อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 103

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

ตอนที่ 103 ความสามารถที่เหมาะกับศัตรูเป็นฝูง

            เหล่านักผจญภัยที่รวมตัวอยู่เหนือกำแพงดินของบอเดอร์ซาร์ด ยิงธนูและเวทมนตร์ใส่มอนสเตอร์ที่กำลังรุกใกล้เข้ามา

            “รีบยิงระลอก 2 เร็ว!”

            “โธ่โว้ย! จำนวนไม่ลดลงเลย!”

            “มีแต่ต้องทำ ไม่ต้องมาบ่น!”

            หมาป่ากลางคืนหลบลูกธนูที่ยิงออกมา

            ลูกไฟที่ปล่อยมา ก็โดนฟอเรสบาร์บาเรียนใช้แขนปัดจนสลายไป

            ถึงจะดูไม่ค่อยได้ผล แต่เหล่านักผจญภัยก็ทำได้เพียงแค่นั้น

            “เข้าใจไหม! อดทนเข้าไว้! ถ้าถึงตอนเช้าพวกเราจะเป็นฝ่ายชนะ!”

            พระอาทิตย์ค่อยๆลับหายไป

            เหล่าประชาชนของบอเดอร์ซาร์ดเริ่มอพยพในยามเย็น กิลด์นักผจญภัยได้รับมอบหมายหน้าที่ถ่วงเวลาเพื่อให้ประชาชนได้อพยพ

            แต่ชาวเมืองส่วนใหญ่ปฏิเสธจะอพยพเพราะห่วงบ้านกับทรัพย์สินของตัวเอง ชาวบ้านที่ยอมอพยพมีราวๆครึ่งหนึ่งหรือก็คือ 2000 คน

            ต่อให้มีจำนวนคนแค่นั้น แต่การจะพาทุกคนออกไปในคืนเดียวถือเป็นงานช้าง ตอนนี้กำลังอพยพไปยังประตูฝั่งตรงข้ามป่า

            “มันปีนขึ้นมาแล้ว!”

            ในที่สุดกรีนวูลฟ์ตัวแรกสุดก็ข้ามคูและวิ่งลอดรัวเข้ามาจนถึงด้านหน้ากำแพงดิน

            “ทะ ทางนี้ก็ด้วย—-อ้าก!?”

            รั้วกระเด็น

            ด้วยฝีมือของฟอเรสบาร์บาเรี่ยน

            “อ้า ไม่ไหวแล้ว—-”

            ลดจำนวนด้วยการโจมตีระยะไกลก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้

            นั่นคือฉากที่วาดฝันเอาไว้—-ก่อนออกมาต่อสู้

            แต่ถ้ามีคนที่ทำอย่างนั้นได้แล้วละก็ คงไม่ต้องถอยร่นมาจนถึงบอเดอรซาร์ด และน่าจะปราบมันเสร็จตั้งแต่ภายในป่าใหญ่ไปแล้ว

            ต้องบอกว่าประเมินทุกอย่างง่ายเกินไป

            ไร้ความสามารถในการต่อสู้พอที่จะทำให้แผนการนี้เป็นจริง ทั้งเวลาและการเตรียมการไม่เพียงพอ เพราะไม่เคยมีมอนสเตอร์หนีออกมาจากป่าจำนวนมากถึงขนาดนี้ 

            “นะ หนีเร็ว—-”

            ตอนที่แนวหน้ากำลังจะแตกพ่าย

            “‘เหล่าภูตเอ๋ย ได้โปรดตอบรับเสียงของข้า จักเผาผลาญสิ่งมีชีวิตทุกสรรพให้มอดม้วยตามที่ข้าปรารถนา’”

            ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร—-ใช่แล้ว ไม่มีใครรู้สึกตัวมาก่อน

            ตรงนั้นมีผู้ใช้เวทมนตร์ยืนอยู่เหนือกำแพงดิน

            สาวน้อยสวมฮู้ดกำลังร่ายเวทมนตร์อยู่

            “‘เหล่าภูตร่ายรำ’”

            เหล่ามอนสเตอร์หยุดเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง

            มันสบสนจากพลังเวทที่ถูกปล่อยออกมา

            “‘ด้วยพลังเวทของข้าเหล่าภูตจงขับขาน’”

            เหนือท้องฟ้าปรากฏวงอาคมขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

            สิ่งที่ปรากฏออกมาคือ—-เปลวเพลิงสีแดงเข้ม ที่ส่องสว่างยิ่งกว่าพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น

            “‘จงเผาผลาญเพื่อทำให้ฟ้าดินกลับมาบริสุทธิ์ดังเดิม’”

            ถ้าเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ทั่วไป หากใช้พลังเวทขนาดนี้น่าจะล้มไปแล้ว ไม่มีทางร่ายเวทมนตร์ให้เสร็จสมบูรณ์ได้

            แต่เสียงร่ายอันต่อเนื่องของเธอ ดังกึกก้องไปทั่วสนามรบ

            “‘เฟรมกอสเพล’”

            วงอาคมแตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับเสียงที่เหมือนกับแก้วแตก

            ลูกไฟนั้น มีความร้อนสูงมาก ถึงขนาดที่เหล่านักผจญภัยซึ่งกำลังตกตะลึง ยังรับรู้ถึงความร้อนตรงแก้มได้แม้จะอยู่ห่างออกไปไกล

            ลูกไฟขนาดยักษ์ ตกใส่ตรงกลางฝูงยักษ์—-ฟอเรสบาร์บาเรี่ยนที่รวมกลุ่มอยู่ราวๆ 10 ตัว

            ตอนที่มันตกกระทบ พื้นดินสั่นไหว พร้อมกับลมร้อนที่กระจายไปทั่ว

            “ว้ากกกกก!?”

            “ปะ ปลิวแล้ว……!!”

            “มะ เมื่อกี้มันอะไรเนี่ย!?”

            เปลวเพลิงที่ม้วนตลบไปรอบๆ เผาผลาญเหล่ามอนสเตอร์

            ทั้งที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์, เป็นสัตว์ หรือพืชทุกอย่างมอดไหม้อย่างเท่าเทียมกัน

            ตอนที่ไฟนั้นมอดลง—-สายตาของเหล่ามอนสเตอร์เริ่มมีความหวาดกลัวเล็กน้อย

            “ตะ ตะ ตอนนี้แหละ! โจมตีเข้าไปเลย!”

            คนที่ได้สติและกลับไปแนวหน้าคือหัวหน้ากิลด์ของบอเดอร์ซาร์ด

            “ตอนนี้ศัตรูกำลังหวาดกลัวอยู่โจมตีเข้าไป! คนที่อยู่ข้างๆปกป้องผู้ใช้เวทมนตร์ซะ! หลังจากใช้เวทมนตร์ระดับนี้น่าจะป้องกันตัวเองไม่—-”

            ทุกคนเคลื่อนไหวตามที่หัวหน้ากิลด์บอก

            แต่พวกเขาทุกคน ก็ต้องหยุดเคลื่อนไหว—-ด้วยความอึ้ง และความหวาดกลัว

            “‘เหล่าภูตเอ๋ย ได้โปรดตอบรับเสียงของข้า จักเผาผลาญสิ่งมีชีวิตทุกสรรพให้มอดม้วยตามที่ข้าปรารถนา’—-”

            เธอเริ่มร่ายเวทมนตร์ครั้งที่สอง

            วงอาคมปรากฎขึ้นเหนือศีรษะของผู้ใช้เวทมนตร์คนนั้น 

            “ยะ ยัง……จะยิงอีก งั้นเหรอ……?”

            นักผจญภัยคนหนึ่งตอบกับกิลด์มาสเตอร์

            “หลายนัดก็ดีแล้วนี่! ถ้าอยากยิงก็ให้ยิงไปเถอะ! แล้วก็รีบเคลื่อนที่เข้าปทะได้แล้ว! ไปขับไล่มอนสเตอร์ที่มาถึงกำแพงกัน!”

            สาวน้อยผมสีดำขลับทรงทวินเทล

            เหล่านักผจญภัยของพอนโซเนียเห็นแล้วรู้ได้ทันทีเลยว่าพวกเปธอคือใคร

            “นั่น ‘จตุรดาราแห่งบูรพา’!! ‘จตุรดาราแห่งบูรพา’ ระดับ B มาแล้ว!! อย่างนี้มีโอกาสชนะแล้ว!!”

            แค่คำพูดคำว่าระดับ B คำเดียว ทำให้สีหน้าของเหล่านักผจญภัยสดใสขึ้น

            แต่สาวน้อยผมดำ—-เซริก้า ทาโนะอุเอะ ทำสีหน้าไม่พอใจออกมา

            “รีบๆไปกันได้แล้ว! ถ้ามันหลุดเข้าไปในเมืองได้สักตัวถือว่าแพ้เลยนะ!”

            คำพูดของเธอ ทำให้เหล่านักผจญภัยตอบว่า “โอ้ว” ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหว

            ในระหว่างนั้น “เฟรมกอสเพล” นัดที่สองก็เสร็จสมบูรณ์ และถูกปล่อยไปยังมอนสเตอร์ที่รวมตัวอยู่แนวหลัง

            (—-เด็กคนนั้นเป็นใครเนี่ย! ขนาดฉันยังยิงเวทมนตร์ที่รุนแรงขนาดนั้นไม่ได้เลย!”

            เซริก้าหันไปมอง

            เพราะสวมฮู้ดอยู่เลยทำให้ไม่เห็นใบหน้า และน่าประหลาดใจหากละสายตาตอนที่เธอไม่ได้ยิงเวทมนตร์ จะทำให้ไม่รู้สึกถึงตัวเธอเลยทั้งที่ยืนอยู่ตรงนั้นตลอดแท้ๆ

            (เมจิคไอเทมที่ปิดกั้นการรับรู้สินะ!)

            คาดเดาได้เพียงแค่นั้น

            เซริก้าตัดสินใจว่า—-หลังจากนี้ค่อยเข้าไปพูดคุยด้วย ค้นหาตำแหน่งที่มีมอนสเตอร์น้อยๆเพื่อยิงเวทมนตร์บ้าง

            หัวหน้าปาร์ตี้อย่างโซริส แลนดี้ กระโดดลงจากกำแพงดินแล้วพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์

            คนที่คอยสนับสนุนโซริสก็คือซาร่า เธอยืนอยู่เหนือกำแพงดินและยิงธนูใส่มอนสเตอร์ที่อยู่ในมุมอับของโซริส ฝีมือยังเยี่ยมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

            คนสุดท้ายของ “จตุรดาราแห่งบูรพา” คือ ชูฟี่ บลูมฟิลด์ เธอมีหน้าที่รักษาเลยให้รออยู่ในเมือง

            “ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!”

            ผู้เล่นตัวสำคัญได้ปรากฏตัวตรงแนวป้องกันของบอเดอร์ซาร์ด แล้ว ทำให้สถานการณ์พลิกกลับในทันที

 

            *   *

 

            ในขณะเดียวกัน—-ภายในสหพันธรัฐฟอเรสเทีย แคว้นจาราซัก

            คฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางเมืองที่เคยเป็นอดีตเมืองหลวง—-ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของปราสาท คลอร์ด ซาฮาร์ด คิรีฮาล และ ลูกะ ลอร์ดกราด ลูดันช่าอยู่ที่นั่น

            มิไฮล์และอีวานเดินขนาบซ้ายขวาของพวกเขาอยู่

            เบื้องหน้าของพวกเขา 4 คนเป็นประตูขนาดใหญ่ และมันค่อยๆเปิดออก

            “—-ขอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากสกาล่าซาร์ด”

            คนรับใช้พูดขึ้น ก่อนที่คลอร์ดจะมองกวาดไปยังสถานที่ที่เคยเป็นห้องเข้าเฝ้า

            มันถูกปูด้วยพรมที่ดูนิ่ม มีเก้าอี้ขนาดใหญ่แต่ดูเรียบง่ายอยู่ตรงกลาง

            และฝั่งตรงข้ามมีเก้าอี้เตรียมไว้ 4 ตัว น่าจะเอาไว้ให้พวกคลอร์ดนั่ง

            เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ขนาดใหญ่แล้ว

            “โอ้ว มิไฮล์! ไม่ได้เจอกันนานเลย! แล้วก็อีวานด้วย—-โตขึ้นเยอะเลยนะ!”

            “ท่านอเล็กเซ่ ต้องขอประทานอภัยด้วย เนื่องจากยุ่งกับการสั่งสอนนักเรียน เลยไม่ค่อยได้กลับมาสักเท่าไร”

            “บอส ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ คงไม่โตไปมากกว่านี้แล้วด้วยครับ”

            อเล็กเซ่ที่ถูกเรียกว่าบอสค่อนข้างดีใจหรือเปล่า เพราะใบหน้ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมา

            ใช่แล้ว—-เค้าหน้าของอเล็กเซ่ มันดูป่าเถื่อน

            (นี่ๆ……ทำไมอาจารย์มิไฮล์ถึงได้เกร็งอย่างนั้นเนี่ย)

            ภายในใจของคลอร์ดอยากจะบอกว่า “ไม่เหมือนที่บอกกันเลย”

            อเล็กเซ่ยืนขึ้น เขามีร่างกายสูงใหญ่เกินกว่า 2 เมตร ก่อนจะเข้าไปกอดมิไฮล์กับอีวาน 

            หน้าอกที่แน่นปึกขนาดนั้นต้องบอกว่าสมแล้วที่เป็น “นักรบของจาราซัก”

            เหนือสิ่งอื่นใดคือใบหน้า

            (ใบหน้าโหดเหมือนพวกลักพาตัวเด็กไปกินเลย)

            ใบหน้าโหดนั้นหันมาทางคลอร์ด

            “อย่างนี้นี่เอง นั่นคือคนที่อีวานบอกสินะ……”

            “ใช่แล้วครับบอส”

            เห็นอย่างนี้อีวานเองก็เป็นลูกน้องของ “แก๊งอเล็กเซ่”

            คลอร์ดกลืนน้ำลาย

            (……ถึงอย่างนั้น ฉันก็จะทำ)

            เขามองไปยังคู่หมั้นที่อยู่ข้างๆ

            ลูกะเองก็มองกลับมาที่เขาเช่นกัน

            “ผมคลอร์ด ซาฮาร์ด คิรีฮาลครับ มีเรื่องอยากจะขอร้องผู้แข็งแกร่งที่สุดในจาราซักอย่างคุณอยู่ครับ”

            เขารวบรวมความกล้าแล้วเดินออกไป

            ระยะห่าง 1 เมตร—-เขาแหงนหน้ามองอเล็กเซ่

            “คงต้องขอทดสอบหน่อยว่าเป็นคนที่คู่ควรให้ขอร้องหรือเปล่าด้วยนะ?”

            “แน่นอนครับ”

            มิไฮล์ที่อยู่ข้างๆพูดกับอเล็กเซ่

            “คลอร์ดแข็งแกร่งครับ ถ้าเป็นเขาในตอนนี้ สู้กัน 10 ครั้ง ไม่รู้ว่าฉันจะเอาชนะเขาสักครั้งได้หรือเปล่า”

            “ขนาดนั้นเลยเหรอ!”

            แล้วเขาก็แสดงสีหน้าที่ยินดีออกมา

            “ตั้งแต่มิไฮล์ไม่อยู่ ข้าก็ฝึกฝนมาตลอด ทำให้ตอนนี้ในจาราซักไม่มีใครเป็นคู่มือให้ข้าได้แล้ว! มิไฮล์ ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่แพ้เจ้าอีกแล้ว!”

            “……ครับ บรรยากาศรอบตัวต่างไปจากเดิมนะครับเนี่ย คลอร์ด ตั้งใจให้ดีอย่าประมาท ท่านอเล็กเซ่ ไม่ใช่ท่านอเล็กเซ่ที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว”

            คลอร์ดกลืนน้ำลายอีกครั้ง

            (ไม่เหมือนที่พูดกันไว้เลย!)

            เขาตะโกนอย่างนั้นอยู่ในใจ

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท