อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 106

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

ตอนที่ 106 มังกรดิน

            ตึง……เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ……โครม……

            ฮิคารุค่อยได้ยินเสียงฝีเท้าขนาดใหญ่ใกล้เข้ามา พร้อมกับเสียงต้นไม้ล้ม ถึงจะอยู่นอกระยะ “ตรวจจับ” แต่แทบจะรู้สึกถึงการคงอยู่นั้นได้ในทันที

            (เร็วกว่าที่คิดเอาไว้)

            ฮิคารุเอามือจับร่างกายเพื่อตรวจสอบความพร้อม ก่อนจะยืดเส้นข้อมือและขา

            ถึงจะยังนอนไม่เพียงพอ แต่ก็พอจะเคลื่อนไหวได้แล้ว

            ฮิคารุดื่มน้ำอีกนิดหน่อย ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหว

            (ต้องตรวจสอบจากระยะไกลก่อน)

            เห็นฝุ่นฟุ้งขึ้นมาผ่านแนวต้นไม้พร้อมกับนกที่บินหนีออกมา

            กวาง วิ่งผ่านฮิคารุไปอย่างว่องไว

            (……โน้น เหรอ? จริงดิ)

            หัวของมันโผล่ออกมาเหนือต้นไม้

            หัว—-จะบอกอย่างนั้นดีหรือเปล่า

            แค่ส่วนหัวก็มีขนาดพอๆกับรถเมล์เลย

            ภายนอกมีเกล็ดกึ่งโปร่งแสงส่องประกายแสงสีน้ำตาลเข้มแปลกๆ แถมเห็นเส้นเลือดอยู่ภายใต้ผิวนั้น

            รูปร่างใบหน้าเป็นงู

            ถึงดวงตาจะมีสีขาวขุ่น แต่ก็รับรู้ได้ว่ากำลังกลอกลูกตาไปมา แต่เพราะไม่มีตาดำทำให้ไม่รู้ว่าจ้องไปตรงไหน

            ตอนที่อ้าปากแล้วคิดว่าเห็นลิ้น 3 แฉก—-แต่ที่จริงมันเป็นลิ้น 3 อันที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระ ไปจับนก หมูป่า และลิง

            แล้วสัตว์ทั้งหลายก็ถูกกลืนเข้าไปในพริบตา

            ‘……ต้องกินอีก……’

            มังกร—-พูดได้

            มันไม่ใช่คำพูดยุคปัจจุบันของทวีปนี้ มันเป็นภาษาโบราณที่เหมือนอยู่ในเอกสารโบราณ—-ภาษาภูตโบราณเลย

            เนื่องจากโรแลนด์ที่มอบร่างกายนี้ให้กับฮิคารุทำการวิจัยเกี่ยวกับ “วิชาที่ใช้ข้ามโลก” ซึ่งใช้ภาษาภูตโบราณ ทำให้ฮิคาระพอจะเข้าใจมันได้บ้าง

            (“ต้องกินอีก”? พูดอะไรออกมา? จะว่าไป พูดได้งั้นเหรอ?)

            มังกรใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เห็นร่างกายได้ทั้งตัว

            คอเล็กยาว ร่างกายมีรูปร่างเหมือนกับมันเทศ

            ตรงท้องด้านซ้ายและขวามีขาฝั่งละ 4 ข้าง และเคลื่อนไหวโดยลากท้องไปกับพื้น

            หางเองก็ยาวมาก เท่าที่ฮิคารุดูยังไม่เห็นปลายหางเลย

            ความยาวของหัวรวมกับตัวมากกว่า 50 เมตร—-มันเป็นสัตว์ประหลาดตามตัวอักษรเลย

            (……โน้นมันตัวอะไรกันเนี่ย)

            ตรงท้องส่วนล่างเหมือนจะเป็นสีขาว แต่มันก็ดูยืดหยุ่ยเพราะเหมือนมีอะไรบางอย่างยื่นออกมาจากข้างใน

            ถึงฮิคารุจะไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร—แต่พอเห็นตำแหน่งหนึ่งก็เข้าใจได้ในทันที

            มันโป่งนูนออกมาเป็นรูปมนุษย์

            มันคือกระเพาะอาหาร ท้องพองขึ้นมาเพราะสิ่งที่มังกรกลืนเข้าไป

            “…………”

            ขนาดฮิคารุที่ทำการชำแหละพวกสัตว์และมีความต้านทานอะไรสยองอย่างนี้ยังรู้สึกไม่น้อย

            เขาทำหน้าแหยงๆพร้อมกับกลืนน้ำลาย

            ’……ต้องกินอีก……’

            แปลก

            ร่างกายของมังกรมันพองมากเกินไปจนทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายมีปัญหา

            ถึงกระนั้น มังกรก็ยังคงกินต่อไป

            (โดนอะไรบังคับอยู่เหรอ? ……ไม่สิ เหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่างอยู่?)

            บางครั้ง มังกรก็ขยับหัวไปมารอบๆราวกับกำลังระวังอะไร

            แล้ว

            ‘……ยังไม่มา……’

            มันพึมพำออกมาอย่างนั้น

            (มีอะไรบางอย่างคุกคามการคงอยู่ของเจ้านี่ได้เลยเหรอ?)

            ฮิคารุใช้ความคิด

            (สิ่งมีชีวิตหาอาหาร เพื่อเติมพลังงาน แต่ว่ามังกรตัวนี้กินมากเกินไป ถ้ากินมากเกินไป……แล้วจะเป็นยังไง?)

            ตอนนั้นเอง

            ร่างของมังกรเกิดการสั่น

            เปรี๊ยะ……เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ…………

            กลางหลังแยกออก

            มีรยางค์หลายร้อย—-หลายพันเริ่มงอกออกมา

            มันหนาขนาดต้องใช้สองมือกำ และความยาวแต่ละอัน 1 ยาวประมาณ 5 – 10 เมตร

            “……งั้นเหรอ “เติบโต” สินะ”

            พอรู้สึกถึงสิ่งนั้นเลยพึมพำออกมาคนเดียว

            มังกรหาอาหารเพื่อที่จะ “เติบโต”—-พอคิดอย่างนั้นก็สมเหตุสมผลอยู่

            มังกรที่กลัว “อะไรบางอย่าง” เลยออก “ล่าเหยื่อ” เพื่อต้องการ “เติบโต” และ “ก้าวข้าม” ต่อ “อะไรบางอย่าง” นั้น —-

            “แต่ว่าอย่างนี้มันน่ารำคาญนะเนี่ย”

            ฮิคารุหยิบปืนลูกโม่ตรงเอวออกมา

            “ไม่รู้หรอกนะว่ากลัวอะไรอยู่—-แต่คงต้องขอให้หยุดอยู่แค่ตรงนี้”

 

            กิลด์นักผจญภัยตรงบอเดอร์ซาร์ดส่งเสียงดีใจออกมา

            สามารถไล่มอนสเตอร์ส่วนใหญ่กลับไปได้แล้ว จนตอนนี้เหลืออยู่เพียงนิดเดียว และหมุนเวียนทีมไปปราบมอนสเตอร์

            ตอนที่ทุกคนคิดว่า—-ชนะแล้ว

            หน่วยปราบปรามสำนักงานใหญ่ เองก็คิดคงเช่นกัน

            หัวหน้าสำนักงานใหญ่กับหัวหน้ากิลด์ของบอเดอร์ซาร์ดที่เมื่อวานยังรู้สึกพ่ายแพ้และโบ้ยความผิดกันไปมา ยังพูดคุยหัวเราะร่วมกัน

            “ฮะๆๆ กะแล้วเชียวว่าทีมปราบปรามเนี่ยเป็นงานที่ดีจริงๆ! (จำไว้เลยที่แกไม่ยอมให้ความร่วมมือ?)”

            “นักผจญภัยเองก็จำเป็นสำหรับการป้องกันบอเดอร์ซาร์ดอยู่นะ (คงต้องไปรายงานเรื่องที่ ตอนอยู่แนวหน้าไม่ยอมทำตามที่สั่งเอาแต่กลัวซะแล้ว)”

            “เท่านี้คงไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากแต่ละประเทศแล้ว ให้ติดต่อไปว่าจากการทำงานของสำนักงานใหญ่ทำให้ปราบมอนสเตอร์ได้สำเร็จ”

            “อือ อย่างนี้คงจัดงานสถาปนาชาติของสหพันธรัฐได้อย่างไม่มีปัญหา พวกนักการเมืองคงยินดีไม่น้อย รีบไปแจ้งชาวเมืองที่ลี้ภัยว่าการปราบปรามเสร็จสิ้น ให้กลับมาได้แล้ว”

            “จากการทำงานของสำนักงานใหญ่นะ”

            “จากกำแพงของบอเดอร์ซาร์ด ต่างหาก”

            “………..”

            “………..”

            “ฮะๆๆๆๆ”

            “ฮึๆๆๆๆๆ”

            พนักงานกิลด์คนอื่นได้แต่สั่นกลัว จากการพูดคุยของสองคนที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่

            ระหว่างนั้น ทีมสอดแนมที่สังกัดกิลด์นักผจญภัยก็พุ่งพรวดเข้ามา

            “มะ มีรายงานเข้ามาจากทีมสอดแนมที่ไปตรวจสอบสภาพในป่า พวกเขาบอกว่า ‘ให้รีบถอยด่วน’ มีมังกรขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ก่อนที่จะเหนื่อยจนหมดสติไป……”

            ความเงียบกลับคืนมาในสำนักงานใหญ่

            แล้วทุกคนก็รู้สึกตัวว่า สิ่งนั้นต่างหากที่เป็นภัยคุกคามของจริง

            ทีมสอดแนม กลับมาทันทีเมื่อพบเห็นมังกร

            ต้องบอกว่าสิ่งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

            เพราะลิ้นของมังกรมันว่องไวมาก ถึงขนาดจับสิ่งมีชีวิตตรงพื้นขึ้นมากินได้อย่างง่ายดาย ถ้าเข้าไปตรวจสอบใกล้มากกว่านี้ คงโดนมังกรกิน และไม่มีทางได้ข้อมูลว่า “มังกรใกล้เข้ามา”

            “เอาละ คิดถูกสินะที่กลับมา”

            ผมสีม่วงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ฮู้ด

            ตรงแขนและขาทั้งสองข้างสวมสิ่งที่เหมือนกับชุดรัดรูป

            พร้อมกับสวมเสื้อน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งที่ทำมาจากวัตถุดิบของมอนสเตอร์ทับไว้ข้างบน—-ซาร่าแห่ง “จตุรดาราแห่งบูรพา”

            ถึงเธอจะไม่ได้เข้าทีมสอดแนม แต่เธอเข้าไปในป่าเพื่อตรวจสอบในฐานะ “จตุรดาราแห่งบูรพา” คนหนึ่ง

            เธอคุ้นเคยกับการสอดแนม และเนื่องจากเชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวในป่า ทำให้ไปได้เร็ว ต่อให้เป็นฮิคารุที่มีลอบเร้นแบบเดียวกัน แต่ก็แตกต่างกันราวกับคนละเรื่อง

            เธอออกจากบอเดอร์ซาร์ดตอนรุ่งสาง และตรวจพบมังกรได้สำเร็จ

            “ดูจากสีกับรูปร่างคงเป็น ‘เอิร์ทดรากอน’ สินะ……”

            เธอขึ้นไปเหนือต้นไม้เพื่อตรวจสอบมังกร ระยะห่างจากมังกรราวๆ 200 เมตร สำหรับเธอที่มีความสามารถ “ลอบเร้น” ถือเป็นระยะห่างที่ปลอดภัย

            จากสายตาของเธอสามารถมองเห็นคอของมังกรที่ยื่นออกมาเหนือป่าได้ ส่วนลำตัวก็พอจะมองเห็นผ่านพวกแนวต้นไม้ได้อยู่

            “แต่……เอิร์ทดรากอน น่าจะฉลาดกว่านี้นี่ ขาเองก็ไม่มี แล้วไม่มีรยางค์อะไรอย่างนั้นด้วย”

            ในอดีตซาร่าเคยเห็นเอิร์ทดรากอนอยู่ครั้งหนึ่ง

            เคยเห็นไกลๆตรงชั้นลึกสุดของดันเจี้ยน ไม่มีทางลืมได้เลย โดยมันมีรูปร่างอ้วนป้อม ลำตัวลื่นๆ

            หรือที่รู้จักกันในนาม ‘มังกรเดินดิน’ 

            ตอนนั้น “จตุรดาราแห่งบูรพา” เหนื่อยและหมดแรงจากการสำรวจดันเจี้ยน เลยเลือกที่จะไม่ต่อสู้ด้วย

            “นี่น่าจะเป็นเอิร์ทดรากอนกลายพันธ์หรือเปล่าเมี้ยว? เพราะส่วนใหญ่มุดอยู่ใต้ดิน เลยเรียกกันว่า “มังกรดิน” เนื่องจากเคลื่อนที่ได้ช้า วิธีกำจัดคือยิงเวทมนตร์จากระยะไกลเอา……? ถ้ามีเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไฟเมื่อวานน่าจะไหวอยู่หรอกเมี้ยว……อ้อ แต่เซริก้าบอกว่า ‘พยายามหาแล้วแต่ก็หาไม่เจอ!’ ด้วย”

            ตอนที่คิดและพูดอยู่คนเดียวนั้น

            “——–ใคร!?”

            รอบๆไม่มีวี่แววของใคร

            (มีใครอยู่ ใครกำลังสู้กับมังกรอยู่!!)

            “ลางสังหรณ์” บอกเช่นนั้น

            “ลางสังหรณ์” ของซาร่าอยู่ที่ระดับ 5 การที่พัฒนาให้อยู่ในระดับ 5 ได้ด้วยตัวเองอย่างนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างเอาเรื่องอยู่ โดย “ลางสังหรณ์” นี้ช่วยชีวิตซาร่ามาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

            “ไม่ไหวหรอกน่า! ไม่มีทางชนะได้หรอก! ถ้าไม่ไปยืนอยู่ตรงแนวป้องกัน แล้วยิงเวทมนตร์ละก็—-”

            ตอนที่ซาร่าคิดเช่นนั้น

            เธอที่เล่า “การต่อสู้” หลังจากนั้น—-ให้ผู้อื่นฟัง มีไม่ถึงครึ่งที่เชื่อเรื่อง “การต่อสู้” นั้น

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท