พ่อค้าเร่อินดีโก้รู้สึก “ผิดพลาด” ที่เดินทางมายังพอนโซเนีย เดิมทีภรรยาที่เป็นคู่หูการค้าบอกว่ามันอันตราย แต่เขาคิดว่าน่าจะขายได้กำไรงามอยู่ เลยตกอยู่ในสภาพอย่างนี้
“เฮ้ย อย่าขยับ ถ้าทำอะไรแปลกๆ—-เอาตายแน่”
ถึงดาบสั้นที่มาจ่อปลายจมูกจะมีสนิมเขรอะ แต่ก็เพียงพอที่จะฆ่าอินดีโก้ได้
อินดีโก้ที่ใช้ชีวิตพ่อค้าเร่ค่อนข้างมันใจในฝีมือของตัวเองอยู่ แต่—-อีกฝ่ายมี 9 คน จำนวนที่แตกต่างอย่างนี้มันไม่ไหวหรอก
ตรงนี้เป็นทางราบข้างถนนมุ่งหน้าสู่ตัวเมือง ซึ่งไม่น่าจะมีพวกโจรโผล่ออกมา ตั้งแต่อินดีโก้ใช้ถนนนี้มา 10 กว่าปีไม่เคยมีโจรโผล่ออกมาเลยสักครั้ง
เพราะออกจากเมืองช้า เลยต้องพักแรมข้างทาง—-ทำให้โดนโจมตี
“อื้ออออ!!”
อีกฟากของกองไฟ
ภรรยาที่อายุน้อยกว่าเขา 5 ปีโดนพวกโจรล้อมอยู่ เธอเป็นคนยืนกรานว่าการพักข้างทางอย่างนี้มันอันตราย ซึ่งตอนนี้เธอโดนพวกโจรปิดปาก พร้อมกับกระชากเสื้อออก
“หา!? หยุด——”
“บอกว่าอย่าขยับไง”
“อ้ากกก!!”
ดาบสั้นแทงเข้ามาที่แขน
“ให้เงินกับของไปหมดแล้วนี่!? ไหนบอกว่าจะไว้ชีวิต อึ้ก!”
“ก็ไว้ชีวิตแล้วไง แค่ชีวิต”
พวกโจรยิ้มออกมาอย่างหื่นกระหาย อินดีโก้ทำได้แค่เกลียดชังพวกนี้ ภรรยาสุดที่รัก กำลังจะโดนพวกนี้ย่ำยี—-
ขอโทษนะ เพราะเสียดายเวลาเล็กน้อยเลยออกจากเมืองมาโดยไม่คิดถึงอันตรายอย่างนี้ เพราะอย่างนั้นทำให้เธอต้องมาเจออะไรอย่างนี้เนี่ย……!
เขากัดฟันแน่น ควรจะตอบโต้พวกนี้ไหม ต่อให้ต้องตายแต่ก็อยากอัดพวกมันให้ได้สักที หรือควรจะเอาชีวิตรอดไว้ก่อน เอาอย่างไรดี เอาอย่างไรดี เอาอย่างไรดี
“อื้อ!?”
ภรรยาส่งเสียงออกมา เขาเลยหันไปมองทางนั้น
ตึง
ตอนนั้นเอง ชายที่คร่อมภรรยาก็ล้มลงไป ถึงจะคิดว่าล้มลงไปกอดภรรยา แต่การล้มอย่างนั้นมองแล้วเหมือนกับตุ๊กตาชักใยที่สายขาด
“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น?”
ชายสองคนที่จับแขนและขาของภรรยาสังเกตุเห็นเลือด—–ออกสีดำๆ เพราะแสงจากกองไฟ—-ออกมาจากตรงขมับของชายที่ไม่ไหวติง
“อ้า? —–อึ้ก”
“แอ้ก”
แล้วโจรทั้งสองคนก็ล้มลงไปพร้อมกัน
“—–โดนโจมตี! ระวังตัวด้วย!!”
โจรที่หันดาบใส่อินดีโก้ตะโกนออกมา พร้อมกับจ้องมองอินดีโก้ที่กำลังจับแขนซึ่งมีเลือดไหลออกมา
“แก! มีพวกด้วยงั้นเหรอ!?”
“ฉะ ฉันไม่รู้!”
“แก”
โจรแกว่งดาบใส่อินดีโก้ที่ตัวเปล่า แต่คมดาบนั้นไปไม่ถึงอินดีโก้
มีเสียงกิ้งสูงแหลมดังขึ้น ก่อนที่ดาบจะกระเด็นไปในทิศทางอื่น
“คะ ใคร—-”
มีอะไรสักอย่างลอยมากระแทกดาบ นั่นคือสิ่งที่โจรรู้ แต่ก็รู้เพียงแค่นั้น ก่อนที่ท้ายทอยจะโดนกระแทกจนสติของโจรหลุดลอยไป
“คุณคะ!”
“ปลอดภัยนะ!?”
ภรรยาที่หลุดจากการโดนจับวิ่งเข้ามากอด ในระหว่างนั้นพวกโจรคนอื่นๆก็เงียบลง
“มะ มันเกิดอะไรขึ้น……”
“คุณคะ ดูโน้น!”
ทิศทางที่ภรรยาชี้ไป มีเงาคนค่อยๆเดินเข้ามา เขาเป็นเด็กหนุ่มหรือไม่ก็เด็กสาวที่รูปร่างดูดีคล้ายกับผู้ใหญ่
ที่ไม่สามารถบอกเพศได้เพราะสวมฮู้ด และ “หน้ากากสีเงิน” ที่เผยออกมาให้เห็นแค่ปาก
“ดูเหมือน……จะบาดเจ็บนิดหน่อยสินะ”
เสียงนั้นเป็นเสียงของเด็กหนุ่ม
“ถะ ถ้าแค่นี้ใช้ยาทาน่าจะไม่เป็นไร เอ่อ คุณเป็นใครเหรอครับ……?”
“ไม่ต้องสนเรื่องของผมหรอก ยิ่งไปกว่านั้น—-โจรพวกนี้ เป็นแค่โจรธรรมดาใช่ไหม?”
“น่าจะครับ……”
“แถวนี้มีโจรออกมาด้วยเหรอ”
“เรื่องนั้น! ตั้งแต่ค้าขายมานาน เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกครับ”
“อืม”
เด็กหนุ่มที่สวมหน้ากากเงิน เตะใส่ศีรษะของโจรที่ล้มอยู่ แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง
“ฆะ ฆ่าไปแล้วเหรอ?”
“หยุดนะ”
ภรรยาพยายามหยุดอินดีโก้ที่ถามออกไปอย่างหวาดกลัว ถ้าทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ไม่พอใจจนมองเป็นศัตรูจะแย่เอา
“บางทีอาจจะไม่ตาย หรือตายแล้วก็ได้ ไม่คิดจะสนใจอะไรถึงขนาดนั้นอยู่แล้วด้วย”
เด็กหนุ่มพูดออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แล้วก็ ค่าตอบแทนที่ช่วยจากการโดนโจมตีนี้ ไม่สิจะบอกอย่างนั้นก็ไม่ถูกต้องสัก—”
“อ้อ ขะ ขอโทษด้วยครับ! นั่นสินะ ถะ ถ้าเป็นเงิน พอจะมีติดตัวอยู่บ้างครับ”
“ไม่เป็นไร เงินไม่มีความจำเป็น กลับกัน พวกนายจำเป็นต้องใช้เงินไม่ใช่เหรอ? สินค้าเสียหายด้วยนี่”
จากการบุกโจมตีของโจรทำให้ม้าที่ใช้ลากรถโดนฆ่า ของที่ตัวเองมีอยู่ก็เสียหายหนัก น่าจะต้องใช้เงินค่อนข้างมากในการซื้อม้า 1 ตัว
“ครับ……เรื่องนั้น มันก็ใช่อยู่ครับ”
อินดีโก้ก้มหน้า พร้อมกับพยายามเอาตัวบังภรรยาของตัวเอง
เด็กหนุ่มนนี้บอกว่าไม่ต้องการเงิน แถมดูเหมือนไม่ต้องการสินค้าด้วย สิ่งที่อินดีโก้ขายคือพวกเกลือและสินค้าทั่วไปที่หาไม่ค่อยได้ในหมู่บ้านกลางหุบเขา
อินดีโก้เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้น ภรรยา—-ที่ยังสาว แถมยังน่ารักอย่างนี้ อาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้
“อ้อ เปล่าหรอก ไม่คิดจะทำอะไรกับคุณนายอยู่แล้ว สบายใจได้”
ตอนนั้นเองที่เด็กหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เพราะอย่างนั้นทำให้อินดีโก้รู้สึกผ่อนคลาย
“อ้อ……อย่างนั้น หรือครับ? แล้วคุณต้องการอะไรหรือครับ……”
“ช่วยเพราะว่าโดนโจมตี มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?”
“……เห็นอย่างนี้ก็เป็นพ่อค้า ไม่มีทางเชื่อเรื่องที่ทำงานโดยไม่มีค่าตอบแทนหรอกครับ”
ไม่รู้ทำไมเด็กหนุ่มถึงยิ้มออกมา
“ถ้างั้น คงต้องขอค่าตอบแทนในส่วนที่ผมทำงานซะแล้วสิ”
อินดีโก้กลืนน้ำลายดังเอื้อก
เด็กหนุ่มสวมหน้ากากเงินที่สามารถจัดการโจรพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แล้วที่ต้องปิดบังใบหน้าก็คงมีเหตุผลอยู่
คนอย่างนี้จะต้องการอะไรจากตัวเขากันแน่—-
“ขอข้อมูลที ข้อมูลทุกอย่างเท่าที่นายรู้”
เด็กหนุ่มสวมหน้ากากพูดออกมาเช่นนั้น
“ฟู่……ไม่ไหวๆ ในที่สุดก็ได้พักสักที”
ฮิคารุที่รอจนรุ่งเช้า ในที่สุดก็ได้เข้าเมืองชูสเอลก้า
มันอยู่ในอาณาจักรของมาร์ควิสกล็อกชลูทแห่งราชอาณาจักรพอนโซเนีย ถ้าเทียบกับเมืองหลวงแล้วถึงจะดูด้อยกว่า แต่ถ้าเทียบกับเมืองอาณาเขตในการปกครองอย่างพอนด์แล้วถือว่าใหญ่และเจริญกว่า
การจะเข้าเมืองจำเป็นต้องต่อแถวและผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ถ้าเป็นตามปกติคงใช้ “ลอบเร้น” เข้าไปข้างในแล้ว แต่ก็ยอมอดทนเข้าแถว
เพราะข้อมูลที่ได้ฟังมาจากอินดีโก้
—–มีการเก็บบันทึกข้อมูลของผู้เข้าเมืองโดยใช้กิลด์การ์ด การจะจองที่พักในเมืองก็ต้องแสดงข้อมูลกิลด์การ์ด ถ้าหากไม่ได้ “ลงทะเบียนเข้าเมือง” เอาไว้ความจะแตกทันที
ได้ฟัง “ข้อมูล” มาก่อนเลยช่วยได้มาก
“‘ผลบุญตอบแทน’ สินะ ดีนะเนี่ยที่ไปช่วย”
ฮิคารุนอนลงบนเตียงพร้อมคิดอย่างนั้นขึ้นมา
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เจออินดีโก้โดนโจมตี ระหว่าง “เดินทางตอนกลางคืน” เห็นกลุ่มพ่อค้าที่กำลังเคลื่อนขบวน โดยพวกเขาบอกว่า “ดีจังเลยที่ไม่ใช่พวกเขา” ก่อนจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นแล้วรีบถอยห่าง ฮิคารุเลยมุ่งหน้าไปช่วยอินดีโก้
อย่างไรก็ตาม พวกโจรโดนสามีภรรยามัดไว้กับต้นไม้ และคงส่งให้กับทหารยามของชูสเอลก้าแล้วก็ได้ ถ้าได้รับเงินรางวัลนำจับโจรน่าจะพอซื้อม้าตัวใหม่ได้อยู่
“เอาละ—-มีเรื่องให้คิดเพียบเลย เมืองที่มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด แล้วก็อาณาจักรแห่งนี้……”
ฮิคารุหยิบแล้วมองที่กิลด์การ์ด
“ลงทะเบียนจิตวิญญาณ” ทำให้ไม่สามารถทำเลียนแบบและมีแค่เจ้าตัวเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
จากการลงทะเบียนนั้น “พระเจ้า” จะมอบ “อาชีพ” ให้ เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของโลกแห่งนี้
“ถ้าต่อยราชาสักหมัดแล้วได้กลับเลยก็คงจะดีอยู่หรอก……”
ฮิคารุแตะตรงหัวข้อ “อาชีพ”
ตรงนั้นมีอาชีพใหม่เพิ่มขึ้นมา