ตอนที่ 114 การติดต่อจากจตุรดาราแห่งบูรพา
“อ้า……! ยินดีต้อนรับกลับมานะ!”
ฮิคารุที่กลับมาบอเดอร์ซาร์ด เจอพอลล่าที่กิลด์นักผจญภัย
ด้านหลังมีจตุรดาราแห่งบูรพาทั้ง 4 คนยืนอยู่ แถมด้านหลังนั้นยังมีพนักงานกิลด์และทหารยามอีกหลายคน
พอลล่าวิ่งมาจับมือของฮิคารุ ก่อนจะสังเกตุเห็นลาเวียที่อยู่ด้านหลังเขา
“ดีจังเลยที่ปลอดภัย……”
เธอน้ำตาไหล
“—-ต้องอโทษด้วยที่ขัดจังหวะซึ้งนี้ แต่มีเรื่องที่อยากจะถามอยู่หลายอย่าง”
คนที่ส่งเสียงออกมาโซริส
“พอลล่าน่าจะบอกไปหมดแล้วนี่? คู่หูของผมโดนลักพาตัว ดังนั้นเลยจัดการชายที่ก่อเรื่องนี้ แล้วอย่างที่บอกว่าไปทวงคู่หูกลับมา แถมจับผู้สมรู้ร่วมคิดคนหนึ่งไว้ตรงทางนั้นแล้วด้วย”
“กล่าวคือเป็นผู้เสียหาย และทำไปโดยคิดว่าคงไม่มีปัญหาสินะ?”
“แน่นอน—–”
“แค่นั้นไม่ได้หรอก!”
คนที่ส่งเสียงลนลานออกมาคือทหารยาม—–ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าหน่วย
“คนที่นายทำร้าย เขาบอกว่าเป็นทหารทางการของราชอาณาจักรพอนโซเนีย ซึ่งพวกฉันได้ตรวจสอบชายคนนั้นแล้ว มันไม่ใช่การลักพากตัวสักหน่อย”
“ทหารทางการของพอนโซเนียข้ามชายแดนมาอย่างนี้มันไม่มีปัญหาเหรอ?”
“เขาให้การว่าหลงระหว่างการฝึกเดินทางไง”
ฮิคารุคิดว่ามันงี่เง่ามาก ชายที่เป็นเหมือนหัวหน้าหน่วยคงรู้อยู่แล้ว ว่าสิ่งที่ชายคนนั้นบอกเป็นเรื่องโกหก
แต่คงไม่อยากให้เกิดความขัดแย่งกับพอนโซเนีย และโดนมุ่งเป้าความโกรธแค้นมาทางสหพันธรัฐฟอเรสเทีย
เลยคิดจะโยนความผิดว่า “นักผจญภัยเป็นคนทำโดยพลการ ไม่เกี่ยวข้องกับสหพันธรัฐ” ตามคำให้การของชายหน่วยพิเศษ
ตอนที่ฮิคารุจะโต้แย้ง โซริสก็เป็นคนเอ่ยปากออกมาก่อน
“ท่านหัวหน้าหน่วย คำให้การของชายคนนั้นมีจุดน่าสงสัยหลายจุด ไม่สามารถเชื่อถือได้ ยิ่งไปกว่านั้นคิดว่าในฐานะของกิลด์นักผจญภัยฉันคิดว่าควรฟังคำพูดของเด็กหนุ่มคนนี้ค่ะ”
“กิลด์นักผจญภัยงั้นเหรอ……?”
“เด็กหนุ่มคนนี้กับสาวน้อยที่อยู่ด้านหลัง มีความเป็นไปได้สูงที่มีส่วนช่วยสูงสุดในการขับไล่การรุกรานของมอนสเตอร์ในครั้งนี้ค่ะ”
คำพูดของโซริส ทำให้ความเงียบกลับคืนสู่ห้องโถงของกิลด์นักผจญภัยอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มวุ่นวาย
“หา? เป็นไปไม่ได้”
“ถ้าเด็กพวกนี้เป็นผู้มีส่วนช่วยสูงสุด ฉันคงเป็นวีรบุรุษไปแล้ว”
“เดี๋ยวสิ เด็กผู้หญิงคนนั้น เป็นเด็กที่ยิงเวทมนตร์ไฟขนาดใหญ่ใส่มอนสเตอร์ไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วเด็กผู้ชายคนนี้ละ?”
“จะไปรู้เหรอ”
พูดอะไรอย่างนั้นออกมา
(กลายเป็นเรื่องยุ่งยากจนได้)
ฮิคารุระแวงท่าทีของโซริสมาก
เธอพูดชักจูงให้ฮิคารุตกเป็นเป้าสายตามากขึ้นเพื่อปิดหนทางหนี การที่ยกยอฮิคารุอย่างนี้มองแวบแรกยังรู้เลยว่าน่าประหลาด
(ถ้าทางนู้นคิดจะทำอย่างนี้แล้วละก็ ทางนี้เองก็มีวิธีของทางนี้เหมือนกัน)
หัวหน้าหน่วยดูเหมือนจะไม่เชื่อคำพูดของโซริส
“ถ้าอย่างนั้นท่านโซริสอยากจะบอกว่าเด็กหนุ่มสาวตรงนี้ ทำงานหนักยิ่งกว่านักผจญภัยและทหารยามที่อยู่ตรงนี้งั้นเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
“เรื่องนั้นเกินไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้มีรายงานเข้ามาว่ามีมังกรดินขนาดใหญ่ปรากฎตัวออกมาด้วย จตุรดาราแห่งบูรพาทุกคนมาอยู่กันตรงนี้จะไม่เป็นไรแน่เหรอ?”
“คิดว่าเกี่ยวกับเรื่องของมังกรดินคงไม่มีปัญหาค่ะ”
“ฮะๆ สมกับที่เป็นนักผจญภัยระดับ B ขนาดมีมังกรขนาดใหญ่ที่สามารถทำลายกำแพงปราสาทได้ยังใจเย็นอย่างนี้เนี่ย”
“ไม่ได้หมายความอย่างนั้นค่ะ มังกรดิน ‘โดนกำจัด’ ไปแล้วค่ะ”
“……หา? เมื่อสักครู่ เพิ่งมีรายงานว่ามีมังกรดินปรากฎตัวไม่ใช่เหรอ”
“เกรงว่าหน่วยสอดแนมพอเห็นมังกรดินก็หนีออกมาทันที หลังจากนั้นก็โดนกำจัดไปแล้วค่ะ”
“คะ ใครกัน……”
“อย่างที่บอกไปเมื่อครู่ เด็กหนุ่มที่อยู่ตรง—–”
โซริสที่กำลังจะพูดถึงกับหยุดลง
เด็กหนุ่มสาว 3 คนที่วครจะอยู่ตรงนี้ หายไปแล้ว
“เอาละ ถ้ามาถึงตรงนี้คงไม่เป็นไรแล้ว”
ฮิคารุปลด “อำพรางหมู่” ตรงตรอกด้านหลัง ถ้าจะให้พูดง่ายๆ แค่ถอยออกห่างจากพวกเขา เพราะคิดว่า—-ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
คงอยู่ที่เมืองนี้นานไม่ได้
“จะ จะดีหรือคะท่านฮิคารุ!? แอบหนีออกมาอย่างนี้! แต่จะว่าไปทำไมทุกคนถึงไม่รู้ตัวคะเนี่ย!?”
“ก็ปล่อยให้พวกนั้นไปคุยกับพอนโซเนียเท่าที่รู้เองเองก็พอ”
“อือ ฮิคารุพูดถูกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น—–คุณพอลล่า”
ลาเวียกุมมือของพอลล่า
“ขอโทษด้วยนะ……ที่ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างคุณต้องเข้ามาพัวพัน ไม่บาดเจ็บใช่ไหม? กลัวหรือเปล่า?”
“ไม่เป็นไรค่ะ……เพราะท่านฮิคารุรีบมาทันที แล้วคุณลาเวียเป็นอย่างไรบ้างคะ……”
“ทางนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะท่านฮิคารุรีบไล่ตามมาเหมือนกัน”
“สมเป็นท่านฮิคารุ”
“ยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ?”
“ค่ะ!”
ฮิคารุเกิดข้อสงสัยขึ้นมา……ว่าทำไมทั้งคู่ถึงได้เปลี่ยนมาพูดถึงผม?
ทั้งที่ลาเวียอายุน้อยกว่า 3 ปีแท้ๆ แต่ปฏิบัติตัวเหมือนอยู่รุ่นเดียวกัน—–ส่วนพอลล่ากลับทำตัวเหมือนเป็นรุ่นน้อง
“ฮิคารุ หลังจากนี้จะเอายังไงต่อเหรอ?”
“……นั่นสินะ ให้ทั้งคู่ไปที่สกาล่าซาร์ดก่อนก็แล้วกัน”
“ฮิคารุจะไปที่อื่นก่อนเหรอ?”
“อือ”
ฮิคารุเอื้อมมือไปปัดฝุ่นที่อยู่ตรงเสื้อของลาเวีย
รอยเปื้อนตอนที่โดนชายหน่วยพิเศษถีบใส่หลัง
“……โดนทำถึงขนาดนี้ จะไม่จัดการกับนายจ้างของพวกนั้นก็คงไม่ได้?”
“ฮิคารุ……บางทีน่าจะเป็นราชาของพอนโซเนียก็ได้”
“เอ๋!? ทะ ท่านราชา!? พะ พูดเรื่องอะไรกันหรือคะ!?”
“อ้อ อยากไปต่อยราชาสักหมัดไง”
“ท่านฮิคารุ!?”
ลาเวียถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ส่วนพอลล่าแสดงท่าทีสับสนออกมา
“ฮิคารุ……หรือว่าเธอจงใจ—-ปล่อยให้หนึ่งในนั้นหนีไปงั้นเหรอ?”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”
“ฮิคารุสามารถจัดการได้โดยไม่รู้ตัวอยู่แล้วนี่? แล้วทำไมถึงส่งเสียงออกมา”
ฮิคารุยิ้มราวกับจะบอกว่าถูกต้อง
ลาเวียฉลาดมาก แถมลางสังหรณ์ยังเฉียบคมอีก
อย่างที่เธอว่าไว้ ฮิคารุ “จงใจส่งเสียง” ออกไปยังชายร่างเตี้ยที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ ทั้งที่ถ้าโจมตีใส่ด้านหลังเลยคงจบไป
มันมีเหตุผลอยู่ ที่ส่งเสียงหาผู้ชายเพื่อให้ผู้หญิงที่ใช้ “อำพรางพลังชีวิต” เผยตัวออกมา—-แน่นอนว่าถ้าใช้ “ตรวจจับพลังเวท” คงหาเจออยู่หรอก แต่มันสร้างภาระให้กับสมองของฮิคารุมากเกินไป เลยไม่อยากใช้มัน
ระหว่างนั้นต่อให้ผู้หญิงหนีไปก็ไม่เป็นไร
สุดท้ายแล้วมันให้ผลตรงกันข้าม ผู้หญิงหมดสติ ส่วนผู้ชายหนีไป
“อย่างนี้ชายคนนั้นคงไปรายงานให้กับนายจ้างแล้ว แถมน่าจะบอกว่า ‘โดนจัดการกลับมา’ หลังจากนั้นค่อยไปหาโดยตรง ถ้าทำอย่างนั้น—-น่าจะได้รับความเสียหายทางจิตใจมากกว่าไง? ถ้าไปหาโดยไม่รู้เรื่องอะไร คงแค่งงเป็นไก่ตาแตกเฉยๆ”
“ฮิคารุ……เธอเนี่ย นิสัยดีจริงๆเลยนะ”
“แน่นอน ลงมือกับลาเวียของผมขนาดนี้ก็ต้องโกรธอยู่แล้ว”
“…………อืม”
ลาเวียแก้มแดงเล็กน้อย เธอจับปลายนิ้วของฮิคารุก่อนจะหันออกข้าง คงจะเขินอายอยู่
“—-ถึงจะไม่รู้ว่าพูดถึงอะไรกัน แต่ความสัมพัน์ของทั้งคู่นี่น่าอิจฉามากเลยค่ะ!”
พอลล่าตะโกนออกมา
มาถึงสถานที่จอดรถม้าของบอเดอร์ซาร์ด
ให้สาวน้อยสองคนขึ้นไปบนรถม้า โดยลาเวียใช้งาน “ลอบเร้น” ส่วนพอลล่าให้สวมผ้าคลุมที่มีความสามารถ “ลอบเร้น” และฮิคารุมอบศิลามังกรที่เอามาจากมังกรดินให้ทั้งคู่ เพราะถ้าเขาเอาไปด้วยมันค่อนข้างเกะกะ
คิดว่าจตุรดาราแห่งบูรพาที่อยู่ในพอนโซเนียเป็นหลังคงไม่ไล่ตามไปถึงสกาล่าซาร์ด ถึงจะยังสงสัยในการเคลื่อนไหวของทหารยาม ไว้ค่อยไปคุยกับราชินีมัลเกโด้ก็แล้วกัน
และมันได้จังหวะพอดีเลยที่รถม้าออกไปก่อนที่คนไล่ล่าจะตามมา
ฮิคารุมองส่งรถม้าที่มุ่งหน้าไปสกาล่าซาร์ด
“เอาละ……ถ้างั้นต้องไปลงโทษไม่ให้มายุ่งกับลาเวียอีกเป็นครั้งที่สองแล้ว”
ฮิคารุเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา—-ตอนนั้นเอง
“หือ เด็กคนนั้นชื่อลาเวียงั้นเหรอ?”
“!?”
ไม่รู้เลยว่าเข้ามาใกล้ตั้งแต่เมื่อไร
ซาร่านั่นเอง
แถมห่างออกไปมีอีก 3 คนคือโซริส ชูพี่ และเซริก้า
“อ้า ช่วยมากับพวกพี่สาวสักแป็บได้ไหม?”
ฮิคารุพยายามจะเอื้อมมือไปยังวากิซาชิตรงเอว
“อ้อ ไม่ต้องห่วงๆ ไม่คิดจะส่งเธอให้กับพวกทหารยามอยู่แล้ว และจะไม่บอกข้อมูลกับทางกิลด์ด้วย—-อย่างนั้นโอเคไหม?”
“เชื่อใจไม่ได้”
“อยากจะให้เชื่อสักหน่อย โซริสบอกว่าถ้าเป็นเงื่อนไขนี้เธออาจจะยอมรับมันก็ได้ไง”
โซริสอีกแล้วงั้นเหรอ
พอส่งสายตาเอือมระอาไป ก็เห็นโซริสยิ้มและโบกมือมาให้
“ถ้าหากไม่เอาด้วย……จะบอกข้อมูลของเธอให้กับทหารยามและกิลด์ รวมไปถึงเรื่องของเด็กที่ชื่อลาเวีย—-”
“ถ้าลงมือกับลาเวีย รับรองว่าจะต้องเสียใจ”
ซาร่าที่ตอนแรกมีสีหน้าสบายๆเปลี่ยนไปในทันที พร้อมกับถอยห่างออกจากฮิคารุไปหลายก้าว
“……โห……”
หลังจากนั้นเธอก็พยายามทำสีหน้าสบายๆกลบเกลื่อน
“น่ากลัวนะเนี่ย เธอจิตสังหารหลุดออกมาแล้ว ซ่อนหน่อยๆ”
“…………”
“เข้าใจแล้ว ใจเย็นๆลงหน่อย—-แต่ พวกฉันเองก็ไล่ตามอยู่เหมือนกันนะ? เรื่องของลาเวีย ดี มอร์คสแตท เธอเป็นคนพาเธอหลบหนีจากพอนโซเนียใช่ไหม?”
การที่ได้รับเบาะแสจากสิ่งที่ตัวเองเผลอพูดออกไปนิดหน่อยเนี่ย……ทำให้ฮิคารุรู้เลยว่าดูถูกจตุรดาราแห่งบูรพามากเกินไป
“พวกฉันเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน มาที่นี่เพราะมีเรียกรวมพลด่วน ไม่นึกเลยว่ามีผู้ใช้เวทมนตร์ไฟระดับนั้น แถมเธอคนนั้นยังชื่อ ‘ลาเวีย’ อีก ไหนจะเธอที่เคยเห็นตอนอยู่ชานเมืองพอนด์……เลยชวนให้คิดว่า เธอเป็นคนพาหนีมาที่สหพันธรัฐฟอเรสเทียใช่ไหม อ้อ แต่ว่านะ? ตอนนี้ไม่คิดจะตามพวกเธอแล้ว? พวกฉันเองก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้นด้วย ดังนั้นอยากจะให้ช่วยบอกมาตามตรง พวกฉันเองก็ไม่ได้ลงมืออะไรกับลาเวียจังหรือพอลล่าจังด้วยใช่ไหมล่ะ? เชื่อใจกันหน่อยสิ”
“……อยากถามอะไร?”
พอฮิคารุพูดออกไปอย่างนั้น ซาร่าถอนหายใจออกมาเบาๆราวกับยกภูเขาออกจากอก
“เปลี่ยนที่กันเถอะ ทุกคนในปาร์ตี้อยากจะคุยกับเธอ โดยเฉพาะเซริก้า เหมือนจะเป็น……เรื่องของญี่ปุ่นอะไรสักอย่างนี่แหละ”