อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 79

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

            ฮิคารุถูกพามายังห้องพิเศษที่เก็บเอกสารโบราณล้ำค่า

            ห้องกว้างที่ไร้สีสัน ตรงกำแพงไม่มีสิ่งประดับใดๆ

            ตรงกลางห้องมีชั้นวางหนังสืออยู่ 1 อัน โดยข้างๆนั้นมีโต๊ะกับเก้าอี้อยู่

            “ห้ามรับประทานอาหารภายในห้อง แล้วก็ห้ามใช้ของที่อาจะทำให้เลอะอย่างพวกปากกาขนนกด้วย ส่วนการคัดลอกหนังสือต้องได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น—-”

            บรรณารักษ์พูดออกมา พร้อมกับชำเลืองมองไปยังผู้อำนวยการที่อยู่ข้างๆฮิคารุ

            “ฮิคารุ จะคัดลอกด้วยไหม?”

            “ไม่เป็นไรครับ”

            “ถ้างั้นก็ไม่ต้อง”

            “รับทราบแล้วครับ”

            บรรณารักษ์โค้งอย่างน้อบน้อมก่อนจะออกจากห้อง

            ห้องที่มีทางเข้าเพียงทางเดียวมีทหารยามสวมชุดเกราะยืนเฝ้าอยู่

            ตรงชั้นวางหนังสือมีหนังสือที่เข้ารูปเล่มอย่างงดงามวางอยู่ ขนาดน่าจะอยู่ระหว่าง A3 กับ A4 โดยมันเขียนไว้ว่า “ลิสต์โบราณวัตถุของซูบร้าที่มอบให้แก่สหพันธรัฐ”

            พอพลิกก็เห็นคำนำ ดูเหมือนจะเป็นลิสต์โบราณวัตถุที่ซูบร้ามอบให้เพื่อเข้าร่วมตอนก่อตั้งสหพันธรัฐ

            มันเริ่มต้นรายการโดยไม่มีสารบัญ

            ส่วนใหญ่เป็นภาพร่างที่วาดอย่างละเอียด ส่วนด้านล่างมีชื่อ, คำอธิบาย และผู้ถือครองเขียนเอาไว้

            “พรวด”

            ตอนที่ฮิคารุเห็นของชิ้นแรกถึงกับกลั้นขำไม่อยู่

            สิ่งนั้นคือหน้ากาก ถึงจะไม่มีสีแต่คิดว่าคงเป็นสีแดง แถมตรง “จมูก” ยังยื่นออกมายาว—-

            (นี่มันหน้ากากเท็งงุนี่!)

            เป็นช่วงเวลาที่ฮิคารุแน่ใจแล้วว่าผู้ที่สร้างโบราณวัตถุเป็น “คนที่เกิดใหม่หรือวาปมาจากญี่ปุ่น”

            (จะว่าไปสร้างของอย่างนี้ขึ้นมาทำไมเนี่ย……)

            ชื่อของมันคือ “หน้ากากปิศาจ” คำอธิบาย “หน้ากากที่ทำจากโลหะ เนื่องจากสีลอกออกไปเกือบหมดแล้วเลยกลายเป็นสีน้ำตาลหม่น ไม่ทราบการใช้งาน ไม่เคยพบปิศาจที่จมูกยาวขนาดนี้มาก่อน” เพราะมันเขียนจริงจังอย่างนี้เลยหลุดหัวเราะออกมา

            “ฮิคารุ? รู้เหรอว่าของสิ่งนี้คืออะไร?”

            “อ้อ เปล่าครับ……แค่หน้ามันตลกเลยหัวเราะออกมาครับ”

            ต้องระวังตัวเพราะผู้อำนวยการอยู่ข้างๆ

            “แล้วทำไมหน้ากากนี้ถึงอยู่หน้าแรกเลยเหรอครับ”

            “เพราะเป็นโบราณวัตถุที่ซูบร้าขุดมาได้มากที่สุดไง”

            “……เอ๊ะ?”

            “จนถึงตอนนี้พบ ‘หน้ากากปิศาจ’ ราวๆ 100 อัน”

            ผู้ถูกวาป นายทำอะไรลงไปเนี่ย! ชอบเท็งงุขนาดนั้นเลยเหรอ!

            เขาตบมุกอยู่ภายในใจ

            ตอนที่คิดจะอ่านต่อ ฮิคารุก็ชำเลืองมองคนที่อยู่ข้างๆ

            “เอ่อ……ผู้อำนวยการ มาอยู่ตรงนี้จะดีเหรอครับ ไม่ใช่ว่างานยุ่งอยู่เหรอ?”

            “ตอนนี้งานยุ่งอยู่หรอก แต่การมาต้อนรับคนที่ช่วยเหลือญาติและเชื้อพระวงศ์มันเป็นสิ่งที่ควรทำไง”

            “เรื่องอะไรเหรอ?”

            “ท่านซิลเวสเตอร์กับท่านรีกพูดคุยกันแล้ว”

            “อ้อ……งั้นเหรอครับ”

            ฮิคารุรู้สึกเหนือความคาดหมาย

            ทั้งคู่ที่อยู่ระดับบนๆของลูมาเนียและซูบร้าที่เป็นประเทศเล็กๆในสหพันธรัฐ

            ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะพูดเรื่องของตัวเอง—-ที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าตรงไปตรงมาอย่างนี้

            “ฮิคารุ ท่านซิลเวสเตอร์แล้วก็ท่านรีกต่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ ทั้งที่ยังอ่อนเยาว์แต่มีความคิดและจิตใจที่เที่ยงธรรม”

            “คนอย่างพวกเขา ไม่น่าจะไปได้ดีในสหพันธรัฐนี่ครับ”

            ฮิคารุรู้ดีว่าราชินีมัลเกโด้กับเลขานุการเอกโซฟีร่าลำบากกับการเมืองแค่ไหน

            ศูนย์กลางของสหพันธรัฐเป็นสถานที่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายอย่างมาก

            “อ้อ ฮิคารุเป็นห่วงท่านซิลเวสเตอร์แล้วก็ท่านรีกสินะ?”

            “……เปล่านี่ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”

            “บรรยากาศรอบตัวเธอเปลี่ยนไป เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ? ทั้งที่ตอนมาสมัครเรียนยังเหมือนหนามที่พร้อมจะทิ่มแทงทุกคนที่เข้ามาสัมผัสแท้ๆ”

            “ไม่ใช่หอยเม่นสักหน่อย”

            “หอยเม่น?”

            “เปล่าหรอก ไม่มีอะไรครับ”

            โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าหอยเม่น

            ฮิคารุรู้ว่าผู้อำนวยการพูดถึงเรื่องอะไร

            เพราะพูดทุกอย่างกับลาเวียไปแล้ว

            แต่คนรอบๆมองเห็นการเปลี่ยนแปลงถึงขนาดนั้นเลยหรือ

            “……เอาละ ดูต่อกันเถอะ”

            “อือ เชิญต่อได้เลย”

            ผู้อำนวยการเองก็ไม่ไล่บี้ไปมากกว่านั้น

            แล้วดูลิสต์ต่อไปเรื่อยๆ

            ทำให้รู้ว่ามันเป็นของ “ญี่ปุ่น” อย่างแน่ชัดเพราะมีทั้ง “พระพุทธรูป”, “ระฆัง”, “ถ้วยน้ำชา”

            มันเขียนไว้ว่า ไม่ทราบการใช้งาน พอดูไปถึงชิ้นหนึ่ง—-ฮิคารุถึงกับต้องหยุดดู

            (……นี่มัน วิทยุนี่)

            มันมีเสาอากาศ และปุ่มปรับหาคลื่นความถี่

            ไม่ใช่ของที่เอามาจากญี่ปุ่น เพราะมันถูกสร้างมาด้วยโลหะและไม้ไม่ใช่พลาสติก โดยชื่อของมันคือ “กล่องโลหะ”

            สร้างมาอย่างดีมีกระทั่งลำโพง

            (สร้างของอย่างนี้ขึ้นมาคิดจะทำอะไรกันแน่?)

            จะว่าไปถ้าสร้างวิทยุได้แล้วละก็—-สามารถปฏิวัติการส่งข้อมูลด้วยคลื่นไฟฟ้าได้เลย แต่การใช้วิทยุจำเป็นต้องมีเสาส่งสัญญาณ เดิมทีโลกนี้แทบจะไม่มีเทคโนโลยี “ไฟฟ้า” เลยด้วยซ้ำ

            กลับกันมันมีเวทมนตร์ที่ใช้ตัวกระตุ้นราคาสูงเพื่อเลียนแบบ “โทรเลข” อยู่

            “สนใจสิ่งนั้นเหรอ?”

            ผู้อำนวยการพูดกับฮิคารุที่เอาแต่จ้องวิทยุ

            “เอ่อ……นั่นสิครับ สิ่งนี้เขียนไว้ว่า ‘ไม่ทราบการใช้งาน’ แต่ผู้อำนวยการคิดว่าไงครับ?”

            “สิ่งนี้เป็นอะไรที่น่าประหลาดใจมาก ของหลังจากนี้จะเป็นพวกอาวุธ ซึ่งอาวุธเองยังไม่ซับซ้อนอะไรขนาดนี้เลย นักวิจัยอุปกรณ์เวทมนตร์ที่โรงเรียนเองก็ทำการวิจัยเกี่ยวกับ ‘กล่องโลหะ’ อยู่หรอก แต่ผลที่ได้แทบจะไม่มีอะไรคืบหน้าเลย”

            “สิ่งนี้ขุดพบจากที่ไหนเหรอครับ?”

            “ส่วนลึกของซูบร้า คิดว่าน่าจะเป็นภายใน ‘หอคอย’ ที่ขุดโบราณวัตถุได้เยอะๆ”

            หอคอย……กะแล้วเชียว หอส่งสัญญาณสินะ

            (ถึงอย่างนั้นก็แปลก)

            “ผู้อำนวยการ โบราณวัตถุพวกนี้อายุประมาณกี่ปีเหรอครับ”

            “เห็นเขาว่า 800 – 1000 ปีนะ ก่อนที่ประเทศซูบร้าจะก่อตั้งขึ้นมาอีก”

            พอได้ยินอย่างนั้นฮิคารุก็เริ่มคิด

            (สมมติถ้าเป็นเมื่อ 800 ปีก่อนจริง คนคนนั้นต้องรู้จัก “วิทยุ” แต่ญี่ปุ่นเมื่อ  800 ปีก่อนน่าจะยังอยู่ยุคคามาคุระ)

            ยุคสมัยมันไม่ตรงกัน

            (ก็หมายความว่า……การไหลเวลาของโลกทางนี้กับโลกมนุษย์มันต่างกันเหรอ? หรือไม่ก็การเชื่อมต่อยุคสมัยเกิดขึ้นแบบสุ่มเหรอ? ……อย่างนั้นก็ยังแปลกอยู่ หลังจากที่ผมมาโลกนี้แล้วมีคนญี่ปุ่นคนอื่นถูกวาปไป “อดีต” แล้วละก็จะทำให้เกิดโลกคู่ขนาน ถ้าการไหลมันผิดเพี้ยนไปจะไม่สามารถทำให้มันกลับมาเป็นแบบเดิมได้ ถ้าเป็นทฤษฎีนี้น่าจะพอยอมรับได้อยู่)

            “ฮิคารุ? ไม่ดูต่อเหรอ? ฉันคิดว่าจะสนใจข้อมูลของอาวุธซะอีก?”

            “ดูครับ—-ว่าแต่ทำไมอยากให้ผมดูอาวุธเหรอ?”

            “อุตส่าห์มาจากพอนโซเนียไม่ใช่หรือ ถึงคิดว่าเธอไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกองทัพ แต่ได้ยินมาว่าเธอแข็งแกร่งเอาเรื่องอยู่ ผู้แข็งแกร่งจะสนใจอาวุธโบราณก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่”

            “อย่างนี้นี่เอง ถ้าบอกว่าไม่สนใจก็เป็นเรื่องโกหกสินะ”

            ฮิคารุพลิกหน้าต่อไป

            แล้วอาวุธก็โผล่มาเรื่อยๆ

            ปืนไรเฟิล, ชูริเคน, ปืนพก, ปืนใหญ่

            “อาวุธที่ยอดเยี่ยมพวกนี้เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ทั้งหมดเลย”

            “โห……”

            “ดาบยาวคมด้านเดียวนี้ ถ้าใส่พลังเวทเข้าไปจะทำให้ความยาวของดาบยืดออกมาได้ด้วย ส่วนที่มีคมดาบ 4 ใบนี้เป็นอาวุธขว้างถ้าใส่พลังเวทเข้าไปจะทำให้มองไม่เห็นไปครู่หนึ่ง”

            เป็นการออกแบบดาบญี่ปุ่นที่ดูไม่คุ้นตาเลย

            แล้วมันเหมือนกับ “มีดสั้นเหน็บเอว” ที่ฮิคารุซื้อมาเลย—-

            (หรือว่าสิ่งนั้นจะเป็นของจริง?)

            ไว้ค่อยลองตรวจสอบดูดีกว่า

            “ผู้อำนวยการ ความสามารถ—-ของอุปกรณ์เวทมนตร์มันแปลกมากใช่ไหมครับ”

            “ตอนนี้ยังไม่สามารถทำมันขึ้นมาใหม่ได้น่ะ”

            “อย่างนั้นเหรอ……”

            ฮิคารุรู้สึกประทับใจ

            ดูเหมือนผู้ถูกวาปมาจะพยายามเอาเรื่องอยู่

            “แล้วนี่คืออะไรครับ? เห็นเขียนไว้ว่าเป็นอาวุธ—-ที่ต้องประจุพลังเวทมนตร์ไว้ก่อน”

            สิ่งที่ฮิคารุอยากดูคือสิ่งนี้

            มันคือ “ปืนพก”, “ปืนไรเฟิล” ที่มีโครงสร้างคล้ายกับ “ปืนลูกโม่” ที่เขามีอยู่

            “สิ่งนี้คืออุปกรณ์เวทมนตร์ที่ใช้ยิงพลังเวทซึ่งบรรจุเอาไว้ออกมา ถ้าแค่นี้มีของที่เหมือนกับอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นนี้อยู่เยอะเลย”

            “อย่างนั้นเหรอครับ?”

            “ใช่แล้ว มีอยู่เยอะเลยนี่ อุปกรณ์เวทมนตร์ที่ ‘บรรจุเวทมนตร์ไว้ล่วงหน้าแล้วค่อยใช้ทีหลัง’? ไม่จำเป็นต้องทำเป็นรูปร่างนี้เลย จะเป็นแหวนหรือว่าไม้เท้าก็ได้”

            “อ้อ……อย่างนี้นี่เอง”

            “แต่ความยอดเยี่ยมของอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นนี้ มันไม่ใช่จุดนั้น”

            “หมายความว่ายังไง?”

            “ตามปกติ อุปกรณ์เวทมนตร์ที่ปล่อยเวทมนตร์ความรุนแรงจะน้อยกว่า ‘เวทมนตร์ที่ต้องร่าย’ ไง แต่อาวุธนี้……เขาว่ากันว่าสามารถปล่อยเวทมนตร์ของผู้ใช้ใน ‘ระดับเดียวกัน’ หรือ ‘เหนือกว่านั้น’ ได้ด้วย”

            ฮิคารุถึงกับอึ้ง

            กล่าวคือ อัตราการการเปลี่ยนพลังงาน “เวทมนตร์” อยู่ที่ 100% หรือมากกว่านั้น

            “เรื่องอย่างนั้น……เป็นไปได้ด้วยเหรอครับ?”

            ถ้าแค่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 100% ยังพอว่า แต่มากกว่า 100% เนี่ยมันไม่แปลกไปหน่อยหรือ

            “อือ ฉันเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน นักวิจัยของสถาบันบอกกันว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใช้ประโยชน์จากพลังงาน ‘มานาศักดิ์สิทธิ์’

            คำที่คุ้นหูออกมาแล้ว

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท