อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 111 เพื่อนของลาเวีย ดี มอร์คสแตท

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

              ลูกสาวของเคานต์—–คำที่ไม่ได้ถูกเรียกมาสักพัก

              พอหันไปทางนั้น ก็เห็นชายสองคนสวมผ้าคลุมสีเทาเดินเข้ามา คนหนึ่งตัวสูงอีกคนตัวเตี้ย

              ลาเวียเอาตัวมาบังพอลล่า

              “‘เหล่าภูตเอ๋ย ได้โปรดตอบรับเสียงของข้า จักเผาผลาญสิ่งมีชีวิตทุกสรรพให้มอดม้วยตามที่ข้าปรารถนา’—-”

              เริ่มร่ายเวท

              ทันใดนั้น

              “ว้าย!?”

              “พอลล่า!”

              พอลล่าที่อยู่ด้านหลังโดนใครสักคนฉุดตัวไป

              มีอีกคนอยู่ด้านหลัง

              “นังนี่! คิดจะปล่อยเวทมนตร์นั้นออกมางั้นเหรอ!”

              ชายร่างสูงที่อยู่ด้านหน้า ส่งเสียงโกรธออกมา

              พอลล่าโดนหญิงที่สวมผ้าคลุมสีเทาจับตัว พร้อมกับเอาของมีคมมาจ่อตรงคอ

              แน่นอนว่าเวทมนตร์ของลาเวียได้หายไปแล้ว

              ระยะห่างจากชายสองคนคือ 10 เมตร พอลล่ายังโดนผู้หญิงจับตัวอยู่และผลักให้เดินไปทางพวกผู้ชาย

              (ใครกัน—-ไม่สิ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ายิงเวทมนตร์ออกไปพอลล่าจะเป็นยังไง? ถ้าไม่ตายทันทีพอลล่าคงใช้เวทมนตร์ฟื้นฟู……ไม่ได้หรอก ถ้าพอลล่าไม่รวบรวมสมาธิก็จะใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูไม่ได้)

              ชายร่างสูงพอเห็นลาเวียกำลังสับสนก็พูดขึ้นมา

              “อย่าดีกว่า ถ้าเธอไม่ทำอะไรเกินความจำเป็น จะปล่อยให้เพื่อนรอดไปก็ได้ คึกๆ เพื่อนคนแรกตั้งแต่ได้ออกมาไม่ใช่เหรอ? เนอะ ลาเวีย ดี มอร์คสแตท”

              “…………

              “ตะ ตะ ตระกูลเคานต์มอร์คสแตทไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาต่างหาก”

              “หือ? เรื่องนั้นจะเป็นไงก็ช่างเหอะ”

              ชายตัวเตี้ยพูดกับชายร่างสูง แต่สิ่งที่ลาเวียประหลาดใจคือคำพูดที่บอกว่า—-“ตระกูลเคานต์มอร์คสแตท”

              กล่าวคือ พวกเขาไล่ตาม “ลาเวีย ดี มอร์คสแตท”

              นึกออกอยู่คนเดียวว่าใครส่งให้มาตามล่าลาเวีย

              “……ราชาของพอนโซเนียตามหาฉันอยู่งั้นเหรอ?”

              ชายร่างสูงยิ้มออกมา

              “ถ้ารู้แล้วก็ตามมาซะดีๆ ถ้าเพื่อนตายไปก่อนมันจะสายเกินแก้นะ”

              “…………”

              “โอ๊ะ ถ้าคิดจะยิงเวทมนตร์แล้วละก็ ระวังคอของเพื่อนจะกลายเป็นปากอีกอันนะ? ไม่ปล่อยโอกาสให้ยิงเวทมนตร์ที่ต้องร่ายนานหรอก”

              ลาเวียกัดฟันกรอด

              “……สัญญาสิว่าจะไม่ทำอะไรพอลล่า”

              “โอ้ว เลือกได้ฉลาดนี่ ถ้ายอมทำตัวว่าง่าย ทางนี้จะได้ประหยัดเวลาไง”

              “สัญญามาซะ!”

              “เข้าใจแล้ว สัญญาก็ได้ แต่ถ้าวันไหนเธอทำตัวแปลกๆแล้วละก็……”

              ชายร่างสูงเข้าไปใกล้พอลล่า

              “ว้าย”

              พอลล่าตัวแข็งทื่อ ส่วนชายคนนั้นแกว่งมีดที่ชักออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

              แล้วตัดเส้นผมของเธอจนร่วง

              “หยุดนะ!”

              “ลาเวียจัง ฉันเอาจริงนะ? อย่าได้คิดทำอะไรโง่ๆเชียว?”

              “เข้าใจแล้ว……บอกว่าเข้าใจแล้วไง”

              ลาเวียพูดกับชายที่กำลังจะแกว่งมีดอีกครั้ง

              พอลล่ามีน้ำตาไหลออกมา

              “……ขอโทษนะพอลล่า ที่ลากเธอเข้ามาพัวพันกับปัญหาของฉัน—-”

              “ไม่มีเวลาให้ลาหรอก—-นี่ แกสองคนไปพาตัวคุณหนูมาได้แล้ว”

              พอชายร่างสูงพูดออกมา ผู้หญิงก็นิ่งเงียบจ้องมองชายคนนั้น

              “เร็วเข้า จัดการให้เรียบร้อยก่อนที่จะเกิดความวุ่นวาย ปล่อยผู้หญิงไว้ตรงนั้นแหละ ห้ามให้ใครมาเห็นคุณหนูจนกว่าจะไปถึงรถม้านะเฟ้ย”

              “…………”

              “บอกว่าให้เร็วๆเข้าไง!”

              “…………”

              เธอคนนั้นผลักพอลล่าให้กับชายร่างสูง

              “อย่ารุนแรงกับพอลล่าสิ!”

              “……ตามมา”

              “ทะ ทะ ทางนี้”

              ผู้หญิงกับชายตัวเตี้ย ขนาบข้างลาเวีย

              พร้อมกับผลักหลังให้เธอเดินไป

              พอส่งสายตาที่ห่วงใยมาทางพอลล่า—-พอลล่าก็มองลาเวียทั้งที่น้ำตานองหน้า

              ‘ฉันไม่เป็นไรหรอก’

              พอลล่ารู้สึกว่าลาเวียขยับริมฝีปากราวกับจะบอกอย่างนั้น

              “หา? พวกแกพูดอะไรกัน—-”

              “ถุย”

              ตอนนั้นเองที่ลาเวียถ่มน้ำลายใส่ชายร่างสูง

              น้ำลายไปโดนหน้าผากของชายคนนั้น

              “……ทำอะไรของแกหา!!”

              “อึ้ก!?”

              ตอนที่ลาเวียกำลังจะเดินผ่าน ก็โดนชายร่างสูงเตะใส่

              ลาเวียที่โดนจับอยู่ ถึงกับล้มไปด้านหน้า

              “……คิดจะทำอะไร!”

              “นะ นะ นี่”

              “เพราะนังนี่มันได้ใจเกินไป! พวกโง่ๆอย่างแกจับให้ดีๆหน่อยสิ!”

              ลาเวียค่อยๆลุกขึ้น และจ้องมองชายร่างสูงด้วยสายตาที่เย็นชา

              แล้วผู้หญิงคนนั้นก็พาเลี้ยวหัวมุมไป

              “ชิ……จะทำให้เธอร้องออกมาให้ได้เลย”

              ชายร่างสูงเช็ดน้ำลายพร้อมกับพูดส่งท้ายออกมา

              “พะ พะ พวกคุณเป็นใครกันคะ……”

              “พวกฉันเหรอ? นั่นสินะ……จะบอกให้ก็ได้ พวกฉันเป็นทหารประจำการของพอนโซเนียไง”

              “—-เอ๊ะ?”

              ทหารของราชอาณาจักรพอนโซเนียที่ตัวเองเติบโตมา

              พอลล่าไม่สามารถปิดบังความประหลาดใจที่ได้ยินว่าเป็นทหารประจำการ ดูยังไงก็เหมือนพวกโจรมากกว่า

              “หน่วยพิเศษที่ขนาดเด็กร้องไห้ยังต้องเงียบไง—-อ้อ พวกมือใหม่คงไม่รู้จักหรอก พวกฉันได้รับการจ้างวานเพราะฝีมือดีไง เป็นหน่วยที่ขึ้นตรงกับพระราชาเลย ทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นลักพาตัว, ปล้นสะดม รวมไปถึงฆ่าคน”

              “กะ โกหก……”

              “มาถึงขนาดนี้แล้วไม่พูดโกหกหรอก”

              ริมฝีปากของชายคนนั้นบิดเบี้ยว ก่อนจะแลบลิ้นออกมา

              “กับคนที่จะตายอย่างเธอ”

 

                 *  *

 

              “!”

              คนที่รู้สึกถึงความผิดปกติคือเซริก้า

              เธอเงยหน้ามองท้องฟ้า

              “มีอะไรเหรอเซริก้า”

              “ดูสิ ตรงโน้นมีวงอาคม!”

              “ไม่มีนี่”

              “เอ๊ะ? ตรงไหนเหรอ?”

              “หายไปแล้ว!”

              วงอาคมปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าแค่ครู่เดียว

              ไม่ผิดแน่ๆ วงอาคมของผู้ใช้เวทมนตร์เหนือกำแพงดิน—-เซริก้าคิดเช่นนั้น

              โซริสกับซาร่าไม่เห็นอย่างนั้นหรือ

              “ไปกันเถอะ!”

              “เดี๋ยวสิเซริก้า!”

              เซริก้าออกวิ่ง

              (แปลก!)

              แปลกที่จู่ๆก็หายไป แถมแปลกที่มันปรากฎขึ้นมาอย่างสะดุดตา ตามปกติไม่มีความจำเป็นต้องให้วงอาคมอยู่สูงขนาดนั้นเลย ยิ่งห่างยิ่งสร้างวงอาคมได้ยากขึ้น ในสนามรบเมื่อวานเองก็ไม่ได้ร่ายสูงขนาดนั้น

              หมายความว่า มันไม่ใช่เวทมนตร์ที่จะใช้ภายในเมือง

              ถ้าคิดจะซ่อนตัวแล้วละก็ ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ สิ่งนั้นราวกับต้องการจะบอกว่า “ฉันอยู่ตรงนี้” เลย—-

              “! อย่างนี้นี่เอง! ต้องการจะบอกตำแหน่งสินะ!”

              “บอกตำแหน่ง?”

              โซริสกัซาร่าตามเซริก้าที่วิ่งสุดแรงได้อย่างไม่ยากเย็น

              “ต้องการจะบอกใครสักคนว่า! ‘ฉันอยู่ตรงนี้’! กล่าวคือ ‘สัญญาณขอความช่วยเหลือ’ ไง!”

 

                 *   *   

 

              พอลล่าที่โดนบอกว่า—-จะต้องตายตรงนี้

              “เอ๊ะ?”

              ทำได้แค่ส่งเสียงแปลกๆออกมา

              “ฮะๆ! คิดว่าจะได้มีชีวิตรอดกลับไปงั้นเหรอ? คนที่เห็นเหตุการณ์ลักพาตัวอย่างเธอมันต้องโดนฆ่าอยู่แล้ว?”

              “ตะ แต่ เมื่อกี้สัญญา—-”

              “สัญญาอยู่หรอก? แล้วไง?”

              “———-”1

              พอลล่าหน้าซีด

              ตั้งใจจะฆ่าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกโจรลักพาตัวไม่มีทางรักษาสัญญาอยู่แล้ว

              “ลาขาด อย่าคิดขยับตัวเชียว? ถ้าขยับแล้วไม่ตายทันทีมันจะทรมานเอานะ?”

              ชายร่างสูงเอื้อมมือมาจับคอเสื้อ

              “————”

              ส่งเสียงไม่ออก จะสะบัดแขนก็ยังไม่ได้ ทรมาน หายใจไม่ออก

              ชายคนนั้นแกว่งมีดลงมา

              (ทำไม……ถึงเป็นอย่างนี้—-)

              พอลล่าภาวนา

              ไม่ใช่ต่อพระเจ้า

              (ช่วยด้วย……ช่วยด้วย……! อย่างน้อยขอแค่ลาเวียก็ยังดี!)

              ต่อตัวตนที่เทียบเคียงกับพระเจ้าของเธอในตอนนี้

              (ท่านฮิคารุ—-)

              กิ้ง

              เสียงโลหะดังกึกก้อง

              มีดของชายคนนั้นกระเด็นขึ้นฟ้า ก่อนจะปักลงมาตรงพื้น

              “อึ้ก!? ใคร!?”

              ก้อนหินโดนมีดเต็มๆ พอลล่าหลับตาอยู่เลยมองไม่เห็น

              พอเธอรู้สึกถึงความผิดปกติเลยลืมตาขึ้น

              ตรงซอยที่ไม่มีใคร—-จู่ๆก็ปรากฎเงาคนขึ้นมา

              สิ่งที่อยู่ตรงนั้นมันเบลอๆ ก่อนจะเริ่มชัดเจน—-และปรากฎตัวออกมา

              “พอลล่า เฉียดตายอีกแล้วนะ? ต้องสาปหรือเปล่าเนี่ย”

              ฮิคารุพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท