“เอ๊ะ? พอนด์ ราชอาณาจักร? หัวหน้ากิลด์นักผจญภัย?”
สายตาของอลิซมองสลับไปมาระหว่างฮิคารุกับอุลเค็น สำหรับฮิคารุการตรวจสอบคนโดยใช้ “โซลบอร์ด” ไม่มีทางผิดพลาดอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีแมนโนมที่มีสเตตัสอย่างนี้ แถมชื่อเดียวกันอยู่เสียด้วย
“……คนของราชอาณาจักรงั้นเหรอ”
อุลเค็นระวังตัวแจถามฮิคารุออกไป ส่วนฮิคารุพยายามกดเสียงให้ต่ำเพื่อให้เขาจำไม่ได้
“ก็นะ? ฉันจะเป็นคนของที่ไหนก็ไม่สำคัญนี่?”
“รู้เรื่องของทางนี้แค่ไหน?”
“รู้แค่คุณหนูจอมเปิ่นคนนั้นลอบเข้าไปในคฤหาสน์ของมาร์ควิสกล็อกชลูท ก่อนจะโดนพบ แล้วหนีมาถึงที่นี่แค่นั้นไง”
“…………”
อุลเค็นจ้องมองอลิซ ทำให้เธอหน้าซีดร้องเสียงหลงออกมาพร้อมกับหันไปทางฮิคารุราวกับจะบอกว่า “ไม่เหมือนที่พูดกันไว้นี่”
“นี่ ที่ฉันอยากรู้คือ……หัวหน้ากิลด์นักผจญภัยอย่างนาย ทำไมถึงยอมทำงานให้กับจักรวรรดิ”
“……อยากจะรู้เรื่องนั้นไปทำไม”
ตอนนี้ภายในสมองของอุลเค็นคงพยายามตั้งสมมติฐานอยู่ก็ได้ว่า—-อีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นใคร
แต่เรื่องที่อุลเค็นเป็นหัวหน้ากิลด์นักผจญภัยของพอนด์ น่าจะมีคนรู้เยอะอยู่แล้ว ทำให้ฮิคารุได้เปรียบเรื่องของปริมาณข้อมูล
“แค่สนใจนะ”
“แค่สนใจ ถึงกับเสี่ยงขนาดนี้เลยเหรอ? ฮึ ช่างน่าขันยิ่งนัก”
“ไม่อันตรายหรอก ถ้าฉันเอาจริง แค่ 2 คนไม่ใช่คู่มือหรอก”
“มั่นใจในตัวเองจริงๆเลยนะ คิดว่าอยู่ตรงนี้แค่ 2 คนจริงๆเหรอ?”
ฮิคารุรู้ทันทีว่าเป็นการบลัฟ “ตรวจจับพลังเวท” ของฮิคารุ ไม่พบใครอื่น ถ้าเป็นคนที่มี “อำพรางพลังเวท” 3 ขึ้นไป หรือมีไอเทมพิเศษอาจจะไม่รู้ก็ได้ แต่ขนาดอุลเค็นยังมี “อำพรางพลังเวท” แค่ 2
“อือ คิดอย่างนั้นอยู่แล้ว”
“โง่เขลา—-”
“ถ้ามีคนมาเพิ่มฉันรู้ได้ทันทีน่า”
อุลเค็นถึงกับเดาะลิ้นพร้อมกับพึมพำว่า “มี ‘ตรวจจับ’ งั้นเหรอ”
ถ้าคนไหนที่มี “ตรวจจับ” อยู่ในโซลบอร์ดเหมือนอย่างฮิคารุ ก็คงจะรู้อยู่แล้ว
“อย่าดูถูก ‘อาชีพ’ ที่มีมาตั้งแต่เกิดเชียว มันไม่ใช่เรื่องที่ควรบอกกับเจ้าหนูอย่างแกหรอก กลับไปซะ”
“ไม่กลับจนกว่าจะตอบหรอก ต่อให้ไม่ใช่ฉันก็ต้องสนใจอยู่แล้วนี่—-ชายที่สังหาร ‘จักรพรรดิชั่ว’ บัลซาร์ด ทำไมถึงมาทำงานให้กับจักรวรรดิ……ว่าไปนั่น”
ชั่วพริบตานั้น—-สีหน้าของอุลเค็นแสดงอารมณ์ออกมา
สำหรับฮิคารุแล้วตั้งใจจะถามทดสอบนิดหน่อย แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เรื่องที่พนักงานต้อนรับจิลแห่งกิลด์นักผจญภัยของพอน์ด ตั้งสมมติฐานดูเหมือนจะถูกต้อง
50 ปีก่อน ตอนนั้นจักรพรรดิบัลซาร์ดที่ถูกเรียกว่า “จักรพรรดิชั่ว” รุกรานประเทศต่างๆ โดยเริ่มจากราชอาณาจักรพอนโซเนีย แต่เขาก็โดนลอบสังหาร—-โดยไม่มีใครทราบว่าโดยมือสังหารคนไหน
“เอ๋!? มันหมายความว่ายังไงคะ!? อาจารย์เคไคลอบสังหารจักรพรรดิ—-”
ตอนนั้นเอง อุลเค็นกำดาบสั้นแน่น แล้วมุ่งหน้าไปหาลูกศิษย์อย่างอลิซ
ถึงจะเป็นการโจมตีแบบเรียบง่าย แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินความจำเป็น แต่ก่อนที่คมดาบ—-จะเฉือนเส้นเลือดแดงของอลิซ ก็เกิดประกายไฟขึ้น
หินก้อนเล็กที่ฮิคารุปาไปโดนด้ามดาบ ทำให้ดาบสั้นกระเด็นแล้วหล่นลงมาตรงเท้าของอุลเค็น
“เอ๊ะ……?”
อลิซตามไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่ทำหน้าประหลาดใจ
“เหม่ออะไรอยู่ รีบหนีไป เธอเกือบจะโดนฆ่าแล้วนะ!!”
“เอ๊ะ เอ๊ะ—-อาจารย์ ทำไมกัน”
“แน่นอน เพราะว่ารู้ความลับแล้วไง!”
อุลเค็นพยายามจะหยิบดาบสั้นขึ้นมาโดยไม่พูดอะไร เขาเอาจริง เขาคิดจะจัดการอลิซจริงๆ
เรื่องนี้มันเป็นข้อมูลต้องห้ามหรือเนี่ย? แน่นอนว่ามันไม่ใช่เนื้อหาที่ควรจะพูดคุยโจ่งแจ้งอยู่แล้ว แต่ฮิคารุนึกไม่ถึงเลยว่าเนื้อหานี้—-จะลงมือฆ่า “ลูกศิษย์” ได้อย่างไม่ลังเลเช่นนี้
“อุลเค็น อย่าขยับ”
ฮิคารุหยิบปืนลูกโม่ออกมา และที่บรรจุอยู่ก็คือกระสุนที่บรรจุเวทมนตร์ “มาร” เอาไว้
“ถ้าหยิบดาบสั้นขึ้นมาจะฆ่าทันที”
“อาวุธที่ไม่เคยเห็นมาก่อน……แต่ดูท่าคงเอาจริงสินะ”
ถึงสิ่งที่ฮิคารุปลดปล่อยออกมาจะไม่มีความคุกคามหรืออะไรเลยก็ตามแต่คงรู้สึกได้ว่าเป็นจริง น่าจะเป็นเพราะ “ลางสังหรณ์” 4 ที่อุลเค็นมีอยู่
เขาเอามือออกห่างจากดาบสั้น และกางมือสองข้างไปทางฮิคารุ
“……ถอยไปได้แล้ว สปายซุ่มซ่าม”
“เอ๊ะ ตะ แต่”
“เอาเหอะน่า รีบไปซะ!”
“ค่ะ!”
ก่อนหน้านี้คิดจะฆ่าอลิซหากเธอเป็นอันตราย แต่ตอนนี้กลับพยายามจะช่วยชีวิต ทำให้รู้สึกขำกับตัวเอง
แต่ ชีวิตที่ปล่อยให้รอด ถ้ามาโดนฆ่าอย่างนี้มันก็รู้สึกไม่ดี
“คึกๆ ใจดีเหลือเกินนะ อย่างนี้นี่เอง—-อลิซ เจ้าเป็นคนพามาสินะ”
“เอ๊ะ!? มะ ไม่ใช่นะคะ!”
ถึงอลิซจะอยู่ห่างไป 10 เมตร แต่เห็นเลยว่ากำลังสับสน ฮิคารุเองก็อยากจะบอกว่า “เลิกเป็นสายลับไปเถอะ” อยู่เหมือนกัน มันเข้าใจได้อย่างง่ายดาย ไม่เหมาะกับการเป็นสายลับ
“เอาเถอะ จะพามาหรืออะไรก็ช่าง……เจ้าหนูมีเป้าหมายอะไร”
“……ก็บอกไปเมื่อกี้แล้วไง แค่ทำให้ข้อสงสัยของฉันหายไปได้ก็พอแล้ว”
“ฮึ ไม่มีความต้องการงั้นเหรอ……ไม่สิ ถ้าอยากจะรู้ความจริงต้องบอกว่าเป็นอะไรที่โลภมากสินะ”
“จะบอก? หรือไม่บอก?”
“ฮึ……ก็ได้ อลิซเอ๋ย”
“คะ!”
พออุลเค็นเรียก ทำให้อลิซเด้งตัวขึ้นมา
“ถ้าเจ้ารู้เนื้อหาที่จะพูดอันนี้แล้ว เธอต้องสละทั้งชีวิตให้กับจักรวรรดิ หรือไม่งั้นก็ต้องโดนจักรวรรดิไล่ล่าจนกว่าจะตาย โอเคไหม?”
“ไม่โอเคเลยค่ะ!!”
“ถ้างั้นก็รีบๆไปได้แล้ว แล้วลืมเรื่องที่เจ้าหนูนี่พูดเมื่อกี้ไปซะ—-ถ้าอย่างงั้นข้าจะทำเป็นลืมไปด้วย”
“ลิมแล้วค่ะ! ลืมไปหมดแล้วค่ะ! วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น!”
อลิซหันหลังให้กับพวกฮิคารุ ก่อนจะวิ่งหนีไป เพียงพริบตาเดียวก็หายไปในความมืด พอใช้ “ตรวจับพลังเวท” ก็รู้ได้ว่าเธอวิ่งหนีไปไกลในช่วงเวลาอันสั้นอย่างไม่ลังเล
“……อย่างเธอ คงไม่เหมาะกับงานอย่างนี้สินะ”
“กล้าพูดนะ ตั้งใจจะฆ่าไม่ใช่เหรอ”
“เมื่อกี้หยุดได้ยังไง? อย่าบอกนะว่าปาก้อนหินออกมา? การที่ปาโดนอย่างนี้ได้มันเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญ แต่เข้าขั้นระดับพระเจ้าแล้ว”
ก็อย่างพูด “แค่ปาออกไป” เท่านั้นด้วย “ขว้าง” 10 แต่คงบอกไม่ได้
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ช่วยบอก ‘ความจริง’ เมื่อกี้ให้ฟังที”
“อย่ารีบร้อนนักสิ—-ฮิคารุ”
“—-เอ๊ะ?”
ฮิคารุที่ถูกเรียกชื่อ ถึงกับเผลอหลุดออกมา
“คึกๆ เมื่อกี้ไม่ได้นะ แสดงความหวั่นไหวออกมาทางใบหน้า ถ้าเป็นการต่อสู้ถึงชีวิตถือเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงเลยนะ”
ฮิคารุไม่นึกเลยว่าจะทายตัวจริงของเขาถูก บางทีอุลเค็นคงสุ่มพูดออกมาก็ได้ หรือไม่ก็ได้ข้อมูลส่วนใหญ่มาจาก “ลางสังหรณ์” 4 เพราะอย่างนั้นเขาเลยพูดชื่อของ “ฮิคารุ” ออกมาเป็นชื่อแรก
“ร่างกายกับเสียงยังเป็นเด็ก และเป็นผู้ที่มีความสามารถขนาดนี้ ที่ข้านึกออกมีแค่เจ้าเท่านั้น บอกไว้ก่อนเลยนี่ชมนะ”
“……เรื่องนั้น ขอบคุณ”
“การที่ล่าเรดฮอร์นแรบบิทได้มากขนาดนั้น เพราะความสามารถในการลบร่องรอยและ ‘ตรวจจับ’ สินะ”
“ไม่โง่พอจะบอกความสามารถของตัวเองออกมาหรอก”
“ข้าเป็นคนสอนเจ้าชำแหละไม่ใช่เหรอ”
“งานของหัวหน้ากิลด์ไม่ใช่เหรอ?”
พอฮิคารุพูด เขาก็พึมพำออกมาว่า “เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ……”
“เอาเถอะ ข้าไม่ใช่หัวหน้ากิลด์ของพอนด์แล้ว”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“เลิกเพราะตั้งใจทำหน้าที่ในฐานะคนของจักรวรรดิให้เต็มที่ไง—-ถ้าอยากรู้จะเล่าให้ฟังก็ได้ เรื่องที่ข้าสังหารจักรพรรดิบัลซาร์ด……เครือญาติผู้ร่วมสายเลือด”