อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 45

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

ตอนที่ 45 เมืองใต้ดินของเทพโบราณ 4

ทั้งคู่เจอบ้านร้างหลังหนึ่ง ซึ่งอันที่จริงมันก็ร้างแทบทุกหลังแหละ หลังที่ไม่ร้างก็จะมีพวกอันเดดอยู่ แล้วก็เลือกหลังที่ไม่มีพวกอันเดดอยู่ใกล้ๆด้วยตรวจจับมานา

สายสัญชาตญาณนี่ทำเอาเสียวสันหลังชะมัด ฮิคารุคิด

คนที่มีสัญชาตญาณถึงหกแต้มนั้นต้องหายากแน่ๆแต่ฮิคารุเจอมาสองคนแล้ว คนแรกคือลอว์เรนซ์ ต่อมาก็อัคไลอา 

ซาร่าในจตุรดาราก็มีห้าแต้ม อันเค็นสี่ คงจะสรุปได้ว่าแค่ระดับสี่ก็หายากแล้ว ไม่สิ แค่สองหรือสามแต้มก็ถือว่าผิดปกติแล้ว

ย้อนไปตอนที่ยังอยู่ที่พอนด์ ฮิคารุเคยลองเช็คโซลบอร์ดของคนในเมืองส่วนใหญ่ดูแล้ว คนที่มีแต้มสกิลของสัญชาตญาณสี่แต้มมีแค่สี่คนก่อนหน้านี้เท่านั้น 

แปลว่าเป็นสกิลพื้นฐานเหมือนกัยพลังจู่โจมกับมานาสินะ เพราะอย่างนั้นเลยทำให้มันแจงแต้มไปทางสายนี้ง่าย รู้สึกว่าจะตันที่ 20 สินะ ถ้างั้นแต้มประมาณสิบจะทำให้ลอบเร้นของเราใช้ไม่ได้รึเปล่าหว่า ถ้าอย่างนั้นจะมีสายลอบเร้นไปทำไมกันล่ะ

ฮิคารุกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง เพราะว่าอัคไลอานั้นดูเหมือนว่าจะรู้ตำแหน่งของเขาไม่เหมือนกับลอว์เรนซ์

หรือว่าจะเป็นที่คลาส บางทีคงจะมีคลาสที่เสริมพลังให้สัญชาตญาณด้วยสินะ

เพราะแบบนี้ฮิคารุจึงต้องคิดหาวิธีรับมือ ซึ่งตอนนี้ฮิคารุคิดได้สามอย่างคือ

อย่างแรกเลยคือฝึกการใช้อาวุธ เพราะตัวเขามาจากที่ที่สงบสุขอย่างญี่ปุ่น ทำให้เขาไม่มีความสามารถด้านนี้เลย จะให้พึ่งโซลบอร์ดมันก็ได้อยู่แต่ว่า แค่สัญชาตญาณก็ทำให้สู้ด้วยยากแล้ว

บางทีคงต้องหาอาจารย์มาสอนแล้วมั้งเนี่ย มีใครที่พอจะเชี่ยวชาญด้านนี้บ้างมั้ยนะ

หน้าของตาลุงอันเค็นลอยเข้ามาในหัวทันที แต่ว่าลุงแกคงไม่อยากพูดถึงอดีตเท่าไร ยังไงก็คงไม่ยอมสอนแน่ๆ แล้วอีกอย่าง ฮิคารุเองก็ไม่คิดจะกลับไปที่พอนด์อยูแล้ว

ต่อมาคือ พึ่งสกิลมันเลยเนี่ยแหละ ตอนนี้ทั้งพรางชีวิตและมานา มีอยู่สามแต้ม ตันอยู่ที่ห้า ถ้าลงแต้มจนตันน่าจะมีสกิลอื่นเพิ่มมาอีก

ตอนนี้เราเหลือสามแต้มสินะ

แรงค์ขึ้นง่ายกว่าที่คิดนะเนี่ย

แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว การปั่นเวลมันไม่ใช่อะไรที่ง่ายขนาดนั้น ปกติแล้วการจะล้มมอนได้ตัวนึงต้องใช้คนถึงห้าคน แล้วถ้ามีคนบาดเจ็บก็อาจจะฆ่าไม่ได้อีก แล้วยิ่งการสู้โดยมีเพียงแค่สองคนยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่

ดูเหมือนว่าลาเวียเองก็แรงค์อัพมาที่ 18 แล้วก็มีแต้มเหลือใช้อยู่ 11

บางทีเราน่าจะลองลงแต้มให้พรางชีวิตดูแฮะ

เพราะว่ามีน้อยคนมากที่มีตรวจจับมานา ดังนั้นถ้าจัดลำดับความสำคัญให้พรางชีวิตนั้นก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล

และข้อสาม ที่น่าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ลงแต้มไปที่สัญชาตญาณ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ลองดูจากมุมมองของคนที่อยู่ในสายนั้นมันซะเลย

เอาล่ะ ไหนลองลงไปสักแต้มซิ ถ้าไร้ประโยชน์ก็ลงแต้มให้สายพรางทั้งหมดไปโลดไม่ก็หาของสวมใส่อันใหม่ซะ

อาจจะสิ้นเปลืองไปเล็กน้อยแต่ว่า ไม่มีปัญหา เพราะจะได้เอาไปใช้อ้างอิงทีหลังก็ได้

“หืม”

“เป็นอะไรเหรอฮิคารุ”

“เปล่าน่ะ”

ไม่เห็นมีอะไรเลยแฮะ

“พวกเรามาพักกันก่อนเถอะ ถ้าไม่งั้นจะไม่ได้พักเอานะ” ลาเวียพูด

“นั่นสินะ”

ฮิคารวางตะเกียงไว้บนพื้นจากนั้นก็ใช้ผ้าคลุมเป็นที่ปูนอน แล้วลาเวียก็ใช้ผ้าคลุมของตัวเองห่มร่วมกันกับฮิคารุ แล้วเข้ามาซุกอยู่ด้วยกัน

“..คุณลาเวียครับ”

“ก็แบบนี้มันอุ่นกว่านี่นา”

เธอใช้แขนของฮิคารุเป็นหมอน ตอนนี้มันก็ไม่ได้หนาวอะไรมากนัก แต่ว่าบางทีแบบนี้อาจจะหนาวสำหรับเธอก็ได้ เธอถอดหมวกออก ทำให้ฮิคารุได้กลิ่นของเธอ

“อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้นักสิ เรายังไม่ได้สระผมเลยนะ”

“เธอเป็นคนซุกเข้ามาเองนี่นา”

“มันมีอะไรที่ทำได้กับทำไม่ได้อยู่นะเออ”

“งั้นเหรอ…”

ความคิดที่อยากจะซุกหน้าเข้าไปในผมของเธอก็ลอยขึ้นมา และทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา

เดี๋ยวเธอก็โกรธเราแหงๆเลย

อืม ยังไงก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะนะ เดี๋ยวนะ ทำไมเราถึงมั่นใจนักล่ะเนี่ย

“…ฮิคารุ?”

“อ๊ะ เพราะสัญชาตญาณแหงเลย”

“เอ๋..”

“เปล่าน่ะ ไม่มีอะไร ฝันดีนะ”

“ฝันดีจ้ะ”

ความรู้สึกมันมาเองอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับรู้ล่วงหน้าก้าวหนึ่ง คล้ายกับว่าประสาททั้งห้าได้รับการขัดเกลา

ฮิคารุห้ามใจไม่ให้ตัวเองยัดแต้มที่เหลือลงไปทั้งหมด แต้มนั้นไม่ได้มีแบบไม่จำกัดเพราะงั้นต้องดูก่อนว่ามันทำอะไรได้บ้างค่อยตัดสินใจ

บางทีมันอาจจะเป็นไพ่ตายเพื่อต่อกรกับสายสัญชาตญาณคนอื่นก็ได้

กราฟาสตี้เป็นคนที่ตั้งชื่อให้กับดันเจี้ยนนี้ ชายผู้ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการค้นคว้าเกี่ยวกับราชวงศ์โพเอลซีเนียที่หลงเหลือข้อมูลมายังปัจจุบันน้อยมาก

จากประวัติศาสตร์ของพอนโซเนีย เมืองหลวงในปัจจุบันนั้นถูกสร้างขึ้นหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆกว่าจะฟื้นตัวและได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นพอนโซเนียในปัจจุบัน

สรุปง่ายๆคือ โพเอลซีเนียโบราณคืออาณาจักรก่อนที่จะล่มสลาย โพเอลซีเนียคือหลังจากที่ล่มสลายไปแล้ว พอนโซเนียคือหลังจากที่ได้รับการฟื้นฟูมาจนปัจจุบัน

ตอนนี้กราฟาสตี้สรุปไว้ก่อนว่าที่ดันเจี้ยนแห่งนี้คืออาณาจักรโพเอลซีเนียโบราณ หรือก็คือ เมืองแห่งเทพนั่นเอง เขามาทำอะไรที่นี่นั้นฮิคารุยังสรุปไม่ได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะเลือดของนักประวัติศาสตร์มันร่ำร้อง แต่ฮิคารุนั้นมีอยู่ความคิดหนึ่ง

“เมืองหลวงในตอนนี้ใช้ผังเมืองแบบเดียวกันกับที่นี่น่ะ นั่นแหละน่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมการออกแบบถึงคล้ายกัน” ฮิคารุพูดในขณะที่กำลังกินข้าวเช้า

อาหารเช้าก็คือแซนด์วิซ ที่เกือบจะได้เวลาหมดอายุแล้ว หลังจากมื้อเที่ยงนี้เป็นต้นไปทั้งคู่จะต้องกินอาการตากแห้งแล้ว

“จะบอกว่าที่นี่คือเมืองหลวงเก่าเหรอ แปลกๆนะ ทำไมถึงต้องดั้นด้นมาสร้างเมืองใต้ดินด้วยล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงมีแผนที่ของที่นี่ได้ล่ะ ทั้งๆที่ยังสำรวจไม่หมดเลยแท้ๆ”

“ก็จริงนะ”

“คงเพราะแบบนั้น กราฟาสตี้ถึงมาที่นี่เพื่อดูให้แน่ใจยังไงล่ะ”

“เข้าใจล่ะ ว่าแต่ทำไมถึงต้องสร้างเป็นเมืองใต้ดินล่ะ”

“ถ้าให้เดาคงจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุล่ะมั้งนะ”

ฮิคารุทวนบทกลอนวรรคหนึ่งขึ้น

“จี โพเอลซีเนีย ถูกลบหายไปในวันแห่งรุ่งสาง”

“ตรงคำว่าลบหายไปน่ะ ดูเป็นการใช้คำที่แปลกๆอยู่นะ อย่างกับว่าอยู่ๆเมืองก็หายไปน่ะ แตถ้าลองคิดดูว่าที่นี่เป็นเมืองหลวงเก่า บางทีอาจจะมีอะไรบางอย่างมาทำให้เมืองนี้ลงมาอยู่ใต้ดินก็ได้นะ”

“เวทเคลื่อนย้ายที่ยังไม่ได้ถูกยืนยันว่าใช้ได้จริงสินะ”

“คงจะเป็นแบบนั่นล่ะ” ฮิคารุพยักหน้า

ที่โลกนี้มีตัวตนของจิตวิญญาณ พระเจ้า และเวทมนต์ก็จริงอยู่ และแน่นอนว่าสิ่งพื้นฐานอย่างฟิสิกส์ก็มีด้วย

ถ้าจะบอกว่าเวทมนต์คือสิ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบตอนที่อยู่โลกเก่า ถ้าอย่างนั้นการมีตัวตนของพระเจ้ากับจิตวิญญาณจะถูกพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ได้รึเปล่านะ

ศาสตร์ข้ามโลกของโรแลนด์แล้วก็การมีตัวตนของเซลิก้า ทำให้พอเดาได้ว่ามันน่าจะมีอะไรอย่าง ศาสตร์แห่งการเคลื่อนย้ายอยู่

“นี่น่าจะเป็นไปได้อยู่ล่ะนะ”

บางทีอาจจะมี ประตูไ*ที่ไหนก็ได้ อยู่ก็เป็นได้

“เมืองหลวงทั้งเมืองถูกย้ายลงมาใต้ดินเหรอ”

“ประมาณนั้นน่ะ ช่างเถอะ เอาไว้เราสำรวจดูเดี๋ยวก็คงจะได้อะไรมาบ้างล่ะ”

“แลดูนานน่าดูเลยนะนั่น”

“ไม่หรอก บางทีอาจจะเสร็จในวันนี้เลยก็ได้”

“เอ๋ จริงอ้ะ”

“แน่นอนสิ” ฮิคารุแสยะยิ้ม “ตอนที่อยู่เมืองหลวงถ้าจะเดินทางเข้าไปที่ปราสาทต้องใช้เวลาวันนึง แต่รอบนี้ไม่มีใครคอยหยุดเราไว้แล้วล่ะนะ”

 

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท