ตอนที่ 104 เกมเกลี้ยกล่อม คลอร์ดvsอเล็กเซ่(คะแนนเสียงจาราซัก)
สถานที่ที่ทั้งคู่ใช้ดวลกันคือลานต่อสู้ภายในคฤหาสน์
มันเป็นลานต่อสู้ที่ใหญ่พอจะจุจำนวนคนซ้อมได้ถึงประมาณ 50 คน—-โดยตรงบริเวณกำแพงก็มีคนมาดูอยู่
(โผล่มาจากไหนกันเนี่ย!?)
คลอร์ดที่อยู่ตรงกลางลานต่อสู้ โดนจับตามองโดยคนมากกว่า 100 คน
ตอนที่คุยกับอเล็กเซ่ในห้องรับรองคือเมื่อ 30 นาทีก่อน
หลังจากนั้นก็ตรงมาที่ลานต่อสู้เลย
ระหว่างนั้นคนก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละคนสองคน พอรู้สึกตัวอีกทีก็กลายเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ไปซะแล้ว
“เอ่อ—-ฮะๆๆ คิดว่าใครจะมาท้าสู้กับบอส ดันเป็นพวกผอมบางอย่างนี้เนี่ยนะ”
“เห็นอย่างนั้นอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ก็ได้นะ”
“ไม่มีทางหรอก ถ้าดวลกันด้วยเวทมนตร์มันไม่มีอะไรน่าสนุกเลยสักนิด”
“บอสบอกว่า ตั้งหน้าตั้งตารอการดวลในวันนี้อยู่ด้วย”
จากที่พูดคุยกัน ดูเหมือนอเล็กเซ่จะเป็นคนบอกเกี่ยวกับการซ้อมกับคลอร์ดในวันนี้เอง
“เพราะไม่มีใครอยากดวลกับบอสแล้วด้วยไง”
แค่ซ้อมสู้ก็ทำกันหน่อยเซ่! คลอร์ดตะโกนอย่างนั้นในใจ เพื่อสลัดความกังวล
—-แข็งแกร่งถึงขนาดที่ไม่มีใครอยากจะซ้อมสู้ด้วยเลยเหรอ?
—-หรือว่าจะเป็นการโจมตีที่น่ารังเกียจเกินกว่าจะจินตนาการได้?
—-ดาบของฉัน จะไปถึงเขาได้หรือเปล่า?
แล้วลูกะก็มากุมมือที่สั่นอยู่เล็กน้อยของเขา
“ลูกะ…..”
“ถ้าเป็นเธอต้องชนะได้แน่ๆ”
คำพูดนั้นเป็นคำพูดที่ทำให้รู้สึกดีใจที่สุด
ภายในลานประลองเริ่มคึกคัก เพราะอเล็กเซ่เดินเข้ามา
เขาเปลี่ยนเสื้อให้เคลื่อนไหวได้ง่าย และไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน ดูเหมือนตามปกติการซ้อมต่อสู้ของจาราซักจะไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน
อเล็กเซ่เดินมากลางลานประลอง พร้อมกับอาวุธที่ใช้ซ้อม
ดาบสั้น, ดาบตรง, ดาบโค้ง, ดาบใหญ่, หอกสั้น, หอกยาว, ฮาลเบิร์ด, โล่ใหญ่……มีค่อนข้างเยอะเลย
“เอาละ! ขอโทษที่ให้รอ!”
อเล็กเซ่พูดออกมาด้วยเสียงอันดัง ทำให้ภายในลานประลองส่งเสียงกู่ร้องออกมาด้วยความยินดี
“เลือกอาวุธที่ชอบได้เลย!”
คลอร์ดเลือกดาบมือเดียว—-ดาบตรงอย่างไม่ลังเล คมดาบถูกทำให้บิ่น น้ำหนักเองก็กำลังดี โครงสร้างไม่มีปัญหา
ถึงจะชำเลืองมองโล่แว่บหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบ
“หือ? แค่นั้นเนี่ย……จะดีเหรอ?”
“ครับ”
“ดาบมือเดียวเนี่ยนะ?”
“ครับ!”
“…………”
อเล็กเซ่ขมวดคิ้ว แล้วภายในลานประลองก็มีเสียงเซ็งแซ่ —-ประมาณว่า “นี่มันดูถูกบอสงั้นเหรอ?”, “หรือไม่คิดจะเอาชนะตั้งแต่แรกอยู่แล้ว?”
แต่อเล็กเซ่ก็สังเกตุเห็น อีวานและมิไฮล์ที่ยืนอยู่ด้านหลังคลอร์ด ทำสีหน้าเหมือนไม่มีอะไร ถึงดูแล้ว—-ไม่น่าจะเป็นไปได้—-แต่ก็งตัดสินใจแล้วว่าถ้าคลอร์ดเลือกก็คงไม่มีปัญหาอะไร
เขาหยิบดาบใหญ่ออกมา ก่อนจะเหวี่ยงมันขึ้นไปเหนือศีรษะจนลมที่เกิดขึ้นทำให้ผมหน้าของคลอร์ดพริ้วไหว แล้วคนในลานต่อสู้ก็ปรบมือออกมา
“เอาละ สภาพค่อนข้างดีใช้ได้”
แล้วเขาก็ถอยห่างจากคลอร์ด
ระหว่างทั้งคู่มีคนที่เหมือนกับผู้ตัดสิน—-ดูเหมือนจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพของจาราซัก—-ออกมาอธิบายกฎ ตัดสินแพ้ชนะโดยใครพูดว่า “ยอมแพ้” หรือหมดสติไปก่อน ห้ามเอาให้ถึงแก่ชีวิต ถ้าคิดว่ามีอันตรายจะเข้าไปห้าม และมีผู้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูรออยู่—-
“ไม่มีข้อโต้แย้งนะ?”
“ไม่มีหรอก!”
“ไม่มีครับ”
ผู้ตัดสินพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น นอกเหนือจากสองคนนี้ช่วยถอยออกไปด้วย”
ตอนที่ลูกะปล่อยมือ สีหน้าของคลอร์ดดูไม่สบายใจไปนิดหน่อย แต่ต่อจากนี้เป็นการต่อสู้ของคลอร์ด ลูกะได้แต่มองเขาด้วยความเป็นห่วงและเดินถอยออกมา
“เหวอ!?”
จู่ๆมิไฮล์ก็มาแตะไหล่ของคลอร์ดจนเขาสะดุ้งโหยง
“คลอร์ด ทำเหมือนทุกทีนั่นแหละ ถ้าอย่างนั้นแล้วนายจะชนะอย่างแน่นอน”
“เอ๊ะ……เอ๋? เอ๊ะ?”
“ถึงท่านอเล็กเซ่จะมีกล้ามเนื้อมากขึ้น แต่คนที่ชนะคือนายไง”
“ตะ แต่ว่า……”
“อยากแต่งงานใช่ไหม?”
“—-ครับ”
“เยี่ยม”
มิไฮล์ยิ้ม ก่อนจะออกไปพร้อมกับอีวาน
ถึงอเล็กเซ่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าทำเหมือนอย่างเคยจะชนะ—-ถึงจะเข้าใจสิ่งที่มิไฮล์พูด แต่มันก็ยังยอมรับไม่ได้ในทันที
ในช่วง 3 วันที่เดินทางมายังอาณาจักรจาราซัก ได้ซ้อมกับมิไฮล์ทุกวัน ซึ่งอย่างที่มิไฮล์บอกว่า สู้ 10 ครั้ง คลอร์ดชนะ 9 ครั้ง แต่ก็เท่ากับว่าแพ้ 1 ครั้ง
ไม่รู้ว่า—-ทำไม “ทำเหมือนอย่างเคย” แล้วจะชนะ
(ถึงอย่างนั้น……มีแต่ต้องทำ)
สงบใจได้แล้ว
ท่ามกลางเสียงเชียร์ภายในสนาม ราชาแห่งดาบของจาราซัก กับชายหนุ่มคลอร์ดเผชิญหน้ากัน
“ทั้งคู่เตรียมตัว”
เขาผ่อนคลายครึ่งตัว และหันปลายดาบมือเดียวไปทางอเล็กเซ่
อเล็กเซ่ยกดาบใหญ่ขึ้นมาพาดไหล่อย่างง่ายดายด้วยมือข้างเดียว
“เริ่มได้!!”
ทั้งคู่ออกเคลื่อนไหวพร้อมกัน
อเล็กเซ่ก้าวใหญ่ออกมาเพื่อย่นระยะห่าง
“ย้ากกกกกกกกกก!!”
เขาเหวี่ยงดาบใหญ่ที่พาดอยู่ตรงไหล่ลงมา
ระหว่างนั้นก็จับด้ามดาบด้วยมือทั้งสองข้าง ทำให้ความเร็วเพิ่มมากขึ้นหลายขั้น
ถึงจะมีกฎว่า “ห้ามฆ่าอีกฝ่าย” และทำคมดาบให้บิ่นไปแล้ว แต่ด้วยกำลังแขนน่าจะผ่าครึ่งได้อย่างง่ายดาย
“——–”
แต่สายตาของคลอร์ดก็มองเห็นวิถีดาบนั้น
เป็นการฟาดเฉียงลงมา—-มิไฮล์ไม่ฟาดดาบอะไรซี้ซั้วอย่างนี้ ถึงมิไฮล์จะใช้ดาบใหญ่ แต่การฟันนั้นงดงาม เหมาะสมกับคำว่า “อาจารย์”
(……ช้ากว่า อาจารย์มิไฮล์……?)
การโจมตีของอเล็กเซ่ที่มีกล้ามเนื้อมากกว่า กลับช้ากว่ามิไฮล์
ความสับสนชั่วครู่ที่ว่า—-เรื่องอย่างนั้นเป็นไปได้ด้วยเหรอ
(โอกาสมาแล้ว)
หลังจากตัดสินใจแล้วมันเกิดขึ้นเร็วมาก
เขาบิดตัวหลบการโจมตีของอเล็กเซ่
แล้วช่วงเวลาที่หลบการโจมตีนั้น เขาก็ฟาดใส่ด้านข้างของตัวดาบ
ร่างของอเล็กเซ่ที่ฟาดดาบลงมาถึงกับเซไป
ตอนนั้นเอง—-
“อย่าขยับ”
ปลายดาบมือเดียว จ่อตรงคอหอยของอเล็กเซ่
“……ยอมแพ้”
ราชาแห่งดาบของจาราซัก ยอมแพ้อย่างว่าง่าย—-แม้จะหน้าแดงจัดก็ตาม
เสียงกู่ร้องหยุดลง
หลังจากนั้น ความสับสนก็เกิดขึ้นทั่วลานต่อสู้
“เมื่อกี้ มันอะไร!?”
“เห็นหรือเปล่า”
“ไม่เลย! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
คนที่ดูอยู่ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าชั่วพริบตานั้นเกิดอะไรขึ้น
ฟู่ คลอร์ดถอนหายใจออกมาก่อนจะเข้าไปใกล้อเล็กเซ่
“อ้า ให้ตายสิ! ทำกันได้นะเจ้าหนู!! นึกว่าจะโจมตีทีเผลอหรืออะไรอย่างนั้น—-แต่ไม่นึกเลยว่าจะรับการโจมตีของข้าตรงๆอย่างนี้!”
“ถ้าใช้วิธีขี้โกง มีแต่จะเหลือความคั่งแค้นเอาไว้ครับ”
“พูดได้ดีนี่! ฮะๆๆๆๆ!!”
เพราะยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้ว ทำให้อเล็กเซ่หัวเราออกมาอย่างสดชื่น
“แต่…ไม่นึกเลยว่าจะหลบได้ง่ายๆอย่างนั้น”
“ผมเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน การฟาดดาบของท่านอเล็กเซ่—-”
“อเล็กเซ่ก็พอ เรียกห้วนๆก็ได้ ฉันกับเจ้าปะดาบกัน แล้วเจ้าเป็นฝ่ายชนะ ถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้วนี่ใช่ไหม?”
“อะ ครับ”
คลอร์ดคิดว่ามันพูดได้ยากไปหน่อย……แต่ก็พูดออกไป
“อย่ารู้สึกไม่ดีนะครับ?……ถ้าให้พูดตามตรง การฟาดดาบของอเล็กเซ่ รู้สึกมันช้ากว่าของอาจารย์มิไฮล์อีก”
“เจ้าว่าไงนะ?”
“เหวอ”
เขาจ้องมองด้วยหน้าตาอันดุร้ายจนคลอร์ดถึงกับผงะ
“อย่าข่มกันอย่างนั้นสิครับท่านอเล็กเซ่”
คนที่เข้ามาแทรกคือมิไฮล์
“มิไฮล์ แก……สอนอะไรเจ้าหนูนี้บ้างเนี่ย? หรือแกจะบอกเหมือนเจ้าหนูนี้ว่าดาบของข้ามันช้างั้นเหรอ”
“คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงครับ”
“ว่าไงนะ?”
“ท่านอเล็กเซ่บอกเองนี่ ว่าซ้อมอย่างหนัก เพราะอย่างนั้นกล้ามเนื้อเลยเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้วิถีดาบมันช้าลงไง”
“?”
มิไฮล์เริ่มอธิบายให้อเล็กเซ่ที่ทำสีหน้าไม่เข้าใจ
กล้ามเนื้อ มีทั้งส่วนที่จำเป็นและไม่จำเป็น
ถึงจะทำให้ยกของหนักได้ง่ายขึ้น แต่กล้ามเนื้อส่วนที่ไม่จำเป็นจะทำให้วิถีดาบช้าลง
“อืม……”
“แต่ว่า ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้ดาบใหญ่อย่างฉันแล้วละก็ พลังมันสำคัญกว่าวิถีดาบไง ถ้าฉันสู้กับท่านอเล็กเซ่แล้วละก็ ฉันคงจะแพ้ไปแล้ว”
“ถึงอย่างนั้น การที่ฟาดข้างใส่การโจมตีของข้าได้เนี่ย มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว”
“เพราะว่าคลอร์ดสุดยอดไง น่าจะเป็นลักษณะพิเศษของสปริทเอลฟ์ก็ได้
“หา? สปริทเอลฟ์……งั้นเหรอ?”
“ถึงคลอร์ดจะเป็นคนของคิรีฮาล แต่ก็เป็นคนในตระกูลซาฮาร์ด สืบเชื้อสายมาอย่างถูกต้อง……กล่าวคือสืบสายเลือดมาจากสปริทเอลฟ์โดยตรง”
คำพูดนั้นทำให้เหล่าคนดูส่งเสียงจอแจออกมา
ดูเหมือนทุกคนจะรู้เกี่ยวกับสปริทเอลฟ์อยู่แล้ว
ราชินีของสหพันรธรัฐอย่างมัลเกโด้เองก็เกิดที่คิรีฮาล และเป็นสปริทเอลฟ์ ถึงภายนอกจะดูไม่แตกต่างจากมนุษย์ แต่มีความเข้ากันได้กับเวทมนตร์และมีประสาทสัมผัสทั้งห้าอันยอดเยี่ยม และเหมือนมีทฤษฎีที่บอกว่า—-น่าจะใช้สัมผัสที่หกได้ง่ายเหมือนกัน
(คิดว่าเป็นเพราะ “อาชีพ” มากกว่าสายเลือด)
คลอร์ดแตะโซลการ์ดที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อ
(อย่างที่ฮิคารุบอกเลย……มี “อาชีพ” ใหม่)
คลอร์ดคิดว่าเป็นผลจากการฝึกฝน แต่ที่จริงเพราะเพิ่ม “ดาบ” ในโซลการ์ดเป็น 4 ต่างหาก
“อาชีพ” ใหม่ที่ปรากฎขึ้นมา 2 อัน คือ “เทพสุริยาร่ายรำ(太陽剣舞神) : ดาบร่ายรำ(Sword dancer)”, “เทพดาบเจ้าพิธีการขั้นสูง(精鋭儀礼剣神) : ดาบสันติบาล(Sword Police) ซึ่งได้เลือกดาบร่ายรำที่เป็นเทพ 4 ตัวอักษรอย่างไม่ลังเล เพราะอย่างนั้นทำให้ร่างกายรู้สึกเบาขึ้น และตอบโต้ดาบของอีกฝ่ายได้สูงขึ้น
“เอาเถอะ!! จะสายเลือดหรืออะไรก็ช่าง! คลอร์ด เจ้าชนะข้าแล้ว! เอาละ เจ้าอยากได้อะไร? ลองบอกมาสิ!”
“อเล็กเซ่ขอบคุณมากครับ”
คลอร์ดโค้งให้หนึ่งที ก่อนจะพูดออกมา
อยากให้เห็นชอบกับการก่อตั้ง “สหพันธ์นักเรียน” แล้วก็
“หือ!? จะ เจ้า……หรือว่าคุณหนูตรงนั้นจะเป็น……เจ้าหญิงลำดับที่สามของลูดันช่า!? จะแต่งงานกับคนของตระกูลคิรีฮาล!?”
แล้วความโกลาหลที่ใหญ่ที่สุดของวันนี้ก็เกิดขึ้นเพราะการตะโกนของอเล็กเซ่
ตอนที่ฟังเรื่องของ “สหพันธ์นักเรียน” เขาแค่รู้สึก “อืมๆ” แต่พอบอกว่าอยากให้เห็นด้วยกับการแต่งงานสีหน้าก็เปลี่ยนไป
“…………อย่างนี้นี่เอง! เข้าใจแล้ว ว่าทำไมเจ้าถึงได้อยากต่อสู้กับฉันโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน”
เอ๊ะ เดี๋ยวสิ ไหนบอกห้ามฆ่าอีกฝ่าย จะว่าไปมันเป็นกฎของการซ้อมสู้สินะ? ถึงคลอร์ดจะคิดอย่างนั้น แต่จากบรรยากาศคิดว่าไม่พูดออกไปจะดีกว่า
“ต้องยอมรับอยู่แล้ว! การแต่งงานระหว่างคิรีฮาลกับลูดันช่าเหรอ……น่าสนุกดี! นี่ พวกแกทุกคนที่อยู่ตรงนี้จงเป็นสักขีพยาน! ถึงช่วงเวลาที่ประวัติศาสตร์ของสหพันธรัฐจะเปลี่ยนไป!”
จากการปลุกเร้าของอเล็กเซ่ ทำให้เหล่าคนดูคึกคักขึ้นมา
เหล่าพวกผู้ชายเข้ามาตบไหล่คลอร์ด ส่วนพวกผู้หญิงก็เข้ามาให้กำลังใจลูกะ
แล้วไม่รู้เพราะอะไรถึงโดนชวนเข้างานเลี้ยง—-และดื่มโต้รุ่ง
(ทะ ทางนี้ทำสำเร็จแล้วนะ……ไม่เป็นไร แน่นะ? ฮิคารุ—-)
ตอนที่เริ่มมึนจากการดื่ม ความคิดคำนึงของคลอร์ด ก็ได้ส่งไปยังสนามรบ