อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 123 ความลับของอุลเค็น

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

              “เอ๊ะ? พอนด์ ราชอาณาจักร? หัวหน้ากิลด์นักผจญภัย?”

              สายตาของอลิซมองสลับไปมาระหว่างฮิคารุกับอุลเค็น สำหรับฮิคารุการตรวจสอบคนโดยใช้ “โซลบอร์ด” ไม่มีทางผิดพลาดอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีแมนโนมที่มีสเตตัสอย่างนี้ แถมชื่อเดียวกันอยู่เสียด้วย

              “……คนของราชอาณาจักรงั้นเหรอ”

              อุลเค็นระวังตัวแจถามฮิคารุออกไป ส่วนฮิคารุพยายามกดเสียงให้ต่ำเพื่อให้เขาจำไม่ได้

              “ก็นะ? ฉันจะเป็นคนของที่ไหนก็ไม่สำคัญนี่?”

              “รู้เรื่องของทางนี้แค่ไหน?”

              “รู้แค่คุณหนูจอมเปิ่นคนนั้นลอบเข้าไปในคฤหาสน์ของมาร์ควิสกล็อกชลูท ก่อนจะโดนพบ แล้วหนีมาถึงที่นี่แค่นั้นไง”

              “…………”

              อุลเค็นจ้องมองอลิซ ทำให้เธอหน้าซีดร้องเสียงหลงออกมาพร้อมกับหันไปทางฮิคารุราวกับจะบอกว่า “ไม่เหมือนที่พูดกันไว้นี่” 

              “นี่ ที่ฉันอยากรู้คือ……หัวหน้ากิลด์นักผจญภัยอย่างนาย ทำไมถึงยอมทำงานให้กับจักรวรรดิ”

              “……อยากจะรู้เรื่องนั้นไปทำไม”

              ตอนนี้ภายในสมองของอุลเค็นคงพยายามตั้งสมมติฐานอยู่ก็ได้ว่า—-อีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นใคร

              แต่เรื่องที่อุลเค็นเป็นหัวหน้ากิลด์นักผจญภัยของพอนด์ น่าจะมีคนรู้เยอะอยู่แล้ว ทำให้ฮิคารุได้เปรียบเรื่องของปริมาณข้อมูล

              “แค่สนใจนะ”

              “แค่สนใจ ถึงกับเสี่ยงขนาดนี้เลยเหรอ? ฮึ ช่างน่าขันยิ่งนัก”

              “ไม่อันตรายหรอก ถ้าฉันเอาจริง แค่ 2 คนไม่ใช่คู่มือหรอก”

              “มั่นใจในตัวเองจริงๆเลยนะ คิดว่าอยู่ตรงนี้แค่ 2 คนจริงๆเหรอ?”

              ฮิคารุรู้ทันทีว่าเป็นการบลัฟ  “ตรวจจับพลังเวท” ของฮิคารุ ไม่พบใครอื่น ถ้าเป็นคนที่มี “อำพรางพลังเวท” 3 ขึ้นไป หรือมีไอเทมพิเศษอาจจะไม่รู้ก็ได้ แต่ขนาดอุลเค็นยังมี “อำพรางพลังเวท” แค่ 2

              “อือ คิดอย่างนั้นอยู่แล้ว”

              “โง่เขลา—-”

              “ถ้ามีคนมาเพิ่มฉันรู้ได้ทันทีน่า”

              อุลเค็นถึงกับเดาะลิ้นพร้อมกับพึมพำว่า “มี ‘ตรวจจับ’ งั้นเหรอ”

              ถ้าคนไหนที่มี “ตรวจจับ” อยู่ในโซลบอร์ดเหมือนอย่างฮิคารุ ก็คงจะรู้อยู่แล้ว

              “อย่าดูถูก ‘อาชีพ’ ที่มีมาตั้งแต่เกิดเชียว มันไม่ใช่เรื่องที่ควรบอกกับเจ้าหนูอย่างแกหรอก กลับไปซะ”

              “ไม่กลับจนกว่าจะตอบหรอก ต่อให้ไม่ใช่ฉันก็ต้องสนใจอยู่แล้วนี่—-ชายที่สังหาร ‘จักรพรรดิชั่ว’ บัลซาร์ด ทำไมถึงมาทำงานให้กับจักรวรรดิ……ว่าไปนั่น”

              ชั่วพริบตานั้น—-สีหน้าของอุลเค็นแสดงอารมณ์ออกมา

              สำหรับฮิคารุแล้วตั้งใจจะถามทดสอบนิดหน่อย แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เรื่องที่พนักงานต้อนรับจิลแห่งกิลด์นักผจญภัยของพอน์ด ตั้งสมมติฐานดูเหมือนจะถูกต้อง

              50 ปีก่อน ตอนนั้นจักรพรรดิบัลซาร์ดที่ถูกเรียกว่า “จักรพรรดิชั่ว” รุกรานประเทศต่างๆ โดยเริ่มจากราชอาณาจักรพอนโซเนีย แต่เขาก็โดนลอบสังหาร—-โดยไม่มีใครทราบว่าโดยมือสังหารคนไหน

              “เอ๋!? มันหมายความว่ายังไงคะ!? อาจารย์เคไคลอบสังหารจักรพรรดิ—-”

              ตอนนั้นเอง อุลเค็นกำดาบสั้นแน่น แล้วมุ่งหน้าไปหาลูกศิษย์อย่างอลิซ

              ถึงจะเป็นการโจมตีแบบเรียบง่าย แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินความจำเป็น แต่ก่อนที่คมดาบ—-จะเฉือนเส้นเลือดแดงของอลิซ ก็เกิดประกายไฟขึ้น

              หินก้อนเล็กที่ฮิคารุปาไปโดนด้ามดาบ ทำให้ดาบสั้นกระเด็นแล้วหล่นลงมาตรงเท้าของอุลเค็น

              “เอ๊ะ……?”

              อลิซตามไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่ทำหน้าประหลาดใจ

              “เหม่ออะไรอยู่ รีบหนีไป เธอเกือบจะโดนฆ่าแล้วนะ!!”

              “เอ๊ะ เอ๊ะ—-อาจารย์ ทำไมกัน”

              “แน่นอน เพราะว่ารู้ความลับแล้วไง!”

              อุลเค็นพยายามจะหยิบดาบสั้นขึ้นมาโดยไม่พูดอะไร เขาเอาจริง เขาคิดจะจัดการอลิซจริงๆ

              เรื่องนี้มันเป็นข้อมูลต้องห้ามหรือเนี่ย? แน่นอนว่ามันไม่ใช่เนื้อหาที่ควรจะพูดคุยโจ่งแจ้งอยู่แล้ว แต่ฮิคารุนึกไม่ถึงเลยว่าเนื้อหานี้—-จะลงมือฆ่า “ลูกศิษย์” ได้อย่างไม่ลังเลเช่นนี้

              “อุลเค็น อย่าขยับ”

              ฮิคารุหยิบปืนลูกโม่ออกมา และที่บรรจุอยู่ก็คือกระสุนที่บรรจุเวทมนตร์ “มาร” เอาไว้

              “ถ้าหยิบดาบสั้นขึ้นมาจะฆ่าทันที”

              “อาวุธที่ไม่เคยเห็นมาก่อน……แต่ดูท่าคงเอาจริงสินะ”

              ถึงสิ่งที่ฮิคารุปลดปล่อยออกมาจะไม่มีความคุกคามหรืออะไรเลยก็ตามแต่คงรู้สึกได้ว่าเป็นจริง น่าจะเป็นเพราะ “ลางสังหรณ์” 4 ที่อุลเค็นมีอยู่

              เขาเอามือออกห่างจากดาบสั้น และกางมือสองข้างไปทางฮิคารุ

              “……ถอยไปได้แล้ว สปายซุ่มซ่าม”

              “เอ๊ะ ตะ แต่”

              “เอาเหอะน่า รีบไปซะ!”

              “ค่ะ!”

              ก่อนหน้านี้คิดจะฆ่าอลิซหากเธอเป็นอันตราย แต่ตอนนี้กลับพยายามจะช่วยชีวิต ทำให้รู้สึกขำกับตัวเอง

              แต่ ชีวิตที่ปล่อยให้รอด ถ้ามาโดนฆ่าอย่างนี้มันก็รู้สึกไม่ดี

              “คึกๆ ใจดีเหลือเกินนะ อย่างนี้นี่เอง—-อลิซ เจ้าเป็นคนพามาสินะ”

              “เอ๊ะ!? มะ ไม่ใช่นะคะ!”

              ถึงอลิซจะอยู่ห่างไป 10 เมตร แต่เห็นเลยว่ากำลังสับสน ฮิคารุเองก็อยากจะบอกว่า “เลิกเป็นสายลับไปเถอะ” อยู่เหมือนกัน มันเข้าใจได้อย่างง่ายดาย ไม่เหมาะกับการเป็นสายลับ

              “เอาเถอะ จะพามาหรืออะไรก็ช่าง……เจ้าหนูมีเป้าหมายอะไร”

              “……ก็บอกไปเมื่อกี้แล้วไง แค่ทำให้ข้อสงสัยของฉันหายไปได้ก็พอแล้ว”

              “ฮึ ไม่มีความต้องการงั้นเหรอ……ไม่สิ ถ้าอยากจะรู้ความจริงต้องบอกว่าเป็นอะไรที่โลภมากสินะ”

              “จะบอก? หรือไม่บอก?”

              “ฮึ……ก็ได้ อลิซเอ๋ย”

              “คะ!”

              พออุลเค็นเรียก ทำให้อลิซเด้งตัวขึ้นมา

              “ถ้าเจ้ารู้เนื้อหาที่จะพูดอันนี้แล้ว เธอต้องสละทั้งชีวิตให้กับจักรวรรดิ หรือไม่งั้นก็ต้องโดนจักรวรรดิไล่ล่าจนกว่าจะตาย โอเคไหม?”

              “ไม่โอเคเลยค่ะ!!”

              “ถ้างั้นก็รีบๆไปได้แล้ว แล้วลืมเรื่องที่เจ้าหนูนี่พูดเมื่อกี้ไปซะ—-ถ้าอย่างงั้นข้าจะทำเป็นลืมไปด้วย”

              “ลิมแล้วค่ะ! ลืมไปหมดแล้วค่ะ! วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น!”

              อลิซหันหลังให้กับพวกฮิคารุ ก่อนจะวิ่งหนีไป เพียงพริบตาเดียวก็หายไปในความมืด พอใช้ “ตรวจับพลังเวท” ก็รู้ได้ว่าเธอวิ่งหนีไปไกลในช่วงเวลาอันสั้นอย่างไม่ลังเล

              “……อย่างเธอ คงไม่เหมาะกับงานอย่างนี้สินะ”

              “กล้าพูดนะ ตั้งใจจะฆ่าไม่ใช่เหรอ”

              “เมื่อกี้หยุดได้ยังไง? อย่าบอกนะว่าปาก้อนหินออกมา? การที่ปาโดนอย่างนี้ได้มันเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญ แต่เข้าขั้นระดับพระเจ้าแล้ว”

              ก็อย่างพูด “แค่ปาออกไป” เท่านั้นด้วย “ขว้าง” 10 แต่คงบอกไม่ได้

              “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ช่วยบอก ‘ความจริง’ เมื่อกี้ให้ฟังที”

              “อย่ารีบร้อนนักสิ—-ฮิคารุ”

              “—-เอ๊ะ?”

              ฮิคารุที่ถูกเรียกชื่อ ถึงกับเผลอหลุดออกมา

              “คึกๆ เมื่อกี้ไม่ได้นะ แสดงความหวั่นไหวออกมาทางใบหน้า ถ้าเป็นการต่อสู้ถึงชีวิตถือเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงเลยนะ”

              ฮิคารุไม่นึกเลยว่าจะทายตัวจริงของเขาถูก บางทีอุลเค็นคงสุ่มพูดออกมาก็ได้ หรือไม่ก็ได้ข้อมูลส่วนใหญ่มาจาก “ลางสังหรณ์” 4 เพราะอย่างนั้นเขาเลยพูดชื่อของ “ฮิคารุ” ออกมาเป็นชื่อแรก

              “ร่างกายกับเสียงยังเป็นเด็ก และเป็นผู้ที่มีความสามารถขนาดนี้ ที่ข้านึกออกมีแค่เจ้าเท่านั้น บอกไว้ก่อนเลยนี่ชมนะ”

              “……เรื่องนั้น ขอบคุณ”

              “การที่ล่าเรดฮอร์นแรบบิทได้มากขนาดนั้น เพราะความสามารถในการลบร่องรอยและ ‘ตรวจจับ’ สินะ”

              “ไม่โง่พอจะบอกความสามารถของตัวเองออกมาหรอก”

              “ข้าเป็นคนสอนเจ้าชำแหละไม่ใช่เหรอ”

              “งานของหัวหน้ากิลด์ไม่ใช่เหรอ?”

              พอฮิคารุพูด เขาก็พึมพำออกมาว่า “เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ……”

              “เอาเถอะ ข้าไม่ใช่หัวหน้ากิลด์ของพอนด์แล้ว”

              “อย่างนั้นเหรอ?”

              “เลิกเพราะตั้งใจทำหน้าที่ในฐานะคนของจักรวรรดิให้เต็มที่ไง—-ถ้าอยากรู้จะเล่าให้ฟังก็ได้ เรื่องที่ข้าสังหารจักรพรรดิบัลซาร์ด……เครือญาติผู้ร่วมสายเลือด”

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท