวทที่ไม่มีใครรู้จักอยู่ก็ได้”
“หัวหน้ากิลด์นักแปรธาตุบอกว่า มันไม่ใช่ว่ามีความเป็นไปได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ต่างหาก”
กิลด์มาสเตอร์บอกว่าเธออยู่ในห้องขังที่ลงอาคมเป็นอย่างดีแล้ว แถมตอนที่ออกมาเธอเองก็ถูกใส่กุญแจมือแทบจะทันทีเลยด้วย
“แปลว่าเธอหนีไปเองไม่ได้ แต่มีคนช่วยให้เธอหนีไปสินะ ซาร่า คิดว่าทำได้รึเปล่า เธอปกปิดกลิ่นอายแล้วเข้าไปใกล้ได้ใช่มั้ยล่ะ”
“อืม สะเดาะกลอนได้ด้วยนะ แต่มันก็มีเรื่องที่กวนใจอยู่เรื่องนึงน่ะ”
“อะไรล่ะ”
“ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนว่าจะมีผู้ชายคนนึงเข้ามาขอน้ำกับขบวนรถม้าใช่มั้ย”
“อืม ทำไมเหรอ”
“ถ้าหมอนั่นเดินมาอีกแค่นิดเดียวก็น่าจะเจอเมืองแล้วนี่นา”
“พูดได้ดีนะ ทีแรกฉันเองก็สงสัยตรงจุดนั้นเหมือนกัน แต่ว่า พวกนั้นเองก็ไม่ได้หยุดรถม้านะ”
“..”
“เธอยังคาใจกับเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ”
“หืมมม… แค่ลางสังหรน์น่ะ ฉะนคิดว่าทุกเรื่องมันเชื่อมกันอยู่”
“หืม?”
“ถึงผู้ชายคนนั้นปกปิดกลิ่นอายของตัวเองได้ แต่ก็ไม่น่าจะพาเด็กคนนั้นหนีออกมาได้นี่นา แต่ถ้าเด็กคนนั้นอำพรางตัวเองได้มันก็อีกเรื่อง”
“…อืม”
เซลิสถอนหายใจ
“กลับมาที่ทางตันเหมือนเดิมสินะ บางทีพวกนั้กผจญภัยพวกนั้นอาจจะถูกจ้างก็ได้นา”
“ไม่ตลกย่ะ เรามาคิดกันต่ออีกสักหน่อยเถอะ” ซาร่าพูด
“อื้ม ฉันเองก็อยากอยู่ที่นี่นะ” เซลิก้าพูดพร้อมพยักหน้า
“เธอก็แค่อยากกินฮอทดอกสินะ” เซลิสพูด
“แม่นแล้ว! นั่นก็ด้วย”
“[นั่นด้วย]เหรอ แปลว่ายังมีอย่างอื่นอีกสินะ” เซลิสพูดพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดปากที่เปื้อนซอสของเซลิก้า
“ฉันคิดว่าอาจจะมีคนแบบฉันอยู่น่ะ คนที่ถูกส่งมาจากที่ญี่ปุนไงล่า!”
‘’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’
สามสิบนาทีผ่านไปหลังจากที่เข้ามาในป่า แถวนั้นไม่มีใครอยู่แล้ว
“เอาล่ะ ลาเวีย ฉันอยากรองอะไรหน่อยน่ะ หืม มีอะไรเหรอ”
ลาเวียกำลังหัวเราะอยู่นิดหน่อย
“นายนี่ชอบการทดลองจริงๆเลยน้า”
“ครั้งนี้ไม่ใช่เวทที่ใหญ่โตอะไรหนอก ไม่ต้องห่วงนะ”
“ไม่ เราไม่ได้คิดอะไรหรอก แล้วอีกอย่างจุดยืนของพวกเรามันไม่ได้อยู่ที่เดียวกันนะ จะทำตัวหยิ่งให้มากกว่านี้ก็ได้นะ”
“ไม่ล่ะ ฉันทำไม่ลงหรอก”
“อื้ม รู้อยู่แล้วล่ะ นายน่ะใจดีกับเรามากเลยนะ …..แล้วตอนกลางคืนเองก็นุ่มนวลมากด้วย”
“หืม อะไรนะ”
เธอลดเสียงลงตอนช่วงท้ายทำให้ฮิคารุไม่ได้ยิน
“มะ ไม่มีอะไรหรอก แล้วนายอยากให้เราทำอะไรล่ะ” ลาเวียรีบถามพร้อมกับหน้าแดง
“อะ โอ้..”
ฮิคารุอธิบายว่าเวทของลาเวียนั้นแข็งแกร่งเกินไป ไอ้การที่จะใช้ในที่เปิดมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้าใช้ในดันเจี้ยน รับรองทั้งคู่โดนย่างสดแน่ๆ
“อืม เราก็คิดเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ถึงจะใช้เวทธรรมดามันก็ยังออกมาใหญ่อยู่ดีอะ”
“อย่างที่เคยพูดไปน่ะ ฉันอยากให้เธอลองควบคุมเวทของเธอ ประมาณว่าเปลี่ยนรูปร่างหรือทำให้เล็กลงน่ะนะ”
“ทำให้เล็กลงเหรอ”
ลาเวียลองยิงลูกไฟออกไปห้าลูกแต่ก็ออกมาเป็นขนาดเดียวกันหมด ที่ควบคุมได้ก็มีแค่วิถีของมันเท่านั้น
“ฟู่วว ไม่ไหวอะ” ลาเวียพูดออกมาพร้อมกับมองไปที่จุดที่ลูกไฟไปกระทบพร้อมกับเหงื่อท่วม
“เป็นไปไม่ได้เลยเหรอ”
“เราไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย เราเคยอ่านนิยากที่มีคนใช้เวทเล็กขนาดเท่าหนูแต่เผาโรงนาได้ทั้งหลังเลยนะ”
“หา..”
“ทุกวันน่ะ”
“ทุก วัน?”
หรือก็คือตอนนี้ฮิคารุกำลังเห็นภาพของไอ้บ้าคนหนึ่งกำลังตะโกนว่า “มาเผาบ้านวันละหลังไปเล้ยยยย” แต่ก็รีบลบออกจากหัวไป
แปลว่าเป็นไปได้แต่เธอยังทำไม่ได้สินะ เป็นเพราะอะไรกันนะ หรือว่า…
แล้วฮิคารุก็เปิดโซลบอร์ดของลาเวียออกมาแล้วลงแต้มให้ รังสรรค์เวท [Magic Creation] ไปหนึ่งแต้ม
【Soul Board】Lavia
Age: 14 Rank: 13
6
【Magical Power】
..【Mana】11
….【Magic Principle】2
..【Spirit Affinity】
….【Fire】6
….【Magic Creation】1
“คราวนี้ลองอีกทีสิ พยายามลองบีบอัดมันดูนะ”
ลาเวียรู้ว่าฮิคารุนั้นทำอะไรลงไปสักอย่าง แต่ไม่รู้แน่ชัด แล้วเธอก็เริ่มร่ายเวทย์
ลูกไฟลูกเล็กๆ ปรากฎขึ้นตรงหน้าเธอ
“อะ….เอ๋”
“ลองยิงดูสิ”
“อะ อืม”
บอลไฟค่อยๆพุ่งไปอย่างช้าๆ และกระทบกับพื้นกินหลังจากนั้นก็มีเสาเพลิงสูงกว่าสามเมตรโผล่ออกมา
“ห๊ะ…..”
“เล็กกว่าแต่ประสิธิภาพมากกว่าเดิมอยู่นะ แถมยังลุกไหม้ตั้งสองครั้งด้วย”
เขาเช็คที่พื้นที่โดนเผาและขุดลงไปเพื่อดูว่าเวทนั้นส่งผลขนาดไหน
“จากที่ดูน่าจแรงกว่าเดิมสามสี่เท่าได้มั้ง กฎของพลังงานสินะ”
“กะ เกิดอะไรขึ้นอ้ะ ฮิคารุ”
“ถามฉันทำไมล่ะ เธอเป็นคนร่ายเวทนา”
“แต่ก่อนหน้านี้นาย—”
ลาเวียพูดยังไม่ทันจบแล้วก็ถอนหายใจ
คงจะรคิดว่าเราทำอะไรลงไปสินะ เขาคิด
“ฮิคารุ”
“ว่าไง”
“เราคงใช้โชคของทั้งชีวิตไปหมดแล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะเราได้พบกับนายยังไงล่ะ”
ลาเวียไม่ได้ถามอะไรฮิคารุไปมากกว่านั้นและเข้ามาใกล้ๆฮิคารุแล้วกุมมือ
“นายช่วยเราไว้ ส่วนเราก็จะช่วยนายสู้ด้วย”
“อื้ม”
“เพราะว่าเราน่ะ อยากเป็นนักผจญภัยใช่มั้ย”
“โดนเข้าแล้วสิ” ฮิคารุหน้าแดง
ลาเวียนั้นรู้ว่าตัวฮิคารุนั้นพยายามจะช่วยลาเวียถึงขนาดที่จะทำให้ความลับของเราถูกเปิดเผยได้
“ฮิคารุ หัดรู้จักคิดถึงเรื่องตัวเองหน่อยสิ”
“เข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้น่ะ ฉันอยากจะเดินทางไปรอบโลก แต่นั่นยังไม่รวมดันเจี้ยนนะ”
แล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกัน