ตอนที่ 62 ความจริงของสหพันธรัฐ
“ใบริวจินกะ” —-สิ่งนั้นเป็นใบไม้ที่ใช้ถอนพิษหลานชายของผู้อำนวยการ
รีกสื่อว่าอยากให้ช่วยผู้อำนวยการ
“ขอถามเหตุผลหน่อยได้ไหม”
“—-เหตุผลงั้นเหรอ”
“เธอเกิดที่ลูมาเนียเหรอ?”
“เปล่าหรอก ถ้าเป็นอย่างนั้นคงใช้อำนาจของ “วงศ์ตระกูล” ทำอะไรไปแล้ว เธอเกิดที่ซูบร้าต่างหาก”
“ซูบร้า……?”
“คงไม่รู้จักสินะ ซูบร้าเป็นประเทศที่คนต่างประเทศรู้จักน้อยที่สุดไง ซูบร้าเป็นประเทศที่เล็กที่สุดใน 7 สหพันธรัฐ”
“วงศ์ตระกูล” ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่, นำจวนประชากรและกำลังรบมากที่สุดก็คือลูมาเนีย
คิรีฮาลกับลูดันช่าที่มีอำนาจพอๆกันก็มีความสัมพันธ์แบบลิงกับหมา
จาราซักเผ่าขนดกที่มีอารยธรรมเป็นของตัวเอง
ซูบร้าที่เล็กและแคบที่สุด
เท่านี้ก็ 5 แห่งแล้ว
อีก 2 คือยูราบะเผ่าที่มีผิวสีฟ้า กับโคโทบี้ที่ผลิตโลหะล้ำค่าจำนวนมากได้
“ถ้าคนของซูบร้าโดนพอนโซเนียสังหารมันจะแย่เอา ตอนนี้หากซูบร้าไปเรียกร้องค่าเสียหายจากพอนโซเนียแล้วละก็ การทูตระหว่างสหพันธรัฐคงไม่ดีแน่ๆ แต่ว่า—-ถ้าได้คนของพอนโซเนียมาช่วยแล้วละก็ คงจบลงได้อย่างสวยงามอยู่”
“ผมบอกแล้วเหรอว่ามาจากพอนโซเนีย?”
“ยังหรอก แต่คนต่างประเทศที่มั่งคั่งแล้วมายังสหพันธรัฐมีแค่พอนโซเนียไง ไม่ใช่งั้นเหรอ?”
“ก็ไม่ผิดหรอก แต่ให้คนของพอนโซเนียช่วยหลานชายของผู้อำนวยการแล้วมันจะจบแน่เหรอ? ความจริงที่ทำให้บาดเจ็บก็ไม่ได้หายไปสักหน่อยนี่”
“อือ แต่ซูบร้าเองก็มีทัศนคติในแบบของตัวเองอย่าง ‘จงให้อภัยแก่ผู้ที่ต้อง’ ไง”
“จะบอกว่าผมต้องการให้อภัยเหรอ?”
“ถ้าทำให้มันเป็นอย่างนั้นได้ก็จะรู้สึกซาบซึ้งอยู่หรอก แต่คิดว่าคงหวังให้เป็นถึงขนาดนั้นไม่ได้ แต่คุณที่ต้องการเพิ่มระดับในกลิด์นักผจญภัยไม่คิดว่าเป็นเควสที่เหมาะเจาะเหรอ สิ่งสำคัญก็คือของรางวัลที่จะช่วยผลักดันมันใช่ไหม?”
“ทำไมถึงใส่ใจซูบร้าขนาดนั้น? รีกเกิดที่ลูมาเนียไม่ใช่เหรอ”
“นั่นสินะ……จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องนั้นด้วยสิ”
รีกดื่มน้ำชาที่เย็นชืด
“ถึงประเทศนี้จะเป็น ‘สหพันธรัฐ’ แต่ทั้ง 7 ประเทศแค่ใช้ชื่อของ ‘สหพันธรัฐ’ เท่านั้น ไม่ได้ให้ความร่วมมืออะไรกันเลย”
โดยตำแหน่งที่สำคัญต่างๆ รวมไปถึงกษัตริย์ จะหมุนเวียนกันไปแต่ละประเทศ
ถึงการครองตำแหน่ง 1 สมัยจะอยู่ที่ 10 ปี แต่ถ้าเกิดเหตุผิดปกติจะหาผู้มาดำรงตำแหน่งในปีหน้า โดยทั้ง 7 ประเทศจะห่ำหั่นทางการเมืองในช่วงฤดูหนาวที่ยาวนาน
ด้วยเหตุนั้นทำให้การงานที่ต้องใช้เวลานานเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก ที่ทำได้มีแค่กำหนดการณ์สั้นๆ เท่านั้น
“……อะไรเนี่ย ช่างเป็นเรื่องที่ไม่ก่อให้เกิดอะไรเลย”
“หน้าหนาวยาวก็ดีไม่ใช่เหรอ? ถึงจะมีปัญหาภายในแต่ก็ไม่ได้รั่วไหลออกไปข้างนอก ประเทศอื่นก็คงเห็นเป็นดินแดนที่ไม่มีสีสันอะไรเลยไง”
“ลาเวีย……เธอเนี่ยพูดออกมาตรงเกินไปนะ……”
“ไม่หรอก ก็อย่างที่คุณหนูลาเวียพูดนั่นแหละ จนถึงตอนนี้ยังพอจะกลบเกลื่อนได้ แต่ก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว ถ้าหากแยกออกเป็น 7 ประเทศแล้วการจัดการกับน้ำหรือการปราบมอนสเตอร์ตามชายแดนคงถูกปล่อยทิ้งไว้ แล้วเกิดเป็นภัยพิบัติแน่ๆ ฉันอยากจะหยุดยั้งสิ่งนั้น”
ถึงฮิคารุจะคิดว่าเป็นพวกที่ไร้อารมณ์ แต่ดุเหมือนภายในใจจะมีความเล่าร้อนที่เก็บซ่อนเอาไว้อยู่
“การช่วยผู้อำนวยการเกี่ยงโยงกับสิ่งนั้นด้วยเหรอ?”
“ซูบร้ามีตำแหน่งที่สำคัญอยู่น้อย ซึ่งหนึ่งในตำแหน่งนั้นคือผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยนานาชาติ มีพวกที่โกรธแค้นพอนโซเนียและยุยงให้ผู้อำนวยการก่อความวุ่นวายอยู่ ถ้าผู้อำนวยการพูดไม่คิด หรือลงมือทำอะไรไปแล้วละก็ ปีหน้าตำแหน่งของซูบร้าคงจะลดลง โดยการกระทำอย่างนี้เรียกว่า ‘การหว่านเมล็ด’ หรือ ‘ลดตำแหน่ง’ เพื่อรอ ‘เก็บเกี่ยว’ ในการเมืองตอนฤดูหนาวไง”
“อ้อ……จะว่าไปก็มีคนที่ยุยงอยู่ด้วย มิไฮล์บอกมาอยู่ จะว่าไปชื่ออะไรนะ”
“อาจารย์มิไฮล์เหรอ? จริงอยู่ที่เขาเป็นคนของจาราซักแต่ก็เที่ยงธรรมอยู่……คุณฮิคารุ หรือว่าไปที่โรงเรียนมาแล้วเหรอ?”
“ก็นิดหน่อยน่ะ”
“คงไม่ใช่นิดหน่อยใช่ไหม? ทำอะไรลงไปเหรอ?”
“……………”
เอาไงดี
ถึงไม่จำเป็นต้องวางมาดกับรีก แต่ฮิคารุก็ยังแหยงๆที่จะพูดออกไปตามตรง
“ป้าธุรการบอกให้ฮิคารุ ‘เข้ารับการทดสอบ’ และหลังจากอัดมิไฮล์ก็โดนผู้อำนวยการเรียกไป และโดนกล่าวหาฝ่ายเดียวเพราะมาจากพอนโซเนีย แต่ด้วยความใจกว้างของฮิคารุก็ยอมยกโทษให้พวกที่สมควรตายเลยได้เข้าเรียนในฐานะนักเรียนพิเศษไง”
ในระหว่างที่กำลังสับสนลาเวียก็พูดเรื่องทั้งหมดออกมา
แค่ฟังก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่แย่มากๆ
“อัด……อาจารย์มิไฮล์เหรอ? ……ดุเหมือนจะจริงนะเนี่ยที่คุณฮิคารุชอบก่อเรื่องชวนปวดหัว จะว่าไปก้พอจะรู้ตั้งแต่ตอนเรื่องของโรเย่อยู่หรอก แต่ก็ดีนะเนี่ยที่ไม่จบลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไม่ถึงกับต้องฆ่าเขา”
“ขอบอกไว้ก่อนเลย ผมไม่ใช่พวกที่ใช้ความรุนแรงโดยไร้เหตุผลหรอกนะ”
“ถ้าอยากจะเข้าโรงเรียน การช่วยผู้อำนวยการ ไม่คิดว่าเป็ฯการกระทำที่ส่งแต่ผลบวกงั้นเหรอ?”
“ไม่หรอก……ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นแล้วด้วย”
“ไหนจะมีแรงกดดันจากพนักงานธุรการ แล้วโรงเรียนเองก็เลือกปฏิบัติกับนักเรียนขึ้นอยู่กับค่าเล่าเรียนด้วย ฉันเองยังคิดว่ามันแย่เอามากๆอยู่”
“ทั้งที่เก็บค่าเล่าเรียนสูงซะขนาดนั้นเนี่ยนะ?”
“ทางนู้นแค่ยอมรับ ‘ให้เข้าเรียน’ เท่านั้นแหละ—-แถมยังมีอาจารย์ที่คอยยุยงผู้อำนวยการด้วย คิดว่าคงเป็นคนของลูดันช่ากับคิรีฮาล ทางนี้เองก็ต้องคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของลูมาเนียด้วย —-เกี่ยวกับเควสนี้ จะว่าอย่างไรบ้าง”
ยัดเยียดกันซะเหลือเกิน
สำหรับรีกแล้ว สิ่งนี้น่าจะเป็ฯคำแนะนำที่สำคัญเอาเรื่องอยู่
ไม่สิ เรื่องของผู้อำนวยการก็เหมือนก้างปลาติดคอ คนที่จะทำสิ่งนั้นได้ต้องเป็นคนที่มาจากต่างประเทศอย่างพอนโซเนียและมีฝีมืออย่างฮิคารุ
(คิดจะให้ฉันเป็นก้อนข้าวที่เอาก้างปลาออกเหรอ)
ฮิคารุคิดว่าตั้งแต่มาถึงก็โดนหลายคนหมายตาไว้ซะแล้ว
“คุณฮิคารุ……ช่วยบอกมาตามตรงด้วย คุณปรารถนากันแน่ ดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องเงินใช่ไหม? อุตส่าห์มาจากพอนโซเนีย……เพื่อเข้าเรียนเหรอ? ถ้ามีฝีมือขนาดจัดการอาจารย์มิไฮล์ได้ คงแทบไม่มีอะไรให้เรียนรู้เลย? หากเป็นเรื่องถ้าฉันช่วยได้จะช่วยเท่าที่ทำได้เลย”
“ก็นะ นอกจากการฝึกฝนแล้ว……ว่าจะมาวิจัยเรื่องอุปกรณ์เวทมนตร์นิดหน่อย”
“อุปกรณ์เวทมนตร์งั้นเหรอ? ประมาณไหนเหรอ? ที่จริงฉันเองก็วิจัยเรื่องอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่ ถ้าเรื่องความรู้พอจะมั่นใจในระดับหนึ่งอยู่”
“อุปกรณ์เวทมนตร์? ไม่ใช่เครื่องปรุงยาเหรอ?”
“เอ่อ โอสถวิทยาส่วนหนึ่งก็ต้องใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ไง”
รีกแสดงความสงสัยผ่านทางสายตา ซึ่งฮิคารุรู้สึกได้ถึงความสงสัยนั้น
“ตุ่มตรงนิ้วไง มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้อาวุธนี่?”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง……สิ่งนี้เป็นตุ่มที่เกิดขึ้นจากตอนผสมหรือตียาให้เข้ากัน มองเห็นถึงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย”
“โรงเรียนไม่ได้สอนเกี่ยวกับอุปกรณ์เวทมนตร์งั้นเหรอ?”
“ก็อยากให้สอนอยู่หรอก……”
เขาทำหน้าเศร้าๆ
“……แต่อาจารย์ เป็นคนของโคโทบี้”
“…………หา?”
“คนของตระกูลลูมาเนีย จะให้อาจารย์ของอีก 6 ประเทศที่เหลืออยู่มาสอนไม่ได้……เพราะอย่างนั้นก็เลย”
“เดี๋ยวสิๆๆๆๆ……”
เอาตัวไปพิงพนักเก้าอี้กก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ
“นายเนี่ยนะ บอกให้คนอื่นทำอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ตัวเองไม่ทำงั้นเหรอ? ไหนบอกว่าอยากจะให้ทั้ง 7 ประเทศรวมกันเป็นหนึ่ง่แล้วก้าวหน้าไปด้วยกันไม่ใช่เหรอ? แต่นายกลับบอกว่า ‘จะไม่เรียกคนของโคโทบี้เป็นอาจารย์’ เนี่ยนะ หัดทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนเซ่”
“อึ้ก แสบแก้วหู……เพราะเงินทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับที่บ้านไง……”
“ไม่สนหรอก นายต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แล้วไปเป็นลูกศิษย์ของโคโทบี้ซะ หลังจากนั้นค่อยมาพูดกัน”
ฮิคารุลุกขึ้นยืน
“ลาเวีย ไปกันเถอะ”
“ค่ะ”
“…………”
รีกที่เอาแต่หงอยไม่สามารถหยุดฮิคารุได้