อเล็กเซ่ จาราซัก ชื่ออย่างเป็นทางการคือ อเล็กเซ่ แวน จัลซาร์ด จาราซัก เขาเป็น “บอส” ผู้ปกครองจาราซัก
จาราซักมีวัฒนธรรม “แบ่งหน้าที่” ของชายและหญิงอย่างชัดเจน โดยผู้ชายภาคภูมิใจที่มี “พลัง” เลยเป็นเหตุให้โดนเรียกว่า “จาราซักนักสู้”
“อาชีพ” ที่ได้จากพระเจ้าเองก็มี “พลัง” อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง อเล็กเซ่มีเทพ 5 อักษรอย่าง “เทพค้นหาแก่นแท้ดาบใหญ่ : ผู้แสวงหาดาบ(Blade Seeker)” ซึ่งเป็นอาชีพที่อยู่อันดับสูงสุดของจาราซัก
อเล็กเซ่ขัดเกลาวิชาดาบ—-กล่าวคือ เกลียดงานดูแลภายในจาราซักมาก
โดยหลักๆแล้ววันสถาปนาชาติตารางมี “กำหนดการณ์กลางทั่วไป” ดังนี้ งานพิธี –> งานเลี้ยง –> งานพิธี –> งานเลี้ยง –> ประชุม ดังนั้นสำหรับอเล็กเซ่แล้วมันเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อหลายวัน—-เขารู้สึกอย่างนั้น
แต่ปีนี้ต่างออกไป
อีวาน เด็กหนุ่มแห่งจาราซักที่พาคลอร์ด ซาฮาร์ด คิรีฮาลมา มาจากโรงเรียน เขามี “ของ” ที่ได้มาเพราะเอาชนะอเล็กเซ่ได้
เพราะมีสิ่งนั้น ทำให้งานปาร์ตี้ที่น่าเบื่อรู้สึกน่าสนใจขึ้นมา
(ชักรอไม่ไหวแล้วสิว่าเจ้าจิ้งจอกสาวแห่งลูดันช่า จะทำหน้าแบบไหนตอนประชุม)
(ดูๆแล้วเจ้าทานูกิตัวแสบของลูมาเนี่ยคงยังไม่รู้ “เรื่องนั้น” ด้วย)
(พังพอนผู้แข็งแกร่งของโคโทบี้……เป็นเหมือนอย่างเคย นอกจากงานวิจัยแล้วก็ไม่สนใจอย่างอื่น เอา 1 เสียงมาจากหมอนี่ได้แล้วจริงๆเหรอ?)
ระดับท็อปของแต่ละดินแดนพูดคุยกันอย่างสบายๆ
“……บอส ออกทางสีหน้าหมดแล้ว ช่วยเก็ยอาการหน่อยครับ”
“รู้แล้วน่า”
คนสนิทเตือนออกมา
ดูเหมือนจะทำสีหน้ายิ้มแย้มออกมา อเล็กเซ่ไม่ถนัดเรื่องการใช้เล่ห์กลหรือการแสดง ถ้าแผนการแตกเพราะเขาคงรู้สึกไม่ดี ดังนั้นเลยต้องตั้งใจให้ดี
งานพิธีและงานเลี้ยงจบลงโดยไม่มีเหตุขัดข้อง หรือต้องบอกว่าเหมือนอยากทุกทีก็ว่าได้
ความหวั่นวิตกเรื่องการขยายพันธุ์ผิดปกติของมอนสเตอร์ที่ป่าใหญ่อูน เอล โพลตันเองก็มาไม่ถึงฟอเรสซาร์ด ทำให้คิดว่า “เป็นปัญหาแค่ทางนู้น” จากสภาพที่เห็นแทบจะไม่เกิดความเสียหาย ผู้คนทั่วไปก็คงจะคิดว่าเป็นไฟที่อยู่อีกฟาก
วันสุดท้ายของวันสถาปนาชาติ—-วันเริ่มการประชุม 7 ประเทศ
“องค์ราชินีเสด็จแล้ว”
เพราะเสียงนั้น ทำให้คนที่อยู่ภายในห้องลุกขึ้นยืน และเอามือขวาแตะอก
ราชินีมัลเกโด้เดินไปนั่งตรงบังลังก์ ทำให้เหล่าผู้นำของแต่ละดินแดนนั่งตาม
ก่อนหน้านี้มีการพูดลับหลังว่ามัลเกโด้ “เป็นหุ่นเชิดของคิรีฮาล” แต่เท่าที่อเล็กเซ่เห็นเธอกลับนิ่งสงบมาก โซฟีร่า แวน โฮลเทนซ์ที่นั่งอยู่ข้างๆเธอก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยม ทั้งที่โซฟีร่าเกิดในจาราซักแต่กลับไม่ยอมบอกข้อมูลความลับอะไรกับอเล็กเซ่เลย ถึงคิดว่าสิ่งนั้นมันค่อนข้างทำให้ลำบากไม่น้อย แต่อเล็กเซ่ก็รู้สึก“ชื่อชมจิตใจอันภักดี”
ผู้นำของลูมาเนีย ที่อเล็กเซ่เรียกในใจว่า “ทานูกิชั่ว” คือบิริออน เรียวกิ ลูมาเนียหรือพ่อของรีก เขาเป็นชายที่วางแผนชั่วเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ที่นั่งอยู่ข้างๆคือลูกชายคนโต ซึ่งอเล็กเซ่คิดว่าน่าจะชั่วพอๆกับพ่อ
ผู้นำของลูดันช่าเป็นผู้หญิง เท่าที่เห็นอายุน่าจะราวๆ 40 – 50 ปีหรือบางทีอาจจะ 60 ปีแล้วก็ได้—-แต่เพราะแต่งหน้าหนาเพื่อทำให้ดูเด็กเลยไม่รู้อายุแน่ชัด เธออิจฉาราชีนีที่เกิดในคิรีฮาล
ผู้นำของโคโทบี้เป็นตาลุงร่างเล็กที่ตื่นเต้นง่าย มีบ่อยครั้งที่ไม่สนใจการเมืองแล้วหมกตัวอยู่แต่ในห้องวิจัย ถึงในสายตาของอเล็กเซ่เห็นเป็น “ตัวเพียงพอนบ้าเรียน” ถึงกระนั้นในโคโทบี้กลับได้รับการยกย่องเป็น “ราชานักเล่นแร่แปรธาตุ” ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าเพราะอะไร
ผู้นำของยูราบะเป็นชายวัยกลางคนดูมืดมน ถึงผิวสีฟ้าจะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของยูราบะ แต่ผู้นำคนนี้กลับมีสีที่เข้มขึ้นไปอีก มีนิสัยชอบพึมพำคนเดียวซึ่งคนสนิทเองเคยเตือนเรื่องนั้นอยู่ แต่จะไปล้อเล่นกับเขาไม่ได้ คนที่อเล็กเซ่ระวังตัวมากที่สุดคือผู้นำของยูราบะ เขาเป็นชายที่คิดถึง “ผลได้” กับ “ผลเสีย” ของยูราบะอย่างเดียวเท่านั้น และเนื่องจากตัดสินใจอย่างสุขุมเยือกเย็นตลอดทำให้ใช้สงครามข้อมูลไม่ได้—-ถึงอเล็กเซ่จะไม่มีทางทำอะไรชั้นสูงอย่างสงครามข้อมูลได้ก็ตามที
ผู้นำของซูบร้าเป็นชายแก่ที่ดูเป็นคนดี แต่เขาตัดสินใจให้ลูกชายคนโตอย่างซิลเวสเตอร์มาสืบทอดตระกูลต่อแล้ว การประชุมในครั้งนี้ซิลเวสเตอร์เลยเป็นตัวแทนของซูบร้าซึ่งตรงตามข้อมูลที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้
(……โห ดูดีนะเนี่ย เติบโตขึ้นมาก)
ถึงจะไม่ได้เห็นซิลเวสเตอร์มาหลายเดือน แต่ในความทรงจำของอเล็กเซ่เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มลูกคุณหนูที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไร
สิ่งนั้น—-มันอย่างไรกันแน่ ตอนนี้หน้าตาสมเป็น “ลูกผู้ชาย” อยู่
อเล็กเซ่รู้เรื่อง “ข้อเสนอ” ครั้งนี้ของซิลเวสเตอร์แล้ว การเตรียมใจนั้นอาจจะทำให้เขาเป็น “ลูกผู้ชาย” หรือไม่ก็อาจจะมีอะไรอย่างอื่นอยู่อีก
(ต้องขอดูฝีมือหน่อยแล้ว)
อเล็กเซ่ยิ้มออกมา
แล้วการประชุม 7 ประเทศก็เริ่มต้นขึ้น
ณ ห้องหนึ่งในคฤหาสน์ของฟอเรสซาร์ด อีวานกับคลอร์ดอยู่ตรงนั้น
ตอนนี้น่าจะเริ่มการประชุม 7 ประเทศแล้ว ตั้งแต่เป็นสหพันธรัฐก็ไม่น่าใช่ “ประเทศ” แล้ว แต่ตอนนี้คงเปลี่ยนสามัญสำนึกของผู้คนที่เรียกกันว่า “7 ประเทศ” ไม่ได้แล้ว
“…………”
“…………”
“…………”
“…………”
“…………”
“…………”
“………….”
“…………นี่”
อีวานเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน คลอร์ดเดินวนรอบห้องเป็นรอบที่ 75 แล้ว
“ใจเย็นๆหน่อย”
“ใครจะไปใจเย็นได้……นี่มันตัดสินอนาคตของฉันกับลูกะเลยนะ”
“ทำให้พรมของห้องนี้สึกไปก็ไม่มีความหมายหรอก แล้วก็ถ้าการเจรจาล้มเหลวมันอันตรายถึงชีวิตเลยนะ?”
“……ก็ใช่”
เกี่ยวกับร่างข้อเสนอสหพันธ์นักเรียน ได้คิดเผื่อสิ่งนี้ล้มเหลวล้มเหลวเอาไว้อยู่ แน่นอนว่าหากล้มเหลว—-ซิลเวสเตอร์ที่เป็นตัวแทนของซูบร้า รวมไปถึง รีกที่เป็นฝ่าย “คัดค้าน” ในการประชุม รวมไปถึงเคธี่ที่มีตำแหน่งพอประมาณ คลอร์ดและอีวาน ลูกะ กับเอคาเทริน่า คงโดนผู้มีอิทธิพลมองเป็นศัตรู ส่วนอีวานคงได้รับการปกป้องจากอเล็กเซ่อยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลอร์ดกับลูกะคงแย่มากๆ ถ้าโดนล่วงรู้ว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกับสหพันธ์นักเรียนแล้วละก็ คงรู้ถึงความสัมพันธ์ขของทั้งคู่ และน่าจะโดนตามประกบไม่ให้พบกันแบบลับๆได้อีก และในอนาคตอันใกล้คงให้ลูกะแต่งงานกับใครสักคนเป็นแน่
ถ้าหากเป็นอย่างนั้นมีแต่ต้องหนีออกนอกประเทศ
“ฉันจะช่วยเอง ยังไงก็มาซ่อนตัวในจาราซักได้เลย”
“อย่าพูดบ้าๆน่า ถ้าให้ที่ซ่อนกับฉันและลูกะ คิรีฮาลกับลูดันช่าคงร่วมมือกันโจมตี มีแต่จะสร้างปัญหาให้เปล่าๆ”
“ไม่งั้นก็ต้องต่างแดน……ใกล้ๆแถวนี้ก็พอนโซเนียหรือไม่ก็ควินแบรนด์?”
“ไม่ว่าจะที่ไหน……ก็ไม่ชอบทั้งนั้น คิดเอาไว้ว่าน่าจะเป็นประเทศติดทะเลวิลเล่โอเชี่ยนที่อยู่ถัดจากสองประเทศนั้น หรือไม่ก็ประเทศหลากชาติพันธ์ไอน์บีสท์”
“ไอน์บีสท์เป็นประเทศที่ปกครองโดนราชาแห่งมนุษย์สัตว์นี่? ไม่เป็นไรแน่เหรอ?”
“ถึงฉันจะดูเหมือนเผ่ามนุษย์แต่จริงแล้วเป็นสปิริทเอลฟ์นะ คงยอมรับว่าเป็นเผ่าพันธ์ที่หลากหลายอยู่หรอก……”
“แล้วศาสนจักรบีออสล่ะ?”
“มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับฟอเรสเทีย ถ้ามีคำขอให้ตรวจค้นคงปฏิเสธไม่ได้”
“อืม”
อีวานกอดอกใช้ความคิด ส่วนคลอร์ดนั่งลงตรงเก้าอี้พร้อมกับเอามือสองข้างมาปิดหน้า
“อ้า พอพูดเรื่องนี้แล้ว ได้แต่คิดว่าการประชุมจะล้มเหลวเลย……! เอาละ ฉันเองก็ไปเข้าร่วมประชุมด้วยดีกว่า!”
“อย่างนั้นคงไม่ได้หรอก ฉันอยู่ในระดับต่ำอยู่ด้วย……ส่วนนายเป็นศัตรูของราชินี”
“อย่าพูดว่าศัตรูสิ ตระกูลซาฮาร์ดยังพอว่า แต่ฝ่าบาททรงใส่ใจกับฉันมาก ไม่งั้นคงไม่แนะนำให้ฮิคารุมารู้จักฉันหรอก”
“……จะว่าไป ฮิคารุนี่เป็นใครกันแน่? ทำไมถึงรู้จักองค์ราชินี? แถมสามารถเอาชนะอาจารย์มิไฮล์และมาเป็นอาจารย์ของนาย คงไม่ใช่คนธรรมดาหรอก”
“…………เกี่ยวกับเรื่องนั้น ไม่อยากจะคิดสักเท่าไรเลย”
คลอร์ดเงยหน้าขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่าฮิคารุเป็นพวกหัวกะทิของพอนโซเนียที่ถูกส่งมาทำลายประเทศนี้หรอกเหรอ?”
“……………………หา?”
“แล้วหมอนั่นมาที่โรงเรียนเพื่อเรียนอะไรกันแน่ ไม่เห็นเข้าใจเหตุผลที่ลงเรียนวิชาดาบสั้นเลย ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ทำก็มีแค่รวมพวกเราเพื่อฉุดดึงประเทศนี้เท่านั้น”
“เรื่องนั้น—-ถือเป็นความเห็นที่เฉียบคมดีนะ”
“……ลูกะเป็นคนบอกน่ะ”
“อ้อ กะแล้วเชียว”
“อย่าบอกว่า ‘กะแล้วเชียว’ สิ ลูกะเองก็บอกอย่างนี้เหมือนกัน ยังไงก็เป็นแค่ความเป็นไปได้ แล้วอย่าไปพูดเรื่องที่เราคาดเดาอะไรอย่างนี้กับฮิคารุเชียว ห้ามตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาเด็ดขาด จะหักหลังเขาก็ไม่ได้ ถ้าตอนนี้ไม่มีเขาพวกเราจะลำบากเอาด้วย”
“……อือ”
“อือ” ในครั้งนี้มันค่อนข้างมีความหมายที่ลึก
“ไม่ว่าฮิคารุจะเป็นใคร……แต่ถ้าเป็นไปได้ด้วยดี รับรองว่าทั้งฉันและลูจะจะต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่นอน”
“……แน่อยู่แล้ว ถ้าฮิคารุมาอยู่ตรงนี้อะนะ”
“นั่นสิ ถ้าหมอนั่นอยู่ น่าจะทำให้สงบใจได้เยอะหน่อย”
คลอร์ดกับอีวานถอนหายใจออกมาพร้อมกัน