ฮิคารุถูกพามายังห้องพิเศษที่เก็บเอกสารโบราณล้ำค่า
ห้องกว้างที่ไร้สีสัน ตรงกำแพงไม่มีสิ่งประดับใดๆ
ตรงกลางห้องมีชั้นวางหนังสืออยู่ 1 อัน โดยข้างๆนั้นมีโต๊ะกับเก้าอี้อยู่
“ห้ามรับประทานอาหารภายในห้อง แล้วก็ห้ามใช้ของที่อาจะทำให้เลอะอย่างพวกปากกาขนนกด้วย ส่วนการคัดลอกหนังสือต้องได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น—-”
บรรณารักษ์พูดออกมา พร้อมกับชำเลืองมองไปยังผู้อำนวยการที่อยู่ข้างๆฮิคารุ
“ฮิคารุ จะคัดลอกด้วยไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ถ้างั้นก็ไม่ต้อง”
“รับทราบแล้วครับ”
บรรณารักษ์โค้งอย่างน้อบน้อมก่อนจะออกจากห้อง
ห้องที่มีทางเข้าเพียงทางเดียวมีทหารยามสวมชุดเกราะยืนเฝ้าอยู่
ตรงชั้นวางหนังสือมีหนังสือที่เข้ารูปเล่มอย่างงดงามวางอยู่ ขนาดน่าจะอยู่ระหว่าง A3 กับ A4 โดยมันเขียนไว้ว่า “ลิสต์โบราณวัตถุของซูบร้าที่มอบให้แก่สหพันธรัฐ”
พอพลิกก็เห็นคำนำ ดูเหมือนจะเป็นลิสต์โบราณวัตถุที่ซูบร้ามอบให้เพื่อเข้าร่วมตอนก่อตั้งสหพันธรัฐ
มันเริ่มต้นรายการโดยไม่มีสารบัญ
ส่วนใหญ่เป็นภาพร่างที่วาดอย่างละเอียด ส่วนด้านล่างมีชื่อ, คำอธิบาย และผู้ถือครองเขียนเอาไว้
“พรวด”
ตอนที่ฮิคารุเห็นของชิ้นแรกถึงกับกลั้นขำไม่อยู่
สิ่งนั้นคือหน้ากาก ถึงจะไม่มีสีแต่คิดว่าคงเป็นสีแดง แถมตรง “จมูก” ยังยื่นออกมายาว—-
(นี่มันหน้ากากเท็งงุนี่!)
เป็นช่วงเวลาที่ฮิคารุแน่ใจแล้วว่าผู้ที่สร้างโบราณวัตถุเป็น “คนที่เกิดใหม่หรือวาปมาจากญี่ปุ่น”
(จะว่าไปสร้างของอย่างนี้ขึ้นมาทำไมเนี่ย……)
ชื่อของมันคือ “หน้ากากปิศาจ” คำอธิบาย “หน้ากากที่ทำจากโลหะ เนื่องจากสีลอกออกไปเกือบหมดแล้วเลยกลายเป็นสีน้ำตาลหม่น ไม่ทราบการใช้งาน ไม่เคยพบปิศาจที่จมูกยาวขนาดนี้มาก่อน” เพราะมันเขียนจริงจังอย่างนี้เลยหลุดหัวเราะออกมา
“ฮิคารุ? รู้เหรอว่าของสิ่งนี้คืออะไร?”
“อ้อ เปล่าครับ……แค่หน้ามันตลกเลยหัวเราะออกมาครับ”
ต้องระวังตัวเพราะผู้อำนวยการอยู่ข้างๆ
“แล้วทำไมหน้ากากนี้ถึงอยู่หน้าแรกเลยเหรอครับ”
“เพราะเป็นโบราณวัตถุที่ซูบร้าขุดมาได้มากที่สุดไง”
“……เอ๊ะ?”
“จนถึงตอนนี้พบ ‘หน้ากากปิศาจ’ ราวๆ 100 อัน”
ผู้ถูกวาป นายทำอะไรลงไปเนี่ย! ชอบเท็งงุขนาดนั้นเลยเหรอ!
เขาตบมุกอยู่ภายในใจ
ตอนที่คิดจะอ่านต่อ ฮิคารุก็ชำเลืองมองคนที่อยู่ข้างๆ
“เอ่อ……ผู้อำนวยการ มาอยู่ตรงนี้จะดีเหรอครับ ไม่ใช่ว่างานยุ่งอยู่เหรอ?”
“ตอนนี้งานยุ่งอยู่หรอก แต่การมาต้อนรับคนที่ช่วยเหลือญาติและเชื้อพระวงศ์มันเป็นสิ่งที่ควรทำไง”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“ท่านซิลเวสเตอร์กับท่านรีกพูดคุยกันแล้ว”
“อ้อ……งั้นเหรอครับ”
ฮิคารุรู้สึกเหนือความคาดหมาย
ทั้งคู่ที่อยู่ระดับบนๆของลูมาเนียและซูบร้าที่เป็นประเทศเล็กๆในสหพันธรัฐ
ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะพูดเรื่องของตัวเอง—-ที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าตรงไปตรงมาอย่างนี้
“ฮิคารุ ท่านซิลเวสเตอร์แล้วก็ท่านรีกต่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ ทั้งที่ยังอ่อนเยาว์แต่มีความคิดและจิตใจที่เที่ยงธรรม”
“คนอย่างพวกเขา ไม่น่าจะไปได้ดีในสหพันธรัฐนี่ครับ”
ฮิคารุรู้ดีว่าราชินีมัลเกโด้กับเลขานุการเอกโซฟีร่าลำบากกับการเมืองแค่ไหน
ศูนย์กลางของสหพันธรัฐเป็นสถานที่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายอย่างมาก
“อ้อ ฮิคารุเป็นห่วงท่านซิลเวสเตอร์แล้วก็ท่านรีกสินะ?”
“……เปล่านี่ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”
“บรรยากาศรอบตัวเธอเปลี่ยนไป เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ? ทั้งที่ตอนมาสมัครเรียนยังเหมือนหนามที่พร้อมจะทิ่มแทงทุกคนที่เข้ามาสัมผัสแท้ๆ”
“ไม่ใช่หอยเม่นสักหน่อย”
“หอยเม่น?”
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไรครับ”
โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าหอยเม่น
ฮิคารุรู้ว่าผู้อำนวยการพูดถึงเรื่องอะไร
เพราะพูดทุกอย่างกับลาเวียไปแล้ว
แต่คนรอบๆมองเห็นการเปลี่ยนแปลงถึงขนาดนั้นเลยหรือ
“……เอาละ ดูต่อกันเถอะ”
“อือ เชิญต่อได้เลย”
ผู้อำนวยการเองก็ไม่ไล่บี้ไปมากกว่านั้น
แล้วดูลิสต์ต่อไปเรื่อยๆ
ทำให้รู้ว่ามันเป็นของ “ญี่ปุ่น” อย่างแน่ชัดเพราะมีทั้ง “พระพุทธรูป”, “ระฆัง”, “ถ้วยน้ำชา”
มันเขียนไว้ว่า ไม่ทราบการใช้งาน พอดูไปถึงชิ้นหนึ่ง—-ฮิคารุถึงกับต้องหยุดดู
(……นี่มัน วิทยุนี่)
มันมีเสาอากาศ และปุ่มปรับหาคลื่นความถี่
ไม่ใช่ของที่เอามาจากญี่ปุ่น เพราะมันถูกสร้างมาด้วยโลหะและไม้ไม่ใช่พลาสติก โดยชื่อของมันคือ “กล่องโลหะ”
สร้างมาอย่างดีมีกระทั่งลำโพง
(สร้างของอย่างนี้ขึ้นมาคิดจะทำอะไรกันแน่?)
จะว่าไปถ้าสร้างวิทยุได้แล้วละก็—-สามารถปฏิวัติการส่งข้อมูลด้วยคลื่นไฟฟ้าได้เลย แต่การใช้วิทยุจำเป็นต้องมีเสาส่งสัญญาณ เดิมทีโลกนี้แทบจะไม่มีเทคโนโลยี “ไฟฟ้า” เลยด้วยซ้ำ
กลับกันมันมีเวทมนตร์ที่ใช้ตัวกระตุ้นราคาสูงเพื่อเลียนแบบ “โทรเลข” อยู่
“สนใจสิ่งนั้นเหรอ?”
ผู้อำนวยการพูดกับฮิคารุที่เอาแต่จ้องวิทยุ
“เอ่อ……นั่นสิครับ สิ่งนี้เขียนไว้ว่า ‘ไม่ทราบการใช้งาน’ แต่ผู้อำนวยการคิดว่าไงครับ?”
“สิ่งนี้เป็นอะไรที่น่าประหลาดใจมาก ของหลังจากนี้จะเป็นพวกอาวุธ ซึ่งอาวุธเองยังไม่ซับซ้อนอะไรขนาดนี้เลย นักวิจัยอุปกรณ์เวทมนตร์ที่โรงเรียนเองก็ทำการวิจัยเกี่ยวกับ ‘กล่องโลหะ’ อยู่หรอก แต่ผลที่ได้แทบจะไม่มีอะไรคืบหน้าเลย”
“สิ่งนี้ขุดพบจากที่ไหนเหรอครับ?”
“ส่วนลึกของซูบร้า คิดว่าน่าจะเป็นภายใน ‘หอคอย’ ที่ขุดโบราณวัตถุได้เยอะๆ”
หอคอย……กะแล้วเชียว หอส่งสัญญาณสินะ
(ถึงอย่างนั้นก็แปลก)
“ผู้อำนวยการ โบราณวัตถุพวกนี้อายุประมาณกี่ปีเหรอครับ”
“เห็นเขาว่า 800 – 1000 ปีนะ ก่อนที่ประเทศซูบร้าจะก่อตั้งขึ้นมาอีก”
พอได้ยินอย่างนั้นฮิคารุก็เริ่มคิด
(สมมติถ้าเป็นเมื่อ 800 ปีก่อนจริง คนคนนั้นต้องรู้จัก “วิทยุ” แต่ญี่ปุ่นเมื่อ 800 ปีก่อนน่าจะยังอยู่ยุคคามาคุระ)
ยุคสมัยมันไม่ตรงกัน
(ก็หมายความว่า……การไหลเวลาของโลกทางนี้กับโลกมนุษย์มันต่างกันเหรอ? หรือไม่ก็การเชื่อมต่อยุคสมัยเกิดขึ้นแบบสุ่มเหรอ? ……อย่างนั้นก็ยังแปลกอยู่ หลังจากที่ผมมาโลกนี้แล้วมีคนญี่ปุ่นคนอื่นถูกวาปไป “อดีต” แล้วละก็จะทำให้เกิดโลกคู่ขนาน ถ้าการไหลมันผิดเพี้ยนไปจะไม่สามารถทำให้มันกลับมาเป็นแบบเดิมได้ ถ้าเป็นทฤษฎีนี้น่าจะพอยอมรับได้อยู่)
“ฮิคารุ? ไม่ดูต่อเหรอ? ฉันคิดว่าจะสนใจข้อมูลของอาวุธซะอีก?”
“ดูครับ—-ว่าแต่ทำไมอยากให้ผมดูอาวุธเหรอ?”
“อุตส่าห์มาจากพอนโซเนียไม่ใช่หรือ ถึงคิดว่าเธอไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกองทัพ แต่ได้ยินมาว่าเธอแข็งแกร่งเอาเรื่องอยู่ ผู้แข็งแกร่งจะสนใจอาวุธโบราณก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่”
“อย่างนี้นี่เอง ถ้าบอกว่าไม่สนใจก็เป็นเรื่องโกหกสินะ”
ฮิคารุพลิกหน้าต่อไป
แล้วอาวุธก็โผล่มาเรื่อยๆ
ปืนไรเฟิล, ชูริเคน, ปืนพก, ปืนใหญ่
“อาวุธที่ยอดเยี่ยมพวกนี้เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ทั้งหมดเลย”
“โห……”
“ดาบยาวคมด้านเดียวนี้ ถ้าใส่พลังเวทเข้าไปจะทำให้ความยาวของดาบยืดออกมาได้ด้วย ส่วนที่มีคมดาบ 4 ใบนี้เป็นอาวุธขว้างถ้าใส่พลังเวทเข้าไปจะทำให้มองไม่เห็นไปครู่หนึ่ง”
เป็นการออกแบบดาบญี่ปุ่นที่ดูไม่คุ้นตาเลย
แล้วมันเหมือนกับ “มีดสั้นเหน็บเอว” ที่ฮิคารุซื้อมาเลย—-
(หรือว่าสิ่งนั้นจะเป็นของจริง?)
ไว้ค่อยลองตรวจสอบดูดีกว่า
“ผู้อำนวยการ ความสามารถ—-ของอุปกรณ์เวทมนตร์มันแปลกมากใช่ไหมครับ”
“ตอนนี้ยังไม่สามารถทำมันขึ้นมาใหม่ได้น่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ……”
ฮิคารุรู้สึกประทับใจ
ดูเหมือนผู้ถูกวาปมาจะพยายามเอาเรื่องอยู่
“แล้วนี่คืออะไรครับ? เห็นเขียนไว้ว่าเป็นอาวุธ—-ที่ต้องประจุพลังเวทมนตร์ไว้ก่อน”
สิ่งที่ฮิคารุอยากดูคือสิ่งนี้
มันคือ “ปืนพก”, “ปืนไรเฟิล” ที่มีโครงสร้างคล้ายกับ “ปืนลูกโม่” ที่เขามีอยู่
“สิ่งนี้คืออุปกรณ์เวทมนตร์ที่ใช้ยิงพลังเวทซึ่งบรรจุเอาไว้ออกมา ถ้าแค่นี้มีของที่เหมือนกับอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นนี้อยู่เยอะเลย”
“อย่างนั้นเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว มีอยู่เยอะเลยนี่ อุปกรณ์เวทมนตร์ที่ ‘บรรจุเวทมนตร์ไว้ล่วงหน้าแล้วค่อยใช้ทีหลัง’? ไม่จำเป็นต้องทำเป็นรูปร่างนี้เลย จะเป็นแหวนหรือว่าไม้เท้าก็ได้”
“อ้อ……อย่างนี้นี่เอง”
“แต่ความยอดเยี่ยมของอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นนี้ มันไม่ใช่จุดนั้น”
“หมายความว่ายังไง?”
“ตามปกติ อุปกรณ์เวทมนตร์ที่ปล่อยเวทมนตร์ความรุนแรงจะน้อยกว่า ‘เวทมนตร์ที่ต้องร่าย’ ไง แต่อาวุธนี้……เขาว่ากันว่าสามารถปล่อยเวทมนตร์ของผู้ใช้ใน ‘ระดับเดียวกัน’ หรือ ‘เหนือกว่านั้น’ ได้ด้วย”
ฮิคารุถึงกับอึ้ง
กล่าวคือ อัตราการการเปลี่ยนพลังงาน “เวทมนตร์” อยู่ที่ 100% หรือมากกว่านั้น
“เรื่องอย่างนั้น……เป็นไปได้ด้วยเหรอครับ?”
ถ้าแค่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 100% ยังพอว่า แต่มากกว่า 100% เนี่ยมันไม่แปลกไปหน่อยหรือ
“อือ ฉันเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน นักวิจัยของสถาบันบอกกันว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใช้ประโยชน์จากพลังงาน ‘มานาศักดิ์สิทธิ์’
คำที่คุ้นหูออกมาแล้ว