แล้วลาเวียก็เข้าเรียนคลาสดาบสั้นด้วย มิเรทำหน้าสิ้นหวังแบบว่า “มีนักเรียนที่จุกจิกกว่าฮิคารุเพิ่มขึ้นอีกแล้วเหรอ…….” กับเหล่านักเรียนดาบใหญ่ที่โผล่มาเรียนด้วยบ่อยขึ้นยังแซวว่า “มาจู๋จี๋กันที่นี่อย่างนี้มันต้องเจอดีซะแล้ว?” ก่อนที่จะเข้ามาสู้กับฮิคารุอย่างมุ่งมั่นแต่ก็โจมตีไม่โดนสักครั้งจนหมดแรงไปเอง
ซึ่งลาเวียบอกว่า
“…………ดะ ดูเหมือน……จะเรียน จริงจัง……นะเนี่ย…………”
เธอนอนแผ่หราหายใจหอบอยู่ตรงพื้น
เธอฝึกพื้นฐานแบบเดียวกับของฮิคารุเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
“ลาเวีย มันไม่ฝืนเกินไปหน่อยเหรอ เธอไม่เคยฝึกฝนพลังกายพื้นฐานมาก่อนแล้วเข้าร่วมอย่างนี้เนี่ย”
“ฉะ ฉันเอง……ก็มีสตามิน่าเหมือนกันนะ……”
ถึงจะเพิ่ม “สตามิน่า” 1 ให้กับโซลบอร์ดของลาเวีย แต่ก็ต้องบอกว่าเพิ่มให้แค่นั้นจริงๆ
สิ่งนี้เป็นมันแตกต่างกับการวิ่งหรือเดินทางระยะไกลอยู่ มันเป็นการฝึกฝนพลังออกตัวซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ลาเวียหมดแรง
“ลาเวีย เดินไหวไหม? กลับไปพักที่บ้านก็ได้นะ”
“………ดูเหมือน จะไม่ไหว”
ถึงเธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ที่ขยับกลับมีแค่แขน
ช่วยไม่ได้ ฮิคารุเลยไปเข้าไปใกล้ลาเวีย
“——อะ เอ๊ะ??”
เขาอุ้มเธอขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง—-หรืออุ้มท่าเจ้าหญิง
“เอาละ กลับกันเถอะ”
“ฮะ ฮะ ฮิคารุ แบบว่าฉัน”
“ถึงจะบอกว่าอายก็ไม่ยอมหรอกนะ จะให้นอนข้างนอกก็ไม่ได้ด้วย ยังดีที่บ้านอยู่ใกล้ ทนหน่อยนะ”
“ฮะ ฮิคารุเองก็เหนื่อยไม่ใช่เหรอ……?”
“ลาเวียตัวเบาจะตายไป”
“อือ……”
ลาเวียที่อายมากเอาหน้าซุกไปตรงอกของฮิคารุ
เหล่านักเรียนดาบใหญ่กับโรเย่—-ที่นอนหมดแรงอยู่ตรงพื้น—-พอเห็นภาพนั้นก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมา
“โธ่เว้ย? ทำไมกัน? ทำไมถึงมาจู๋จี๋กันตรงนี้เนี่ย?”
“คิดจะฆ่าพวกฉันงั้นเหรอ?”
“อ้าเข้าใจแล้ว……ฉันเอาชนะฮิคารุไม่ได้……”
ฮิคารุไม่สนใจพวกเขาแล้วพูดกับมิเร
“ถ้างั้น ขอตัวก่อนนะ”
“อ้อ อือ—-ฝากข้าวเที่ยงด้วยนะ?”
“ไม่ใช่ข้าวเที่ยงแต่น่าจะเป็นเหล้าใช่ไหมล่ะ……”
“ก็ทั้งคู่นั่นแหละ? เหล้าที่เข้ากับข้าว และข้าวที่เข้ากับเหล้า อ้า—-แล้วเมื่อไรจะมีคนมาอุ้มฉันอย่างนั้นบ้างนะ?”
“คิดว่าคงไม่มีสำหรับคนที่เรียกรับประทานอาหารว่า ‘แดกข้าว’ หรอก”
“หาาาา? มีหลายคนที่บอกว่า ‘มิเรจังพูดไม่มีหางเสียงอย่างนี้ก็ดีแล้ว’ อยู่เยอะเลยนะ? ฮิคารุตาไม่ถึงเองหรือเปล่า?”
“ใช่แล้วๆ ทุกคนในจาราซักเองก็บอกว่าอาจารย์มิเรมีเสน่ห์ด้วย”
ฮิคารุยังไม่ทันได้พูดอะไร เหล่านักเรียนดาบใหญ่ก็ยืนขึ้นมาอย่างโงนเงน พร้อมกับบอกออกมาว่า “อาจารย์? พุ่งเข้ามาสู่อ้อมอกของผมได้เลย?”, “ไม่ ของฉันต่างหาก?”, “ฉันต่างหาก?”
“ถ้าโจมตีฮิคารุได้ 1 ทีอะนะ”
มิเรพูดยุยงเกินความจำเป็นกับเหล่านักเรียน
ฮิคารุไม่คิดจะเอาด้วย เลยรีบๆไปจากตรงนั้น
“……ฮิคารุ”
“หือ?”
ลาเวียที่อยู่ในอ้อมแขนพูดขึ้นมา
“ฮิคารุทำยังไงถึงมีพลังกายมากขนาดนี้เหรอ? หรือว่า……เพิ่มด้วยโซลบอร์ด?”
“เปล่าหรอก ‘สตามิน่า’ ของผมยังเป็น 0 อยู่”
“เอ๊ะ? อย่างงั้นเหรอ?”
“ผมฝึกด้วยตนเองมาสักพักเพื่อเพิ่มพลังกายพื้นฐาน แล้วก็ฝึกเทคนิค—-ที่ไม่ค่อยต้องใช้แรงกายมากสักเท่าไรให้ร่างกายจดจำได้ไง”
ตอนแรกฮิคารุพยายามหลบการโจมตีของดาบใหญ่อย่างสุดกำลัง เพราะมีค่าสเตตัส “พลังออกตัว” 2 ในโซลบอร์ด ทำให้มีความเร็วพอตัวอยู่
แต่วิธีการหลบนั้นมันสิ้นเปลืองพลังกายมาก
เลยหลบการโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด แล้วโจมตีสวนกลับไปด้วยการทำให้ร่างกายของอีกฝ่ายเสียสมดุล
ใช้วิธีการนั้นหยอกล้อกับเหล่านักเรียนดาบใหญ่
“……ฉันเองจะทำอย่างนั้นได้หรือเปล่า?”
“ลาเวียไม่ต้องจำเรื่องนั้นก็ได้? ตอนหนีก็หนีให้สุดแรงเกิดไปเลย เธอเป็นผู้ใช้เวทมนตร์แห่งภูต อยากให้จดจ่อกับหลักพื้นฐานอย่าง ‘ห้ามให้เจอตัว’ ไง”
แล้วฮิคารุก็เสริมต่อว่า มันก็เหมือนกับวิธีการการต่อสู้ของผมนั่นแหละ
“ลาเวียเองก็คิดหาวิธีการใช้ ‘อำพราง’ ร่วมในการต่อสู้ด้วยก็ดีนะ……นี่ ลาเวีย?”
พอรู้สึกตัวอีกที ลาเวียก็หลับไปแล้ว
“……พยายามมากเลยนะ ทั้งที่เก็บตัวมาตลอดเนี่ย”
พอเห็นใบหน้ายามหลับของเธอ ฮิคารุก็ยิ้มออกมา
พากลับไปนอนที่บ้าน กับเตรียมน้ำไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงเผื่อตื่นเอาไว้ให้ด้วย
คาบเรียนดาบสั้นเองก็มีประโยนข์ดีนะเนี่ย ถ้าทำให้ลาเวียแข็งแรงได้—-
“จะว่าไป—-วันนี้รีกไม่มาเรียน”
จู่ๆฮิคารุก็นึกขึ้นมาได้
เนื่องจากตอนนี้ลาเวียยังหลับอยู่ เลยพาเธอไปนอนที่ห้อง ส่วนฮิคารุไปที่ร้าน “เอ้า ดื่ม” คนเดียวเพื่อทำอาหาร เหล่านักเรียนดาบใหญ่มากินอาหารกลางวันที่ร้านในสภาพอิดโรย เนื่องจากโรเย่อยู่ด้วยเลยถามไปว่า “รีกล่ะ?”
“……รีกเป็นคนของเรียวกิ ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เท่าไรหรอก”
เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนด้อย
ดูเหมือนจะกลับไปที่บ้านเกิดในลูมาเนียพร้อมกับชายผมแดงที่อยู่ด้วยกันตรงกิลด์นักผจญภัย
ดูท่าทางโรเย่เองไม่ได้สนิทกับนักเรียนของลูมาเนียคนอื่นสักเท่าไร
“อะไร? ฮิคารุเป็นห่วงรีกเหรอ?”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ เห็นรีกเดินเล่นกับเด็กผู้หญิง 6 คนด้วย”
พอลองฟ้องแบบลอยๆออกไป เหล่านักเรียนดาบใหญ่ก็ลุกขึ้นยืน แต่โรเย่กลับทำสีหน้าเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“มันก็แน่อยู่แล้ว เผ่าชั้นนำของลูมาเนียก็ต้องมีสาวๆมาติดอยู่แล้วไง”
“…………”
“………….”
“…………..”
“……………”
แล้วฮิคารุกับเหล่านักเรียนก็นั่งลงไปอย่างจ๋อยๆ
“แล้วฮิคารุจะมาจ๋อยด้วยทำไมเนี่ย? อยู่กลุ่มผู้ชนะแล้วชัดๆ?”
“ใช่แล้ว? แนะนำสาวๆให้พวกฉันบ้างดิ?”
“ทำถึงขนาดนี้ทำไมไม่โดนฟ้าลงโทษสักที อล้วทำไมเพิ่งจะมาแนะนำเธอเอาป่านนี้? ไอ้คนไร้น้ำใจ?”
“ไอ้คนไร้น้ำใจ? ปิศาจ?”
“ใช่แล้วปิศาจจริงๆ?”
โดนด่าอย่างไร้เหตุผล
หลังกินอาหารกลางวันเสร็จก็ไปดูสภาพของลาเวีย ซึ่งเธอยังหลับอยู่ ฮิคารุเลยมุ่งหน้าไปห้องสมุดคนเดียว
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลาเวียที่ใช้งานทุกวันเดินแนะนำอยู่หรอก แต่เอาไว้คราวหน้าก็ได้
นักเรียนเข้าได้ฟรี
ก่อนอื่นก็ห้องโถงทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีที่วางหนังสือเรียงรายอยู่
พอเดินตามผนังไปก็พบกับชั้นหนังสือ พอผ่านไปก็เห็นโถงชั้นสองที่มีชั้นหนังสือเรียงกันราวกับเขาวงกต
“สุดยอดไปเลย……แบ่งชนิดของหนังสือยังไงเนี่ย? จะหาหนังสือที่ต้องการได้ยังไงกัน?”
ฮิคารุพึมพำออกมา
“หาหนังสืออะไรอยู่หรือเปล่า?”
บรรณารักษ์สูงวัยส่งเสียงทักทายออกมา
ดูเหมือนจะมีบรรณารักษ์เยอะพอตัว เพราะเห็นอยู่ตรงนั้นตรงนี้ บางคนก็เก็บหนังสือ บางคนก็หยิบหนังสือที่เสียหายออกมา
“อะ เอ่อ……อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับโบราณวัตถุของซูบร้าครับ”
“โห ถ้างั้นเชิญทางนี้เลย”
เดินตามหลังบรรณารักษ์ที่คล้ายกับพ่อบ้านไป
เดินขึ้นไปชั้น 2 และไปจนถึงสุดทางเขาวงกต ตรงส่วนที่ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องสว่างด้วยแสงจากตะเกียงเวทมนตร์
ตรงชั้นหนังสือมีหนังสือขนาดต่างกันเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก
หนังสือโบราณที่ทำจากหนังแกะ หรือสิ่งตีพิมพ์ที่ตีพิมพ์ลงกระดาษสา
ไม่ว่าเล่มไหนๆก็ถูกเข้าเล่มไว้ด้วยปกหนัง สำหรับโลกนี้ “หนังสือ” อาจจะเป็น “สิ่งที่ถูกเข้าเล่มมด้วยปกหนัง” ก็ได้
“ตรงนี้เป็นชั้นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ ‘โบราณวัตถุของซูบร้า’ ครับ”
“……ว้าว”
เบื้องหน้ามีชั้นหนังสืออยู่ โดยมีความสูงราวๆ 10 ชั้น “การวิจัย ‘กล่องโลหะ’ อาร์ติแฟกของซูบร้า”, “การเจาะจงสถานที่ค้นพบโบราณวัตถุ”, “แผนผังโบราณสถานคานาลฮันด์”—-มันมีเนื้อหาที่หลากหลายเหมือนกับยังไม่ได้ทำการจัดเรียง
“เอ่อ”
“ว่าไงครับ”
“ได้ยินมาว่ามี ‘ลิสต์โบราณวัตถุ’ อยู่ ไม่ทราบว่าสิ่งนั้นอยู่ตรงไหนเหรอครับ”
“……ต้องขอประทานโทษด้วย ไม่ทราบว่าพอจะแสดงโซลการ์ด หรือกิลด์การ์ดได้หรือเปล่าครับ?”
“ต้องถามหาอะไรอย่างนั้นด้วยเหรอ?”
“ถึงจะมีลิสต์ของโบราณวัตถุ แต่จำกัดการเข้าถึงครับ”
“จำกัด? ทั้งที่นักเรียนของลูมาเนียก็ดูได้ไม่ใช่เหรอ?”
ถ้าบอกว่าดูได้แค่คนที่เกิดในซูบร้าอย่างเดียวยังพอเข้าใจ แต่โรเย่เป็นนักเรียนของลูมาเนีย
“ลูมาเนียท่านนั้น เป็นเผ่าระดับสูงหรือเปล่าครับ?”
“สูงหรือเปล่าก็ไม่รู้หรอกนะ แต่อยู่เผ่าโคกะ”
“โห หนึ่งในเผ่าหลักนะครับเนี่ย”
ดูเหมือนโรเย่จะเกิดในเผ่าระดับสูงอยู่
“……เดิมทีผมไม่ได้เกิดที่สหพันธรัฐฟอเรสเทียด้วย”
“อย่างนั้นหรือครับ ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดายคงให้ดูไม่ได้ครับ”
“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้งั้นเหรอ?”
“ยังไงก็ไม่ได้ กฎมันว่าไว้อย่างนั้นครับ”
“อย่างน้อยช่วยบอกทีว่าหนังสือนั้นอยู่ที่ไหน?”
“เรื่องนั้นก็บอกไม่ได้ครับ”
ชิ ทำการเดาะลิ้นในใจ
ถ้ารู้ตำแหน่ง ว่าจะใช้ “อำพราง” ไปดูอยู่หรอก
“อืม……”
“น่าเสียดายที่ไม่สามารถบอกแนะนำเกี่ยวกับโบราณวัตถุของซูบร้าได้ ถ้าไม่มีคำถามอื่นคงต้องขอตัวเพียงเท่า—-”
“—-รอก่อน”
คนที่พูดไม่ใช่ฮิคารุ
บรรณารักษ์ตกใจกับเสียงนั้นเลยหันกลับไป
“อ้า……ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรที่นี่หรือครับ”
ฮิคารุเองก็ประหลาดใจ
“ฉันอนุญาตให้เด็กหนุ่มตรงนั้นดูลิสต์ได้”
คนที่พูดออกมาอย่างนั้น คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดในซูบร้า