ตอนที่ 115 ความคิดของจตุรดาราแห่งบูรพา
มาที่ห้องพักของจตุรดาราแห่งบูรพา ตอนแรกว่าจะคุยกันที่ร้านอาหาร แต่จตุรดาราแห่งบูรพาเป็นกลุ่มที่สะดุดตาเกินไป ซึ่งฮิคารุอยากไปที่ที่ไม่เป็นเป้าสายตาเลยจบลงที่ห้องพัก
มันเป็นห้องแคบๆที่มีเตียงเรียงอยู่ 4 อัน
“นึกว่านักผจญภัยระดับ B จะอยู่ห้องดีกว่านี้ซะอีก”
โซริสยิ้มเจื่อนๆ
“ต่อให้มีเงินมากแค่ไหน แต่ที่พักของบอเดอร์ซาร์ดมันมีน้อย แถมได้ห้องพักอย่างนี้ไม่ใช่เต็นท์ก็ถือว่าได้อภิสิทธิ์แล้ว—-เอาละ นั่งสิ”
“ตรงไหน?”
“เตียงไง”
“………….”
ทั้ง 4 คนนั่งอยู่บนเตียงของแต่ละคน ส่วนฮิคารุยืนพิงอยู่ตงรประตูทางเข้า
“…….ตรงนี้ดีกว่า”
พอเขาบอกอย่างนั้น โซริสก็ทำหน้าตาน่าสนุกออกมา แต่ก่อนที่เธอจะได้พูด เซริก้ากลับชิงถามออกมาก่อน
“มีเรื่องที่อยากจะถามอยู่!”
“จะถามก็ไม่ว่าหรอก แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าจะตอบเท่าที่ต้องตอบเท่านั้น ผมในตอนนี้ไม่ใช่เพื่อนของพวกเธอ”
ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆ แต่โซริสยังทำสีหน้าน่าสนุกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ซาร่านอนเล่นสิ่งที่เหมือนห่วงกล ชูฟี่เอียงศีรษะพร้อมกับยิ้มออกมา ส่วนเซริก้าไม่สนใจเรื่องนั้น
“ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร!”
เธอพูดออกมาอย่างนั้น
ประสบการณ์ตามวัย หรือว่าประสบการณ์การใช้ชีวิตกันแน่ แต่ดูเหมือนทางนู้นจะเหนือกว่า
“เอาเถอะ……แล้วอยากจะถามอะไรกัน?”
“เวทมนตร์ไฟนั้นมันอะไรเหรอ!”
ฮิคารุนึกว่าเธอจะถามเรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่น แต่เซริก้ามองความคิดของฮิคารุออกเลยบอกออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ‘ไว้ค่อยถามตอนสมาชิกคนอื่นไม่อยู่’
“……ไม่อยากโดนกักตัวไว้นานด้วย เอาเถอะก็ได้—-เกี่ยวกับเวทมนตร์ไฟที่ใช้จัดการมอนสเตอร์คือ ‘เฟรมกอสเพล’ ไม่ใช่เวทมนตร์ที่น่าประหลาดสักหน่อยนี่?”
“เวทมนตร์ไฟระดับสูงสินะ! จริงอยู่ว่ามันเป็นเวทมนตร์ที่ใครๆก็รู้จัก แต่คนที่ใช้มันได้มีน้อยมาก! แถมไม่เคยรู้เลยว่าสามารถยิงต่อเนื่องอย่างนั้นได้ด้วย!”
“เหรอ แต่เกี่ยวกับเรื่องนั้นโนคอมเมนต์”
“เพราะปริมาณพลังเวทสูงมากงั้นเหรอ!?”
“โนคอมเมนต์”
“เวทมนตร์ไฟกับเธอคนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารเคานต์หรือเปล่า!?”
“ไม่เลย คนที่ฆ่าเคานต์ไม่ใช่ลาเวีย”
“ถ้างั้นใครเหรอ!?”
“โนคอมเมนต์”
“เธอรู้จักคนร้ายใช่ไหม!?”
“โนคอมเมนต์”
“คนที่พาคุณหนูลาเวียหนีคือเธอเหรอ!?”
“โนคอมเมนต์”
“ฮึมมมม!”
“—-ช่วยบอกเกี่ยวกับเวทมนตร์ฟื้นฟูของ พอลล่า โนร่าได้ไหมคะ?”
คนที่พูดออกมาคือชูฟี่
“ผมไม่เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ฟื้นฟู”
“อย่างนั้นหรือคะ ถ้าอย่างนั้นขออธิบายหน่อยค่ะ คุณพอลล่าสามารถฟื้นฟูร่างกายที่ขาดหายไปได้ และสามารถรักษาคนที่กลายเป็นหินให้หายขาด ถ้าเทียบกับมาตรฐานของราชอาณาจักรพอนโซเนีย ต้องบอกว่าอยู่ระดับแนวหน้าในราชอาณาจักรเลยค่ะ ถ้าจะให้บอกต่อให้ฉันใช้พลังเวททั้งหมดที่มีก็ไม่รู้ว่าจะสามารถทำได้หรือเปล่าค่ะ แน่นอนว่า หลังจากใช้เวทมนตร์แล้วคงสลบไปอย่างแน่นอนเลยค่ะ”
“…………..”
ฮิคารุเริ่มปวดหัว และคิดขึ้นมาว่าพอลล่าทำอะไรลงไปบ้าง
“……เธอเห็นพอลล่าที่ไหนเหรอ?”
“ห้องโถงที่พานักผจญภัยที่บาดเจ็บมานอนค่ะ ถึงจะรักษาคนส่วนใหญ่เสร็จแล้ว……แต่คนอื่นๆ……”
คำพูดของชูฟี่ขาดช่วงลง
คนที่รักษาไม่ทันคงเสียชีวิตไปแล้วก็ได้
ผู้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูชูฟี่ บลูมฟิลด์คนนี้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่เหมือนกับแม่พระซึ่งอุทิศตนเพื่อรักษาผู้บาดเจ็บ—–นั่นคือข้อมูลจตุรดาราแห่งบูรพาที่ฮิคารุรวบรวมมา
กล่าวคือการที่เธออยู่ตรงนี้ แสดงว่าเธอทำในสิ่งที่ควรทำเสร็จแล้ว หรือไม่ก็กำลังรอให้พลังเวทฟื้นตัวอยู่
“อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ ผมไม่เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ฟื้นฟู ดังนั้นคงบอกอะไรไม่ได้”
“อย่างนั้น หรือคะ……ถ้าหากมีพลังของคุณพอลล่า คงช่วยชีวิตของผู้คนจำนวนมากได้อยู่……”
คำพูดนั้นทำให้ฮิคารุถึงกับขมวดคิ้ว
“เวทมนตร์ฟื้นฟูที่พอลล่าใช้ ถ้าตีเป็นเงินมันราคาประมาณเท่าไรเหรอ?”
“เอ๊ะ?”
“ตามปกติ นักผจญภัยจะรักษาบาดแผลด้วยโพชั่น หรือไม่ก็ไปขอร้องผู้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูใช่ไหม? ไม่ว่าทางไหนก็ต้องใช้เงินไง”
“ส่วนใหญ่ ก็อย่างนั้นค่ะ”
“ถ้ามันสามารถช่วยชีวิตที่เกือบตายได้ แล้วนักผจญภัยคนนั้นมีปัญญาจ่ายหรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่ผมอยากรู้”
“……คนไหนไม่มีเงินจะปล่อยให้ตายอย่างนั้นหรือคะ?”
ชูฟี่ที่ร่าเริง จ้องมองฮิคารุ
สายตาของสาวงาม นั้นค่อนข้างแหลมคม
“พื้นฐานของนักผจญภัยคือ ‘รับผิดชอบตัวเอง’ สิ่งที่เธอทำอย่าง ‘การรักษาให้ฟรี’ ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ ‘ประเสริฐ’ อยู่ สมมติว่าถ้าซาร่าที่ไปสอดแนมมังกรดินกลับมาในสภาพบาดเจ็บหนัก—-แล้วพลังเวทของเธอไม่เพียงพอจะทำยังไง?”
ซาร่าหยุดมือที่เล่นห่วงกลแล้วชำเลืองมองมาทางฮิคารุ
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ฉันจะเปลี่ยนชีวิตของฉันเป็นพลังเวท เพื่อรักษาซาร่าค่ะ”
ฮิคารุไม่รู้เลยว่ามีวิธีการอย่างนั้นด้วย
แต่จะรู้หรือไม่รู้ คำตอบของฮิคารุก็ไม่เปลี่ยนแปลง
“……งี่เง่าจริงๆ เธอคิดว่าพวกพ้องจะดีใจที่ชีวิตของเธอลดลงงั้นเหรอ?”
“การที่ฉันอยู่แนวหลัง เพื่อช่วยชีวิตของคนจำนวนมาก ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยชีวิตของจตุรดาราแห่งบูรพาทุกคนสักหน่อย การที่มีพลังแล้วไม่ช่วยชีวิตที่ช่วยได้ ไม่คิดว่าเย่อหยิ่งเกินไปหน่อยหรือคะ”
“ผมไม่คิดอย่างนั้น การคิดว่า ‘ช่วยเหลือ’ นักผจญภัยที่รู้อยู่แล้วว่าต้องรับผิดชอบตัวเองต่างหากที่เป็นการหยิ่งผยอง”
“ถ้ามีชีวิตที่ช่วยได้ในระยะที่เอื้อมถึง ไม่คิดจะช่วยอย่างนั้นหรือคะ?”
“การที่พวกนั้นยินดีกับการรักษาของเธอเพราะว่ามันฟรีไง”
“มันไม่เกี่ยวหรอกค่ะว่ามันฟรี แล้วก็—-”
“เอ้า พอแค่นั้นแหละ”
โซริสปรบมือ 2 ครั้งเพื่อจบการโต้เถียงนี้
“ทั้งคู่ยังไม่รู้จักกันดี โต้เถียงไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก หัวข้อนี้ไว้รู้จักกันดีกว่านี้แล้วค่อยมาพูดกันน่าจะดีกว่านะ”
“……อือ เอาอย่างนั้นก็แล้วกันค่ะ”
“ฮึ”
นักบุญสายแข็งของแท้—-ฮิคารุคิดเช่นนั้น
ไม่มีทางลงรอยกับฮิคารุที่มีแนวคิดว่าชีวิตของตัวเองต้องดูแลด้วยตัวเองอยู่แล้ว
“ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ขอไปสูดอากาศข้างนอกก่อนนะคะ”
ชูฟี่บอกอย่างนั้น ก่อนจะเดินผ่านข้างฮิคารุออกไปข้างนอก แล้วซาร่าก็เหมือนจะได้สติกลับมา
“แปลกนะเมี้ยว ที่ชูฟี่แสดงอารมณ์อย่างนั้นออกมา”
“……อย่างนั้นเหรอ?”
“ครั้งนี้มีคนตายค่อนข้างมากไง ดังนั้นชูฟี่เลยรู้ซึ้งถึงความอ่อนด้อยในพลังของตัวเองก็ได้นี่?”
ซาร่าเด้งตัวขึ้นมา
“—-แล้วก็นะฮิคารุคุง เธอเป็นคนจัดการมังกรดินใช่ไหม? ถึงรู้ว่าฉันไปสอดแนมมังกรดินเนี่ย”
“โนคอมเมนต์”
“อืม รางวัลการปราบปรามเนี่ยเป็นเงินจำนวนมากอยู่นะ?”
“ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แล้วไม่ชอบด้วยถ้าจะโดนตรวจสอบ”
“ฮะๆ เข้มงวดนะเนี่ย เข้าใจแล้ว ถึงจะสงสัย—-มากๆ เลยว่าจัดการยังไง แต่ตอนนี้จะไม่ถามก็แล้วกัน โซริส ฉันจะไปดูชูฟี่หน่อยนะ”
“อือ ช่วยได้เยอะเลย”
แล้วซาร่าก็ออกไป
“ถ้างั้น ผมไปบ้างได้หรือยัง?”
“เดี๋ยวสิ ฉันมีอะไรที่อยากถามสักเรื่อง”
โซริส—–คนที่รับมือยากที่สุดเอ่ยปากถามออกมา
“ชายที่ลักพาตัวคู่หูของเธอไป……อยู่หน่วยพิเศษของราชอาณาจักร ฉันรู้เพราะว่าเธอสวมผ้าคลุมที่มีลักษณะพิเศษไง ให้ฉันเดาเธอคงอยากไป ‘ล้างแค้น’ ราชาของพอนโซเนียใช่หรือเปล่า?”
“………..”
ฮิคารุตั้งท่า
พวกเธอเป็นนักผจญภัยของราชอาณาจักรพอนโซเนีย เลยค่อนข้างรู้รายละเอียดภายในราชอาณาจักร
กล่าวคือ—-มีความเป็นไปได้ที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกับเชื้อพระวงศ์**
“อ้า ไม่ต้องส่งบรรยากาศอันตรายอย่างนั้นออกมาหรอก จะทำอะไรก็ไม่ได้ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว”
“—–ไม่ใส่ใจเป็นพิเศษ?”
“โซริสเนี่ยขี้แกล้งจริง! พูดให้ชัดๆไปเลยก็ได้นี่! พวกฉันตั้งใจจะออกจากพอนโซเนียแล้ว!”
“ว่าไงนะ?”
เรื่องราวมันไปไกลมาก
โซริสบอกว่าต่อให้ฮิคารุจะทำอะไรกับราชาก็ “ไม่คิดจะทำอะไร” อยู่แล้ว
คำพูดของเซริก้าที่บอกว่า “จะออกจากพอนโซเนีย”—–ราวกับว่า
“ราวกับว่า……จตุรดาราแห่งบูรพาสิ้นหวังกับราชอาณาจักรเลยไม่ใช่เหรอ”
“ก็อย่างนั้นแหละ เข้าใจเร็วอย่างนี้ก็ช่วยได้เยอะอยู่”
“ทำไมล่ะ?”
“ตั้งใจจะมาต่อรองกับเธอในเรื่องนี้ไง?”
“ต่อรองที่ว่านี่ยังไง”
“ฉันจะบอกข้อมูลภายในของราชอาณาจักรพอนโซเนียให้กับเธอ รับรองว่ามันต้องมีประโยชน์กับการล้างแค้นของเธอแน่ๆ”
“…………”
ราวกับว่าโซริสต้องการจะบอกว่า นักผจญภัยทั่วไปจะ “ล้างแค้น” ราชา—-เรื่องอย่างนั้นมันแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นจริงอยู่แล้ว แน่นอนว่าฮิคารุตั้งใจจะทำจริงๆ
“……อยากจะให้ผมทำอะไร?”
“อยากจะให้ช่วยบอกเรื่องเกี่ยวกับประเทศนี้—–สหพันธรัฐฟอเรสเทียให้ที เพราะพวกฉันแทบจะไม่เคยออกนอกพอนโซเนียเลยไง”
“จะบอกอาหารอร่อยๆ กับร้านเด็ดๆให้ก็แล้วกัน!”
“ฮะๆ สำหรับเซริก้าอาจจะดีก็ได้ แต่ที่ฉันอยากรู้คือเรื่องการเมือง เพราะอาจจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่ยาวเลยก็ได้”
โซริสยังยิ้มแย้มเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
พวกฉันจตุรดาราแห่งบูรพาจะย้ายฐานออกจากราชอาณาจักรพอนโซเนีย และหนึ่งในที่หมายตาไว้คือฟอเรสเทีย”
ฮิคารุถอนหายใจออกมายาวๆ
เขาพึมพำออกมาว่า……มันเกิดอะไรขึ้นในพอนโซเนียกันแน่