ตอนที่ 108 รายงาน 2 ฉบับ
เอิร์ทดรากอนถูกปราบลง—-รายงานนี้ถูกส่งไปถึงรัฐบาลของสหพันธรัฐฟอเรสเทีย ทำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมดูผ่อนคลายขึ้น
ราชินีมัลเกโด้กล่าวขอบคุณผู้บริหารกิลด์นักผจญภัยของฟอเรสซาร์ดที่มาแจ้งข่าว
“กิลด์นักผจญภัยทำได้ดีมาก”
“ครับ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ก็ขอบพระคุณมากครับ”
“แล้ว นักผจญภัยของประเทศไหนเป็นคนจัดการ? ถ้าเป็นนักผจญภัยของประเทศพวกเราถือเป็นผลงานที่ต้องจัดงานพาเหรดเลยนะ”
“ครับ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ยังไม่ทราบเลยครับ……”
“ยังไม่รู้?”
“จริงๆแล้ว มีรายงานจากอุปกรณ์เวทมนตร์สื่อสารเข้ามา 2 เรื่อง เรื่องแรกจากทีมปราบปรามของ 3 ประเทศที่ร่วมมือกัน ส่วนอีกเรื่องมาจากหัวหน้ากิลด์ของบอเดอร์ซาร์ดครับ”
“บอเดอร์ซาร์ด……เมืองที่เป็นแนวป้องกันในครั้งนี้สินะ? 2 เรื่องที่ว่าคือเรื่องอะไรบ้าง?”
“หัวหน้าหน่วยปราบปรามบอกว่า ‘หน่วยปราบปรามจัดการได้เป็นผลสำเร็จ’ ส่วนบอเดอร์ซาร์ดบอกว่า ‘กำแพงเมืองเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่’ ครับ……”
“หือ?”
มัลเกโด้ชำเลืองมองมา
ปลายทางของสายตาคือเหล่าที่ปรึกษาทั้ง 7
“ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” ตัวแทนของสหพันธรัฐทั้ง 7
“แต่เดิม บอเดอร์ซาร์ดอยู่ในลูดันช่าสินะ”
“ใช่แล้วครับ”
“การติดต่อในครั้งนี้คิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
“อืม ถ้าจะอธิบายให้องค์ราชินีที่เกิดในคิรีฮาลแล้วละก็ กำแพงป้องกันของลูดันช่านั้นสูงส่ง ขนาดมอนสเตอร์ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ครับ”
วิธีการพูดที่น่ารังเกียจ แถมไม่ช่วยให้อ้างอิงอะไรได้เลย
ที่ปรึกษาของคิรีฮาลยิ้มเยาะออกมา
“อยากเห็นกำแพงที่สามารถป้องกันจากเอิร์ทดรากอนได้จริงๆเลย”
ที่ปรึกษาของลูดันช่าพูดตอกกลับมาด้วยอารมณ์บูดบึ้ง ส่วนที่ปรึกษาคนอื่นๆก็คอยห้ามปราม
คิรีฮาลกับลูดันช่าไม่ถูกกันอยู่แล้ว ทำให้สองคนนี้ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ
มัลเกโด้ถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันกลับไปทางผู้บริหารกิลด์นักผจญภัย
“อย่างไรก็ตาม ขอบคุณในความลำบากนี้ ส่วนเรื่องผลงานในการปราบปรามเป็นของใครมากกว่ากันน้น ช่วยส่งเอกสารรายงานมาด้วย ทางประเทศจะตอบแทนให้อย่างสมควรเลย”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
“เท่านี้น่าจัดงานสถาปนาชาติได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว”
ผู้บริหารกิลด์โค้งคำนับก่อนจะออกไป
“สหพันธรัฐของพวกเรา มีผู้มีความสามารถถึงขนาด ‘ฆ่ามังกร’ ได้เลยหรือ?”
“ไม่ใช่ ‘เค็นเซย์’ ของพอนโซเนียหรือครับ?”
“รอก่อน บางทีอาจจะหลอนเห็นเลสเซอร์ไวเวิร์นเป็นเอิร์ทดรากอนก็ได้”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นคงน่าเสียดายแย่เลย”
“แต่ว่า”
ที่ปรึกษาพูดกันไปเรื่อยเปื่อย เลขานุการเอกโซฟีร่าที่ยืนอยู่ข้างๆมัลเกโด้ พูดถึงหัวข้อถัดไปราวกับไม่ได้ยินเรื่องที่พวกเขาพูด ราวกับจะบอกว่า “ที่ปรึกษาแทบจะไม่ให้คำปรึกษาอะไรเลย”
“ใช่แล้วๆ”
แล้วที่ปรึกษาของลูมาเนียก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“พอบอกว่าบอเดอร์ซาร์ดแล้วก็นึกขึ้นมาได้ ดูเหมือน……จะมีหญ้าจากต่างประเทศแทรกซึมเข้ามาอยู่ด้วยนี่สิ””
“หมายความว่ายังไงกัน?”
จะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้ พอมัลเกโดหันไปหา ที่ปรึกษาของลูมาเนียก็ตอบออกมาราวกับสนุกกับปฏิกิริยานั้น
“ไม่มีอะไรหรอก บอเดอร์ซาร์ดอเป็นดินแดนของลูดันช่าด้วย ทางนี้แค่ได้ยินข่าวลือเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น คิดว่าคงมีคนที่รู้ดีกว่าข้าอยู่อย่างแน่นอน”
ที่ปรึกษาของลูดันช่าที่อยู่ๆ ถูกโยนเรื่องมาให้แสดงสีหน้าที่ร้อนรนออกมา
“อะ……อะ เอ่อ เรื่องนั้นมันก็……”
คงไม่รู้เรื่องที่มีสปายลอบเข้ามาสินะ
ลองปล่อยข้อมูลออกมานิดหน่อย เพื่อตรวจสอบดูว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องนี้หรือเปล่า
อดีตดินแดนของลูดันช่า—-ถึงตอนนี้เขาจะเรียกได้เต็มปากแล้วว่าเป็น “ดินแดนของลูดันช่า”—–ถึงกระนั้น เครือข่ายข้อมูลของลูมาเนียเองก็ค่อนข้างกว้างขวางจนน่าหวาดกลัวอยู่
อิทธิพลของลูมาเนียค่อยๆเพิ่มมากขึ้น
(หรือว่า สปายที่ถูกส่งมาจับตาดูสำนักงานของฉันก็เป็นคนของลูมาเนียงั้นเหรอ?)
สิ่งที่มัลเกโด้คิดนั้นถูกต้อง ส่วนใหญ่แล้วมันควรที่จะคิดเช่นนั้น
ที่มาทำให้ปั่นป่วนอย่างนี้ คงอยากจะแก้แค้นที่สปายโดนเล่นงานก็เป็นได้
“ไปได้ข่าวสปายต่างแดนมาจากที่ไหนหรือ”
“โอ้ว สุดยอดๆ ขนาดองค์ราชินีเองยังรู้ถึงเรื่องนี้ ช่างน่ายำเกรงยิ่งนัก ถ้าหากได้รายละเอียดมาแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ”
“…………”
ถ้าไม่คิดจะพูดก็อย่าพูดสิ ถึงจะอยากบอกอย่างนั้นก็ตาม
ถ้ามัวแต่ต่อปากต่อคำจนเลือดขึ้นหน้าก็เท่ากับว่าพ่ายแพ้ไปแล้ว
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นการเตรียมงานสถาปนาชาตินั้นค่อนข้างยุ่ง มาเริ่มการประชุมต่อได้แล้วแล้ว”
มัลเกโด้แสดงท่าทางสบายๆออกมา
ที่ปรึกษาลูมาเนียแสดงสีหน้าประหลาดใจมากที่มัลเกโด้ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา—-คงคิดว่า “แสร้งทำเป็นอดทน” อยู่ก็ได้ เลยหัวเราะออกมาเบาๆ
ที่จริงแล้วมัลเกโด้เองก็มีข้อมูลที่พวกเขาไม่รู้อยู่—-นั่นคือ “สหพันธ์นักเรียน” กับ “สมรสรวม”
แน่นอนว่าที่ปรึกษาทั้ง 7 คนนี้ คงโดนประเทศแม่ของตัวเองตำหนิว่า “ทำไมถึงไม่รู้ข้อมูลพวกนี้มาก่อน” ก็ได้
(สมน้ำหน้า)
เธออยากจะแลบลิ้นออกมาเสียด้วยซ้ำ
* *
ย้อนเวลากลับไปเล็กน้อย ก่อนที่ฮิคารุจะเข้าต่อสู้กับเอิร์ทดรากอนกลายพันธุ์
เช้าตรู่ที่บอเดอร์ซาร์ด
พอลล่างีบหลับไปครู่หนึ่ง
“……หือ……อ้าว พอลล่า……?”
“!”
พอลล่าที่ตื่นขึ้นมา สังเกตเห็นว่าพริสซิลล่าค่อยลืมตาขึ้น
“พริสซิลล่า……! ฟื้นแล้วเหรอ!”
“จะว่าไป……โดนพิษไปหนักเลยแท้ๆ”
“ไม่เป็นไร มันไมเป็นไรแล้ว คงหิวใช่ไหม? เดี๋ยวจะเอาอาหารเช้ามาให้!”
“อะ อือ”
พอลล่าออกจากเต็นท์ไป
พริสซิลล่าเตรียมใจตายตั้งแต่ตอนที่โดนพิษไปแล้ว
พริสซิลล่าที่ถูกชุบเลี้ยงให้เป็นนายพราน รู้ดีว่ามนุษย์จะทนพิษได้ขนาดไหน พิษอันนั้นมันเป็นพิษที่โดนแล้วไม่มีหนทางช่วยอย่างแน่นอน ถึงไม่ใช่ระดับที่จะตายในทันที แต่ตอนที่สติหลุดลอยไปก็คิดขึ้นมาว่า “อ้า ตัวเองจะต้องตายแล้วงั้นหรือ”
แล้วทำไม—-ถึงยังมีชีวิตอยู่
“อึ้ก……แค่ก แค่ก!”
“เพีย”
“หือ พริสซิลล่า? อะ…อ้าว? ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ!?”
ทั้งคู่ลุกขึ้นมา
“มะ มันเกิดอะไรขึ้น? ฉัน จำได้ว่าท้องทะลุเป็นรูเลยไม่ใช่เหรอ!”
“ก็ยังเป็นท้องนุ่มนิ่มตามเดิมนี่”
“อย่ามาบอกว่านุ่มนิ่มนะ! แต่…จะว่าไป แผลหายแล้ว เหมือนกับไม่เคยมีแผลมาก่อนเลย”
แล้วพอลล่าก็กลับมา
“อ้า—-เพีย! ฟื้นแล้วเหรอ!? ดีจังเลย……ดีจริงๆเลย……”
สิ่งที่พอลล่าเอากลับมาคือซุปและขนมปัง
ถึงเพียกับพริสซิลล่าจะมีความสงสัยมากมาย แต่เนื่องจากไม่ได้กินอะไรมานานกว่าหนึ่งวัน ท้องเลยส่งเสียงร้องออกมา
ทั้งคู่เลยกินข้าวก่อน
ส่วนพอลล่าถึงจะดูดีใจ—-แต่ก็แสดงสีหน้าเหงาๆออกมาให้เห็น
“……แล้ว มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”
พอกินอาหารเสร็จ เพียถามพอลล่าด้วยท่าทีที่สงบ
“เอ่อ แบบว่า……ฉัน คงไปผจญภัยกับพวกเธอสองคนอีกไม่ได้แล้ว”
“————”
“————”
เพราะคำพูดนั้นมันผิดคาดกว่าที่คิดเอาไว้หรือเปล่า ทำให้ทั้งเพียและพริสซิลล่าถึงกับนิ่งเงียบไป
“อะ อะ อะไรกัน……เพราะพวกฉันพึ่งพาไม่ได้งั้นเหรอ?”
“ช่วยบอกเหตุผลมาที”
ทั้งสองคนพูดออกมา
“……ขอโทษที ไม่สามารถบอกเหตุผลได้”
“อะไรกัน!? อุตส่าห์รอดชีวิตมาได้แล้วแท้ๆ! พวกเรามันต่อจากนี้ต่างหาก”
“หรือว่า—-เกี่ยวข้องกับการรักษาบาดแผลพวกนี้?”
ถึงพริสซิลล่าจะดูเหมือนพวกไม่คิดอะไรมาก แต่ลางสังหรณ์กลับเฉียบคม
เพียเองก็ชะงักไป
“เพื่อที่จะ……รักษาบาดแผล ระ หรือว่า พอลล่ายอมขายร่างกายเพื่อแลกกับโพชั่นชั้นสูงงั้นเหรอ? จะบ้าเหรอ! มันเป็นใครกัน ที่มาฉวยโอกาสอย่างนี้!”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉัน—-ดีใจนะ ที่ทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงจะต้องแยกจากกับทั้งคู่ แต่ฉันก็มีความสุขมากที่ยังมีชีวิตอยู่”
ถึงอยากจะบอกว่า คิดเอาไว้อย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
ถ้าติดตามฮิคารุไปจะต้องทำอะไรบ้าง—-ทั้งไม่สบายใจ ทั้งตื่นแต้น มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด
“อะไรกัน……”
“ตัดสินใจแน่ชัดแล้วสินะ”
“อือ”
ถึงเพียจะยังทำใจยอมรับไม่ได้ แต่ดูเหมือนพริสซิลล่าจะเข้าใจดีแล้ว
พอลล่าเข้าใจดีเลยว่าทั้งคู่ต่างก็แสดงความรักที่มีในแบบของตัวเอง เพราะอย่างนั้นเลยดีใจมาก
“—-ตัดสินใจแล้ว”
เพียตบเข่าตัวเอง
“อยากจะตัดสินคนที่ทำการแลกเปลี่ยนโพชั่นกับพอลล่าด้วยตาของตัวเอง”
“อะ เอ๋!?”
“คนที่จะปกป้องพอลล่าคือฉันคนนี้ไง”
“ระ รอเดี๋ยวก่อนสิ เพียอย่าเข้าใจผิดไป ไม่ได้ต่อรองกับโพชั่นหรอกนะ”
“ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว! ต้องเป็นโพชั่นชั้นสูงแน่ๆใช่ไหม!? ถึงปิดบาดแผลได้เนียนขนาดนี้!”
“ไม่ใช่นะ! ที่รักษาทั้งคู่คือเวทมนตร์ของฉัน—-”
เผลอหลุดปากออกไป
“เอ๊ะ?”
“เวทมนตร์ของพอลล่า……งั้นเหรอ?”
ทั้งคู่จ้องมองพอลล่า
อย่างนี้ก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดไม่ได้แล้วด้วยสิ ท่านฮิคารุอุตส่าห์ย้ำแล้วว่าห้ามบอกใครแท้ๆ—-พอลล่ารู้สึกหน้าซีด